ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Super Junior] อลเวงวุ่นรักคุณพ่อคุณแม่ซุปเปอร์สตาร์ [END]

    ลำดับตอนที่ #4 : Episode 4

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 54


     Episode 4: จัดหอใหม่
         เช้าวันถัดมา
         หอพักของซุปเปอร์ จูเนียร์
         กลิ่นหอมอ่อนๆของข้าวต้มปลาหมึกกุ้งลอยฟุ้งไปทั่วหอพัก เข้าจมูกของเมมเบอร์ทุกคน เมมเบอร์ต่างค่อยๆลืมตาขึ้นมากันแทบจะในทันที
         “ใครตื่นมาทำข้าวต้มแต่เช้ากันนะ”ลีดเดอร์ตาหวานพึมพำกับตนเองเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงที่ยังมีร่างหนาของคังอินนอนเปลือยอยู่ โชคดีที่มีผ้าห่มปิดส่วนล่างของชายหนุ่มเอาไว้ ลีดเดอร์ตาหวานประครองสะโพกเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำให้เสร็จ ก่อนจะเดินออกไปดูที่ครัว
         “ทำไมตื่นเช้าจังคยู”ลีทึกเอ่ยถามคุณแม่มาดๆที่ยืนอยู่หน้าหม้อแสตนเลสบนเตา มือบางยกคงถือช้อนคนในหม้อไปเรื่อยๆ
         “ก็ไม่มีอะไรหรอกฮะ แค่อารมณ์ดีนิดหน่อย”ตอบพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหันหน้ากลับไปหาหม้อแสตนเลสอีกครั้ง
         “ฮ้าว สรุปใครตื่นแต่เช้ามาทำข้าวต้มเนี่ย”คราวนี้เป็นเสียงทุ้มหวานของพี่ใหญ่คนที่สองของวง
         “อรุณสวัสดิ์ฮีชอล เมื่อคืนคงเล่นกันจนดึกสินะ”เอ่ยถามด้วยความเคยชิน พลางนั่งลงที่เก้าอี้ตรงโต๊ะอาหาร
         “ก็คงไม่ดึกเท่านายกับคังอินหรอก”แซวกลับพลางนั่งลงข้างๆเพื่อน ในระหว่างที่รอเมมเบอร์คนอื่นๆตื่นทั้งสามก็คุยกันฆ่าเวลา แต่ดูเหมือนจะเป็นฮีชอลกับลีทึกเป็นฝ่ายถามเสียมากกว่า
         “แล้วนี่ฝากท้องรึยัง”ลีทึกเอ่ยถาม ในตอนนี้เมมเบอร์ส่วนใหญ่ตื่นกันแล้ว เหลือเพียงชินดง กับอึนฮยอกเท่านั้นที่ยังไม่ตื่น
         “อ้อ ยังฮะ ผมกะว่ารอจัดหอให้เสร็จก่อนนะฮะแล้วเดี๋ยวให้พี่ชีวอนพาไป”ตอบพลางนั่งลงข้างๆชีวอน ปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของดงเฮกับซองมินและเรียววุคจัดการต่อ
         “อื้ม ฮันไปปลุกเมียแกสักทีเหอะจะได้กินข้าว”ฮีชอลหันไปบอกเพื่อนสนิทชาวจีน ที่นั่งชะเง้อคอรอเมียเป็นยีราฟ
         “ไม่ต้องแล้วฮะ”ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มชาวจีนจะได้ลุกไปตามเมีย ก็มีเสียงหวานๆของคนที่ยังนอนไม่ตื่นดังขึ้น พร้อมๆกับที่ชินดงและอึนฮยอกรีบวิ่งมายังโต๊ะอาหารทันเวลาที่พวกดงเฮจัดการตักเข้าต้มแบ่งใส่ถ้วยพอดี
         ทันทีที่ข้าวต้มร้อนๆถูกตักใส่ถ้วยและเริ่มปรุงตามรสที่ตัวเองชอบจนเสร็จ เมมเบอร์ต่างก็เริ่มทานในทันที โดยส่วนใหญ่ก็ป้อนให้กับคนรักของตนเอง โดยพาะคุณแม่มือใหม่อย่างมักเน่ของวงที่ต้องให้ชีวอนบังคับให้กินเพราะเจ้าตัวบอกว่าไม่อยากกินทั้งๆที่เป็นคนทำเอง
         ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
         หลังจากทานข้าวเสร็จพร้อมทั้งล้างจานชามและอาบน้ำกันจนเรียบร้อยแล้ว เมมเบอร์เกือบทุกคนต่างก็ยกสัมภาระของตนเองมากองไว้ที่ห้องนั่งเล่นกัน (ที่บอกว่าเกือบทุกคนยกเว้นชินดงไว้คนเพราะยังไงก็นอนคนเดียวอยู่แล้ว) ก่อนที่ลีดเดอร์คนสวยจะจัดแจงประกาศถึงแผนผังห้องใหม่
         “งั้นเริ่มจากชีวอนกับคยูก่อนนะ ทั้งสองคนนอนห้องใหญ่สุดก็แล้วกัน เพราะเดี๋ยวต้องมีของเพิ่มขึ้นแน่ๆ คังอิน ฮันกยองนายไปช่วยชีวอนขนของหน่อย”ลีดเดอร์ตาหวานเอ่ยพลางชี้ไปยังห้องที่อยู่ใกล้ๆห้องน้ำที่สุด ร่างเพรียวบางของคุณแม่เดินเข้าไปในห้องก่อน จะค่อยๆนั่งลงบนเตียงขนาดใหญ่ที่นอนได้ประมาณสามคน ก่อนจะตามด้วยสามหนุ่มที่ช่วยกันขนของเข้ามาภายในห้อง
         “ขอบคุณนะฮะพี่คังอิน พี่ฮันกยอง”ร่างบางเอ่ยขอบคุณรุ่นพี่ทั้งสอง ทั้งสองยิ้มให้ก่อนที่คังอินจะปิดประตูห้องให้ ทันทีที่ประตูห้องปิดลงคุณพ่อมือใหม่ก็เดินไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งสองใบและลงมือจัดแจงเข้าตู้แต่เพียงลำพัง พร้อมทั้งขนของประดับห้องทั้งหลายไปวางตามส่วนต่างๆของห้องแต่เพียงผู้เดียว โดยมีคุณแม่ของลูกในท้องนั่งให้กำลังใจอย่างเช่นเคย
         “เอาล่ะเสร็จแล้ว”ร่างสูงเอ่ยบอกพลางยืนเต็มความสูง หลังจากยัดกล่องกระดาษกล่องสุดท้ายลงถังขยะตรงมุมห้อง
         “เหนื่อยมากมั้ยฮะพี่ชีวอน”ร่างบางเอ่ยถามร่างสูงด้วยความเป็นห่วง พลางใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กซับเหงื่อในบริเวณหน้าผากของชายหนุ่ม ร่างสูงส่งยิ้มให้ด้วยความอ่อนโยน
         “พี่ไม่เหนื่อยหรอกถ้าหากคยูยิ้มให้พี่บ่อยๆ”ร่างสูงเอ่ย ทำเอาใบหน้าหวานแดงก่ำในทันที
         “พี่ชีวอนบ้า >///<”ร่างเพรียวเอ่ยออกมาเสียงเบาๆพร้อมกับทุบอกชายหนุ่มแก้เขินไปด้วย
         “ฮ่าๆ แม่ของลูกพี่นี่เขินรุนแรงดีจัง”ชีวอนเอ่ยแซวก่อนจะประครองร่างบางออกมาจากห้องมาที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งเมมเบอร์ส่วนใหญ่ที่จัดห้องพักใหม่ของตนเองเสร็จแล้วก็มานั่งๆนอนๆอยู่ที่ห้องนั่งเล่น
         “พี่ลีทึกผมขอกุญแจรถ”ชีวอนเอ่ยพลางเดินเข้าไปหาลีดเดอร์ตาหวาน เอ่ยขอกุญแจรถของตนเองที่ฝากเอาไว้
         “อ่ะ อย่ากลับเย็นกันให้มากนะ”ยื่นกุญแจให้พร้อมเอ่ยเตือน ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะจูมือร่างบางออกจากบริเวณห้องนั่งเล่นรวมไปขึ้นรถไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้หอพักที่สุด
