ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic WonKyu] พิศวาส เสน่หา [END]

    ลำดับตอนที่ #20 : บทที่ 16

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 56


    บทที่ 16: แผนร้าย 2

     

     

     

     

     

     

         แม้จะโล่งใจไปเปลาะหนึ่งสำหรับเรื่องของซูยอน เพราะซีวอนบอกว่าไม่คิดอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเกินเพื่อนเลยแม้แต่น้อย เขาสารภาพว่าแต่ก่อนตอนสมัยเรียกนั้นเคยคบกันกับซูยอนจริง แต่ว่าหล่อนทิ้งเขาไปและเขาก็ตัดใจได้แล้ว หัวใจของเขาตอนนี้อยู่ที่คยูฮยอนหมดแล้ว

         ถึงแม้ซีวอนจะพูดแบบนั้น แต่ว่าจะมีใครล่วงรู้ถึงความในใจของซูยอน ทั้งท่าทางที่แสดงออกขนาดนั้น เป็นใครก็ต้องคิด แม้แต่ตัวของคยูฮยอนเอง

         หมับ!

         “เฮ้ย!”เสียงใสร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีมือของใครบางคนคว้าเข้าที่เอวหมับ ทำเอาตกใจจนขวัญหาย

         “โอ๋ๆ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะ”ซีวอนปลอบด้วยการลูบศรีษะของคยูฮยอนเล่นเบาๆ ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู

         “เป็นอะไรไป ยังโกรธฉันอยู่อีกเหรอ”

         คยูฮยอนเอี้ยวหน้าหลบ แล้วสบตาตรงๆ ราวกับจะค้นหาความจริงว่าเขาไม่ได้หลงใหลไปกับซูยอน

         “หืม...”

         “เปล่าฮะ ผมแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง”เด็กหนุ่มว่าพร้อมหันไปมองท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ท้องฟ้าที่แปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมแดงยามตะวันใกล้ลับขอบฟ้า เหมือนกับความรู้สึกที่เป็นกังวลของเด็กหนุ่มในตอนนี้ไม่มีผิด

         ซีวอนเลิกคิ้วมองร่างเล็กในอ้อมแขนของตน ก่อนที่แขนแกร่งจะโอบกระชับแน่นเข้าไปอีก จมูกสูดกลิ่นหอมของเรือนผมบางเบา

         “คิดมากไม่ได้นะ ถ้าเครียดแล้วจะมีลูกยาก

         คยูฮยอนหลุดออกจากห้วงความคิดของตัวเองทันที เมื่อได้ยินคำพูดชวนสยิวของสามีเข้า จึงฟาดมือลงที่แขนแก้เขิน

         “บ้า พูดออกมาได้ยังไงเนี่ย”

         “จริงๆ นะ ฉันอ่านมาว่า ถ้าเครียดมากๆ มันจะทำให้มีลูกยาก”

         “ผมตอบตกลงเมื่อไหร่กันฮะ ว่าจะยอมเป็นแม่พันธุ์ให้”ร่างบางค้อนพร้อมบิดตัวออกจากอ้อมกอดนั้น แต่ทว่าซีวอนกลับกอดแน่นขึ้นไปอีก

         “นายยอมตั้งแต่วันแรกที่เป็นของฉันแล้ว”เสียงทุ้มดังขึ้นข้างๆ หูของคยูฮยอน เรียกให้ใบหน้าสวยแดงซ่านขึ้นในทันที สร้างความพอใจให้แก่เจ้าของร่างสูงยิ่งนัก ที่สามารถแกล้งให้คนรักอายจนหน้าแดงได้ขนาดนี้

         “จริงๆ นะ ฉันคิดชื่อไว้แล้วด้วย ถ้าเป็นผู้ชายซูโฮ เป็นผู้หญิงจะให้ชื่อซูยอง”ซีวอนพูดอย่างมีความสุข

