คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [SF] Joshua x Jeonghan : Kindergarten Teacher
Pairing
: Joshua (Hong Jisoo) x Yun Jeonghan
Author : A$her
ชื่อของผมคือ ยุนจองฮัน อายุ 26 ปี
ปัจจุบันทำงานเป็นคุณครูโรงเรียนอนุบาลซารัง ชีวิตแต่ละวันก็ไม่มีอะไรมากครับ
ทุกๆวันก็อยู่แต่กับเด็กๆ มันก็ดูมีสีสันดีนะครับ(หัวเราะ)
“จียอนนาา คุณพ่อมารับแล้วค่ะ”
“ค่าาาา”
ผมเรียกเด็กผู้หญิงตัวน้อยหน้าตาน่ารักที่กำลังนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่กับเด็กๆอีก3-4คน
เธอหันมาขานรับก่อนจะรีบเก็บของ ไปหยิบกระเป๋าและวิ่งมาจับมือผม
จียอน หรือฮงจียอน เป็นเด็กผู้หญิงวัย 5 ขวบ หน้าตาน่ารัก
ผมสีดำซึ่งมักจะถูกทำเป็นแกละสองข้างทุกวัน เธอเป็นเด็กร่าเริง
และค่อนข้างสนิทกับผม ก็เหมือนลูกศิษย์คนโปรดนั่นแหละครับ
ผมจูงมือเธอออกมาด้านหน้าอาคารเรียนใกล้กับประตูรั้วซึ่งผู้ปกครองส่วนใหญ่จะมารอรับนักเรียนตรงนี้
“คุณพ่อ!”
จียอนร้องขึ้น ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดเอวชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่ยืนรออยู่
ใบหน้าหล่อเหลาขยับยิ้มก่อนจะย่อตัวลงให้อยู่ในระดับสายตาเดียวกันกับเด็กน้อย
มือหนายกขึ้นลูบหัวลูกสาวของเขาเบาๆพร้อมเอ่ยถาม
“ว่าไงคะคนเก่ง วันนี้เป็นเด็กดีรึเปล่า?”
“แน่นอนค่ะ จียอนเป็นเด็กดีทุกวันอยู่แล้วค่ะคุณพ่อ”
จียอนตอบผู้เป็นพ่อด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
จนผมอดยิ้มตามการกระทำของสองพ่อลูกไม่ได้
“อ้าว คุณครูจองฮัน สวัสดีครับ”
เขาหันขึ้นมาทักผม ด้วยรอยยิ้มที่ผมคิดว่าไม่ว่าใครเห็นก็คงต้องเขิน
ใช่ครับ...... แม้แต่ผมก็ด้วย
“อ่า.. สวัสดีครับคุณจีซู วันนี้เลิกงานเร็วเหรอครับ?” ที่ถามก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ
ด้วยความที่เขาเป็นเจ้าของธุรกิจนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แถมตอนนี้ธุรกิจนั้นก็กำลังไปได้ดี
จึงทำให้เขางานล้นมือจนต้องมารับจียอนหลังพระอาทิตย์ตกดินโน่น และมีบางครั้งที่ผมต้องพาจียอนกลับบ้านไปกับผมด้วย
ส่วนคุณแม่ของจียอน เธอหย่ากับคุณจีซูไปตั้งแต่จียอนอายุแค่
2 ขวบแล้วครับ คุณจีซูบอกว่าเป็นเพราะเข้ากันไม่ได้ และเธอเองก็พบกับรักใหม่
สุดท้ายก็เลยลงเอยด้วยดีโดยจียอนเลือกที่จะอยู่กับฝ่ายพ่อและเธอเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร
“ครับ พอดีผมสัญญากับตัวเล็กไว้ว่าจะพาเธอไปทานเค้กที่ร้านโปรดของเธอน่ะครับ
เลยยกเลิกการประชุม”
“อ่า งั้นเหรอครับ”ผมไม่รู้จะตอบอะไรจึงขานรับไปแค่นั้น
แล้วก็รู้สึกถึงแรงกระตุกที่ชายเสื้อจึงก้มลงไปมอง
“คุณครูจองฮัน ไปทานเค้กด้วยกันมั้ยคะ?”
“เอ๋? ครูเหรอ??”
“ใช่ค่ะ เค้กอร่อยมากเลยนะคะ จียอนอยากให้คุณครูไปทานด้วยกัน”
“มันจะดีเหรอ ครูเป็นคนนอกนะ” จริงๆนะครับ
ก็ตอนแรกเขาจะไปกันแค่พ่อลูกนี่นา
“คุณครูจองฮันไม่ใช่คนนอกซะหน่อยนะคะ”
“อ่า... แต่ว่า”
“คุณครูไม่สะดวกเหรอครับ?” นั่นไง เมื่อคนลูกดูท่าจะอ้อนผมไม่สำเร็จ คนพ่อก็เริ่มลงมือแทน
“คือผมก็...ไม่เชิงไม่สะดวกหรอกครับ ผมเกรงใจมากกว่า”
“เกรงใจทำไมครับ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลซะหน่อย เนอะ
จียอน” ประโยคแรกหันมาพูดกับผมก่อนจะหันไปหาลูกสาวตัวน้อยเพื่อหาแนวร่วม
“ใช่ค่ะ ไปด้วยกันนะคะ นะค้าาาาคุณครู”
จียอนเริ่มการอ้อนอีกครั้ง โดยคราวนี้เดินมาจับแขนผมแล้วเขย่าเบาๆ
“นะครับ คุณครูจองฮัน” คุณจีซูหันมามองผมด้วยแววตาเหมือนจะอ้อนที่ถ้าหากเป็นสาวสูงวัยหน่อยได้มาเห็นเป็นต้องใจอ่อนยวบ
เอาเข้าไป พ่อลูกคู่นี้
“....ก็ได้ครับ”
“เย้/เย้” แล้วสองพ่อลูกก็หันไปแท็กมือให้กันอย่างสนุกสนาน
ดูเหมือนชีวิตจะ...ดี๊ดีนะครับ
ผมบอกเลยว่าผมไม่เคยเอาชนะคุณจีซูได้เลยสักครั้ง
ใช่ครับ ได้ยินไม่ผิดหรอก คุณจีซูนั่นแหละ ถ้าเป็นลูกอ้อนของจียอน ผมก็พอจะหาเหตุผลร้อยแปดมาปฏิเสธได้
ก็เด็กเขาใสซื่อนี่ครับ แต่พอเป็นคุณจีซู
ผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วทำไมตัวผมถึงใจอ่อน เพราะรอยยิ้มที่หล่อราวกับเทพบุตร? เพราะแววตาที่แพรวพราวราวกับราชสีห์เวลาล่าเหยื่อ? เพราะน้ำเสียงทุ้มหูที่ฟังแล้วร่างกายแทบอ่อนระทวย?
....หรือเป็นเพราะใจของผมที่ยอมเขามาตั้งแต่แรก?
