คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [SF] Mingyu x Wonwoo : This man is mine (Part 2/2)
“This man is mine”
Pairing : Mingyu x Wonwoo
Note : เห็นหลายๆคนถามหา นี่คือเรื่องต่อของ A man in dream ค่ะ ความเผ็ดยังเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือฉากคัทค่ะ *แสยะยิ้มหัวเราะในลำคออย่างบ้าคลั่ง*
Note2 : ใครยังไม่อ่านพาร์ทแรก อย่าลืมกลับไปอ่านนะคะ ปย๊ง
ครืนน !!
ซ่า !!
เสียงของท้องฟ้าที่กำลังปั่นป่วนเทียบไม่ได้กับความปั่นป่วนในใจของมินกยู
ร่างสูงนอนหงายพร้อมเอามือก่ายหน้าผากตัวเอง เขาสไลด์หน้าจอโทรศัพท์มือถือ ปลดล็อกมัน
เลื่อนกลับไปกลับมาแล้วก็ล็อกหน้าจออีกครั้ง
ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาเป็นเวลาเกือบจะครึ่งชั่วโมงแล้ว
‘…ทำไมกูต้องหงุดหงิดขนาดนั้นวะ เพราะเป็นห่วงน้องที่ชื่อซานะเหรอ ไม่ ไม่ใช่แน่ๆ..’
‘...หรือเพราะที่พี่วอนอูเป็นพี่ว้าก
มันทำให้มีคนมาสนใจพี่เขาก็เลยไม่ชอบใจ...’
‘…แล้วกูก็ไปพาลใส่พี่เขาเนี่ยนะ โคตรงี่เง่าเลยคิมมินกยูเอ้ย!”
ย้อนกลับไปเมื่อเกือบสองชั่วโมงก่อน หลังจากที่ร่างสูงได้ทะเลาะกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเขาไป
จากที่ควรจะโมโหกลับกลายเป็นว่าความรู้สึกผิดมันแทรกซึมเข้ามาแทนที่ มินกยูเดินคอตกกลับมาที่เต็นท์ของฝ่ายพยาบาล
ร่างสูงเดินไปนั่งข้างเพื่อนสนิทตัวเองที่กำลังเก็บอุปกรณ์ช่วยพี่ปีสามก่อนจะเป็นฝ่ายชวนหญิงสาวคุย
“ยูนา”
“ว่า”
“ฉันทะเลาะกับพี่วอนอู”
“ห๊ะ! ทะเลาะอะไรกัน”
คนมีปัญหาค่อยๆเล่าเรื่องราวให้ที่ปรึกษาฟัง ก่อนจะได้รับฝ่ามือฟาดลงบนแขนแรงๆหนึ่งทีกับคำบ่นประมาณหนึ่งชุดเป็นของรางวัล
เพี๊ยะ !
“โหย อีตาบ้า! นายไปพูดกับพี่เขาแบบนั้นได้ยังไงห๊ะ
ใช้หัวคิดแล้วใช่มั้ยเนี่ย! นายมีเหตุผลมากนักรึไงถึงได้เอาไปหาเรื่องพี่เขาอ่ะ!!
ถ้าฉันเป็นพี่วอนอูนะ ฉันจะบอกเลิกนาย! เลิก
เลิก เลิก!”
“...นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่มาเล่าให้เธอฟัง”
“บ่นเหรอ!”
“เปล่าครับ”
“นายฟังฉันนะ...”
“...”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายคิดอะไร
ถึงได้ไปหาเรื่องพี่เขาแบบนั้น นายรู้มั้ย การเป็นพี่ว้ากน่ะ มันเหนื่อยนะ
พี่เขาไม่เคยบ่นอะไรให้นายฟังใช่ว่าพี่เขาจะไม่เหนื่อย ตอนอยู่ที่ค่ายพี่ว้ากอ่ะ
พี่ตีบ(ซูนยอง)โทรมาบ่นกับพี่ตัวเล็ก(จีฮุน)ทุกวันเลยนะว่าที่นั่นน่ะ---”
“นี่เธอเรียกสายรหัสตัวเองอย่างงี้เหรอ”
“อ่าฮะ ทำไมยะ อย่าเพิ่งขัดสิเอ้อ
กำลังได้ฟีลเลย”
“...ขอโทษครับ”
“ต่อนะ ว่าที่นั่นน่ะอย่างกับนรกเลย ฉันคิดว่า การที่จู่ๆคนเงียบๆแบบพี่วอนอูจะมาเป็นพี่ว้ากน่ะมันคงไม่ง่ายหรอก คำที่นายพูดกับพี่เขา มันเหมือนกับว่าพี่เขาทำเพราะแค่ความสะใจเฉยๆ แต่นายได้ถามความรู้สึกพี่เขาบ้างรึเปล่าว่าพี่เขาคิดยังไง”
“พี่เขาบอกว่ามันเป็นหน้าที่”
“นั่นไง ก็มันเป็นหน้าที่ มันก็ถูกแล้วนี่”
“แต่ยูนา เธอไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยเหรอ
น้องเพิ่งทำผิดแค่ครั้งแรกเองนะ ทำไมต้องทำขนาดนั้น”
“โอ๊ยยย ครั้งแรกอะไรยะ
กะอีแค่คำถามง่ายๆอย่างในรุ่นมีกี่คน
ถ้าสนใจจะหาคำตอบสักหน่อยมันก็รู้คำตอบแล้วไม่ใช่เหรอ ปีที่แล้วเรายังตอบได้เลย
แต่ปีนี้คือน้องมันไม่สนใจกันเลยไง มีกันต้องหกร้อยกว่าคนแต่ไม่มีใครตอบได้เลย
เป็นฉัน ฉันให้วิ่งรอบสนามแล้วไม่ให้ลุกนั่งหรอก”
“...มันก็จริง”
“เห็นมั้ย ละเรื่องน้องคนนั้นอ่ะ
ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมผู้ชายมันถึงดูไม่ออก
ฉันยังดูออกเลยว่าหล่อนก็แค่บีบน้ำตา ผู้ชายนี่มันบื้อจริงๆเลย เห็นสวยหน่อยเป็นไม่ได้เลย!”
