คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้น 1
จุดเริ่มต้น
ฮินาโมริ ชิทากะ นักเรียนม.ปลาย ธรรมดาที่ใช้ชีวิตเหมือนเด็กอัจฉริยะคนทั่วไป เธอที่มีความคิดฝังใจเกี่ยวกับคำพูดและการกระทำต่าง ๆ เธอคิดว่าทุกสิ่งนั้นน่าเบื่อ เธอจึงมักเข้าไปเสี่ยงกับเรื่องบ้างเรื่องที่คนทั่วไปนั้นคิดว่ามันเป็นเรื่องที่อันตรายมากที่สุด แต่สำหรับฮินาโมริ เธอกับคิดว่ามันเป็นเรื่องที่หน้าสนุก มันจึงทำให้เธอนั้นแตกต่างจากคนอื่น
“และนักเรียนดีเด่นสำหรับการศึกษาปีนี้คือฮินาโมริ ชิทากะ ครูหวังว่าเธอคงจะเรียนต่อที่นี้นะ ชิทากะ”
หลังจากจบจากการรับเกรียติบัตรต่างๆนานๆ แล้วนักเรียนทุกคนก็แยกอย่ากันกลับบ้านหรือออกไปสังสรรค์กับเพื่อนเพื่อฉลองการปิดเทอม
ฮินะเมื่อออกมาจากโรงเรียนเธอก็เดินตรง เพื่อจะกลับบ้านของเธอ บ้านของฮินะ นั้นอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก และทางที่จะกลับบ้านของเธอนั้นมีอยู่สองทาง ทางหนึ่งมีคนเดินผ่านไปมามากมายหรือเป็นที่สังสรรค์ของพวกวัยรุ่นเพราะทางนั้นมีร้านค้ามากจึงมีผู้คนมากที่จะเดินผ่านไปมา แต่อีกทางหนึ่งกลับไม่มีคนเดินผ่านเพราะทางนี้มีต้นไม้ขึ้นจนทึบ และก็ไม่มีบ้านคนอาศัยอยู่แถวนี้เลย ฮินะใช้ทางนี้เดินกลับบ้านของเธอเป็นประจำ
และวันนี้ก็เช่นกัน เส้นทางที่เธอเดินกลับเป็นประจำในวันนี้ มันกลับมืดกว่าปกติ และก็มีลมพัดอยู่ตลอดเวลา ลมที่พัดผ่านตัวของเธอนั้นมันช่างเป็นลมที่ ให้ความรู้สึกแตกต่างจากลมทั่วไป มันเป็นสายลมที่เชื่องช้า อ่อนโยน แต่กลับเย็นยะเยือก เธอเดินไปเลื้อยๆ พร่างคิดอะไรมากมายเกี่ยวกับชีวิตของเธอและเธอก็ได้ยิน
“แกร่ง”
เสียงที่เธอได้ยินมันทำให้เธอตื่นจากความคิดและเมื่อเธอตื่นจากความคิด เธอก็ได้รู้สึกตัวว่าเธอนั้นได้เดินเข้ามาในหมอกที่ปกคลุมไปทั่วจนมองไม่เห็นทางที่เธอจะเดิน เธอจึงหยุด
“แกร่ง”
เธอหันซ้าย ขาวเมื่อเสียงนั้น เสียงที่ทำให้เธอตื่นขึ้นจากความคิดของเธอ มันดังขึ้นอีกครั้ง
“แกร่ง แกร่ง”
เสียงนั้นมันยิ่งดังขึ้นเลื้อยๆ และเธอมันใจว่า เสียงนั้นมันต้องดังไม่ไกลจากเธอแน่นนอน เธอแค่ต้องรอจังหวะ เธอเดินช้า ๆ อย่างผู้มีประสบการณ์ และไม่กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้น
“แกร่ง กริ่ง”
และเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกแต่มันแปลก เปลี่ยนไปจากเดิม
“กริ่ง”