ใช่ครับ ผมชอบเขา ชอบมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาพาจียอนมาสมัครเข้าโรงเรียนนี้
ชายหนุ่มหน้าตาดีที่มีท่าทางอบอุ่นและเป็นกันเอง
แล้วก็ดูรักลูกสาวมากกว่าสิ่งใดในโลกนี้ ผมที่เป็นคนรักเด็กอยู่แล้วสัมผัสได้จากรอยยิ้ม
คำพูด และการกระทำของเขาที่มีต่อจียอน เท่านั้นแหละครับ รู้ตัวอีกทีผมก็ชอบเขาไปแล้ว
แต่บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจการกระทำของเขา
เขาทำเหมือนกับว่ากำลัง...จีบ จะใช้คำนี้ได้มั้ยนะ
เพราะเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีเด่นชัดขนาดนั้น
แต่ก็มีชวนไปทานข้าว(สองต่อสองโดยไม่มีจียอน) ชวนไปเดินห้าง
หรือบางครั้งก็โทรหรือส่งข้อความมาหา ‘อรุณสวัสดิ์ครับคุณครู’
‘คุณครูทานอะไรหรือยังครับ’ ‘ทำอะไรอยู่เหรอครับ’
แทบจะวันละ3เวลาหลังอาหารเลยครับ เป็นคุณ
คุณจะคิดว่าโดนจีบอยู่รึเปล่าล่ะครับ?
“เอาล่ะ ถึงแล้วครับ”
“เย้~”
ผมหลุดออจากภวังค์ตอนที่ได้ยินเสียงของคุณจีซูพูดขึ้น
ก่อนจะตามด้วยจียอนที่เปิดประตูก้าวลงไป
เมื่อเราเข้ามาด้านในร้านและหาที่นั่ง(โดยจียอน)
เราก็เลือกนั่งที่มุมเกือบในสุดของร้าน ก่อนที่พนักงานจะเข้ามารับออเดอร์
“ตัวเล็กทานอะไรดีคะ”
“บลูเบอร์รี่โยเกิร์ตชีสเค้กค่ะ!”
คุณจีซูหันไปถามลูกสาวก่อนจียอนจะตอบกลับด้วยเสียงใสแจ๋ว
ผมได้แต่มองให้สองพ่อลูกที่กำลังช่วยกันเลือกเค้กอีกหลายชิ้นเพื่อห่อกลับไปกินที่บ้านด้วยรอยยิ้ม
“แล้วคุณครูทานอะไรดีครับ”คุณจีซูถามผมที่เอาแต่นั่งเงียบ
“เอ๋ ครับ?”
“เค้กน่ะครับ
คุณครูอยากทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ หรือว่าอยากดื่มเครื่องดื่มแทน”
“อ่า...” ถ้าผมตอบเขาไปว่าอะไรก็ได้ มันคงจะเสียมารยาทสินะครับ
“งั้นเอาเป็น...สตรอว์เบอร์รี่ดีไลท์ละกันครับ” ผมหันไปบอกพนักงาน
ก่อนหันหน้ากลับมาหาคุณจีซูแล้วก็ได้พบกับรอยยิ้มที่ทำเอาหัวใจแทบจะหยุดเต้นกับแววตาที่เหมือนจะเอ็นดู
“อะ..อะไรเหรอครับ”
“เปล่าครับ คุณครูจองฮัน ชอบทานสตรอว์เบอร์รี่เหรอครับ”เขาถามพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบหัวจียอนเบาๆ
“อ่า... ใช่ครับ มันแปลกเหรอครับ” ก็เป็นผู้ชายแท้ๆแต่ดันชอบทานสตรอว์เบอรร์รี่เนี่ย
“ไม่หรอกครับ ผมว่า...”
เขาเงียบนิดนึงราวกับกำลังคิด
ก่อนจะหลุบตาลงมองมองจียอนที่กำลังนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์ แล้วหันขึ้นมาสบตากับผมที่รอฟังอยู่
“ดูน่ารักสมเป็นคุณดีนะครับ”
"...."
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งถูกยิงด้วยกระสุนเข้ากลางหัวใจเลยครับ ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เม้มปากและก้มหน้าลงเพื่อซ่อนหน้าแดงๆของตัวเองไว้ เขินสิครับงานนี้ ผมนี่ถึงกับไปไม่เป็นเลยครับ
“หึๆ” นั่น ยังจะมาหัวเราะอีก
“คุณครูจองฮันเป็นอะไรเหรอคะ
หน้าแดงมากเลย”
“มะ..ไม่เป็นไรค่ะจียอน
ครูโอเค” ผมเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เงยขึ้นมาหมด ขืนทำแบบนั้น
พ่อตัวดีที่แกล้งผมก็ได้เห็นหมดพอดีสิว่าผมหน้าแดง
“แต่คุณครูหน้าแดงมากเลยนะคะ
คุณครูไม่สบายเหรอ?” จียอนถามต่อด้วยน้ำเสียงใสซื่อ จียอนคะ ไม่ต้องเป็นห่วงครูขนาดนี้ก็ได้
“ครูไม่เป็นไรจริงๆค่ะจียอน”
เมื่อผมรู้สึกว่าเริ่มควบคุมเลือดที่กองอยู่บนหน้าได้แล้วจึงหันขึ้นมาตอบจียอนด้วยรอยยิ้ม
พอดีกับที่เค้กมาเสิร์ฟที่โต๊ะเรา
เมื่อนั่งทานเค้กไปได้สักพักผมก็เริ่มสังเกตว่าจียอนทานเลอะไม่เบานะครับ
ด้วยความเคยชินที่ผมดูแลเธอที่โรงเรียน ผมจึงหยิบเอาทิชชู่ขึ้นมาและเช็ดมุมปากเธอเบาๆ
“ขอบคุณค่ะคุณครู”
จียอนยิ้มให้ผมก่อนจะลงมือทานเค้กต่ออย่างเอร็ดอร่อย
ผมเหลือบตาไปมองคนที่นั่งตรงข้าม
เราจึงบังเอิญสบตากันพอดีเพราะคุณจีซูก็เหมือนจะกำลังมองผมอยู่เหมือนกัน
“อะไรเหรอครับ?”
ผมเอ่ยถามออกไปเพราะคงไม่ดีต่ออัตราการเต้นของหัวใจผมแน่ๆถ้าเรายังจ้องตากันอยู่แบบนี้
“เปล่าครับ” เขายิ้มก่อนจะพูดต่อ “เช็ดให้คนอื่น
แต่ตัวเองก็ทานเลอะนะครับ”
ยังไม่ทันที่สมองของผมจะได้ประมวลผล ปลายนิ้วเย็นก็ยื่นมาก่อนจะปาดเอาครีมเค้กออกจากมุมปากผม
ก่อนที่เขาจะเอาครีมนั่นเข้าปากตัวเอง
ปัง!! นัดที่สอง คือปาดออกเฉยๆก็ได้ครับ
ทำไมต้องเอาใส่ปากตัวเอง แบบนั้นเขาเรียกว่าจูบทางอ้อมมั้ยครับนั่น (อันนี้ไรท์ก็ไม่แน่ใจนะ)
“คุณครูหน้าแดงอีกแล้วอ่ะ
คุณครูต้องไม่สบายแน่ๆเลย”
“คือ..ครูไม่ได้..”