         ใบหน้าสวยหันกลับมามองอย่างงุนงง

         “ทำไมต้องมีแต่คำว่าซูด้วยละฮะ”

         “ก็ ตัว ซ. มาจากชื่อซีวอนของฉัน ส่วน สระอู ก็มาจากคยูชื่อของนายไง”ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแจ๋วอย่างภาคภูมิใจ หลังจากนั่งคิดชื่ออยู่นาน

         “อืม...ก็ดีนะฮะ ซูโฮกับซูยอง แล้วอย่างนี้จะไม่งงเหรอฮะ ชื่อลูกคล้ายกันแบบนี้”คยูฮยอนถามอย่างลืมตัว

         “ฮั่นแน่ อยากมีสองคนก็ไม่บอก ไม่เป็นไรเดี๋ยวจัดให้เป็นทีมฟุตบอลเลย”ชายหนุ่มพูดหน้าทะเล้นสีหน้าเจ้าเล่ห์เป็นที่สุด

         “บ้า! ขนาดนั้นไม่ไหวหรอก”แล้วมือบางก็หยิกเหน็บไปที่เอวของสามีอย่างเขินๆ

         “เวลานายเขินนี่ รู้ไหมว่าฉันต้องเจ็บตัวอยู่เรื่อยเลย”ซีวอนตัดพ้อ คยูฮยอนหัวเราะกิ๊กกับคำพ้อของสามี อีกทั้งหน้าตาชวนสงสาร

         “ก็อย่าทำให้ผมเขินมากสิฮะ”เสียงใสบอก

         “ไม่ล่ะ ต่อให้นายหยิกฉันไปทั้งตัวก็ยอม แต่ตอนนี้ขอลูกคนแรกก่อนแล้วกันนะ”ด้วยความเร็ว พูดจบก็ช้อนร่างบางขึ้นมา แม้จะมีเสียงท้วงบ้างแต่ไม่นานเสียงนั้นก็เงียบลง เหลือแต่เสียงครวญครางที่ดังลอดออกมานอกห้องที่อบอวลด้วยความสุข

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         “เป็นอะไรวะไอ้วอน นั่งยิ้มหน้าบานตั้งแต่อยู่ในห้องประชุมจนตอนนี้มานั่งในห้องทำงานแล้วยังไม่หยุด สงสัยอาการจะหนักนะเนี่ย

         เสียงของเพื่อนตัวแสบดังขึ้น เมื่อเขาถูกซีวอนขอร้องให้มาช่วยทำงานเป็นเลขาแทนยูริที่ไปทำงานไกลถึงฝรั่งเศส ฮันคยองนั่งมองดูซีวอนที่ยิ้มไม่หุบสักที ก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อเจอคำถามของซีวอนเข้า

         “ฮัน แกว่าฉันมีลูกตอนไหนดีวะ”

         “เฮ้ย นี่คิดเรื่องลูกแล้วเหรอวะ”ฮันคยองถามตาโต เพราะไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะถึงขั้นนั้นแล้ว นี่คยูฮยอนคงจะทำให้ซีวอนหลงจนโงหัวไม่ขึ้นจริงๆ ถึงขั้นคิดจะมีลูก

         “ฉันว่าถ้ารอคยูครบยี่สิบคงลงแดงตายแน่ๆ เลย อาทิตย์หน้าว่าจะพาไปตรวจที่โรงพยาบาล”

         “อาการหนักจริงๆ แกพูดอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วเมียแกยอมเป็นแม่พันธ์แล้วเหรอวะ”ฮันคยองย้อนถาม ซีวอนยิ้มกริ่มขึ้นมาในทันที

         “ตั้งชื่อลูกแล้วด้วย ถ้าเป็นผู้ชายให้ชื่อซูโฮ ผู้หญิงก็ชื่อซูยอง”