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้ เธอสามารถคว้าอะไรสักอย่างได้จากตรงที่ ที่เธอมั่นใจว่าจะต้องเป็นที่มาของเสียงนั้นแน่นอน แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะเห็นมันได้เพราะรอบข้างตัวเธอ หมอก หมอกนั้นยิ่งหนามากขึ้นเลื้อย ๆ แล้วอยู่ๆ ก็มีสายลมเอื่อย ๆ พัดผ่านร่างของเธอ แรงขึ้น แรงขึ้น จนหมอกรอบ ๆ ตัวเธอนั้นจางหายไป เมื่อหมอกจางหายเส้นทางก็ปรากฏ ทางที่เธอแน่นใจว่าเธอนั้นเดินมาได้ไกลมากแล้ว แต่ตอนนี้เธอกลับยื่นอยู่ตรงปากทางเข้าปาก เหมือนเดิม ฮินะมองสิ่งที่เธอนั้นถืออยู่ในมือ แล้วเธอก็ยิ้ม
“หึหึ”เสียงหัวเราะที่ดังออกมาในลำคอของฮินะ กลับบรรยากาศรอบด้านนั้น มันทำให้เธอดูเหมือนพวกที่กำลังคิดสิ่งที่ชั้วร้ายอยู่
ฮินะ เธอหัวเราะตลอดทางที่เธอเดินกลับบ้าน สิ่งที่เธอเจอนั้นมันกระตุ้นบางอย่างในจิตใจของเธอ ‘เธอกำลังจะทำเรื่องบางอย่าง’
บ้านของฮินะ หรือที่เรียกว่าคฤหาสน์ พ่อและแม่ของเธอนั้นต้องบริหารหุนและธุรกิจต่างๆที่อยู่หลายที่ พ่อและแม่ของเธอจึงไม่ค่อยอยู่กลับบ้านนักและตอนนี้พ่อและแม่ของเธอนั้นอยู่ต่างประเทศ บ้านใหญ่โตมักมีคนมากเพื่อช่วยในการดูแลรักษา แต่บ้านของฮินะไม่ใช้ เธอไม่มีแม่บ้านหรือคนงานเพราะไม่มีใครทนอยู่กลับเธอได้สักคน บ้านหลังใหญ่หลังนี้จึงเป็นของเธอแค่คนเดี่ยว ทุกเดือนพ่อและแม่ของเธอจะส่งเงินมาให้ แต่ก็เป็นเงินที่ใช้จ่ายสำหรับบ้าน ส่วนเงินของฮินะนั้นพ่อและแม่ของเธอให้หาใช้เอง พ่อและแม่ของฮินะนั้นจะมาหาเธอปีหนึ่งประมาณสองครั้งหรืออาจไม่มา
วันนี้สำหรับเธอแล้วเป็นวันที่ทำให้เธอรู้สึกสนุกและความสนุกของเธอก็ไปกระตุนต๋อมอดินาลินของเธอให้หลั่งมากเป็นพิเศษ มันทำให้เธอครั้นเนื้อครั้นตัวเป็นอย่างมาก ฮินะจึงลงมายังชั้นใต้ดิน ชั้นที่เก็บทุกอย่างที่เธอต้องการ ฮินะเดินไปยังโรงฝึกฟันดาบที่มีขนาดใหญ่เท่าโรงฝึกของจริง เธอเดินไปหยิบดาบขึ้นมาเล่มหนึ่ง ฮินะเดินมายังลานกว้างขนาดใหญ่เธอหยุดอยู่ตรงจุดสีขาวขนาดเล็ก จุดสีขาวขนาดเล็กนั้นมีทุกที่บนลานกว้างแห่งนี้ เมื่อเท้าสัมผัสลงบนปุ่มสีขาว ก็ดูเหมือนว่ากลไกทุกอย่างจะเริ่มทำงาน
และก็มีบางอย่างพุ่งเข้ามาหาฮินะ และอะไรสักอย่างที่พุ่งเข้ามานั้นมันคือลูกธนูและมีมากกว่าหนึ่งดอกที่พุ่งเข้ามาหาเธอ และเมื่อลูกธนูนั้นเมาใกล้ในรัศมีของดาบเธอก็เริ่มร่ายลำไปมา เมื่อลูกธนูพุ่งเข้ามาไม่หยุดก็ยังมีอีกอย่างหรือเรียกว่าละลองที่สองคือกระสูนปืนพุ่งเข้ามาแต่เป็นระดับแรกที่ยังเข้ามาไม่มากนัก
“เคล้ง เคล้ง”
“เปลาะ”
“ปอก”
