บ่วงหัวใจในม่านหมอก! (วันไนท์สแตนด์)มีebook

ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 แก๊งเพื่อนสาว (2)

           กีรติเป็นหนุ่มหัวใจสาวที่หลงใหลหนุ่มสวมเสื้อช้อปมาก และเป็นกานต์รวีที่ต้องมาเป็นเพื่อนบ่อยครั้ง ถึงเธอจะซุ่มซ่ามตื่นตูม แต่ไม่ค่อยเขินพวกเสื้อช้อป ถ้าไม่ใช่คนที่ชอบจริงๆก็จะเฉยๆแต่ถ้าคนไหนโดนใจขึ้นมาละกานต์รวีก็เกิดอาการแข้งขาพันกันยุ่งเหมือนกัน


        "ไงนังติ๊..ไปหาเนื้อคู่เจอมั้ย" นิด้าแซะเพื่อนเบาๆ หลังจากสองสาวเดินมาทรุดนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ    ที่ม้าหินอ่อนหน้าคณะ
              
          "ระดับมาดามติ๊ ขุดหลุมดักทุกทางเนื้อคู่จะไปไหนรอด"
               
         "เออ...อย่าตกหลุมเองก็แล้ว กันอิมาดาม" อ้อนดักคอเพื่อน จนได้ค้อนขวับเบาๆกลับมา

          "พวกแก..รู้มั้ยฉันยิ่งกว่าเจอเนื้อคู่อีก เมื่อเช้าฉันบังเอิญเจอพี่คนหนึ่ง หล่อมาก..ลากยาวถึงดาวเนปจูนเลยแกร๊..พร้อมแต่งที่สุด"
            
           "น้อยๆหน่อยนังติ๊..มันได้ชมความหล่ออยู่คนเดียวส่วนฉันเจ็บตัวฟรี.."ว่าแล้วกานต์รวีกึ่งเล่ากึ่งฟ้องเพื่อนที่เหลือ เพื่อนๆได้ฟังก็ส่ายหัว รู้กันในความตื่นตูมเหมือนกระต่ายของเพื่อนสาว และ ความเยอะใจกล้าหน้าไม่อายของมาดาม
            
       "พวกแก..แต่ว่าก็ว่าเถอะฉันไปเวียนแถวคณะวิศวะตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ ฉันได้เสียงยินเสียงร่ำลือเล่าอ้างถึงพี่ๆ "แก๊งค์วายุภักษ์" ของคณะวิศวะมาตลอดว่านับตั้งแต่รุ่นนั้นจบไปยังไม่มีใครเทียบชั้นความหล่อความเทพความเก่งทุกด้านทั้งดนตรี กีฬา ของพวกพี่ๆแก๊งค์นี้ได้เลย ขนาดว่าจบไปเจ็ดแปดปีแล้วยังเป็นตำนานอยู่เลย" 

         "อยากเห็นจังว่าจะหล่อเทพบุตรลงมาจุติ กันขนาดไหน  ทำไมเกิดช้าวะ ถ้าเร็วกว่านี้สักสี่ห้าปีคงได้ร่วมสร้างตำนาน หรื แต่งงานกับพวกพี่เขาไปเลย จบๆ.."ว่าแล้วนางก็เอามือเท้าคางทำตาเพ้อๆ เพื่อนๆได้แต่มองบนและค้อนนาง แต่ไหนใครแคร์...นางไม่หยุดเพ้อหรอก
          
          " อืม..เห็นว่านอกจากเกียร์ที่เป็นของประจำกายของเด็กวิดวะแล้ว เห็นว่าพวกพี่เขามีรอยสักประจำแก๊งค์กันด้วยนะ แต่เป็นแค่คำร่ำลือ ยังไม่มีใครเคยเห็นรอยสักนั้น ในรุ่นที่เรียนทันพวกพี่เขานะ"กานต์รวี ร่วมลงความเห็น
          จะว่าไปแล้วมหาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านวิศวกรรมมากจึงไม่แปลกที่หนุ่มๆคณะนี้จะเป็นที่พูดถึงและหมายปองเป็นพิเศษ
         
          "ไอ้แซนแกก็พลอยเคลิ้มไปกับนังติ๊มันด้วยเหรอ"นิด้าบ่นเพื่อน
         
         "เปล่า..ลากเสียงยาว..ฉันก็แค่ฟังๆเขามาก็ไปกับไอ้ติ๊มันบ่อย และฉันก็ไม่ได้แพ้เสื้อช้อปเหมือนพวกแกนี่" 

