คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [SF] My Buddy {Lojae}
~My Buddy~
ตึกๆๆๆๆๆ
เสียงฝีเท้าของนักเรียนกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งไล่ตามเด็กหนุ่มร่างสูง ที่กำลังมองหาช่องทางหลบหลีก ยิ่งเสียงฝีเท้าดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าคู่อริใกล้เข้ามา เด็กหนุ่มยิ่งหัวใจเต้นระรัว เค้าเองถึงแม้จะเก่งเรื่องต่อสู้มากแค่ไหน แต่ถ้าหมาหมู่แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน การถอยออกมาคงเป็นการดีที่สุด ร่างสูงวิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆได้อย่างคล่องแคล่ว เสียงหอบคงดังจนพวกที่ตามอยู่ได้ยิน จึงรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีก แต่แล้วทางข้างหน้ากลับเป็นทางตัน
"บ้าชิบ!" ร่างสูงสบถออกมาอย่างหัวเสีย เกือบรอดแล้วแท้ๆ ทำไมต้องเจอทางตันด้วย !
"หนีไม่พ้นแล้วสินะ เจลโล่ หึ!" เสียงเหยียดๆของฝ่ายคู่อริดังขึ้น ทำให้เจ้าตัวรีบหันกลับไปมอง
"แน่จริงพวกมึงอย่าหมาหมู่ดิวะ !"
"ถ้าสู้ตัวๆ พวกกูก็แพ้มึงน่ะสิ เห้ยพวกมึง จัดดิ๊ !"
สิ้นเสียง เด็กหนุ่มร่างสูงก็โดนเด็กคู่อรินับสิบรุมกระทืบจนสติที่มีเริ่มพร่าเลือน ทุกๆการกระทำที่เกิดขึ้น อยู่ในสายตาของร่างเล็กที่เดินผ่านมาพอดี
.
.
.
.
"ถ้าสู้ตัวๆ พวกกูก็แพ้มึงน่ะสิ เห้ยพวกมึง จัดดิ๊ !"
ผมที่กำลังเดินทางกลับบ้าน เป็นอันต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเข้มของเด็กคนนึงตะโกนสั่งลูกน้อง ก่อนที่เด็กตัวโตๆนั่นจะถูกรุมกระทืบ เห้อออ ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนเราถึงชอบใช้ความรุนแรงกันนัก เจ็บตัวกันเปล่าๆ ไม่เห็นมันจะแก้ปัญหาอะไรได้เลย ผมยิ่งไม่ชอบเห็นใครถูกรังแกด้วยสิ แต่ถ้าจะให้เข้าไปช่วย ผมเองคนเดียวคงไม่ไหว - - ผมควรจะทำยังไงดีเนี่ย ?
เอ้ะ ! เด็กกลุ่มนั้นไปแล้วนี่นา เข้าไปดูเจ้าเด็กนั่นหน่อยแล้วกัน...
"นี่ๆ นายน่ะ ตายยังเนี่ย ?" ผมพูดพร้อมกับเอาเท้าเขี่ยๆคนที่นอนสลบอยู่ เมื่อไม่มีการตอบรับ ผมเลยจับคนตรงหน้าพลิกขึ้นมา เพื่อดูหน้าชัดๆ
ตึกตึก อ่าา ทำไมต้องใจเต้นแรงด้วยเนี่ย -///- หน้าตาของหมอนี่จัดว่าหล่อมาก ว่าแต่ ทำไมคนหน้าตาอย่างหมอนี่ถึงได้มีเรื่องชกต่อยแบบนี้ ก็พอรู้อยู่หรอกนะว่าผู้ชายกับเรื่องชกต่อยนี่มันเป็นของคู่กัน แต่ทำไมต้องรุนแรงถึงขนาดนี้ด้วยล่ะ :(
"อืมมม" ร่างสูงที่นอนสลบอยู่ครางออกมาเบาๆ
"นี่นายๆ ฟื้นแล้วเหรอ"
"นายเป็นใครเนี่ย ?"
"ฉัน ยูยองแจ นี่นายไปทำอีท่าไหนถึงได้โดนรุมกระทืบเนี่ย - -"
"เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ" ชิส์ หน้าตาก็ดี แต่ปากเนี่ย....