เสียงดาบเล่มสวยปัดป้องกระสูน และลูกธนูที่ถูกส่งมาเป็นระรอกโดยไม่มีหยุดและกระสุนก็เพิ่มระดับความแรงมากขึ้นเลื่อย ๆ และลูกธนูก็หยุดทำงานเปลี่ยนมาเป็นกระสูนปืนที่เพิ่มความแรง เร็วและมากขึ้นตามระดับ แต่เมื่อดูท่าทางของฮินะแล้ว กลับดูเหมือนเธอกำลังสนุกมากขึ้น เมื่อกระสุนมามากขึ้นเร็วและแรงขึ้นรอยยิ้มของฮินะยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้น และดูท่าว่าเธอคงจะเป็นโรคจิตแล้วละ เมื่อทุกอย่างจบลงฮินะก็เดินกลับไปเก็บดาบไว้ที่เดิมและเดินไปอาบน้ำในตัวโรงฝึก
สิ่งที่เธอทำนั้นมันอาจพราด แต่ท่าหากพราดก็สรุปได้ว่าเพียงว่าเธอต้องตาย มันจึงเป็นแรงพลั่กดันที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่และสามารถรับและต้านลูกกระสุนและลูกธนูได้จนมาถึงทุกวันนี้ เธอเริ่มเรียนสิ่งพวกนี้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบและหลายสำนักที่ไม่ต้องการเธอเพราะเธอนั้นเรียนรู้ทุกสิ่งและนำมาดัดแปลงมันจึงทำให้เธอไม่เป็นที่ต้องการของสำนักต่าง ๆ และรู้สึกว่าเธอก็คงไม่ต้องการสิ่งแบบนั้นเธอจึงสร้างและทำมันขึ้นมา ห้องใต้ดินมันจึงเป็นห้องที่เธอเก็บทุก ๆอย่างไว้และนี้อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แม่บ้านนั้นไม่ต้องการที่จะอยู่กับเธอ ในเมื่อเธอมักทำในสิ่งที่คนอื่นไม่คิดจะทำ สักวันเธออาจจะจับพวกเขามาเป็นหนูทดลองก็เป็นได้ และดูเหมือนว่าเธอจะมีบางอย่างที่ไม่เหมือนคนอื่น
ซ่า
เสียงน้ำที่ดังออกมาจากโรงอาบน้ำของเธอ มันทำให้ทุกอย่างดูวังเวงไปหมดและก็มีบางอย่างเกิดขึ้น
“กริ่ง”
เสียงที่ดังกังวานไปทั่วทุกที่ และมันก็ทำให้เธอเดินออกมา
“กริ่ง!”
เสียงที่ดังขึ้นมันเป็นสันญาณให้ฮินะรู้ว่า มีอะไรกำลังเข้ามาใกล้มากขึ้น
“กริ่ง”
เสียงนั้นดังขึ้นมาอีกที เสียงนั้นมันหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ แมว แมวสีดำตัวเท่าขนาดฝ่ามือตรงคอมีปลอกคอ กระดิ่งสีขาวขนาดเล็ก ตรงหน้าผากมีแผลเป็นรูปกากบาลขนาดไม่ใหญ่มากนัก รอยยิ้มที่กว้างมากๆก่อนที่จะเจอกลับเจ้าของเสียงตอนนี้มันเล็กลงมากที่เดียว
“อืม เจ้าแมวน้อยมีอะไร”เสียงของฮินะฟังดูเฉยชาแต่แฝงไปด้วยเสียงแห่งความตื้นเต้น และดวงตาที่เป็นประกาย
“ข้านะเหรอ” เสียงห้าวๆที่บ่งบอกว่าคนพูดนั้นเป็นผู้ชาย ดังมาจากข้างหลัง ฮินะและก็เป็นที่เดี่ยวกลับที่เจ้าแมวน้อยสีดำนั่งอยู่ มันทำให้ฮินะแปลกใจแต่ฮินะก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไรมากมายนัก
