ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Guilty Online

    ลำดับตอนที่ #13 : Guilty 12 ไซเรน

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 54


    บทที่ 12 เผชิญหน้าไซเรน
     
     
                เช้าวันใหม่ มินาโตะตื่นขึ้นมาก่อนใครเพื่อน ไม่ใช่เพราะจะฝึกวิชาอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่เพื่อมารับลมทะเล และมาดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าต่างหาก (น่ารักซะไม่มีอ่ะ > < ) เพราะมินาโตะเคยอ่านเจอในหนังสือนิยายทั้งหลายแหล่ว่า พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้ากลางท้องทะเลนั้นสวยมาก ถึงจะไม่เหมือนกับพระอาทิตย์ตกตอนเย็น แต่เท่าที่อ่านมา พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าจะดูอบอุ่นสบาย ไม่เหมือนกับตอนพระอาทิตย์ตกที่ร้อนแรงก่อนจะกลายไปเป็นเย็นเยียบเมื่อลับฟ้าไป แต่มินาโตะเคยอ่านเจอแต่ในหนังสือเท่านั้นแหล่ะ เค้าเลยอยากรู้ว่าของจริงเป็นยังไง ถึงจะเป็นแค่ในเกมก็เถอะ (น่ารัก x2)
     
    “มินาโตะ ตื่นแล้วเหรอ”เสียงของเนกุดังขึ้น จนมินาโตะหันไปมอง ก็พบกับร่างของเนกุ ที่หน้าตาดูเหมือนจะได้นอนหลับไม่เพียงพอ(แล้วรีบตื่นขึ้นมาทำไมล่ะจ๊ะ)
     
    “นายไม่นอนต่อเหรอ” มินาโตะถามขึ้นเบาๆ เพราะตาของเนกุแลดูเหมือนอย่างกับช่วงช่วง
     
    “อ๋อ! ผมนอนไม่หลับน่ะ”เนกุตอบ คำพูดกับหน้าตานี่ขัดกันอย่างแรง แต่มินาโตะก็ไม่ได้ซักไซ้ถามอะไรอีก ก่อนจะหันหน้ากลับไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้นต่อ
     
    “อ้าว ทั้งสองคนตื่นกันไวจัง” ยูที่เอ่ยทักทั้งสองคนที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ
     
    “นายรีบตื่นทำไมตั้งแต่เช้าเนี่ย ยู” เนกุเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับส่งกระแสไฟฟ้าทางสายตาไปให้ยู
     
    “ฉันเป็นห่วงเพื่อนนี่ รู้สึกว่านายจะนอนไม่พอน่ะ”ยูตอบพร้อมกับส่งกระแสไฟฟ้ากลับไปบ้าง
     
               มินาโตะยังคงรอดูพระอาทิตย์ขึ้น โดยไม่ได้สนใจคนสองตนที่ส่งกระแสไฟฟ้าใส่กันทางสายตาเลยซักนิด
     
    “สวยจัง...”มินาโตะอุทานขึ้นเบาๆ เมื่อพระอาทิตย์เริ่มขึ้นมาจากทิศตะวันออก ค่อยๆสาดแสงมากขึ้นทีล่ะน้อย เป็นวิวที่สวยงามมากทีเดียว
     
    เหล่าหนุ่มๆที่แย่งบทพระเอกกันอยู่ (ขณะนี้มี ยู และ เนกุ อีกซักพักจะมีเพิ่มอีกเรื่อยๆ)[เรื่องนี้ ไม่วาย น่ะ ก็บอกว่าไม่วายไง] หยุดทำสงครามทางสายตากันชั่วคราว แล้วหันไปมองมินาโตะพร้อมกัน พลางคิดในใจอย่างพร้อมเพรียงว่า ‘น่ารักโว้ย~’
     
    เพราะว่าตอนนี้ นายเอกของเรามองไปทางที่พระอาทิตย์ขึ้นด้วยสายตาเป็นประกาย พร้อมกับระบายรอยยิ้มอันสดใส ที่ใครเห็นใครก็รัก~
     
    “มินาโตะ ไปทานอาหารเช้ากัน” ยูพูดขึ้น เมื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จแล้ว
     
    “อื้ม” มินาโตะหันไปพยักหน้ารับกับยู ทำเอาเนกุของขึ้นทันที
     
                 ยูทำหน้าเย้ยใส่เนกุเล็กน้อย ก่อนจะหันไปคุยกับมินาโตะต่อ
     
           
     
     
               หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย แต่ล่ะคนก็กลับเข้าประจำที่เดิมของตนอีกครั้งเหมือนเมื่อวาน 
     
    “เราจะเข้าสู่เขตแดนไซเรนกันแล้ว ขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมด้วย” กัปตันเมอริกตะโกนขึ้น เพื่อให้เหล่าลูกเรือเตรียมพร้อม
     
    “ไซเรนเหรอ...”มินาโตะพูดขึ้นเบาๆ  ก่อนจะนึกย้อนไปตอนเขาเป็นเด็ก...
     
