คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Stop Love: 2nd Step
Stop Love: 2nd Step
...เฮซองไม่เคยคิดหรอก
ว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุด
มันจะเกิดขึ้นกับเขา...
เช้าวันถัดมา
ณ คอนโดของดงวาน
ติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ด
“อือ...”เสียงครางหวานที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวรำคาญถูกเปล่งออกมาจากลำคอ หมายจะยกหมอนขึ้นมาปิดหัวปิดหูเพื่อนอนต่อทดแทนที่เมื่อคืนอดนอนก็ทำไม่ได้ เพราะทันทีที่ขยับความเจ็บแปลบที่ไม่ได้พบเจอมานานก็เข้าเล่นงาน
“อ๊ะ!”เจ้าตัวร้องขึ้น พร้อมๆ กับที่เปลือกตาต้องเปิดขึ้นระบายหยาดน้ำที่คลออยู่ที่หน่วยตาเพราะความเจ็บ ใบหน้าหวานเอี้ยวไปมองบริเวณสะโพกของตนที่ถูกผ้าห่มคลุมปิดไว้ แทบไม่ต้องนึกว่าสภาพภายใต้ผ้าห่มนั้นเป็นอย่างไร ดงวานกัดฟันฝืนความเจ็บเขยิบตัวเข้าไปใกล้โต๊ะหัวเตียงให้มากที่สุดคว้าเอาสมาร์ทโฟนที่ดังขึ้นมาสักพักขึ้นมาดู พอเห็นชื่อของปลายสายก็ทำเอาเจ้าตัวขมวดคิ้วไม่น้อย
[Hyesung]
“ยอบอเซโย ดงวานรับสายครับ”ทักทายไปตามสายด้วยเสียงที่พยายามฝืนให้เหมือนปกติ ทั้งๆ ที่เขาแทบจะไม่เหลือเสียงด้วยซ้ำ เพราะเมื่อคืนร้องครางใต้ร่างของอีกคนไม่ได้หยุด พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็ทำเอาเจ้าตัวหน้าแดงเถือกได้ไม่น้อย
ถ้านายไม่รักฉันแล้ว นายมาทำแบบนี้ทำไมมินอู... แล้วเมื่อไหร่ฉันจะหยุดรักนายได้สักที
[ดงวาน! คือ พี่จะโทรมาบอกว่าวันนี้พี่ขอหยุดครึ่งวันนะ] เสียงหวานของปลายสายฟังดูตื่นตระหนกมาก ราวกับเรื่องขอขาดบาดตายอย่างไรอย่างนั้น
“พี่เป็นเจ้าของร้านนะพี่เฮซอง พี่จะหยุดก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ เรื่องร้านไม่ต้องห่วงเดี๋ยวผมดูแลให้”ร่างบางว่าพลางพยายามพยุงตัวลุกขึ้นนั่งให้เบาที่สุด
[งั้นก็ขอบคุณมากนะ พี่เสร็จธุระแล้วพี่จะรีบไปร้าน แค่นี้นะเจอกันที่ร้าน] ปลายสายรีบบอกลารีบวางสาย ทิ้งความสงสัยไว้ให้กับดงวานไม่น้อย
“พี่เฮซองเป็นอะไรของเค้านะ”
++++++ Stop Love ++++++
คฤหาสน์ตระกูลมุน
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่เอริค”เสียงหวานสดใสของน้องชายต่างบิดาเอ่ยทักทายดั่งเช่นทุกเช้า ร่างสูงใหญ่ผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์คนปัจจุบันยิ้มรับพร้อมเดินมานั่งลงในห้องทานอาหารในชุดทำงานที่ไม่เรียบร้อยนัก (ยังไม่ใส่สูทตัวนอก)
“เช้านี้ทำอะไรให้พี่กินเนี่ยแอนดี้”เอริคถามพลางมองจานอาหารตรงหน้าที่ส่วนประกอบหลักเป็นผัก