"เฮอะ ! ก็ไม่ได้อยากรู้นักหรอก เอ้า ลุกซะทีสิ จะพาไปทำแผล"
"ไม่ต้อง แค่นี้ไม่ตายหรอกน่า"
"งั้นก็ตามใจ แต่ติดนี่ไว้หน่อยก็แล้วกัน" ผมหยิบพลาสเตอร์ลายเป็ดน้อยสีเหลืองที่ผมคิดว่าน่ารักสุดๆออกมา
"นายจะให้คนหล่อๆอย่างฉันติดพลาสเตอร์ลายเป็ดงี่เง่านี่น่ะเหรอ"
"ติดๆไปเหอะน่า ดีกว่าติดเชื้อแล้วกัน อีกอย่างนะ พลาสเตอร์ลายเป็ดนี่ก็ไม่ได้ทำให้นายดูงี่เง่ามากขึ้นหรอก" ผมว่าเสียงขุ่น คนเค้าอุตส่าห์มีน้ำใจ ยังจะมาว่าอีก ลายนี้นี่มันลายโปรดของผมเลยนะ นายนี่มีสิทธิ์อะไรมาบอกว่างี่เง่า >..< ผมเข่ยงเท้าขึ้นไปติดพลาสเตอร์ตรงหางคิ้วให้คนตัวสูง นายนี่สูงกว่าผมเยอะเลยแฮะ
"ขอบใจ" เอ้ะ นี่ผมหูฝาดไปรึป่าวเนี่ย
"ห้ะ ?" ขออีกรอบเพื่อความแน่ใจ
"ฉันจะไม่พูดคำนั้นซ้ำสองหรอกนะ ไปล่ะ" พูดจบตานี่ก็เดินออกไปทันที งั้นผมจะอยู่ทำไมล่ะ? กลับบ้านมั่งดีกว่า
"แล้วเจอกันนะ ยูยองแจ" เสียงเบาราวกระซิบของร่างสูงเอ่ยออกมา ราวกับไม่ต้องการให้เจ้าของชื่อนั้นได้ยิน
ตึกๆๆๆ
ให้ตายเถอะ ไม่น่าตื่นสายเลย หวังว่าครูคงยังไม่เข้านะ เพราะตานั่นแท้ๆเลย ทำให้ผมนอนไม่หลับ มองไปทางไหนก็เห็นแต่หน้าของผู้ชายคนนั้น อ่าา ลืมถามชื่อไปซะได้ ช่างเถอะ คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ ผมบอกตัวเองให้เลิกคิดถึง
เรื่องผู้ชายคนนั้น แล้วหันกลับมาตั้งใจวิ่งไปที่ห้องเรียนตัวเองต่อ
ปึง!
เห้อออ โชคดีที่ครูยังไม่เข้า ฮิฮิ โชคดีของแกละนะยูยองแจ. ><
"นี่ยองแจ แกรู้รึป่าวว่าวันนี้จะมีเด็กย้ายเข้ามาใหม่ด้วยล่ะ เห็นว่าพึ่งกลับมาจากเมืองนอกด้วยล่ะ แถมยังหน้าตาดีด้วยนะ" เสียงของแดฮยอนเพื่อนสนิทของผมพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดตั้งแต่ผมก้าวเข้าห้องมา
"จะหน้าตาดีแค่ไหนกันเชียว - -"
ตึงๆ !
อาจารย์ที่เดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เคาะกระดานสองสามที เป็นสัญญาณให้นักเรียนที่ส่งเสียงดังคุยกันเป็นอันต้องเงียบเสียงลง
"เอาล่ะนักเรียน วันนี้ครูจะแนะนำเพื่อนใหม่ให้ไดัรู้จัก เข้ามาสิ"
"สวัสดี ฉัน ชเวจุนฮง ชอบให้เรียกว่า เจลโล่ ยินดีที่ได้รู้จัก"
"นะ..นาย O_o ! " เสียงของผมที่ดังขึ้นทำให้เพื่อนๆในห้องที่กรี้ดกร้าดหันมามอง
"นายรู้จักเค้าเหรอ" แดฮยอนถาม
"เอ่อ ขอโทษครับอาจารย์" ผมเอ่ยออกมา เมื่อเห็นอาจารย์กำลังมองมาที่ผม
"ชเวจุนฮง เธอนั่งข้างยองแจแล้วกันนะ" ห้ะ ? จะให้นายนั่นมานั่งข้างผมเหรอ
"Hi, ยองแจ" หมอนั่นยิ้มกวนเบื้องล่างสุดๆมาให้ผม ฮึ่ย หมั่นไส้ แต่เดี๋ยวนะ ?