    “มีอะไรเหรอมินาโตะ” ยูเดินมายืนอยู่ข้างๆมินาโตะ ก่อนจะเอ่ยถาม
     
    “เปล่า...ไม่มีอะไร”มินาโตะตอบ ก่อนจะเอ่ยถามยูขึ้นเบาๆ
     
    “ยู...คิดว่าไซเรนมีจริงรึเปล่า”
     
    “หา...”
     
    “ในโลกจริง...ยูคิดว่ามีไซเรนจริงๆรึเปล่า” มินาโตะเอ่ยถามอีกครั้ง
     
    “เอ่อ...ไม่รู้สิ” ยูตอบ 
     
    “มันมีจริงๆน่ะ” มินาโตะพูดต่อ
     
    “เอ๋!” ยูร้องขึ้นเบาๆ
     
    มินาโตะเริ่มเล่าความหลังของตัวเองให้ยูฟัง
     
        “ตอนฉันเด็กๆ พ่อแม่ฉันยังอยู่ พวกเราเคยขึ้นเรือสำราญครั้งนึง ในเรือสำราญตอนเย็นน่ะมีงานเลี้ยง แต่ฉันไม่ชอบ เลยเดินออกมารับลมทะเลข้างนอก แล้วฉันก็เห็น... ฉันเห็นผู้หญิงกลุ่มนึง พวกเค้ามีหางที่คล้ายๆกับ จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ งูทะเลล่ะมั้ง พวกเธอน่าตาสวยมากจนฉันมองตาค้างเลยล่ะ พวกเธอนั่งอยู่บนโขดหินที่อยู่ห่างจากเรืออกไป เหมือนมีผู้หญิงคนนึงที่เห็นว่าฉันมองพวกพวกเธออยู่ เค้าหันหน้ามายิ้มให้กับฉัน...หลังจากนั้น พวกหล่อนก็เริ่มร้องเพลง เพลงที่พวกหล่อนร้องน่ะ เพราะที่สุดในโลกเลยล่ะ ฉันยังจำมันได้อยู่เลย ฉันยืนฟังพวกหล่อนร้องเพลงอยู่อย่างนั้น แต่ว่า อยู่ๆ ก็มีคนโดดออกจากเรือ ตอนนั้นฉันตกใจมาก แต่แล้วก็มีคนอีกหลายคนโดดตามลงไป พวกเขาทุกคนต่างว่ายไปที่โขดหินที่พวกหล่อนนั่งอยู่ ฉันเอื้อมมือไปคว้าผู้หญิงคนหนึ่งไว้ แล้วฉันก็เห็นภาพ...เหมือนมันจะเป็นภาพเดียวกับที่ผู้หญิงคนนั้นเห็น เห็นผู้ชายท่าทางใจดีคนนึง อุ้มเด็กทารกยืนโบกมือเรียกไปหา ผู้หญิงคนนั้นสลัดฉันออกมาแล้วก็กระโดดลงทะเลไปอีกคน ปากก็พึมพำว่า ‘ที่รัก คุณกลับมาแล้ว นั่นลูกของเรา’ ประมาณนี้แหละ มีคนโดดลงทะเลไปเรื่อยๆ ว่ายน้ำไปตรงโขดหินที่ผู้หญิงพวกนั้นนั่งอยู่อยู่สุดชีวิต ราวกับ...ว่ายไปหาสิ่งที่ตัวเองรักหรือปรารถนา ตอนนั้นฉันพยายามดึงคนไว้หลายคน แต่ก็ถูกพวกผู้ใหญ่สลัดออกมาทุกที เสียงเพลงก็ดังต่อไปเรื่อยๆ จนมีคนว่ายไปถึงโขดหินตรงนั้น ตอนนั้นผู้หญิงที่หันมายิ้มให้กับฉันตอนแรก หล่อนกางปีกที่คล้ายกับปีกค้างคาวออกมา แล้วก็บินมาหาฉัน ตอนนั้นฉันอึ้งมากจนทำอะไรไม่ถูก หล่อนยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน แล้วเอามือมาปิดตาฉัน พูดกับฉันเบาๆว่า ‘เธอไม่สมควรจะเห็น...’ อะไรเนี่ยแหละ แล้วฉันก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย ฉันรู้สึกตัวอีกที ตัวเองก็นอนอยู่ในห้องพยาบาลของเรือ พ่อแม่ฉันบอกว่า ฉันสลบอยู่บนระเบียงของเรือ ส่วนเรื่องที่คนกระโดดลงทะเลไปนั้น ถูกสรุปว่าเป็นการอุปทานหมู่ มีแค่ ฉัน พ่อกับแม่ แล้วก็คนที่หลับอยู่ที่ห้องที่รอด ส่วนคนที่กระโดดลงทะเลนั้นหายสาบสูญหมด” มินาโตะหยุดพูดไปซักพัก เพื่อพักหายใจ ในขณะที่ยูอึ้งสนิท
     
