ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Guilty 1 ไปกินพาเฟ่ต์กัน(!?)
บทที่ 1 ไปกินพาเฟ่ต์กัน (!?)
ออดโรงเรียนดังขึ้น เป็นเสียงให้เหล่านักเรียนได้รับรู้ทั่วกันว่าเวลากลับบ้านได้มาถึงแล้ว
“มินาโตะ อาริซาโตะ”นาย(?)เอกของเราหุ่นรูปร่างเพรียวบาง และส่วนสูงระดับมาตรฐาน ทำให้ดูสูงโปร่ง ซึ่งผู้หญิงทุกคนอิจฉายิ่ง ใบหน้าเรียวแบบหน้ารัก ดวงตาสีเทาออกเงิน และหน้าตาที่มักทำให้เพศตรงข้าม รวมเพศเดียวกันรู้สึกเอ็นดู ผมสีน้ำเงินเข้มสั้นระต้นคอ และผมด้านหน้าที่ยาวจนถึงคางปัดไปทางด้านข้าง จนเกือบจะปิดตาขวาจนมิด ทำให้ดูมีสเน่ห์อย่างน่าประหลาด
ตอนนี้กำลังเก็บสมุดโน้ตที่แทบไม่ได้จดอะไรลงไปในระหว่างที่อาจารย์สอนเลย เพราะหลับตลอดทั้งคาบ แต่อาจารย์ก็ไม่ได้ทักท้วงที่เขาไม่ตั้งใจเรียน เพราะเขากลับมีผลการเรียนดีที่สุดในระดับชั้น เพราะฉะนั้น อาจารย์ก็ไม่มีอะไรทักท้วง
หากผลการเรียนเขาดีแบบนี้ต่อไป เผลอๆอาจารย์อาจเสนอให้เขาไปนอนบนเตียงที่ห้องพยาบาลเลยก็ได้!
หลังจากมินาโตะเก็บของใส่กระเป๋าสะพายข้างเรียบร้อยแล้ว ก็หยิบเฮดโฟนคู่ใจที่เขาใส่อยู่ตลอดเวลามาเปิดเพลงฟังก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไป
“มินาโตะ อาริซาโตะ”นาย(?)เอกของเราหุ่นรูปร่างเพรียวบาง และส่วนสูงระดับมาตรฐาน ทำให้ดูสูงโปร่ง ซึ่งผู้หญิงทุกคนอิจฉายิ่ง ใบหน้าเรียวแบบหน้ารัก ดวงตาสีเทาออกเงิน และหน้าตาที่มักทำให้เพศตรงข้าม รวมเพศเดียวกันรู้สึกเอ็นดู ผมสีน้ำเงินเข้มสั้นระต้นคอ และผมด้านหน้าที่ยาวจนถึงคางปัดไปทางด้านข้าง จนเกือบจะปิดตาขวาจนมิด ทำให้ดูมีสเน่ห์อย่างน่าประหลาด
ตอนนี้กำลังเก็บสมุดโน้ตที่แทบไม่ได้จดอะไรลงไปในระหว่างที่อาจารย์สอนเลย เพราะหลับตลอดทั้งคาบ แต่อาจารย์ก็ไม่ได้ทักท้วงที่เขาไม่ตั้งใจเรียน เพราะเขากลับมีผลการเรียนดีที่สุดในระดับชั้น เพราะฉะนั้น อาจารย์ก็ไม่มีอะไรทักท้วง
หากผลการเรียนเขาดีแบบนี้ต่อไป เผลอๆอาจารย์อาจเสนอให้เขาไปนอนบนเตียงที่ห้องพยาบาลเลยก็ได้!
