คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ✿ rubberdoll ✿ : Chapter 3 || update 100% ||
Chapter 3
“มึงๆ”
“หื้อ?”
“กูได้ปากกาของเซฮุนมาด้วย”
“แล้วไงวะ”
“...”
“เอาชุดไหนดีนะ...”
“โธ่ ไอ้หลงเมีย ไอ้ติดตุ๊กตา” ไคด่าชานยอลเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมสนใจตนเองที่กำลังพูดอยู่ เขาเอาแต่เลือกชุดน่ารักๆ เพื่อเอาไปให้ ‘บอนนา’ ที่เป็น ‘ตุ๊กตายาง’ ของเขา “เย็นนี้กูไปบ้านมึงได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“อ้าว! ทำไมวะ”
“เพราะกูจะทำธุระกับบอนนา”
“คำก็บอนนา สองคำก็บอนนา อะไรวะ นี่มึงได้ตุ๊กตายางเป็นเมียจนลืมเพื่อนเลยรึไง?”
“งั้นมึงก็ไปจีบเซฮุนของมึงให้ติดดิวะ!” ชานยอลหันมาขึ้นเสียงใส่ไคเล็กน้อยอย่างหัวเสีย เพราะตอนนี้เขากำลังตั้งใจเลือกชุดสาวน้อยให้กับบอนนาสุดที่รักอยู่ ไคมองด้วยสายตาหมั่นไส้สุดขีดก่อนจะเมินหน้าไปทางอื่นอย่างงอนๆ “ไม่ต้องมาทำเป็นงอนเลย เดี๋ยวรอกูเลือกอีกแป๊บนึง” ชานยอลพูดแล้วหยิบชุดกระโปรงโลลิต้าสีชมพูขาวขึ้นมาดูแล้วทำหน้าโรคจิต
“เลือดจะกำเดาแล้วสัด”
“อะ อะไร!” ชานยอลหันไปทำหน้ายักษ์ใส่ไค “ตกลงกูเอาตัวนี้แหละ” ชานยอลพูดแล้วเดินปลิวไปจ่ายเงินทันที
“กลับบ้านรึยัง? เนี่ย.. กูมารอเป็นเพื่อนมึงเย็นมากแล้วนะ มึงยังจะให้กูกลับบ้านไปแล้วโดนป๊ากับม๊าด่าอีกรึไง แล้วมึงก็ไม่ยอมให้กูไปนอนบ้านมึง มึงจะรับผิดชอบยังไง” ไคบ่นยกใหญ่
“เออๆๆ คืนนี้เท่านั้นนะ แต่มึงต้องนอนข้างล่างนะเว้ย เพราะบอนนาจะนอนข้างบนกับกู”
ครับ...
ไคทำหน้าเอือมๆ แล้วพยักหน้าไปอย่างไม่เต็มใจ เหตุผลที่ว่าทำไมไคถึงอยากไปนอนบ้านชานยอล.. นั่นก็เพราะว่าอยู่บ้านชานยอลเปิดแอร์เย็นตลอดทั้งวัน แถมยังมีแต่อาหารดีๆ กิน นี่เขาเรียกว่าเกาะเพื่อนกินชัดๆ แต่ยังไงชานยอลก็ยังเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของไคอยู่ดี
ชานยอลหอบหิ้วถุงเข้ามาในบ้านอย่างทุลักทุเลโดยมีไคที่ช่วยหอบถุงอีกมากมายตามมาด้านหลัง
“มึงซื้ออะไรนักหนาเนี่ย”
“ก็เสื้อผ้าของบอนนาแล้วก็ของอื่นๆ เล็กน้อยแหละน่า”
“เห่อจังเลยนะบอนนาของมึงอ่ะ”
“กูไม่ได้เห่อ แต่บอนนาเป็นแฟนกู”