    “ฟังดูเหมือนนิยายแฟนตาซีไม่มีผิด แต่มันคือเรื่องจริงน่ะ”มินาโตะที่พักหายใจเสร็จแล้วพูดต่อ
     
    “ตอนแรก ฉันไม่เข้าใจ ว่าทำไมฉันถึงรอด ทั้งๆที่ฉันยืนฟังเพลงอยู่ตั้งนาน แต่พอฉันเสียพ่อแม่ไปฉันก็เข้าใจ...” มินาโตะพูดขึ้นก่อนจะเงียบไปซักพัก
     
    “มินาโตะ...”ยูพูดเบาๆ
     
    “คนพวกนั้นกระโดดออกไปเพระความปรารถนา ตอนนั้นฉันอยู่กับพ่อแม่ ฉันมีความสุข ไม่ต้องการอะไรมากกว่านั้น ฉันถึงไม่เป็นอะไร เสียงเพลงของไซเรนใช้ความปราถนาของคนเรา ใช้สิ่งที่เราปรารถนาสูงสุดหลอกล่อให้ไปติดกับของพวกเธอ...”มินาโตะหยุดพูดไปก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
     
    “ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอทำอะไรกับคนที่ถูกชักจูงไป แต่ฉันว่าพวกเขาตอนนี้คงไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วหล่ะ” มินาโตะพูดยาวๆขึ้นอีกครั้งก่อนจะกลับไปเงียบตามเดิม
     
    “ขอบคุณที่ฟังฉันน่ะ”มินาโตะพูดสั้นๆ
     
    “ไม่เป็นไร ฉันดีใจน่ะที่ได้ฟังนายเล่าความรู้สึกให้ฟัง” ยูพูด เขาดีใจจริงๆที่มินาโตะพูดยาวๆออกมาซักครั้งเพื่อเล่าอดีตให้เขาฟัง
     
     
     
     
           “คุณยู คุณมินาโตะ พวกคุณลงไปหลบที่ห้องพักก่อนเถอะ” กัปตันตะโกนขึ้นเมื่อเข้าเขตแดนของไซเรนแล้ว
     
             “ไม่เป็นไรครับ” ยูตะโกนตอบกัปตันเมอริก แล้วหันกลับไปคุยกับมินาโตะต่อ
     
             “แต่ว่า จะดีเหรอครับ คุณมินาโตะพึ่งจะเลเวล 30 เองน่ะครับ” กัปตันถามขึ้น
     
             “ผมไม่เป็นไรหรอกครับ” มินาโตะหันไปตอบพร้อมกับยิ้มบางๆ เพื่อให้กัปตันวางใจ
            
           ไม่รู้เป็นเพราะรอยยิ้มไร้เดียงสา(?)ของมินาโตะหรือเปล่าทำเอากัปตันเมอริกกลุ้มหนักกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้พูดคัดค้านอะไร เพราะเจ้าตัวยืนยันมาเอง
     
     
     
              เมื่อเรือแล่นมาถึงโขดหิน ก็ปรากฏเหล่าหญิงสาวที่หน้าตา...แก่งั่ก หางปลาที่แลดูคล้ายซากปลามากกว่าจะเป็นหาง คือท่อนล่างของเหล่าหญิงชราหน้าตาน่ากลัว แต่ล่ะคนส่งเสียงหัวเราะอันน่าสะพรึงกลัวออกมาเมื่อมองเห็นเรือแล่นเข้ามา
     