"นี่นายยังติดพลาสเตอร์นี้อยู่อีกเหรอ ไหนว่ามันงี่เง่าไงล่ะ -*-"
"ฉันก็แค่กลัวแผลติดเชื้อ ไม่งั้นไม่ยอมติดไอ้เป็ดงี่เง่านี่หรอก - -"
"ไอ้.. ไอ้ ฮึ่ย!" ผมไม่รู้ว่าจะด่าไอ้บ้านี่ว่ายังไงดี กวนประสาทมัด
วันต่อมา
"ทุกคน วันนี้ครูมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ คือปีนี้ห้องของเราจะมีโปรเจคพิเศษ ให้ทุกคนจับคู่บัดดี้ นักเรียนทุกคนจะได้สนิทสนมกันมากขึ้น ครูหวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือนะคะ ^^"
ประโยคที่ดูเหมือนคำสั่งที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นทำเอายองแจถึงกับเบ้หน้า ผิดกับร่างสูงข้างๆที่นั่งอมยิ้มกับปฏิกิริยาของคนตัวเล็กโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
พักเที่ยง หัวหน้าห้องก็นำสลากมาให้ทุกคนจับ ร่างเล็กของยองแจเดินเข้าไปต่อแถวอย่างรู้งาน ในใจภาวนาขออย่าให้ได้นาย ชเวจุนฮง เป็นบัดดี้ เพราะอะไรน่ะเหรอ ? ผมกลัวใจตัวเองน่ะสิ
เมื่อคลี่กระดาษออก ปรากฏชื่อของคนที่เค้าไม่อยากได้ที่สุด ‘ชเวจุนฮง’ ให้ตายสิ นี่โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับผม ?
50% loading
เอาล่ะ ยังไงซะผมก็ต้องคอยเทคแคร์นายเจลโล่ตามกติกา ว่าแต่หมอนั่นชอบกินอะไรเป็นพิเศษรึป่าวนะ ? ค่อยสืบหาแล้วกัน ทำไมวันนี้โต๊ะผมรกเป็นพิเศษเลยแฮะ อยู่เคลียร์โต๊ะพร้อมกับทำเวรเลยแล้วกัน กลับค่ำหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง..
ตอนนี้ทั้งห้องเหลือผมแค่คนเดียว อากาศหนาวๆทำให้ทุกคนรีบกลับไปบ้านของตัวเอง ผมที่ยังคงก้มหน้าก้มตาลบกระดานอยู่ ทำให้ไม่รับรู้ถึงการมาเยือนของคนอีกคน ที่เดินมาหยุดอยู่ที่แผ่นหลัง อีกคนใกล้เข้ามาจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่รดบนต้นคอเล็ก ทำให้ผมสะดุ้งน้อยๆ แล้วหันกลับมามอง
“เจลโล่..นายมาทำอะไรเนี่ย” ก็ทุกคนกลับไปกันหมดแล้วไม่ใช่หรอ
“ฉันทำโทรศัพท์หล่นไว้น่ะ ช่วยหาหน่อยสิ” เจลโล่พูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนจมูกของเราจะชนกันอยู่แล้ว แล้วทำไมผมต้องตื่นเต้นด้วยเนี่ย ><
“กะ..ก็หาเองสิ ฉันยังลบกระดานไม่เสร็จ” ผมตอบอย่างตะกุกตะกัก อีกคนยกยิ้มอย่างพอใจที่ทำให้ผมประหม่าได้
“ชิ แล้วนายกลับยังไงเนี่ย”
“รถเมล์ไง”
“งั้นเดี๋ยวไปส่ง ไม่ต้องขอบคุณล่ะ ถือว่าเจ๊ากันเรื่องพลาสเตอร์งี่เง่านี่ละกัน”
“ใครขอบคุณมิทราบ ยังไม่ได้พูดไรเลยนะ - -”
“ไม่รู้แหละ รอข้างนอกนะ” เมื่อเจลโล่พูดจบก็เดินออกไป
“พูดเองเออเองทั้งนั้น” ผมพึมพำกับตัวเอง พลางอมยิ้ม ทำไมต้องดีใจที่ตาบ้านั่นจะไปส่งด้วยเนี่ย ?
.
.
.
