ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความรู้สึกดีที่กลับมา
............"กลับมาแล้วค่าๆๆๆๆๆๆ" เอนี่พี่กายไปใหนนะ ทำไมบ้านเงียบ สงสัยไปทำงานกลับดึกอีกแล้วล่ะสิ ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ฉันเริ่มเรียนมัธยมพ่อกับแม่ก็ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ปล่อยให้ฉันกับพี่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงตามลำพัง แต่พี่กายก็เป็นได้ทั้งพ่อและแม่ของฉันอีกคนนึง
..........เวลาที่ฉันอยู่คนเดียวฉันมักจะนั่งคิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ ระหว่างฉันกับอู๋ เรื่องมันเริ่มต้นมาจาก ที่อู๋เข้ามาทำความรู้จักกับฉันก่อน ตอนนั้นยอมรับนะว่ายังไม่รู้สึกอะไรก็แค่เฉย ๆ แต่ระยะเวลาที่เขาพยายามทำดีกับฉันมาตลอด 2 ปี มันทำให้ความรู้สึกของฉันค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย จนคำว่า" รัก "มันเริ่มเข้ามาในหัวใจฉันแล้ว แต่ฉันก็ปากแข็งพอที่จะไม่พูดมันออกไป จนมาวันนึงวันที่ฉันกำลังเตรียมใจจะพูด คำ ๆ นั้นออกไป ก็ต้องมีเหตุ การณ์บ้า ๆเกิดขึ้น นึกมาถึงตรงนี้แล้วก็น้ำตาจะไหลทุกทีเลย ทุกอย่างเราเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นเอง แล้วเราก็ต้องมาเสียใจเองแบบนี้แหละ.....
.....ปัง..... เสียงปิดประตูที่ดังจนสามารถทำลายบ้านได้ทั้งหลังดังออกมา พี่กายกลับมาแล้วนั่นเอง ท่าทางจะอารมณ์ไม่ดีมาด้วย ไม่เอาดีกว่า ไปดีกว่า
" จะไปไหนยายกันย์ พี่มีเรื่องต้องคุยกับเรานะ รอพี่อาบน้ำก่อน" ฉันจับความรู้สึกจากน้ำเสียงได้เลยว่าพี่ชายฉันต้องมีเรื่องกลุ้มใจแน่เลย "ค่าๆๆ จะรอที่โต๊ะอาหารนะ"
ให้หลังไม่นาน พี่กายก็ลงมาด้วยชุดลำลองแสนจะธรรมดา แต่ดูเทห์ในสายตาสาว ๆ อีกหลายคน ซึ่งฉันก็รู้ดีว่าพี่กายหน้าตาดีออกขนาดนี้ แต่ทำไมไม่มีแฟนสักทีละ เฮ้อ....
.......ในขณะที่กำลังนึกนินทาพี่ชายตัวดีอยู่นั้น ในใจก็นึกไปว่า พี่กายจะรู้เรื่องนั้นรึเปล่านะ.....
"กันย์ เหม่ออะไรอยู่"
"เอ่อ..ค่ะ..อ๋อ เปล่าค่ะ พี่กายมีอะไรจะคุยกับกันย์หรือค่ะ"
"พี่มีเรื่องอยากจะถามเราหน่อย"
"คือว่าพี่ได้ยินมาว่าเรามีปัญหาอะไรกับอู๋หรือ"
"ใครมาบอกพี่อีกล่ะ"
"อืม..ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะแค่เข้าใจผิดอะไรนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วค่ะ" ก็ใช่นะสิที่ว่าไม่มีอะไรแล้วน่ะ ก็ฉันกับอู๋เราจบกันไปแล้วนี่นะ
"อืม ไม่มีก็แล้วไป"
"เออ..นี่ เมื่อกี้มีจดหมายมาถึงเราแนะ..อ่ะ.." พี่กายยื่นจดหมายซองสีขาวมาให้ฉันตรงหน้า