“คุณพ่อขา เราต้องรีบพาคุณครูกลับบ้านนะคะ”
“ได้ตามคำบัญชาขอรับเจ้าหญิง”
คุณจีซูหันไปตอบจียอนก่อนจะหันหน้ามายิ้มเหมือนกลั้นขำให้ผม
นี่สนุกมากมั้ยพ่อคุณ สุดท้ายพวกเราก็เลยรีบทานเค้กให้หมดเพราะต้องมาส่งผมที่บ้าน(ตามคำสั่งของจียอน)
“ถึงแล้วครับคุณครู”
“ขอบคุณนะครับที่วันนี้พาไปทานเค้ก
แล้วก็ยังมาส่งที่บ้านอีก”
“เรื่องเล็กน้อยน่ะครับ ถ้าคุณครูชอบ
ผมพาไปอีกได้นะครับ”
หือ... หมายความว่ายังไงครับ ทำไมขี้อ่อยอย่างนี้ล่ะครับ
ประโยคนั้นมันแปลได้หลายความหมายนะครับคุณจีซู
“...อ่า ขอบคุณนะครับ
งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะคะจียอน”
“ค่าาาา ฝันดีนะคะคุณครู”
“ฝันดีเช่นกันครับ”
ผมยิ้มรับ ก่อนจะปิดประตูลงจากรถ แล้วจู่ๆกระจกรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับก็ถูกเลื่อนลงโดยคนขับซึ่งเอียงหน้าลงในองศาที่สามารถมองเห็นหน้าผมได้
“แล้วผมล่ะครับคุณครู?”
“เอ๋”
“ที่บอกจียอนน่ะครับ บอกผมบ้างสิ”
เขาบอกผมด้วยน้ำเสียงเหมือนจะงอนน้อยๆ
อะไรเหรอครับที่ผมบอกจียอนน่ะ?
“....ฝันดีน่ะเหรอครับ? อ่า.. ฝันดีครับคุณจีซู”
“ฝันดีเช่นกันครับคุณครู ฝันถึงผมด้วยนะ
แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ”
พูดไว้แค่นั้นก่อนจะขับรถออกไป ส่วนผมน่ะเหรอ? อึ้งสิครับ!! ทั้งอึ้งทั้งเขินเลย
อะไรของเขาเนี่ยยย ทำไมวันนี้ถึงได้หยอดเอาๆ
นี่เขาจะรู้ตัวบ้างมั้ยเนี่ยว่าทำผมหวั่นไหวขนาดไหน
ถ้าไม่ได้ชอบ...ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยเล่า มันน่านัก
ก็ได้แต่คิดอยู่คนเดียวแหละครับ
สุดท้ายผมก็เดินเข้าบ้างด้วยอารมณ์ขุ่นมัว รีบอาบน้ำเข้านอนดีกว่า
เพราะพรุ่งนี้ผมยังต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียนอีก
แต่ถ้าคืนนี้...ผมฝันถึงคุณจีซูจริงๆก็ดีสิ เนอะ
และวันนี้ก็เป็นอีกวันและเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมาที่ผมอยู่แต่กับเด็กๆ
อา เด็กๆน่ารักจังเลยยยยยยยย
“คุณครูจองฮันคับบบ
ซอกมินเค้าแย่งรถของผมไปอ่าาาา”
ผมหันไปตามเสียงก็เห็นเด็กผู้ชายแก้มป่องคนหนึ่งวิ่งเข้ามากอดเอวผม
ก่อนที่เค้าจะชี้ไปทางเด็กผู้ชายอีกคนที่ตัวสูงกว่าเค้าซึ่งกำลังทำหน้าบึ้งมองมาทางนี้อยู่
“หืม? ซอกมินนา
อย่าแกล้งซึงกวานสิครับครับ” ผมเดินเข้าไปหาซอกมิน
เด็กผู้ชายที่ซึงกวานบอกเอารถของเล่นของเขาไป
“ก็ซึงกวานเขาไม่เล่นกับผมนี่คับ”
“ก็นายชอบแกล้งเราอ่ะ”
“ก็นายน่าแกล้งนี่ แกล้งแล้วสนุก”
“งื้ออ คุณครูวววววววว”
“ครับๆๆ ทั้งสองคน
ไม่เอาไม่ทะเลาะกันสิครับ”
เมื่อเถียงไม่ชนะ
ซึงกวานก็เรียกหาผมอีกครั้ง โถ่ เด็กๆ อย่าทะเลาะกันสิครับ ผมนั่งยองๆก่อนจะจับมือของทั้งสองคนขึ้นมาคนละข้าง
“เป็นเพื่อนกันต้องไม่ทะเลาะกันนะครับ
ซอกมินนา เราต้องไม่แกล้งซึงกวานนะครับ เขาตัวเล็กกว่าเราอีก เราไปแกล้งเค้ามันไม่ถูกนะครับ
รับปากครูนะครับว่าจะไม่แกล้งซึงกวาน”
“...ครับ”
“ซึงกวานนา
ซอกมินเค้ารับปากแล้วว่าจะไม่แกล้งเรา เราก็เล่นกับเขาดีๆนะครับ เป็นเพื่อนกันต้องเล่นกันดีๆนะ”
“...ก็ได้ครับ”
“เอาล่ะ งั้นก็เล่นกันดีๆ
อย่าทะเลาะกันนะทั้งสองคน”
ผมยิ้มให้กับทั้งสองคน
ก่อนจะเอามือที่จับอยู่คนละข้างมาประกบใส่กันให้ทั้งสองคนจะมือกัน
แล้วดันหลังให้พวกเขาเข้าไปนั่งเล่นในห้องของเล่นเหมือนเดิม
“ใจดีสมเป็นคุณครูนางฟ้าเลยนะจองฮัน”
“หืม? ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกน่าโดยุน”
ผมหันไปตอบเพื่อนสนิทของผมที่เดินเข้ามาหาหลังจากพาเด็กๆอีกห้องหนึ่งไปนอนกลางวันแล้ว
“ไม่ต้องมาปฏิเสธเลย
เพราะแบบนี้แหละเขาถึงได้ตามจีบนายอ่ะ”
“ใคร? ใครตามจีบฉัน”
“ไม่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้เลย ก็คุณพ่อของจียอนไง
ฉันรู้นะ ว่านายชอบเขา”
ผมหน้าแดงขึ้นทันทีหลังจากโดนโดยุนเอาเรื่องจริงมาพูด
นายเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจฉันดีเกินไปแล้วนะ โดยุน
“และฉันก็มั่นใจมากด้วยว่าเขาก็ชอบนาย”
“ขะ...เขาจะมาชอบฉันได้ยังไง ฉันเป็นผู้ชายนะ
แล้วเขาก็เป็นผู้ชาย เคยแต่งงานแถมยังมีลูกแล้วด้วย”
“โหยย ทำไมจะชอบไม่ได้ล่ะ
นายน่ะสวยกว่าผู้หญิงอีกนะ แล้วเขาก็เลิกกับภรรยาเพราะเข้ากันไม่ได้ไม่ใช่เหรอ
บางทีอาจจะเข้ากับผู้ชายได้ดีกว่าก็ได้ อีกอย่าง
นายน่ะเข้ากับลูกสาวเขาได้ดีขนาดนี้ มันยังจะมีปัญหาอะไรอีกล่ะ?”