“เช้านี้ผมทำไข่กวนกับสลัดผักครับ”เจ้าตัวว่าพร้อมยิ้มหวานพลางลงมือทานอาหารในส่วนของตัวเองไปด้วย ร่างสูงยิ้มอ่อนโยนให้กับน้องชายก่อนจะลงมือทานอาหารในส่วนของตัวเองบ้าง สองพี่น้องเริ่มลงมือทานอาหารกันได้ไม่ถึงสิบนาทีดีเสียงกดออดที่น่าบ้านก็ดังขึ้น เรียกความสนใจของสองพี่น้องได้ไม่มากก็น้อย
“ใครมากันนะ? ไปดูสิยูนะ”เอริคสั่งเมดสาวนางหนึ่งที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ในห้องทานอาหาร ยูนะย่อตัวรับคำสั่งก่อนจะรีบออกไปดูว่าใครเป็นแขกแต่เช้าแบบนี้ ไม่นานนักเธอก็กลับมาพร้อมคำตอบ
“คุณจอนจินค่ะนายท่าน”ทันทีที่รู้ว่าใครเป็นแขกในยามเช้าแบบนี้ ร่างเล็กบางของคุณหนูแอนดี้ของทุกคนก็ลุกขึ้นยืน มือบางคว้าเอากระเป๋าสะพายข้างขึ้นสะพายตรงเข้าไปหอมพี่ชายก่อนจะบอกลา
“จุ๊บ ผมไปทำงานก่อนนะฮะพี่ เจอกันมะรืนนี้ฮะ”ร่างเล็กบอกก่อนจะเดินนำเมดที่ถือกระเป๋าเสื้อผ้ารอไปขึ้นรถของคนที่ต้องไปทำงานด้วย
“ไปทำงานให้สนุกนะ แล้วก็...ดูแลหัวใจของตัวเองให้ดีล่ะแอนดี้”
++++++ Stop Love ++++++
ณ โรงพยาบาลโซล
ตอนนี้เฮซองกำลังนั่งรอคิวตรวจอยู่ที่แผนกตรวจโรคทั่วไป บนดวงหน้าสวยหวานประดับด้วยความเครียด ที่เขาเลือกมาตรวจที่แผนกนี้ก็เพื่อไม่ให้ตัวเองเครียดกับอาการที่สันนิษฐานเอาไว้
ใจเย็นๆ เฮซอง นายอาจจะแค่อ่อนเพลีย นายอาจจะไม่ท้องจริงๆ ก็ได้
“คุณชิน เฮซองเชิญที่ห้องตรวจสามค่ะ”เสียงหวานของพยาบาลสาวตรงประชาสัมพันธ์ประกาศผ่านไมค์เรียกให้คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองตื่นขึ้นมาได้ไม่ยาก ร่างบางสะดุ้งเฮือกก่อนจะลุกขึ้นตรงไปหานางพยาบาลที่รออยู่ นางพยาบาลสาวส่งยิ้มอ่อนโยนให้จนว่าที่คนไข้คลายความกังวล เฮซองก้าวตามพยาบาลสาวเข้าไปในห้องตรวจ
“สวัสดีครับคุณเฮซอง”เสียงนุ้มทุ้มของหมอหนุ่มจบใหม่กล่าวบอกพร้อมยิ้มอ่อนโยนให้ ร่างบางยิ้มรับก่อนจะเดินมานั่งลงยังตรงหน้าของคุณหมอหนุ่ม
“มาตรวจเลือดสินะครับ”หมอหนุ่มถามพลางมองในแฟ้มประวัติของคนไข้ที่คุณพยาบาลนำมาให้ เฮซองพยักหน้ารับพลางพยายามทำใจไม่ให้ตื่นเต้นจนเกินไป เมื่อได้รับคำตอบที่แน่ชัด หมอหนุ่มจึงหันไปสั่งพยาบาลให้ไปเอาอุปกรณ์มาเพื่อทำการตรวจเลือด ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็ได้ตัวอย่างของเลือดที่จำนำไปตรวจ
“ผมว่าอีกสักพักก็น่าจะรู้ผลนะครับ เพราะงั้นระหว่างนั้นคุณก็ไปหาอะไรทานก่อนก็ได้นะครับ”หมอหนุ่มว่าพลางส่งหลอดเลือดตัวอย่างให้กับพยาบาล ร่างบางพยักหน้ารับก่อนจะลุกเดินออกไปโดยไม่ลืมใช้มือข้างที่ถูกเจาะหยิบเอากระเป๋าสะพายข้างใบเก่งไปด้วย และโดยที่ไม่ระวังตัวทำให้ร่างบางชนเข้ากับคนที่โดนสวนเข้าอย่างจัง
ผลั่ก!!!