หลังจากมินาโตะเก็บของใส่กระเป๋าสะพายข้างเรียบร้อยแล้ว ก็หยิบเฮดโฟนคู่ใจที่เขาใส่อยู่ตลอดเวลามาเปิดเพลงฟังก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไป
“มิ~นา~โตะ~~” เสียงสูงปรี้ด สิบหกหลอดขนาดนักร้องโอเปร่าหญิงยังอาย ดังทะลุเฮดโฟนของมินาโตะ
“ไปกิน พาเฟต์กัน ฉันเลี้ยงเอง ฉลองที่ปิดเทอมใหญ่ไง!” เจ้าของเสียงตะโกนที่ดังไป สามอาคาร แปดอาคาร (ยิ่งกว่าบ้าน)
“ยู นารุคามิ” เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของมินาโตะเอ่ยชวน ยูมีรูปร่างสูงใหญ่กำลังดี ไม่ได้กล้ามใหญ่หรือผอมบางเกินไป ในระดับที่ผู้ชายด้วยกันเห็นแล้วยังอิจฉา หน้าตาหล่อหลาคมเข้ม ผมสีเทาและทรงผมแสนวัยรุ่น“กะลาครอบ”ที่ปรับแต่งนิดหน่อยทำให้เข้ากับใบหน้าแบบหล่อเข้มอย่างแรง
เป็นคนที่ชมรมหนังสือพิมพ์สำรวจแล้ว่า คนทั้งโรงเรียนอยากได้เป็นแฟนอันดับสองของโรงเรียน (อันดันหนึ่งคือ มินาโตะ เพราะว่าจากการสำรวจ มินาโตะได้รับคะแนนท่วมท้นจากหญิงและชายทั้งโรงเรียน ในขณะที่ ยูได้รับคะแนนจากนักเรียนหญิงอย่างเดียว...)วันนี้เป็นวันเรียนวันสุดท้ายของภาคเรียนแล้ว หลังจากนี้ไปก็เป็นปิดเทอมฤดูร้อนที่นักเรียนทุกคนไฝ่ฝัน
“ไปกิน พาเฟต์กัน ฉันเลี้ยงเอง ฉลองที่ปิดเทอมใหญ่ไง!” เจ้าของเสียงตะโกนที่ดังไป สามอาคาร แปดอาคาร (ยิ่งกว่าบ้าน)
“ยู นารุคามิ” เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของมินาโตะเอ่ยชวน ยูมีรูปร่างสูงใหญ่กำลังดี ไม่ได้กล้ามใหญ่หรือผอมบางเกินไป ในระดับที่ผู้ชายด้วยกันเห็นแล้วยังอิจฉา หน้าตาหล่อหลาคมเข้ม ผมสีเทาและทรงผมแสนวัยรุ่น“กะลาครอบ”ที่ปรับแต่งนิดหน่อยทำให้เข้ากับใบหน้าแบบหล่อเข้มอย่างแรง
เป็นคนที่ชมรมหนังสือพิมพ์สำรวจแล้ว่า คนทั้งโรงเรียนอยากได้เป็นแฟนอันดับสองของโรงเรียน (อันดันหนึ่งคือ มินาโตะ เพราะว่าจากการสำรวจ มินาโตะได้รับคะแนนท่วมท้นจากหญิงและชายทั้งโรงเรียน ในขณะที่ ยูได้รับคะแนนจากนักเรียนหญิงอย่างเดียว...)วันนี้เป็นวันเรียนวันสุดท้ายของภาคเรียนแล้ว หลังจากนี้ไปก็เป็นปิดเทอมฤดูร้อนที่นักเรียนทุกคนไฝ่ฝัน
“ทำไมถึงชวนฉันล่ะ” มินาโตะเอ่ยถามเพื่อนสนิทของตนเอง เพราะยูไม่ค่อยเอ่ยชวนไปกินพาเฟ่ต์เท่าไหร่หรอก ทุกครั้งที่ชวนส่วนใหญ่จะชวนไปกิน บุฟเฟ่ต์เค้ก ของโปรดของมินาโตะ โดยเฉพาะยิ่งตอนปิดภาคเรียนด้วยแล้ว
“มีเรื่องจะคุยด้วยเหรอ?” มินาโตะถามกลับ เพราะถ้าไม่ชวนไปกิน บุฟเฟ่ต์ที่เขามักกินไม่อั้น ก็แปลว่าจะต้องการคุยด้วยแน่นอน
“ก็...อยากจะคุยอะไรด้วยน่ะ” ยูตอบกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมเอามือเกาหลังหัวหน่อยๆ ทำให้นักเรียนหญิงที่มองอยู่เห็นแล้วแทบลมจับ
