คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอน 7
เลิกเรียนจนได้
“ปะกลับบ้านกัน” นายพีทเก็บของเสร็จแล้วจึงเดินมาหาฉัน
“อืมไปสิ” เอว่าแต่นายเวฟนั่นขาคงไม่มาหาฉันที่ห้องหรอกมั้ง เขาคงพูดเล่นจริงๆแหละ
ฉันกับนายพีทจึงกลับบ้าน แต่ก่อนกลับบ้านเราแวะที่ร้านเกมส์ที่หน้าโรงเรียนแป็บนึงแหละ แหมก็พวกเรายังเป็นนักเรียนอยู่นี่นา หาอะไรคลายเครียจนิดหน่อยจะเป็บอะไรไปเล่า
แต่อีกด้านนึง มีคนขึ้นไปหาแนทที่ห้องแต่ไม่เจอเธอเขาจึงลงไปรอเธอเธอที่หน้าโรงเรียนหวังว่าเธอจะเดินสวนออกมา เมื่อเช้าเขาชวนเธอมาทานไอศกรีมที่หน้าโรงเรียน แต่เธอยังไม่ได้ตอบเขาเลย เอาแต่วิ่งหนีเขาเลยคิดเอาเองว่าเธออาจจะตกลงก็ได้นี่แต่อายเลยไม่ยอมตอบ นี่ก็ปาไปห้าโมงแล้วเขาก็ยังยืนอยู่ที่หน้าโรงเรียนที่เดิม หวังซ้ำๆว่า อีกแป็บนึง อีกแป็บนึงน่าเดี๋ยวก็มาแล้ว แต่เธอก็ไม่มาซะที ประธานนักเรียนที่เขาแอบหลงรัก ทั้งฉลาด นิสัยดี น่ารัก แต่เขาก็ไม่เคยเห็นว่าเธอจะมีแฟนซะทีเห็นเดินแต่กับนายคนนั้น คนอื่นก็บอกว่าพวกเขาเป็นแค่เพื่อนกัน เขาก็เลยคิดว่ายังมีความหวังอยู่ในเมื่อเธอยังไม่มีแฟน แต่เธอก็ไม่ค่อยชอบเขาสักเท่าไหร ก็เขามันลูกผู้อำนวยการ มีสิทธิพิเศษแต่งตัวผิดระเบียบทรงผมก็ผิดระเบียบ เธอมองเขาทีไรเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อทุกที จะทำไงดีนะให้เธอสนใจฉันบ้าง
“คงไม่มาแล้วสินะ” เขามองเข้าไปในโรงเรียน นานประมาณ 5 นาทีแล้วที่ไม่มีนักเรียนเดินออกมาเลยสักคน
“พรุ่งนี้ฉันจะพยายามใหม่ พรุ่งนี้ไม่ได้ วันต่อๆไปก็ต้องได้น่า” ใช่สิ ซักวันเธอคงจะหันมา เห็นฉันที่ยืนอยู่ตรงนี้....
