คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ✿ rubberdoll ✿ : Chapter 4 || update 100% ||
Chapter 4
แล้วก็ผ่านมาอีกอาทิตย์กว่าๆ ที่แบคฮยอนย้ายมาอยู่ข้างๆ บ้านของชานยอล แบคฮยอนดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเซฮุนเท่าไหร่นัก เขาก็ยังคุยกับชานยอลบ้างเมื่ออยู่บ้าน แต่พออยู่ที่โรงเรียนแบคฮยอนก็พยายามไม่คุยกับชานยอลและไคเพื่อให้เซฮุนที่สนิทกว่าสบายใจ
และวันนี้...ก็เป็นวันอาทิตย์ ชานยอลไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งเขี่ยบอนนาเล่นอยู่บนเตียงอย่างเซ็งๆ
“บอนนา..น่าเบื่อจังเลย อยากไปหาแบคฮยอนข้างๆ บ้านจัง” ชานยอลถอนหายใจออกมาแล้วล้มตัวลงนอนกับเตียง “นี่บอนนา..ถ้าเกิดว่าผมได้เป็นแฟนกับแบคฮยอนผมคงต้องซ่อนบอนนาเอาไว้สักที่ในบ้านแล้วล่ะ”
...
“แต่ว่า.. ผมคงไม่มีโอกาสได้เป็นแฟนกับแบคฮยอนหรอก เฮ้อ” พูดไปก็ถอนหายใจไป วันนี้เขาคงถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อยของวันแล้ว “เมื่อไหร่บอนนาจะพูดกับผมสักทีนะ..” ชานยอลพูดแล้วเกลี่ยแก้มบอนนาไปมาเบาๆ
“งื้อ...”
“ไม่ใช่ครางสักหน่อย...”
“ชะ ชานยอล..”
“เฮ้อ.. แค่เรียกชื่อเองเหรอ... ทำไมตัวฉันมันถึงอาภัพแบบนี้นะ..”
ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง
เอ๋...
ชานยอลลุกจากเตียงแล้วเดินลงบันไดไปเปิดประตูหน้าบ้าน
“อะ..”
“สวัสดี”
แบคฮยอน...
“มะ มีอะไรรึเปล่า?”
“อยู่บ้านคนเดียวมันเหงาน่ะ ขออยู่ด้วยได้ไหม?”
“เอ่อ.. แต่ว่า”
เชี้ยแล้ว ทำไมต้องมาขอเวลานี้ .. ยังไม่ได้ซ่อนบอนนาเลย
“มันรกนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก” แบคฮยอนพูดแล้วทำท่าจะเดินเข้าไป แต่ชานยอลก็ขวางไว้ก่อน
“คือ... สองต่อสองมันจะดีเหรอ..” แบคฮยอนขมวดคิ้ว
ตื่นเต้นจนเผลอใช้คำพูดแปลกๆ ไปจนได้..
“เราเป็นผู้ชายทั้งคู่นะ มันจะเป็นอะไรไป” แบคฮยอนกอดอกมองหน้าชานยอล ร่างสูงตรงหน้าเงียบไป แบคฮยอนจึงเดินเข้าไปในบ้านของชานยอล ชานยอลจึงรีบหันไปคว้ามือแบคฮยอนไว้
จะ จับมือ...
“ตกลงนายไม่อยากให้ฉันเข้ามายุ่งกับบ้านนายใช่ไหม?”
มือ..โคตรนิ่ม.. มันนิ่มยิ่งกว่ามือบอนนาอีก!
“ชานยอล..”
“เอ่อ.. งะ งั้นมานั่งเล่นกันที่ห้องนั่งเล่นก็ได้” ชานยอลบอกแบคฮยอน แล้วค่อยๆ ปล่อยมือออกอย่างเสียดาย แบคฮยอนเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาหน้าทีวีตัวใหญ่ ชานยอลเดินเข้าไปนั่งข้างๆ แบคฮยอนเช่นกัน ท่าทางของเขาดูประหม่ามาก แถมยังนั่งตัวแข็งทื่ออีก
“...”