ชานยอลเดินขึ้นบันไคจะตกแลไม่ตกแล ไคที่ตามขึ้นไปด้านหลังติดๆ ก็แอบหวั่นว่าชานยอลจะหงายมาโดนให้เขากลิ้งลงบันไดไปด้วย แต่สุดท้าย ทั้งสองคนก็สามารถเดินขึ้นบันไดไปได้อย่างไม่ราบรื่นนัก แต่สิ่งของทุกอย่างที่ซื้อมาก็มากองอยู่ในห้องเรียบร้อย ไคที่เพิ่งมาบ้านชานยอลจากที่ไม่ได้มาสองสามอาทิตย์ก็ยืนมองบอนนาที่กำลังนั่งหลับตาบนเตียงใส่เสื้อผ้าของเด็กผู้หญิงอยู่
“น่าหมั่นไส้คนเป็นแฟนมึงจริงๆ” ไคพูดออกมา
“หึๆ มึงอิจฉาแฟนกูสินะ นี่กี่โมงแล้วเนี่ย?” ชานยอลถาม ไคก้มหน้าดูนาฬิกาของมือของตัวเอง
“เกือบหกโมงล่ะ ห้าโมงสี่สิบ”
“เออ เดี๋ยวกูจะออกไปซื้อบะหมี่สำเร็จรูป”
“กูขออยู่บ้าน”
“อ้ะ! มึงคิดจะทำอะไรบอนนากู!!”
“กูสาบานเลยว่าไม่ทำ ตอนนี้กูเพลียเหี้ยๆ ล่ะ จริงๆ” ไคพูดแล้วเอาผ้าในตู้มาปูนอนที่ด้านล่างเตียง ชานยอลมองอย่างไม่ค่อยไว้ใจแต่ก็ยอมเดินออกจากห้องไปแต่โดยดี เขาใส่แจ๊คเก็ตอะไรให้เรียบร้อยแล้วเดินออกจากบ้านไป ระหว่างทางก็เดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีไปด้วย ตั้งแต่บอนนาเขามาก็ทำให้เขามีความสุขได้ทุกวันเลย แถมอาการหลั่งเร็วของเขาก็ดีขึ้นด้วย
“บะหมี่เอาไปสักสิบห้าห่ออยู่ได้หนึ่งอาทิตย์กว่าๆ การ์ตูนออกใหม่.. แล้วก็อะไรอีกนะ...” ชานยอลยืนคิดแล้วเดินหยิบของไปเรื่อยๆ ราวๆ สามสิบนาทีก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์
เขาเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อแล้วเดินกลับไปที่บ้านทางเดิม
นี่เราหลงรักตุ๊กตายางขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย..
ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ยังไงสิ่งไม่มีวิตก็ไม่มีชีวิตวันยังค่ำ ปาร์คชานยอลก็ยังถือว่าไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่ดี พูดแล้วมันก็น่าน้อยใจในโชคชะตาตัวเองอยู่เหมือนกัน ที่เกิดมามีทุกอย่างยกเว้นแฟน ชานยอลก็ใช่ว่าจะหน้าตาไม่ดี เขาเป็นคนที่หน้าตาดีคนหนึ่งเลย แต่แค่ไอ้ความมีเสน่ห์นั้นมันอยู่ภายใต้แว่นหนาเตอะนั่นหมด เขาสายตาสั้นมากๆ เพราะว่าเอาแต่จ้องคอมฯ ทั้งวันและดูแต่คลิปพรรณนั้นบ่อยเกินจนเสียสายตา
“อยากให้บอนนามีชีวิตจังเลยน้า” พูดแล้วเดินเตะกระป๋องตามทางไปด้วย “ถ้าได้แฟนแบบบอนนาสาบานเลยว่าจะเปลี่ยนตัวเองใหม่ครับพระเจ้า..” ชานยอลพูดลอยๆ รู้ตัวอีกทีก็มาถึงหน้าบ้านแล้ว
แต่ทว่า...