         “ใครเหรอคะ ซูโฮกับซูยอง ชื่อเพราะจัง”เสียงแหลมของซูยอนดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองหันไปมองตรงหน้าประตูอย่างตกใจ หญิงสาวในชุดเดรสเกาะอกโชว์สัดส่วนเต็มที่ยิ้มหวานให้คนทั้งคู่ ก่อนจะเดินไปนั่งตรงโซฟารับแขก

         ซีวอนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จนฮันคยองรู้สึกหมั่นไส้ที่ซีวอนมักมีหญิงสาวมารายล้อม(?) ขนาดมีเมียแล้วก็ยังไม่เว้น จึงตอบกลับไป

         “ชื่อลูกของเจ้าวอนมันนะ”

         ซูยอนตกใจตาโต รู้สึกริษยาคยูฮยอนขึ้นมาในทันทีที่จะมีลูกให้ซีวอน

         “แต่ยังไม่ท้อง”ฮันคยองเฉลยตอนหลัง ก่อนจะมองซีวอนที่ทำให้หนักใจประมาณว่างานเข้าแล้วไหมล่ะ

         “ดีใจด้วยนะคะวอน แหม...อย่างนี้เจสก็ได้เป็นอาแล้วสิคะเนี่ย”หญิงสาวจีบปากจีบคอแสร้งยิ้ม ทั้งที่ในใจแล้วแทบจะระเบิดเป็นจุณด้วยความริษยา ยังไงก็ตามครั้งนี้เธอกลับมาเพื่อทวงซีวอนมาเป็นของเธอ ผู้หญิง(?)หน้าไหนก็ไม่มีทางเอาชนะเธอได้ แม้แต่เมียของเขาอย่างคยูฮยอนก็ตาม คิดแล้วก็อยากจะไปฉีกอกนังเมียเด็กนั่น ที่ทำให้ซีวอนหันมามองเธอบาง ทั้งที่ตัวเธอเองก็มีทุกอย่างที่แทบจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ

         “แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่เหรอครับ”ซีวอนถาม

         “แหม...ถามเหมือนไม่อยากให้เจสมาที่นี่เลยนะคะ ความจริงนี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว ว่าจะชวนไปทานข้าวเที่ยงนะคะ”ใช่...เธอจ้างปาปารัสซี่ไว้แล้วด้วย งานนี้ยังไงก็ห้ามพลาดเด็ดขาด

         ซีวอนหันไปมองเพื่อนอย่างขอความช่วยเหลือ ฮันคยองก็ทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน จึงได้แต่พยักหน้า

         “นะคะ...”เสียงหวานอ้อน

         “กะ...ก็ได้ครับ”ซีวอนตอบอย่างลำบากใจ แล้วยิ้มแห้งๆ

         ซูยอนยิ้มแก้มปริ คราวนี้ข่าวของเธอคงดังกระจายชั่วข้ามคืนแน่ๆ และก็จะทำให้คยูฮยอนหึงหวนจนถึงขั้นแตกหัก คราวนี้ซีวอนก็จะได้เป็นของเธอเสียที ตอนแรกก็กะว่าจะใช้เวลานานหน่อย แต่ผัวเก่าดันฟ้องหย่าเธอ เงินของซีวอนเท่านั้นที่จะช่วยเธอได้

     

    +++++ พิศวาส เสน่หส +++++

     

         ด้านคยูฮยอนหลังจากที่ฟังครูประจำวิชาอธิบายเสร็จเกี่ยวกับเพลงที่เรียนก็ลงมือเล่น แม้จะทีเล่นทีจริงก็ยังคงได้รับคำชมจากคุณครูอยู่เสมอ และด้วยความน่ารัก นิสัยดีของเด็กหนุ่มจึงเป็นที่รักของเพื่อนและครูทุกคน รวมทั้งเยซองทีเทียวมาดูแลอย่างใกล้ชิด แม้ว่าเขาจะสนิทชิดเชื้อกับนักศึกษาของที่นี่อยู่แล้ว แต่ใครเห็นก็อดอิจฉาไม่ได้ ที่เห็นร่างบางได้รับการดูแลดีขนาดนี้