"จดหมายอะไรค่ะพี่กาย"
"ก็จดหมายตอบรับเธอเข้าเป็นนักเรียนของโรงเรียนที่เธอไปสมัครนะสิ"
"กรี๊ด.... จริงหรอพี่กายไม่หลอกกันย์นะ"
"เออ ก็จริงน่ะสิ แล้วแกจะกรี๊ดทำไมเนี่ยแสบหูจะตาย"
"แฮะๆ ขอโทษทีค่ะพี่กาย ก็คนมันดีใจอ่ะ"
"เอาล่ะๆ เลิกดีใจได้แล้ว และไปทำอะไรให้พี่ทานด่วนเลยเรา"
"ค่า รอสักครู่นะค่ะ"
เช้าวันใหม่ที่สดใสเป็นพิเศษ เพราะอะไรนะหรือก็เพราะว่าเป็นวันสอบวันสุดท้ายแล้วนะสิ ฮ่าๆๆๆ ดีใจจริง ๆ
"นี่หมิว เธอทำข้อสอบได้อ่ะป่ะ โฮ โค-ตะ-ระ ยากอ่ะ" ฉันบ่นก็มันยากจริง ๆนี่นา
"ก็พอกันนั่นแหละกันย์"
"เอ ทำไมวันนี้ดูเธอสดชื่นขึ้นละ อย่าบอกน่ะว่ากำลังมีความรักอ่ะ"
"บ้าอ่ะป่ะ ความรักบ้าบออะไรกัน ฉันกำลังดีใจต่างหากล่ะ ที่ฉันสอบเข้าที่โรงเรียนใหม่ได้"
"จริงหรอ ดีใจด้วยนะ เรายังไม่รู้เลยว่าจะไปเรียนต่อที่ไหน ไม่แน่ว่าอาจจะต่อที่เดิมก็ได้"
"อืม ยังไงก็ขอให้โชคดีละกันนะ งั้นเราขอกลับบ้านก่อนนะ ไปเตรียมตัวน่ะเราจะเปิดเรียนอีก 2 อาทิตย์"
"ยังไงก็ขอให้กันย์โชคดีล่ะกันนะ"
"อืม เช่นกันจ่ะ"
และแล้ววันเปิดภาคเรียนก็มาถึง โห ดีใจสุด ๆ เลย
แต่ที่แย่ที่สุดเห็นจะมีก็แต่กองหนังสือเรียนที่ทางโรงเรียนแจกมาให้ตอบเช้า เยอะซะขนาดนั้น จะเอากลับบ้านยังไงดีล่ะ สงสัยวันนี้ต้องเสียตังค์ ค่าแท็กซี่อีกแน่เลยอ่ะ
ในระหว่างที่ฉันเดินใจลอยคิดเรื่องเงินค่าแท็กซี่อยู่นั้น ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา
"โครม..โอ๊ย..ยายบ้านี่"
นี่ฉันเดินชนอะไรเข้านี่ แล้วกองหนังสือที่อยู่บนมือก็ล่วงลงมาทับผู้เคราะห์ร้าย ที่ตอนนี้กำลังมีท่าทีโมโหอย่างเห็นได้ชัด
"เอ่อ ขอโทษค่ะ คือฉันมองไม่เห็นน่ะค่ะ"
"แล้วเธอจะมองเห็นฉันได้ยังไงเล่าในเมื่อเธอเดินใจลอยอยู่ ยายบ้านี่"
เอ๋ นายนี่ทำไมพูดจาไม่เข้าหูเอาซะเลย อย่างนี่ต้องดูหน้าสักหน่อยแล้ว
ฉันชะโงกหน้าไปชำเลืองดูชายผู้เคราะห์ร้ายผู้นั้น แต่ เอ ทำไมหน้ามันคุ้น ๆ หว่า เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่นึกไม่ออก
"นี่เธอฟังฉันพูดอยู่รึเปล่าเนี่ย เธอ.."นายบ้านี่ดีแต่แหกปากรึไง ทำอะไรไม่เข้ากับหน้าตาตัวเองเลย
"ฟังอยู่ค่ะ ก็ฉันขอโทษไปแล้วนี่ค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นี่ นายจะเอายังไงอีก"ฉันตอบไปแบบมีอารมณ์ คนบ้าอะไรขอโทษแล้วยังไม่ยอมเลิกราอีก
"นี่เธอ เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าเนี่ย"
"ฉันว่าหน้าของเธอคุ้น ๆ นะ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน อืม.."