“ฉันเข้ากับจียอนได้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบฉันนะ”
“ไม่รู้ล่ะ ฉันว่าอีกไม่นาน
นายต้องได้เป็นคุณนายตระกูลฮงแน่ๆ อ้อ จริงสิ เมื่อกี๊โทรศัพท์มือถือของนายดังน่ะ
แต่ฉันไม่ได้รับให้นะ เห็นว่าเป็นชื่อเขา คิดว่าให้นายรับเองดีกว่า”
“ห๊ะ โอเค ขอบคุณนะ” ผมรีบขอบคุณเพื่อนสนิทก่อนจะรีบมาที่ห้องพักครูเพื่อเปิดโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
อา โทรมาจริงๆซะด้วยสิ ต้องรีบโทรกลับซะแล้ว
‘ยอโบเซโย’
“อ่า คุณจีซู
โทรหาผมมีอะไรมีอะไรเหรอครับ”
‘หืม
คุณต่างหากล่ะครับที่โทรหาผม’
“คุณ จี ซู”
‘55555 ผมแซ็วเล่นน่ะครับ
คือพอดีว่าวันนี้ผมติดประชุมดึกน่ะ คิดว่าคงไปรับตัวเล็กไม่ทัน
ถ้ายังไงผมขอรบกวนฝากตัวเล็กไว้กับคุณครูก่อนได้มั้ยครับ’
“อ๋อ ได้สิครับ”
‘ขอบคุณครับ
ถ้าอย่างงั้นรบกวนด้วยนะครับ’
“ไม่เป็นไรครับ
สวัสดีครับ”
ผมกดวางสายก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้เหมือนเดิม
นี่ทำไมผมต้องรู้สึกผิดหวังนิดๆด้วยล่ะที่เค้าโทรมาเพื่อบอกแค่นี้
นี่ผมหวังอะไรอยู่รึไง?
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนผมก็เข้าไปบอกจียอนว่าวันนี้เธอต้องกลับบ้านกับผมเพราะคุณพ่อของเธอติดประชุม
เธอก็ไม่ได้มีท่าทีผิดหวังอะไรนะครับ ดูท่าจะดีใจซะด้วยที่ได้ไปบ้านผม(ดีใจจัง)
ผมพาเธอเข้ามานั่งเล่นในห้องนั่งเล่น
สอนการบ้านของวันนี้และก็พาเธอดูการ์ตูนพร้อมกับวาดรูป
รู้สึกเหมือนมีลูกสาวเลยครับ ผมอยากให้เธอกลับบ้านกับผมทุกวันเลย ผมนั่งมองเธอวาดรูปไปได้สักพักก็หลือบไปมองนาฬิกา
อ้าว จะทุ่มนึงแล้วเหรอเนี่ย
“จียอน หิวรึยังคะ”
“อืมม หิวนิดหน่อยค่ะ”
“ถ้างั้น... อาหารเย็นทานอะไรดีคะ?”
“ข้าวผัดกิมจิค่ะ! ข้าวผัดกิมจิของคุณครูจองฮันอร่อยที่สุดเลย ใส่ไข่ดาวด้วยนะคะ”
“555 ได้เลยขอรับเจ้าหญิง”
เมื่อได้เมนูแล้ว ผมก็เข้ามาทำอาหารในครัว เมื่ออาหารเสร็จในขณะที่ผมกำลังจะยกออกไปให้จียอน
ผมก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าประตูก่อนจะได้ยินเสียงจียอนตะโกนออกมา ‘คุณพ่อ!’ ผมรีบถอดผ้ากันเปื้อนก่อนจะเดินออกไปเพื่อเปิดประตูรั้ว
ผมเปิดประตูออกเพื่อให้คุณจีซูเข้ามานั่งในห้องนั่งเล่นก่อน
จะให้ยืนคุยอยู่ที่หน้าบ้านมันก็ยังไงๆนะครับ
“คุณครูจองฮัน ขอบคุณนะครับที่ดูแลตัวเล็กให้”
“ไม่เป็นไรครับผมยินดี แล้วนี่คุณจีซูทานอะไรมารึยังครับ”
“อ๋อ ยังเลยครับ
ผมคิดว่าจะพาตัวเล็กออกไปทานพอดี”
“งั้นถ้าไม่รังเกียจ
อยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันมั้ยครับ?”
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
ผมก็เลยตัดสินใจชวนเขาให้อยู่ทานอาหารเย็นด้วยกัน ก็ผมเพิ่งทำเสร็จพอดี
ถ้าหากเขาพาจียอนออกทานข้างนอก ข้าวผัดกิมจิของผมก็กลายเป็นหมันพอดีสิครับ
“เอ่อ.. จะดีเหรอครับ”
“ดีสิคะคุณพ่อ
คุณครูทำอาหารอร่อยมากนะคะ”
“แต่ก็เกรงใจคุณครูนะครับ...”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเพิ่งทำเสร็จพอดี”
“นะคะคุณพ่อ คุณครูอุตส่าห์ทำแล้ว ไม่งั้นคุณครูจะเสียใจนะคะ”
เมื่อเจอทั้งผมทั้งลูกสาวสุดที่รัก
มีเหรอครับที่เขาจะปฏิเสธ
“...งั้นก็รบกวนด้วยนะครับ”
เพราะมีคุณจีซูเพิ่มาอีกคนผมก็เลยทำอาหารเพิ่มมาอีกหลายอย่าง
ก่อนจะเอามาเสิร์ฟให้สองพ่อลูกทาน
“คุณครูทำอาหารอร่อยมากเลยนะครับ”
“อ่า ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ คือปกติผมทำอาหารทานเองน่ะครับ
เพราะอยู่คนเดียวเลยไม่ค่อยออกไปทานข้างนอก”
“ผมน่ะทำอาหารไม่ได้เรื่องเลยครับ
เพราะงั้นก็เลยต้องพาตัวเล็กออกไปทานข้างนอกประจำ”
“งั้นเหรอครับ”
“แต่...ถ้าได้คนมาทำอาหารอร่อยๆแบบนี้ให้ทานที่บ้านก็ดีนะครับ”
....ประโยคเมื่อกี้
คงไม่ได้ความว่าให้ผมไปเป็นพ่อครัวที่บ้านใช่มั้ยครับ?
