ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Shinhwa] Stop Love หยุดหัวใจ ไว้รักนาย [END]เปิดรีปริ้น

    ลำดับตอนที่ #4 : Special Holiday: Songkran Day’s

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 56


    Special Holiday: Songkran Day’s

     

     

     

     

     

            พัทยากลาง จังหวัดชลบุรี

            ประเทศไทย

            Princess Patya Hotel

            ห้อง 2119

            “ว้าว ที่นี่สวยจังเลยนะฮะพี่เอริค”เสียงหวานใสๆ ของเด็กหนุ่มวัยสิบแปดเอ่ยบอกกับพี่ชายแท้ๆ ที่อายุมากกว่าเพียงสองปีเท่านั้น เอริคมุนในชุดเสื้อลายดอกสีส้ม กางเกงขาสามส่วนสีดำ หันไปมองน้องชายที่ยืนดูบริเวณหาดภายนอกหน้าต่าง โชคดีที่พวกเขาจองล่วงหน้าเอาไว้ก่อนพอสมควรทำให้ได้ห้องพักที่หันเข้าหาชายหาดพอดี เวลาพระอาทิตย์ขึ้นก็จะเห็นได้ชัดเจน และพวกเขาก็มาได้จังหวะช่วงเทศกาลพอดิบพอดี เลยถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย เพราะตอนแรกแค่จะมาฉลองที่น้องชายสุดที่รักสอบเข้ามหาลัยคณะอักษรได้แค่แนนสูงสุด และวันที่เลือกมาก็ดันตรงกับช่วงเทศกาลสาดน้ำในช่วงหน้าร้อนพอดี

            “เป็นไงถูกใจมั้ยแอนดี้ นี่เป็นของขวัญฉลองสอบเข้าให้นายจากพี่นะเนี่ย”เอริคเอ่ยพลางลุกขึ้นไปโอบไหล่บางๆ ของน้องชายเอาไว้ ซึ่งเจ้าตัวก็หันมายิ้มน่ารักให้ ทำเอาเอริคที่เป็นโรคหลงน้องชายอยู่แล้วยิ่งเพ้อนักเข้าไปอีก

            “ถูกใจมากๆ เลยล่ะฮะ แต่ผมอยากลงไปเล่นน้ำสงกรานต์กับชาวไทยแล้วอ่ะ ไปกันเถอะฮะพี่เอริค”แอนดี้ตอบคำถามพี่ชายก่อนจะออดอ้อนเมื่อมอลลงไปข้างล่างเห็นชาวไทยมากมายกำลังสาดน้ำปะแป้งกันอย่างสนุกสนาน

            “เอาสิ แต่เราทาครีมกันแดดรึยัง เอาโทรศัพท์ เงินใส่กระเป๋ากันน้ำเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย และบลาฯ”กว่าเอริคจะพล่ามจบก็ทำเอาน้องชายสุดที่รักอย่างแอนดี้หัวเราะเบาๆ กับความเป็นห่วงของพี่ชายจอมหวงไม่น้อย...

     

    ++++++ Special Holiday ++++++

     

            อีกด้านหนึ่ง บริเวณชายหาดพัทยากลาง

            “ไอ้จิ๊นนนนนน นี่แกพาพี่มาที่ไหนเนี่ย”เสียงสูงแหลมปรี๊ดของชายหนุ่มชาวต่างชาติผู้เป็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่งเอ่ยภาษาบ้านเกิดใส่ร่างสูงที่เดินนำอยู่ด้านหน้า ร่างสูงผมทองสไลด์ขวาเช่นเดียวกับร่างบางเจ้าของเสียงแหลมปรี๊ดเมื่อกี้ (ทรงเดียวกันสีเดียวกัน กลัวเขาไม่รู้ว่าเป็นแม่ลูกกันเหรอจ๊ะซองงี่:ไรท์เตอร์)

            “พัทยากลางไงฮะพี่เฮซอง”ร่างสูงหยุดเดืนก่อนจะหันมาตอบพี่ชายคนสวย ที่ตอนนี้บนใบหน้าหวานเต็มไปด้วยแป้งดินสอพองเต็มแก้มทั้งสองข้าง ใบหน้าหวานดูมุ่ยๆ พิกล นอกจากแป้งแล้วตั้งแต่หัวจรดเท้ายังเปียกน้ำอีกด้วย

