ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic WonKyu] พิศวาส เสน่หา [END]

    ลำดับตอนที่ #26 : บทจบ

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 56


    บทจบ: นายคือดวงใจของฉัน

     

     

     

     

     

         ในระหว่างที่ชายทั้งสองกำลังคุยกัน พวกเขาไม่รู้เลยว่ามีอีกคนหนึ่งที่เขามาได้ยิน คยูฮยอนยืนตัวสั่นอยู่ตรงประตูทางเข้า หลังจากที่ได้ยินเรื่องบางอย่างเข้า เรื่องที่เด็กหนุ่มเองก็ไม่อยากจะเชื่อ นัยน์ตาสวยคลอไปด้วยน้ำตา ทั้งสับสน และวุ่นวายในใจ ร่างกายเหมือนไร้เรี่ยวแรง ทำให้ถุงทาร์ตผลไม้ที่ถือขึ้นมาด้วยตกลงพื้นทันที มือบางยกขึ้นปิดเสียงสะอื้น

         “คยูฮยอน! เป็นอะไรรึเปล่า”ดงเฮวิ่งเข้ามาถามเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเหมือนจะทรุดลง

         “ผะ...ผม ไม่เป็นไรฮะ ขะ...ขอตัวก่อนนะฮะ”ร่างบางเอ่ยตะกุกตะกัก แล้ววิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที ทิ้งให้ดงเฮยืนงงด้วยความสงสัย จนกระทั่งซีวอนเดินออกมาจากห้อง

         “เห็นคยูรึเปล่า”เสียงทุ้มถามอย่างร้อนใจ เมื่อเห็นหน้าห้องมีเพียงทาร์ตผลไม้ที่กระจายเกลื่อนเต็มพื้นแต่ไร้เงาของคยูฮยอน แสดงว่าเด็กหนุ่มรู้เรื่องที่เขาคุยกับฮีชอลหมดแล้ว

         “ฮะๆ เพิ่งวิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง”ดงเฮรีบบอก

         ไม่ทันสิ้นเสียง ชายหนุ่มก็วิ่งผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว ดงเฮมองซีวอนอย่างสงสัยอีกครั้ง สงสัยจริงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมถึงได้วิ่งไปอย่างนั้น ทั้งคู่เลย...

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         ซีวอนวิ่งไปตามทางของถนนในโรงพยาบาล เขารู้สึกร้อนใจอย่างมาก ไม่คิดว่าคยูฮยอนจะมาได้ยินเรื่องนี้ มันหนักเกินไปสำหรับเด็กหนุ่ม

         ขายาววิ่งไปข้างหน้าอย่างรีบร้อน นัยน์ตาคมมองซ้ายมองขวา จนกระทั่งไปเจอกับร่างบางที่คุ้นตา ที่นั่งอยู่ตรงม้านั่งมุมหนึ่งของสวนหย่อม ซีวอนจึงพาตัวเองเข้าไปใกล้ๆ แล้วค่อยๆ นั่งลงตรงข้างกายของคยูฮยอนอย่างเงียบเชียบ

         “ฮึก...”เสียงใสสะอื้นออกมา ชายหนุ่มจึงอดไม่ได้ที่จะกอดปลอบ

         “คยูฮยอน”เสียงทุ้มเรียกแผ่วเบาราวกับจะปลอบประโลมให้หายเศร้า นิ้วเรียวเชยคางขึ้นก่อนปาดน้ำตาที่เปรอะอยู่เต็มหน้าออก นัยน์ตาคมมองจ้องเข้าไปในดวงตาใสราวกับแก้ว

         “พี่ซีวอน...มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ยฮะ...”ร่างบางถามเสียงสั่น พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ซีวอนปาดน้ำตาออกอีกครั้ง ก่อนจะพูดความจริง

         “ฟังให้ดีนะคนดี ยังไงเราก็หลีกเลี่ยงบางเรื่องไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับมัน...”

         “...”เมื่อสังเกตเห็นว่าคนตรงหน้าตั้งใจฟังบ้างแล้ว ชายหนุ่มจึงค่อยผ่อนหายใจแล้วเล่าต่อ

         “บางทีนายอาจจะได้ยินมาบ้างแล้วนะ ใช่แล้วล่ะ...คุณฮีชอลเป็นพ่อแท้ๆ ของนาย...พ่อที่ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองยังมีลูกชายอีกคน...

         “แล้วทำไม...ทำไมเขาถึงทอดทิ้งผมล่ะฮะ”

         “เป็นเพราะความเข้าใจผิดน่ะ เหตุผลสมัยเต่าล้านปีเลยล่ะ แต่ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น ฉันก็อาจไม่มีวันนี้ วันที่ฉันได้เจอกับรักแท้...”สิ้นคำพูดริมฝีปากบางของชายหนุ่มก็คลี่ออก ไม่คิดว่าตัวเองจะเลี่ยนได้ขนาดนี้ และเมื่อมองร่างบางตรงหน้าก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างกัน

         คยูฮยอนยิ้มอายๆ ก็จริงอย่างที่ผู้เป็นสามีว่า ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้น เราทั้งคู่ก็คงไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแบบนี้

         ศีรษะเล็กซบลงที่ไหล่กว้างของชายหนุ่ม ความอบอุ่นที่ห่างหายมานานเริ่มซึมซับเข้าสู่หัวใจทีละเล็กละน้อย  แม้ว่าเขาและร่างบางจะห่างกันนานขนาดไหน แต่หัวใจก็ยังโหยหากันตลอดเวลา ยิ่งตอนนี้มีสิ่งชีวิตเล็กๆ ที่เป็นเหมือนโซ่ท้องคล้องใจทั้งคู่ สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความรักของเขาและเด็กหนุ่มทั้งสองและความรักนั้นคงจะเติบโตอยู่ในหัวใจของทั้งคู่...จากนี้และตลอดไป

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         คยูฮยอนเดินจูงมือกับซีวอนไปตามทางหลังจากที่เข้าใจกันแล้วเรียบร้อย ชายหนุ่มคิดว่าหลังจากนี้คยูฮยอนคงจะได้เวลาย้ายกลับมาอยู่ 'บ้าน' ของตัวเองซักที...