         โรงพยาบาลโซล
         “สวัสดีค่ะ มาทำอะไรค่ะ”พยาบาลที่เคาท์เตอร์เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มที่ดูสบายตาสบายใจ เธอรู้ดีเลยว่าชายหนุ่มทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นใครและมาทำอะไร แต่ที่ถามก็ถามไปตามหน้าที่ยังงั้นล่ะ
         “มาฝากครรภ์ฮะ”ร่างเพรียวตอบ พยาบาลสาวรับคำก่อนจะส่งใบประวัติให้กรอก เมื่อกรอกเสร็จเธอจึงคีย์ข้อมูลลงในทะเบียนคนไข้ก่อนจะส่งบัตรประจำตัวคนไข้ให้ ก่อนจะบอกเส้นทางไปยังแผนกสูตินารีเวช
         ทันทีที่ทั้งชีวอนและคยูฮยอนมาถึงแผนกสูตินารีเวช ในบริเวณนั้นก็มีคนท้องหลายคนมานั่งรอตามนัดประมาณสี่ถึงห้าคน ทุกสายตาต่างมองมายังทั้งสองเป็นทางเดียวพร้อมกับอมยิ้มให้กับความรักที่ทั้งสองมีให้กัน ทั้งสองนั่งรอคิวได้ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงคิว
         “คุณโจ คยูฮยอนเชิญค่ะ”พยาบาลสาวประกาศชื่อก่อนที่ร่างโปร่งจะลุกขึ้นไปทางนางพยาบาลที่มารอรับ
         “คุณพ่อจะเข้าไปด้วยมั้ยค่ะ”นางพยาบาลสาวหันไปถามร่างสูงที่นั่งอยู่ เมื่อรู้ว่าเข้าไปด้วยได้ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นเดินตามร่างของคนรักเข้าไปในห้องตรวจที่มีคุณหมอรออยู่
         “สวัสดีค่ะคุณคยูฮยอน คุณชีวอน ดิฉันชื่อยู จีฮยอน เรียกว่าหมอยูก็แล้วกันนะค่ะ”คุณหมอสาวเอ่ยแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
         “อ่า..สวัสดีครับ”ทั้งสองทักทายตอบแทบไม่ทัน ก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของหมอยู
         “มาฝากครรภ์สินะค่ะ คุณพยาบาลพาคุณคยูฮยอนไปชั่งน้ำหนักกับวัดส่วนสูงทีสิค่ะ”คุณหมอยูเอ่ยเหมือนรู้ดีเกี่ยวกับจุดประสงค์ของทั้งสองคน ก่อนจะเรียกคุณพยาบาลผู้ช่วยให้มาพาร่างบางไป เมื่อแผ่นหลังบอบบางของมักเน่แห่งวงซุปเปอร์จูเนียร์หายไป คุณหมอสาวจึงเริ่มเอ่ยในสิ่งที่...
         “พวกคุณนี่รักกันจังเลยนะค่ะ”คุณหมอสาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
         “ครับ?”ชายหนุ่มเอ่ยอย่างงงๆ
         “ความจริงแล้วฉันน่ะเป็นแฟนคลับคู่ของคุณกับคุณคยูฮยอนมานานแล้วค่ะ”คุณหมอสาวเอ่ยด้วยแววตาเป็นประกาย
         “งะ...งั้นเหรอครับ”
         “ช่วยเซ็นลายเซ็นให้หน่อยได้มั้ยค่ะ”หมอยูบอกพร้อมกับส่งกระดาษสีสวยให้พร้อมกระบอกใส่ปากกาสีที่มีนับสิบสีให้เลือกใช้ ร่างสูงเบิกตากว้างด้วยความตกใจเพียงเล็กน้อยก่อนจะหยิบปากกาสีน้ำเงินขึ้นมา ดึงฝาออกก่อนจะจรดปากกาลงไปบนกระดาษ แต่ยังไม่ทันที่หัวปากกาจะได้แตะกระดาษสีสวยแผ่นนี้...
