NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บ่วงหัวใจในม่านหมอก! (วันไนท์สแตนด์)มีebook

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 แก๊งเพื่อนสาว (1)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ย. 65



           ณ.มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของรัฐ  คณะบริหารธุรกิจสาขาการโรงแรมหลักสูตรนานา ชาติ

           "มาๆพวกแกอย่ามัวไร้สาระกันนางๆทั้งหลายสนใจฉันด้วยมาคุยเรื่องฝึกงานกันหน่อยเถอะ พอเข้าเรื่องงานเรื่องการละไม่เร็วเหมือนเรื่องผู้ชายเลย" มะนาวดึงเพื่อนกลับมา
               
           " ตกลงพวกแกพร้อมไปฝึกภูเก็ตกับฉันเนอะแต่บอกเลยยิ่งสูงยิ่งหนาว พวกแกก็รู้ว่าโรงแรมหกดาวหรูหราหมาเห่าขนาดนั้น ปกติที่นั่นไม่รับเด็กฝึกงาน แม้แต่สมัครเข้าทำงานยังยากมากเลย นี่เค้าตอบรับแล้วด้วย"
         
           "ที่จริงตอนแรกเค้าจะไม่รับหรอกแต่พ่อฉันพอรู้จักคนในนั้นเลยคุยๆให้ เค้าเลยรับ ฉันก็แจ้งทางโรงแรมไปแล้วว่าไปกันห้าคน พวกแกห้ามเทละ อ้อ..รู้แล้วก็เหยียบกันไว้นะเว้ย..ว่าเข้าได้เพราะเส้นอะ" 

          " ปกติแก๊งค์นางฟ้าในตำนานอย่างเราไม่เคยต้องใช้ทางลัดแบบนี้ ก็มีความรู้สึกผิดบาปเล็กน้อยแต่ครั้งนี้ถ้าไม่ใส่เส้นก็ไม่ได้กินอะ ก็อยากขึ้นที่สูงนี่.."พิมพ์สิตาพูดยักไหล่เบาๆแต่สีหน้าไม่รู้สึกผิดอย่างคำพูด

          "เออ...ไม่เท พร้อมมาก..แม่ได้ฝึกงานที่นั่นแต้มบุญโคตรสูง ประ มาณว่าชาติที่แล้วเคยร่วมทัพไปตีกรุงหงสามาเลยแหละ นี่ถ้าแก๊งค์ชะนีน้ำหวานรู้ว่าพวกเราได้ไปฝึกงานที่ไหน คงอิจฉาขนตาปลอมไหม้แน่ๆ..มาดามติ๊อยากไปโม้อวดพวกนางจัง เดินสับขาสวยๆโชว์ฟูลเทิร์นพวกนางสักรอบฮ่า..ฮ่า"นางหัวเราะทำเสียงเยาะเย้ยคู่แข่ง

             "อืม..ฉันนี่ดีใจมากเลยอยากไปภูเก็ตจนตัวสั่นแต่กว่าจะได้รับอนุมัติจากอาจารย์รำไพพรรณจอมเฮี้ยบ  ต้องพูดยกแม่น้ำทั้งห้ามาอ้างเสียน้ำลายไปเป็นถังอะ  แล้วไหนจะพี่ซันอีกละไม่รู้จะหวงน้องไปถึงไหนอยู่มาจนปีสี่ละยังหาแฟนไม่ได้สักคนยังจะหวงอีก"กานต์รวีพูดถึงแม่ที่เป็นอาจารย์สอนคหกรรม ค่อนข้างเคร่งครัดและหวงลูกสาว
             
             "แล้วแกละ อ้อน นิด้า เงียบแปลว่าตกลงปะ"
            
            "ตามนั้นแหละค่า..แม่..พวกแกไปไหนฉันสองคนก็ไปด้วย  ใบส่งตัวก็ได้มาแล้วนี่เปลี่ยนใจได้เหรอ พวกเราคงเป็นแฝดอินจันกลับชาติมาเกิดแหละ ตัวต้องติดกันตลอดแต่ชาตินี้เกิดการแบ่งตัวเพิ่มจึงมีกันห้าร่างไง ฮ่า…"อ้อนพูดไปหัวเราะไป
           
                "เออ..ก็แกล้งถามไปงั้นแหละจะมาปอดแหกเปลี่ยนใจไม่ไป ก็ไม่ทันละ แต่บอกไว้เลยพวกแกเอ้ย..โดนใช้งานหัวถลอกแน่"
               