         ทั้งคู่เดินมาจนถึงห้องของฮีชอล เมื่อฮีชอลเห็นหน้าของคยูฮยอนอีกครั้งก็ทำให้คิดถึงอาราอย่างอดไม่ได้ ส่วนดงเฮที่เพิ่งจะรู้ความจริงหลังจากที่ฮีชอลเล่าให้ฟังนั้นก็รู้สึกดีใจมากที่ตัวเองจะมีน้องสาว แม้ว่าจะเป็นน้องต่างมารดาก็เถอะ แต่นี่มันสมัยไหนแล้ว แทนที่จะรังเกียจแต่ร่างบางกลับยิ่งสงสารที่ต้องปล่อยให้น้องสาวเพียงคนเดียวต้องเติบโตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพียงลำพัง

         “คยูฮยอน...”เสียงแหบพร่าของฮีชอลเอ่ยเรียกชื่อของผู้เป็นลูกชายอีกคนอย่างรักใคร่ ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนผู้เป็นแม่

         “ฮะ...คุณฮีชอล”เสียงใสขานรับ แต่กลับโดนดงเฮขัด

         “คุณฮีชอลที่ไหนกัน เรียกคุณพ่อสิ”ดงเฮทำหน้าดุ แต่ก็ยิ้มแก้มปริ

         “พี่ดงเฮ...”คยูฮยอนพูดเสียงอ่อน

         “ฉันดีใจจริงๆ นะที่ได้นายมาเป็นน้อง ถ้าอย่างนั้นพี่ซีวอนก็เป็นน้องเขยของฉันน่ะสิ”ดงเฮกล่าวอย่างล้อเลียน

         “ครับๆ พี่ภรรยา...”

         “อย่าเลยดีกว่าฮะพี่ซีวอน พูดอย่างนั้นเดี๋ยวขี้กลากขึ้นหัวพอดี”ดงเฮว่าก่อนจะหันไปหาคยูฮยอน

         “เอ้า เร็วสิ พ่อพี่รออยู่นะ”คยูฮยอนมองดงเฮก่อนจะสลับมามองฮีชอลที่ตั้งหน้ารอคอยอย่างมีความหวังเต็มที่ล

         “คะ...คุณพ่อ”เสียงใสเอ่ยเบาๆ เพราะนอกจากคุณพ่อบาทหลวงและพ่อสามีแล้ว เด็กหนุ่มก็ยังไม่เคยเรียกใครว่าพ่อเลย ให้มาเรียกกะทันหันอย่างนี้มันก็ออกจากเขินอยู่หน่อยๆ แฮะ แม้เสียงจะเบา แต่คนฟังกลับหัวใจพองโตขึ้น ลูกชายที่ไม่เคยได้พบมานานหลายปี มาบัดนี้กลับเรียกเขาว่าพ่อ ทั้งที่พ่อคนนี้ทอดทิ้งเด็กหนุ่มมาทั้งชีวิต

         “ลูก...ยกโทษให้พ่อได้ไหม ขอโอกาสให้พ่อที่ทอดทิ้งลูกได้แก้ตัวอีกครั้ง”

         “ผม...ยกโทษให้ฮะ”คยูฮยอนพูดเสียงเครือด้วยความตื้นตันใจ

         “คยูฮยอน...ขอบใจมากลูก ขอให้พ่อได้กอดลูกสักครั้ง...จะได้ไหม”ฮีชอลพูดเสียงสั่น ทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ

         “คุณพ่อ...สิ้นเสียงร่างบางก็โผเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่นของผู้เป็นบิดา อ้อมกอดที่โหยหามานานแสนนาน ความอบอุ่นทางสายเลือดถ่ายทอดส่งผ่านสู่กันและกัน

         ฮีชอลรู้สึกเหมือนว่าได้ย้อนกลับไปสู่อดีตอีกครั้ง อดีตที่มีเขา อาราและครอบครัวอันแสนอบอุ่น

         ภาพพ่อลูกที่โอบกอดกันเรียกให้น้ำตาทั้งของซีวอนและดงเฮรื้นขึ้นมาในทันที ดงเฮจึงเข้าไปโอบกอดร่างบางของผู้ที่ได้ชื่อว่าน้องชายอีกครั้ง ก่อนจะผละออกมา ฮีชอลที่สีหน้าตอนนี้อิ่มเอิบไปด้วยความสุข พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดว่า

         “เรื่องนี้ต้องบอกให้คุณแม่ได้รับรู้ ว่าสิ่งที่ท่านทำให้ชีวิตต้องลำบากขนาดไหน ท่านจะได้รับรู้ว่าสิ่งที่ท่านทำมันผิด!”เมื่อกล่าวจบ คนทั้งสามก็มีสีหน้ากังวลไปตามๆ กัน แต่เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ทางเดียวเท่านั้นคือพูดความจริงออกมา

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         เบื้องหน้าของทุกคนในตอนนี้ดูตึงเครียด เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับคุณนายใหญ่คิม ฮีจิน หรือคุณแม่ของฮีชอล หญิงชราที่อดีตเคยไล่หญิงสาวคนหนึ่งออกจากบ้านทั้งๆ ที่รู้ว่าท้อง และหญิงสาวคนนั้นก็ตายจากไป เหลือเพียงทายาทชายเพียงคนเดียวที่ถอดพิมพ์เดียวกันกับผู้เป็นมารดา ยิ่งมองดูก็ยิ่งสะท้อนใจในความผิดของตนเอง

         “คะ...คยูฮยอน”ริมฝีปากเหี่ยวย่นพยายามเอ่ยเสียงอันแหบพร่าของตน เพียงเพื่อจะเอ่ยชื่อของเด็กหนุ่มตรงหน้า ที่เป็นหลานชายในไส้ หลานชายที่เธอเคยทอดทิ้งอย่างไม่ใยดี

         “ฮะ...”เสียงใสขานรับ นัยน์ตามองผู้ที่ถูกแนะนำตัวว่าเป็นย่าแท้ๆ ของเด็กหนุ่ม

         หญิงชราตรงหน้ามองร่างบางที่นั่งอยู่บนพื้น เธอเห็นภาพบางอย่างทับซ้อนขึ้นมาในทันที เป็นภาพของอาราหญิงสาวที่เธอชิงชัง ภาพตอนที่ลูกชายของเธอพามาแนะนำแต่เธอไม่ยอมรับ และไร่เธอออกจากบ้านหลังนี้ในที่สุด แต่ตอนนี้ลูกชายของเธอกลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีกครั้ง