    ‘มอนส์เตอร์ ไซเรน เลเวล 100 เจ็ดตัวปรากฏ เตรียมจู่โจม’ เสียงประกาศจากระบบดังขึ้น
     
                มินาโตะขมวดคิ้วน้อยๆ เพราะไซเรนในความทรงจำวัยเด็กของเขานั้นสวยงามกว่านี้หลายเท่าน่ะ
     
                เหล่าปีศาจไซเรนในคราบหญิงชรา เอ่ยปากขับร้องท่วงทำนองและถ้อยคำอันหดหู่แต่ไพเราะ ขัดกับเจ้าของเสียงร้องอย่างแรง เหล่าลูกเรือจิตอ่อนบางคนถึงกับคุมตัวเองไม่อยู่ ตั้งท่าจะกระโดดออกจากเรือลูกเดียว ทำเอาบรรดาลูกเรือคนอื่นๆพยามจับตัวไว้สุดชีวิต แต่ไม่รู้ว่าลูกเรือที่โดนสะกดไปเอาแรงมาจากไหนนั้น ก็ทำการสลัดคนที่มาจับตัวของตัวเองไว้ ก่อนจะกระโดดลงน้ำเพื่อว่ายไปหาเหล่าไซเรนหญิงชรา 
     
              พวกลูกเรือที่จิตใจเริ่มสับสน เพราะเพื่อนร่วมงานของตัวเองกระโดดออกจากเรือไป ก็ถูกเสียงเพลงครอบงำจนตัวเองก็กระโดดออกจากเรือไปเช่นกัน
     
              
         

               เนกุที่ตอนนี้ก็จับลูกเรือไว้คนหนึ่งแต่ก็ถูกสลัดหลุดอีกครั้งเพราะเรี่ยว
    แรงมหาศาล สถานการณ์ในเรือดูวุ่นวาย เพราะต้องคอยจับคนที่โดนมนต์สะกดของเพลงไม่ให้กระโดดออกไปนอกเรือ แล้วยังต้องบังคับจิตใจไม่ให้อ่อนไหวตามเนื้อเพลงที่ดูหดหู่และสิ้นหวังอีก
     
                ยูเข้าไปล๊อกตัวกัปตันเมอริกที่เริ่มจิตตกเพราะเหล่าลูกเรือที่กระโดดออกจากเรือไปทีล่ะคน ทำให้จิตใจเริ่มอ่อนไหวตามเนื้อเพลง
     
     
              มินาโตะตอนนี้แค่จับคอเสื้อของลูกเรือที่โดนสะกดคนหนึ่งไว้ พร้อมกับมองดูบรรดาเหล่าลูกเรือที่ว่ายเข้าไปยังโขดหินที่พวกไซเรนยายแก่นั่งอยู่ หลังจากนั้น มินาโตะก็ร้องเพลงออกมาเบาๆ ก่อนจะดังขึ้นเรื่อยๆ ทำนองและเนื้อเพลงที่มินาโตะร้องออกมา ตรงกันข้ามกับเพลงที่ไซเรนหญิงชราร้อง เพราะเป็นทำนองที่สดใส และเนื้อเพลงก็เป็นเนื้อหาตรงกันข้ามกับบทเพลงของเหล่าไซเรนทุกประการ
     
     
     
             ลูกเรือที่ถูกมินาโตะจับคอเสื้อไว้ได้สติเป็นคนแรก เขามองเจ้าของเสียงเพลงที่เรียกสติเขาอย่างอึ้งๆ ต่อมาก็กัปตันเมอริกที่ยูล๊อกตัวไว้ก็เริ่มได้สติก็มองมินาโตะอย่างอึ้งๆ  ยูที่ล๊อกตัวกัปตันเมอริกอยู่ก็เผลอคลายตัวกัปตันเมอริกออกพร้อมกับจ้องไปที่เจ้าของเสียงเพลงอย่างอึ้งๆ เนกุก็มองมินาโตะที่ร้องเพลงออกมาอย่างอึ้งๆ พวกลูกเรือแต่ล่ะคนเริ่มได้สติก็มองเจ้าของเสียงที่ทำให้พวกเขาได้สติอย่างอึ้งๆ ไซเรนยายแก่ก็หยุดร้องเพลง พร้อมกับจ้องไปยังคนที่ใช้เสียงเพลงเพลงสยบเพลงของพวกตนได้อย่างอึ้งๆ 
     
