ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : สไปเดอร์แมน/ปีเตอร์ เบนจามิน ปาร์คเกอร์
ในครั้งที่ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูน ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เป็นเพียงวัยรุ่นเด็กเรียนคนหนึ่งจากฟอเรสท์ฮิลส์ (Forest Hills) นครนิวยอร์ก ที่ต่อมาถูกแมงมุมอาบกัมมันตภาพรังสีกัดในระหว่างที่เขากำลังศึกษ าการทดลองทางวิทยาศาสตร์อยู่ เขาได้รับพลังพิเศษต่าง ๆ จากแมงมุมตัวนั้น และหลังจากนั้น เขาก็พยายามที่จะเป็นดาราโทรทัศน์ด้วยการไปสมัครเป็นนักมวยปล้ำ แต่แล้ววันหนึ่ง ก็ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเขาได้พลาดการหยุดยั้งอาชญากรคนหนึ่งเอาไว้ทั้งที่มีโอกาส จนเป็นเหตุให้อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา อาชญากรคนเดียวกันนั้นได้ทำร้ายลุงเบน (Uncle Ben) ซึ่งเป็นผู้ที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กจนเสียชีวิต หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ปาร์คเกอร์ก็ได้เรียนรู้ว่าพลังอันยิ่งใหญ่ที่เขาได้รับมานั้น มันจะต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ด้วย เขาจึงกลายมาเป็นไอ้แมงมุมหรือสไปเดอร์แมนและใช้พลังพิเศษที่เ ขามีทำหน้าที่ปกป้องความสงบสุขของประชาชนในที่สุด หลังจากลุงของเขาถึงแก่กรรมไป ปาร์คเกอร์และป้าเมย์ (Aunt May) ผู้ที่เขาอาศัยด้วยและเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กอีกคนหนึ่ง ก็เริ่มขัดสนด้านเงินทองมากขึ้น เขาจึงต้องไปทำงานเป็นช่างถ่ายภาพให้กับสำนักหนังสือพิมพ์เดลีบูเ กิล (Daily Bugle) และขายภาพให้กับเจ. โจนาห์ เจมสัน(J. Jonah Jameson) ผู้ที่ชอบนำเอาความรู้สึกส่วนตัวใส่ลงในหัวข่าวหนังสือพิมพ์เสมอหลังจากที่เขาได้ต่อสู้กับศัตรูของเขาครั้งแรก ปาร์คเกอร์ได้พบว่าการดำเนินชีวิตระหว่างชีวิตส่วนตัวกับชีวิตภายใต้ ชุดแมงมุมนั้นเป็นสิ่งที่ยากลำบาก จนบางครั้งเขาก็พยายามจะเลิกสิ่งที่เขาทำ ทางด้านศัตรูของเขานั้น ก็มักจะเข้าทำร้ายคนรอบกายที่เขารักอยู่เสมอ โดยครั้งที่สำคัญที่สุดก็คือ ครั้งที่กรีนกอบลินได้ฆาตกรรมเกว็น สแตซี (Gwen Stacy) คนรักคนแรกของเขา แต่ถึงแม้ว่าความตายของเธอจะคอยหลอกหลอนเขาตลอดเวลา ในเวลาต่อมาปาร์คเกอร์ก็ได้เข้าพิธีวิวาห์กับแมรี เจน วัตสัน (Marry Jane Watson) โดยเนื้อเรื่องต่อจากนั้น ก็มีการเปิดเผยให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของเขาในฐานะของบุคคลธรรมด าคนหนึ่ง และปัญหามากมายที่เขาต้องประสบ มากขึ้น
พลังพิเศษ
หลังจากที่ถูกแมงมุมกัมมันตภาพรังสีกัดในระหว่างที่เขากำลังศึกษา การทดลองทางวิทยาศาสตร์ ในชั้นเรียนอยู่นั้น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ก็ได้พบกับสิ่งแปลกใหม่บางอย่างที่เข้ามาในร่างกายของเขา นั่นก็คือพลังพิเศษที่เขาได้รับจากแมงมุมตัวนั้นนั่นเอง ในเนื้อเรื่องดั้งเดิมของสแตน ลี และสตีฟ ดิตโก นั้น ไอ้แมงมุมมีความสามารถในการเกาะไต่กำแพงได้ มีความแข็งแกร่งที่เหนือวิสัยมนุษย์พึงมี มีสัมผัสที่ 6 ที่เรียกว่า “สัมผัสแมงมุม” (spider-sense) ที่คอยเตือนเขาถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา มีความสมดุลของร่างกายที่ดีเยี่ยม และมีความเร็วกับความคล่องตัวเกินมนุษย์ทั่วไป เมื่อมาถึงเนื้อเรื่องที่ได้รับการตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2548 และ พ.