“แม่หนูไปแล้วนะคะ”
“จ้า”
“โธ่ นยพีทยังไม่มาเลย ไปตามที่บ้านดีกว่า” บ้านหมอนี่อยู่ถัดจากบ้านฉันไม่กี่หลังหรอก
“พีท! พีทไปโรงเรียนกัน!!” ฉันยืนกระโกนโหวกเหวกอยู่หน้าหน้าบ้านนายพีท
“ตื่นรึยังนายหนะ!” สงศัยจะไม่ตื่นแฮะ
“อ้าวแนทเองหรอลูก เจ้าพีทมันไปโรงเรียนแล้วลูก ไปแต่เช้าเชียวหละ ป้าก็ไม่รู้ว่าเขากินอะไรผิดรึเปล่ารีบไปแต่เช้าเชียว” ป้าพรรณแม่นายพีทออกมาตามเสียงของฉัน แม่ออกจะน่ารักแต่ลูกกับกวนประสาท
“หรอค่ะ ขอบคุณค่ะป้า”
“จ้า” เอะทำไมนายนี่ถึงได้ไปโรงเรียนโดยที่ไม่รอฉันนะ ปกติถ้ามีอะไรนายนี่จะบอกฉันก่อนนี่นา หรือว่าโดนทำโทษแล้วอายเลยไม่กล้าบอกฉัน ไม่หรอกน่านายนี่ด้านจะตายเรื่องแค่นี้มันไม่อายหรอก แล้วมันเรื่องอะไรกันหละ เดี๋ยวเข้าเรียนแล้วต้องถามให้รู้เรื่อง
และแล้วฉันก็มาถึงโรงเรียนจนได้ ฉันก็ต้องทำหน้าที่ตามปกติ
“หวัดดีแนท” ยัยเพลินทักฉัน สาวร่างท้วมสูงใหญ่บุคลิกผิดกับชื่อสุดขั้ว ชื่อเพลินน่าจะเป็นคนน่ารักแต่คนนี้ขอบอกว่าโหดโครตๆ แต่เรียนเก่งเป็ยบ้า รุ่นน้องไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แม้แต่คนเดียว แถมตั้งฉายญาห็อีกตะหาก นางยักษ์ขโมงขี ฮึ้ แต่ฉันไม่ได้ว่านะรุ่นน้องเขาตั้งให้จริงๆ ฉันว่ามันก็เข้ากับเขาแหละ
“เฮ่อเหงาจังวันนี้นายพีทไม่ได้มายืนด้วย” พูดคนเดียวก็ได้โนะ
“ให้ฉันยืนเป็ยเพื่อนมั้ย”
อุ้ย ใครเนี่ย
“อ้าวนาย ไม่ต้องหรอก ว้าววันนี้ฝนตกแหงนายเวฟแต่งตัวถูกระเบียบด้วย” จริงๆนะฉันลองขยี้ตาดูเพื่อให้รู้ว่าไม่ได้ตาฟาด แล้วตาฉันก็ไม่ได้ฟาดจริงๆ
“คนเราจะทำตัวดีบ้างไม่ได้หรอ”
“ได้ แต่ฉันไม่นึกว่านายจะทำ”
“ฉันก็ทำแล้วไง”
“ถ้าจะให้ดีนะ ทรงผมนายก็ควรจะเหมือนคนอื่นเขาด้วย”
“ไม่ได้อันนี้ไม่ได้”
“ทำไม”
หมอนี่ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้
“เชอะ”
“วันนี้เธอไปกินติมกับฉันนะ”
นายนี่เอาจริงหรอเนี่ย
“นะ”
“เอ่อ ฉันคิดว่าฉันไม่ว่าง”
“ต้องคิดด้วยหรอ”
“แล้วนายมายุ่งอะไรกับฉันหละ”
“ขอโทษๆ แล้วตกลงเธอจะไปกับฉันมั้ย”
“ไม่” ทำไมจะต้องไปด้วยหละ
“ทำไม เธอมีแฟนแล้วหรอ”
“ยัง” อย่ามายัดเยียดใครให้ฉันนะเดี๋ยวนายจะเจอดี ถึงนายจะยังไม่ได้พูดก็เหอะ เพราะฉันคิดเอาเองเรียบร้อยแล้ว
“ไปเถอะ ฉันอยากมีเพื่อนกินติม”
“แล้วทำไมนายไม่ชวนแฟนคลับนายหละ” ก็มันจริงแฟนคลับนายเยอะจะตาย แถมสวยๆทังนั้น (แอบอิจฉานิดๆ)