"อ๋อ นึกออกแล้วเธอคือผู้หญิงคนนั้นใช่ไหมที่ร้องให้กลางสนามอ่ะ"
ว้าย...เป็นอย่างที่คิดไว้จริงด้วย มิน่าล่ะทำไมหน้านายนั่นถึงได้คุ้นนัก โอย แล้วจะทำยังไงดีนายนี่จำฉันได้แล้ว แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะเนี่ย นายนี่ต้องทำการแฉเราแน่ ๆ เลย
"นี่ เธอ ทำไมไม่ตอบอ่ะ ตกลงใช่อ่ะเปล่า"
"จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย หลบไปฉันจะกลับบ้าน"
"เฮ้ นี่เธอ นิสัยไม่ดีเลยนะ" ทำอย่างกับนายนิสัยดีงั้นอ่ะ
"ขอโทษด้วยนะฉันรีบไป"
"ก็ได้ ๆ แล้วเราคงได้พบกันอีกนะครับบบบบบบบบบบบบ"
ไม่ต้องเจอกันเลยยังจะดีซะกว่าอีกนะ
แล้วฉันก็รีบเดินออกมาอย่างรวดเร็ว วันนี้เป็นอะไรนะ ซวยทั้งวันสิน่า ท่าทางจะเป็นลางที่ไม่ดีซะแล้ว
....................................................................................................................................
กรี๊งๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุก 7 โมงเช้า
"อืม..." นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ออกจากปากหญิงสาวแล้วก็เงียบหายไปจนกระทั่ง
"ยายกันย์ยยยย"
"นี่ยายขี้เทราตี่นได้แล้ว"
ไปเรียนวันแรกไม่ใช่เหรอเราอ่ะ"
.......... ทุกอย่างยังอยู่ในความเงียบ
"ว้ากกกก"
"ตี่นซะทีสิเฟ้ย ยายน้องบ้า"
ให้ตายเหอะเกิดมายังไม่เคยได้ยินพี่กายเรียกเราอย่างนี้เลย สงสัยสุดจะทน
"รู้แล้วค่า" ถ้ายังไม่รีบตื่นมีหวังได้หูแตกตายซะก่อน
"อาบน้ำอาบท่าให้ดี แล้วลงไปทำกับข้าวให้พี่ได้แล้วเดี๋ยวพี่ไปทำงานสาย"
"อ่อ ยายกันย์มีเพื่อนมารอพบเราน่ะ รีบ ๆ ล่ะ"
เอ๋ ใครหว่า มารอเราแต่เช้าเลย หรือจะเป็นยายหมิว
..........เวลาที่ฉันอยู่คนเดียวฉันมักจะนั่งคิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ ระหว่างฉันกับอู๋ เรื่องมันเริ่มต้นมาจาก ที่อู๋เข้ามาทำความรู้จักกับฉันก่อน ตอนนั้นยอมรับนะว่ายังไม่รู้สึกอะไรก็แค่เฉย ๆ แต่ระยะเวลาที่เขาพยายามทำดีกับฉันมาตลอด 2 ปี มันทำให้ความรู้สึกของฉันค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย จนคำว่า" รัก "มันเริ่มเข้ามาในหัวใจฉันแล้ว แต่ฉันก็ปากแข็งพอที่จะไม่พูดมันออกไป จนมาวันนึงวันที่ฉันกำลังเตรียมใจจะพูด คำ ๆ นั้นออกไป ก็ต้องมีเหตุ การณ์บ้า ๆเกิดขึ้น นึกมาถึงตรงนี้แล้วก็น้ำตาจะไหลทุกทีเลย ทุกอย่างเราเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นเอง แล้วเราก็ต้องมาเสียใจเองแบบนี้แหละ.....
.....ปัง..... เสียงปิดประตูที่ดังจนสามารถทำลายบ้านได้ทั้งหลังดังออกมา พี่กายกลับมาแล้วนั่นเอง ท่าทางจะอารมณ์ไม่ดีมาด้วย ไม่เอาดีกว่า ไปดีกว่า
" จะไปไหนยายกันย์ พี่มีเรื่องต้องคุยกับเรานะ รอพี่อาบน้ำก่อน" ฉันจับความรู้สึกจากน้ำเสียงได้เลยว่าพี่ชายฉันต้องมีเรื่องกลุ้มใจแน่เลย "ค่าๆๆ จะรอที่โต๊ะอาหารนะ"
ให้หลังไม่นาน พี่กายก็ลงมาด้วยชุดลำลองแสนจะธรรมดา แต่ดูเทห์ในสายตาสาว ๆ อีกหลายคน ซึ่งฉันก็รู้ดีว่าพี่กายหน้าตาดีออกขนาดนี้ แต่ทำไมไม่มีแฟนสักทีละ เฮ้อ....
