ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พาทิศ ยอดนักรัก ยอดนักสืบ

    ลำดับตอนที่ #2 : เลือดล้างเลือด 2

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 50


    นาฬิกาที่ข้อมือผมบอกว่าตอนนี้ 9 โมงครึ่งแล้ว  ผมต้องไปหาสารวัตรเพื่อรายงานความคืบหน้า

    หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านผมต้องวุ่นวายกับการหาข้อมูลเพื่อที่จะไปรายงานความคืบหน้าของการสืบสวนในครั้งนี้ให้กับสาวัตรฟังในวันนี้ 

    ขออนุญาตครับ ผมตะเบ็งเสียงให้ใครบางคนในห้องนั้นรู้ว่าผมมาแล้ว

    เชิญนั่งพาทิศ ร่างนั้นหันกลับมาหลังจากง่วนอยู่กับการส่องพระ

    มีความคืบหน้าอะไรบ้าง สารวัตรเอ่ย

    ผมลองสืบประวัติทั้งสองคนนี้มาดูแล้ว  นายแพทย์กิตติวินท์  เทพวิมล  อายุ 33 ปี สถานะโสด เกิดที่เมืองไทย แต่ไปโตที่อเมริกา  จบแพทย์ด้านโรคหัวใจโดยตรงจากอเมริกา  พ่อแม่เป็นคนไทยเสียชีวิตตั้งแต่ 6 ขวบแล้วจึงทำให้ต้องไปอยู่กับญาติที่อเมริกา  หลังจากพบแพทย์ที่อเมริกาเลยกลับมาทำงานอยู่ที่เมืองไทย  ที่โรงพยาบาลของ คุณโชควุฒิ อนันต์ลาภไพศาล คุณพ่อของคุณมนตรี  เป็นแพทย์ที่มีฝีมือดี  คุณโชควุฒิเลยให้เป็นแพทย์ประจำตัวคุณมนตรีที่เป็นโรคหัวใจเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตอนนี้ได้ข่าวว่าเขาได้ลาออกจากโรงพยาบาลบินกลับไปที่อเมริกาเรียบร้อยแล้ว  ส่วน คุณกิรติกา นามสกุลเดิมคือ วัชระมงคล เป็นลูกบุญธรรม ของ คุณวิโรจน์ และคุณหญิงดรุณี วัชระมงคล  นักธุรกิจเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนหลายสิบแห่งทั่วประเทศ สองคนนี้รับคุณกิรติกา มาเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่เธออายุ 1 ขวบ ส่งเสียเลี้ยงดูจนจบอย่างดี จากนั้นคุณกิรติกา แต่งงานกับคุณมนตรีเมื่อ 4 ปีที่แล้วหลังจากคบหาดูใจกันมา3ปี  หลังจากที่คุณมนตรีเสียชีวิตคุณกิรติกา  ก็ออกไปอยู่ที่นิวซีแลนด์ โดยอ้างว่าหลบไปทำใจ

    แล้วคุณคิดว่าเขาสองคนจะร่วมมือกันฆ่าคุณมนตรีไหม

    อาจจะเป็นไปได้นะครับสารวัตร  เพราะเท่าที่ผมสืบมาสองคนนี้เคยเรียนอยู่ที่อเมริกาด้วยกัน  แต่...

    แต่อะไร

    คือผมยังหาสาเหตุและแรงจูงใจยังไม่เจอ

    ก็ภาพมันฟ้องอยู่นี่ไง

    ผมว่ามันต้องมีอะไรเยอะกว่านี้แน่  ขอเวลาผมซักหน่อยนะครับสารวัตร

    2 อาทิตย์ นะ พาทิศ

    ครับผม

    ..........................................

    ท้องฟ้ามืดมิด  ถนนที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำ  สองข้างทางเป็นตึกแถวด้านล่างเป็นร้านคาราโอแกะ  ด้านบนติดเหล็กดัดป้องกันขโมย แสงไฟที่ส่องออกมาจากหน้าต่างของตึกแต่ละดวงล้วนเป็นสีสันที่มาสามารถพบเห็นได้ตามบ้านพักธรรมดา  มีทั้งสีม่วง สีฟ้า สีชมพู  ดูคล้ายจะล่อแมงมากกว่าเพื่อความสว่าง  ผมเดินดูแสงไฟเหล่านั้น ไปพลาง  มองดูสองข้างทางเต็มไปด้วยผีเสื้อกลางคืนที่มีกันอยู่มากมาย ผีเสื้อราตรีแต่ละตัวต่างก็คนละอารมณ์บางคนกำลังนั่งสูบบุหรี่ตาเหม่อลอยคล้ายๆ ไม่สนใจเสียงเพลงและเสียงหัวเราะของเพื่อนรอบข้าง  ผมเดินมาถึงเกือบกลางซอย  นั่งลงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของป้าแก่ๆ คนหนึ่ง

    เล็ก ชิ้น เปื่อย น้ำตก ครับป้า

    มาเที่ยวเหรอจ๊ะพ่อหนุ่มยายเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวถามผม

    เปล่าครับ

    เอ้า! ได้แล้ว ตามที่สั่ง ป้าเจ้าของร้านวางชามก๋วยเตี๋ยวลงที่โต๊ะ

    ถ้าคุณไม่มาเที่ยว  แล้วมาทำไม หน้าตาดีๆอย่างคุณไม่น่าจะมาเดินแถวนี้เลยป้าเจ้าของร้านพล่ามแล้วก็ถือวิสาสะนั่งลงโดยที่ผมไม่ได้เชิญ