         แต่ครั้งนี้ในความรู้สึกของเธอไม่มีความชิงชังนั้นเหลืออยู่เลย เหลือแค่เพียงความรู้สึกสำนึกผิดในบาปกรรมที่ตนเองได้ก่อไว้กับสองชีวิต หนึ่งชีวิตที่ได้พบกับความตายหลังจากที่คลอดชีวิตเล็กๆ และชีวิตเล็กๆ นั้นกลับต้องใช้ชีวิตอย่างอยากลำบากนสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเศร้าใจ ทั้งสำนึกในความร้ายกาจของตนเองเมื่อในอดีต

         “หลาน...ย่า...”เสียงแหบพร่าเอ่ยแผ่วเบา แต่หากน้ำตากลับคลอหน่อยเต็มนัยน์ตาใส

         “คุณแม่ครับ”ฮีชอลร้องขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นมารดาร้องไห้ออกมา

         “ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่เห็นภาพของอาราทับขึ้นมาเท่านั้น คยูฮยอน...จะเป็นไปได้มั้ยถ้าจะยกโทษให้ย่า ยกโทษให้กับความผิดร้ายแรงที่คนแก่คนนี้ได้ทำไว้กับแม่ของหนึ่ง ฉันเลวเองที่เห็นแก่ตัว ฉันขอโทษที่ทำไม่ดีกับอารา ทั้งความร้ายกาจ ทั้งใส่ร้ายแม่ของหนู  ทั้งไล่ออกจากบ้าน ยิ่งรู้ว่า...แม่คลอดหนูออกมาแล้ว...”หญิงชราพูดได้เพียงแค่นั้นน้ำตาแห่งความสำนึกผิดก็ไหลพรั่งพรูออกมาเป็นสาย

         คยูฮยอนที่ได้เห็นหน้าของคนที่ได้ร้องไห้สำนึกผิด น้ำตาของเด็กนหุ่มก็ไหลออกมาเช่นกัน เด็กหนุ่มดีใจที่หญิงชราตรงหน้าขอโทษแม่ของตน หากวันนี้แม่ยังอยู่แม่คงจะอโหสิกรรมให้กับสิ่งเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้น ความจริงวันนี้ควรเป็นวันดีที่เด็กหนุ่มได้เห็นครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า และคุณพ่อบาทหลวงก็เคยสอนว่าความแค้นมีแต่ทำให้เราเป็นทุกข์ การให้อภัยต่างหากคือสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข

         “ผม...ให้อภัยในทุกสิ่งทุกอย่างฮะ”เสียงใสปนสะอื้นกล่าวอย่างนุ่มนวล ฮีชอลยิ้มออกมาเมื่อตอนนี้ครอบครัวของเขาได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาต่อจากนี้เขาจะดูแลลูกชายให้ดีที่สุด ชดเชยช่วงเวลาแห่งความสุขที่หายไป

         “ขอย่า...กอดได้ไหม...

         “คุณย่า...”แล้วร่างบางก็โผเข้าสู่อ้อมกอดของหญิงชราที่นั่งอยู่บนรถเข็น

         แม้จะมีเพียงผิวหนังที่เหี่ยวย่นไปตามกาลเวลา แต่หากความอบอุ่นของสายเลือดเดียวกันกลับไม่หายไปเลย ทั้งสองคนคนกอดกันถ่ามกลางความตื้นตันใจของทุกคนที่อยู่ในที่นี้ โดยเฉพาะฮีชอลที่ในที่สุดก็ได้เห็นหน้าลูกชายของหญิงผู้เป็นที่รัก ซองมินเดินเข้ามากุมมือของสามี พร้อมเอ่ยแสดงความยินดี

         “ในที่สุดเรื่องที่ค้างคาในใจก็หายไปสักทีนะครับ ดีใจด้วยที่คุณได้พบกับลูกชายอีกคน”ซองมินพูดอย่างยินดี ฮีชอลไม่รู้จะพูดขอบคุณยังไง จึงได้แต่กุมมือกลับ

         “ผมก็ต้องขอบคุณคุณเหมือนกัน ที่คอยอยู่เคียงข้างผมตลอดเวลา”

         “ครับ”แล้วสองสามีภรรยาก็ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         ขณะนี้คยูฮยอนยังง่วนอยู่กับการเตรียมกับข้าวในบ้านของฮีชอลและแม้ว่าเด็กหนุ่มจะคอยช่วยแม่ครัว แต่ก็โดนสั่งให้นั่งอยู่เฉยๆ อยู่ดี เพราะเกรงว่าหากออกกำลังมากเกินไป อาจจะกระทบกระเทือนกับเด็กก็เป็นได้ ดังนั้นหน้าที่ของเด็กหนุ่มในตอนนี้ก็ยังคงเป็นหน้าที่หั่นผัก แถมซีวอนยังคอยมาคุมไม่ห่างกายเพียงแค่หั่นผักแรงไปหน่อยก็โดนดุ

         ฉับๆๆๆๆ

         “นี่คยู อย่าซับแรงนักซี่ เดี๋ยว...”

         “กระเทือนลูก...”ร่างบางต่อคำพูดที่ฟังจนแทบจะขึ้นใจได้ เด็กหนุ่มวางมีดในมือลง ก่อนหันไปเอาเรื่องกับซีวอน

         “พี่ซีวอนฮะ...พี่ซีวอนรู้มั้ยว่า...”

         “...ว่า”ซีวอนรีบต่อคำให้

         “ผมรำคาญพี่มากกกก พี่คอยมาคุมอย่างนี้แล้วผมจะหั่นเสร็จมั้ยฮะ แค่มัดเดียวใช้เวลาเป็นชั่วโมงเข้าไปแล้ว แล้วผมใช้แค่แขนกับมือนะฮะ มันแทบจะไม่กระทบอะไรกับลูกเลยซักนิดเดียว จริงอยู่ที่ว่าคุณหมอห้ามทำงานหนัก แต่ไอ้การหั่นผักเนี่ย มันยังไม่ได้ครึ่งของงานที่ผมเคยทำมาทั้งชีวิตเลยด้วยซ้ำ ผมว่าพี่ซีวอนไปอยู่ห่างๆ ผมไว้จะดีกว่านะฮะ ผมจะเหนื่อยก็เพราะพี่คอยห้ามนู่นห้ามนี่อย่างนี้แหละฮะ!”