“นั่นสิคะ
ถ้าคุณครูมาทำให้ทาน จียอนก็จะได้ทานอาหารอร่อยๆแบบนี้ทุกวันเลย”
จียอนเสริมขึ้นด้วยรอยยิ้ม
แหม จียอนคะ แค่คำพูดของคุณพ่อหนูครูก็ไปไม่เป็นแล้วค่ะ
ไม่ต้องช่วยชงก็ได้
จากนั้นเราก็นั่งทานอาหารกันโดยบนโต๊ะอาหารมีแต่เสียงเจื้อยแจ้วของจียอนที่เล่าเรื่องที่โรงเรียนให้คุณพ่อของเธอฟัง
แล้วจู่ๆจียอนก็หันมาเรียกผม
“จริงสิ คุณครูจองฮันขา”
“คะจียอน”
“คือว่า... พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของจียอนน่ะค่ะ
คุณครู...ไปเที่ยวสวนสนุกกับจียอนนะคะ”
“หืม? ให้ครูไปฉลองวันเกิดด้วยเหรอ?”
“ใช่ค่ะ
จียอนอยากให้วันเกิดปีนี้ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันน่ะค่ะ” คุณจีซูที่ได้ยินคำพูดของลูกสาวก็ทำหน้างงๆก่อนจะหันมาถาม
“พร้อมหน้าพร้อมตา? แต่คุณพ่อก็ไปฉลองกับตัวเล็กทุกปีนี่คะ”
“แต่หลังๆมานี้ไม่มีปีไหนที่มีคุณแม่นี่คะ”
“.....”
“.....”
เอาแล้วไงครับ ใครจะคิดว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆวัยห้าขวบกว่าจะมีความคิดแบบนี้ได้
ทั้งผมทั้งคุณจีซูต่างก็เงียบเมื่อได้ยินจียอนพูดแบบนี้
พวกเราหันมามองหน้ากันแว๊บนึง ก่อนที่ผมจะหันไปพูดกับจียอน
“..ถ้าอย่างงั้น ปีนี้จียอนก็จะมีคุณแม่แล้วนะ
เดี๋ยวครูจะเป็นคุณแม่ให้จียอนเอง โอเคมั้ยคะ?”
“จริงเหรอคะ!? ไชโย!! ดีใจจังเลย คุณพ่อขา ปีนี้จียอนจะได้มีคุณแม่แล้ว”
เด็กน้อยยิ้มร่ารีบหันไปบอกคนเป็นพ่อ
ผมก็ดีใจนะครับที่จะได้เธอเป็นลูกสาว(หนี่งวัน) แต่เธอดูจะดีใจมากเหมือนได้ผมเป็นแม่จริงๆเลยนะครับเนี่ย
“ถ้างั้นวันนี้เราก็รีบกลับกันนะคะตัวเล็ก
‘คุณแม่’ จะได้พักผ่อนเอาแรง
เนอะ”
แล้วคุณพ่อก็ทิ้งระเบิดให้ผมเป็นรอบสุดท้ายของวันนี้
ก่อนจะเดินทางกลับบ้านพร้อมกับลูกสาวตัวน้อย
เดี๋ยวสิ นี่เขา...คิดยังไงกับผมกันแน่เนี่ย?
และแล้ววันเกิดของจียอนก็มาถึงผมที่ยืนเลือกเสื้อผ้าอยู่หน้าตู้ของตัวเองมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังเลือกไม่ได้สักที
สุดท้ายแล้วผมก็เลือกหยิบชุดที่เพื่อนๆบอกว่าผมใส่แล้วดูดีที่สุดมาสวม ก่อนจะลงมาเพื่อทำผม
ในที่สุดผมก็แต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จทุกอย่าง
แล้วมายืนมองตัวเองที่อยู่หน้ากระจก วันนี้ผมเลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในสวมทับด้วยสเวตเตอร์ไหมพรมสีเหลืองอ่อนกับกางเกงสกินนี่ขายาวสีขาวและรองเท้าหุ้มข้อสีน้ำตาลดูเรียบๆเข้ากับฤดูใบไม้ร่วงตอนนี้
ผมที่ยาวเลยบ่าผมก็ปล่อยให้มันสยายออกโดยหวีนิดหน่อยเพื่อให้ดูเรียบร้อย
.....แค่นี้ก็น่าจะโอเคแล้วมั้ง
ผมยืนชื่นชมตัวเองในกระจกอยู่สักครู่ก่อนจะได้ยินเสียงกริ่งประตู
คุณจีซูมาถึงแล้ว ผมก็รีบเก็บเอาของที่จำเป็น แล้วล็อคประตูบ้านเพื่อไม่ให้เขารอนาน
เมื่อมาถึงสวนสนุกผมถึงได้สังเกตชุดของทั้งสองคนอย่างชัดๆ
วันนี้คุณจีซูมาสไตล์เรียบๆสวมเสื้อเชื้ตสีขาวพับแขนถึงศอกเก็บชายเสื้อเข้าในกางเกงยีนส์ครีมอ่อนๆกับรองเท้าสีน้ำตาลเข้ม
ส่วนจียอนมาในชุดกระโปรงแขนยาวสีชมพูปกคอบัวสีขาวกับรองเท้าคัตชูสีแดง
ผมสีดำที่ปกติจะมัดแกละถูกรวบขึ้นโดยผูกโบว์สีขาวดูราวกับตุ๊กตาตัวน้อย
.......ดูๆไปแล้ว
ก็ดูเป็นครอบครัวสุขสันต์ดีนะครับ
“ตัวเล็กอยากเล่นอะไรก่อนดีคะ” คุณจีซูก้มลงไปถามลูกสาวตัวน้อย
“ม้าหมุนค่ะ จียอนอยากเล่นม้าหมุน”คุณลูกสาวก็ตอบคุณพ่อด้วยท่าทีตื่นเต้น
“งั้นไปกันเลยค่ะ”
ตอนนี้จียอนกำลังนั่งอยู่บนม้าสีขาวตัวหนี่งที่ขยับขึ้นลงและค่อยๆหมุนไปตามเพลงพร้อมกับหันมาโบกไม่โบกมือให้เรา
ผมกับคุณจีซูได้แต่ยืนมาหนูน้อยเล่นอยู่คนเดียวเพราะเธอไม่ยอมให้พวกเราขึ้นไป(ดูเหมือนจะอยากเล่นคนเดียว)
“คุณครูจองฮันเลือกชุดเองเหรอครับ?”
“อ๋อ ครับ มันไม่เข้ากันเหรอครับ?”