“หื้อ? นั่นใคร? ขโมย? ไม่สิ บ้านข้างๆ เรานี่ไม่ได้มีใครอยู่ซะหน่อย” ชานยอลบ่นอุบอิบกับตัวเอง
“อ๊ะ ของตกๆ” ชานยอลค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ คนๆ นั้น ที่มือยังคงแกว่งถุงจากร้านสะดวกซื้อไปด้วย
“นี่ๆ คุณมาทำอะไรแถวนี้เหรอครับ?” ชานยอลมองคนที่กำลังก้มเก็บของที่ตกจากกระเป๋าสะพายที่อัดแน่นไปด้วยของอะไรไม่รู้มากมาย คนๆ นั้นค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมากำลังจะตอบคำถามชานยอล แต่ถึงคำตอบพวกนั้นจะออกมาดังแค่ไหนก็ไม่ได้เข้าหูชานยอลเลย เขาอ้าปากค้างมองภาพตรงหน้า ที่มือแผลอปล่อยถุงจากร้านสะดวกซื้อ เขาค่อยๆ เดินถอยหนีแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปอย่างไม่คิดชีวิตทันที
“อะ เอ๋.. ทะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น..” คนที่เพิ่งโดนหนีไปเดินเข้าไปเก็บถุงจากร้านสะดวกซื้อขึ้นมา
“อะ ไอ้ไค!!! ชะ ช่วยกูด้วย.. ช่วยด้วยๆๆ” ชานยอลวิ่งเข้ามาเขย่าตัวไคที่กำลังนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ที่พื้น
“ฮะ เฮ้ย อะไรของมึง ใจเย็นดิวะ” ไคตบหัวชานยอลให้อีกฝ่ายได้สติ “มึงเป็นอะไร ยังกะเจอผี” ชานยอลหน้าซีดกว่าเดิม “หรือว่า...”
ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง..
“เฮ้ย!!” ชานยอลสะดุ้งโหยง
“ใครมาวะ มึงลงไปเปิดประตูไป..”
“มึง.. มึงไปกับกู” ชานยอลพูดกับไคแล้วส่งสายตาอ้อนวอนสุดขีด ไคพยักหน้าแล้วเดินนำไคลงจากบ้านไปกำลังจะเปิดประตูบ้าน เขาค่อยหมุนลูกบิดแล้วเปิดออกมาช้าๆ
“...” ดวงตาของไคเบิกกว้าง และอ้าปากค้าง
“กะ โกหกน่า..” ชานยอลพูดออกมาเบาๆ
“นายทำของตกเอาไว้หน้าบ้านเมื่อกี้น่ะ”
สะ เสียงโคตรน่ารัก!
เขาพูดแล้วยื่นถุงจากร้านสะดวกซื้อให้ชานยอล ไคค่อยๆ ถอยหนีแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องทันทีด้วยความตกใจ เหลือเพียงชานยอลที่โดนทิ้งให้ยืนเผชิญหน้าอยู่กับคนตรงหน้านี้
“เอ้า รับไปเร็วๆ สิ” ชานยอลค่อยๆ ยื่นมือไปรับของมา “ทำไมต้องตกใจกันขนาดนั้นด้วย? หน้าฉันเหมือนผีเหรอ? หรือยังไง?” ชานยอลส่ายหน้าเบาๆ แต่ที่มือยังคงสั่นอยู่
“...”
“อืม ฉันเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่ อยู่บ้านข้างๆ นี้แหละ” เขาพูดแล้วหันหลังเดินจากไป ชานยอลค่อยๆ เปิดประตู แล้วเดินช็อคๆ ขึ้นห้องไป เจอไคกำลังนั่งทำหน้ากลัวสุดขีดอยู่ที่มุมห้อง สายตาจ้องมองไปที่บอนนาตลอด
“ไอ้ไค... ใจเย็น..”