         เสียงใสแหวยาวเป็นชุด หลังจากที่อัดอั้นมานาน เด็กหนุ่มจ้องหน้าซีวอนเขม็งอย่างโมโห ก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นสีหน้าของสามีซีดลง ก็รู้อยู่หรอกว่าห่วง แต่แบบนี้มันทำให้เด็กหนุ่มรำคาญอยู่ไม่น้อยเลย

         ซีวอนหน้าซีดเมื่อเจอภรรยาบ่นเป็นชุดจนหูชา ก็เขาไม่อยากให้เด็กหนุ่มทำงานหนักนี่นา ความจริงอยากให้อยู่เฉยๆ มากกว่าด้วยซ้ำ งานในห้องครัวก็ให้เป็นของแม่ครัวไปสิ ทำไมต้องไปทำเอง แต่เขาก็พอจะเข้าใจนิสัยไม่ชอบอยู่เฉยของเด็กหนุ่ม แต่ก็น่าจะดูแลตัวเองบ้างนี่นา

         จะว่าไปตัวเขาเองก็เห่อลูกเกินไปจนสมควรโดนดุ พอคิดได้ชายหนุ่มก็เดินถอยออกไปจากห้องครัว คยูฮยอนมองตามร่างสูง ในใจเองก็รู้สึกผิดที่ตัวเองก็พูดแรงไป แต่เด็กหนุ่มรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นี่นา

         หลังจากที่เตรียมอาหารเสร็จแล้ว คยูฮยอนก็ย้ายตัวเองมาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ความจริงเด็กหนุ่มก็คิดจะกลับบ้านอยู่แล้ว แต่ถูกคนเป็นพ่อขอร้องให้อยู่ทานข้าวด้วยกัน ทั้งที่ความจริงแล้วตัวเองอยากให้คยูฮยอนพักอยู่ที่นี่เลยด้วยซ้ำ เพราะตัวเขาเองก็อยากจะทำหน้าที่พ่อบ้าง แต่เมื่อนึกได้ว่าลูกชายตัวเองแต่งงานแล้ว จึงพับเก็บความคิดนั้นเสีย เขาควรจะตามใจคยูฮยอน เพราะเด็กหนุ่มคงไม่สนิทใจถ้าต้องนอนค้างที่นี่ ไม่นานอาหารนานาชนิดถูกลำเลียงมายังโต๊ะอาหาร

         “น่าทานจัง”ดงเฮพูดลอยๆ พร้อมกับยิ้มให้กับทุกคน

         “วันนี้เป็นวันดีที่เราได้มาทานข้าวพร้อมหน้ากัน”ฮีชอลพูด พร้อมหันไปยิ้มให้กับสองสามีภรรยาครอบครัวชเว ที่ตอนนี้ก็ได้รู้ความจริงแล้วว่าคยูฮยอนคือลูกชายแท้ๆ ของฮีชอลที่เพิ่งได้พบกัน  จะเรียกว่าเพิ่งพบกันก็ไม่ได้ ต้องเรียกว่าพลัดพรากจากกันมากกว่า พอรู้ข่าวทั้งคู่ก็รีบมาที่บ้านตระกูลคิมทันที โดยถือโอกาสเยี่ยมคนป่วยที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลพร้อมทั้งมาแสดงความยินดีด้วย

         “เมื่อหนูคยูก็เป็นลูกชายคนหนึ่งของคุณฮีชอล แล้วได้แต่งงานกับเจ้าวอนก็แสดงว่าเราเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วสินะ”ยองอุนพูดอย่างถูกใจ หลังจากที่พลาดจากดงเฮ แต่ก็ได้คยูฮยอนมาแทน

         “งั้นแสดงว่าผมก็ไม่ต้องแต่งงานกับไอ้...คิบอมแล้วสิฮะ”ดงเฮพูดกับมารดาอย่างดีใจ

         “แต่แม่ว่าแต่งทั้งคู่เลยก็ดีเหมือนกันนะ”ซองมินกล่าวอย่างมีนัย

         “โธ่ แม่ฮะ...”เสียงหวานอ่อยลงทันที ก่อนจะหันไปจิกนัยน์ตาใส่คิบอม ซึ่งชายหนุ่มก็ได้แต่ส่งยิ้มกวนๆ มาให้  ทำให้ร่างบางถึงกับกัดริมฝีปากอย่างขัดใจ อาการของทั้งคู่ต่างก็ตกอยู่ในสายตาของคนทั้งโต๊ะ ซึ่งต่างก็อมยิ้มในความแก่นเซี้ยวไม่ยอมใครของแต่ละคน

         “เอาล่ะๆ เลิกทะเลาะกันได้แล้ว กินข้าวเถอะ เดี๋ยวอาหารเย็นหมด”ซองมินว่าก่อนทุกคนจะลงมือทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

         หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ เหล่าผู้มาเยือนต่างก็ลากลับก่อน และแน่นอนว่าคยูฮยอนยังไม่ยอมกลับไปกับซีวอนอยู่นั่นเอง

         “ผมไม่กลับกับพี่ซีวอนนะ”เสียงหวานกล่าวขึ้น เรียกให้ใบหน้าหล่อเหลาถึงกับบึ้งตึงเลยทีเดียว

         “ทำไม”ซีวอนถาม คล้ายจะไม่พอใจ

         “ง่ายๆ ก็ผมไม่อยากไปกับพี่ซีวอน ชัดมั้ยฮะ”เด็กหนุ่มพูดพร้อมกอดอก จริงอยู่ว่าตอนนี้เขาเป็นผู้บริสุทธิ์หลังจากที่ได้รับรู้ความจริง แต่ว่า...แค่อยากจะแกล้งบ้างเท่านั้นเอง

         “คยู...อย่างอแงสิครับ”ชายหนุ่มเริ่มเข้าหาด้วยไม้นวม เพราะเริ่มรู้แกวก่อนส่งซิกไปหาคนเป็นพ่อ

         “นั่นสิหนูคยู ไหนๆ หนูก็หายโกรธมันแล้วไม่ใช่หรือ ไปกับเจ้าวอนมันเถอะมันจะลงแดงตายเอานะถ้าไม่ได้หนูกลับไปอยู่ด้วยน่ะ”ยองอุนช่วยลูกชายตัวเองเต็มที่

         “แต่ว่า...”เสียงหวานเริ่มแผ่วเมื่อผู้เป็นพ่อสามีมาช่วยพูด ทำเอาเด็กหนุ่มแกล้งไม่ออกเพราะเกรงใจผู้ใหญ่

         “นั่นสิคยู พี่ว่าพี่ซีวอนคงจะสำนึกผิดแล้วล่ะ”ดงเฮบอกพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ คยูฮยอน ใบหน้าหวานโน้มลงกระซิบกระซาบ