“เดี๋ยวฉันแวะซื้อของแปปนึง”
“ตามสบาย” ผมเดินตามเจลโล่เข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต เดินดูนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย สักพักเจลโล่ก็เดินออกมา หิ้วถุงขนมกินเล่นต่างๆเต็มสองมือ แต่เดี๋ยวนะ ?
“นายชอบอมยิ้มเหรอ ?”
“ใช่ ชอบมากๆเลยล่ะ”
“เด็กจริงๆนะนายเนี่ย”
“นายหน้าแก่เอง อย่ามาว่าฉันเด็กสิ”
“หมายถึงนิสัยเฟ้ยย”
เอาล่ะ รู้โดยบังเอิญแฮะ ว่าเจลโล่ชอบอมยิ้ม เตรียมตัวรอเลย นายได้กินจนฟันผุแน่ ฮ่าฮ่า
วันนี้ผมมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติ นายเจลโล่ยังไม่มา ดีล่ะ จะได้แอบเอาอมยิ้มไว้ใต้โต๊ะซะหน่อย ผมจัดการยัดอมยิ้มโลลิปอปอันใหญ่ใส่ไว้ในลิ้นชักโต๊ะของเจลโล่เสร็จเรียบร้อย สองมือควานหาสมุดใต้โต๊ะของตัวเอง แต่แล้วก็เจออะไรบางอย่าง ‘นมสตรอเบอรี่’ เอ๋ ? จากบัดเดอร์ผมงั้นเหรอ รู้ได้ยังไงกันว่าผมชอบนมสตรอเบอรี่ ? แต่ก็ดีนะ กำลังอยากกินพอดีเลย
นี่ก็ผ่านมาตั้งสองอาทิตย์แล้วที่ผมได้นมสตรอเบอร์รี่เป็นของขวัญจากบัดเดอร์ของผม ผมล่ะอยากจะรู้จริงๆว่าใครเป็นบัดเดอร์ของผมกันแน่ อยากจะถามว่าทำไมถึงได้รู้ว่าผมชอบกินนมสตรอเบอร์รี่ ทั้งๆที่ผมก็ไม่เคยบอกใครนะ ผู้ชายกินนมสตรอเบอร์รี่ผมว่ามันน่าอายออก - -
ส่วนบัดดี้ของผม ผมก็ยังคงเอาโลลิป็อปยัดใส่ใต้โต๊ะนายเจลโล่ทุกวันๆ ครั้งแรกที่เห็นโลลิป็อปนะ นายนั่นก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เอามาอวดผมว่าบัดเดอร์ให้อยู่ทุกวัน ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงคิดว่ามันน่ารำคาญทำไมต้องอวดด้วยล่ะ ในเมื่อผมเป็นคนให้ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ผมกลับมองว่ามันก็น่ารักดี..
Zelo’s Part
สวัสดีครับ ผมเจลโล่เอง พวกคุณอาจจะอยากรู้ว่าใครเป็นบัดดี้ของผมใช่มั้ยล่ะ ? บัดดี้ของผมเป็นคนที่น่ารักมากๆเลยล่ะ ทั้งยิ้มเก่ง มีน้ำใจ ตัวเล็กๆน่าปกป้องนั่นอีก ตอนที่รู้ว่าผมได้ ‘ยองแจ’ เป็นบัดดี้นี่ดีใจจนเนื้อเต้นเลยล่ะ ก็จริงๆแล้วผมน่ะแอบชอบนายตัวเล็กนี่มาตั้งนานแล้วน่ะสิ..
“ฮือออออออ หม่ามี๊ จุนฮงเจ็บ หม่ามี๊อยู่ไหน T^T” ผมร้องไห้แทบตายตอนที่หม่ามี๊พามาเล่นที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน แต่ผมกลับซนจนหกล้ม เลือดออก มองไปที่หม่ามี๊อีกที หม่ามี๊ก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว หม่ามี๊หายไปไหน หม่ามี๊อย่าทิ้งจุนฮง
“นี่นายตัวโต แผลแค่นี้ไม่ตายหรอกน่า” เด็กผู้ชายตัวเล็กๆหน้าหวานอย่างกับผู้หญิงที่อยู่ๆก็เดินมาลูบหัวผมพร้อมยิ้มให้ ในมืออีกข้างนั้นถือนมสตรอเบอร์รี่อยู่
“แต่จุนฮงเจ็บมากเลยนะ หม่ามี๊ก็ทิ้งจุนฮงไปไหนไม่รู้ T^T” ผมเบะปาก พลางสะอื้นน้อยๆ
“ตัวก็โตขนาดนี้ แต่ขี้แยชะมัด -*- ”
“..”