“...”
“นี่ชานยอล..”
“ฮะ..ฮะ?”
“มันน่าเบื่อจัง ไม่มีเกมให้เล่นเหรอ?”
“เกมเหรอ? มีสิ.. แต่อยู่บนห้องน่ะ..”
“งั้นเหรอ? งั้นขอขึ้นไปบนห้องนายได้หรือเปล่า?”
“ไม่ได้นะๆๆๆๆๆ” ชานยอลห้ามสุดขีด “เอ่อ.. คือ.. ฉันหมายถึง นั่งข้างล่างที่กว้างกว่าน่ะ ห้องฉันมันรกมากๆ เลยล่ะ ฉันว่าฉันต้องขึ้นไปยกเกมลงมาเล่นข้างล่างนี่” ชานยอลพูดแล้วรีบลุกเดินดุ่มๆ ขึ้นไปบนบ้านทันที
“ให้ตายสิบอนนา แบคฮยอนอยู่ด้านล่างล่ะ ผมจะให้แบคฮยอนขึ้นมาเจอบอนนาบนห้องนี้ไม่ได้เด็ดขาด” ชานยอลลุกลี้ลุกลนหาที่ซ่อนตุ๊กตายางขนาดเท่าคนจริง แล้วสายตาก็เหลือบไปมองที่ตู้เสื้อผ้า ชานยอลอุ้มบอนนาขึ้นมาในท่าเจ้าหญิงแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า จับบอนนายัดใส่ตู้จากนั้นจึงปิดตู้เสื้อผ้าไว้ “ขอโทษนะบอนนา..” ชานอยลพูดส่งท้ายแล้วรีบยกเกมลงไปข้างล่าง
แบคฮยอนที่กำลังนั่งกดโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมาหาชานยอล
“ไปนานจังเลย”
“พอดีว่า.. ฉันสะดุดล้มนิดหน่อยน่ะ” ชานยอลพูดโกหกแล้วต่อเกมเข้ากับทีวี แบคฮยอนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร ได้แต่พยักหน้าเบาๆ แล้วนั่งรอให้ชานยอลต่อเกมอยู่ที่โซฟา
ทั้งสองคนนั่งเล่นกันไปจนเกือบเย็นมาก จนกระทั่ง..
ตึ้ง!!!
ทั้งชานยอลและแบคฮยอนหันไปดูต้นเสียงที่ประตูบ้านพร้อมกัน คนที่เข้ามาก็คือไคนั่นเอง
“โย่ เฮ้ย! นั่นแบคฮยอนนี่ เล่นเกมไม่ชวนกันเลยนะไอ้ชานยอล”
“มึง...เข้ามาได้ไง..”
“ก็มึงไม่ได้ล็อคประตูบ้านนี่หว่า ไหน...มีอะไรกินมั่ง” ไคพูดขึ้นลอยๆ แล้วเดินตรงไปยังห้องครัว
ลืมล็อคประตูบ้านนี่หว่า..
ไม่นานนักไคก็เดินกลับมาที่โซฟาพร้อมกับอาหารในตู้เย็น
“เฮ้ย ไหนกูเล่นมั่งดิ” ไคพูดแล้วทำท่าจะแย่งจอยจากชานยอลมา แต่ชานยอลก็เอาหลบไปก่อน
“เดี๋ยวดิสัส มึงเห็นไหมเนี่ยว่ากูกำลังเล่นเกมกับบอนนาอยู่!” ชานยอลขึ้นเสียงใส่ไค แต่ก็รู้สึกตัวขึ้นมาว่าตัวเองเผลอหลุดพูดคำต้องห้ามออกไป
“บอนนา? บอนนาคือใครเหรอ?” แบคฮยอนหันหน้ามาถามชานยอล
“เอ่อ..”
