NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บ่วงหัวใจในม่านหมอก! (วันไนท์สแตนด์)มีebook

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 2 ฝึกงาน 1

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 65


    หลังจากที่มหาวิทยาลัยปิดไปหลายวัน  วันนี้นักศึกษาปีสี่คณะบริหารธุรกิจสาขาการโรงแรม ก็กลับมากันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อรับใบส่งตัวฝึกงานไปมอบให้สถานประกอบการ
       
           " ป้า!ป้า!ป้า! ทางนี้"…กานต์รวี หันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคยถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียกชื่อเธอ  เธอมัวแต่มองโต๊ะม้าหินอ่อนตัวประจำของกลุ่มแต่วันนี้นักศึกษาเยอะเลยมีคนนั่งไปแล้ว หันหลังไปตามเสียงเรียกปรากฎว่ากลุ่มเพื่อนเธอนั่งกันอยู่ครบ ขาดเธอเพียงคนเดียว จึงรีบเดินไปหากลุ่มเพื่อน
            
             "ไอ้ติ๊ แกเรียกฉันเสียดังจนคนหันมามองทั้งมอแล้วเนี่ย"
             
             "ก็เห็นแกเดินหันรีหันขวางอยู่นานแล้วนี่  ไม่เรียกดังๆแล้วจะได้ยินมั้ย ป้า! แล้วแกจะมาอายอะไรตอนนี้ยะ..ก็เรียกกันมาแบบนี้ตั้งแต่ปีสามละ ให้ชินอิป้าาาา.."
           
            "ทำไมแกมาช้าล่ะ แล้วไปรับใบส่งตัวฝึกงานหรือยัง เนี่ยพวกฉันรอแกไม่มาสักทีเลยไปรับ แล้วมานั่งรอแกนี่แหละ  แล้วแกมีมือถือไว้ทำไม หาเพื่อนไม่เจอทำไมไม่โทรละ ป้า.." หญิงสาววางถุงขนมที่หอบมาพะรุงพะรังและกระเป๋าลงบนโต๊ะ ทรุดตัวลงนั่งข้างๆกีรติ
              
             "เอาไป..อย่าบ่นมากขนมเยอะแยะแม่ฝากพี่ซันมาให้วันก่อนนั่นแหละ อุตส่าห์เก็บไว้ให้พวกแกเนี่ย ที่มาช้าเพราะคืนหอแล้วย้ายไปอยู่คอนโดพี่ซันแล้ว วันแรกก็เจอรถติดนรกแตกเลยอะ มาถึงก็รีบไปรับใบส่งตัวก่อน แล้วมาหาพวกแกเลย"
                
            "เอ่อ..ขนมนี่แม่สามีเป็นคน ทำเองใช่มั้ยคะคุณเพื่อนฝากบอกสามี..ฉันด้วยนะว่าขอบคุณมากที่อุตส่าห์หิ้วมาฝาก กีรติพูดด้วยท่าทางสะบัดสะบิ้ง จนเพื่อนๆพากันมองแรง..ด้วยความหมั่นไส้
               
            "เออ!!รู้งี้..ไม่หอบมาให้เมื่อยหรอกเอาให้ยามใต้คอนโดดีกว่าฉันรึ..อุตส่าห์หอบขึ้นรถเมล์พะรุงพะรังมาเหมือนคนบ้า แต่ขอบคุณพี่ชายฉันเฉย"ว่าแล้วค้อนให้เพื่อนตัวดีวงนึง
            "นังติ๊..แกอย่าโมเมพี่ซันอะสามีส่วนกลางย่ะ...โน่น..คนได้ควงจริงนั่งเงียบเลย"อรไพลินโบ้ยไปที่พิมพ์สิตา
             
           "อะไร..อย่าๆโยนมาที่ฉัน ควงอะไรกันละ รู้สึกเหมือนไปกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง ฉันงี้ตัวลีบเหลือเกือบเท่ามด"
                
            "เชอะ!ให้มันจริงเถอะไอ้นาวอย่าให้ฉันรู้ว่าแกได้กินพี่ซันนะ คนสวยอย่างฉันพร้อมแปลงร่างเป็นนางมารจัดหนักแกแน่ ก็ได้ควงแล้วนี่พูดยังไงก็ได้"กีรติต่อมอิจฉายังทำงานไม่หยุด
               