“ฉันว่ามันผิดประเด็นแล้วนะ...”
“เถียงเหรอ!”
“เปล่าจ้า”
“เพราะฉะนั้น นายก็ควรไปขอโทษพี่เขาซะ
พี่เขาคงเสียความรู้สึกไม่น้อยเลยล่ะที่โดนนายพูดแบบนั้น
ฉันละนึกภาพพี่เขาร้องไห้แล้วยังรู้สึกสงสารเลย นายนี่มันแย่จริงๆเลยคิมมินกยู มีดีแค่หน้าตาเหรอยะ”
“ครับๆ ขอโทษครับ ผิดไปแล้วครับ”
“ดีมาก งั้นก็รีบไป---”
เปาะแปะ เปาะแปะ
ซ่า !!
“ว๊าย อะไรเนี่ย!”
ในขณะที่ยูนากำลังให้คำปรึกษาอยู่
จู่ๆฝนก็สาดเทลงมาอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย หญิงสาวหันไปมองท้องฟ้าอย่างหงุดหงิดก่อนจะรีบลุกขึ้นเพื่อช่วยรุ่นพี่เก็บของในเต็นท์เตรียมย้ายถิ่นฐาน
“มาตกอะไรเอาตอนนี้ยะเนี่ย เอ้อ เอาเป็นว่า
นายก็รีบไปขอโทษพี่เขาซะล่ะ แล้วฉันจะคอยฟัง”
“ฉันจะพยายามละกัน ขอบใจนะ”
“เอาเป็นเลี้ยงฮันนี่โทสต์ร้านหลังม.จะดีใจกว่าอ่ะนะ”
“..เดี๋ยวอ้วนนะ”
“ว่าไงนะ!”
“เปล่าคร้าบ...”
แล้วหลังจากนั้น
เขาก็พยายามที่จะติดต่ออีกฝ่ายเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง
แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีคนรับสาย ฝนก็ยังไม่หยุดตกเสียที จนในที่สุด
คิมมินกยูก็เลือกที่จะกลับมาที่ห้องของตัวเอง โชคดีที่เขาเอารถยนต์ไปเมื่อเช้าทำให้ไม่ต้องทนหนาวอยู่ที่มหาลัยรอให้ฝนหยุดตก
ร่างสูงนอนมองหน้าจอโทรศัพท์ที่เป็นรูปรายชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์ของคนรักก่อนนิ้วจะกดโทรออกอีกครั้ง
และก็เหมือนเดิม ยังคงมีแค่เสียงรอสายที่ดังออกมาจนถูกตัดไป
‘ พี่โกรธผมขนาดนี้เลยเหรอครับ ผมขอโทษ พี่วอนอู
’
“ถ้าอย่างงั้น
ผมขอจบการประชุมเชียร์ของวันนี้เพียงเท่านี้!”
“ขอบคุณครับ / ค่ะ!”
สิ้นเสียงประกาศที่เปรียบดั่งเสียงสวรรค์
เหล่าเด็กปีหนึ่งมากมายก็พากันแยกย้ายออกจากห้องประชุมเชียร์ ที่ต้องย้ายมาที่นี่เพราะพายุฝนเมื่อวานทำให้สนามหญ้าเปียกเกินกว่าจะใช้งานได้
“พี่ซูนยองครับ”
ในขณะที่เฮดคุมระเบียบกำลังเดินแยกออกไปเพื่อพัก
จู่ๆรุ่นน้องปีสองคนสนิทก็เดินเข้ามาเรียกไว้
คนตาตีบยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเป็นเชิงถาม
“วันนี้พี่วอนอูไม่มาเหรอครับ”
“อ้าว พี่ซึงชอลยังไม่ได้บอกมึงเหรอ”
ร่างสูงกระพริบตาปริบๆเมื่อสิ่งที่ได้กลับมาไม่ใช่คำตอบที่ต้องการแต่เป็นคำถามแทน
“บอกอะไรครับ?”