            ปกติเด็กสาขาการโรงแรมของที่นี่ฝึกงานในสถานประกอบการกันตั้งแต่ปีสามเทอมสามแต่เป็นโรงแรม ที่อยู่ในสัญญาของมหาวิทยาลัยพอขึ้นปีสี่ทางมหาวิทยาลัยให้นักศึกษาติดต่อหาสถานที่ฝึกงานเองแต่ต้องให้ทางมหาวิทยาลัยอนุมัติอีกที เหล่านักศึกษาจึงพยายามหาโรงแรมระดับ  ห้าดาวหกดาวลงฝึกงานกันเพื่อโปรไฟล์ ที่ดีของตัวเอง แต่ก็ยากมากที่จะได้เข้าฝึกในโรงแรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกซึ่งต้องฝึกเทอมสองทั้งเทอมเวลาประมาณสามเดือน

          " เคลียร์เรื่องฝึกงานแล้ว มาพูดเรื่องที่ฉันกังขาดีกว่า ก็เรื่องไม่มีแฟน ของกลุ่มเราอะต้องคำสาปแม่มดกันหรือเปล่าวะ ก่อนจบเราไปดูหมอกันมั้ย แม่หมอแถวซอยบ้านฉันเขาว่าแม่นหนักแม่นหนาเรื่องดูดวงอกหักรักคุด อยากมีคู่เสริมดวงความรักไรงี้  อุตส่าห์ได้ฉายาแก๊งนางฟ้าตั้งแต่ปีหนึ่งอยู่มาจนปีสี่ยังไม่มีผู้..กันสักคน พวกเราผิดปกติตรงไหนกันวะ"นิด้าพูดเหมือนรำพึง
            
            " โน..โน..ระดับมาดามติ๊ไปเดินสับขาสวยๆแถวคณะวิศวะก็เจอเนื้อคู่แล้วจ้ะ"
            
           "แซนเพื่อนรักเดี๋ยวพรุ่งนี้แกไปเป็นเพื่อนฉันหาเนื้อคู่หน่อยนะ..เดี๋ยวฉันเลี้ยงชาไข่มุก..พรุ่งนี้ไม่มีเรียนคาบเช้าแต่ฉันรู้ว่าแกมาจะมาห้องสมุดก่อนไม่ใช่เหรอ"

            "หนอย..อิติ๊แกเดินสับขาจนรองเท้าสึกมาสิบคู่ละ ได้กินไปกี่คนไม่ทราบ เพิ่งเห็นตอนปีนี้แหละที่แกไปล่อหลอกพรากผู้เยาว์น้องอะไรนะวิศวะปีหนึ่งนะ น้องพีค..น้องพีอะไรนั่นนะ"
            "ไอ้นาว..แกอย่าลืมว่าปีที่แล้วฉันก็ได้กินพี่หมอนาท..เขาก็ชอบฉันมากเสียดายจบไปซะก่อน นี่ถ้าพี่เขาไม่ไปเรียนต่อคงได้กิน..เอ้ย..ได้คบต่อ"
         
            "จ้า..แม่มาดามเสน่ห์แรงแต่ที่ได้กินน้องปีหนึ่งนี่ได้ข่าวว่าแกมีฉายาว่า มาดามติ๊โอนไวนี่ อย่าให้พูด"
          
            "เออๆ...ไม่พูดบ้างก็ได้เก็บปากไว้ให้ผู้ชายจูบเหอะ แม่ดาวค้างฟ้า.."กีรติพูดไปก็ค้อนเพื่อนเบาๆ
     
           "โอเค..เรื่องฝึกงานเคลียร์นะ ชั่วโมงนึงคุยเรื่องฝึกงานสิบนาทีนอกนั้นอิติ๊คุยเรื่องผู้ชาย"
             
             "ให้ชินอิป้า..พรุ่งนี้ไอ้แซนอย่าลืมนัดฉัน"

                   
              เช้าวันรุ่งขึ้นหน้าตึกคณะบริหาร รถสปอร์ตป้ายแดงคันหรูสีดำ เลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ
                 
            "ขอบคุณมากนะคะพี่แดน ที่มาส่ง เดลินไปก่อนนะ เดี๋ยวฝนตกหนักจะเปียกเอา.."
                