“อืม”เสียงตอบหลับที่ฟังเหมือนไม่ได้ตกใจกับเสียงของเข้า จึงสร้างคำถามและความแปลกใจให้กับเจ้าของเสียงเป็นอย่างมาก
“เจ้าจะไม่ตกใจหน่อยเหรอ”เสียงที่ตอบกลับมานั้นแฝงไปด้วยความแปลกใจเต็มไปหมด
“ไม่ ดีใจมากกว่า”เสียงที่ตอบกลับมาทั้งที่ยังไม่ได้หันหน้ามามันฟังดูสนุก สนุกจนเจ้าของคำถามนั้นยิ่งแปลกใจมากขึ้นแต่ก็พูดเพียงแค่
“เธอ แปลกดี”เสียงที่ตอบกลับมามันเหมือนเสียงบ่นมากกว่าแต่มันก็ไม่ได้เป็นบทต่อการสนทนาของพวกเขาเลยสักนิด
ฮินะหยิบอะไรสักอย่างที่เธอได้มาจากตอนนั้นขึ้นมาดูก็พบว่ามันเป็นกระดิ่งสีเงิน ที่แวววาวเมื่อกระทบกับแสง แล้วเธอก็ใส่กระดิ่งไว้ที่แขนข้างซ้ายก่อนที่จะหันมาพบกับเจ้าของเสีย เขาตัวสูงมีผมสีดำและมีแผลเป็นรูปกากบาลตรงหน้าผากเหมือนกลับเจ้าแมวเพียงแต่มันมีขนาดเล็กกว่ามากนัก และมีผมตกลงมาปิด จึงเป็นท่าหากไม่สักเกตุก็คงไม่เห็น ตาสีดำเช่นเดียวกันทำให้เข้านั้นดูดีไปอีกแบบ
“ขึ้นมานั่งที่ห้องรับแขกก่อนสิ”เสียงเชิญที่ออกมาจากปากอมชมพูได้รูปของฮินะนั้นทำให้เขาอยากเห็นใบหน้าของฮินะแต่ก็ไม่ได้เพราะเธอนั้นเดินนำขึ้นไปแล้ว เสียแล้ว
ภายในห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่ถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วยโทนสีขาวที่ดูสะอาดตา เขานั่งอยู่บนโซฟาสีขาวขนาดใหญ่ รอฮินะ เพราะเธอบอกว่าจะไปเอาน้ำมาให้เขาแต่นี้ก็ไปนานแล้วยังไม่กลับมาสักทีเขาเลยชักแกร่งๆ ทำตัวไม่ถูกเข้าไปทุกที แล้วก็เหมือนทุกอย่างผ่อนคลายลง เมื่อฮินะเดินมา ฮินะอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ยาวลงมาถึงขาอ่อนสีขาวอมชมพู่ของเธอ ผมสีดำเข้มที่ถูกปล่อยสยายลงตามแรงโน้มถ่วง ดวงตาสีม่วงอ่อนที่อยู่หลังกรอบแวนที่อยู่ตรงปลายจมูกมันทำให้เธอดูดีไม่น้อยในเวลานี้
“เออ...”คำพูดที่คิดจะพูดออกมากลับถูกกลืนหายไปเมื่อเห็นคนตรงหน้าแบบชัดๆ
“ฉันฮินาโมริ ชิทากะ”เธอแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเฉยชาที่แฝงไปด้วยความตื้นเต้นแต่เจ้าตัวนั้นไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนมันจึงเป็นเช่นนี้ ผิดกลับดวงตาที่แวววับเป็นประกายที่ซื่อตรงผิดกับน้ำเสียงที่ฟังดูจับยาก แต่คนตรงหน้าก็ไม่ได้ติดใจอะไรกลับน้ำเสียงที่คนตรงหน้าพูดมากนักจึงเป็นผลดีสำหรับฮินะที่จะไม่โดนเกรียด
“อิสึมิ ไอสึทากะ นั้น ทากะ พวกเรายินดีที่ได้รู้จัก” เขาเอ๋ยแนะนำตัวอย่างเป็นมิตรรวมไปถึงเจ้าแมวสีดำที่ พะงกหัว เป็นการทักทาย
