ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic;tvxq jaemin] hurt makes it beautiful , รักเราแค่หลอกลวง

    ลำดับตอนที่ #3 : c h a p t e r ; 2 - U k u l e l e -

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 54


    Ukulele

     

      หันหิน….

     

     เวลาการเดินทางมากมาย ทำให้ร่างกายเมื่อยล้า รวมถึงตัวร่างบางเอง พอลงจากเครื่องได้ก็ลุกไปบิดขี้เกียจข้างนอก โดยทำตัวเองเหมือนมาคนเดียว ร่างสูงเดินออกมาอย่างห่างๆร่างบาง ระหว่างรอกระเป๋า

     

    นี้ต่างคนต่างไปไม ?

     

      ร่างสูงเอ่ยถามร่างบางทั้งๆที่ยังรักษาระยะเดิม แถมยังไม่มองหน้าอีกต่างหาก แต่ร่างบางเองก็ไม่ต่างกัน ร่างบางหยิบกระเป๋าเดินทางใบขนาดหย่อม แล้วเดินผ่านร่างสูงไป

     

    ก็ดีนะ แจจุง แล้วเจอกันตอนขากลับ

     

     .

    .

    .

    .

    .

    .

     

     คุณเชื่อไมละ? ว่าประเทศไทยมันกลม

     

     ผ่านไปสองวัน แจจุงเที่ยวไม่หยุดพอกลางวันนอน กลางคืนก็ออกเที่ยว ส่วนชางมินก็ออกเที่ยวอย่างไร้หลักแหล่งในตอนกลางวันตามหนังสือไกด์นำเที่ยวที่พกติดตัวมา

     

     ไม่มีการติดต่อสือสารใดๆทั้งสิ้นจากทั้งสองฝ่าย

     

    แต่เช้าวันนั้นอยู่ดีๆแจจุงก็อยากจะไปเดินเล่นตามชายหาด ให้หายจากอาการแฮงค์เมื่อคืน สายตาเหลือบเห็นคนคุ้นตา กำลังนั่งลงที่ชายหาด ขาเรียวยาวที่ใส่กางเกงสามส่วนสีดำเปียกน้ำเพราะท่านั่งยืดขา

    แจจุงเลือกที่จะหาร้านอาหาร แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ผ้าใบ และจับจองร่างบางแบบนั้น

     

      ร่างกายที่เปียกไปกว่าขึ้นท่อน ร่างบางลุกขึ้นแล้วเดินลงทะเลไปอย่างไม่รีบร้อน พอไปได้ลึกพอที่จะลอยตัวแล้วก็ปล่อยตัวเองลอยไปกับคลื่นทะเล พร้อมรับตาพริ้มรับแสงอาทิตย์อ่อนๆในตอนเช้า

     

      แจจุงมองภาพนั้นอย่างเพลินๆ  ในหัวก็คิดวิธีแกล้งร่างบางที่กำลังลอยคอในทะเล

     

    แต่ก็ต้องเป็นอันล้มเลิกความคิดแบบนั้น     วันนี้จะปล่อยไปก่อน

     

      เป็นเวลานานพอควรจนพระอาทิตย์เริ่มขึ้นมาได้ครึ่งดวง ร่างบางที่กำลังลอยอยู่ตรงกลางทะเลก็ตัดสินใจขึ้นจากน้ำ แล้วไปนั่งแถวร้านอาหาร หยิบอูคูเลเล่ที่แบกขึ้นเครื่องมา ร่างสูงยังไม่รู้ด้วยซ้ำมาร่างบางเอามันมาตอนไหน

     

     นิ้วเรียวยาวดีดไปตามคอร์ดเพลงที่ตัวเองจำได้ ฮัมเพลงในลำคอแผ่วเบาก่อนจะหันไปยิ้มกว้างในกับคุณป้าเจ้าของร้านที่ยกน้ำเปล่ามาให้ แจจุงไม่คิดว่าชางมินจะเล่นกีต้าร์เป็น แจจุงหลับตาพริ้มจนกระทั่งเสียงเพลงเบาๆนั้นหยุดลง

     

      เปลือกตาถูกยกขึ้นพบก็ร่างที่กำลังเดินเข้าไปในโรงแรมฝั่งตรงข้าม ร่างบางนั้นหายลับไปกับโรงแรมพร้อมกับ