          "หืม..ขนาดไม่แพ้เสื้อช้อปวีรกรรมแกที่ไปเดินขาพันกันสะดุดล้มหน้าลานเกียร์กระโปรงฉีกยังเป็นตำนานย่ะ"อ้อนรื้อฟื้นเพื่อนขึ้นมาทันที
           
         "ตามตำนานสะดุดล้มที่ลานเกียร์ ฉันต้องได้เป็นเมียวิศวะซิ..แต่อยู่มาจนจะจบปีสี่ยังไม่มีหนุ่มวิศวะตาดีมองเห็นฉันเลยอะ.."กานต์รวีพูดเสียงคร่ำครวญเบาๆ

        ต้องเท้าความว่าพวกเธอทั้งห้ามารู้จักสนิทกันตั้งแต่เทอมแรกที่เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ แต่กานต์รวีและมะนาวเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนไฮสคูลที่โรงเรียนนานาชาติที่หัวหิน แต่เติมเต็มชีวิตมากขึ้นเมื่อมารู้จักเพื่อนอีกสามคนที่นิสัยคล้ายๆกัน
              
       ตอนปีหนึ่งแก๊งค์พวกเธอได้ฉายาจากรุ่นพี่ว่า แก๊งค์นางฟ้า เพราะแต่ละคนมีความสวยน่ารักโดดเด่นกันทั้งกลุ่ม เก่งทั้งเรียนทั้งกิจกรรม พิมพ์สิตา(มะนาว)ได้รับเลือกเป็นดาวมหาลัยของปีนั้นด้วยความสามารถรอบด้าน ร้องเพลงเก่ง เต้นได้ รำเป็น คล่องแคล่วปราดเปรียวรูปร่างดี หน้าสวยหวานปานน้ำผึ้ง 

         กานต์รวี(แซน)สาวน้อยใส่แว่นแต่ซ่อนสายตาคมโตไว้ใต้กรอบแว่นหนา ลุคเนิร์ดนิดๆ รูปร่างสมส่วนบอบบางใบหน้าสวยคมปนหวานค่อนข้างขี้อายไม่ค่อยชอบการแสดงบนเวที แต่เก่งวิชาการ สอบแข่งขันทักษะทางภาษาอังกฤษจนได้ถ้วยได้เหรียญเต็มตู้เพราะมีทักษะภาษาอังกฤษเป็นเลิศ เป็นที่พึ่งของเพื่อนๆช่วงสอบ เล่นดนตรีไทยเก่ง ทั้งยังมีทักษะเย็บถักปักร้อยจัดดอกไม้และทำกับข้าวเก่งมาก แต่ไม่ได้เป็นสาวเรียบร้อยเหมือนภาพลักษณ์ เธอถึงไหนถึงกันกับเพื่อนๆตลอด
         
       อรไพลิน(อ้อน)สาวน้อยหน้าตาน่ารักโก๊ะๆลุคหมวยอินเตอร์ตัวเล็กแต่สมส่วน พูดเก่ง ร้องเพลงเพราะ เป็นเชียร์ลีดเดอร์ มีอาชีพเสริมเป็นพริตตี้ งานอีเวนท์ ที่ไม่มีการแต่งตัวโป๊ะปีนึงรับงานไม่เยอะเพราะพ่อหวงมาก ที่บอกว่าพริตตี้เงินล้านแค่ราคาคุยขำๆ
           
       นิธิดา(นิด้า) สาวสวยเปรี้ยวหน้าเฉี่ยวมีเอกลักษณ์ รูปร่างสูงโปร่งสมส่วน จนทำให้เธอมีอาชีพเสริมเป็นนางแบบ ถ่ายแบบหนังสือ ถ่ายโฆษณา
            
      กีรติ(ติ๊) หนุ่มหล่อ รูปร่างสูงโปร่งหน้าสวยใจสาวหนึ่งเดียวของกลุ่มถ้าเป็นผู้ชายแท้คงฮอตไม่เบาเพราะหน้าตี๋ลุคเกาหลี มีความสามารถพิเศษคือแต่งหน้าเก่งมากทั้งๆที่ตัวเองแต่งหน้าไม่ค่อยได้เพราะแพ้เครื่องสำอางค์ พลอยดึงเพื่อนๆว่าห้ามแต่งหน้าเยอะ เบาๆบางๆเป็นเพื่อนกันห้ามโดด 
          