            “พี่รู้น่าจินว่านี่มันพัทยากลาง แต่หมายถึงว่านายพาพี่มาทำไมที่นี่”ร่างบางเอ่ยขยายความพลางหยิบปืนฉีดน้ำในมือยิงใส่หนุ่มหล่อคนหนึ่งที่หมายจะเข้ามาปะแป้งตน

            “ก็เห็นพี่ว่าอยากไปเล่นน้ำตรงที่คนเยอะๆ นี่นา”ปาร์ก จอนจินตอบพี่ชายหน้าหวาน ก่อนจะยิ้มแป้นแล้นและหมุนกลับเพื่อออกเดินเล่นน้ำตามชื่อเทศกาลต่อ ก็รู้หรอกนะว่าอยากเล่นมากแต่ช่วยรอพี่ชายคนนี้หน่อยไม่ได้รึไง!

            “จิน นายหายไปไหนอ่ะ”ร่างบางตะโกนร้องหาหลังจากพลัดหลงกับน้องชายที่เดินนำไปลิ่วๆ อย่างไม่รูทาง แถมภาษาไทยเองก็พูดและฟังออกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใบหน้าหวานเริ่มประดับด้วยความวิตกกังวล เพราะรู้สึกว่ายิ่งเดินไปก็ยิ่งหากไกลกับน้องชายมากเท่านั้น แต่ทันใดนั้นเอง

            หมับ!!!

            สัมผัสหยาบๆ ของฝ่ามือที่ต้องเป็นของผู้ชายแน่นอนชินเฮซองมั่นใจแปะลงบนก้นของเขา ช่างเป็นโชคร้ายที่วันนี้เฮซองเลือกที่จะใส่กางเกงขาสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเพียงเล็กน้อยสีขาว แถมมันยังรัดรูปอีกด้วย ที่ใส่เพราะเห็นว่ามาเล่นกับจอนจินหรอก แต่ถ้ารู้ว่าใส่แล้วพอจินไม่อยู่โดนแบบนี้ล่ะก็ ให้ตายเฮซองก็ไม่ใส่หรอก

            “เฮ้ย ทำอะไรวะ!”ร่างบางหันไปตะโกนใส่ชายหนุ่มหื่นกามที่บังอาจมาจับก้นแสนนุ่มนิ่ม(?) ของชินเฮซองด้วยภาษาอังกฤษ ไม่พอเท่านั้นมือบางก็จัดการปัดมือนั้นออกทันที ชายหนุ่มคนนั้นทำหน้าเสียดายก่อนจะตอบกลับมาด้วยภาษาอังกฤษเช่นกัน

            “โธ่ น้องสาวก็จับนิดจับหน่อยมันไม่สึกหรอกจ๊ะ ขอพี่จับอีกทีเถอะนะก้นน้องนุ่มมากเลย”สิ้นประโยคแสนหื่นกาม ความโกรธทะลุปรอทจัดการด่าด้วยภาษาไทยที่เรียนมาจากเพื่อนรักอย่างอี มินอูเสียจัดเต็ม

            “ไอ้หอกหัก ไอ้หน้าเหี้ย ไอ้สันดานปลวก ไอ้ชิงหมาเกิด พ่อมึงตาย อยากจับก้นหนักไปจับของแม่มึงนู้น”ร่างบางใส่เป็นชุดเสียจนชายหนุ่มคนนั้นถึงกับเอ๋อไปเลยเห็นพูดภาษาอังกฤษเลยนึกว่าพูดไทยไม่ได้ ที่ไหนได้แม่งด่าเป็นภาษาไทยเต็มยศเลยทีเดียว แต่อย่างว่าแหละผู้ชายก็คือผู้ชายเมื่อโดนหยามขนาดนี้มันก็ต้องมีลงไม้ลงมือกันบ้าง ชายหนุ่มคนนั้นเงื้อมมือขึ้นสุดแขนหมายจะตบใบหน้าหวานๆ นั้นให้หายปากดีสักที ร่างบางเองก็ไม่ยอมแพ้จ้องตาอย่างท้าทาย หากแต่...