“โอมเพี้ยงงง หายเจ็บยัง ?” คนตัวเล็กยื่นปากมาเป่าแผลที่หัวเข่าผม พร้อมกับติดพลาสเตอร์ลายเป็ดน้อยสีเหลืองให้ ผมก็ไม่รู้ทำไมแค่นี้ก็ทำให้ผมหยุดร้องไห้ได้แล้ว
“ขอบใจ เดี๋ยว! นายชื่ออะไร ” ผมรีบคว้ามือคนตัวเล็กทันทีที่คนตัวเล็กทำท่าจะลุกเดินออกไป
“ยองแจ ‘ยูยองแจ’ J” รอยยิ้มที่ส่งมาให้นั้น ผมไม่มีวันลืมเลย
พอนึกไปถึงเรื่องเมื่อตอนเด็กๆ ผมก็แอบเคืองนะ ผมจำยองแจได้ขึ้นใจ แต่ทำไมยองแจจำผมไม่ได้ล่ะ T^T เอาเถอะ ต่อไปผมจะต้องทำหน้าที่บัดดี้ให้ดีกว่าเดิม ถึงจะไม่อยากเป็นแค่บัดดี้ก็เถอะ..
นึกๆไปแล้ว ใครกันน้า ที่เป็นบัดเดอร์ของผม รู้ใจจริงๆเลยที่เอาโลลิป็อปมาให้ ผมน่ะชอบของหวานที่สุด ^^
Youngjae’s Part
เฮ้อออออออ ผมนั่งถอนหายใจรอบที่สิบ ผมจะบอกนายเจลโล่ยังไงดีว่านายเจลโล่เป็นบัดดี้ผม อีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ทำไงดีๆๆๆ
A week later..
ตอนนี้ผมกำลังรวบรวมความกล้าที่จะไปบอกนายเจลโล่ว่าผมเป็นบัดเดอร์ของเขา บางทีผมก็งงตัวเองนะ ว่าแค่บอกเรื่องนี้ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนี้.. คาดหวังกับปฏิกิริยาของคนตัวสูงนี่ล่ะมั้ง ถ้ารู้ว่าผมเป็นบัดเดอร์ของเขา จะรู้สึกยังไงนะ จะดีใจรึป่าว ? วันนี้แล้วสินะที่ต้องบอกไป..
ผมเดินขึ้นมานั่งเล่นที่ดาดฟ้าของตึก ตอนนี้ยังเช้าอยู่ทำให้ไม่มีใครขึ้นมาอยู่บนดาดฟ้าเลย อากาศข้างบนนี้ลมพัดเย็นสบายบวกกับแสงแดดยามเช้าอ่อนๆ ทิวทัศน์ข้างล่างเป็นสวนที่มีดอกไม้สีสวยอยู่เต็มไปหมด สวยจริงๆ
จึกๆ
“นะ นาย” เจลโล่ ?
“ไง ไอ้ตัวเล็ก ^^” หมอนี่ยิ้มให้ผมอย่างอารมณ์ดี
“ย๊า ฉันไม่ได้ตัวเล็กนะ แต่เป็นนายนั่นแหละที่ตัวโต -*- ” ผมตอบเสียงขุ่น
“มีอะไรจะให้แหละ” ผมแอบแปลกใจ ที่วันนี้หมอนี่ไม่ค่อยกวนประสาทผม แถมยังพูดเป็นทางการอีก
“อ่ะ ชอบไม่ใช่เหรอ ? J” เจลโล่ยื่นนมสตรอเบอร์รี่ของโปรดมาให้ ผมประมวลผลในสมองสักพัก แล้วจึงถึงบางอ้อ
“นาย เป็นบัดเดอร์ฉันเหรอ ? แล้วรู้ได้ไงว่าฉันชอบนมสตรอเบอร์รี่อ่ะ ? นี่นายน่ะรีบตอบมาเร็วๆเลยตอนนี่ฉันงงนะ ” ผมรัวคำถามใส่ แต่หมอนี่ได้แต่ยิ้มขำ มันขำอะไรวะ ?