“ฉันไม่ชอบพวกนั้นหรอกน่ารำคราญจะตาย”
“เรื่องของนายสิ”
“เถอะน่าไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ”
“อุ้ย! ยุ่งจริงนายหนิ”
“น้า....น้า”
“เออๆๆ ก็ได้ๆ” ฮิๆ แกล้งพูดไปงั้นแหละ ด้วนตอนเย็นก็ค่อยชิ่งกลับบ้านก่อน
“เย้!! งันตอนเย็นฉันไปหาเธอที่หน้าห้องนะ ไปหละ”
“เฮ้ย! เดี๋ยวสิก็แค่พูดเล่นเอง เฮ่อช่วยไม่ได้น้า”
แล้วฉันก็ต้องยืนแง่วคนเดี๋ยวไปจน 7 โมง 40 นาที ฉันก็ต้องรีบไปหน้าเสาธงก็มันเข้าแถวแล้วหนิ
เสร็จแล้วก็สวดมนต์ สวดมนต์เสร็จฉันก็ต้องพูดเกี่ยวกัยงานวันพรุ่งนี้ซะหน่อย
“วันนี้มีเรื่องต้องประกาศ 1 เรื่องนะคะ คือเรื่องวันงานโรงเรียนพรุ่งนี้ พรุ่งนี้เข้าแถวตอนเช้าเหมือนปกตินะคะ เข้าแถวเสร็จแล้วก็จะมีการเปิดงานเลย ระหว่างจัดงานเนี่ยห้ามทุกคนออกนอกเขตโรงเรียนเด็ดขาดเลยนะคะ ถ้าฝ่าฝืนเนี่ยจะถือว่าโดดเรียนทันทีเพราะเราจะมีการเช็คนัดเรียนตอนเย็นอีกที”
“โห่!!!” พวกนักเรียนโห่กันใหญ่ สงศัยจะเรื่องห้ามออกนอกโรงเรียน ฮึ สงศัยกะจะไปเที่ยวกันเต็มที่หละสิ ฝันไปเถอะยะ งานโรงเรียนนักเรียนก็ต้องช่วยกันสิยะ ถ้านักเรียนไม่ทำแล้วใครจะทำ
“แล้วถ้าพวกที่ไม่มาก็หมายถึงว่าขาดเรียนไปเลยวันนึงนะคะ” ขอย้ำๆ
“หมดเรื่องที่จะประกาศแล้วเชิญขึ้นห้องเรียนได้แล้วค่ะ”
และแล้วตอนนี้ฉันก็ยืนอยู่บนห้องซะที เซ็งจริงๆเลยต้องขึ้นตึก 4 ชั้นทุกวันเมื่อยจะตาย จริงสิ! นายพีท ฉันต้องคุยกับนายนั่น นั่นไง หมอนั่นอยู่นั่น
“เฮ้พีท ทำไมวันนี้นายถึงมาโรงเรียนโดยที่ไม่รอฉัน” ฉันถามเสียงดุ ไม่ให้ดุได้ไงมีอะไรไม่บอกกันบ้าง
“อ๋อ เอาไว้ฉันจะบอก”
“ได้ไง บอกมาเลยฉันหละอยากรู้ใจแทบขาด” แหมเว่อไปหน่อยนะฉัน
“บอกตรงนี้ไม่ได้ คนเยอะเดี๋ยวใคนได้ยินเข้า” เอะ หมอนี่มีลับลมคมในหรือว่า.........
“นายไปทำอะไรที่ไม่ดีมาใช่มั้ย” ฉันถามเสียงเขียว ได้ไงนายเป็นเพื่อนของประธานนักเรียนนะ
“เปล่าซะหน่อย เถอะน่าไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก”
“แน่ใจ” ฉันถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“แน่ใจสิ” ฟังจากเสียงหนักแน่นของหมอนี่แล้วค่องโลงใจหน่อย ว่าแต่นายมีเรื่องอะไรนะ อุ้ย อาจารย์ม่แล้ว
“นักเรียนเคารพ”
“สวัสดีค่ะ/ครับ”
“สวัสดีค่ะนักเรียน วันนี้เราจะเรียนกันเรื่อง..........................”