            หมับ

            “เฮ้ย! ทำร้ายผู้หญิงน่ะไม่ดีมั้ง”เสียงนุ่มทุ้มที่ฟังดูอบอุ่นดังขึ้นพร้อมๆ กับการปรากฏตัวของเจ้าของเสียงซึ่งเป็นหนุ่มหล่อ ใบหน้าดูค่อนข้างไปทางลูกครึ่งมากๆ แต่ก็พอดูออกว่ามีเชื้อเอเชีย มือหนาของชายคนนั้นจับมือหนาของชายที่จำทำร้ายเฮซองเอาไว้แน่น

            “แล้วมึงเสือกอะไรด้วยวะ”ชายคนนั้นตอบกลับไปเป็นภาษาไทย ถึงแม้เฮซองจะพูดภาษาไทยได้เล็กน้อยแต่ก็สามารถฟังออกได้อยู่เหมือนกัน

            “ก็คนๆ ที่มึงจะทำร้ายนะเมียกู”สิ้นคำกล่าวอ้างของชายแปลกหน้า เล่นเอาใบหน้าหวานขึ้นสีแดงแปร๊ด กว่าจะรู้ตัวร่างเพรียวก็ถูกชายแปลกหน้าดึงให้ออกห่างชายคนนั้นมาไกลโขแล้ว และตอนนี้ทั้งสองคนก็มาหยุดยืนอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งที่บริเวณนั้นมีคนเล่นน้ำน้อยลงแล้วเพราะเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ แล้ว

            “อ่า...คือ...”ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้เอ่ยอะไร ชายหนุ่มคนนั้นก็เอ่ยขัดเสียก่อน

            “เป็นผู้หญิงน่ะวันหลังถ้าจะออกมาเล่นสงกรานต์ก็อย่าใส่ขาสั้นเล่นนะรู้มั้ยมันอันตราย เดี๋ยวโดนลวนลามแบบวันนี้อีกไม่มีใครช่วยแล้วนะ”เจ้าตัวเอ่ยเตือนเสียยาวเหยียดด้วยภาษาไทย โดยหารู้ไม่ว่าเฮซองน่ะช็อคไปแล้ว ไม่ได้ช็อคเพราะอะไรหรอกนะ ช็อคเพราะอีกฝ่ายคิดว่าเขาเป็น”ผู้หญิง”

     

     

     

     

            อะไรก๊านนนนน ท่านชิน เฮซองสุดหล่อ(?)ผู้นี่ถูกหาว่าเป็นผู้หญิงเรอะ!

     

     

     

     

            “เฮ้ นี่เธอฟังฉันพูดอยู่มั้ยเนี่ย”กว่าเฮซองจะตื่นจากภวังค์ก็เป็นจังหวะที่ชายหนุ่มแปลกหน้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้เสียจนเหมือนจะจูบกันอยู่แล้ว

            “เฮ้ย!”ร่างบางร้องอย่างตกใจ ก่อนจะรีบยกมือขึ้นพลักอีกคนออกห่างอย่างแรง แรงสะจนคนที่ไม่ทันตั้งตัวล้มลงไปนั่งบนพื้นเรียบร้อย

            “โอ๊ย เธอเป็นผู้หญิงภาษาอะไรวะเนี่ย แรงเยอะชะมัด”ชายหนุ่มร้องโอดโอยพร้อมทั้งต่อด้วยเสียงบ่นหลังจากพยุงตัวลุกขึ้นยืนได้แล้ว ด้วยความโมโห+ความลืมตัว ทำให้ร่างบางเผลอพ่นภาษาบ้านเกิดใส่ไปซะอย่างนั้น

            “ไอ้บ้า! ฉันเป็นผู้ชายเว้ยไม่ใช่ผู้หญิง”ชายแปลกหน้าเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ หากแต่เฮซองสะดุ้งลืมตัวไปว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่บ้านเกิด

            “อ้าว นี่นายเป็นผู้ชาย แล้วก็คนเกาหลีเหรอเนี่ย”คราวนี้คนที่ต้องแปลกใจกลับเป็นเฮซองซะเองเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมาเป็นภาษาเกาหลี ก่อนที่จะตัวจะถามกลับไปด้วยภาษาบ้านเกิด

            “นี่นายก็คนเกาหลีเหรอเนี่ย หน้านายดูไม่เหมือนเลย”