“อ๋อ.. บอนนาก็คือ.. อุ๊บ” ชานยอลรีบทิ้งจอยแล้วเอามือปิดปากไคไว้
“เดี๋ยวฉันมานะแบคฮยอน..” ชานยอลลากไคไปคุยที่อื่น
“ไอ้เหี้ย มึงจะบอกแบคฮยอนเหรอว่าบอนนาคือตุ๊กตายางของกู มึงจะบ้ารึไง?”
“ก็มึงไม่ยอมให้กูเล่นเกมอ่ะ กูก็อยากเล่นนี่ ถ้ามึงไม่ยอมให้กูเล่นกูก็จะบอกแบคฮยอน”
“เออๆ รู้แล้ว” ชานยอลตกลงกับไคแล้วเดินกลับมาที่หน้าทีวีเหมือนเดิม แต่...แบคฮยอนหายไป เขาไม่ได้นั่งรอชานยอลและไคอยู่บนโซฟาแล้ว
“เฮ้ย เหี้ยแล้ว.. แบคฮยอนไปไหนวะ..”
“ไม่รู้ดิ”
“รอเหี้ยอะไรล่ะครับ ช่วยกันหาสิ”
“อือ...ห้องน้ำอยู่ไหนเนี่ย..” แบคฮยอนเดินไปตามห้องต่างๆ ของบ้านชานยอล บ้านของชานยอลก็ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีหลายห้อง แบคฮยอนเดินไปจนเกือบทั่วชั้นล่างแต่ก็หาไม่เจอ จึงเดินขึ้นไปบนบ้าน เขาเดินหาห้องน้ำตามชั้นบนแทบทุกห้อง แต่ก็ไม่เจอ เจอแต่ห้องที่ไม่มีใครใช้ จนมาหยุดอยู่ที่ห้องของชานยอล “...”
แบคฮยอนเอื้อมมือไปจับลูกบิดแล้วค่อยๆ ดันประตูเข้าไปในห้อง
“เอ๋.. นี่มันห้องของชานยอลนี่... ไม่เห็นจะรกตรงไหนเลย” แบคฮยอนมองไปรอบๆ ห้องของชานยอลก็ไปเจอห้องน้ำที่อยู่ในห้องพอดีจึงตัดสินใจเข้าห้องน้ำที่ห้องของชานยอล พอดีกับที่ชานยอลขึ้นมาตามหาแบคฮยอนบนห้อง ร่างโปร่งเดินไปนั่งบนเตียง เพื่อความแน่ใจว่าแบคฮยอนจะไม่เข้ามาข้างในห้องของเขา
แต่แบคฮยอนก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วเห็นชานยอลนั่งอยู่ที่เตียงจึงสะดุ้งตกใจเบาๆ
“ชะ ชานยอล.. ตกใจหมดเลย คือ..ฉันหาห้องน้ำไม่เจอ..”
“เอ่อ.. ไม่เป็นไรหรอก”
“แล้วนายขึ้นมาทำอะไรบนนี้? ไม่นั่งเล่นเกมอยู่ข้างล่างเหรอ?”
“คือ.. ฉันก็กลัวว่านายจะหลงในบ้านฉันก็เลยมาตามหาน่ะ มันมีหลายห้อง..”
“อ๋อ.. อือ” แบคฮยอนพยักหน้า แต่สายตาก็เหลือไปมองที่ตู้เสื้อผ้าที่เปิดแง้มๆ อยู่ เมื่อสังเกตดีๆ จะเห็นเป็นนิ้วของคนโผล่ออกมา แบคฮยอนขมวดคิ้ว ส่วนชานยอลที่กำลังมองแบคฮยอนก็เริ่มรู้สึกไม่ดี “ในตู้เสื้อผ้ามีอะไรน่ะ?”