         “พี่ว่านะ ถ้าไปอยู่กับพี่ซีวอน เราอาจจะแกล้งเขาได้สะใจมากกว่านี้ก็เป็นได้นะ”คยูฮยอนตาโต พร้อมกับคิดตาม

         “จริงด้วยสิฮะ ขอบคุณนะฮะพี่ดงเฮ”ร่างบางกล่าวพร้อมยิ้มกว้าง ท่ามกลางความสงสัยของทุกคน

         “งั้นผมจะกลับกับพี่ซีวอนแล้วกันนะฮะ”เสียงหวานว่าพร้อมกับเดินไปเปิดประตู ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ และเมื่อเห็นซีวอนยังยืนนิ่งอึ้งก็เอ่ยเสียงดุเรียก

         “ตกลงจะไปไหมฮะพี่ซีวอน เดี๋ยวผมก็เปลี่ยนใจซะหรอก”เสียงหวานแหวใส่ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัว

         “งั้นผมกลับก่อนนะครับ”ซีวอนบอกลาผู้ใหญ่

         “ผมไปแล้วนะฮะ”ร่างบางกล่าวตามพร้อมบอกลา

         “ไปดีมาดีนะลูก”ฮีชอลกล่าวอำลาลูกชาย คยูฮยอนส่งยิ้มกว้างให้ผู้เป็นบิดา

         “ฮะ คุณพ่อ”แล้วประตูก็ปิดลง ซีวอนออกรถไปอย่างนุ่มนวล

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         วันนี้เป็นวันแรกที่ซีวอนตื่นเต้นมากเพราะเป็นวันที่คยูฮยอนได้กลับไปอยู่กับเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มเองก็พอจะรู้เลาๆ ว่าคยูฮยอนยังเคืองๆ เขาอยู่ ตลอดทางจึงได้แต่นั่งเงียบ แม้ตาจะเหลือบไปมองร่างเล็กของภรรยาบ้างเป็นบางครั้ง แต่ก็ยังเห็นเด็กหนุ่มนั่งหน้าตรงทอดสายตาออกไปข้างนอกตลอดเวลา

         “คยูฮยอน...”เสียงทุ้มเรียกเบาๆ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ร่างบางหันมามองเขาอีกครั้ง

         “ฮะ?”เสียงใสตอบรับ แต่หากใบหน้าก็ไม่ได้หันมามองเขาเลย ซีวอนนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนเอ่ยถาม...

         “นาย...รู้สึกยังไงที่ได้กลับมาอยู่กับฉันอีกครั้ง”เสียงทุ้มถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก ก่อนจะค่อยๆ ชะลอความเร็วของรถแล้วจอดในที่สุด บรรยากาศในตอนกลางคืนมีแสงสีประดับสวยงาม ชายหนุ่มจอดรอไว้แถวๆ ใกล้ๆ ริมแม่น้ำฮัน

         คยูฮยอนมองคนข้างๆ อย่างงุนงง ก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินออกไปสูดอากาศข้างแม่น้ำ โดยมีซีวอนที่เดินตามมา มือหนาจับเสื้อสูทของเขาก่อนสวมให้ร่างบาง เพราะอากาศตอนกลางคืนนี้ก็เย็นอยู่ไม่น้อย กลัวว่าคนตัวเล็กจะไม่สบายเอา ยิ่งตอนนี้ยังอุ้มท้องลูกของ 'เรา' ไว้อีกด้วย ทำให้เขาต้องดูแลเพิ่มเป็นหลายเท่า แม้จะอยากลำบากแค่ไหน แต่เขาก็เต็มใจที่จะทำเสมอ...

         ขณะนี้สองร่างตระกองกอดกันพลางมองภาพวิวทิวทัศน์ตรงหน้า ร่างบางซบศีรษะลงที่อกกว้างของชายหนุ่ม ก่อนรับเอาไออุ่นของเขาเข้ามาเต็มที่

          “ผมดีใจฮะ ที่จะได้กลับไปอยู่ 'บ้าน' ของเราอีกครั้ง”เสียงหวานใสกล่าว ก่อนจะใช้แขนเล็กโอบเอวของร่างสูง

          หลังจากที่ซีวอนได้ยินคำตอบก็ชื่นใจยิ่งนัก เพราะเขาคิดว่าคยูฮยอนคงไม่ค่อยอยากจะกลับมาอยู่ด้วยเท่าไหร่นัก แต่เพียงได้ยินคำว่า 'บ้านของเรา' หัวใจของเขาก็พองโตเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เพียงแค่นั้นก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว

         “แล้วนายให้อภัยฉันแล้วรึยัง”ซีวอนถามอีกครั้ง พร้อมกับก้มลงจูบที่หน้าผากภรรยาอย่างรักใคร่

         “ถ้าไม่ให้อภัย แล้วผมจะกลับมาอยู่กับพี่ซีวอนเหรอฮะ ป่านนี้คงหนีไปสุดขอบโลกแล้ว”คยูฮยอนตอบกลับ ก่อนจะย่นจมูกใส่อย่างน่าเอ็นดู

         ซีวอนยิ้มกว้างพร้อมกับกอดคนตัวเล็กแน่นด้วยความดีใจอย่างที่สุด ตอนนี้เขากล้าสาบานได้เลยว่า นอกจากความรักของเขาที่ยกให้คยูฮยอนไปหมดแล้วชีวิตทั้งชีวิตของเขา หรือแม้แต่ลมหายใจเขาก็มอบให้ได้ เพราะว่าสำหรับเขาแล้ว คยูฮยอนก็เหมือนกับอากาศ ที่เขาจะขาดไม่ได้เลยสักวินาทีเดียว

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         หลังจากที่คยูฮยอนกลับมาพักอยู่ที่คอนโด ซีวอนก็คอยดูแลร่างบางอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่ายุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยทีเดียว และตอนนี้ก็เหลืออีกแค่เดือนเดียวเท่านั้นที่จะครบกำหนดคลอด ซึ่งหนึ่งในชื่อที่ซีวอยกับคยูฮยอนเคยเตรียมไว้ก็ได้ใช้สักที แต่คราวนี้คงจะมีแค่ 'ซูโฮ' ออกมาก่อนล่ะน่ะ

         และตอนนี้ซีวอนก็เกิดอาการเห่อลูกอย่างรุนแรง เพราะชายหนุ่มเล่นของใช้สำหรับเด็กมาตุนไว้เพียบ ทั้งเสื้อผ้าเด็ก เปลเด็ก ทั้งของเล่นของใช้ต่างๆ แล้วก็ยกห้องเก่าของเด็กหนุ่มให้ลูกไปแล้วด้วย คราวนี้ร่างบางก็เลยต้องย้ายไปนอนห้องสามีแทน