            "ฝนที่ไหนตกท้องฟ้าแจ่มขนาดนี้"
                        
             "ก็ตกเพราะพี่แดนมาส่งเดลิน ไง..ไปนะจุ๊บๆบ๊าย..รักพี่แดนค่ะ"ว่าแล้วคนเป็นน้องสาว ทำท่าส่งจูบโบกไม้โบกมือแล้วรีบลงจากรถอย่างรวดเร็วหนีจากรังสีสายตาอำมหิตของพี่ชาย 
                
           "ไอ้ติ๊เดินเร็วๆดิ..จะไปหาผู้ชายยังชักช้า เดี๋ยวชั้นต้องแวะห้องสมุดอีกล่ะ"
                  
           "ไอ้แซนเดี๋ยวแป๊บนึงขอสำรวจความสวยกับรถคันนี้หน่อย รถสวยดี" ว่าแล้วมาดามก็ยืนหันซ้ายหันขวาจัดทรงผมกับกระจกรถที่ติดฟิล์มดำโดยมีเพื่อนยืนอยู่ใกล้ๆ คอยรั้งเสื้อว่าไปได้แล้ว แต่เพื่อนตัวดีก็หมุนฟูลเทิร์นอยู่นั่น ทันใดนั้นกระจกรถเลื่อนลงครึ่งนึง
           
             " น้องครับสวยเสร็จหรือยังพี่จะได้ไป"น้ำเสียงเรียบๆเย็นๆ ส่งออกมาจากรถคันหรู
               
             "อุ๊ยแม่หล่น..ขอโทษค่ะ..ไม่คิดว่ามีคน..หล่อมาก..อยู่ในรถ ไปแล้ว..ก็ได้ ไหว้ย่อค่ะ.."พูดไปบิดตัวไปด้วยความเขิน แล้วเดินหนีบขานวยนาดออกมา ส่วนเพื่อนสาวนะเหรอวิ่งออกไปตั้งแต่เห็นกระจกรถเลื่อนลงแล้ว ชนเสาไฟเล็กที่ส่องสว่างริมฟุตบาทปึ้งนึง เป็นของแถม ไปยืนลูบหน้าผากป้อยๆ อยู่ใต้ต้นไม้ห่างๆโน่น..

              ชายหนุ่มเลื่อนกระจกปิดลงยิ้มมุมปาก ส่ายหัวในความรั่วๆเปิ่นๆของสองนักศึกษาสาว เอ็นดูสาวน้อยใส่แว่นวิ่งไปชนเสาแว่นจะแตกหรือเปล่าเห็นก้มลงเก็บแว่นที่หล่นลงบนพื้น เขากวาดตามองไปรอบๆครู่นึง คิดถึงวันวาน เพราะเขาเองก็เป็นศิษย์เก่าที่นี่เมื่อนานมาแล้ว แต่เป็นคณะวิศวะ ความทรงจำดีๆมากมาย เกิดขึ้นที่นี่ คิดแล้วยิ้มบางๆ ก่อนถอยรถขับออกไปไม่เร่งร้อน

            "แกร๊..เมื่อกี๊ตอนพี่คนนั้นเลื่อนกระจกรถลงมาฉันก้าวขาไม่ออก เลยอะ..หล่อมาก..ก.สามล้าน นี่ขนาดเห็นหน้าไม่ชัดนะเห็นแค่ครึ่งหน้าแถมใส่แว่นกันแดดอีก ยังเห็นว่าหล่อจัด..ปลัดไม่ต้องบอก"

            "ฮึ..อิเพื่อนบ้า..ทำฉันเจ็บตัวแต่เช้า ห้องน้ำก็มี กระจกในกระเป๋าก็พกเสือกไม่ส่อง ต้องไปส่องกับกระจกรถชาวบ้าน อายเขามั้ยละ"
             
           "อิป้าแกจะตื่นอะไรขนาดนั้นแค่ดูกระจกรถแล้วเจ้าของอยู่ข้างในไม่ได้ไปฆ่าใครตายซะหน่อย ดูซิความกระต่าย..ของแกเจ็บตัวเฉย ดีนะที่แค่แดงๆ ดูฉันซิไหว้ย่อแล้วเดินออกมาสวยๆอะ  เอาเถอะ..เดี๋ยวฉันเลี้ยงชาไข่มุกร้านโปรดแก ไปๆเดี๋ยวคนหล่อไม่รอ"ว่าแล้วก็ดึงมือเพื่อนไม่สนใจอาการกระฟัดกระเฟียดของเพื่อนที่ยังงอนๆเพราะเจ็บตัวฟรีชวนเดินไปตึกคณะวิศวะทันที


    #####################

    เปิดเรื่องด้วยความสดใสของสาวๆในรั้วมหาลัยก่อนน้า..
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×