“อึก..” แบคอยอนมองหน้าชานยอลแล้วละสายตาเดินไปที่ตู้สื้อผ้า ชานยอลรีบรวบตัวแบคฮยอนที่เบาหวิวมายืนที่เดิม “ระ เรา.. เรา...ไป ลงไปเล่นเกมกันเถอะ” ชานยอลจับมือแบคฮยอนแล้วพยายามจะจูงออกจากห้อง
“เดี๋ยวสิ.. นายเก็บอะไรไว้ในตู้เสื้อผ้าเหรอชานยอล?”
“ไม่มีอะไรหรอก”
“โกหกชัดๆ เลย” แบคฮยอนขมวดคิ้วทำหน้าไม่พอใจแล้วพยายามจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกรอบ ชานยอลก็ได้แต่ยืนขวางไว้ไม่ยอมให้ไป “นี่นาย.. อย่ามาขวางกันได้ไหม?” แบคฮยอนดันอกชานยอลจะให้อีกฝ่ายเสียหลักล้มลงไป แต่กลับเป็นตัวเองที่กลับเสียหลักล้มลงไปแทน ชานยอลรีบยื่นมือไปช่วย แบคฮยอนรีบคว้ามือชานยอลไว้แต่ก็ทำให้ชานยอลพลอยเสียหลักลงไปด้วย
“โอ้ย..”
“นะ หนักอ่ะ” แบคฮยอนทำหน้าเหยเก “รีบๆ ออกไปจากตัวฉันสักที”
เฮ้ยเดี๋ยว...
นี่กู..
คร่อมแบคฮยอนอยู่!
ชานยอลนอนตัวแข็งทื่อ
“ออกไปนะชานยอล.. มันหนักอ่ะ” แบคฮยอนดันไหล่ชานยอลเบาๆ แต่ก็เหมือนชานยอลจะไม่รู้สึกอะไรเลย แบคฮยอนจึงตีไหล่ชานยอลไปแรงๆ “ชานยอล! อ๊ะ.. นี่! จะมากอดฉันทำไม” ทันทีที่แบคฮยอนตีไหลชานยอลแรงๆ เขาก็รีบกอดแบคฮยอนไว้แน่น
นะ นี่กู.. นี่กูทำอะไร!!!
“อะ อือ.. คือ..ว่า ถ้าฉันปล่อยนายไป นะ นาย..ก็จะไปเปิดตู้เสื้อผ้าสินะ” ชานยอลพยายามแถไปเท่าที่จะแถได้ อันที่จริงเขาอยากจะอยู่แบบนี้ไปนานๆ ด้วยซ้ำ แบคฮยอนตัวนุ่มนิ่มกว่าบอนนาหลายเท่า ให้ความรู้สึกดีกว่าบอนนาหลายเท่าจนชานยอลแทบอยากจะจัดตรงนี้ แต่ติดตรงที่แบคฮยอนไม่ใช่ตุ๊กตายางนี่สิ
“ฉันไม่ดูแล้วก็ได้..” ชานยอลค่อยๆ ปล่อยแบคฮยอนออก จากนั้นจึงลุกขึ้นนั่งกับพื้นแล้วหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อเรียกสติตัวเองให้กลับมา
แต่ยังไม่ทันที่ชานยอลจะตั้งสติได้ดี แบคฮยอนก็รีบลุกขึ้นพรวดแล้ววิ่งไปเปิดตู้เสื้อผ้าออกทันที สีหน้าขอแบคฮยอนเปลี่ยนไปในทันทีเมื่อเจอตุ๊กตาขนาดเท่าตัวคนจริง และที่สำคัญหน้าตาเหมือนแบคฮยอนทุกระเบียบนิ้ว ชานยอลได้แต่นั่งทำตาโตอยู่ที่เดิม แบคฮยอนค่อยๆ ถอยห่างจากตุ๊กตายางที่หน้าตาเหมือนกับฝาแฝดของตัวเอง แล้วล้มนั่งลงไปกับเตียง เมื่อตั้งสติได้ชานยอลจึงรีบเดินไปหาแบคฮยอน
“เอ่อ.. แบคฮยอน ฟังก่อนนะ คือว่า...” ชานยอลแตะไหล่แบคฮยอน แต่ก็ถูกมือเล็กปัดออกไปอย่างรวดเร็ว แบคฮยอนรีบขยับตัวหนีชานยอลทันที
“อี๋ ไอ้โรคจิต อย่ามาแตะตัวฉันนะ!” แบคฮยอนขยับหนีไปอยู่ที่มุมห้องทันที
ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิตไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิตไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต ไอ้โรคจิต
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างฉันกับแบคฮยอน!!!