    อูคูเลเล่สีน้ำตาลไหม้ในมือ

     

       คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่พวกเค้าจะได้อยู่ที่หัวหิน พรุ่งนี้พวกเราทั้งคู่ก็ต้องกลับโซลแล้ว

    แจจุงตัดสินใจว่าวันนี้เค้าจะไปเที่ยวตลาดนัดตอนกลางคืนที่เคยเห็นตอนขึ้นแท็กซี่ผ่านเข้าโรงแรม

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

     โอ๊ะ ร่างสูงอุทานในความคิด ประเทศไทยมันจะกลมไปแล้วนะ

     

       ร่างบางตรงหน้ากำลังนั่งมองดูกำไลข้อมือแฮนเมด สายตาประสานกันเพียงชั่วครู่ ร่างบางลุกขึ้นยืนแล้วหันหน้าเผชิญกับคนตรงหน้า แจจุงซึ่งกำลังไร้สติกำลังเอ่ยคำบางคำออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว

     

    ชางมินไปเดินเล่นกันไม ?

     

      ร่างบางรับคำของร่างสูงแล้วทั้งคู่ก็เดินไปด้วยกัน พวกเราตัดสินใจเลือกเข้าร้านอาหาร เราสั่งตามนักท่องเที่ยวอื่นๆที่มาก่อนหน้านี้แล้วเลือกโต๊ะที่จะนั่ง

     

      แหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายทำให้ร่างสูงนึกที่จะพูดอะไรบางอย่าง

     

    ชางมิน ตอนแรกฉันก็ไม่ได้เกลียดนายหรอกนะ….แต่เพราะการแต่งงานของนายกับฉันมันทำให้ฉันต้องเลิกกับคนรักของฉันไหนจะเหตุผลบ้าๆของการแต่งงานอีก

     

    “……” ชางมินจ้องหน้าแจจุง

     

    เพราะนายชางมิน ฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับคนแบบนายที่เป็นท่อนไม้ชัดๆ

     

      ชางมินไม่ได้เอ่ยพูดอะไรสักอย่าง อาหารที่พวกเราสั่งมาส่ง พวกเราก็เริ่มลงมือทานกัน

     

    ร่างสูงเดินคู่กับร่างบางไปเรื่อยๆ เอาตามจริงการมาเที่ยวคนเดียวมันก็เหงาแหละ

     

    นายเล่นอูคูเลเล่เป็นด้วยหรอ?

     

    “…ก็มีคนเคยสอน

     

    โห มีเพื่อนคบกับเค้าด้วยหรอ?

     

      ร่างบางไม่ตอบอะไรอีกเช่นเคย ร่างสูงที่แอบกัดร่างบางก็ได้แต่เก้อ ดวงตาสีนิลมองพื้น แอบเหลือบอูคูเลเลที่ร่างบางสะพายอยู่บนหลัง

     

    ไปนั่งที่ชายหาดไมละ แล้วจะเล่นให้ฟัง

     

      ไร้เสียงตอบรับ ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ ชางมินและแจจุงตัดสินใจเดินไปตามถนน จนถึงริมหาด ร่างบางเป็นคนนั่งลงกับโขดหินแถวๆนั้น ฉวยหยิบอูคูเลเล่ขึ้นมาเล่นให้คนข้างๆฟัง

     

      ผิดไมถ้าผมจะนอนลงกับโขดหิน

     

     ร่างสูงล้มตัวลงกับโขดหิน ฟังเพลงอูคูเลเล่ เสียงฮัมเพลงและเสียงคลื่นลมของที่นี้มันทำให้จิตใจของร่างสูง

    สงบอย่างไม่เคยเป็น เสียงร้องที่ไม่ใช่เสียงฮัมเพลงดังขึ้น ชางมินร้องเพลงออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

     

      แจจุงมองแผ่นหลังของชางมิน แล้วหลับตาลง กลิ่นเค็มของทะเลและกลิ่นตัวหอมๆของคนข้างๆทำให้แจจุงเริ่มคิดวกวนถึงชีวิตตนเองก่อนจะเจอชางมิน

     

      ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตตัวเองต้องมาถูกจับแต่งงาน ตั้งที่ก่อนหน้านี้เค้าก็มีความสุขความสุขงั้นหรอ?