       จากภาพที่เห็นแก๊งค์นางฟ้าหน้าใสควรได้รับฉายานี้ไปจนจบ แต่ได้แค่ปีเดียวพอขึ้นปีสองภาพพวกเธอก็เปลี่ยนไป กลายเป็น"แก๊งฟ้ารั่ว
ลดทอนมาจาก "นางฟ้ารั่ว" เพราะพวกเธอไม่ห่วงสวย มีความรั่วคล้ายๆกัน เป็นต้นว่าเวลาร่วมกิจกรรมหรือต้องเอนเตอร์เทนน้องๆพวกเธอจะใส่เต็มที่ไม่มีกั๊กไม่มีเก็กสวย ต้องทำหน้าตาบิดเบี้ยว ตลก ดราม่าอะไรได้หมด เวลาเจอผู้ชายหล่อๆที่ปลื้มหรือตรงสเป็ก จะกรี๊ดกร๊าดแข้งขาอ่อนพันกันจนสะดุดและหลุดภาพเปิ่นๆกันแบบไม่แคร์สื่อ 
          
          อรไพลินสาวน้อยบ้าจี้โดนจี้เอวไม่ได้เลย  นางพร้อมทำอะไรที่คาดไม่ถึงได้เพราะสติสตังค์หายหมดละ
          
         พิมพ์สิตาเวลาเขิน จะเกายุ่งไปหมดบางทีเผลอเกาหัว จนหัวฟูผมยุ่งก็ไม่รู้ตัว 
        
         นิธิดาเวลาขำจะหัวเราะเสียงดังและขำต่อเนื่องขำค้างไม่หยุดจนหลุดลุคนางแบบผู้เลอโฉม 
         
         ส่วนกานต์รวีถ้าเจอเหตุการณ์ไม่ปกติมากระทบจะซุ่มซ่าม ลนลานตื่นตูม สะดุดชนมั่วไปหมด และเวลาเขินขึ้นมามือจะจับขาแว่นขยับปรับไปมาจนเพื่อนๆรำคาญใช้ให้ไปใส่คอนเทคเลนท์
           
กีรติดูปกติสุดแต่ความบ้าผู้ชายเป็นเหตุสังเกตได้ ทำให้หล่อนเป็นคนใจกล้าหน้าไม่อาย แต่บุคลิกนี้กลับเป็นข้อดีคือเอ็นเตอร์เทนท์ผู้คนเก่ง 
           
"แก๊งค์ฟ้ารั่ว"เป็นชื่อเรียกปัจจุบันที่ดูเหมือนลงตัวและเป็นที่รู้จักกันดีของน้องๆ พวกเธอเป็นที่รู้จักจากการเป็นนักกิจกรรมตัวยงกันทั้งกลุ่ม เอาเป็นว่าแก๊งค์ฟ้ารั่วดังพอตัวแหละ 
          
         เวลาอยู่ในกลุ่ม นอกจากเรื่องเรียนแล้วหัวข้อรองลงมาในบทสนทนาจะมีแต่เรื่องผู้ชายแหละ พระเอกดาราหล่อๆ หนุ่มๆที่แวะเวียนมาจีบพวกเธอหรือหนุ่มหล่อๆในมหาลัยที่พวกเธอปลื้ม แก๊งฟ้ารั่วไม่ได้เรียบร้อยเหมือนหน้าตา ก๋ากั๋น เปรี้ยวซ่าส์ แต่ไม่ได้กร้านโลก เป็นประเภทดังแต่ท่อล้อไม่หมุน พอเจอหนุ่มๆรุกกลับถอยไม่เป็นท่านี่อาจเป็นสาเหตุหลักที่พวกเธอไม่มีแฟน แค่ปากดีแต่ใจป๊อด ด้วยนิสัยที่คล้ายกัน  เหมือนถางป่ามาเจอกันทำให้มีความเข้ากันได้ดี สนิทกันสุดขั้ว   ทั้งสนุกสนานร่าเริง  ดูเป็นความสดใสของโลกใบนี้ 
         
       พวกเธอไม่มีวันรู้เลยว่าวันหนึ่งเพื่อนสาวคนหนึ่งของกลุ่มจะมีชีวิตที่หม่นหมองเหมือนท้องฟ้าที่มีหมอกเมฆมาปกคลุมโดนโชคชะตาเล่นงานโดยที่เพื่อนๆไม่สามารถช่วยแบ่งเบาได้เลย


#####################

ก่อนดราม่าต้องปล่อยให้สดใสไปก่อนสักพักเนอะ