“ก็วอนอูมันไม่สบายไง โทรศัพท์มันก็พัง
พี่ซึงชอลเพิ่งโทรมาบอกกูเมื่อเช้านี้เอง”
“อะไรนะครับ!”
มินกยูเบิกตากว้างกับคำตอบที่ได้รับ เขาเงียบไปนิดนึงก่อนจะหันไปรัวคำถามใส่เพื่อนสนิทของคนรักอีกรอบ
“แล้วตอนนี้พี่วอนอูอยู่ไหนครับ? หายรึยัง? แล้วตอนนี้มีใครดูแลพี่เขามั้ยครับ?”
“เห้ยๆใจเย็นดิ
กูก็อยู่กับมึงมาตั้งแต่เช้ายังไม่ได้เข้าไปเยี่ยมมันเลยเหมือนกัน
เห็นพี่ซึงชอลบอกว่าไข้ไม่สูงมาก แต่จะให้ออกมาว้ากต่อก็คงไม่ไหว
ตอนนี้น่าจะนอนอยู่คอน--”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณครับพี่ซูนยอง”
“..โดแหละ
ใจคอมึงจะไม่ฟังให้จบเลยใช่มั้ยเนี่ยห๊ะ!”
ซูนยองตะโกนไล่หลังรุ่นน้องที่วิ่งออกไปอย่างหวังว่าจะให้อีกฝ่ายได้ยิน
แต่ดูเหมือนสิ่งที่ร่างสูงให้ความสำคัญที่สุดในตอนนี้คงจะไม่ใช่คำพูดของเฮดคุมระเบียบอย่างเขาซะแล้วสิ
เมื่อขับรถมาถึงคอนโดของคนรัก
ร่างสูงก็รีบจอดรถก่อนจะวิ่งเข้าไปในตัวคอนโดทันที มือเรียวคว้าเอาคีย์การ์ดมาถือไว้ในขณะที่ลิฟต์ค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นไปถึงชั้นที่8
เมื่อลิฟต์เปิดออกขายาวก็ก้าวฉับๆไปยังห้องของวอนอูทันที
มินกยูเอาคีย์การ์ดเสียบที่ประตูก่อนจะดึงออกแล้วเปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้วก็ต้องชะงักเมื่อพบกับอดีตเฮดคุมระเบียบที่ค้างอยู่ในท่ายกมือกำลังจะจับลูกบิดประตู
“อ้าว มินกยู”
“อ้าว พี่ซึงชอลหวัดดีครับ
พี่วอนอูล่ะครับ?”
“อ่อ นอนอยู่ในห้องอ่ะ”
“อ่า งั้นผมขอเข้าไปดูหน่อยนะครับ”
ว่าจบร่างสูงของเด็กปีสองก็แทรกตัวเข้าไปในห้องแล้วสาวเท้าเดินไปยังห้องนอนของคนป่วยทันที
แต่ยังไม่ทันจะเปิดประตูเข้าไป ประธานเชียร์คนปัจจุบันก็ตรงมาคว้ามือเขาไว้ก่อน
“กูว่าอย่าเพิ่งดีกว่า
มันเพิ่งกินยาแล้วหลับไปเมื่อกี้ อย่าเพิ่งไปปลุกมันเลย”
“งั้น...เหรอครับ”
“แล้วนี่มึงกินข้าวเที่ยงรึยัง”
“อ่อ ยังครับ”
“เออดี งั้นไปกินกับกู เพราะกูยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าเลย
หิวเหี้ยๆอ่ะตอนนี้”
ว่าจบก็ลากแขนหลานรหัสตัวเองออกจากห้องไปทันที
คนเด็กกว่าหันหน้าไปมองประตูห้องนอนที่มีคนป่วยอยู่ในนั้นอีกครั้งก่อนจะเดินตามลุงรหัสตัวเองไป
“มึงจะกินอะไรสั่งเลยนะ
เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง”
“ขอบคุณครับ”
เมื่อมาถึงร้านอาหารสองหนุ่มวิศวะก็เลือกที่นั่งติดกระจกก่อนจะลงมือเลือกเมนูอาหารทันที
หลังจากพนักงานเสิร์ฟรับเอารายการอาหารไปแล้ว ทั้งสองคนก็ตกอยู่ในความเงียบ
คนอายุมากกว่ามองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะเป็นคนเริ่มต้นบทสนทนาก่อน
“มึงทะเลาะกับวอนอูเหรอ”
“...พี่วอนอูเล่าให้ฟังเหรอครับ”
“อืม กูฟังจากฝั่งของไอ้มึนแล้ว
กูอยากฟังจากปากมึงด้วย”
“...”
“ไหนเล่าให้กูฟังหน่อย
ว่าทำไมมึงไปหาเรื่องมัน”
“คือ...”
หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจบ
อดีตเฮดคุมระเบียบก็ถอนหายใจน้อยๆก่อนจะมองหน้าหลานรหัสตัวเอง
“ปีที่แล้วกูก็สั่งทำโทษแบบนี้
ไม่เห็นมึงจะโกรธขนาดนี้เลย”
“ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันครับ”
“หรือเป็นเพราะคนสั่งคือวอนอู
มึงก็เลยไม่พอใจ”
“...”