           "โอ้ย...พอเถอะพวกแกฉันเห็นพอเจอหน้าพี่ซัน เงียบเป็นหมาหงอยกันทุกคนอย่าให้พูด" นิธิดาเบรคเพื่อน
             
            "จำคำพูดพวกแกไว้ด้วยเดี๋ยวเจอพี่ซันครั้งหน้าก็บอกเขาเองเลยนะ รวมทั้งไอ้นาวด้วย"กานต์รวีคาดโทษเพื่อน 
           
     "เอ้า..พอเถอะคุยเรื่องอื่นเถอะป่านนี้พี่ชายฉันจามจนสำลักน้ำลายแล้วมั้งเนี่ย"
               
            "ครบองค์ประชุมแล้วไปไหนทำไรต่อกันดี หมูกระทะมั้ย" 
             
            "ตอนสายๆงี้เลยเหรอยัยนิด้า เค้ายังไม่เปิดร้านหรอกมั้ง

             "งั้นไปเดินห้างกินข้าวดูหนังกันสักเรื่อง แล้วตบท้ายด้วยหมูกระทะตอนเย็นมั้ย ฉันว่าเราคงไม่มีโอกาสจะทำอะไรแบบนี้บ่อยๆกันอีกแล้ว อะ เดี๋ยวกลับจากฝึกงานก็ต้องคร่ำเคร่งทำโปรเจคท์ รายงานก่อนจบอีกละ"อรไพลินร่ายยาว
      
              เพื่อนๆพยักตอบรับเห็นด้วยแล้วเดินตามกีรติไปที่ลานจอดรถ เพราะกีรติเป็นคนเดียวของกลุ่ม     ที่มีรถยนต์ขับมาเรียนบรรยากาศกินหมูกระทะของพวกเธอเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเฮฮาและก่อนแยกย้าย นัดกันอีกรอบว่าเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิพรุ่งนี้เพื่อบินไปภูเก็ตด้วยกัน

             เช้ามืดทุกคนมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยพร้อมเพรียงหลังจากโหลดกระเป๋าเสร็จก็ไปรอขึ้นเครื่องที่ห้องพักผู้โดยสาร
               
             "เอ้ย..ไอ้แซนพวงกุญแจแกน่ารักมากซื้อจากไหนอะ เหมาะสมกับแกมาก พวงกุญแจกระต่ายทำตาโตๆดูตื่นตูม ฮ่า..ฮ่า.."กีรติที่ตาดีและช่างสังเกตทักเพื่อนสาวที่สะพายเป้แล้วมีพวงกุญแจน่ารักๅห้อยอยู่
              
             "อ้อ..พี่ซันซื้อให้นะ ไม่รู้นึกยังไงซื้อของกุ๊กกิ๊กน่ารักแบบนี้ให้น้อง ร้อยวันพันปีไม่เคยมีหรอก น้องอยากได้อะไร ทำตัวเป็นป๋าโอนไว อยากได้อะไรไปซื้อเอาเอง" เธอบ่นแกมแปลกใจพี่ชาย แต่ไม่ได้ติดใจอะไร
                
             พิมพ์สิตาที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยได้แต่ฟังเงียบๆ ถ้าเพื่อนรู้ว่าพี่ซันซื้อให้เธอด้วย มีหวังโดนแซะจากกรุงเทพถึงภูเก็ตแน่
              
             เที่ยวบินจากกรุงเทพไปภูเก็ตใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่า นั่งยังไม่ทันเมื่อย "แก๊งค์ฟ้ารั่ว ก็มาถึงภูเก็ตเรียบร้อย มีรถตู้โรงแรมมารับซะด้วยสาวๆรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเพราะพวกเธอเป็นแค่เด็กฝึกงาน แต่ไม่มีใครถามอะไร มัวแต่ตื่นเต้น และคิดว่าสะดวกดีเหมือนกัน 

            พอไปถึงพวกเธอถึงกับยืนอึ้ง ตะลึงพูดไม่ออกThe Ocean gate โรงแรมสุดเอ็กคลูซีฟท์ หกดาวหรูหราอลังการดาวล้านดวง ความหรูหราของโรงแรมทำให้พวกเธอรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลีบลงในทันที  