         “คุณหมอยูค่ะ ดิฉันพาคุณคยูฮยอนไปชั่งน้ำหนักกับวัดส่วนสูงเสร็จแล้วค่ะ”คุณพยาบาลคนที่พาร่างบางไปทำตามที่คุณหมอสั่งเอ่ยพร้อมกับเปิดประตูออก หมอสาวรีบกลับไปวางท่าให้ภูมิฐานในทันที
         “เสร็จแล้วสินะค่ะ งั้นคุณพยาบาลช่วยพาคุณคยูฮยอนไปปัสสาวะใส่กระปุกนี้ด้วยค่ะ”บอกพลางส่งกระปุกพลาสติกที่มีฝาปิดให้พยาบาลผู้ช่วย ที่นำร่างโปร่งไปทางห้องน้ำภายในห้องตรวจ ชีวอนจึงอาศัยจังหวะนั้นรีบเซ็นลายเซ็นให้ก่อน พอคุณหมอสาวหันกลับมาก็แทบจะหุบยิ้มเอาไว้ไม่อยู่เมื่อเห็นกระดาษสีมีลายเซ็นของไอดอลคนโปรดประดับอยู่
         “ขอบคุณค่ะคุณชีวอน”เอ่ยขอบคุณก่อนจะค่อยๆหยิบกระดาษสีอย่างบรรจงใส่ลงในถุงซีดล็อคอย่างดี กดปิดอย่างบรรจงและใส่ลงในแฟ้มอีกที
         “ได้ปัสสาวะแล้วค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะนำไปส่งให้ทางห้องทดลองนะค่ะ”พยาบาลผู้ช่วยเอ่ยก่อนจะถือกระปุกพลาสติกใสใส่ลงในถุงเล็กๆสีขาวทึบเดินออกจากห้องตรวจไป
         “งั้นเรามาวัดความดันโลหิตกันต่อนะค่ะ”หมอยูเอ่ยพลางเตรียมเครื่องวัดความดันโลหิต  ก่อนจะเริ่มวัดความดันโลหิต ปล่อยให้เครื่องทำงานสายตาก็อยู่บริเวณหน้าจอบอกค่า
         “ความดันปกติดีค่ะ เดี๋ยวขอตรวจเสียงหัวใจและปอดหน่อยนะค่ะ”บอกพร้อมกับเก็บเครื่องวัดความดันโลหิต ดันร่างเพรียวให้นอนลงบนเตียงตรวจใส่เครื่องช่วยฟัง ก่อนจะนาบมันลงไปบนอกเนียนขาว
         “ปกติค่ะ ช่วยลุกขึ้นนั่งด้วยค่ะขอหมอตรวจขาหน่อยนะค่ะ”เอ่ยพร้อมรอยยิ้มพลางประครองคยูฮยอนให้ลุกขึ้นนั่ง มือบางของหญิงสาวลากเก้าอี้พลาสติกธรรมดามานั่งก่อนจะตรวจดูขาเรียวว่ามีอาการบวมหรือไม่ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติเธอจึงลุกขึ้นกลับไปนั่งประจำที่ ก่อนจะลงมือบันทึกลงในใบประวัติคนไข้
         ครืด!!!