“มึง!!! มันเรื่องโกหกแน่ๆ เลย กูว่ามึงกับกูต้องหลอนไอ้ตุ๊กตาตัวนี้แน่ เอามันไปทิ้งเถอะ”
“เฮ้ยบ้า! มันแพง” ชานยอลตบหัวไค “กูว่า... มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้นะ”
บังเอิญว่า บอนนาหน้าตาเหมือนกับคนๆ นั้นทุกอย่าง
“กูว่ามันต้องเป็นเรื่องบังเอิญ”
“ยังไงก็เถอะ.. มันทำให้กูโคตรหลอนเลย”
“กูก็เหมือนกันแหละ” ชานยอลและไคเงียบไปสักพัก “ไค วันนี้กูว่ากูนอนก่อนดีกว่าว่ะ.. มึงมานอนบนเตียงกับกูก็ได้นะ เดี๋ยวให้บอนนาไปนั่งที่โซฟาตรงนั้น” ชานยอลบอก ไคพยักหน้าเบาๆ
กริ๊งงงงงง..
ชานยอลขยับตัวไปมาเบาๆ แล้วเอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกาทั้งๆ ที่ตายังปิดอยู่
“ไอ้ไค.. มึงไปอาบน้ำก่อน” ชานยอลพูดอย่างงัวเงียแล้วพลิกตัวไปอีกทาง ไร้คำตอบจากอีกฝ่าย “ไอ้ไค...”
...
“ไอ้ไค! กูบอกให้มึงไปอาบก่อน!” ชานยอลลุกขึ้นมาแล้วสะบัดผ้าห่มไปทางอื่น พูดออกมาอย่างหัวเสีย แต่... ว่างเปล่า คนที่นอนข้างๆ เมื่อคืนนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ชานยอลหันไปเห็นโพสอิทที่แปะอยู่ที่หัวเตียง
‘วันนี้กูไปก่อนนะ’
ชานยอลขย้ำโพสอิททิ้งแล้วมองไปที่บอนนาที่นั่งหน้านิ่งอยู่บนโซฟา ชานยอลค่อยๆ ลุกเดินไปหาบอนนาใกล้ๆ แล้วจ้องหน้านานๆ เขาเอื้อมมือไปลูบแก้มบอนนาเบาๆ มันนุ่มและเนียนมากเหมือนกับของคนจริงๆ ไม่มีผิด
“งือ...” เสียงครางอัตโนมัติดังขึ้นมาเบาๆ
“เฮ้อ..” ชานยอลค่อยๆ ผละออกจากบอนนาแล้วเดินหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป
6:45 AM
ชานยอลเดินลงมาจากบันไดด้วยชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียน เขาเปิดตู้เย็นแล้วเอานมขึ้นมาดื่ม และเดินไปหยิบขนมปังที่เคาท์เตอร์มางับไว้ที่ปากหนึ่งแผ่น ในหัวจนถึงตอนนี้ยังไม่เลิกนึกถึงคนเมื่อวานนี้ มันดูบังเอิญไปที่คนๆ นั้นจะเหมือนกับบอนนาทุกอย่าง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ชานยอลก็คงจะทำตัวกับคนนั้นไม่ถูก แต่ก็อยากรู้มาตั้งนานแล้วว่าถ้าบอนนามีชีวิตขึ้นมาจะน่ารักกว่าตอนเป็นตุ๊กตายางแค่ไหน
ขายาวๆ เดินออกมาจากประตูบ้านแล้วล็อคกุญแจเอาไว้ เขาหันไปมองที่บ้านข้างๆ พอดีกับที่ประตูของบ้านหลังนั้นเปิดออกมาพอดี ชานยอลมองคนๆ นั้นไม่วางตา จนเจ้าตัวรู้สึกได้และหันหน้ามามองชานยอลเช่นกัน
ตึกตัก...ตึกตัก..
“เอ่อะ...”
“..” ผู้ชายร่างเล็กที่อยู่บ้านข้างๆ หันมามองชานยอลแล้วเอียงคอเล็กน้อยเหมือนจะสื่อว่า ‘มีอะไรเหรอ?’