“กูก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าเหตุผลที่มึงไปหาเรื่องวอนอูอ่ะคืออะไร
เพราะฉะนั้นกูจะพูดถึงแค่คำที่มึงพูดกับวอนอูละกันนะ”
“..ครับ”
“การเป็นพี่ว้ากอ่ะ มันไม่ได้ง่ายนะ
ยิ่งกับคนแบบวอนอูอ่ะ ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ มึงก็รู้ว่ามันเป็นคนยังไง
ตอนแรกกูก็แค่พูดเล่นไปงั้นแหละเรื่องที่จะให้มันเป็นพี่ว้ากอ่ะ
แต่กูก็ไม่คิดว่ามันจะเอาจริง”
“อ้าว
พี่ไม่ได้เป็นคนบังคับพี่วอนอูเหรอครับ”
“โอ้โห มึงเห็นกูเป็นคนยังไงครับ
ไอ้มึนอ่ะเป็นคนเดินมาบอกกูเองว่ามันอยากเป็นพี่ว้าก”
“...”
“ที่ค่ายอ่ะ มันพยายามมาก
เรียกได้ว่าพยายามมากกว่าคนอื่นซะด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น พอเจอมึงพูดแบบนั้นเข้าไป
มันถึงได้ร้องไห้ไง”
สิ้นคำพูดของคนอายุมากกว่า
ภาพของคนรักที่น้ำตาคลอเบ้าก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา มินกยูกำมือแน่นด้วยความหงุดหงิดกับส่งที่ตัวเองทำลงไปก่อนจะค่อยๆคลายออกช้าเพื่อระงับอารมณ์
“วอนอูมันก็ผิดที่พูดประชดมึง
แต่มึงก็ต้องเข้าใจ ว่า ณ เวลานั้น คนที่ร้อนก็ไม่ได้มีแค่เด็กปีหนึ่งหรอก
พวกพี่ว้ากก็ยืนตากแดดด้วยกันตรงนั้นทุกคน เพราะฉะนั้นมันก็เลยน้อยใจที่มึงอ่ะพูดเหมือนมีแค่เด็กปีหนึ่งที่เหนื่อยอยู่ฝ่ายเดียว”
“....”
“แล้วสุดท้ายพวกมันได้ให้น้องลุกนั่งจนครบหกร้อยครั้งจริงๆมั้ย”
“ไม่ครับ”
“เห็นมั้ย
ความผิดพลาดครั้งนี้จะให้ใครคนใดคนหนึ่งรับผิดชอบทั้งหมดหรือยกเว้นให้ใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้
ถึงน้องคนนั้นจะตอบ แต่น้องคนนั้นก็ตอบผิด ส่วนพวกที่เหลือก็ไม่มีใครรู้คำตอบ
นั่นก็มากพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าเด็กพวกนั้นไม่มีความสามัคคีกัน”
“...”
“เพราะฉะนั้นที่พวกพี่ว้ากสั่งทำโทษอ่ะ
ก็แค่อยากจะให้เด็กมันตระหนักถึงเรื่องนี้ แต่ถ้าพูดตรงๆมันก็ไม่จำใช่มั้ยล่ะ
ก็เลยใช้วิธีนี้ แค่นั้นเอง”
“....”
คนเด็กกว่าถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเจอกับคำอธิบายแสนยาวยืดของลุงรหัส
เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กน้อยที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ไปในทันทีเมื่อได้พบกับเบื้องหลังที่แท้จริง
สิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดตอนนี้คือกลับไปขอโทษคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของตัวเอง
“อ้าว นั่น...”