เจลโล่ค่อยๆเล่าเรื่องราวตอนเด็กให้ผมฟัง ผมนึกออกแล้วล่ะ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าไอ้เด็กขี้แงตอนนั้นจะโตมาเป็นนายเจลโล่คนนี้ได้
“นายคือไอ้เด็กขี้แยจริงๆเหรอ 5555555”
“อืม”
“จริงๆฉันก็มีเรื่องจะบอกเหมือนกัน อ่ะ ฉันเป็นบัดเดอร์นาย ^^” ผมบอกพร้อมยื่นโลลิป็อปอันใหญ่ไปให้ หมอนั่นรับพร้อมยิ้มจนแก้มปริอย่างที่ผมไม่เคยเห็น น่ารักแฮะ
“ไม่คิดเลยว่าจะเป็นนาย”
“...”
“มีอีกเรื่องที่ฉันยังไม่ได้บอก”
“หือ”
“ฉันชอบนายนะ ชอบมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เป็นแฟนกันมั้ยยองแจ ?”
“อะ ไอ้บ้า อย่ามาล้อเล่นนะเว้ย” อยู่ดีๆผมก็รู้สึกร้อนหน้าขึ้นมา แถมความรู้สึกที่อกข้างซ้ายที่เต้นรัวจนแทบจะระเบิดออกมา โอ้ยย ช่วยยูยองแจด้วย TT
“ฉันพูดจริงนะ ฉัน ชอบ นาย” เจลโล่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกเราแตะกัน พลางกระซิบที่หูผมด้วยเสียงแหบๆ นี่มันคิดว่ามันเซ็กซี่มากใช่ป้ะ ? เออก็เซ็กซี่อยู่หรอก แต่ช่วยเอาหน้าไปห่างๆหน่อยเด้ เดี๋ยวก็ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นดังขนาดนี้หรอก
ผมผลักมันออกไปให้ห่างจากหน้าผม ซึ่งมันก็ยอมให้ความร่วมมือดี
“จะเป็นแฟนกันได้ไง นายยังไม่เคยจีบฉันเลยนะ - -” ผมพูดออกไปตามที่คิด แต่มันกลับอมยิ้ม
“งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะจีบนายแบบเต็มสตรีมแล้วนะ ถือว่านายอนุญาตให้ฉันจีบแล้ว ระวังใจตัวเองให้ดีนะตัวเล็ก ^^” ผมรีบหันหน้าไปทางอื่น ไม่งั้นมันต้องเห็นแน่ๆว่าผมกำลังหน้าแดง โอ้ยย น่าอายที่สุดเลย ><
ฟอดดด
“O_o” หะ เห้ยยยยยยย ช็อกครับ ไอ้เจลโล่หอมแก้มผม หอมแก้มเลยนะ มันหอมแก้มผมเลยนะ
ฟอดดดๆๆๆๆๆๆ ไอ้เจลโล่ถือโอกาสตอนที่ผมกำลังช็อกกดจมูกโด่งของมันลงมาที่แก้มเนียนของผมหลายๆรอบ แล้วก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดด้วย
“พอได้แล้ว !” ผมผลักนายเจลโล่ออก พลางเอามือถูแก้มไปมา
“แหมม ไอ้เราก็นึกว่าชอบไม่เห็นขัดขืนเลยนี่ J”
“อะ ไอ้บ้า โว้ยยยยย” ผมแกล้งทำเป็นโกรธกลบเกลื่อน ก็คนมันเขินนี่
“เรื่องที่บอกว่าจะจีบอ่ะ จริงจังนะ”
“.”
จุ้บบ
“มัดจำไว้ก่อนแล้วกันนะ ^_________^” พูดจบก็วิ่งออกไปทันที
มัน จูบ ผม ! ถึงจะแค่ปากแตะกันเฉยๆก็เหอะ นั่นมันจูบแรกของผมเลยนะ T^T
*END*
Talk <3
ขอโทษที่อัพช้านะคะ ไรต์ยุ่งมากก เลยไม่มีเวลามาต่อ คงไม่ได้อัพเรื่องใหม่ๆ
อีกนานเลยย ช่วงปิดเทอมมมีแพลนว่าจะเปิดฟิคยาวแหละ เย่เย่ มีใครสนใจบ้างเอ่ย ?
ภาษาอาจจะแปลกๆ งงๆไปบ้างยังไงก็ติชมได้ค่าา
หนึ่งเม้นเท่ากับหนึ่งกำลังใจเนอะ ^^
ความคิดเห็น