.......ในขณะที่กำลังนึกนินทาพี่ชายตัวดีอยู่นั้น ในใจก็นึกไปว่า พี่กายจะรู้เรื่องนั้นรึเปล่านะ.....
"กันย์ เหม่ออะไรอยู่"
"เอ่อ..ค่ะ..อ๋อ เปล่าค่ะ พี่กายมีอะไรจะคุยกับกันย์หรือค่ะ"
"พี่มีเรื่องอยากจะถามเราหน่อย"
"คือว่าพี่ได้ยินมาว่าเรามีปัญหาอะไรกับอู๋หรือ"
"ใครมาบอกพี่อีกล่ะ"
"อืม..ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะแค่เข้าใจผิดอะไรนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วค่ะ" ก็ใช่นะสิที่ว่าไม่มีอะไรแล้วน่ะ ก็ฉันกับอู๋เราจบกันไปแล้วนี่นะ
"อืม ไม่มีก็แล้วไป"
"เออ..นี่ เมื่อกี้มีจดหมายมาถึงเราแนะ..อ่ะ.." พี่กายยื่นจดหมายซองสีขาวมาให้ฉันตรงหน้า
"จดหมายอะไรค่ะพี่กาย"
"ก็จดหมายตอบรับเธอเข้าเป็นนักเรียนของโรงเรียนที่เธอไปสมัครนะสิ"
"กรี๊ด.... จริงหรอพี่กายไม่หลอกกันย์นะ"
"เออ ก็จริงน่ะสิ แล้วแกจะกรี๊ดทำไมเนี่ยแสบหูจะตาย"
"แฮะๆ ขอโทษทีค่ะพี่กาย ก็คนมันดีใจอ่ะ"
"เอาล่ะๆ เลิกดีใจได้แล้ว และไปทำอะไรให้พี่ทานด่วนเลยเรา"
"ค่า รอสักครู่นะค่ะ"
เช้าวันใหม่ที่สดใสเป็นพิเศษ เพราะอะไรนะหรือก็เพราะว่าเป็นวันสอบวันสุดท้ายแล้วนะสิ ฮ่าๆๆๆ ดีใจจริง ๆ
"นี่หมิว เธอทำข้อสอบได้อ่ะป่ะ โฮ โค-ตะ-ระ ยากอ่ะ" ฉันบ่นก็มันยากจริง ๆนี่นา
"ก็พอกันนั่นแหละกันย์"
"เอ ทำไมวันนี้ดูเธอสดชื่นขึ้นละ อย่าบอกน่ะว่ากำลังมีความรักอ่ะ"
"บ้าอ่ะป่ะ ความรักบ้าบออะไรกัน ฉันกำลังดีใจต่างหากล่ะ ที่ฉันสอบเข้าที่โรงเรียนใหม่ได้"
"จริงหรอ ดีใจด้วยนะ เรายังไม่รู้เลยว่าจะไปเรียนต่อที่ไหน ไม่แน่ว่าอาจจะต่อที่เดิมก็ได้"
"อืม ยังไงก็ขอให้โชคดีละกันนะ งั้นเราขอกลับบ้านก่อนนะ ไปเตรียมตัวน่ะเราจะเปิดเรียนอีก 2 อาทิตย์"
"ยังไงก็ขอให้กันย์โชคดีล่ะกันนะ"
"อืม เช่นกันจ่ะ"
และแล้ววันเปิดภาคเรียนก็มาถึง โห ดีใจสุด ๆ เลย
แต่ที่แย่ที่สุดเห็นจะมีก็แต่กองหนังสือเรียนที่ทางโรงเรียนแจกมาให้ตอบเช้า เยอะซะขนาดนั้น จะเอากลับบ้านยังไงดีล่ะ สงสัยวันนี้ต้องเสียตังค์ ค่าแท็กซี่อีกแน่เลยอ่ะ
ในระหว่างที่ฉันเดินใจลอยคิดเรื่องเงินค่าแท็กซี่อยู่นั้น ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา
"โครม..โอ๊ย..ยายบ้านี่"
นี่ฉันเดินชนอะไรเข้านี่ แล้วกองหนังสือที่อยู่บนมือก็ล่วงลงมาทับผู้เคราะห์ร้าย ที่ตอนนี้กำลังมีท่าทีโมโหอย่างเห็นได้ชัด
"เอ่อ ขอโทษค่ะ คือฉันมองไม่เห็นน่ะค่ะ"
"แล้วเธอจะมองเห็นฉันได้ยังไงเล่าในเมื่อเธอเดินใจลอยอยู่ ยายบ้านี่"