         “อ้าว พี่เยซอง มายังไงฮะเนี่ย”คยูฮยอนทักอย่างสนิทสนม ก่อนจะลุกเดินเข้าไปหา

         นัยน์ตาคมมองร่างเล็กในชุดลำลองที่ดูสบายตา ในใจคิดอิจฉาที่คนตรงหน้ามีเจ้าของแล้ว แล้วเจ้าของของเด็กหนุ่มก็เป็นถึงเพื่อนรักของเขาอีก เยซองส่งยิ้มให้

         “ก็เดินมาดูเล่นแถวนี้แหละ แล้วเราล่ะ เป็นยังไงบ้าง”

         “ผมสบายดีฮะ เรียนง่ายขึ้น”เสียงใสว่า ก่อนจะหันไปมองเพื่อนในห้องเรียน

         “วันนี้เลิกเร็วด้วย”

         “จริงเหรอ นี่ก็เที่ยงแล้ว ไปทานข้าวกันไหม”เยซองเอ่ยปากชวนและทุกครั้งก็มักจะโดนปฏิเสธเสมอ แต่คราวนี้เขาก็เลยดักทางไว้ก่อน

         “อย่าบอกนะว่าไม่ว่าง คราวที่แล้วเราบอกเองว่าจะให้พี่เลี้ยงข้าวน่ะ”

         คยูฮยอนอมยิ้มให้กับคำพูดของเยซองที่ดูคล้ายกับซีวอนไม่มีผิด

         “ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ไปก็ไปสิฮะ ผมหิวจะแย่แล้ว”

         “ไปกัน”เยซองผายมือไปยังทางออก คยูฮยอนยิ้มให้ก่อนจะเดินนำออกไป

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         หลังจากที่เดินทางมาจนถึงห้าง SM ของซีวอน คยูฮยอนจึงชวนไปทานที่ร้านอารเกาหลี ร้านหนึ่งที่เด็กหนุ่มชอบมาทานกับซีวอนบ่อยๆ

         “คยูฮยอนชอบมาร้านนี้บ่อยเหรอ”เยซองถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางสนิทสนมของคยูฮยอนกับพนักงานเสิร์ฟของที่นี่

         “ฮะ ผมมาทานที่นี่บ่อย”เสียงใสตอบ ก่อนจะก้มลงสั่งอาหารจานโปรดก็คือข้าวพัดพูลโกกิ ส่วนเยซองก็สั่งต็อกโบกี ก่อนทั้งคู่จะหันมาคุยกัน

         “ครั้งแรกเลยสินะที่ได้มาทานด้วยกัน”เยซองพูดขึ้นลอยๆ ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้

         ใบหน้าสวยขยับยิ้มบางๆ

          “ฮะ”

          “ก็นายชอบปฏิเสธพี่อยู่เรื่อย”ชายหนุ่มตัดพ้อ

          “แต่พี่ก็หาสาวทานแทนได้ไม่ใช่เหรอฮะ”เสียงใสพูดแหย่ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มหน้าเจื่อนลงนิดๆ

          “ก็แหม...”เยซองเกาท้ายทอยอย่างเขินๆ เมื่อโดนจับได้ ก่อนจะเบี่ยงเบนประเด็นเมื่อเห็นว่าอาหารมาพร้อมแล้ว ทั้งคู่จึงลงมือทานอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะแย่งกันจ่ายเงิน โดยชายหนุ่มสุภาพบุรุษอย่างเยซองมีหรือจะยอมให้เด็กหนุ่มน่ารักอย่างคยูฮยอนจ่ายให้ จึงแย่งจ่ายก่อน