ศ. 2549 ความสามารถของไอ้แมงมุมก็ยิ่งมีความใกล้เคียงกับแมงมุมจริง ๆ มากขึ้น นั่นคือเขาสามารถพ่นใยแมงมุมจริงออกมาจากมือได้ มีเหล็กในพิษที่งอกมาจากแขน มีความสามารถที่จะติดยึดสิ่งของต่าง ๆ กับหลังของเขาได้ สามารถควบคุมสัมผัสแมงมุมเพื่อใช้ในการสืบค้นร่องรอยต่าง ๆ ได้
สามารถมองเห็นในที่อับแสงได้ และยังมีความแข็งแกร่งกับความเร็วที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากพลังพิเศษที่เขาได้รับแล้ว ร่างกายในระดับองค์รวมและอวัยวะภายในของเขา ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบของกระดูก เนื้อเยื่อที่ยึดกระดูกเข้าหากัน และระบบประสาทต่าง ๆ ก็ยังมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนั้น กล้ามเนื้อของเขาก็ยังพัฒนาเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย อุปกรณ์เสริม ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เป็นตัวการ์ตูนที่มีพรสวรรดิ์และเป็นอัจฉริยะในการประยุกต์ใช้ความรู้ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ เคมี หรือฟิสิกส์ เพื่อเสริมให้พลังของเขาแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากพลังพิเศษแล้ว เขายังได้สร้างอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อใช้ควบคู่กับพลังของเขาอีกด้วย โดยอุปกรณ์ที่ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของไอ้แมงมุมก็คือ เครื่องยิงใยแมงมุม (web-shooter) ที่เขาพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่เขาเป็นวัยรุ่น อุปกรณ์นี้สามารถปล่อยสารประกอบที่มีความเหนียวอย่างมากคล้ายใ ยแมงมุม ซึ่งจะสลายตัวไปหลังจากที่ถูกปล่อยออกมาแล้ว
ไอ้แมงมุมจะติดเครื่องยิงใยแมงมุมนี้เอาไว้บริเวณข้อมือด้านในทั้งสอ งข้าง โดยจะมีสวิทช์ควบคุมการปล่อยอยู่บริเวณฝ่ามือ ซึ่งรูปแบบของสารประกอบที่ปล่อยออกมานั้น ก็มีรูปร่างที่ต่างกันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้ ไม่ว่าจะเป็นแบบสายยาวที่ใช้แทนเชือกในการโหนตัว แบบตาข่าย หรือแบบลูกกลมที่ใช้ในการยิงอาวุธในมือของศัตรูหรือยิงใส่ตาของ ศัตรู ทำให้ศัตรูมองไม่เห็นไปชั่วขณะ นอกจากนั้นแล้ว เขายังสามารถทอสารประกอบดังกล่าวให้กลายเป็นรูปทรงกลมหรือ ครึ่งทรงกลมมาห่อหุ้มร่างกายเพื่อป้องกันตนเองหรือห่อหุ้มบริเวณมื อเพื่อใช้แทนนวม หรือเป็นปีกขนาดใหญ่เพื่อใช้แทนเครื่องร่อนได้อีกด้วย นอกจากเครื่องยิงใยแมงมุม ปาร์คเกอร์ยังได้ประดิษฐ์เครื่องนำร่องแมงมุม (spider-tracer) ซึ่งเป็นอุปกรณ์รูปร่างคล้ายแมงมุมติดสัญญาณไฟที่สามารถฉายภาพ “สัญญาณแมงมุม” (Spider-Signal) ได้ โดยต่อมาปาร์คเกอร์ยังได้ปรับแต่งเครื่องนำร่องแมงมุมนี้ให้มีกล้องถ่ ายภาพติดเอาไว้เพื่อถ่ายภาพได้แบบอัตโนมัติอีกด้วย ปาร์คเกอร์ยังได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งประดิษฐ์ของเบ็น เรลลี (Ben Reilly, มนุษย์เทียมที่โคลนมาจากตัวของปาร์คเกอร์เอง) ที่เรียกว่า “อิมแพ็คท์เว็บบิง” (impact-webbing) ซึ่งใช้ยิงกระสนลกปรายที่สามารถแผ่ออกมาเป็นใยแมงมมหนา ๆเพื่อห่อหุ้มร่างของผู้ที่ถูกยิงได้
