ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิศวาส เสน่หา KrisHun ver. [END]

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.1K
      3
      24 ก.พ. 56

    บทที่ 4: เพราะว่าห่วงหรอก

     

     

     

     

        แม้จะเป็นช่วงความสุขเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ยิ่งใหญ่เท่าชีวิตของคริสที่เคยมีมาเลย เด็กหนุ่มตัวเล็กช่างขยันหารอยยิ้มมาประดับบนใบหน้าของเขาได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเด็กหนุ่มจะทำอะไรก็ตาม

        พี่คริสเสียงหวานเรียกร้องลั่น

        หลังจากใช้ชีวิตร่วมกันมาถึงสองสัปดาห์ ความสนิทก็ยิ่งเพิ่มดีกรีมากขึ้นเรื่อยๆ

        “อะไรละลูกแมวน้อย”เสียงงัวเงียดังขึ้น ก่อนจะใช้ฝ่ามือเสยผมที่ปรกหน้าขึ้นดวงคมเหลือบมองเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงปลายเตียงอย่างงุนงง เมื่อคืนเขาเพิ่งนอนตอนตีสามเองนะ แล้วนี่ก็เพิ่งจะ...

        “พี่จะนอนจนพระอาทิตย์ตั้งฉากเลยเหรอฮะ”เด็กหนุ่มถามแบบประชดประชัน

        คริสมองคนที่ใช้นามสกุลของตัวเองก่อนจะเบิกตาโต มือหนาตวัดเอาเจ้านาฬิกาปลุกที่เขาตั้งปลุกไว้ตอนเจ็ดโมงขึ้นมาดู และปรากฏว่ามันตายเข็มไม่เดินเลยตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง

        “อ่า...นาฬิกามันตาย”ว่าแล้วก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ

        เซฮุนทำแก้มป่องๆ เหมือนเด็กถูกขัดใจ ความจริงตั้งแต่วันนี้ไปเขาจะต้องไปสมัครเรียนแต่ห่วงคนที่นอนอุตุอยู่นี่แหละ ทำให้เขาไม่ได้ไป พลาดไปอีกหนึ่งที่

        ชายหนุ่มมองท่าทางคนตรงหน้าก็รู้ว่าเหมือนจะไปขัดใจเข้าสักอย่างแต่ก็เลือกเงียบไว้ดีกว่า ท่าทางของเด็กหนุ่มเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าหล่อๆ ได้อย่างสบายๆ เขารู้ตัวว่าเดี๋ยวนี้ยิ้มบ่อยจนคนทั้งบริษัทยังตกใจ แต่พอนึกถึงใบหน้าหวานๆ ของคนตัวเล็กทีไรก็อดยิ้มไม่ได้ทุกที จนเพื่อนตัวแสบยังอดแซวไม่ได้

        “พี่คริสไปอาบน้ำเถอะฮะ ผมเตรียมข้าวเที่ยงไว้ให้แล้ว”

        ชายหนุ่มมองคนที่สามารถ 'พี่' ได้อย่างสนิทปากโดยไม่มีอาการเก้อเขินเหมือนเมื่อก่อน แถมยังวางตัวดีเยี่ยมซะด้วย ดุได้เป็นดุ ยามจะยิ้มก็ยิ้มง่ายจนน่าก(อ)ดน่าจูบ จะว่าไปตั้งแต่พิธีแต่งงาน เขาก็ยังไม่เคยล่วงเกินเด็กหนุ่มแม้แต่ปลายก้อย อาจจะมีจับมือกันบ้าง ซึ่งดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มจะพอใจในชีวิตที่เป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ

        “ก็ได้ๆ เลิกทำหน้าบูดได้แล้ว”ชายหนุ่มลุกก่อนจะใช้มือดึงแก้มป่องๆนั้นอย่างมันเขี้ยว