เมื่อถูกเค้าทักผมก็ก้มชุดของตัวเองทันที
ใครๆก็เป็นนะครับ ถ้าหากว่าถูกทักเราก็จะเกิดความไม่มั่นใจขึ้นมาทันที
“มันเข้ากันดีครับ ผมแค่คิดว่า... คุณครูในชุดลำลองดูน่ารักกว่าอยู่ในเครื่องแบบคุณครูตั้งเยอะน่ะครับ”
ฉ่า.. ผมรู้สึกเหมือนหน้าตัวเองกำลังจะไหม้เลยครับ
ทำไมเค้าต้องชมพร้อมกับมองผมด้วยสายตาแบบนี้ด้วยเนี่ย
ถ้าผมละลายลงไปได้นี่ทำไปแล้วอ่ะ
“อ่า... ขอบคุณครับ วันนี้...คุณจีซูก็..ดูดีกว่าทุกวันนะครับ”
เสียงของผมแผ่วลงเรื่อยๆมันเขินนะครับจู่ๆจะให้ไปชมเขาน่ะ
“หึๆ ขอบคุณครับ”
ว่าไว้แค่นั้นก่อนจะหันไปโบกมือให้กับลูกสาวต่อ
โอยยย เขินอ่ะ รู้สึกเหมือนตัวจะระเบิดเลย ฮืออออ
เมื่อจียอนลงมาจากม้ามหมุนแล้วเราก็ไปเดินเล่น
ไปดูขบวนการแสดงของทางสวนสนุก ไปทานไอศกรีม แล้วก็ไปเล่นของเล่นอีก
โดยตลอดเวลาตั้งแต่เช้าจียอนก็จะเรียกผมว่า ‘คุณแม่’ ตามที่เธอต้องการในวันเกิด
“คุณแม่ขา จียอนอยากเล่นถ้วยหมุน”
“ได้สิคะ ไปเล่นกันนะ”
แล้วผมก็จูงมือจียอนไปซื้อบัตรและขึ้นไปเล่นถ้วยหมุนตามคำขอของเธอแล้วปล่อยให้คุณจีซูยืนดูพวกเราจากตรงรั้วกั้น
จียอนดูสนุกมาก ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกดีที่สามารถช่วยเติมเต็มความรู้สึกของเธอได้
เมื่อเสร็จจากถ้วยหมุนพวกเราก็ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้อีกหน่อยเพื่อถ่ายรูป
ผมก็จูงมือจียอนเดินโดยมีคุณจีซูทำหน้าที่เป็นตากล้องให้
ซึ่งผมก็ไปเปลี่ยนมือเป็นตากล้องให้เป็นบางครั้ง พวกเราถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ
ผมบอกตรงๆเลยนะว่ามันมีความสุขมาก จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เชื่อในสายตาตัวเอง
ว่าตอนนี้ผมกำลังสวมบทบาทเป็น ‘คนรัก’ให้กับคนที่ตัวเองชอบ
เป็น ‘คุณแม่’ให้กับลูกของเขา
.....ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวลาแค่วันเดียวก็เถอะ
“คุณพ่อขา
จียอนมีรูปคู่กับคุณพ่อแล้วก็คุณแม่แล้ว แต่คุณพ่อกับคุณแม่ยังไม่มีรูปคู่เลยนี่คะ”
“หะ...เอ๋”
“เดี๋ยวจียอนถ่ายให้นะคะ”
ผมยังยืนงงๆอยู่ อะไรนะ รูปคู่ของพ่อกับแม่? คุณจีซูกับผมน่ะเหรอ? ยังไม่ทันได้อึ้งไปมากกว่ากว่านี้มืออุ่นก็คว้าเข้าที่มือของผมก่อนจะดึงผมไปที่โขดหินก้อนหนึ่งที่วางอยู่ตรงสวนดอกลิลี่
“มาสิครับที่รัก ถ่ายรูปกัน”
เขาหันมาพูดแล้วก็ยิ้มให้ผม
.....เดี๋ยว เมื่อกี๊เขาเรียกผมว่าอะไรนะ?
…..ที่รักเหรอ?
ไม่ต้องเล่นสมบทบาทขนาดนี้ก็ได้ครับคุณ!!! นี่คุณอยากให้ผมละลายลงตรงนี้รึไง!?
ผมทำได้แค่ก้มหน้าแล้วเม้มปากเพื่อซ่อนความเขินก่อนจะหันขึ้นไปยิ้มให้กล้องเมื่อจียอนเริ่มนับหนึ่งถึงสาม และในจังหวะนั้นผมก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักของมือที่กำลังโอบไหล่ผมอยู่
...โอบไหล่ผม?
โอ้ พระ เจ้า !!
นี่เขากำลังโอบไหล่ผมอยู่จริงๆ
แขนของคุณจีซูพาดอยู่ที่ด้านหลังแล้วใช้มือดึงผมเข้าไปใกล้ๆเขายิ่งกว่าเดิม
เมื่อจียอนกดชัตเตอร์เสร็จ
คุณจีซูก็ดึงมือผมเข้าไปหาจียอนเพื่อดูรูป
ทุกคนครับ.... รูปเห็นชัดมากครับว่าผมหน้าแดง
“ทำไมหน้าคุณครูแดงจังเลยคะ”
“คงเป็นเพราะอากาศร้อนแน่ๆเลยเนอะ”
คุณจีซูหันไปตอบเธอแทนผม “ตอนนี้พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว
เรากลับบ้านกันดีกว่าเนอะจียอน”
“เอ๋~ จะกลับแล้วเหรอคะ”
เมื่อได้ยินว่าคุณพ่อชวนให้กลับบ้าน
จียอนก็เริ่มทำหน้างอทันที
คุณจีซูเลยย่อตัวลงเพื่อให้พูดกับเธอได้ถนัดก่อนยื่นมือไปลูบหัวเล็กๆ
“วันนี้มันค่ำแล้ว ไว้เรามาใหม่นะคะ”
“แต่ว่า... ถ้าเป็นวันอื่น
ก็จะไม่มีคุณแม่มาด้วยนี่คะ”
“.....”
จียอนหันขึ้นมามองผมด้วยแววตาเศร้าๆ
ซึ่งทำเอาผมพูดไม่ออกเลยครับ ผมเข้าใจนะว่าเธอคงรู้สึกโดดเดี่ยวแล้วก็เหงามากแน่ๆ
“มีสิคะ คุณพ่อสัญญานะ ว่าต่อจากนี้
ตัวเล็กจะมีคุณแม่มาสวนสนุกด้วยตลอดไปเลย ไม่ใช่แค่สวนสนุกนะคะ
แต่เป็นทุกที่ที่ตัวเล็กอยากไปเลย”
“เอ๋...? แต่ว่าคุณครูจองฮัน...”
จียอนยังไม่ทันได้พูดอะไรมากกว่านั้น
คุณจีซูก็ก้มลงกระซิบอะไรสักอย่างใส่หูลูกสาวซึ่งเธอก็เหลือบมองมาทางผมก่อนที่เธอจะทำหน้าตกใจ
“จริงเหรอคะ!?”