“เอ่อ.. ชื่อชานยอล!” ชานยอลพูดออกมาด้วยเสียงดังหนักแน่นหวังว่าจะให้อีกฝ่ายได้ยินชัด
“หือ? อยู่โรงเรียนเดียวกันเลยนี่ พอดีเลย จะได้ให้ช่วยนำทางที่โรงเรียนหน่อย โชคดีจัง”
“อะ เอ๋? ฉะ ฉะ ฉะ ฉันเหรอ?” ชานยอลพูดตะกุกตะกักไม่เป็นภาษา หน้าขึ้นสีแดงจัดเป็นลูกตำลึงสด “แต่คือ.. เอ่อ.. ฉันน่ะนะ”
“เดินไปโรงเรียนด้วยกันไหม?”
“ห้ะ? หา? เอ๋?”
“ไม่เหรอ...?”
“มะ ไม่.. ไม่สิ.. ไม่ใช่แบบนั้น ฉันหมายความว่า ไปสิ เดินไปด้วยกัน” ชานยอลที่กำลังทำตัวไม่ถูกยืนตั้งสติแล้วเดินออกจากรั้วบ้านไป และเดินไปพร้อมๆ กับคนที่หน้าเหมือนกับบอนนาอย่างกับแกะ
“ฉันชื่อบยอนแบคฮยอนนะ”
“อ๋อ.. ฉันปาร์คชานยอลน่ะ..”
แต่...ชื่อแบคฮยอนนี่.. มันคุ้นๆ อยู่นะ...
BHYN12…
อ๋อ.. ว่าแต่.. ทำไมมันบังเอิญจัง ส่วนสูงก็เหมือนจะเท่ากับตุ๊กตาบอนนาไม่มีผิด..
บังเอิญไป แต่...ช่างมันเถอะ
“นายอยู่ที่นี่เหรอ?”
“มะ ไม่น่ะ.. เพิ่งย้ายมาจากต่างจังหวัดเมื่อปีที่แล้วเอง”
“สอบเข้ามาเหรอ?”
“เอ่อ...เปล่านะ”
“ก็แปลว่าบ้านรวยสินะ?”
ถามเยอะจริง..
“อ่าใช่.. แล้วแบคฮยอนล่ะ สอบเข้ามาเหรอ?”
“อื้อใช่แล้วแหละ แล้วเพื่อนนายเมื่อวานนี้ทำไมไม่มาด้วยล่ะ?”
“อ๋อ มันไปโรงเรียนก่อนแล้วน่ะ”
“แล้วชื่ออะไรล่ะ?”
“คิมจงอินน่ะ แต่ทุกคนเรียกไค”
“อืมเหรอ..” จากนั้นบทสนทนาเมื่อกี้ก็เงียบลง ทั้งสองคนเดินไปโรงเรียนเฉยๆ โดยไม่พูดอะไรต่อจนกระทั่งถึงโรงเรียน
“ว่าแต่อยู่ห้องอะไรเหรอ?”
“5-A น่ะ”
“โอเค งั้นเดี๋ยวฉันจะพาไปนะ..” ชานยอลพูดแล้วเดินนำแบคฮยอนไปที่ห้อง เขาเดินนำไปเรื่อยๆ โดยไม่พูดอะไร ส่วนแบคฮยอนก็ทำหน้านิ่งๆ มาตั้งแต่เดินมาโรงเรียนด้วยกันแล้ว เขาเหมือนไม่ค่อยยิ้มเลย
สุดท้ายก็ไม่ได้เห็นบอนนายิ้มสินะ..