และแล้วก็พักเที่ยง (รู้สึกว่าเวลาตอนเรียนจะผ่านอย่างรวดเร็วเหลือเกินนะ)
“นี่นาย บอกฉันได้รึยัง” ฉันกระซิบถาม
“เดี๋ยวสิ ให้คนลงไปให้หมดก่อน” อะไรของมันนักหนา
“อุ้ย เรื่องมากจริง”
.......... “เอ้าคนลงไปหมดแล้ว มีอะไรว่ามาเลยไม่ต้องอ้อมค้อม”
“คือ...ว่า...คือ” เอาเข้าไป คือว่าคือ เอาเข้าไปล่ำลี่ลำไลจริงๆ
“มันเป็นความลับ”
“เฮ้ย!! ก็นายพูดเองว่าจะบอกนี่ แล้วมาบอกว่าเป็นความลับได้ไง” นายมีความลับกับฉันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ทุกทีนายมีอะไรก็ต้องบอกฉันเป็นคนแรกทุกทีแล้สฃวนี่มันเรื่องอะไรทำไมบอกฉันไม่ได้
“ขอโทษจริงๆแต่ฉันบอกไม่ได้”
“ช่างนาย ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก ก็มันเป็นความลับของนายฉันจะไปยุ่งด้วยได้ไงจริงมั้ย” ฉันหันไปถามนายนี่เสียงชา ใช่สิฉันมันก็แค่เพื่อนนายก็ต้องมีเรื่องที่อยากจะปิดบังมั่ง ใช่ก็แค่เพื่อนหวังอะไรมาก แต่ฉันสิไม่เคยมีความลับกับนายเลย อะไรที่ฉันรู้ฉันก็บอกนายหมด ถึงบางเรื่องอยากจะปิดแต่นายก็รู้จนได้ มีแค่เรื่องเดี่ยวที่ฉันไม่อยากให้นายรู้แล้วนายก็จะไม่มีวันได้รู้เช่นกัน
“โกรธฉันรึเปล่า” นายพีทถามฉันด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี
“เปล่า” ใช่ฉันไม่โกรธนาย และไม่เคยโกรธเลย ถึงแม้จะงอนในบางทีแต่ก็ไม่ได้โกรธจริงจังเลยไม่เคยเลย
“ถ้างันลงไปกินข้าวกัน”
“นายไปเถอะ ฉันไม่หิว” เสียงเย็นตามเคย
“ได้ไงถ้าเธอไปแล้วฉันจะกินข้าวกับใคร”
“นั่งไปสักพักเดี๋ยวก็มีเอง” ใช่แฟนคลับนายเยอะ ไม่จำเป็นต้องพึ่งฉันหรอก
“ไม่เอาเธอต้องไปด้วยสิ ไม่งั้นฉันไม่ไป”
“ถ้าอย่างงันก็เรื่องของนาย ฉันจะลงไปห้องสมุด”
แล้วฉันก็เดินออกจากห้องทันที ห้องสมุดอยู่ อีกตึกนึง ถัดจากตึกนี้ตึกนึงแหละ เป็นอาคารเรียบๆ ทรงสามเหลี่ยม สี่ชั้น เป็นตึกห้องสมุดทั้งตึก สี่ชั้นก็จะมีหมวดหนังสือแตกต่างกันไป เป็นที่ๆฉันกับนายพีทชอบไปนั่งเล่น ถึงนายนั่นจะไม่ค่อยชอบแต่ฉันก็ลากเขามาทุกที
“เฮ้ นี่เธอเป็นอะไรรึเปล่า ดูเธอแปลกไปนะ” นายนี่วิ่งตามฉันมา
“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้แหละ” ฉันพูดโดนไม่หันไปมองหน้านายพีท
“แปลกสิ งี่ไง เธอไม่มองหน้าฉัน แล้วก็เธอกำลังเดินหนีฉันอยู่” นายนี่เริ่มหอบเพราะเดินตามฉันไม่ทันเลยต้องวิ่งแทน ตอนนี้ถึงชั้นหนึ่งแล้ว คนไม่ค่อยเยอะเท่าไร่เพราะคงไปอยู่ที่ดรงอาหารกันหมด ก็นี่มันตอนพักนี่
“เฮ้ รอด้วยสิเดินช้าๆก็ได้”
“....”