“โอ๊ยยยย”ร่างบางร้องโอดโอยด้วยความเจ็บทันที โชคดีที่ชนกันไม่แรงมากจนถึงขั้นล้มและเลือดตกอย่างอก แต่เพราะอีกฝ่ายตัวใหญ่จนทำให้ร่างบางชนเข้ากับขอบประตูบานเลื่อนพอดีจนเป็นรอยถลอก
“อ่า ขอโทษครับคุณ...เฮซอง!”อีกฝ่ายเอ่ยขอโทษขอโพยก่อนจะแปรเปลี่ยนเรียกชื่ออย่างตกใจเมื่อเห็นว่าเจ้าของร่างเล็กบางที่ถูกตนเองชนนั้นเป็นใคร
“เอริค”
++++++ Stop Love ++++++
สวนออกกำลังกายข้างโรงพยาบาล
“น้ำหน่อยมั้ย”เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างบางที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ นับตั้งแต่ชนกันเมื่อกี้ตรงห้องตรวจ เฮซองส่ายหน้าปฏิเสธเป็นครั้งที่ห้าก่อนจะหันหน้ากลับไปทิศทางเดิม ทำให้ได้ยินเสียงถอนหายใจของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
“นี่เฮซองงี่”สรรพนามที่คุ้นเคยถูกอีกฝ่ายเอ่ยเรียกราวกับเมื่อก่อน
“อะไร”ถามเสียงห้วน พยายามปิดกั้นอีกคนไม่ให้เข้ามายุ่มหย่ามกับหัวใจตนเองไปมากกว่านี้
“เรา...เลิกกันมากี่เดือนแล้วนะ”อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ ไม่ได้ดูเครียดเหมือนร่างบางเลยสักนิด
“สามเดือน”
“มันนานน่ะนายว่ามั้ย เฮซองงี่”
“นายพูดแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่เอริค”
“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย”คำพูด น้ำเสียง และสายตาที่หนักแน่นและสื่อความในใจถูกส่งมาให้กับร่างบาง ใบหน้าหวานขึ้นสีก่อนจะรีบหันกลับไปทางเดิม สมองครุ่นคิดหาคำปฏิเสธ หากแต่หัวใจมันเต้นแรงเสียจนทำให้คิดไม่ออก
“มะ...”
“คุณเฮซองค่ะได้ผลแล้วค่ะ!”
ขณะที่ร่างบางกำลังจะกล่าวปฏิเสธนั้นเอง... พยาบาลสาวที่เป็นผู้ช่วยของหมอคนที่เฮซองเข้าไปตรวจด้วยก็วิ่งออกมาตามเขาพอดี ร่างบางพยักหน้ารับก่อนจะเตรียมตัวลุกขึ้น หากแต่อาการเวียนหัวที่เกิดขึ้นตอนลุกขึ้นจากเก้าอี้เข้าโจมตี จนเจ้าตัวเซไปล้มลงเข้าสู่อ้อมกอดของเอริคเสียพอดิบพอดี
“นายไหวรึเปล่าเฮซองงี่”ชายหนุ่มก็ถามไปงั้นล่ะ ปากพูดแต่มือกลับกำลังประครองร่างบางให้ลุกเดินกลับเข้าไปในอาคารเพื่อไปส่งที่ห้องตรวจ ไม่ได้สนเลยว่าร่างบางนั้นต้องการมั้ย
ถ้าหมอนี่ไปด้วย แล้วผลเกิดว่าเราท้องขึ้นมาล่ะ เราจะออกห่างจากหมอนี่ยังไงล่ะ
++++++ Stop Love ++++++
ณ ห้องตรวจสาม
“มะ...เมื่อกี้คุณหมอว่าไงนะครับ”ร่างบางเอ่ยถามราวกับว่าไม่อยากเชื่อหูตัวเองเมื่อได้ยินผลตรวจเลือดจากปากของหมอหนุ่ม
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ คุณเฮซองไม่ได้เป็นโรคอะไรครับ แต่คุณกำลังตั้งครรภ์ได้สามเดือนครับ”สิ้นคำบอกเล่าจากปากหมอทำเอาเฮซองช็อคไปไม่น้อย แต่คนที่ช็อคกว่าคงเป็นร่างสูงที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังก็เป็นได้ เอริคกล่าวขอบคุณหมอแทนก่อนจะรีบฉุดร่างบางให้ลุกตามออกไปอย่างรวดเร็ว กว่าจะรู้ตัวเฮซองก็มาอยู่ในรถยุโรปสุดหรูของชายหนุ่มเสียแล้ว
“นายพาฉันมาที่นี่ทำไมเอริค”ถามร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ พลางถอยห่างออกจากอีกฝ่าย
“เด็กในท้องนาย...เป็นลูกใคร”สิ้นคำถามจากปากของชายหนุ่ม ก็ทำเอาร่างบางเกิดอาการช็อคอีกครั้ง อายุครรภ์ของเฮซองคือสามเดือนเท่ากับระยะเวลาที่พวกเขาเลิกกันพอดี