         คยูฮยอนมองออกไปนอกกระจกอย่างเหม่อลอย สายตาทอดออกไปไกลก่อนที่มือสวยจะเปิดประตูกระจกออก แล้วเดินไปยืนตรงระเบียง จมูกโด่งสูดรับอากาศบริสุทธิ์เข้ามาเต็มปอด สายลมเย็นพัดมาทำให้เส้นผมปลิวไสวเบาๆ ก่อนที่จะตัวจะสะดุ้งเมื่อมีอ้อมแขนมากอดรัดจากทางด้านหลัง

         “ทำอะไรอยู่ครับ”เสียงทุ้มของสามีถามเบาที่ข้างหู ก่อนจะจุมพิตที่แก้มนวลอย่างถนุถนอม ฝ่ามือลูบเบาๆ ที่ท้องนูนของภรรยา

         แม้ว่าคยูฮยอนจะอุ้มลูกของเขาอยู่ แต่ท้องกลับนูนออกมาเพียงนิดเดียวคงเป็นเพราะเป็นท้องแรก แต่ผิวพรรณของภรรยากลับเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลทำให้เขาอดใจไม่ไหวอยู่ร่ำไป แต่ก็ต้องอดทนไว้เพราะไม่อยากทำอะไรที่เป็นการกระทบกระเทือนลูกน้อยของเขานัก

         “ผมกำลังคิดถึงวันเก่าๆ อยู่ฮะ”เสียงหวานตอบ เด็กหนุ่มรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของคนที่รัก มือบางวางไว้บนมือหนาของซีวอน

         “วันเก่าๆ”ซีวอนทวนคำ ก่อนขมวดคิ้วอย่างงงๆ

         คยูฮยอนไม่ตอบอะไร ทำได้เพียงแค่ยิ้มน้อยๆ พลางนึกถึงวันแรกที่มาอยู่ที่นี่ ภาพแรกคือฮันคยองที่มารับ และพามาส่งพร้อมกับแนะนำซีวอนให้รู้จัก ตอนนั้นเด็กหนุ่มกลัวซีวอนมากๆ แต่ไม่นานหลังจากที่แต่งงานกันเงียบๆ เด็กหนุ่มก็สนิทกับเขามากขึ้น และตกหลุมรักเขาอย่างไม่รู้ตัว

         และเพียงไม่นานซีวอนก็เปิดใจให้ร่างเพรียวได้เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของเขา แล้วก็ตกเป็นของซีวอนทั้งตัวและหัวใจ จนกระทั่งเกิดเรื่องวุ่นวายเมื่อมีซูยอนมาแทรกกลางระหว่างซีวอนกับคยูฮยอน ทำให้ร่างบางถึงกับหอบผ้าหอบผ่อนหนีซีวอนเลยทีเดียว แต่สุดท้ายทุกอย่างก็คลี่คลายเมื่อรู้ความจริงทั้งหมด

         และความจริงอีกอย่างหนึ่งที่ทำเอาช็อคตั้งตัวไม่ติดก็คือฮีชอลเป็นพ่อแท้ๆ ของร่างบาง แต่เรื่องทีน่าดีใจที่สุดคือ เด็กหนุ่มได้ตั้งท้องลูกของตัวเองและซีวอนผู้ชายที่รักมากที่สุด ผู้ชายที่รักและสาบานว่าจะดูแลคยูฮยอนไปตลอดชีวิต เพียงแค่คิด ร่างบางก็กระชับมือที่กุมมากขึ้น

         “ผมรักพี่ซีวอนนะ”เสียงหวานบอก ซีวอนหัวใจพองโต เพราะไม่กี่ครั้งที่คยูฮยอนบอกรักเขา ชายหนุ่มกระชับอ้อมแขนแกร่งมากขึ้น

         “ฉันก็รักนาย หัวใจของฉัน...”เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหู ก่อนจูบเบาๆ ที่แก้มนวล

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         “โอ๊ย...พี่ซีวอน”เสียงหวานร้องเรียก ซีวอนที่นอนอยู่ข้างๆ ถึงกับสะดุ้งตื่นทันที

         “คยูฮยอน เป็นอะไรครับ”ชายหนุ่มถามอย่างเป็นกังวล ก่อนเอื้อมมือไปเปิดไฟตรงหัวเตียง

         “ผม...เจ็บท้อง...”ร่างบางพูดพร้อมกุมท้องอย่างทรมาน

         ซีวอนมองคยูฮยอนอย่างตระหนกก่อนควบคุมสติ เขารีบกดโทรหาโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะช้อนตัวร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ใบหน้าหวานมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมากมาย ยิ่งมอกชายหนุ่มก็ยิ่งหน้าซีด แต่เขาจะลนลานไม่ได้เด็ดขาด เมื่อช้อนตัวเขาก็เดินไปที่ลิฟต์ทันที ชายหนุ่มลงลิฟต์อย่างร้อนใจ ในอ้อมแขนมีร่างของคยูฮยอนที่บิดตัวอย่างทรมาณ

         ทันทีที่ซีวอนเดินมาถึงด้านนอก รถพยาบาลก็มารอรับทันที ซีวอนวางคยูฮยอนลงบนเตียงนอน แล้วขึ้นไปบนรถพยาบาลด้วยกัน ตลอดทางจากคอนโดจนถึงโรงพยาบาลคยูฮยอนกุมมือเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ชายหนุ่มมองดูใบหน้าขาวซีดอย่างเป็นห่วง ตอนนี้ใบหน้าของคยูฮยอนขาวซีดยิ่งกว่ากระดาษ ทำให้เขารู้สึกใจคอไม่ดี พอถึงโรงพยาบาลหมอก็มารอรับ พร้อมสั่งการอย่างเชี่ยวชาญ

         “คนไข้น้ำเดินแล้ว เอาเข้าห้องคลอดด่วนเลย”คุณหมอสั่ง ซีวอนฟังแล้วยังงง ก่อนแย้ง

         “คลอดเหรอครับ แต่อีกตั้งเดือนกว่าจะครบกำหนด”

         “ค่ะ อาจจะคลอดก่อนกำหนด ถ้าไม่รีบทำคลอด อาจเป็นอันตรายได้ทั้งแม่ทั้งลูก”พูดเสร็จก็เดินเข้าห้องคลอดตามไป