“คือว่า.. เอ่อ...มันไม่ใช่อย่างที่เห็นนะ ที่จริงฉันได้บอนนามาก่อนจะเจอนายซะอีกนะ” ชานยอลรีบแก้ตัว
“บอนนา?” แบคฮยอนทวนคำที่ชานยอลพูด “นี่นาย...นี่นายตั้งชื่อให้ไอ้หุ่นโง่ๆ นี่ที่หน้าตาเหมือนฉันเนี่ยนะ?” แบคฮยอนชี้ไปที่บอนนาแล้วชี้มาที่ตัวเอง
“เอ่อ..”
“อ๋อ... ที่แท้นายมันก็โรคจิตสินะ” แบคฮยอนเดินไปจิ้มอกชานยอลแรงๆ “นายรู้อะไรไหม? ว่าที่ผ่านมานายมันน่าขยะแขยงแค่ไหน แค่ฉันอยู่ใกล้ๆ ก็รับรู้ได้แล้วว่านายมันต้องไม่ปกติแน่ๆ ไอ้ทุเรศ!”
เดี๋ยวนะ... แบคฮยอนคนเมื่อวานหายไปไหน
“ดูตัวนายสิ ใครที่ไหนเขาจะมาชอบคนอย่างนายได้ ใครชอบนายได้ก็คงจะทุเรศเหมือนกับนายแล้วแหละ หรือทั้งชีวิตนายคงจะมีแค่ไอ้หุ่นโง่ๆ นั่นใช่ไหม?” แบคฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามพร้อมกับทำหน้าทำตาไปด้วย ซึ่งมันต่างจากแบคฮยอนแบบก่อนหน้านี้คนละขั้ว
เหมือนคนสองบุคลิคไม่มีผิดเลย
“คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ฉันไปเข้าพวกกับเซฮุน!” แบคฮยอนพูดกระแทกคำสุดท้ายแล้วเดินชนไหล่ชานยอลออกจากห้องไป ชานยอลรีบวิ่งตามแบคฮยอนลงไปข้างล่าง แต่ระหว่างนั้นก็สะดุดล้มบางลื่นบ้างเพราะรีบเกินไป
“บะ แบคฮยอน เดี๋ยวสิ! ฟังก่อนได้ไหม?” เมื่อชานยอลเดินลงมาข้างล่างก็เห็นไคกำลังนั่งเล่นเกมหน้าตาเฉยอยู่ที่โซฟา แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญอีกแล้ว แบคฮยอนเก็บข้าวของของตัวเองที่โซฟาแล้วเดินดุ่มๆ ออกไปจากบ้านของชานยอลทันที ชานยอลได้แต่ยืนมองแบคฮยอนอยู่ที่หน้าประตูบ้าน
“เป็นไรวะมึง?” ไคหันมาถามทั้งๆ ที่เคี้ยวขนมอยู่ในปาก
“หมดกัน.. โอกาสที่กูจะได้มีแฟนกับเขา” ชานยอลนั่งกอดเข่าอยู่ที่หน้าประตูบ้านแล้วเบะปากเหมือนกับเด็กน้อย เขาถอดแว่นหนาเตอะออกมาวางข้างๆ ตัวเองแล้วซุกหน้าลงกับเข่า ไคที่หันมาดูชานยอลรีบเข้าไปหาทันที
“เฮ้ย นี่มึงร้องไห้เหรอวะไอ้ชานยอล?” ไคจับหัวชานยอลโยกไปมา “อื้อหือ น้ำตาเช็ดหัวเข่ากันเลยทีเดียว” ไคนั่งยองๆ มองชานยอลที่นั่งคุกเข่าฟุบหน้าลงอยู่ตรงหน้าเขา
“...”