‘ว่าแล้ว...’มินาโตะคิดในใจ
“นายว่างรึเปล่า?” ยูถามอีกรอบเพราะเขารู้ว่าเพื่อนคนนี้ไม่ค่อยธรรมดาเท่าไหร่ อาจจะติดงานสำคัญก็ได้
ใช่...นายเอกของเรามีฐานะเบื้องหลังไม่ธรรมดา เพราะเขามีอาชีพเบื้องหลังคือ ‘Head Hunter’ หรือ นักล่าค่าหัว อาชีพนี้ไม่ค่อยจะอยู่ด้านมืดซักเท่าไหร่ เพราะสมัยนี้มีนักล่าค่าหัวเกิดขึ้นมากมาย เพราะอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น และการโกงกินอำนาจเบื้องหลัง ทำให้เกิดการก่อตั้งองกรหนึ่งขึ้น ที่จะรับหน้าที่สืบหาข่าวจากด้านมืดเพื่อเสาะหาหน้าตา และวีรกรรมที่เหล่าอาชญากรรม และพวกที่ชอบใช้อำนาจด้านมืดทำเรื่องชั่วทั้งหลายแหล่ ทั้งหลายก่อไว้ พร้อมกับตั้งค่าหัวตามความร้ายแรงของวีรกรรมที่ก่อ
ด้วยเงินค่าหัวที่ส่วนใหญ่สูงลิ่วกันทั้งนั้น ทำให้มีเฮดฮันเตอร์เกิดขึ้นมากมาย เพราะนอกจากจะได้เงินก้อนโตแล้ว อาจมีชื่อเสียงเป็นของแถมอีกตังหาก
เพราะไม่ใช่อาชีพในด้านมืด จะจัดการต่อหน้าคนหมู่มากเพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียงที่ทำตัวเป็นวีรบุรุษก็ได้
ด้วยเงินค่าหัวที่ส่วนใหญ่สูงลิ่วกันทั้งนั้น ทำให้มีเฮดฮันเตอร์เกิดขึ้นมากมาย เพราะนอกจากจะได้เงินก้อนโตแล้ว อาจมีชื่อเสียงเป็นของแถมอีกตังหาก
เพราะไม่ใช่อาชีพในด้านมืด จะจัดการต่อหน้าคนหมู่มากเพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียงที่ทำตัวเป็นวีรบุรุษก็ได้
ขอแค่ไปสมัครสมาชิกที่องกรก็สามารถเป็นนักล่าค่าหัวได้แล้ว หลังจากนั้นก็ไปดูที่ติดประกาศของสำนักงานของซึ่งกระจายอยู่ทั่งโลกว่ามีใครถูกประกาศบ้าง จากนั้นก็ไปจัดการคนที่ถูกประกาศซะ
เงินค่าหัวที่ได้จากการเก็บคนๆนั้นก็จะถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของตัวเอง ง่ายดายซะไม่มี~
นายเอกของเราก็เป็นนักล่าค่าหัว แถมยังเป็นนักล่าค่าหัวที่โด่งดังที่สุดในโลกอีกด้วย
เพราะการลงมือแต่ล่ะครั้ง ขนาดพวกอิทธิพลใหญ่ๆ บอดี้การ์ดเป็นพันก็สามารถจัดการได้ และด้วยการที่เขาไม่เปิดเผยตัวตนทำให้เขายิ่งดังเข้าไปใหญ่ จนได้รับฉายา
'Harmony of Dead' ท่วงทำนองแห่งความตาย เพราะการลงมือแต่ล่ะครั้งเขาจะร้องเพลงที่มีท้วงทำนองโศกเศร้า มืดมน ดั่งเพลงส่งวิญญาณไปด้วย มินาโตะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องร้องเพลงด้วยแต่ส่วนลึกของจิตใจเขามันบอกว่าให้ร้องต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเหยื่อที่เขาหมายหัวจะสิ้นชีพ