         ซีวอนยืนมองอยู่หน้าห้อง นัยน์ตามองตามเข้าไปอย่างเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับคยูฮยอนและลูกของเขา

         หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ชายหนุ่มเริ่มนั่งไม่ติด เพราะคยูฮยอนเข้าไปแล้วตั้งนานแต่ยังไม่มีวี่แววอะไรเลย ร่างสูงเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้อง จนกระทั่งครอบครัวของเขาและคยูฮยอนเดินทางมาถึง

         “ได้ยินว่าคยูจะคลอดแล้ว”ฮีชอลถามอย่างตื่นเต้น

         “ครับ”ซีวอนตอบอย่างร้อนใจ

         “แต่คลอดก่อนกำหนดเหรอฮะ”ดงเฮถามอย่างสงสัย

         ซีวอนจึงพยักหน้าเป็นการตอบแทน แล้วคุณหมอก็เดินออกมาจากห้อง ซีวอนจึงปรี่เข้าไปถามเป็นคนแรก

         “ภรรยาผมเขาเป็นยังไงบ้างครับ”ชายหนุ่มถามอย่างร้อนรน

         “ยังไม่คลอดค่ะ แต่เด็กกลับหัวแล้ว ตอนนี้เราอยากให้คุณพ่อเข้าไปเป็นกำลังใจหน่อย”คุณหมอบอก

         ซีวอนมองหน้าทุกคน ก่อนพยักหน้าตกลง แล้วเขาก็เดินเข้าไปยังห้องคลอด ชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าทำความสะอาดร่างกายก่อนเดินเข้าไป เขาเห็นคยูฮยอนนอนอยู่ เด็กหนุ่มหอบหายใจแรง ชายหนุ่มรีบเข้าไปจับมือให้กำลังใจ

         “คยู ฉันเอง”ซีวอนก้มลงกระซิบ

         “พี่...ซีวอน...”คยูฮยอนลืมตาขึ้น เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บเจียนตายในตอนนี้ แต่เมื่อเห็นหน้าของซีวอนแล้ว เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บน้อยลงไปมาก

         “เอาล่ะค่ะคุณแม่ ตอนนี้เด็กกลับหัวแล้ว เบ่งอีกนิดนะคะ”คุณหมอบอก (*ขออนุญาติบรรยายการคลอดแบบผู้หญิงเลยนะคะ*)

         “อื๊ดดดดดด”คยูฮยอนออกแรงเบ่ง ซีวอนรู้สึกเหมือนความเจ็บปวดของคยูฮยอนถูกถ่ายทอดมายังเขาโดยตรง ก่อนจะกระชับมือแน่นเป็นกำลังใจ

         “ใกล้แล้วค่ะคุณแม่ อีกนิดเดียวค่ะ เบ่งสุดแรงเลยนะคะ เอ้า!”คุณหมอบอกเมื่อเริ่มเห็นหัวเด็กแล้ว

         “อื๊ดดดดดดด อ๊ากกกกกกก!!!”คยูฮยอนออกแรงเบ่งสุดแรงเท่าที่มีจนหมด ซีวอนรู้สึกว่าการคลอดลูกมันทรมานแบบนี้นี่เอง คยูฮยอนนอนลงอย่างหมดแรงเมื่อความเจ็บปวดเจียนตายเฮือกสุดท้ายถูกส่งออกมา

        “อุแว้ อุแว้”เสียงของเด็กทารกร้องดังจ้า คุณหมอรีบเอาผ้าสะอาดมาห่อเด็กทารกไว้

        “ดีใจด้วยค่ะคุณแม่ ได้ลูกชายค่ะ”คุณหมออุ้มเด็กทารกตัวแดงมาให้คุณแม่มือใหม่

        คยูฮยอนรับลูกน้อยมาอยู่ในอ้อมอก ใบหน้าของเด็กหนุ่มแม้จะซีดเซียวแต่ก็เต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองซีวอน ซีวอนส่งยิ้มให้คยูฮยอนที่เต็มไปด้วยความรัก

         “เก่งมากครับคนดี เห็นไหม...ลูกชายของเรา”ซีวอนพูดอย่างปลาบปลื้ม น้ำตาไหลออกมาด้วยความยินดีอย่างที่สุด

         หลังจากนั้นคุณหมอก็ส่งคยูฮยอนไปพักที่ห้อง โดยมีซีวอนคอยดูแลไม่ห่าง

         ชายหนุ่มนั่งมองใบหน้าหวานแต่ซีดเซียวของภรรยาที่กำลังหลับปุ๋ยหลังจากต้องเผชิญความเจ็บปวดเจียนตาย แต่ร่างบางก็คลอดลูกชายของเราออกมาให้ได้ชื่นชม ลูกชายที่เปรียบเสมือนของขวัญแห่งความรักที่เขาสู้บ่มเพราะมา คราวนี้ชื่อซูโฮก็จะได้ใช้เสียที

         “พี่ซีวอน...”เสียงหวานครางออกมาเบาๆ เรียกให้ซีวอนหันไปมอง

         “หลับเถอะคนดี หลับให้สบายนะครับ”ซีวอนก้มลงกระซิบที่ข้างหู ก่อนคลุมผ้าห่มจนถึงคอของร่างบาง นัยน์ตาคมมองร่างบางที่นอนอยู่ตรงหน้าอย่างอ่อนโยน สายตาที่มองเปี่ยมไปด้วยความรักและความอบอุ่น

         หลังจากที่คลอดได้ไม่นานทุกคนก็แห่แหนกันมาเยี่ยมไม่ขาดสาย ตั้งแต่พ่อสื่ออย่างฮันคยองที่ทำให้เด็กหนุ่มได้พบกับซีวอน พี่ชายคนสวยอย่างฮยอกแจ ดงเฮ คิบอม และครอบครัวชเวกับครอบครัวคิมที่มาเยี่ยมกันพร้อมเพียง พร้อมกับยลโฉมเจ้าหนูน้อยซูโฮ ที่ตอนนี้เป็นที่ถูกใจของปู่ย่าตายาย