            “ฉันเป็นคนเกาหลีแต่แค่ว่าฉันไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กเท่านั้นเอง อ้อ ฉันชื่อมุน จองฮยอก หรือ นายจะเรียกฉันว่าเอริคก็ได้ แล้วนายล่ะ”ร่างสูงอธิบายก่อนจะแนะนำตัวบ้าง

            “ฉันชิน เฮซอง แล้วนี่นายอายุเท่าไหร่อ่ะ ดูๆ แล้วนายน่าจะอายุมากกว่าฉันนะ”เฮซองแนะนำตัวบ้างก่อนจะถามต่อ เพราะดูหน้าตาอีกฝ่ายน่าจะมากกว่าเขาจริงๆ นะ

            “ฉันอายุแค่ยี่สิบเท่านั้นเอง แล้วนายล่ะอายุเท่าไหร่ มาเที่ยวกับใครล่ะเนี่ย”ร่างสูงตอบก่อนจะถามกลับเป็นชุด

            “อ้าว อายุเท่ากันเลยนี่นา ฉันก็อายุยี่สิบเหมือนกัน พอดีฉันมาเที่ยวกับน้องชายน่ะ แต่คลาดสายตาแป๊บเดี๋ยวไอ้ลูกนกหน้าแป้นก็หายหัวไปซะแล้ว”พอพูดถึงน้องชายสุดที่รัก (กัดฟัน) ก็อารมณ์ขึ้นไม่หาย หนอย บังอาจเล่นสนุกจนลืมพี่ชายคนนี้เลยเรอะ

            “เหมือนกันเลยนะ ฉันเองก็มากับน้องชา... เฮ้ย!!!”จู่ๆ เอริคก็ร้องขึ้นมาอย่างตกใจเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้

            “หือ? เป็นอะไรอ่ะ”เฮซองถามอย่างสงสัย

            “บ้าเอ้ย! ฉันลืมแอนดี้ไปได้ไงวะเนี่ย”ร่างสูงไม่ตอบแต่บ่นกับตัวเองอย่างหงุดหงิด ที่เมื่อกี้พอเห็นเฮซองกำลังถูกลวนลามอยู่นั้นก็ออกมาช่วยโดยลืมไปว่าทิ้งน้องชายไว้ที่ร้านขายของข้างทาง มือหนารีบล้วงเอาสมาร์ทโฟนเครื่องหรูขึ้นมากดเปิดเครื่องทันที แต่พบว่า...

            “เชี่ยเอ้ย! แบตหมด!”ร่างสูงสบถเมื่อพบว่าแบตเตอร์รี่หมด แสดงว่าเขาลืมชาร์ตก่อนออกมาแน่เลย

            “เอ่อ...นายเอามือถือฉันไปโทรก่อนมั้ย”เฮซองเอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตาหน้ากลัวมากมาย

            “ก็ดีนะ ขอบใจนะ”ร่างสูงตอบรับพร้อมทั้งเอ่ยขอบคุณ ก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องสวยสีขาวกดโทรออกหาน้องชายทันใด รอไม่นานนักก็ได้ยินเสียง...

            /ขอโทษค่ะ ขณะนี้เลขหมายของคุณไม่สามารถโทรออกได้ กรุณาเติมเงินด้วยค่ะ/ สิ้นเสียงของโอเปอร์เรเตอร์สาว เอริคก็ทำหน้าใบ้กินทันที ก่อนจะกดวางและส่งสมาร์ทโฟนคืนให้เฮซอง

            “เป็นไงโทรติดมั้ย”ร่างบางถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าของชายหนุ่ม

            “นายควรเติมเงินก่อนนะ”สิ้นคำบอกของร่างสูง ร่างบางก็ใบ้กินเช่นเดียวกัน...

     

    ++++++ Special Holiday ++++++

     

            ก่อนหน้านี้เล็กน้อย

            ทางด้านของแอนดี้...

            “พี่เอริคฮะผมซื้อของเสร็จแล้วไปกันเถอะฮะ พี่เอริค?”เสียงหวานเอ่ยอย่างอารมณ์ดีหลังจากซื้อของที่ต้องการในร้านขายของข้างทางเสร็จเรียบร้อยก่อนจะเดินออกมายังจุดที่พี่ชายรออยู่ แต่พอออกมาหาที่ด้านนอกปุ๊บปรากฏว่าพี่ชายของเขานั้นหายตัวไป!