“ถึงแล้ว ห้องนี้แหละ” ชานยอลทำท่าจะเดินออกไปแต่ก็ถูกคนตัวเล็กเรียกไว้ก่อน
“นี่” ชานยอลหันไปหาแบคฮยอน “ขอบใจนะชานยอล” แบคฮยอนยิ้มหวานให้ชานยอลและเรียกชื่อเขาจากนั้นจึงหันหลังแล้วเดินเข้าห้องเรียนไป ชานยอลรีบกุมเป้าตัวเองเอาไว้แล้วนั่งยองๆ หน้าแดงยิ่งกว่าอะไรอยู่ที่พื้น รู้สึกดีมากๆ แบบที่ไม่เคยมาก่อน แค่แบคฮยอนยิ้มหวานให้ก็ทำให้เขามีอารมณ์ได้
แบคฮยอนเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะเรียนที่คิดว่ายังว่างอยู่เพราะยังไม่มีกระเป๋าใครมาวางไว้ประจำโต๊ะ แบคฮยอนนั่งลงเงียบๆ แล้วมองไปรอบๆ ห้อง
“นี่ มาใหม่เหรอ? ชื่ออะไรอ่ะ? น่ารักจัง” พวกเพื่อนผู้หญิงเดินเข้ามาหาแบคฮยอน “นายน่ารักจริงๆ นะ เป็นผู้ชายจริงๆ เหรอ? นี่ๆ พวกแกมาดูเพื่อนใหม่เร็วๆ” เพื่อนผู้หญิงคนนั้นเรียกเพื่อนคนอื่นๆ ให้เข้ามารุมแบคฮยอน
“เอ่อ.. ฮ่าๆ ฉันชื่อบยอนแบคฮยอนนะ เพิ่งสอบเข้ามาได้น่ะ”
“โห เก่งสุดยอด” พวกเพื่อนๆ พูดเป็นเสียงเดียวกัน
ชานยอลยังคงแอบมองอยู่ที่นอกห้องเรียนไม่ไปไหน
“นี่!!” อยู่ๆ ก็มีคนมาตะโตนเสียงดังข้างๆ ชานยอล เข้าสะดุ้งตกใจแล้วหันไปหาต้นเสียงที่อยู่ข้างหัน
“อะไรเนี่ยตะโกนทำไม! อ้าว.. แฟนของไอ้ไคนี่หว่า”
“ไม่ใช่แฟนเฟ้ย!!! อย่าเอาฉันลดตัวไปอยู่กับคนแบบพวกนายได้ไหม? แล้วมายืนเกะกะขวางทางอะไรที่หน้าห้องเรียนฉัน” เซฮุนเท้าส่ายเอวใส่ชานยอล
ท่าทางตุ๊ดชิบหายเลย
“เปล่า เดี๋ยวจะไปแล้ว..” เซฮุนเหล่มองชานยอลแบบจับผิดแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วเดินเชิดเข้าห้องไปโดยไม่หันกลับมามองคนตัวสูงที่อยู่ข้างหลังแม้แต่นิดเดียว
“นี่ มีอะไรกันเหรอ?” เซฮุนเอ่ยขึ้นเสียงแป้นแล้น
“อ้าวเซฮุน มาพอดีเลย มีเพื่อนใหม่ที่เพิ่งสอบเข้ามาได้ด้วยแหละ ชื่อแบคฮยอน” เซฮุนขมวดคิ้วแล้วฝ่าฝูงเพื่อนเข้าไปดู เห็นแบคฮยอนกำลังนั่งตาแป๋วมองมาที่เซฮุนอยู่
“โอ้ว สวัสดี ฉันชื่อโอเซฮุน แต่ช่วยขยับไปอีกที่ได้ไหม? เพราะตรงที่นายนั่งน่ะมันที่ฉันน่ะ” เซฮุนชี้ไปตรงเก้าอี้ข้างๆ ตัวเอง แบคฮยอนสะดุ้งแล้วรีบเก็บของย้ายสัมภาระไปอีกโต๊ะทันที
“เอ่อ..ขอโทษที พอดีว่าฉันไม่รู้” แบคฮยอนพูดเสียงเรียบๆ แล้วยิ้มเล็กๆ ออกมาแบบเดาอารมณ์ได้ยาก
“แหม.. เซฮุนล่ะก็ ก็แบคฮยอนไม่รู้นี่” เพื่อนคนอื่นช่วยพูดแก้ตัวให้แบคฮยอน
“ไม่เป็นไรหรอก แค่เรื่องที่นั่งเอง” แบคฮยอนพูดออกมา พวกเพื่อนคนอื่นๆ ยิ้มเล็กยิ้มใหญ่ เมื่อคุยกันได้สักพักต่างคนจึงต่างแยกย้ายกลับไปในที่ของตัวเอง ส่วนเซฮุนก็นั่งกอดเอาขาไขว่ห้างอยู่ข้างๆ แบคฮยอน
“เมื่อกี้นี้ขอโทษแล้วกันนะ พอดีก่อนเข้าห้องมาเจอเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดน่ะ” เซฮุนเป็นคนเปิดบทสนทนาขึ้นมา แบคฮยอนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ หันมาหาเซฮุนแล้วส่ายหน้าเบาๆ
“ฉันไม่ถือหรอก ฉันไม่ใช่พวกคิดเล็กคิดน้อยแล้วทำตัวน่าสงสารแบบที่คนอื่นเขาเห็นกันหรอก”
“หืม?”