ในขณะที่มินกยูกำลังอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง
จู่ๆเสียงของคนที่นั่งตรงข้ามก็ดังขึ้น เขาเงยหน้าและหันหลังมองตามสายตาของลุงรหัสไป
ร่างโปร่งของคนผมสีดำที่คุ้นเคยบวกกับต่างหูไม่กางเขนสีเงินที่ห้อยลงมาจากหูซ้ายทำให้คนที่มองอยู่ถึงกับอ๋อทันทีเป็นจังหวะเดียวกับที่คนถูกมองก็เงยหน้าขึ้นมา
ทั้งสามคนสบตากันอยู่ประมาณเสี้ยววินาทีก่อนที่ควอนซูนยองจะหันไปบอกพนักงานแล้วชี้มาที่โต๊ะนี้
“พี่ซึงชอลหวัดดีครับ มาทำอะไรอ่ะพี่”
“มาร้านข้าวนี่กูคงเอาผ้ามาซักมั้ง”
“โหย แหย่เล่นนิดเดียวเอง มินกยูเขยิบหน่อย กูนั่งด้วย เอ้อ
ว่าแต่เมื่อวานมันเป็นไงมาไงอ่ะพี่
โทรศัพท์ไอ้มึนพังไม่ใช่เหรอทำไมพี่รู้อ่ะว่ามันป่วย”
เมื่อหัวข้อสนทนาถูกเปลี่ยนมาเป็นอาการของร่างบาง
มินกยูก็รีบหันมาตั้งใจฟังทันที
“ก็เมื่อวานกูนี่แหละเป็นคนเอามันกลับหอ”
“ห๊ะ / ห๊ะ”
“ก็เมื่อวานตอนฝนตกอ่ะ
กูไปส่งจองฮันที่หอแล้วผ่านหลังม. ก็เลยไปเจอไอ้มึนเดินเป็นซอมบี้อยู่พอดี ร่มเริ่มอะไรก็ไม่กาง
เดินตากฝนปล่อยให้ตัวเองเปียกเป็นพระเอกเอ็มวีอยู่นั่นแหละ ตากแดดแล้วมาตากฝนต่อ
ไม่ป่วยก็ให้มันรู้ไป”
“โอ้โห นี่ถ้าผมรู้ว่ามันจะทำแบบนี้นะ
ผมไปส่งมันแต่แรกแล้ว”
“แล้วพอแม่งไม่กางร่ม ตัวมันเปียก
โทรศัพท์มันก็เปียกด้วย ก็เลยพังอย่างที่พวกมึงรู้กันนั่นแหละ”
“อ่อออ เอ้อ มินกยู
เห็นหน้ามึงแล้วนึกถึงเรื่องนี้พอดีเลย”
“ครับ?”
ในขณะที่กำลังจะเริ่มเล่าเรื่อง
อาหารที่สั่งไว้ทั้งสามจานก็มาเสิร์ฟพร้อมกัน ทั้งสามคนจัดแจงของกินให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะหันมาสนใจคนที่เปิดประเด็นต่อ
“เมื่อวานอ่ะ
มึงจำน้องผู้หญิงที่ยกมือตอบวอนอูได้มั้ย ชื่อซานิหรือซันนี่ อะไรสักอย่างนี่แหละ”
“ซานะครับ”
“โอ้โหรู้ดี เออนั่นแหละ น้องเขาจะจีบมึงเว้ย
แม่งแกล้งทำเป็นเจ็บข้อเท้าไปให้มึงทำแผลแล้วเอามาอวดเพื่อน”
“...”
“ยังมีอีกนะ พี่ซึงชอลรู้มั้ย
น้องแม่งด่าพวกผมซะเละเลย โอ้โหววว ตัวเองนี่คุณหนูผู้ดีสุดๆ
โดนแดดนิดโดนแดดหน่อยไม่ได้ คนโดนหนักสุดนี่น้องพี่เลย เป็นคนสั่งทำโทษเลยโดนเยอะกว่าเพื่อน”
ประโยคแรกหันไปพูดกับคนเด็กกว่าก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายมาพูดประโยคต่อมากับคนอายุมากกว่าอย่างเคียดแค้นโดยไม่ทันได้เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของรุ่นน้อง
‘ น้องคนเมื่อกี้น่ะ เจ็บจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
นายต้องเห็นสายตาที่หล่อนมองนายนะ อย่างกับจะจับนายกินเข้าไปอ่ะ ’
‘ งั้นพี่ก็จะบอกให้นายรู้เหมือนกันว่าเธอแค่แกล้งเจ็บ
ไม่ได้เจ็บจริง ’
‘ เพราะฉะนั้น นายก็ควรไปขอโทษพี่เขาซะ
พี่เขาคงเสียความรู้สึกไม่น้อยเลยล่ะที่โดนนายพูดแบบนั้น ฉันละนึกภาพพี่เขาร้องไห้แล้วยังรู้สึกสงสารเลย
นายนี่มันแย่จริงๆเลยคิมมินกยู มีดีแค่หน้าตาเหรอยะ ’
คำพูดและเหตุการณ์ต่างๆค่อยๆไหลเข้ามาในหัวของมินกยูเหมือนหนังที่ถูกฉายซ้ำ
มือของเขาถูกกำเข้าหากันอีกครั้ง
‘ ให้ตายเถอะ ไม่เคยรู้สึกแย่ที่ทะเลาะกันครั้งไหนเท่าครั้งนี้เลยจริงๆ
’
“...แล้วก็นะ— อ้าว มินกยู มึงไม่กินข้าวเหรอ”
“..อ่อ ครับ กินครับ”
มือหนาค่อยๆยกช้อนส้อมที่ใช้กินข้าวขึ้นช้าๆ
คนอายุมากกว่าที่สังเกตเห็นความผิดปกติหันมามองหน้ากันก่อนคนอายุมากที่สุดจะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องคิดมากหรอก กูกับจองฮันเคยทะเลาะกันหนักกว่านี้อีก
วอนอูมันเป็นคนมีเหตุผล ค่อยๆคุย เดี๋ยวก็ดีกันได้น่า”
ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาองรุ่นพี่ก่อนจะพยักหน้าช้าๆลงมือจัดการกับอาการที่อยู่ตรงหน้าต่อ