    ที่ผ่านมามันจะใช้ความสุขหรอ? แล้วที่เป็นอยู่ตอนนี้มันใช่ความสุขรึเปล่า?

     

    ชางมินนายมีความสุขรึเปล่า?

     

    “…ตอนไหน? ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ หรือตอนข้างหน้า?

     

    ตอนนี้

     

    ก็อาจจะนะ ถ้านายไม่หาเรื่องสะก่อน

     

    หึ! ฉันเองก็เหมือนกัน…”

     

    The Pleasures of the Mighty Are The Tears of the Poor

     

      เสียงของชางมินที่เอ่ยอะไรออกมาเป็นเหมือนข้อความบางอย่างที่ผมเคยเห็นในหนังสือ

    ความพึ่งพอใจของผู้ยิ่งใหญ่คือหยาดน้ำตาแห่งผู้ไร้วาสนา  อย่างงั้นหรอ

     

      ชางมินลุกขึ้น มองทะเลอันแสนกว้างใหญ่อีกครั้ง ทะเลมันก็เหมือนจิตใจของคนนั้นละ

    ทั้งลึก และกว้างใหญ่ มีทั้งเย็นจนทำให้เจ็บแสบไปทั้งร่าง และร้อนจนทำให้กระวนกระวาย ไม่มีใครรู้ว่าทะเลจะโหมกระหน่ำ และหยุดลงเมื่อไร

     

     กลับละ

     

     ร่างบางที่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บอูคูเลเลาลงกับกระเป๋าใส่เครื่องดนตรี ขณะที่กำลังลุกขึ้นก็รู้สึกถึงแรงกระชากที่ไม่แรงมากนัก แต่พอทำให้ร่างของตนเองต้องล้มลงไปอีกรอบ ริมฝีปากร้อนประกบเพียงแผ่วเบาแล้วถอนออก

     

      ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองดวงตาของคนตรงหน้านิ่งมันไม่พบอะไรเลยในดวงตาคู่นั้น

     

    จะแกล้งรึไง แจจุง?

     

    เปล่านี้มันจูบขอบคุณ

     

    สำหรับอะไร ?

     

    ที่เล่นอูคูเลเล่ให้ฟังไงละ

     

      ร่างบางที่เดินจากไปแล้ว หลงเหลือเพียงร่างสูงที่กำลังสับสนกับการกระทำของตัวเองเมื่อครู่ มันก็แค่ความคิดชั่ววูบละมั้ง

     

    .

    .

    .

    .

    .

      กรุงโซล

     

    ไปเที่ยวเป็นยังไงกันบ้างละลูก?

     

    สนุกดีครับ

     

      เป็นแจจุงที่ตอบคำถามจากบิดาของตนเองพร้อมกับรอยยิ้มกว้างให้เห็นถึงความสุขจริงๆ เหมือนกับร่างบางที่ยิ้มอ่อนให้ในแบบของตน หยิบของฝากเป็นสร้อยข้อมือแฮนเมดให้คุณคิม ชางมินขอตัวกลับคอนโดไปอาบน้ำพักผ่อนเพราะเหนื่อยกับการเดินทาง

     

      แจจุงบอกลาคุณพ่อ แล้วเดินตามชางมินไปขึ้นรถที่ลูกจ้างนำมาจอดไว้ให้ ชางมินรีบเดินไปเปิดประตูคนขับ

    ทิ้งกระเป๋าเดินทางไปไว้ข้างหลังรถ รอให้ร่างสูงเข้ามานั่งแล้วสตาร์ทรถกลับห้องทันที

     

    บอกว่าสนุกแต่ในใจคิดว่าได้หญิงสักคนดีกว่าสินะชางมินเปิดปากขึ้นหลังจากนั่งเงียบมานานปล่อยให้เสียงเพลงจากวิทยุกลบความเงียบ

     

    รู้ด้วยหรอไง?

     

      ก็ดวงตามันฟ้องนะ….

    _______________________________________
    talk ; ขอบคุณกำลังใจทุกคอมเม้น -/\-
    มันเริ่มเห็นบุคลิคที่แตกต่างแล้ว เย้!
    ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก ทำใจสบายๆ

    ปล.ชางมินเป็นคนเฉยชาจริงๆ ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่พยายามต่อล้อต่อเถียง
    ในขณะที่แจจุงจิกเอาๆ -_-;;

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×