“เปล่าหรอก ว่าแต่อะไรที่ทำให้นายหงุดหงิดล่ะ?”
“เปล่าหรอก พวกโลว์คลาสน่ะ เจอพวกนั้นทีไรอารมณ์เสียทุกที” แบคฮยอนพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้ตอบอะไรกลับ
ในทางของชานยอลที่ตอนก็เดินถึงห้องเรียบร้อยแล้วเจอไคกำลังนั่งเท้าคางเซ็งคนเดียวอยู่ที่โต๊ะ ชานยอลเลยเดินเข้าไปหา ไคเหล่มองชานยอลเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาที่เดิม ชานยอลขมวดคิ้วแล้วเข้าไปนั่งข้างๆ
“เป็นไรของมึงเนี่ย?”
“กูมารอที่โรงเรียนตั้งนานแล้วนะเว้ย”
“กูขอโทษ กูเดินไปส่งแบคฮยอนมา”
“แบคฮยอน?”
“ก็.. คนที่ย้ายมาใหม่เมื่อวานนี้ไง..” ไคเลิกทำเป็นงอนชานยอลแล้วหันมามองชานยอลทันที
“หื้อ? มึงกำลังจีบเขาเหรอ?”
“เปล่า กูไม่กล้าว่ะ..”
“โธ่ กาก”
“อะไร แล้วกับเซฮุนของมึงล่ะ ไปถึงไหนแล้วโธ่ เขาสนใจมึงมั่งไหมล่ะ” ทั้งสองคนเริ่มกัดกันจนเพื่อนๆ ในห้องเริ่มหันมามองเป็นตาเดียวกัน ไม่บ่อยนักหรอกที่ชานยอลและไคจะมีปากเสียงกันในห้องเรียน แต่ไม่นานนักทั้งสองคนก็กลับเข้าสู่โหมดปกติ และสามารถคุยกันได้อย่างถูกคอเหมือนเดิม
และช่วงพักเที่ยงนี้ชานยอลก็รีบเก็บของแล้วรีบเดินออกจากห้องไป แต่ไคก็เรียกเอาไว้ก่อน
“เฮ้ย นั่นมึงจะรีบไปไหนน่ะ?”
“ไปห้อง 5-A”
“ไปทำไมวะ?”
“ไปชวนแบคฮยอนมากินข้าวด้วยกันไง
“มึงนี่ชอบเห่อของใหม่ตลอดเลยนะ”
“เออ กูเพิ่งรู้เมื่อเช้านี้ว่าเซฮุนแม่งอยู่ห้องเดียวกับแบคฮยอนเลยว่ะ”
“ห้ะ..” ไคทำหน้าเบลอๆ “เอ้า มึงจะไปตามแบคฮยอนก็ไปสิ เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” แผนล่อไคของชานยอลสำเร็จ ไคไม่บ่นอะไรต่อและเดินตามไปได้ด้วยดี
เมื่อชานยอลเดินไปที่หน้าห้องเรียนของแบคฮยอนก็เห็นแบคฮยอนกำลังเก็บของและกำลังจะเดินออกมา คนตัวเล็กหน้าหวานเห็นชานยอลยืนอยู่หน้าห้องจึงออกมาหา ไคที่ยืนข้างๆ ชานยอลก็พยายามชะเง้อมองหาเซฮุนที่อยู่ในห้อง
“มีอะไรรึเปล่า?”