         หลังจากทานข้าวเสร็จทั้งคู่จึงเดินย่อยอาหารกันเล่น แต่เยซองขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน คยูฮยอนจึงเดินเล่นรออยู่ใกล้ๆ ก่อนจะเห็นร่างหนาคล้ายซีวอนเมื่อเพ่งดูดีๆ ก็พบว่าเป็นเขาจริงๆ ด้วย คยูฮยอนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

         ((ยอบอเซโย ซีวอนพูดสายครับ)) เสียงทุ้มของซีวอนลอยมาตามสาย คยูฮยอนจึงกรอกเสียงตอบกลับ

         “พี่ซีวอน นี่คยูฮยอนเองนะ ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอฮะ”คยูฮยอนแกล้งถาม ปลายก็เงียบไปจนต้องถามซ้ำ ตาก็มองดูร่างสูงที่อยู่ในร้านอาหาร

         “ว่าไงฮะ”

         ((ฉันอยู่...เอ่อห้องประชุมน่ะ))

         คยูฮยอนรู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันทีที่ซีวอนโกหกตนเอง ทำไมต้องทำอย่างนั้นแต่ก็ได้คำตอบทันทีเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งของหญิงสาวสวยเซ็กซี่เดินตามมาสมทบ

         ซูยอน...

         คยูฮยอนรำพึงในใจมองตาไม่กะพริบ นี่หรือคือสิ่งที่ซีวอนจะต้องโกหกเด็กหนุ่ม

         “หระ...เหรอฮะ งั้นผมไม่กวนแล้ว”แล้วร่างบางก็ตัดสายทิ้งไปทันทีมองไปที่ร่างของคนสองคนที่นั่งคู่กัน

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         ซีวอนมองโทรศัพท์มือถืออย่างเป็นกังวลที่ต้องโกหกคยูฮยอนอย่างไม่สบายใจ แต่ก็ไม่อยากให้เด็กหนุ่มเป็นห่วงที่เขาออกมากับซูยอน

         “เป็นอะไรรึเปล่าคะซีวอน”เสียงหวานถาม เมื่อเห็นร่างสูงตรงหน้านั่งนิ่ง

         “เปล่าครับ”ซีวอนตอบทันที ก่อนจะเก็บมือถือไว้ในกระเป๋า

         “ดีจังเลยนะคะ เราไม่ได้ทานข้าวด้วยกันมานานมากแล้ว”ซูยอนยิ้มหวาน ช้อนตามองอย่างยั่วยวน ไม่ปิดบัง

         ซีวอนรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันทีเมื่อซูยอนเริ่มเบียดตัวเข้าหา ซูยอนเหลือบหันไปเห็นคยูฮยอนที่ยืนมองผ่านไหล่ของซีวอน จึงคิดอุบายร้ายขึ้นมา

         “อุ๊ย ซีวอนคะ อะไรเข้าตาเจสก็ไม่รู้ค่ะ”หญิงสาวขยับตัวออกห่าง ก่อนจะก้มกะพริบตาถี่ๆ ซีวอนหันไปมองอย่างเป็นห่วง

         “อะไรนะครับ”

         “สงสัยเป็นฝุ่นนะคะ ช่วยดูให้หน่อยสิคะ”ซูยอนเงยหน้าขึ้นกะพริบตาถี่ซีวอนหันหน้าเข้าหา ก่อนจะมองไปที่ตาสวยของเธอ ซูยอนวางมือลงที่ไหล่ของซีวอนเป็นจังหวะที่ปาปารัสซี่ที่จ้างมานั้นกดชัตเตอร์บลงทันที