แต่ยังมีคนที่ไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดอยู่หนึ่งอัตรา
“อ้าว พวกมันทะเลาะกันเหรอพี่”
“อย่าเสือกเรื่องเขา แดกไปมึงอ่ะ”
“อ่ะจ้า”
หลังจากหาอะไรใส่ท้องกันเสร็จแล้วซึงชอลจึงแวะกลับมาส่งหลานรหัสตัวเองที่คอนโดของวอนอูเนื่องจากตอนไปรถของเจ้าตัวยังคงจอดเอาไว้ที่นี่
“ยังไงก็ค่อยๆเคลียร์กันนะเว้ย
เรื่องมันไม่แย่ขนาดนั้นหรอก”
“ครับ ขอบคุณนะครับพี่ซึงชอล”
อดีตเฮดคุมระเบียบไม่พูดอะไรเพียงแค่พยักหน้ายิ้มๆพร้อมกดกระจกรถขึ้นก่อนจะเหยียบคันเร่งออกไป
ร่างสูงยืนมองรถของรุ่นพี่ที่ขับออกไปก่อนจะหันหลังกลับมา
ยืนทำใจอยู่หน้าคอนโดสักพักก่อนขายาวจะก้าวเข้าไปข้างใน
คิมมินกยูแตะคีย์การ์ดเข้าไปในห้องก่อนจะพบกับความเงียบ
เขาจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปสำรวจภายใน ทุกๆห้องไม่มีวี่แววของร่างบางอยู่เลย
ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเดินไปแง้มประตูห้องนอนของเจ้าของห้องดู
‘ หลับอยู่รึเปล่านะ? ’
และก็เป็นดังคาด
ร่างบางของพี่คุมระเบียบยังคงนอนหลับสนิทอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา
มินกยูค่อยๆผลักประตูให้กว้างขึ้นก่อนจะแทรกตัวเข้าไปแล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง
ร่างสูงค่อยๆย่อตัวลงแล้วมองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะยิ้มบางๆ
ใบหน้าหล่อติดจะสวยที่มักจะนิ่งจนน่ากลัว
ตอนนี้ก็ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมาเช่นเดียวกัน
แต่อีกฝ่ายกลับดูใสซื่อเหมือนเด็กเล็กๆที่กำลังนอนหลับ คนเด็กกว่านั่งมองอีกคนนอนเงียบๆโดยไม่ได้สนใจว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนจนในที่สุดตัวเองก็เผลอหลับไป
รู้สึกตัวอีกทีเวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบสี่โมงเย็นแล้ว
มินกยูค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะบิดตัวเล็กน้อยเพื่อไล่ความเมื่อยล้า
โชคดีที่คนอายุมากกว่ายังคงหลับสนิทอยู่เหมือนตอนที่เขาเข้ามา
ร่างสูงยิ้มบางๆอีกครั้งก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นเพื่อออกมาข้างนอกห้องนอน
‘ จะเย็นแล้ว... พี่วอนอูยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยง
งั้นทำข้าวเย็นไว้ให้ละกัน ’
คิดได้ดังนั้น
ร่างสูงของเด็กปีสองก็เดินเลี้ยวไปทางห้องครัวทันทีก่อนจะหยิบของสดที่ตัวเองเป็นคนซื้อมาไว้ให้คนรักออกมา
มือเรียวขยับหยิบจับนั่นนี่อย่างคล่องแคล่ว ไม่นานเกินรอ
ข้าวต้มหอมฉุยก็ส่งกลิ่นหอมออกมาอย่างน่าอร่อย
เปลือกตาบางขยับเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเปิดขึ้น
นัยน์ตาสีดำสนิทกรอกตามองไปรอบห้องอย่างช้าๆก่อนจะไปหยุดอยู่ตรงหน้าปัดนาฬิกาดิจิตอลที่อยู่ข้างหัวเตียง
...16.37...
‘ …ปวดหัวชะมัด ’
จอนวอนอูยกมือขึ้นกุมหัวตัวเองแล้วนั่งนิ่งอยู่บนเตียงสักพัก
ก่อนจะค่อยๆขยับตัวลงจากเตียงแบบทุลักทุเลเล็กน้อยเพราะยังคงมีอาการมึนหัวอยู่
ใช้เวลาเพียงประมาณสิบห้านาที
ร่างบางก็ออกมาด้วยชุดนอนพาจามาสีดำ
มือเรียวยกผ้าขึ้นซับปลายผมที่โดนน้ำให้แห้งก่อนจะเดินออกจากบริเวณที่เป็นห้องนอน
แต่แล้วคิ้วเรียวก็ต้องขมวดเข้าหากันเมื่อเดินออกมาแล้วได้ยินเสียงกุกกักดังออกมาจากบริเวณห้องครัว
วอนอูสาวเท้าเข้าไปก่อนจะต้องชะงักเมื่อพบกับร่างสูงของคนที่เพิ่งทะเลาะกันมากำลังก้มๆเงยๆกับหม้อที่อยู่บนเตาอยู่
“อ้าว ตื่นแล้วหรอครับ คงจะหิวใช่มั้ย
ผมเพิ่มทำข้าวต้มเสร็จพอดีเลย”
พ่อครัวจำเป็นที่กำลังทำอาหารอยู่หันมาเห็นคนป่วยเดินออกมาพอดี
มินกยูปิดเตาแก๊สพร้อมถอดผ้ากันเปื้อนก่อนจะหันมาหาคนที่เดินเข้ามา
“ไหนผมขอวัดไข้หน่อย ตัวยังร้อนอยู่--”
“นายมาทำไม”
“....”