         และก็เกิดเรื่องปวดหัวขึ้นอีกครั้งเมื่อยองอุนบอกให้คยูฮยอนกลับไปอยู่บ้านใหญ่ ทำให้ซีวอนฉุนกึกเพราะยังวางฟอร์มไม่อยากไปอยู่บ้านใหญ่ แต่ยองอุนก็หาข้ออ้างเรื่องต่างๆ นานาจนได้ และในที่สุดซีวอนก็ยอมแพ้ เพราะยอมต่อเรื่องความสะดวกสบาย ความปลอดภัย เรื่องพี่เลี้ยงเด็กและอีกเรื่องที่สำคัญคือ คยูฮยอนจะได้ไม่เหงายามต้องอยู่บ้านคนเดียว

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         4 ปีต่อมา

         “ซูโฮ...แม่บอกว่าอย่ากวนน้องไงลูก”เสียงหวานใสกล่าวดุๆ พอให้ลูกชายคนโตหยุดกวนน้องสาวที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ในเปล

         “ก็น้องโฮอยากมองหน้าน้องนี่ฮะคุณแม่”เสียงใสของเด็กชายซูโฮดังขึ้นเมื่อตัวเองเดินมานั่งข้างๆ มารดา

         คยูฮยอนที่ตอนนี้กลายเป็นคุณแม่ลูกสองกำได้แต่มองลูกชายคนแรกของตัวเองอย่างเอ็นดู ไม่รู้ว่าลูกคนนี้พูดเก่งเหมือนใคร ฝ่ามืออุ่นลูบผมลูกชายอย่างรักใคร่

         “แต่ถ้าน้องตื่นขึ้นมา เดี๋ยวน้องจะไม่สบายนะครับ”หญิงสาวบอกก่อนจะอุ้มเอาลูกชายตัวเองขึ้นมานั่งบนตัก รู้สึกว่ายิ่งซูโฮโตยิ่งเหมือนใครบางคน

         “ฮั่นแน่ งอแงอีกแล้วเหรอครับลูกพ่อ”ซีวอนที่เพิ่งทำงานเสร็จเดินเข้ามาหาคยูฮยอนที่ห้องลูก เมื่อซูโฮเห็นผู้เป็นพ่อกลับมาแล้ว ก็ถลาวิ่งเข้าไปหาทันที

         “คุณพ่อ!”ร่างจ้ำม้ำวิ่งเข้าหา ก่อนจะโดนกอดแล้วอุ้มขึ้น

         “ลูกใครหว่า ตัวหนักจังเลย”ซีวอนกล่าวติดตลก

         “พอเลยทั้งพ่อทั้งลูก เดี๋ยวน้องซูยองก็ตื่นหรอก”คยูฮยอนกล่าวเสียงดุ ก่อนมองดูลูกสาวคนเล็กที่ยังนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว

         ซีวอนกับซูโฮมองหน้ากันอย่างรู้กันว่าโดนอีกแล้ว จึงค่อยๆ เงียบ ซีวอนอุ้มซูโฮมาวางที่โซฟา และพี่เลี้ยงก็เดินเข้ามาในทันที

         “น้องโฮ มาเล่นกับพี่คริสตัลดีกว่าค่ะ”พี่เลี้ยงเข้ามาให้ ซีวอนขยิบตาให้อย่างรู้แก้ว ซูโฮจึงเดินออกไปกับพี่เลี้ยงทันที เมื่อเห็นว่าในห้องนี้ไม่มีใครแล้วซีวอนก็เริ่มเข้าไปกระแซะภรรยาทีละนิด

         “เป็นอะไรรึเปล่าฮะพี่ซีวอน”เสียงหวานถามเมื่อเห็นซีวอนเข้ามาใกล้จนชิด ชายหนุ่มวาดแขนมาโอบกอดร่างเล็กของภรรยา เขารู้สึกอยากให้คยูฮยอนดูอวบขึ้นกว่านี้จังเลย นี่ขนาดมีลูกสองคนแล้ว ยังดูผอมอยู่เลย แต่จะอ้วนจะผอมเขาก็รักอยู่ดีนั่นแหละ

         “อื้อ!”เสียงหวานร้องอย่างไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่เมื่อซีวอนกอดเด็กหนุ่มแน่นขึ้น

         “นี่ยังไม่อวบอีกเหรอฮะ น้ำหนักผมขึ้นตั้งห้ากิโลนะ”เสียงหวานแหวแต่ก็ปล่อยให้ชายหนุ่มกอดไปเรื่อยๆ

         “แค่ห้าต่างหาก เอาล่ะฉันคิดวิธีให้นายอวบขึ้นได้แล้ว”ชายหนุ่มพร้อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

         คยูฮยอนที่ถูกกระซิบถึงกับขนลุกซู่ นัยน์ตาสวยเริ่มมองหาตัวช่วย แต่ปรากฏว่าไม่มีใครในห้องเลย นอกจากเจ้าตัวเล็กที่หลับปุ๋ยในเปลสีชมพู

         “เฮ้ย!”เสียงหวานร้องลั่นเมื่ออยู่ดีๆ ร่างกายก็เบาหวืออย่างกะทันหัน รู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกอุ้มไปแล้วเรียบร้อย

         “พี่ซีวอนปล่อยผมลงนะ...พี่ซีวอน!”คยูฮยอนร้องเสียงดุ เมื่อชายหนุ่มไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยลง

         “เรื่องอะไรจะปล่อย ความจริงมีลูกหัวปีท้ายปีก็ใช่ว่าจะไม่ดีนะ ว่ามั้ยจ๊ะ”ซีวอนหยอดเสียงหวาน พร้อมกับอุ้มร่างเล็กตัวปลิวไปยังห้องนอน

         “พี่ซีวอนบ้า!

         แม้จะดุ แต่ใบหน้าหวานสวยกลับแดงเป็นลูกตำลึงสุก คราวนี้คงได้เตรียมชื่อลูกอีกแล้วสิ

     

    ...จบบริบูรณ์...

     

    +++++++++++++

    จบ! จบแล้วจ้า! ในที่สุดก็จบลงไปได้ด้วยดี ไรท์ต้องขอขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนด้วยนะคะที่ติดตามฟิคเรื่องนี้มาจนจบ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ที่เม้นท์ให้กันเสมอมา ขอบคุณทุกกำลังใจของรีดเดอร์ ขอบคุณที่คอยติดตามกันมาตลอด 1 ปี กับ 11 วัน ขอบคุณที่คอยตามทวงเสมอมา ขอบคุณรีดเดอร์ที่แอดฟิคเรื่องนี้ไว้ทั้ง 46 คน ขอบคุณจริงๆ ค่ะ เอาไว้เจอกันใหม่ในเรื่อง อลเวงวุ่นรักนะคะ บ๊ายบายค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×