            “พี่เอริคฮะ พี่เอริค!”ร่างบางตะโกนเรียกหาพี่ชายที่หายตัวไปไหนก็รู้ พลางชะเง้อคอมองหาร่างสูงโย่งของพี่ชายท่ามกลางฝูงชนที่กำลังสาดน้ำ ฉีดน้ำและปะแป้งกันอย่างสนุกสนาน ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยความตระหนก ก่อนที่มือบางจะคว้าเอาสมาร์ทโฟนเครื่องหรูขึ้นมากดโทรออกหาพี่ชาย แต่เสียงที่ตอบกลับมาทำเอาเด็กหนุ่มต้องชักสีหน้าขึ้นด้วยความหงุดหงิด

            /ขอโทษด้วยค่ะ เลขหมายปลายทางที่ท่านเรียกขณะนี้ไม่สามารถติดต่อได้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ/ ยังไม่ทันที่แอนดี้จะได้กดโทรออกอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง...

            “เป็นอะไรครับคนสวยทำไมทำหน้ามุ่ยแบบนั้นล่ะ”น้ำเสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความเจ้าชู้ดังขึ้นจากทางด้านหลังพร้อมๆ กับมือหนาที่ถือวิสาสะมาโอบไหล่เขา

            “เอ่อ...ผมหาพี่ชายอยู่นะครับ”ร่างบางตอบอย่างเลี่ยงๆ อารมณ์โกรธพี่ชายเมื่อกี้นี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง ร่างบางพยายามคิดหาวิธีทางให้หลุดพ้นออกจากผู้ชายโรคจิตคนนี้

            “งั้นให้ผมช่วยหามั้ยครับคนสวย”ชายคนนั้นเอ่ยต่ออย่างอารมณ์ดีพร้อมทั้งโอบไหล่บางให้แน่นขึ้น เหงื่อไหลอาบใบหน้าหวานมากขึ้นกว่าเดิม ร่างบางพยายามสอดสายตาหาคนช่วย ทันใดนั้นเองดวงตากลมโตก็เหลือบไปเห็นร่างสูง ใบหน้าหล่อเหลา เส้มผมสีทองที่ถูกซอยสไลด์ล้อมกรอบใบหน้าหล่อเหลา ผิวขาว นัยน์ตาเรียวสวย แอนดี้ยกยิ้มขึ้นเหมือนนึกอะไรได้ รีบสะบัดชายหนุ่มที่เข้ามาลวนลามตนนั้นออก รีบวิ่งตรงเข้าไปกอดแขนชายคนนั้นก่อนจะรีบมั่วเรื่องในทันใด

            “อ่า ที่รักหายไปไหนมาอ่ะเค้าหาตั้งนาน ไปกันเถอะพี่เค้าหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”ร่างบางเอ่ยด้วยเสียงอ้อนเสียงหวาน ชายหนุ่มที่ถูกอ้างถึงมองร่างบางที่กอดแขนเขาไว้ด้วยสายตางุนงง หากแต่เมื่อได้สบกับนัยน์ตากลมโตหวานที่อ้อนขอให้เออออตามไปก่อน ร่างสูงก็ยิ้มรับอย่างเข้าใจก่อนจะรีบช่วยเออออตามทันที

            “อ่า เค้าก็ไปช่วยที่รักตามหาพี่ที่รักไงครับ แล้วนั่นใครเหรอครับที่รัก”ชายหนุ่มว่าเสียงอ้อนเสียงหวานเช่นกันก่อนจะดึงแขนที่ถูกกอดออกและเปลี่ยนเป็นเลื่อนไปโอบไหล่บางเพื่อความสมจริงมากขึ้น ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มอีกคนที่เข้ามาลวนลามแอนดี้ ที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอไปแล้ว ก็ใครจะคิดล่ะว่าแฟนของคนสวยคนนั้นจะหล่อซะขนาดนี้ ขณะที่ร่างบางกำลังจะเอ่ยปากบอกนั้น ชายหนุ่มคนนั้นก็รีบวิ่งหนีไปทันที ลองไม่หนีสิมีหวังโดนชกคว่ำแหง ก็กล้ามใหญ่ซะขนาดนั้น พอชายคนนั้นหายตัวไปแอนดี้ก็ถอนหายใจ ก่อนที่คนข้างตัวจะรีบลดมือที่โอบไหล่เขาอยู่ลงทันที แอนดี้รีบหันไปขอบคุณอีกคนด้วยภาษาไทยทันที

            “เอ่อ...ขอบคุณมากนะฮะคุณ...”