“เฮ่อ ท่าทางเธอจะโกรธฉันจริงๆ”
“....”
“ดูสิ พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย อย่างนี่โกรธชัว”
ตุบ
“โอย! จะหยุดทำไมไม่บอกเล่า” นายนี่พูดอย่างหัวเสียที่ฉันหยุดเดินอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“นายเลิกพล่ามซะทีได้มั้ย” ฉันพูดเสียงเย็นพลางหันไปมองหน้านายนี่ด้วยแววตาเย็นชาสุดขีด
นายนี่คิ้วผูกโบว์ทันทีที่เห็นหน้าฉัน
“นี่เธอเป็นอะไร ฉันไม่เคยเห็นเธอทำหน้าแบบนี้เลย”
“เรื่อง ของ ฉัน” ฉันเน้นทุกคำที่พูดเพื่อให้คนฟังเข้าใจโดยทันทีจะได้ไม่ต้องถามซ้ำให้ลำคราญอีก
“โอเค เรื่องของเธอฉันจะไม่ถามแล้ว แล้วฉันก็จะไปกินข้าวแล้วด้วย”
“เรื่องข..”
“ฉันรู้ฉันจะไปคนเดียวเธอจะไปไหนก็ไปเถอะ” ฉันยังพูดไม่ทันจบนายนี่ก็พูกแทรกขึ้นมาเสียก่อน
พวกเขายืนจ้องตากันประมาณเสี้ยวนาที แล้วก็ต่างคนต่างหันหน้าหนีไปตามทางที่ตัวเองจะเดินด้วยความหัวเสียกันทั้งคู่ แต่ใครจะรู้แต่ละก้าวที่ทั้งคู่เดินมันรู้สึกหนักอึ้งจนต้องก้าวช้าๆเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่ต้องการ การเขาทั้งสองเย็นชาใช่กันแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ละคำที่พูดออกมามันช่างแสนยากลำบากเหลือเกิน การที่จะต้องเย็นชาใช่คนที่ตัวเองรักแบบนี้มันลำบากเหลือเกิน
“ให้ตายสิ! ทำไมเราต้องเป็นแบบนี่ด้วยนะไม่ชอบเลย พรุ่งนี้ก็จะวันงานแล้วมีสติหน่อยเดี๋ยวพรุ่งนี้ทำงานไม่รู้เรื่องไม่รู้ด้วนนะ” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองที่ชั้นสองของห้องสมุด ตอนนี้ไม่มีคนเลยแม้แต่คนเดียว คงยังทานข้าวกันอยู่ แล้วอีกอย่างชั้นนี้ไม่ค่อยมีคนขึ้นมาหรอก เพราะชั้นล่างก็มีข้อมูลรวมๆอยู่แล้ว จึงไม่ต้องขึ้นมาให้เมื่อย เว้นเสียแต่อยากได้ข้อมูลลึกจริงๆก็จะขึ้นมาหาตามหมวด ชั้นนี้จึงไม่ค่อยมีคน ฉันจึงชอบมานั่งเล่นที่นี่เพราะมันเงียบดี เหมาะแก่การมานั้งคิดอะไรเพลินๆ
ส่วนอีกด้านนึง
“โอ้ย! ให้ตายสิทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ รู้งี้ยังไม่น่ารีบมาโรงเรียนตอนเช้าเลย ก็แค่อยากมาตอนที่โรงเรียนไม่มีคน เวลาทำอะไรจะได้ไม่ต้องให้คนอื่นเห็น ไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้ซะหน่อย” พีทก็มานั่งบ่นกับตัวเองที่ทำผิดพลาดคนเดียวที่ข้างสระบัวหลังโรงเรียน แถวนี้คนไม่ค่อยพลุกพล่านแต่ก็พอมี แต่ที่เห็นบ่อยก็คงจะเป็นคู่รักที่แอบมาจู๋จี๋กันแถวนี้ มันช่างเป็นภาพที่บาดตาบาดใจเหลือเกินสำหรับนายพีท เพราะมันทำให้เหมือนตัวเองอาพับที่มาแอบตกหลุมรักเพื่อนตัวเอง ซึ่งมันคงไม่สมหวังอย่างแน่นอน ยังไงแนทก็คงไม่ชอบเขา
~
ต่างฝ่ายต่างคิดกันแบบนี้มันคงจะสมหวังหรอก ทั้งคู่ต่างก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ และทั้งคู่ก็ต่างไม่กล้าที่จะสาระภาพความในใจที่มีอยู่จึงทำให้ไม่รู้ซะทีว่าอีกฝ่ายคิดอะไร ต่างคนต่างคิดว่าถ้าบอก เรื่องทุกอย่างก็คงจบตรงที่ถูกอีกฝ่ายรังเกลียจเพราะมาแอบชอบเพื่อนสนิทตัวเอง ก็เลยไม่กล้าที่จะพูดความในใจซะที จึงทำให้ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ทั้งคู่มีความรู้สึกเหมือนกันคิดตรงกัน มองอีกฝ่ายแบบเดียวกัน แบบที่เป็นคนรักไม่ใช่แค่เพื่อนสนิทอย่างเดียว แต่เป็นเพื่อนรู้ใจ!