         “คุณหมอค่ะผลตรวจปัสสาวะได้แล้วค่ะ”พยาบาลสาวคนเดิมเอ่ยพร้อมกับนำซองเอกสารมาส่งให้ หมอยูเปิดซองออกหยิบกระดาษออกมาอ่านพร้อมกับบันทึกลงไป ใช้เวลาประมาณสิบนาทีคุณหมอสาวก็เงยหน้ามาพร้อมรอยยิ้มก่อนจะส่งบัตรบางอย่างให้
         “นั้นคือบัตรนัดมาตรวจนะค่ะ กรุณามาตรวจให้ตรงตามกำหนดด้วยนะค่ะ อ้อ คุณพยาบาลเดี๋ยวพาทั้งสองคนไปที่ห้องจ่ายยาหน่อยนะค่ะ เพราะฉันสั่งยาบำรุงให้นะคะ แล้วเจอกันนะค่ะ”คุณหมอสาวเอ่ยพลางโบกมือให้ทั้งสองคนที่ลุกขึ้นโค้งให้ก่อนจะเดินตามพยาบาลสาวไปยังห้องจ่ายยา
         บริเวณห้องจ่ายยา
         “คุณโจ คยูฮยอนค่ะ”เภสัชกรเอ่ยชื่อขึ้น ร่างสูงจึงลุกเดินไปยังที่รับยาหลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย
         “กลับหอเลยก็แล้วกันนะ”ชีวอนเอ่ยถามคนรักที่พยักหน้าตอบรับ แถมใบหน้ายังดูซีดๆอีกด้วย ร่างหนาค่อยๆประครองร่างบางไปยังลานจอดรถของโรงพยาบาล ก่อนจะขับรถกลับหอ
         หอพักซุปเปอร์จูเนียร์
         “ไง เป็นไงบ้าง”ทันทีที่สองคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กลับมาถึง คำถามแรกที่หลุดออกจากปากของเหล่าเมมเบอร์ก์คือคำถามนี้
         “ก็ดีฮะ คุณหมอใจดีด้วย”ร่างบอบบางของคุณแม่มือใหม่ค่อยๆนั่งลงโดยมีคนรักคอยประครองให้นั่งลงบนโซฟาสีครีมข้างๆลีดเดอร์ตาสวย
         “งั้นก็ดี อ้อ นับตั้งแต่วันนี้ไปคยู นายห้ามทำอะไรด้วยตัวคนเดียวเด็ดขาดเข้าใจมั้ย”ลีทึกพูดก่อนจะ สะดุ้งเหมือนนึกขึ้นได้พร้อมกับเอ่ยเตือน
         “ฮะพี่ลีทึก”ร่างบางรับคำ
         “งั้นก็ดี ซองมินอาหารเย็นเสร็จรึยัง”ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะตะโกนถามศรีภรรยาของเพื่อนรักที่ทำครัวอยู่
         “เสร็จแล้วฮะพี่ลีทึก อ๊ะ พี่ฮีชอลอย่ามาทำรุ่มร่ามแถวนี้นะฮะ”ร่างอวบตะโกนตอบลีดเดอร์คนสวยก่อนจะหันไปดุคนรักที่เอาแต่ลวนลามตนเองอยู่นั้นล่ะ ทั้งๆที่บอกว่าจะมาช่วยร่างบาง ดงและคังอินทำอาหารเย็น
         “ป่ะ คยูเราไปกินข้าวเย็นกันดีกว่า”ลีทึกวางนิตยสารลงข้างตัวก่อนจะช่วยพยุงร่างของมักเน่ไปยังโต๊ะอาหารที่เมมเบอร์บางส่วนไปช่วยจัดโต๊ะอยู่ เมื่อทุกอย่างพร้อมเมมเบอร์ทั้งสิบสามคนจึงลงมือทานอาหารกัน โดยเกิดสงครามเช่นทุกวันแต่สงครามที่ว่าไม่ใช่สงครามแย่งอาหาร แต่เป็นสงครามตักอาหารให้คุณแม่มือใหม่
    ++++++++++++
    100%ค่ะ ตอนนี้ไรท์เตอร์ว่ารีดเดอร์คงจะมึนอึนกับตอนตรวจแน่ๆ เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากอ่านก็ข้ามได้เลยค่ะ ยิ่งเขียนไรท์เตอร์ว่ามันก็ยิ่งน่าสนุก รีดเดอร์อย่าสงสัยถ้าหากเดี๋ยวเวลามันผ่านไปเร็วบ้างช้าบ้าง เพราะฟิคเรื่องนี้ไรท์เตอร์อยากให้มันดูเป็นคอมเมดี้ โรแมนติกอะไรแบบนี้ ส่วนใหญ่ของเรื่องเราจะเน้นที่วอนคยูเราจะดูการเจริญเติบโตของลูกของวอนกับคยูเป็นหลักนะค่ะ โอ๊ะ หมดเวลาทอล์คแล้วอ่า เอาเป็นว่าเจอกันตอนหน้าค่ะ บ๊ายบาย
    ปล.มีเรื่องที่สงสัยหรืออยากถามอะไร ทิ้งคำถามไว้ได้เลยค่ะ แล้วเดี๋ยวถ้าไรท์เตอร์ว่างจะไปตอบให้ค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×