            “ผมจอนจิน”อีกฝ่ายแนะนำตัว พอได้ยินชือของอีกคน ร่างเล็กก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ อย่างไม่อยากเชื่อ

            “นี่คุณเป็นคนเกาหลีเหรอฮะ”พอคนตรงหน้าถามกลับมาเป็นภาษาเกาหลี ดวงตาของจอนจินก็เบิกขึ้นนิดๆ ก่อนจะถามกลับบ้าง

            “นี่นายก็เป็นคนเกาหลีเหรอ”ร่างสูงถามอย่างไม่อยากเชื่อ เพราะใบหน้าหวานนี่ดูค่อนไปทางตะวันตกพอตัวอยู่เหมือนกัน

            “ฮะ ผมเป็นคนเกาหลี ชื่อลี ซอนโฮฮะ หรือ คุณจะเรียกว่าแอนดี้ก็ได้”ร่างบางแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มไร้เดียงสา รอยยิ้มที่ทำเอาจอนจินมองไม่วางตากับหน้าตาและรอยยิ้มที่แสนจะน่ารัก

            “อ่า นายอย่าเรียกคุณเลย เรียกว่าพี่ก็น่าจะพอมั้งฉันอายุแค่สิบเก้าเอง ดูๆ แล้วนายน่าจะอายุประมาณสิบแปดสินะ”ร่างสูงบอกพร้อมยิ้มกลับ

            “ฮะผมอายุสิบแปดจริงๆ เพิ่งสอบเข้ามหาลัยเองฮะ”

            “อ่า แล้วนี่นายมากับใครล่ะ”

            “อ๋อ ผมมากับพี่ชายฮะ แต่ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้วโทรหาก็ไม่ติด สงสัยพี่คงไม่ได้ชาร์ตแบตแน่เลย”ร่างบางบ่นเบาๆ กับความขี้ลืมของพี่ชาย เตือนเขาหนักเตือนเขาหนาว่าอย่าลืมชาร์ตแบต แต่กลายเป็นว่าตัวเองลืมเอง พอได้ยินคำว่าพี่ชายจอนจินเหมือนนึกอะไรได้...

     

     

     

     

            แย่แล้ว พี่เฮซอง! เราลืมเฮซองได้ไงวะเนี่ย

     

     

     

     

            ไม่รอช้าจอนจินรีบล้วงเอาสมาร์ทโฟนในถุงใส่โทรศัพท์กันน้ำออกมาทันที หมายจะกดโทรแต่พบว่า แบตหมด...

            “อ่า แบตหมดแฮะ เอ่อ แอนดี้”ร่างสูงบ่นเบาๆ กับตัวเองก่อนจะหันไปหาเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ เพราะเจ้าตัวไม่กล้าเดินไปไหนคนเดียวเดี๋ยวเจอแบบเมื่อกี้อีกจะยุ่ง

            “อะไรเหรอฮะพี่จิน”น้ำเสียงหวานๆ ที่เรียกเขาด้วยชื่อเล่นที่มีเพียงรุ่นพี่คนสนิทอย่างเฮซองกับคนในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ ฝังดูแล้วอย่างจะลอยจริงๆ เหมือนแฟนกันจริงๆ เลยนะเนี่ย เพราะนอกจากเสียงหวานๆ แล้ว อีกคนยังหมอบรอยยิ้มหวานๆ ให้อีกด้วย

            “อ่า พี่ขอยืมโทรศัพท์นายหน่อยสิ”ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ ซึ่งร่างบางก็ไม่คิดมากยื่นโทรศัพท์ให้แต่โดยดี จอนจินรับมาและยิ้มขอบคุณก่อนจะรีบกดเบอร์ปลายทางและโทรออกทันที

            /ยอโบเซโย~~  ชินเฮซองรับสายครับ ไม่ทราบว่านั้นใครครับ/ ทันทีที่ปลายสายรับ จอนจินก็รีบกรอกเสียงไปตามเสียงทันทีอย่างดีใจ