“เอ่อ... คือว่า.. ถ้าเกิดว่ายังไม่มีคนมากินข้าวด้วยกัน..”
“กินข้าวเหรอ? อ๋อ ยังไม่มีหรอก...”
“งั้นไปกินกับฉัน...”
“นี่แบคฮยอน นายรู้จักคนพวกนี้ด้วยเหรอ?” เซฮุนเดินมาขัดจังหวะชานยอลพอดี ไคที่ยืนอยู่ข้างๆ ชานยอลกำลังเก็กหล่ออยู่ เซฮุนมองแล้วทำท่าขยะแขยงงทันที
“อ๋อ.. คือฉันเพิ่งย้ายมาแล้วเขาอยู้ข้างๆ บ้านฉันพอดีน่ะ รู้จักกันเมื่อเช้านี้เอง นายรู้จักชานยอลด้วยเหรอ?”
“เปล่าหรอก ดีแล้วที่เพิ่งรู้จัก..” เซฮุนมองชานยอลและไคตั้งแต่หัวจรดเท้า แบคฮยอนเองก็มองเซฮุนสลับกับชานยอลและไคไปอย่างงงๆ “อย่าไปยุ่งกับพวกโลว์คลาสเลยแบคฮยอน พวกนี้น่ะมันเป็นพวกโรคจิต”
“เอ๋?” ชานยอลและแบคฮยอนพูดออกมาพร้อมกัน และแน่นอนว่าไคก็ยืนทำหน้าเบลออยู่ข้างๆ ชานยอล
“แบคฮยอน ต่อไปนี้ไปกินข้าวกับฉันแล้วก็เพื่อนๆ ของฉันนะ”
ไม่.. ไม่นะไม่..
นี่เป็นครั้งแรกที่ชานยอลรู้สึกแอนตี้เซฮุนขนาดนี้
“นี่ๆ ให้ฉันไปนั่งกินด้วยได้ไหม?” จู่ๆ ไคที่ยืนเงียบก็โผลงขึ้นมาถามเซฮุนและกระตุกมือเซฮุนเบาๆ เซฮุนทำหน้าตกใจและรีบชักมือกลับ
“อี๋! ใครใช้ให้นายมาจับตัวฉันฮะ!! ไม่ ไม่มีวันที่ฉันจะมานั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกับนายหรอก”
“โธ่ แบบนี้ฉันจะจีบนายได้ไงล่ะ”
“ไม่ต้องมาจีบ! รีบไปเถอะแบคฮยอน เจ้าพวกนี้น่ากลัวเป็นบ้าเลย ขืนยังอยู่ต่อไปโดนลวนลามมากกว่านี้แน่”
อ้าวเฮ้ย กูผิดไรเนี่ย..
ชานยอลถอนหายใจแรง
“เฮ้ยมึง อย่าเครียดน่า โธ่เอ้ย เดี๋ยวก็จีบได้เองแหละ ตอนนี้กูหิวมากแล้ว ไปๆ กินข้าวเว้ย” ไคฉีกยิ้มเห็นฟันหมดทุกซี่แล้วเดินกอดคอชานยอลไปที่โรงอาหาร
{ t a l k }
ไม่ได้ลงนานมาก เป็นเดือนเลยสินะ ไรท์ขอโทษ T^T
แต่มีกำลังใจอัพต่อเพราะมีคอมเม้นต์บอกให้อัพ เราก็แบบ.. เฮ้ยมีคนอยากอ่านฟิคเรา ปริ่มม๊าก
มีในทวิตอีกเมนชั่นนึงด้วย ขอบคุณมากนะครับที่สนับสนุนฟิคกาๆเรื่องนี้
ดีใจ มีกำลังใจในการแต่งมาก♥
ฝากเม้นต์ด้วย .3.
ความคิดเห็น