“...”
“งือ..” ชานยอลค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามอง ไคแทบกลั้นขำไม่อยู่ เพราะเขาไม่เคยเห็นชานยอลร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อนและมันดูตลกมาก น้ำตาไหลเป็นทาง ตาบวมแดง น้ำมูกน้ำลายไหลเหมือนเด็กน้อย ให้นึกถึงหน้าเด็กอนุบาลร้องไห้คงเป็นแบบนั้นเลย
“อุ๊บ..” ไคเอามือปิดปากตัวเองกลั้นขำไว้
“ขำไรไอ้ดำ” เสียงงุ้งงิ้งในลำคอของชานยอลปล่อยออกมาเป็นดำด่าแทบฟังไม่รู้เรื่อง
“ฮ่าๆๆ เปล่าๆ โอ้ยสัสฮา มึงเลิกร้องเถอะกูฮา ฮ่าๆๆๆๆ”
“ไอ้เหี้ยไค!!” ชานยอลตะโกนออกมาแล้วผลักไปให้ล้มลงไป จากนั้นชานยอลจึงตามไปตบเหม่งไค แล้วทั้งสองคนก็เริ่มลงไม้ลงมือกันทันที
“โอ้ยเจ็บ.. มึงอ่ะต่อยแรงชิบหาย”
“ใครบอกให้มึงมากวนตีนกูล่ะ” ชานยอลที่นั่งอยู่โซฟาข้างๆ ไคยังคงกึ่งร้องกึ่งสะอื้นอยู่
“โอเคๆ กูขอโทษก็ได้วะ” พูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจแล้วเอามือแตะแผลฟกช้ำแต่ไม่เลือดออกแถวๆ มุมปาก “แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?” เมื่อไคเริ่มถามชานยอลอีกรอบ คนตัวสูงข้างๆ ก็เริ่มทำหน้าบิดหน้าเบี้ยวเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง ไคจึงตบหัวเข้าให้อีกป้าบนึง “มึงเป็นเด็กปัญญาอ่อนรึไง เล่ามาดีๆ ดิ้”
“แบคฮยอน...แบคฮยอนไปแล้ว..”
“ไปไหนวะ”
“เขาไม่คุยกับกูแล้ว”
“ทำไมวะ?”
“เขาเจอบอนนาในห้องกู..”
“...”
“ฮือ..”
“สัสๆ หยุดร้องเลยๆ ไม่งั้นกูจะถ่ายคลิปไปแฉโรงเรียน” ชานยอลรีบหยุดร้องทันที “เอาน่ามึง.. ยังไงเดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นเองแหละน่า แบคฮยอนเขาก็ดูไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนี่”
“มึง!! มันไม่ใช่แบบนั้น.. กูเพิ่งโดนแบคฮยอนด่ามาเนี่ย” ชานยอลถอนหายใจแรงแล้วก้มหน้าลง ไคตบบ่าชานยอลเบาๆ แทนคำพูดปลอบใจ
“มึง.. มึงดูกูกับเซฮุนดิ เซฮุนเขาเกลียดกูจะตายห่ากูยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
“หือ.. นี่มึงรู้ว่าเขาเกลียดมึงด้วยเหรอ?”