         คยูฮยอนที่มองเห็นภาพนั้นทั้งหมดก็รู้สึกเสียใจที่เขาทำแบบนี้กับตนเอง ถ้าไม่เห็นกับตาเด็กหนุ่มก็คงไม่คิดอะไร แต่นี่...เขากล้าทำได้อย่างไร กล้าจูบกับผู้หญิงคนนั้นมันเป็นการหักหลังที่เจ็บปวดที่สุด คยูฮยอนเจ็บปวดที่หลงเชื่อใจเขา รู้ซึ้งก็วันนี้เอง...ที่แท้เขาก็หลอกให้ไว้ใจ ใช่เด็กหนุ่มเป็นของเล่นฆ่าเวลา รอจนกว่าซูยอนจะกลับมาสินะหลงโง่เง่าอยู่ตั้งนาน คิดว่าเขารัก แต่แท้จิงคยูฮยอนก็แค่คนโง่ที่ถูกเขาหลอก

         ใบหน้าสวยร้อนผ่าว โดยเฉพาะขอบตา ก่อนจะเดินหันหลังไป สวนทางกับเยซองที่เดินมาทันที ชายหนุ่มทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ดีๆ คยูฮยอนก็เดินไปอย่างรวดเร็ว จึงได้แต่เดินตาม

         ซูยอนเห็นคยูฮยอนหันหลังเดินออกไปก็รู้สึกสะใจที่แกล้งเด็กหนุ่มได้ ก่อนจะผละหน้าออกห่างจากซีวอน

         “เจสรู้สึกสบายขึ้นเยอะเลยคะ ขอบคุณนะคะซีวอน”ซูยอนยิ้มหวาน ส่วนซีวอนก็นั่งงงเพราะยังไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมต้องมาขอบคุณเขาด้วย ผิดกับซูยอนที่นั่งยิ้มระรื่นพอใจในผลงานของตัวเองที่คราวนี้คงจะได้ผลชะงัด

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         ซีวอนกลับมาถึงบ้านก็รู้สึกแปลกใจที่คยูฮยอนไม่เดินมาต้อนรับเขาอย่างเคย ห้องเงียบเหมือนไม่มีใครอยู่ ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทออก เพราะกว่าจะปลีกตัวออกมาจากซูยอนได้ก็ใช้เวลานานพอควร เขามองห้องที่เงียบผิดปกติก่อนจะเดินไปยังห้องนอน มือหนาเปิดประตูออก ภาพเบื้องหน้าคือร่างของคยูฮยอนที่นอนคุดคู้อยู่กลางเตียง

         เมื่อมองใกล้ๆ หัวใจของเขาก็กระตุกวูบ คราบน้ำตาเปรอะเปื้อนเต็มหมอนและใบหน้า ดูก็รู้ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก มือหนาวางลงที่ใบหน้าขาวซีดของคยูฮยอนอย่างแผ่วเบา แต่หากสัมผัสนั้นทำให้ตาสวยลืมโพลง นัยน์ตาที่เห็นนั้นแดงช้ำอย่างน่ากลัว แต่คำพูดนั้นกลับน่ากลัวยิ่งกว่า

         “อย่ามาจับฉัน!

         ซีวอนตกใจเมื่อเสียงใสตวาด ชักมือกลับทันที

         “เป็นอะไรไป”เสียงทุ้มถามอย่างห่วงใย สะดุดใจที่คำเรียกแทนตัวที่ผ่านๆ มาของคยูฮยอนเปลี่ยนไป

         “อย่ามาใกล้! คนโกหก!”คยูฮยอนว่าอย่างโกรธ ความเสียใจ น้อยใจทลายทำนบที่กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

         “อะไรนะ”ซีวอนเริ่มงุนงง

         “ฉันเกลียดคุณ! อย่าเข้ามาใกล้!!