~
“อุ้ย เที่ยงแล้ว เข้าห้องแล้วนี่ตายๆ” ฉันรีบวิ่งจากห้องสมุดไปที่ห้อง
แต่เมื่อมาถึงก็เห็นอีกคนพึ่งรีบวิ่งมาเช่นกัน และก็มายืนด้วนกันที่หน้าห้อง และครูก็มาแล้วจริงๆ
“ขออนุญาตเข้าห้องค่ะ/ครับ” นายพีทกับฉันพูดพร้อมกัน อะไรนายนี่มาพูดตามฉันทำไมกัน
อาจารย์หันมาทำหน้าดุก่อนจะพูดว่า “เข้ามาได้” อาจารย์ทำหน้าเหมือนมีใครเข้ามาขัดจังหวะในเวลาที่เธอกำลังจะหม่ำอาหารหลังจากที่ไม่ได้กินมาเจ็ดวัน
“เดี๋ยว” โอ้ยตายแล้วฉันโดนแน่ “ทำไมพึ่งมานี่เข้าเรียนมาห้านาทีแล้วนะ” อาจารย์ถามเหกมือนกำลังจะรีกคำตอบออกจากโจรที่พึ่งปล้นบ้านเธอมา
“คือ” เอะนายพีทพูดตามฉันอีกแล้วนะ นายนี่ยืนอยู่ข้างๆฉันเพื่อรับกรรมพร้อมๆกัน
“ว่าไงทั้งคู่เลย” เอาอีกแล้วอาจารยืทำเสียงเหมือนเมื่อกี้อีกแล้ว
“คือพวกผมไปหฟาข้อมูลทำงานกันจนลืมดูเวลาหนะครับอาจารยื มันจำเป็นจริงๆ คือพวกผมขอโทษยนะครับ” นายพีทพูดแก้ตัวให้ฉันด้วย! ทั้งๆที่ฉันพึ่งพูดโดยที่ไม่สนใจความรู้สึกเขาไปเมื่อกลางวัน นายนี่ไม่โกรธฉันเลยหรอ
“จริงมั้ย” เขาหันมาหาฉันอย่างขอความช่วยเหลือสุด
“จะ จริงค่ะ พวกเราลืมดูเวลาจริงๆนะคะ” แล้วเรื่องอะไรฉันจะไม่สานต่อหละ ไม่ใช่เพราะกลัวความผิด แต่นายอุตส่าช่วยฉัน ฉันก็ต้องช่วยนายมั่ง คำพูดของประธานนักเรียนคงน่าเชื่อขึ้นมาบ้างหละ
อาจารย์มองมาทางฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ โอ้ยงานนี้ฉันกับนยพีทไม่รอดแน่
“ไปนั่งที่ได้แล้ว” อาจารย์พูดเสียงเย็น แต่ประโยคนี้ก็ทำให้ฉันกับนายพีทโล่งอกขึ้นมาทันที ก็แหมหน้าตาอาจารย์ดุขนาดนั้นใครจะไปรู้หละว่ายกโทษให้
“เฮ่อ รอดไปที” ฉันรีบเดินมานั่งที่อย่างรวดเร็วก่อนที่อาจารย์ท่ายจะเปลี่ยนใจ นายนั่นหันมายิ้มให้ฉัน ฉันก็ยิ้มตอบ ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะลืมเรื่องเมื่อกลางวันไปแล้ว
....................................