“พ่อเคยโกหกตัวเล็กเหรอคะ”
“เย้!! ดีใจจังเลย! จียอนจะได้มีคุณแม่แล้ว ถ้างั้นวันนี้เรากลับกันก็ได้ค่ะ”
“......”
จียอนพูดด้วยท่าทีดีใจ(อย่างมาก)ก่อนจะเดินนำไปที่รถ(จำทางได้เหรอคะ)
นี่ทั้งสองคน...
คุยอะไรกันเหรอครับเมื่อกี๊น่ะ?
“เมื่อกี๊คุณ...
พูดอะไรกับเธอเหรอครับ?”
“หึๆ ความลับครับ กลับบ้านกันเถอะครับคุณครู” เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะรีบเดินตามลูกสาวไป ปล่อยให้ผมยืนงงด้วยความสงสัยก่อนจะรีบก้าวเท้าตามไปเพราะอาจถูกทิ้งได้
“หลับไปแล้วล่ะครับ”
ผมค่อยๆขยับตัวกลับมานั่งๆดีที่ที่นั่งของตัวเองหลังจากเอี้ยวตัวไปเพื่อห่มผ้าให้กับจียอนที่ผล็อยหลับไปตั้งแต่เรา
ขับรถออกจากสวนสนุกได้ไม่นาน
“สงสัยวันนี้คงเล่นเยอะไปหน่อย
ขึ้นรถได้ก็เลยแบตหมดแบบนี้”
เขาพูดยิ้มๆแล้วมองลูกสาวของตัวเองที่นอนอยู่ผ่านทางกระจกมองหลัง
“....”
“....”
ต่างคนต่างไม่มีบทสนทนาอะไร
จนคุณจีซูเป็นคนทำลายความเงียบขึ้นมา
“คุณครูจองฮันครับ”
“ครับ?”
“คุณครูมีแฟนรึยังครับ?
แหม
นึกว่าจะไม่ถามซะแล้ว เห็นจีบมาตั้งนาน
“ก็..ยังหรอกครับ”
“เหรอครับ? แล้ว..มีคนที่ชอบรึยังครับ”
“ก็...มีแล้วครับ”
“ผมถามได้มั้ยครับว่าใคร”
“....”
เอาแล้วไง...
จะให้ผมตอบไปเหรอครับว่าผมชอบคุณน่ะ
“ถ้าไม่สบายใจ
ไม่ต้องบอกก็ได้นะครับ” เขาพูดแล้วก็หันมายิ้มให้ผม
….ทำยังไงดีล่ะ ถ้าผมบอกไปแล้วเค้าไม่ได้ชอบผม
....แต่ถ้าผมไม่บอก ก็คงต้องเก็บไว้แบบนี้ต่อไป
....จะเก็บไว้ต่อไปเหรอ
....เอาวะ ถ้าบอกโอกาสมีครึ่งหนึ่ง
แต่ไม่บอกโอกาสเท่ากับศูนย์เลยนะ
“คือผม..”
“ครับ?”
“...คนที่ผม..ชอบน่ะครับ”
“....”
“ผม...”
“....”
“ผมชอบ....ครับ”
“อะไรนะครับ?”
“ผมชอบคุณจีซูครับ”
“....”
“....”
เอาแล้วไงครับ
เกิดสภาวะใบ้รับประทานทั้งคู่ ฮือออ อย่าเงียบสิครับ ผมใจไม่ดีเลยนะ
“..คึ”
“?”
“555555555555555555”
จากตอนแรกที่คุณจีซูเหมือนจะกลั้นหัวเราะ
ก็กลายเป็นระเบิดหัวเราะออกมา มันมีอะไรน่าขำเหรอคุณ!?
“อะ..อะไรครับ
ทำไม่ต้องหัวเราะด้วยล่ะ”
“ฮะๆ
ขอโทษครับ คือ..ผมไม่คิดว่าเราจะใจตรงกันน่ะครับ”
“อ่ออ..... ห๊ะ?
.....ใจตรงกัน??
....เรา??
“หมายความว่ายังไงครับ?”
“ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละครับ”
“....”
“ผมเองก็ชอบคุณครูเหมือนกัน”
ณ จุดๆนี้
เหมือนมีภาพในแผ่นฟิล์มลอยขึ้นมาเต็มหัวของผมเหมือนในหนัง ทั้งภาพข้อความมากมายของเขาที่ส่งให้ผม
ภาพของโดยุนที่ฟันธงว่าเขาชอบผม ภาพในแต่ละครั้งที่เขาหยอดผมในช่วงสองสามวันมานี้
ทุกอย่างค่อยๆลอยผ่านหัวผมไปช้าๆ
เดี๋ยว....นี่เรื่องจริงเหรอเนี่ย??
“คุณครู
ยังโอเคนะครับ?”
“ฮะ..อ่า
ครับ..”
ผมตอบไปแบบตะกุกตะกัก
ก็แน่ล่ะครับ เป็นใครใครก็อึ้ง ผมชอบเค้ามาตั้งแต่จียอนเพิ่งเข้าโรงเรียน
เกือบสามปีเลยนะครับคุณ จู่ๆก็เพิ่งได้มารู้ว่าเขาก็ชอบผม
....รู้สึกเหมือนจะลอยได้เลยครับ
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีกสักพัก
และก็เป็นอีกครั้งที่คุณจีซูเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน
“คุณครูดูเข้ากับตัวเล็กได้ดีนะครับ
คุณครูชอบเธอมั้ยครับ”
“เอ๋
ก็ชอบนะครับ ถ้าในฐานะของครูเธอก็เป็นเด็กน่ารักแล้วก็ร่าเริงมากครับ”
“แล้วถ้าสมมติว่าเธอเป็นลูกของคุณล่ะครับ?”
“....” ผมอึ้งไปนิดหน่อยเพราะคำถาม
เค้ากำลังหมายความว่าถ้าผมได้จียอนมาเป็นลูกน่ะเหรอ หรือหมายถึงผมกลายเป็นพ่อหรือแม่ของเธอ
เดี๋ยว... มันต่างกันมั้ยน่ะ?
“ก็ดีนะครับ
ถ้าเธอเป็นลูกของผม ผมจะรู้สึกว่าโชคดีมากเลยที่ผมได้เป็นผู้ปกครองของเธอ”
“งั้นเหรอครับ”
“...ครับ”
“วันนี้
คุณครูเป็นคุณแม่ได้สมบูรณ์แบบมากเลยนะครับ” หืม?
นั่นถือเป็นคำชมมั้ยครับ
“อ่า ขอบคุณครับ”
“คุณครูทำอาหารก็เก่ง ใจดี แล้วก็น่ารัก
แล้วก็ยังเข้ากับจียอนได้ดีมากๆด้วย”
“.....”
“สนใจมาเป็นคุณแม่ให้จียอนแบบถาวรเลยมั้ยครับ”
“...หมายถึง ทำหน้าที่แม่ของจียอน ‘แทน’ อดีตภรรยาของคุณเหรอครับ?”
“ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึง ‘เป็น’คุณแม่ให้จียอน ก็คือมา ‘เป็น’ภรรยาของผมน่ะครับ”
“อ๋อ งี้นี่เอง..... ห๊ะ!? นี่คุณ...กำลังขอผมแต่งงานเหรอครับ”
“ใช่ครับ”
ตอบรับได้หน้าตายมากคุณ
นี่มันเรื่องใหญ่นะ ทำคุณถึงพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆล่ะ!?
“.....”
“ว่าไงครับคุณครู”
“เราจะแต่งงานกันได้ยังไงครับ
ในเมื่อทั้งผมทั้งคุณไม่เคยอยู่ด้วยกันมาก่อน
แล้วถ้าเกิดว่าผมกับคุณเข้ากันไม่ได้ล่ะครับ?
แล้วจียอนจะยอมรับได้เหรอครับ? แล้ว...”
“ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณครู
เรื่องที่เราไม่เคยอยู่ด้วยกันมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่รู้จักกันเลยนะครับ
คุณครูรู้จักคำว่าดูใจกันมั้ยครับ ผมว่าเราทำแบบนั้นกันมานานแล้วนะครับ
ตั้งแต่จียอนเข้าโรงเรียนเลยไม่ใช่เหรอครับที่ผมเริ่มจีบคุณครู
ผมรู้นะว่าคุณครูก็รู้ตัวว่าผมจีบคุณครู
แล้วก็ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยออกมาทานข้าวหรือเดินห้างด้วยกันสักหน่อยนี่ครับ
แล้วเราก็ไปไหนมากันสามคนกับจียอนก็บ่อยด้วย”
“....”
นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เค้าพูดยาวขนาดนี้ ท่าทางเค้าจะจริงจังไม่น้อยนะครับ
“และเรื่องของจียอน
ผมมั่นใจครับว่าเธอยอมรับได้ เพราะผมบอกเธอตั้งแต่อยู่ที่สวนสนุกแล้วครับ”
“ตอนที่กระซิบกันน่ะเหรอครับ”
“ใช่ครับ”
“....”
“แล้วคำตอบของคุณครูล่ะครับ?”
คุณจีซูถามเอาคำตอบกับผม พอดีกับที่รถจอดที่หน้าบ้านของผม
“........”
“........”
ความเงียบโรยตัวสู่ในรถอีกครั้งเมื่อผมไม่ตอบคำถามของเค้า
“...คือผม ขอเวลาตัดสินใจหน่อยนะครับ”
“....ได้สิครับ ถ้างั้น
ราตรีสวัสดิ์นะครับคุณครูจองฮัน”
“...ครับ เช่นกันครับ”
ผมตอบออกไปแค่นั้นก่อนจะลงจากรถแล้วรีบเข้าบ้าน
เมื่อผมปิดประตูเเล้วจึงไปเปิดม่านดูจึงเห็นว่ารถของคุณจีซูยังคงนิ่งอยู่สักพักก่อนเคลื่อนออกไป
คือมัน... สับสนนะครับ ผมชอบเขามาตั้งนาน
จู่ๆเขาก็มาบอกว่าชอบผม แล้วยังขอผมแต่งงานอีก
นี่ผมควรจะตอบเค้าว่าอะไรดีเนี่ย ถ้าตอบตกลง มันจะดูใจง่ายมั้ยครับ? แต่ถ้าปฏิเสธก็เท่ากับผมทิ้งโอกาสไปเลยนะครับ
.....ทำยังไงดีล่ะ?
สุดท้ายแล้วผมก็คิดอะไรไม่ออก
จึงขึ้นมาอาบน้ำเผื่อว่าความเย็นจะช่วยให้ผมสงบลง
ตอนนี้ผมเปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้วและกำลังนั่งอยู่บนเตียง ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นข้อความในแอพลิเคชั่นสีเขียวแจ้งเตือนขึ้นมา
HONG_JS. : คุณครูไม่เป็นไรนะครับ?
HONG_JS. : ผมเป็นห่วงนะ
HONG_JS. : ยังไม่ต้องรีบให้คำตอบผมก็ได้ครับ
HONG_JS. : ผมรอได้
HONG_JS. : ฝันดีนะครับ
HONG_JS. :
อ้าว อะไรของเขา ทีเมื่อตอนอยู่บนรถยังถามเอาคำตอบอยู่เลย
ผมเลื่อนนิ้วไปบนหน้าจอเพื่อเปิดเข้าแอพลิเคชั่นนั้น
ก่อนจะเริ่มละเลงนิ้วบนแป้นพิมพ์
ผมว่า...ผมคิดดีแล้ว
...นี่แหละ คือคำตอบของผม
_JungHan1004
: จะนอนแล้วเหรอครับ?
_JungHan1004 : ถ้างั้น
_JungHan1004 :
ฝันดีนะครับที่รัก
_JungHan1004 :
ฝากบอกแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้ลูกด้วยล่ะ
_JungHan1004 :
ผมได้แต่นั่งยิ้มให้กับโทรศัพท์
ผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะกล้าขนาดนี้ และไม่ถึงชั่วอึดใจข้อความทั้งหมดก็ขึ้น *Read* ก่อนจะมีข้อความตอบกลับมา
HONG_JS. : ขอบคุณนะจองฮันนา
HONG_JS. :
ผมอ่านแล้วก็ไม่ตอบอะไร ทำไมน่ะเหรอครับ? ไม่เห็นต้องรีบเลย พวกเรายังมีเวลาบอกรักกันไปอีกนานนะครับ
ผมเปลี่ยนจากหน้าจอแชทของคนที่เพิ่งเป็นที่รักของผมไปหมาดๆไปเป็นหน้าจอแชทของเพื่อนสนิทของผม
_JungHan1004 : โดยุนนา ฉันว่าฉันจะได้เป็นคุณนายตามที่นายบอกแล้วล่ะ
-
END -
**************************************************************************************************
.....TALK.....
กรี๊ดดดดดดดดดด รู้สึกอยากจะกรีดร้องเป็นภาษาสเปน TT^TT
ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ลงสักทีค่ะ เเต่งมาตั้งเเต่ปิดเทอมใหญ่จนตอนนี้ผ่านไป 1 เทอมแล้ว5555555
ขอขอบคุณท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน(ทั้งที่บังเอิญเห็นเหรือหลงเข้ามา)ที่อ่านจนจบตอน*กราบงามๆ*
แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกอึ้งๆอยู่เลยค่ะ
ถ้ามีตรงไหนพิมพ์ผิดก็สามารถทักได้นะคะ
หากอยากติ อยากชม หรืออยากเม้าท์ก็สามารถร่วมพูดคุยกันได้ใน #FicStory17 ในทวิตเตอร์ได้ค่ะ
และ
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะคะที่อ่านจนจบ^^
รักท่านผู้อ่านทุกคนนะคะ55555
ความคิดเห็น