         “นายเป็นอะไรน่ะคยูฮยอน!!”ซีวอนทนไม่ไหวก็พูดเสียงดังขึ้นมาบ้างไม่เข้าว่าคยูฮยอนหมายความว่าอะไร

         “ฉันน่ะเหรอ มีความหมายอะไรบ้าง...ทำไมต้องโกหก ฮึก...ว่าทำงานอยู่ทั้งๆ ที่อยู่กับคุณเจสสิก้า”แล้วร่างบางก็ระเบิดน้ำตาออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ความเสียใจถาโถมจนร่างบางสั่นเทา หอบสะอื้นจนตัวโยน

         ซีวอนรู้สึกเหมือนฟ้าผ่า ชาไปทั้งตัวเมื่อคยูฮยอนรู้เรื่องที่ตนโกหก ก่อนจะรีบแก้ตัว

         “มันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดนะ

         “ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเหรอ หึ...ฮึก...ฉันเห็นหมดแล้ว คุณเห็นฉันเป็นของเล่นรึไง รอเวลาแค่ให้แฟนเก่ากลับมาก็จะไล่ฉันไปใช่ไหม!”คยูฮยอนตวาดกลับทั้งสะอื้น ไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น

         “บ้าไปแล้ว!!

         “ใช่! ฉันมันบ้าที่ไปรักคุณ ฉันมันเด็กนี่ ฮึก...ไม่เหมือนคุณเจสสิก้า ฮือ...”

         “ไปกันใหญ่แล้วนะ”ซีวอนว่าพร้อมกับจับหัวไหล่ของคยูฮยอนอย่างแรง

         “ฟังที่ฉันพูดบ้างสิ”

         “ฟังคำพูดหลอกหลวงนะเหรอ ฮึก...คุณร้ายกาจมากนะ ทั้งที่เชื่อใจกันมาตลอด...ฮือ...แท้ๆ”คยูฮยอนใช้หลังมือเช็ดน้ำตา

         “ฮึก...แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ไม่คิดจริงๆ ว่าจะมีวันนี้ ฮือๆ...”

         “ทำไมไม่ฟังฉันบ้าง”ซีวอนเขย่าตัวคยูฮยอนอย่างแรง เสียใจที่คำพูดโกหกของเขาเพียงครั้งเดียวทำให้คยูฮยอนเข้าใจเขาผิดไปได้ขนาดนี้

         “พอแล้ว...พอกันที ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ ออกไป!”ร่างบางกรีดร้องก่อนจะซบลงที่ไหล่ของซีวอนอย่างหมดแรง ร่างกายสั่นสะท้าน ก่อนจะใช้มือที่มีแรงเพียงน้อยนิดดันเขาออกไปให้ห่าง

         ซีวอนถอยห่างออกไปโดยดี ลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงเบา

         “อารมณ์ดีแล้วค่อยคุยกัน”แล้วร่างสูงก็เดินจากไปทันที

         นัยน์ตาช้ำมองร่างสูงที่รักหมดใจเดินออกไป แต่ว่าหัวใจเด็กหนุ่มตอนนี้แทบไม่เหลือชิ้นดีแล้ว เนื้อร้ายแห่งความระแวงมีมากเกินกว่าจะฟังคำพูด ที่เขาอาจจะโกหกเด็กหนุ่มอีกครั้ง

         .

         .

         .

         .

         แล้วเสียงสะอื้น ร้องไห้ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เสียงที่ราวกับใบมีดที่กรีดลงกลางใจคนทั้งคู่

     

     

    +++++++++++

    และแล้วก็จบไปอีกตอนค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนาน ตอนแรกกะว่าจะให้จบภายในเดือนธันวา แต่ๆ ไปๆ มาๆ ไรท์ต้องขอเลื่อนวันจบออกไปอีกนะคะ แต่ไรท์สัญญาเลยคะว่าจะให้จบก่อนงานฟิควันที่ยี่สิบหกมกรานะคะ เอาล่ะวันนี้ไรท์มีเวลาไม่มากไรท์ขอตัวก่อนนะคะ แล้วเจอกันคะ บ๊ายบาย

     

    ปล.รีดเดอร์คนไหนที่ฟอลไรท์เตอร์ในทวิตเตอร์ช่วยบอกแอคเคาท์ทวิตหน่อยนะคะ ไรท์จะได้รู้ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×