        “หื้อ”เด็กหนุ่มร้องก่อนจะปัดมือเขาออก

        “รีบไปอาบน้ำเถอะฮะ ผมเหม็นจะแย่แล้ว”ว่าแล้วคนตัวเล็กก็วิ่งฉิวออกไปจากห้องของเขาอย่างรวดเร็ว

        “หลอกด่าจนได้นะ”ชายหนุ่มเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ

     

    ++++++ พิศวาส เสน่หา ++++++

     

        เซฮุนวิ่งออกมาจากห้องและนั่งจุมปุ๊กอยู่ตรงโซฟายาว ใบหน้าหวานขึ้นสีนิดๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจของตัวเองเบาๆ ความจริงเขาก็ไม่ต่างจากสาวๆ และหนุ่มหน้าหวานคนอื่นๆทั้งหลายที่ยามอยู่ใกล้ชายหนุ่มทีไรเป็นต้องลมหายใจติดขัด หน้าแดงเป็นลูกตำลึงอยู่เรื่อย แถมเดี๋ยวนี้ยังมีอาการใจเต้นแรงผิดปกติเข้ามาอีก คิดว่าถ้าวิ่งออกมาไม่ทันคริสคงจับความรู้สึกของเขาได้แน่ๆ

        นิ้วเรียวกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ จะว่าไปเขาก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหนเลยแฮะ แต่ถ้าคิดตามโปรแกรมแล้วละก็ วันนี้เขาต้องไปสมัครเรียน เฮ้อ..

        “ค่อยไปวันหลังก็ได้”เสียงหวานเอ่ยขึ้นเหมือนปลอบตัวเองเบาๆ

        แกร๊ก

        เสียงเปิดประตูออกมาเรียกให้เด็กหนุ่มต้องหันหน้าไปดู คนตัวสูงในชุดไปรเวทธรรมดา ที่ความหล่อไม่ได้ธรรมดาสักเท่าไหร่ ขายาวก้าวไปที่ห้องครัวอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้ท้องร้องระงมไปหมดแล้ว คาดว่าภายในห้านาทีถ้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องกระเพาะเขาต้องทะลุแน่ๆ

        เซฮุนเดินตามร่างสูงเข้าไปในครัว ก่อนจะจัดแจงส่งอาหารมื้อหนักไปให้ เป็นข้าวผัดกิมจิอย่างง่ายๆ มือบางถูกดึงให้นั่งลงข้างๆ

        “กินด้วยกันสิ”เสียงทุ้มเอ่ยชวนพร้อมตักขึ้นแล้วยื่นไปข้างหน้า

        “เอ่อ...ผมทานแล้วฮะ”เด็กหนุ่มพยายามปฏิเสธ ความจริงเขาไม่ชอบทานข้าวเที่ยง ยกเว้นจะเป็นพวกของว่าง และนั่นก็ทำให้ถูกดุอยู่บ่อยครั้ง

         “กินนมรสหวานของนายนะเหรอ แล้วมันจะอิ่มได้ยังไง”เขาดุ  เพราะรู้มาเหมือนกันว่าคนตัวเล็กไม่ชอบกินข้าวเที่ยงและข้าวเย็น มิน่าล่ะถึงได้ตัวเล็กขนาดนี้โดนลมพัดทีคงปลิว

         ใบหน้าหวานเบิกตากว้างเมื่อความลับของตัวเองถูกจับได้ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นหงอยๆ อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าหมดหนทางจึงต้องยอมให้ชายหนุ่มป้อนแต่โดยดี

         ทันทีที่อาหารถูกส่งเข้าปากไปแล้ว นัยน์ตาคมก็มองอย่างปลื้มๆ แม้ว่าคนตรงหน้าจะทำแก้มป่องเหมือนถูกขัดใจก็เถอะ แต่มองไปมองมาก็น่ารักเหมือนกัน

         “แล้ววันนี้พี่คริสจะไปไหนฮะ”เสียงหวานถาม เพราะเวลาเลยมาขนาดนี้แล้วจะเข้าไปบริษัทคงไม่ทัน