ขายาวที่กำลังจะเดินเข้าไปหากลับต้องหยุดชะงักเพราะคนตัวบางที่ก้าวถอยหลังไป
คิมมินกยูลองก้าวเท้าเข้าไปอีกครั้งแต่อีกคนก็ถอยหลังไปอีกเช่นกัน
จนในที่สุดร่างสูงก็ได้แต่ยืนมองคนรักที่เอาแต่หลบตาเขาแล้วก้มมองพื้นก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
“ผม..ได้ยินว่าพี่ไม่สบาย”
“....”
“ก็เลยมาหา---”
“ได้ยินมางั้นเหรอ”
“...”
“แล้วถ้าไม่ได้ยิน นายก็จะไม่มาหาพี่สินะ”
“....”
“ไม่เป็นไร กลับไปเถอะ พี่สบายดี”
พูดจบคนป่วยก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อแขนแกร่งของคนอายุน้อยกว่ารวบเอาตัวบางๆของตัวเขาเข้าไปในอ้อมกอด
“มินกยู ปล่อยพี่”
“ไม่ปล่อย”
ได้ยินดังนั้นคนป่วยก็เริ่มออกแรงดิ้นเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดนี้
ใจของเขาตอนนี้ไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอีกคน ทั้งโกรธ
ทั้งเสียใจจนอยากจะเดินออกไปให้พ้นๆจากหน้าเด็กคนนี้
แต่แล้วการกระทำทุกอย่างก็ต้องหยุดลงด้วยคำที่ออกมาจากปากของคนเด็กกว่า
“ผมขอโทษ”
“...”
“ผมขอโทษจริงๆที่พูดแบบนั้น”
“ขอโทษทำไม”
“...”
“นายไม่ผิดหรอก นายก็แค่เป็นห่วงน้อง”
“....”
“เรื่องแบบนั้น..
พี่รู้อยู่แล้วล่ะว่ายังไงมันก็คงเกิดขึ้น”
“....”
“พี่ผิดเองแหละที่สั่งทำโทษน้อง เพราะฉะนั้นนายไม่ต้องขอโทษพี่หรอก”
อ้อมแขนที่เคยรัดอย่างแน่นค่อยๆผ่อนแรงลง
มินกยูจับคนตัวบางให้หันหน้ามาหาเขาช้าๆโดยที่ยังไม่ปล่อยมือจากเอวของอีกคน
จนถึงตอนนี้ร่างบางยังคงไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาเหมือนเดิม
“ต้องขอโทษสิ”
“...”
“คนที่ผิดมันคือผมต่างหากล่ะ”
“...”
“ผมทำให้พี่เสียความรู้สึก
ผมทำให้พี่ร้องไห้”
“...”
“ดูสิ
ขนาดตอนนี้ผมยังทำให้พี่ร้องไห้เลย พี่จะบอกว่าผมไม่ผิดอีกเหรอครับ”
มือหนาถูกยกขึ้นมาเกลี่ยที่ขอบตาของอีกคนอย่างทะนุถนอม
ร่างบางที่เริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาเหมือนวันนั้นค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนเด็กกว่าช้าๆ
“...มินกยู”
“ผมขอโทษ ยกโทษให้ผมนะครับพี่วอนอู”
“....”