“เด็กจะ...จะเป็นลูกใครมันก็เรื่องของฉัน”ร่างบางรีบพูดพร้อมทั้งพยายามหลบสายตา แต่มีหรือที่คนฉลาดอย่างเอริคจะไม่รู้ว่าเด็กในท้องของแฟนเก่านั้นเป็นลูกของใคร
“เด็กในท้องนายเป็นลูกของฉันใช่มั้ย”
++++++ Stop Love ++++++
อีกด้านหนึ่ง เวลาเดียวกันล
“คุณแอนดี้หิวหรือเปล่าครับ”เสียงทุ้มถามประโยคเดิมๆ เป็นครั้งที่สี่นับตั้งแต่ร่างบางขึ้นรถมา ร่างบางยิ้มขำก่อนจะตอบ
“พี่ถามผมเป็นครั้งที่สี่แล้วนะฮะพี่จิน แต่ผมก็จะตอบพี่เหมือนเดิมว่ายังไม่หิวฮะ พี่ลืมไปรึเปล่าว่าผมเพิ่งทานข้าวเช้ามาเมื่อชั่วโมงที่แล้วเองนะฮะ”ร่างเล็กตอบพลางอมยิ้มน้อยๆ ดูน่ารักน่าหยิกไม่หยอก หากแต่จอนจินก็พยายามห้ามใจเอาไว้เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงน้องชายของเจ้านาย
“ขอโทษครับ”พอคิดอะไรไม่ออกก็ได้แต่พูดว่าขอโทษครับ ก่อนที่เจ้าตัวจะละสายตาจากร่างเล็กกลับไปสนใจถนนหนทางที่จะพาพวกเขาไปยังสถานที่ทำงานนอกสถานที่ในครั้งนี้ แอนดี้อมยิ้มกับความน่ารักของเลขาของพี่ชาย นิ้วเรียวเอื้อมไปกดเปิดเครื่องเล่นเพลงตรงบริเวณใกล้ๆ กับคอนโซลของรถ เสียงดนตรีหวานๆ ท่วงทำนองเพราะๆ และภาษาที่ไม่คุ้นหูก็ทำเอาร่างเล็กฟังด้วยความสนใจเช่นกัน แม้จะฟังไม่ออกหากแต่จังหวะเพลงและความสามารถทางด้านภาษา (อันน้อยนิด) ก็พอจะจับใจความเพลงได้ลางๆ บ้าง
ยิ่งผูกพัน ยิ่งแยกไม่ออกว่าคือ
ความห่วงใย หรือหวงที่เรามีข้างใน
หลายครั้งที่ไม่เข้ากัน ทุกครั้งเราดันเข้าใจ
ก็ไม่รู้ทำไม ฉันเองก็ไม่รู้
รักเธอตั้งแต่เมื่อไร ฉันหวั่นไหวตอนไหนกัน
ใจของฉันยังตามไม่ทัน และฉันต้องทำไง
ก็ไม่รู้ว่ารักเธอสักเท่าไร
แต่ที่รู้ตัว หมดทั้งหัวใจ ฉันให้เธอ
(เพลง รักเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ - มายด์ Mic Idol)
ฟังจับใจความได้ไม่เท่าไหร่ใบหน้าหวานก็เริ่มขึ้นสีแดงไม่น้อย เมื่อเพลงที่ฟังนั้นราวกับรู้ความในใจของเขา นิ้วเรียวรีบกดปิดเพลงก่อนที่เจ้าตัวจะหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
ถ้าพี่จินรู้ความรู้สึกเราก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องเก็บๆ ซ่อนๆ แบบนี้...
++++++ Stop Love ++++++
เวลาต่อมา
จอนจินไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปแค่ไหน รู้แต่ว่าพอเขาจอดรถแวะปั๊มเติมน้ำมันหันไปมองหน้าหวานน้องชายของเจ้านายที่ตอนนี้เอนไปเอนมา ร่างสูงอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะจัดท่านอนให้อีกฝ่ายดีๆ พลางนึกถึงประโยคที่เจ้านายเอ่ยกับเขาในเย็นวานก่อนที่เขาจะเลิกงาน
นายไม่ควรปิดกั้นตัวเองนะจอนจิน เพราะบางทีบางอย่างนายอาจจะไม่ได้คิดไปเอง...
เสียงคำบอกเล่าประโยคนั้นของเอริคยังคงก้องอยู่ในหัวของจอนจิน ร่างสูงถอนหายใจและผละออกจากร่างเล็ก เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่เหมาะกับแอนดี้ แต่จะทำยังไงได้ก็ตอนนี้เขาบังคับหัวใจให้พาตัวเองออกห่างจากอีกคนไม่ได้เลยน่ะสิ
++++++ Stop Love ++++++
มุมเม้าท์มอยท้ายเรื่อง
จบไปอีกตอนแล้วเด้อ~~~
อยากจะบอกว่าการเขียนเรื่องนี้ไม่ค่อยยาก พล็อตไม่ค่อยหนักหัวเท่าไหร่
แต่ที่ไรท์อัพช้าเพราะไรท์ไม่ว่างจริงๆ ค่ะ
แต่จากนี้ไป ไรท์จะพยายามอัพบ่อยๆ นะคะ
ความคิดเห็น