“เมื่อกลางวันขอบคุณนะ” นายพีทเดินมาขอบคุณฉันที่โต้ะ ตอนนี้เลิกเรียนแล้วทุถกคนจึงทยอยกันกลับบ้าน พวกเวรก็อยู่ทำความสะอาด สำหรับฉันโชคดีในฐานะหัวหน้าห้องมีภาระมากพอแล้ว จึงไม่ต้องรับภาระทำเวร คิกๆๆ
“อ้อ ไม่เป็นไรเพราะนายก็ช่วยฉันไว้เหมือนกัน” ฉันหันกลับไปตอบพร้อมกับยิ้มหวานให้นายพีท นายพีทก็ยิ้มกลับมาเช่นกัน
ฉันจะไม่ถารมเรื่องที่เขามาก่อนฉันแล้วเพราะมันอาจจะเป็นความลับจริงๆก็ได้เขาถึงไม่อยากบอก
“กลับบ้านกันนะ” คราวนี้ฉันเป็นฝ่ายชวนนายนี่เอง
“อืม ไปกันเถอะ” และเราก็กลับบ้านพร้อมกันเหมือนเดิม โฮะๆ
ทั้งคู่ออกจากห้องไปประมาณ 5 นาทีได้ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่มอบหัวใจให้แนทไปแล้วโดยที่เธอไม่รู้ตัว ก็มาถึงห้องของแนท เขาไม่พบใครเลย นี่เป็นการผิดหวังครั้งที่สองของเขาแล้ว ตั้งแต่เช้าเขาล่าเริงปิดปกติ เพราะครั้งนี้แนทพูดออกมาจากปากเองเลยว่าตกลงไปกินไอศกรีมกับเขา ครั้งนี้เขารีบลงมาหาแนทเร็วกว่าคราวที่แล้วเพราะกลัวจะไม่ทัน (เพราะห้องของนายเวฟเลิกช้ากว่าแนท) แต่ครั้งนี้เขาก็ไม่ทันอีกเช่นกัน เขาจึงตัดสินใจไปรอที่หน้าโรงเรียนอีกเช่นเคย 15 นาที 30 นาที 1 ชั่วโมง ชั่วโมงครึ่ง .........
เขายืนรอแนทมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว แต่เขาก็ไม่เจอเธอซะที สงศัยเธอคงจะกลับบ้านไปแล้ว เฮ่อ นี่เขาผิดหวังจากผู้หญิงคนนี้อีกแล้วหรอ ทำไมเขาจะต้องมาสนใจเธอด้วยทั้งๆที่มีสาวๆมาติดสาวเยอะแยะ ไม่เห็นจะต้องมาแคร์เธอเลยนี่นา ไม่ใช่ เธอไม่เหมือนคนอื่นเธอไม่ใช่ผู้หญิงทั่วๆไป เธอมีความพิเศษในตัวเองมีความน่ารัก เป็นตัวของตัวเอง ไม่ทำตัวตามแฟชั่นแต่ทำอย่างที่ตัวเองชอบ ไม่ซ้ำใครไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไปที่เห็นผู้ชายหย้าตาดีก็วิ่งเข้าใส่เธอไม่ใช่คนแบบนั้น เพราะเหตุนี้จึงทำให้เขามอบหัวใจดวงนี้ให้เธอเพียงผู้เดียว แล้วเขาก็ต้องกลับบ้านพร้อมกับความผิดหวัง
ความคิดเห็น