เอ๋ นายนี่ทำไมพูดจาไม่เข้าหูเอาซะเลย อย่างนี่ต้องดูหน้าสักหน่อยแล้ว
ฉันชะโงกหน้าไปชำเลืองดูชายผู้เคราะห์ร้ายผู้นั้น แต่ เอ ทำไมหน้ามันคุ้น ๆ หว่า เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่นึกไม่ออก
"นี่เธอฟังฉันพูดอยู่รึเปล่าเนี่ย เธอ.."นายบ้านี่ดีแต่แหกปากรึไง ทำอะไรไม่เข้ากับหน้าตาตัวเองเลย
"ฟังอยู่ค่ะ ก็ฉันขอโทษไปแล้วนี่ค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นี่ นายจะเอายังไงอีก"ฉันตอบไปแบบมีอารมณ์ คนบ้าอะไรขอโทษแล้วยังไม่ยอมเลิกราอีก
"นี่เธอ เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าเนี่ย"
"ฉันว่าหน้าของเธอคุ้น ๆ นะ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน อืม.."
"อ๋อ นึกออกแล้วเธอคือผู้หญิงคนนั้นใช่ไหมที่ร้องให้กลางสนามอ่ะ"
ว้าย...เป็นอย่างที่คิดไว้จริงด้วย มิน่าล่ะทำไมหน้านายนั่นถึงได้คุ้นนัก โอย แล้วจะทำยังไงดีนายนี่จำฉันได้แล้ว แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะเนี่ย นายนี่ต้องทำการแฉเราแน่ ๆ เลย
"นี่ เธอ ทำไมไม่ตอบอ่ะ ตกลงใช่อ่ะเปล่า"
"จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย หลบไปฉันจะกลับบ้าน"
"เฮ้ นี่เธอ นิสัยไม่ดีเลยนะ" ทำอย่างกับนายนิสัยดีงั้นอ่ะ
"ขอโทษด้วยนะฉันรีบไป"
"ก็ได้ ๆ แล้วเราคงได้พบกันอีกนะครับบบบบบบบบบบบบ"
ไม่ต้องเจอกันเลยยังจะดีซะกว่าอีกนะ
แล้วฉันก็รีบเดินออกมาอย่างรวดเร็ว วันนี้เป็นอะไรนะ ซวยทั้งวันสิน่า ท่าทางจะเป็นลางที่ไม่ดีซะแล้ว
....................................................................................................................................
กรี๊งๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุก 7 โมงเช้า
"อืม..." นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ออกจากปากหญิงสาวแล้วก็เงียบหายไปจนกระทั่ง
"ยายกันย์ยยยย"
"นี่ยายขี้เทราตี่นได้แล้ว"
ไปเรียนวันแรกไม่ใช่เหรอเราอ่ะ"
.......... ทุกอย่างยังอยู่ในความเงียบ
"ว้ากกกก"
"ตี่นซะทีสิเฟ้ย ยายน้องบ้า"
ให้ตายเหอะเกิดมายังไม่เคยได้ยินพี่กายเรียกเราอย่างนี้เลย สงสัยสุดจะทน
"รู้แล้วค่า" ถ้ายังไม่รีบตื่นมีหวังได้หูแตกตายซะก่อน
"อาบน้ำอาบท่าให้ดี แล้วลงไปทำกับข้าวให้พี่ได้แล้วเดี๋ยวพี่ไปทำงานสาย"
"อ่อ ยายกันย์มีเพื่อนมารอพบเราน่ะ รีบ ๆ ล่ะ"
เอ๋ ใครหว่า มารอเราแต่เช้าเลย หรือจะเป็นยายหมิว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น