“ห่า” ไคตบหัวชานยอลไปอีกรอบ “ที่มึงเห็นทั้งหมดคือกูแกล้งทำมึนๆ ไปงั้นแหละ มึงเข้าใจไหม? คำว่าเนียนอ่ะ”
“มึงทำแบบนั้นไปเซฮุนเขาก็ไม่หันมามองมึงหรอก”
“ก็ไม่แน่...”
วันนี้ก็เป็นวันเดิมๆ อีกวันที่ชานยอลต้องตื่นเวลาเดิม อาบน้ำเวลาเดิม กินข้าวเวลาเดิม และออกจากบ้านเวลาเดิม แต่เรื่องเมื่อวานนี้มันทำให้เขาหยุดฟุ้งซ่านไม่ได้เลย แบคฮยอนคงจะคิดว่าเขาเป็นคนโรคจิตไปแล้วจริงๆ แน่ๆ
ชานยอลล็อคประตูก่อนจะมองไปที่บ้านข้างๆ แบคฮยอนเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับเป้อีกหนึ่งใบข้างหลัง เขาเองก็หันมามองชานยอลเช่นกันแล้วหันกลับไปทำธุระของตนเองต่อจากนั้นจึงรีบออกจากรั้วบ้านแล้วเดินดุ่มๆ หนีชานยอลไปทันที ชานยอลไม่รอช้า เขารีบเดินตามแบคฮยอนไป
“แบคฮยอน ฟังฉันก่อนได้ไหม? เรื่องเมื่อวานนี้น่ะ”
“อย่ามาใกล้ได้ไหมไอ้คนสกปรก” แบคฮยอนสะบัดมือชานยอลที่จับแขนตัวเองไว้ออก
“มาคุยกันหน่อยไม่ได้เหรอ?” ชานยอลเดินตามแบคฮยอนไปติดๆ แต่ร่างเล็กตรงหน้าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดิน “จะไม่คุยกันจริงๆ เหรอ? ฉันอยากเป็นเพื่อนกับแบคฮยอนนะ”
“...” ไร้ซึ่งคำตอบใดๆ จากอีกฝ่าย ชานยอลได้แต่เดินตามแล้วพูดนู่นพูดนี่ที่ฟังดูน่ารำคาญมากๆ สำหรับแบคฮยอน
“แบคฮยอน..คือว่า..”
“เฮ้ย! หยุดพูดสักทีจะได้ไหม? น่ารำคาญที่สุดเลย แล้วก็ออกห่างจากฉันอย่างน้อยสิบเมตรเลยนะ”
“แต่ว่า..”
“แต่ว่าอะไรห้ะ? หรือว่าที่ฉันเห็นไปเมื่อวานนี้มันยังบ่งบอกไม่พอใช่ไหมว่าไอ้ทุเรศอย่างนายน่ะมันโรคจิตแค่ไหน” แบคฮยอนที่เดินอยู่นานหยุดแล้วหันมากอดอกด่าชานยอล “อ้อ แล้วอีกอย่างนะ ฉันไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับนายด้วย จำเอาไว้ด้วยล่ะ ฉันก็มีเพื่อนของฉันแล้วนายไม่ได้จำเป็นอะไรกับฉันแล้วสักหน่อย ไม่ต้องเดินตามมาด้วยนะ รำคาญ!” แบคฮยอนพูดเสียดสีชานยอลไปมาแล้วเดินไปโรงเรียนต่อ
ทำไมดูหยิ่งจังเลยวะ..