    ผมหันมองดูป้านิดหนึ่งแล้วก็ยิ้มเป็นนัยบอกว่าอย่าพึ่งยุ่งได้ไหม  แต่สายตาคู่นั้นบอกผมกลับมาว่า อย่าหวัง

    ถ้าคุณไม่มาเที่ยว  ก็ต้องแปลว่าคุณเป็นตำรวจใช่ไหม จะมาจับใครอีกล่ะทีนี้  พวกตำรวจนี้ชอบหาเรื่องชาวบ้านจริงๆ กะอีแค่เรายอมพลีกายเพื่อแลกเงินหาเลี้ยงตัวเองไปวันๆ ก็หาว่าเราเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ป้าเจ้าของร้านบ่นเป็นหมีกินผึ้ง

    ผมไม่ใช่ตำรวจหรอกป้า  ผมแค่มาตามหาคนในที่สุดผมก็ต้องสารภาพ

    ผมหยิบรูปเธอคนนั้นออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ต  แล้วยื่นไปให้กับป้าเจ้าของร้านดู

    รู้จักไหมครับป้า

    รู้จักซิ  ลูกสาวป้านีขายกล้วยแขกอยู่หน้าตึกข้างหน้านี่เอง ว่าแล้วป้าก็ชี้มือไปทางด้านหลังของผม  ผมมองตามมือที่แกชี้ไปพบเป็นโต๊ะไม้ที่เขาเอาไว้วางขายของทั่วไป  ตั้งโดดเดี่ยวอยู่ใต้ต้นหูกวาง

    แล้วเธอชื่ออะไรละป้า ผมพยายามซัก

    ดอกแก้ว

    ผมจ่ายเงินให้กับป้าเจ้าของร้านแล้วเดินกลับทางเดิม ผ่านร้านคาราโอแกะ  ผ่านผีเสื้อราตรีหลายตัวที่กำลังโฉบเฉี่ยวไป แสงไฟที่ล่อแมงดา  แต่ในสมองผมตอนนี้มีเพียงแต่เธอ ดอกแก้ว เธอทำให้ผมนึกถึงวัยเด็ก  หลังบ้านผมมีต้นดอกแก้วต้นใหญ่อยู่หลังบ้าน  เมื่อถึงเวลาที่ดอกแก้วผลิบานกลิ่นจะหอมมาก โดยเฉพาะยามเช้า ดอกแก้ว กลีบบางใส กลิ่นหอมอบอวน

    ……………………………

    ผมนั่งกดโทรศัพท์มือถือขึ้นมา  เลือกหาเบอร์ที่ต้องการในสมุดโทรศัพท์ในเมมโมรี่ของโทรศัพท์มือถือ 

    สวัสดีค่ะ คุณผิดทิศ ไม่ใช่ซิ คุณพาทิศ ปลายสายเสียงหวานสดใสทักทายผม

    ยิงมุขใส่ตั้งแต่เช้าเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวก็รักเข้าให้หรอก

    แล้วตอนนี้ยังไม่รักอีกเหรอค่ะ

    แล้วจอยละรักผมหรือยัง

    จ้างให้จอยก็ไม่รักพี่หรอก  พี่ก็รู้ว่าหนูมีลูกแล้ว

    พี่ก็ไม่เคยว่านี่

    เข้าเรื่องดีกว่า โทรมาหาจอยตั้งแต่เช้ามีอะไรให้รับใช้ค่ะเจ้านาย

    จอยเดี๋ยวช่วยหาข้อมูลของคุณกิรติกา อนันต์ลาภไพศาล นามสกุลเดิม วัชระมงคล กับคุณกิตติวินท์  เทพวิมลให้พี่หน่อย เอาตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันนะ

    พี่ไม่เอาจนถึงอนาคตด้วยเหรอค่ะ

    อย่าประชดพี่หน่อยเลยจอย  เดี๋ยวเสร็จงานพี่จะพาจอยลูกของเราไปเที่ยวทะเล

    ลูกจอยคนเดียวค่ะ อีกอย่างจอยก็ไม่อยากไปทะเลด้วย พี่ก็รู้ว่าจอยเกลียดทะเลเสียงของจอยจากที่สดใสกลับกลายเหมือนกำลังจะร้องไห้  ใช่ซิ ธิติ สามีของจอยจมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตาจอยและลูกที่หาดแม่พิมพ์ตอนที่เขากับจอยกำลังฉลองวันครบรอบแต่งงาน 3 ปี ผมไม่น่าหลุดปากเรื่องทะเลให้จอยได้ยินเลย บ้าจริง..

    จอยพี่ขอโทษนะ พี่นี่ปากปีจอจริงๆ ผมรู้สึกเหมือนอยากย้อนเวลาได้ซักสิบวินาทีจะได้ไปแก้ไขคำพูดคำนั้นจริงๆ

    ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวขอเวลาจอย 3 วันนะค่ะเดี๋ยวจะส่ง อีเมล์ข้อมูลไปให้จอยพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ

    ใจเย็นๆก็ได้นะจอย

    แค่นี้ก่อนนะค่ะ

    จ๊ะ

    ???

    ..............................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×