“มีธุระอะไรกลับฉันเหรอ”ฮินะถามสิ่งที่เป็นจุดประสงค์ของคนตรงหน้าออกไปด้วยท่าทีที่สบาย พร่างนั่งจิบน้ำชาที่เธอยกมาเป็นการรอฟังคำตอบ
“ฉันทามจริงๆเหะ เธอไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอที่มีคน.......!.......แปลกหน้าแบบพวกฉันมาอยู่ในบ้านเนี่ยนะ”อิสึมิถามออกไปอย่างอดไม่ได้ พร่างเอื้อมมือไปหยิบคุกกี้หนึ่งชิ้นขึ้นมา
“ไม่นิ ทำไมเหรอ”ฮินะตอบกลับอย่างเป็นเรื่องปกติทั้งที่นี้เป็นครั้งแรกที่มีคนเข้ามาภายในบ้านของเธอและยังเป็นคนที่เธอไม่รู้จัก
“อืม แปลกดี”ครั้งที่สองที่คนตรงหน้าเอ๋ยประโยคนี้ตรงหน้าของคนแปลกดี และหยิบคุกกี้มาอีกชิ้น
“เธอได้รับการทดสอบแล้วใช่มั้ย”อยู่ๆเขาก็เป็นเรื่อง และน้ำเสียงก็ฟังดูจริงจังมากขึ้น
ฮินะงง อยู่กับสิ่งที่อิสึมิพูดอยู่ไม่นานและเธอก็รู้ในสิ่งที่เขาพูดออกมาแต่เธอก็ไม่ตอบคำถามของเขา
“ฉันได้รับหมอบหมายจากพวกเขาให้มาสอนวิธีการใช้พลัง แล้วอีกสักหน่อยเธอก็จะถูกเรียกตัวเพื่อไปรายงานตัว”เขาลุกขึ้นแต่ก็มิวายที่จะหยิบคุกกี้ขึ้นมาอีกด้วย
“นายอายุเท่าไร”ฮินะถามคำถามที่ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่อิสึมิพูดเลยสักนิด
“ฉันอายุ 21ปี”เขาทั้งตอบทั้งกัดคุกกี้คำใหญ่ ท่าเป็นคนอื่นก็คงหัวเราะ แต่ฮินะกลับทำหน้าตาเฉยเมยไรอารมณ์เหมือนเดิม
“อืม แล้วเราจะเริ่มเรื่องสนุกกันตอนไหนละ”เธอวกกลับเขามาเรื่องเดิมแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยพร้อมกับยืนโถใส่คุกกี้ให้กับอิสึมิ และเจ้าแมวน้อยก็ส่ายหัวให้กับความไม่เอาไหนของเจ้านายของตน
“และก่อนอื่น”
เขาเว้นช่วงคำพูด จึงทำให้เป็นจุดสนใจมากขึ้นสำหรับฮินะและเจ้าทากะ แต่สิ่งที่ได้ยินนั้นถึงกับทำให้เจ้าทากะ
“ฉันหิวข้าวแล้ว เราออกไปหาข้าวกินกันดีกว่า”อิสึมิเดินนำหน้าฮินะออกไปแล้ว และสิ่งที่ได้ยินมันทำให้เจ้าแมวน้อยที่รอฟังอยู่นั้นถึงกับต้องส่ายหัวกับความไม่เอาไหนของเจ้านายของมันเป็นรอบที่สอง
“เราจะไปกันที่ไหนละ”ฮินะถาม ในมือกำลังอุ้มเจ้าแมวน้อยทากะที่ตอนนี้กำลังอ้อนเธออยู่
“แล้วนี้เธอไม่คิดที่จะเปลี่ยนชุดบ้างหรือไง”เขาบอกพร้อมกับหันมาชี้ที่เสื้อผ้าของเธอ
“ไม่เห็นจำเป็นเลยนี้”ฮินะตอบกลับมาอย่างไม่สนใจและก็เดินนำหน้าอิสึมิไป
“แล้วจะไปกันที่ไหนละ”เธอถามขณะที่เดินนำหน้าอยู่เพื่อไม่ให้เสียฟอร์ม
“อืม เอาเป็นที่ที่ฉันรู้จักละกัน”และอิสึมิก็เปลี่ยนมาเป็นเดินนำหน้า
ฮินะแทนเพื่อไม่ให้เธอหลง
ความคิดเห็น