         “แล้วนายล่ะอยากไปไหนบ้าง”ชายหนุ่มไม่ตอบแต่ถามกลับ

         เซฮุนเลิ่กลั่กเมื่อโดนสายตาจ้องแบบคาดคั้น ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ และตอบตามความเป็นจริง

         “ผม...ความจริงวันนี้ผมจะไปสมัครเรียนนะฮะ”แล้วก็ยกหนังสือที่ถือติดมือมาด้วยยื่นให้คนตรงหน้าดู

         คริสรับหนังสือเล่มหนาตรงห้ามาไว้ในมือ หน้าปกเขียนไว้ว่า ‘EXO Music International Collage’ ก่อนจะพลิกไปดูเนื้อหาข้างใน พร้อมเพ่งมองสิ่งที่ถูกขีดเน้นทับด้วยปากกาเน้นคำก่อนจะอ่านออกเสียงดังๆ

         “สาขาเปียโน นายจะเรียนเหรอ”เขาถาม

         “ฮะ”

         ชายหนุ่มเลิกคิ้วหนาขึ้น จะว่าไปอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมนี้ก็คงจะอึดอัดแย่อยู่หรอก เขาคิดในใจ พร้อมกับปิดหนังสือในมือ เซฮุนพยายามทำใจดีสู้เสือ เพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะไม่อนุญาต

         “ก็เอาสิ ตามใจนายก็แล้วกัน แล้วจะไปสมัครวันไหนล่ะ”เขาถามอย่างซื่อๆหรือที่จริงแล้วคือแกล้งไม่รู้นั่นแหละ

         เซฮุนรู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันทีกับคำถามที่ถามตามมารยาทของคนตรงหน้า แกล้งโง่แน่ๆ เพราะวันหมดเขตรับสมัครมันก็เขียนไว้แล้วว่าวันนี้! แล้วก็ก่อนเที่ยงด้วย! แต่ดูเวลาตอนนี้สิ มันจะบ่ายสองอยู่แล้วนะ ไปสมัครยังไงถึงจะทันละ ยิ่งคิดก็ยิ่งจะอยากร้องไห้ออกมาดังๆ

         เมื่อชายหนุ่มเห็นสีหน้าอยากร้องไห้ของภรรยาก็ยกเลิกการแกล้งโดยทันที เพราะธรรมชาติของผู้ชายอย่างเขานี่แพ้น้ำตาโดยแท้

         “ฉันขอโทษๆ อย่าเพิ่งร้องไห้สิ”เสียงทุ้มเอ่ยขอโทษอย่างง่ายดาย ก่อนจะใช้ฝ่ามือหนาลูบผมนุ่มนั้นเบาๆ ชักจะทำตัวไม่ถูกแล้วนะเนี่ย

         “ก็เพราะใครละฮะที่ทำให้ผมไม่ได้ไปสมัครเนี่ย ถ้าไม่ห่วงก็คงไม่อยู่เฝ้าจนเลยเวลาอย่างนี้หรอกฮะ”เด็กหนุ่มเผลอตอบตามความในใจ พอคิดได้ก็ตาโตอย่างตกใจ ก่อนจะเงยหน้ามองคนตรงหน้า ชายหนุ่มส่งยิ้มมาให้อย่างอบอุ่น

         “นายห่วงพี่”

         “.....”