'Harmony of Dead' ท่วงทำนองแห่งความตาย เพราะการลงมือแต่ล่ะครั้งเขาจะร้องเพลงที่มีท้วงทำนองโศกเศร้า มืดมน ดั่งเพลงส่งวิญญาณไปด้วย มินาโตะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องร้องเพลงด้วยแต่ส่วนลึกของจิตใจเขามันบอกว่าให้ร้องต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเหยื่อที่เขาหมายหัวจะสิ้นชีพ
ที่ยูรู้ว่า มินาโตะเป็นนักล่าค่าหัวเพราะมินาโตะเป็นคนบอกเขาเอง แถมยูยังสัญญาว่าจะเป็นความลับแค่พวกเราสองคนเท่านั้นอีกตังหาก
มินาโตะเคยถามกลับไปว่าหากยูเป็นอันตรายเพราะเขาจะทำไง เขาเป็นนักล่าค่าหัวที่โด่งดังที่สุดน่ะ ‘ไม่กลัวบ้างหรือ’
แต่ยูก็ตอบมินาโตะกลับไปว่า ‘งานก็ส่วนงาน เพื่อนก็ส่วนเพื่อน เขาไม่กลัวซักกระติ๊ด’
มินาโตะเคยถามกลับไปว่าหากยูเป็นอันตรายเพราะเขาจะทำไง เขาเป็นนักล่าค่าหัวที่โด่งดังที่สุดน่ะ ‘ไม่กลัวบ้างหรือ’
แต่ยูก็ตอบมินาโตะกลับไปว่า ‘งานก็ส่วนงาน เพื่อนก็ส่วนเพื่อน เขาไม่กลัวซักกระติ๊ด’
หลังจากนั้น ทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน
รำลึกความหลังมาเยอะพอสมควร กลับมาที่เหตุการณ์ปัจุบัน
“ว่าง...” มินาโตะตอบ
“เยส!!!” ยูร้องอย่างดีใจ แต่ว่า...
“ขอเป็น ช๊อคโกแล๊ตพาเฟ่ต์ สเปเชี่ยลไซส์น่ะแล้วก็เป็นร้าน Koi Parfeit ที่อยู่ตรงข้ามกับร้านเค้ก La cigerlion ด้วย” มินาโตะพูดต่อหน้าตาย ทั้งๆที่ยูยังร้องไม่จบ
“เย~สะ...หา!!!” ยูเปลี่ยนคำกลางอากาศอย่างตกใจ เพราะร้านที่มินาโตะพูดถึงมันเป็นร้านที่ได้ชื่อว่าของอร่อยที่สุดแต่ก็แพงที่สุดในย่านนั้นเลยน่ะนั่น!
‘เรื่องขนมล่ะพูดซะยาว ทีเวลาคุยกันยังแทบนับพยางค์ได้เลย’ ยูคิดแค้นในใจ
“บาย...” มินาโตะบอกลาทันทีหลังจากเสียงอุทานตกใจของเพื่อง
“หะ...เห้ย! เดี๋ยว! ก็ได้ นายอย่าพึ่งไปดิ” ยูร้องรั้งไว้เพราะมินาโตะเดินเพียงแว้บเดียว กระพิบตาไม่ถึงครึ่งที ก็ถึงประตูหน้าห้องเรียนแล้ว (ที่นั่งของ มินาโตะอยู่ริมหน้าต่างหลังสุด ของยู อยู่สองแถวถัดมาตรงกลาง)
มินาโตะหันกลับมายิ้มบางๆจนคนที่มองเห็นทุกคนแทบกลายสภาพเป็นเยลลี่ไปกองกับพื้นเพราะความน่ารัก
“ไปกินพาเฟ่ต์กัน~” มินาโตะตอบกลับด้วยเสียงร่าเริงที่ทำให้มุมปากของยูกระตุกไปหลายที
‘ตังช้าน~~~~’ ยูร้องโหยหวนในใจ
______________________________________________________________
ปรับบรรทัดแล้วขอรับ หวังว่าจะอ่านไม่ลายตาน่ะขอรับ (บอกตามตรงตอนที่อ่านเช็คตัวอักษรเราก็มึน @-@ )
______________________________________________________________
ปรับบรรทัดแล้วขอรับ หวังว่าจะอ่านไม่ลายตาน่ะขอรับ (บอกตามตรงตอนที่อ่านเช็คตัวอักษรเราก็มึน @-@ )
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น