เครื่องแบบ
ไอ้แมงมุมมีเครื่องแบบประจำตัวไม่มากนัก โดยมีอยู่ 3 ชุดที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด นั่นคือ ชุดแมงมุมสีแดง-น้ำเงินที่ใส่เป็นประจำแทบจะทุกตอน ชุดสีขาว-ดำคล้ายมนุษย์ต่างดาว (ภายหลัง ชุดนี้ได้ถูกพัฒนาไปเป็นเครื่องแบบที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ ตัวไอ้แมงมุม) และชุดสตาร์คอาร์เมอร์ (Stark Armor) ที่สร้างขึ้นมาโดยเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งออกแบบโดยโทนี สตาร์ค (Tony Stark) หรือไอร์ออนแมน (Ironman) เพื่อนยอดมนุษย์อีกตัวหนึ่ง นอกจากนั้นแล้ว ในชุดปกติแดงน้ำเงินของไอ้แมงมุม บางครั้งจะมีใยแมงมุมเชื่อมระหว่างต้นแขนกับข้างลำตัวด้วย ขึ้นอยู่กับการตีความของศิลปินที่วาดแต่ละคน แอกเซล อลองโซ (Axel Alonso) บรรณาธิการของหนังสือการ์ตูนไอ้แมงมุม ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549 ว่า ไอ้แมงมุมในหนังสือการ์ตูนจะกลับมาใส่ชุดเครื่องแบบสีดำอีกครั้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป เพื่อสอดรับกับชุดสีดำที่ไอ้แมงมุมในภาพยนตร์เรื่อง “ไอ้แมงมุม 3”
พลังพิเศษ
หลังจากที่ถูกแมงมุมกัมมันตภาพรังสีกัดในระหว่างที่เขากำลังศึกษา การทดลองทางวิทยาศาสตร์ ในชั้นเรียนอยู่นั้น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ก็ได้พบกับสิ่งแปลกใหม่บางอย่างที่เข้ามาในร่างกายของเขา นั่นก็คือพลังพิเศษที่เขาได้รับจากแมงมุมตัวนั้นนั่นเอง ในเนื้อเรื่องดั้งเดิมของสแตน ลี และสตีฟ ดิตโก นั้น ไอ้แมงมุมมีความสามารถในการเกาะไต่กำแพงได้ มีความแข็งแกร่งที่เหนือวิสัยมนุษย์พึงมี มีสัมผัสที่ 6 ที่เรียกว่า “สัมผัสแมงมุม” (spider-sense) ที่คอยเตือนเขาถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา มีความสมดุลของร่างกายที่ดีเยี่ยม และมีความเร็วกับความคล่องตัวเกินมนุษย์ทั่วไป เมื่อมาถึงเนื้อเรื่องที่ได้รับการตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2548 และ พ.ศ. 2549 ความสามารถของไอ้แมงมุมก็ยิ่งมีความใกล้เคียงกับแมงมุมจริง ๆ มากขึ้น นั่นคือเขาสามารถพ่นใยแมงมุมจริงออกมาจากมือได้ มีเหล็กในพิษที่งอกมาจากแขน มีความสามารถที่จะติดยึดสิ่งของต่าง ๆ กับหลังของเขาได้ สามารถควบคุมสัมผัสแมงมุมเพื่อใช้ในการสืบค้นร่องรอยต่าง ๆ ได้
สามารถมองเห็นในที่อับแสงได้ และยังมีความแข็งแกร่งกับความเร็วที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากพลังพิเศษที่เขาได้รับแล้ว ร่างกายในระดับองค์รวมและอวัยวะภายในของเขา ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบของกระดูก เนื้อเยื่อที่ยึดกระดูกเข้าหากัน และระบบประสาทต่าง ๆ ก็ยังมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนั้น กล้ามเนื้อของเขาก็ยังพัฒนาเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย อุปกรณ์เสริม ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เป็นตัวการ์ตูนที่มีพรสวรรดิ์และเป็นอัจฉริยะในการประยุกต์ใช้ความรู้ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ เคมี หรือฟิสิกส์ เพื่อเสริมให้พลังของเขาแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากพลังพิเศษแล้ว เขายังได้สร้างอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อใช้ควบคู่กับพลังของเขาอีกด้วย โดยอุปกรณ์ที่ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของไอ้แมงมุมก็คือ เครื่องยิงใยแมงมุม (web-shooter) ที่เขาพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่เขาเป็นวัยรุ่น อุปกรณ์นี้สามารถปล่อยสารประกอบที่มีความเหนียวอย่างมากคล้ายใ ยแมงมุม ซึ่งจะสลายตัวไปหลังจากที่ถูกปล่อยออกมาแล้ว
ไอ้แมงมุมจะติดเครื่องยิงใยแมงมุมนี้เอาไว้บริเวณข้อมือด้านในทั้งสอ งข้าง โดยจะมีสวิทช์ควบคุมการปล่อยอยู่บริเวณฝ่ามือ ซึ่งรูปแบบของสารประกอบที่ปล่อยออกมานั้น ก็มีรูปร่างที่ต่างกันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้ ไม่ว่าจะเป็นแบบสายยาวที่ใช้แทนเชือกในการโหนตัว แบบตาข่าย หรือแบบลูกกลมที่ใช้ในการยิงอาวุธในมือของศัตรูหรือยิงใส่ตาของ ศัตรู ทำให้ศัตรูมองไม่เห็นไปชั่วขณะ นอกจากนั้นแล้ว เขายังสามารถทอสารประกอบดังกล่าวให้กลายเป็นรูปทรงกลมหรือ ครึ่งทรงกลมมาห่อหุ้มร่างกายเพื่อป้องกันตนเองหรือห่อหุ้มบริเวณมื อเพื่อใช้แทนนวม หรือเป็นปีกขนาดใหญ่เพื่อใช้แทนเครื่องร่อนได้อีกด้วย นอกจากเครื่องยิงใยแมงมุม ปาร์คเกอร์ยังได้ประดิษฐ์เครื่องนำร่องแมงมุม (spider-tracer) ซึ่งเป็นอุปกรณ์รูปร่างคล้ายแมงมุมติดสัญญาณไฟที่สามารถฉายภาพ “สัญญาณแมงมุม” (Spider-Signal) ได้ โดยต่อมาปาร์คเกอร์ยังได้ปรับแต่งเครื่องนำร่องแมงมุมนี้ให้มีกล้องถ่ ายภาพติดเอาไว้เพื่อถ่ายภาพได้แบบอัตโนมัติอีกด้วย ปาร์คเกอร์ยังได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งประดิษฐ์ของเบ็น เรลลี (Ben Reilly, มนุษย์เทียมที่โคลนมาจากตัวของปาร์คเกอร์เอง) ที่เรียกว่า “อิมแพ็คท์เว็บบิง” (impact-webbing) ซึ่งใช้ยิงกระสนลกปรายที่สามารถแผ่ออกมาเป็นใยแมงมมหนา ๆเพื่อห่อหุ้มร่างของผู้ที่ถูกยิงได้
เครื่องแบบ
ไอ้แมงมุมมีเครื่องแบบประจำตัวไม่มากนัก โดยมีอยู่ 3 ชุดที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด นั่นคือ ชุดแมงมุมสีแดง-น้ำเงินที่ใส่เป็นประจำแทบจะทุกตอน ชุดสีขาว-ดำคล้ายมนุษย์ต่างดาว (ภายหลัง ชุดนี้ได้ถูกพัฒนาไปเป็นเครื่องแบบที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ ตัวไอ้แมงมุม) และชุดสตาร์คอาร์เมอร์ (Stark Armor) ที่สร้างขึ้นมาโดยเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งออกแบบโดยโทนี สตาร์ค (Tony Stark) หรือไอร์ออนแมน (Ironman) เพื่อนยอดมนุษย์อีกตัวหนึ่ง นอกจากนั้นแล้ว ในชุดปกติแดงน้ำเงินของไอ้แมงมุม บางครั้งจะมีใยแมงมุมเชื่อมระหว่างต้นแขนกับข้างลำตัวด้วย ขึ้นอยู่กับการตีความของศิลปินที่วาดแต่ละคน แอกเซล อลองโซ (Axel Alonso) บรรณาธิการของหนังสือการ์ตูนไอ้แมงมุม ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549 ว่า ไอ้แมงมุมในหนังสือการ์ตูนจะกลับมาใส่ชุดเครื่องแบบสีดำอีกครั้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป เพื่อสอดรับกับชุดสีดำที่ไอ้แมงมุมในภาพยนตร์เรื่อง “ไอ้แมงมุม 3”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น