         เขายิ้มกว้างอย่าดีใจ ที่มีคนคอยห่วงใย ความรู้สึกนี้แทบไม่เคยสัมผัสมันเลยสักนิดตั้งแต่เกิดมา พอได้สัมผัสรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างบอกไม่ถูก

         เซฮุนเห็นคนตรงหน้ายิ้มกว้างก็ยิ่งอายไปกับความสะเพร่าของตัวเองที่ดันเผลอหลุดปากไปว่า 'ห่วง' ถึงจะเป็นความจริงที่เก็บไว้ไม่มิดก็ตามเถอะ ใบหน้าสวยหวานขึ้นสีนิดๆ และก้มงุดลงไปเรื่อยๆ อย่างไม่อยากให้ใครเห็นสีหน้าของตนในตอนนี้

         แต่สำหรับคริส ยิ่งคนตรงหน้าเขินอายได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งชอบใจในความใสซื่อของเด็กหนุ่ม ไม่ว่าจะคิดจะพูดอะไรก็แสดงออกมาทางสีหน้าทั้งหมด ไม่เหมือนผู้หญิงผู้ชาย (เคะ) สมัยนี้ที่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวหวังจะจับเขาอยู่เรื่อยไป ด้วยความที่อดใจไม่ไหว ทำให้เขาโน้มใบหน้าเข้าหาจุมพิตที่หน้าผากเบาๆ แต่นิ่งค้างไว้เนิ่นนาน ราวกับจะถ่ายถอดความอบอุ่นทั้งหมดให้ เซฮุนรับความอบอุ่นนั้นมาอย่างเต็มใจ แต่ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวก็โดนเด็กหนุ่มผลักเบาๆ คริสมองดูใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อ ดูจิ้มลิ้มน่ารัก ก่อนจะยกน้ำดื่มรวดเดียวและคว้าข้อมือบางให้เดินตามออกไป

         เซฮุนมองคนตรงหน้าอย่างตกใจที่อยู่ดีๆ ก็โดนลากออกไปโดยที่ชายหนุ่มไม่พูดไม่จาอะไรเลย พอถึงรถลัมโบกินี่คันสวยก็จับยัดเด็กหนุ่มเข้าไปข้างในอย่างงายดาย ก่อนจะตามขึ้นมานั่งและออกรถไปอย่างรวดเร็ว เซฮุนมองคนที่จู่ๆ ก็ลากตนออกมาอย่างงๆ คิดจะไปก็ไป คิดจะมาก็มา ตามอารมณ์ไม่ทันจริงๆ

         แต่แล้วเด็กหนุ่มก็รู้ว่าเขาจะพาไปไหน เพราะเด็กหนุ่มจำเส้นทางนี้ได้แม่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ทางไป EXO Music International Collage ยังไงล่ะ วิทยาลัยนานาชาติการดนตรีในฝันของเด็กหนุ่ม ใบหน้าสวยระบายไปด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นแล้วว่าเขากำลังจะทำอะไร ในใจก็นึกขอบคุณเบาๆ

         ทันทีที่จอดรถ คนทั้งสองก็เป็นจุดเด่นทันที โดยที่เซฮุนไม่เคยรู้เลยว่าหุ้นส่วนของมหาวิทยาลัยนี้มี บริษัท EXO Park Center ครองอยู่ถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่าเป็นผู้บุกเบิกวิทยาลัยนานาชาติแห่งนี้เลยก็ว่าได้ และนักศึกษาทุกคนของที่นี่ต่างก็รู้จักประธานบริษัท EXO Park Center คนล่าสุดดี คนที่จะไม่ยอมควงผู้หญิงคนไหนในตอนกลางวัน

         ร่างสูงก้าวนำคนตัวเล็กให้เดินตามอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยุดลงที่หน้าห้องของผู้อำนวยการที่รู้จักกันมานาน สาเหตุที่รู้จักก็เพราะเป็นเพื่อนอีกคนที่สนิทรองลงมาจากจื้อเถาและซูโฮ

     

    ++++++ พิศวาส เสน่หา ++++++

     

         เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากหน้าห้องเรียกให้ใบหน้าหล่อเหลาที่สาวๆกรี๊ดกร๊าดเงยขึ้นจากเอกสารกองโตที่สุมกันอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา

         “เชิญ”

         สิ้นเสียงก็พบกับร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยดี กับร่างเล็กบางที่คาดว่าโดนลมพัดที่เดียวคงจะปลิวแน่นอน นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้างขึ้นอย่างยินดี