                สรุป ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ ณบริเวณนั้นต่างก็จ้องมินาโตะ ที่ยืนร้องเพลงอย่างอึ้งๆ เพราะนึกไม่ถึงว่าคนตรงหน้าพวกเขาสามารถร้องเพลงสยบเพลงของไซเรนได้ด้วย แถมยังคิดทำนองออกมาได้อย่างไพเราะยิ่งกว่าเพลงของเหล่าไซเรนซะอีก ยิ่งกว่านั้น คนร้องก็มีเสียงที่ไพเราะยิ่งกว่าใครในโลกที่พวกเขาเคยฟังด้วย
     
     
     
                เมื่อมินาโตะร้องเพลงท่อนสุดท้ายจบ ก็ต้องสะดุ้งทันทีเพราะตอนนี้ทุกๆคน (ย้ำว่าทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ไซเรน หรือ ยู) กำลังจ้องมาที่เขา ทำเอาเจ้าตัวก้มหน้างุดและเริ่มหน้าแดงน้อยๆ
        
     
               ไซเรนตัวหนึ่งที่ดูท่าทางจะเป็นผู้นำ กระโดดลงมาจากโขดหินลงไปยังใต้น้ำ ก่อนจะโผล่ขึ้นมาตรงหน้ามินาโตะ แต่ว่าไซเรนที่โผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำนั้น ไม่ใช่ไซเรนยายแก่น่ากลัว แต่กลับเป็น ไซเรนสาวสวย ผมสีชมพู ตาสีน้ำทะเล หางเป็นเกล็ดสีฟ้าอ่อนเรียงตัวอย่างงดงาม หูแทนที่ด้วยครีบสีฟ้า แตกต่างจากหญิงชราเมื่อกี้ราวฟ้ากับเหว 
     
                เหล่าไซเรนหญิงชราอีก 6 คน ที่อยู่บนโขดหินก็โดดลงทะเล แล้วก็ว่ายมาหามินาโตะ พร้อมกับโผล่ขึ้นมาด้วยรูปลักษ์ที่สวยงามกันทุกตน 
     
                มินาโตะ แว้บแรกที่เห็นไซเรนตัวจริงก็ยังคิดว่า ไซเรนที่อยู่ในความทรงจำของเขายังสวยกว่าไซเรนที่เกมออกแบบเยอะ
     
     
               เหล่าลูกเรือที่ว่ายกลับขึ้นมาบนเรือหมดแล้ว กัปตันเมอริก ยู และเนกุ มองไซเรนที่กลายร่างจากหญิงชรา เป็นสาวสวย ด้วยอาการที่ยังตะลึงไม่หาย โดยยูตั้งสติได้เป็นคนแรกเนื่องจากมินาโตะ กำลังยืนประจันหน้ากับไซเรนสาวสวยทั้ง 7 อยู่น่ะ  จะมายั่วมินาโตะรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่เขาไม่ยกเพื่อนคนนี้ให้หรอก รู้ไว้ซะ!!!(หวงไม่แบ่งเลยน่ะแก)
     
     
          ‘มอนส์เตอร์ ไซเรนร่างแท้จริง เลเวล 200 ได้ทำการเชิญผู้เล่น มินาโตะ อาริซาโตะ สู่ พระราชวังใต้สมุทร ผู้เล่นสามารถพาเพื่อนในปาร์ตี้ไปด้วยได้ หากมีไอเทมที่สามารถทำให้หายใจใต้น้ำได้แบบไม่จำกัดเวลา’
     
    เสียงประกาศจากระบบดังขึ้น ทำเอาทุกคนที่อยู่บนเรือ(ยกเว้นมินาโตะ) อ้าปากค้าง

    ______________________________________________________________

    มึนกับภาษาที่ตัวเองพิมลงไปจริงๆ -_-

    ติดการ์ตูนฮ่ะ ช่วงนี้ TvT

    ติดการ์ตูน Y!!!

    ใครอ่าน vassalord มั่งเอ่ย

    (กรุณาอย่าสนข้อความที่เพ้อข้างบนนั้นน่ะครับ)

    ขอบคุณทุกคนที่เม้นท์น่ะขอรับ _ _
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×