            พี่ฝ่ายเทรนนิ่งพนักงานมาแนะนำตัว และพาไป ห้องฝ่ายบุคคลยื่นใบส่งตัวฝึกงานเป็นอันดับแรก แล้วเริ่มแนะนำในเรื่องพื้นฐานต่างๆ  พื้นที่แผนผังในโรงแรมคร่าวๆก่อน จากนั้นพาไปส่งหอพักพนักงานให้พักผ่อนกันก่อนกานต์รวีพักกับอรไพลิน พิมพ์สิตาพักกับนิธิดา ส่วนกีรติต้องแยกไปอยู่ฝั่งผู้ชายอีกตึกนึง อยู่ฝั่งตรงข้ามกันมีสนามและสวนหย่อมกั้นกลาง  เริ่มฝึกงานพรุ่งนี้เช้า จะมีรถตู้มารับพนักงานที่หอตามเวลา 
             
            "อ้อแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าไปถึงโรงแรมก็ไปหาพี่ก่อนนะพี่จะวาง แผนฝึกงานให้พวกเราก่อน แล้วเจอกันพรุ่งนี้จ้ะ พี่ไปนะ"เด็กฝึกงานทั้งห้ารีบยกมือไหว้ขอบคุณ รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่พี่เทรนนิ่งดูใจดี

            ทั้งห้าคนต้องแยกกันฝึกเรียนรู้งานในส่วนต่างๆของโรงแรมสลับกันไปเดือนแรกกานต์รวีและอรไพลินได้ฝึกหน้าฟร้อนต์ แต่แยกกะฝึกกันคนละช่วงเวลาเหมือนพนักงาน  กีรติได้ฝึกส่วนFB หรืออาหารและเครื่องดื่ม นิธิดาฝึกในครัว พิมพ์สิตาฝึกงานแม่บ้าน และพวกเธอจะต้องเวียนให้ครบทุกแผนก 
        
             การเรียนการโรงแรมทำให้พวกเธอเป็นแม่บ้านแม่เรือนไปในตัวเลยทีเดียวเพราะตอนเรียนในมหาวิทยาลัยก็ผ่านการเทรนด์จริงกันมาอย่างหนักหน่วงในคลาสปฏิบัติก่อนออกมาเทรนด์ในโรงแรมข้างนอก เพราะฉะนั้นนักศึกษาฝึกงานทั้งห้าคนมีความคล่องตัวในทุกด้านของงานโรงแรมกันเป็นอย่างดี
          
            พวกเธอเรียนรู้งานเร็วมากโดยเฉพาะกานต์รวีพูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อ จนพี่ๆทึ่งผลจากการดูหนังฝรั่ง อ่านนิยายฝรั่งมาตลอด มันได้ใช้งานจริงๆ เธอและอรไพลินช่วยงานพี่ๆได้เยอะมาก หนักเบาได้หมด ทำให้ได้รับความเอ็นดูจากจากพี่ดาด้า หรือ ปาริดา ฟร้อนเมเนเจอร์ เป็นอย่างมาก ถึงขนาดพูดว่าถ้าอยากกลับมาทำงานตอนเรียนจบก็ยินดี พวกเธอไหว้ขอบคุณแล้วบอกถ้ามีโอกาสก็อยากมาทำงานกับคนเก่งอย่างพี่ดาด้า แต่กานต์รวีบอกว่าอาจต้องไปเรียนต่อถ้าได้ทุนซึ่งจะประกาศผลเดือนหน้า     
               
            หลังจากฝึกมาสามอาทิตย์ วันนี้เป็นวันแรกที่บังเอิญเลิกกะห้าโมงเย็นพร้อมเพรียงโดยไม่ได้นัดหมาย ดีใจกันเหมือนถูกหวย เพราะต่างคนต่างฝึกแทบไม่ได้คุยกันยาวๆ กลับมาถึงห้อง เหนื่อยตัวโยน สิ่งที่ทำกันเมื่อเปิดประตูได้คือ อยู่ในสภาพทิ้งตัว หลับเหมือนซ้อมตายกันที่เหนื่อยมากเพราะพวกเธอมาฝึกช่วงไฮซั่น
    พอดี
             
           "พวกแกช่วยเดินให้มันเร็วได้มั้ยคะ.. วิญญาณออกจากร่างกันหมดแล้วเหรอ"กีรติที่มานั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้หน้าหอพนักงาน เรียกเพื่อนๆที่มัวเดินเยื้องย่างมาหาเหมือนหมดแรง
             
            
              ###################


    ให้สาวๆเค้าใช้เวลาอยู่ด้วยกันอีกหน่อยเนอะ แค่สามตอนแรกก็เรียนจบแยกย้ายกันละ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×