         “ไอ้คริส!”คำเรียกอย่างสนิทปากดังขึ้น เพราะนานทีเดียวที่ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ เพราะต่างคนต่างก็ทำงานกันหัวหมุน

         “อือ”คริสพยักหน้ารับคำสั้นๆ

         “นั่งก่อนๆ มาได้ยังไงเนี่ย”เขาเชิญนั่ง ก่อนมองตามร่างเล็กอย่างถูกใจแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นเพื่อนหนุ่มของตนเองฉุดเอาข้อมือบางให้นั่งลงข้างๆ

         “ฉันพาเซฮุนมาสมัครเรียนที่นี่”ชายหนุ่มบอกก่อนจะกุมมือบางของเด็กหนุ่มไว้แน่น

         ปาร์ก ชานยอล มองเพื่อนชายอย่างงุนงงก่อนจะสังเกตเห็นมือหนาที่กุมมือบางไว้อย่างหวงแหน และต้องสะดุดกับแหวนคู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของคนทั้งคู่

         “อย่าบอกนะว่าแก...แต่งงานแล้ว...”เขาพูดเสียงแผ่วอย่างตกใจ

         “ใช่ และนี่ก็เมียฉัน”คริสพูดอย่างถูกใจ ก่อนจะโอบเอาร่างบางให้แนบกับตัวเขา

         เซฮุนทำอะไรไม่ถูก เขินก็เขิน อายก็อาย ทำได้เพียงเหน็บเนื้อของคนข้างๆ อย่างมันเขี้ยวกับท่าทางที่แสดงออกมาเกินจริง

         “ดีใจด้วยว่ะเพื่อน แหม...แต่งงานทั้งทีทำไมฉันไม่ได้การ์ดล่ะ”

         “เรื่องมันยาวและกะทันหันไปหน่อย ว่าแต่...แล้วเมียฉันจะได้เรียนที่นี่ไหม”เขาเอ่ยเข้าประเด็น ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ตอบแทนความเป็นห่วงบ้างจะเป็นไรไป

         “พี่คริส!”คนตัวเล็กเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบแต่แฝงความดุไว้

         “ก็อยากเข้าที่นี่ไม่ใช่เหรอ ฉันก็พามาแล้วไง”เขากล่าว

         เซฮุนมองคนตรงหน้าก่อนถอนหายใจเบาๆ ที่อยากเรียนที่นี่ก็ถูกอยู่หรอก แต่ว่าเขาอยากเข้าที่นี่ด้วยฝีมือมากกว่านะ ไม่ใช่ฝากเข้าแบบนี้

         “อย่าลืมสิว่าแกก็เป็นหุ้นส่วนของที่นี่ตั้งสามสิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ให้เข้าก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว”ชานยอลเอ่ยพร้อมส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจไปให้เซฮุน ส่งผลให้ชายหนุ่มตัวโตที่นั่งอยู่ข้างๆ เริ่มทำเสียงฟึดฟัดที่จมูก

         “แต่ผมอยากลองทดสอบเข้านะฮะ อยากรู้ด้วยว่าฝีมือของตัวเองถึงขั้นนั้นแล้วรึยัง”เสียงหวานเอ่ยคัดค้าน และเหตุผลก็ทำให้ผู้อำนวยการหนุ่มออกอาการถูกใจ คิดว่าถ้าไม่ติดตรงที่มีเจ้าของแล้ว คนที่ต้องเดินหน้ามาจีบเป็นแม่ของลูกคงจะมีเขาเข้าร่วมด้วยแหงๆ

     

    ++++++++++

    100%

     

    มุมเม้าท์มอย

    กลับมาต่อแล้วค่า เป็นยังไงค่ะสนุกมั้ยเอ่ย

    ถ้าสนุกก็บอกกันหน่อยน้า แล้วเจอกันตอนหน้าจ้า บ๊ายบาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×