“แฮ่กๆ ไอ้ชานยอลโว้ย!!! ทำไมวันนี้ถึงไม่รอกู” น้ำเสียงที่ชานยอลคุ้นเป็นอย่างดีดังมาจากข้างหลัง “อ้าว นั่นแบคฮยอนนี่ ที่แท้ก็เดินมาโรงเรียนด้วยกัน ถึงว่าไม่รอกู”
“เปล่าหรอก กูตามมาง้อแต่ไม่สำเร็จนน่ะ” ชานยอลทำหน้าหงอย
“เลิกหงอยได้แล้วมึง ทำหน้าแบบนี้แม่งไม่สนุกเลย ไปๆ เดินไปโรงเรียนกันดีกว่า” ชานยอลพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินตามไคไปโรงเรียน วันนี้ก็ยังคงเป็นอะไรที่เหมือนๆ เดิม ไคยังคงพูดเรื่องไม่ซ้ำกันและยังบ่นไม่หยุดอีกต่างหาก
เสียงกริ่งดังขึ้นเมื่อชานยอลและไคไปถึงโรงเรียนพอดี นั่นหมายคววามว่าได้เวลาเริ่มวิชาโฮมรูมในตอนเช้าแล้ว ทั้งสองคนรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนได้ทันเวลา และครูก็เข้ามาในห้องเรียนพอดี
“เอาล่ะๆ นั่งลงให้เรียบร้อย วันนี้มีเรื่องจะประกาศ” นักเรียนทุกคนรีบหาที่นั่ง ถึงแม้จะมีนักเรียนบางกลุ่มที่แอบหยอก หรือพูดคุยกันบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้เบนความสนใจจากครูเท่าไหร่ “ปีนี้โรงเรียนของเราจะมีจัดกิจกรรมเฉพาะนักเรียนปีสอง แล้วให้นักเรียนปีหนึ่งกับปีสามมาร่วมกิจกรรม” ครูเว้นช่วงในการพูดไว้ “โดยจะมีสองห้องที่ทางโรงเรียนได้จับคู่ไว้ให้แล้ว เพื่อการแสดงละคร นั่นก็คือห้องเอ และห้องของเราห้องอี”
“เฮ้ย!!” ชานยอลและไคอุทานออกมาพร้อมกัน เพื่อนทั้งห้องรวมทั้งครูหันมามองพวกเขาเป็นตาเดียวกัน
“พวกเธอตรงนั้นมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“เอ่อ.. เปล่า..เปล่าครับ” ครูขยับแว่นเล็กน้อยแล้วก้มลงอ่านใบกระดาษในมือต่อ
“ส่วนห้องอื่นๆ ก็จะจัดกิจกรรมที่แตกต่างกันไป ต่อไปครูจะบอกรายละเอียดของห้องเรานะ ห้องเอและอีจะแสดงเรื่องอะไรให้ตกลงกันเรื่องบทและทุกอย่าง ครูประจำชั้นห้องเอและอีจะเป็นครูที่ปรึกษาให้เอง ใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็มาถามได้ทีหลังนะ อ้อ แล้วพรุ่งนี้ช่วงเช้าเราจะไม่มีเรียนเพราะจะให้แต่ละห้องมาวางแผนเรื่องกิจกรรมกรรมที่ว่านี้นะ” เมื่อครูพูดจบไม่นานนักเสียงกริ่งก็ดังขึ้นหมดเวลาโฮมรูม ครูเดินออกจากห้องไป
“มึงๆ มึงก็เล่นพระเอกเลยดิ” ไคสะกิดไหล่ชานยอลและกระซิบเบาๆ
“มึงจะบ้าเหรอ หน้าอย่างกูเนี่ยนะ ไม่เอาเด็ดขาด แล้วมึงก็ห้ามทำอะไรแผลงๆ ด้วยนะ” ไคยักไหล่แล้วหันหน้าไปทางอื่น คนอย่างเขาน่ะเหรอจะไม่ทำอะไรแผลงๆ? คิดผิด
t a l k
เย้เย้ . w . ครบ 100 เปอร์แล้ว ขอโทษที่ช้านะครับ T w T
ยังว่าอยู่ว่าทำไมช่วงนี้มันยุ่งอย่างนี้ อย่าเพิ่งโกรธกันนะครับ
สัญญาว่าจะไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้แน่นอน -/- งิ้ง
" ยังไงก็ฝากคคอมเม้นต์ติชมด้วยนะครับ (: "
ความคิดเห็น