“นะครับ คนดีของผม”
ดวงตาทั้งสองสบมองกันเหมือนต้องการจะสื่อความรู้สึกผ่านทางสายตา
ก่อนระยะห่างของใบหน้าจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆจนริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน
-
CUT -
(ลิงค์ในไบโอทวิตนะจ๊ะ)
ขณะนี้เป็นเวลาประมาณเกือบสามทุ่ม
ร่างสูงเท้าคางมองคนอายุมากกว่าที่กำลังนอนหลับตาพริ้มด้วยความหลงใหล
หลังจากเผลอรังแกอีกฝ่ายที่ห้องครัวก่อนจะมาต่อกันที่ห้องนอนจนคนที่ใกล้จะหายป่วยอาจจะกลับมาป่วยอีกรอบ
เพราะความคิดถึงจากตอนที่วอนอูเข้าค่ายทำให้ไม่ได้เจอหน้ากันเลยเป็นเดือนๆ
บวกกับอารมณ์พาไปจึงทำให้เขากอบโกยกำไรจากร่างบางตรงหน้านี้โดยไม่คิดจะชั่งใจเลยแม้แต่น้อย
ร่างสูงยกนิ้วขึ้นเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าของคนรักออกก่อนจะเอานิ้วไปเกี่ยวปอยผมมาม้วนเล่น
ส่วนคนถูกกวนก็ได้แต่ครางฮึมฮัมอย่างรำคาญพร้อมกับฝังใบหน้าลงกับหมอนให้มากขึ้นเพื่อหลบสัมผัสที่กวนใจ
เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากคนขี้แกล้งได้เป็นอย่างดี
ผ่านไปสักพักคนที่นอนอยู่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
เปลือกตาบางกระพริบสองสามครั้งเพื่อปรับโฟกัสก่อนจะมอองไปยังคนที่นอนอยู่ข้างๆ โดยที่ร่างสูงเองก็ยังคงค้างอยู่ในท่าเดิมคือยังคงมองหน้าอีกคนอยู่นั่นแหละ
ดวงตาสองคู่สบตากันอย่างเงียบงัน ฝ่ายคนอายุน้อยกว่ากลืนน้ำลายเอื้อกเพื่อรอฟังคำด่าและการประทุษร้ายจากคนตรงหน้า
แต่สิ่งที่หลุดออกมาจากปากคนรักทำเอาร่างสูงถึงกับกลั้นยิ้มแทบไม่ทัน
“ทำแบบนี้ เดี๋ยวนายก็ติดไข้พี่หรอก”
…อา น่ารักชะมัด
“ติดก็ติดสิครับ
ถ้าผมติดไข้พี่ พี่ก็จะได้ดูแลผมไง”
“ใครจะไปดูแลคนอย่างนายกัน”
พูดจบก็พลิกตัวหันหลังให้คนรักทันที
ท่าทางนั้นทำเอาที่พยายามกลั้นยิ้มแทบตายถึงกับหลุดยิ้มออกมา มินกยูเขยิบตัวเข้าไปใกล้ร่างบางมากขึ้นพร้อมกับเอามือตวัดรอบเอวคอดให้เข้ามาใกล้กักตัวอีกคนไว้ในอ้อมกอดตัวเอง
“ปล่อยเลยนะ เด็กบ้า”
“ไม่ปล่อย~”
“ไมต้องมากอดเลย คนหื่น”
คนถูกกล่าวหาว่าหื่นเพียงแค่หัวเราะในลำคอก่อนจะยกมือขึ้นมาทาบกับมือของอีกคนแล้วค่อยๆประสานนิ้วลงไป
“พี่นี่น่ารักจังน้า แล้ว...หายโกรธผมรึยังครับ”
“...ถ้าโกรธอยู่จะยอมมั้ยล่ะ”
....แหม นาทีนี้คงไม่มีใครมีความสุขไปมากกว่าคิมมินกยูแล้วล่ะครับท่านผู้ชม
-
END(?) -
มาเอาของแถมก่อน
:
“เอ้อ
พี่วอนอูหิวมั้ยครับ ผมลืมว่าผมทำข้าวต้มไว้ให้พี่”
พอนอนไปได้สักพัก
จู่ๆคนเด็กกว่าก็ผงกหัวขึ้นมาถามคนรักถึงข้าวต้มที่อุตส่าห์เตรียมไว้ให้ ก่อนจะได้รับฝ่ามือฟาดลงมาหนึ่งทีพร้อมกับสายตามองค้อนอย่างหงุดหงิด
“นายทำพี่หิวจนหายหิวแล้วเด็กบ้า! ไว้กินพรุ่งนี้ละกัน พี่ง่วงแล้ว”
คนเด็กกว่าหลุดหัวเราะกับคำพูดของอีกคนก่อนจะล้มตัวลงนอนกอดคนรักของตัวเองเหมือนเดิม
-
END -
โอเคจบจริงๆแล้ว 55555
เห็นหลายคนเรียกร้องถึงภาคต่อและในที่สุดเราก็มีโอกาสแต่ง
ไหนๆก็ไหนๆแล้วใส่คัทไปด้วยเลยละกัน
5555555
นาทีนี้อยากจะแหมมินกยูจากไทยไปถึงดาวอังคาร
นี่มาง้อหรืออะไรกันแน่
ได้กำไรไปเต็มๆอ่ะ55555
คือไม่ว่าเริ่มเรื่องจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเราก็สามารถลากเข้าเอ็นซีได้ค่ะ
เป็นความสามารถพิเศษ(มีด้วยเหรอ?) 5555555
สำหรับการหายไปเกือบปี
ไม่มีอะไรจะแก้ตัวค่ะ // กราบขอโทษงามๆ
และก็ขอขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่ไม่หายไปไหน(และตามมาทวงบ้างก็มี)
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ // รัก ;///;
คอมเม้นเป็นกำลังใจหรือสกรีมในแท็ก #Ficstory17 ได้เหมือนเดิมนะคะ
ผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัย
ติชมได้เดี๋ยวจะนำไปปรับปรุงค่ะ
สุดท้ายนี้ก็ฝากติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปของด้วยนะคะ
เลิฟยูว
ภูฟ้า.
ขอขอบคุณธีมสวยๆจาก
ความคิดเห็น