            “ฮัลโหลพี่เฮซอง! นี่ผมจอนจินเองนะ ตอนนี้พี่อยู่ไหนเนี่ย”ร่างสูงกรอกเสียงไปอย่างดีใจ

            /นั้นนายจริงๆ เหรอจอนจิน! แล้วนี่นายอยู่ไหนเนี่ย แล้ว...แล้วแกทิ้งพี่ไว้ได้ยังไงหา!/พูดคุยไปสักพักคนปลายสายก็อารมณ์ขึ้น เล่นเอาจอนจินหัวเราะแหะๆ กลบเกลื่อนแทบไม่ทัน

            “ก็แหมผมเพลินนี่ฮะ แล้วนี่พี่อยู่ไหนอ่ะ เดี๋ยวผมจะไปรับ”ร่างสูงถามอย่างเป็นห่วง

            /ตอนนี้ฉันอยู่ที่ลอบบี้Princess Patya Hotelกับคนรู้จักน่ะ แล้วนี่นายเอาเบอร์ใครโทรหาพี่เนี่ย/

            “อ้อ คนรู้จักน่ะ พี่อยู่ที่ลอบบี้โรงแรมพริ้นเซสพัทยาสินะ โอเคเดี๋ยวผมไปหา แค่นี้ล่ะ แล้วเจอกันครับ”ร่างสูงตอบก่อนจะบอกและกดวางสายจากนั้นจึงส่งคืนให้เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างกายที่ยิ้มหวานให้ จอนจินไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงถูกลวนลามได้ง่าย ก็เพราะน่ารักแบบนี้ไงล่ะ

            “ขอบคุณนะแอนดี้”

            “ไม่เป็นไรฮะ”

            “แล้วนี่นายพักอยู่ที่ไหนล่ะ”

            Princess Patya Hotelฮะ”

     

    ++++++ Special Holiday ++++++

     

            สองเดือนต่อมา

            ณ หน้าลานกิจกรรม มหาวิทยาลัยคยองฮี

            “เฮ้ เป็นไงบ้างไม่เจอกันนานเลยนะซองงี่”เสียงทุ้มแบบนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้นอกเสียจาก ลี มินอูเพื่อนสนิทของชิน เฮซองผู้หล่อเหลา(?)

            “อือ ก็ปกติดีนะ ว่าแต่นายเถอะทำไมหน้าบานอย่างนี้ล่ะไอ้แมวน้ำ”ร่างบางหน้าหวานที่นั่งทานขนมกับอดีตน้องรหัสสมัยม.ปลายตอบ พลางเอ่ยแซวเพื่อนรักที่เดินหน้าบายมาแต่ไกล

            “ก็แหม คนกำลังอินเลิฟนี่หว่า”ชายหนุ่มตอบพลางเกาหัวแก้เขิน

            “แหมไม่เจอกันไม่กี่เดือนมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วเรอะ ร้ายเหมือนกันนะเนี่ยมินอู แล้วแฟนนายนี่อยู่มหาลัยเดียวกันกับเราป่ะ เรียนอยู่คณะไร ปีไรอ่ะ”ร่างบางถามเป็นชุดราวกับตัวเองเป็นแม่ของมินอูอย่างไรอย่างนั้น

            “ทีล่ะคำถามดิว่ะไอ้ซอง จินวันหลังช่วยบอกให้แม่นายอย่าใจร้อนทีนะ คำตอบแรกเลยนะ แฟนฉันอยู่มหาลัยเดียวกันกับเรา เรียนคณะศิลปะศาสตร์เหมือนเรานี่และ สาขาวอยซ์เหมือนกัน ปีสามเหมือนเราด้วย และเห็นว่าแฟนฉันบอกว่าจะพาเพื่อนสนิทเขามาด้วย อย่าปากหมาล่ะไอ้ซอง”ร่างหนาอธิบายเป็นชุดก่อนจะเอ่ยย้ำเป็นครั้งด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย เพราะก่อนหน้านี้เขามีแฟนกี่คนๆ ก็หนีหายเพราะทนความปากร้ายของเพื่อนเขาคนนี้ไม่ไหวเนี่ยแหละ ต่อให้มีจอนจินช่วยห้ามก็เถอะ

            “คณะเรา? สาขาเรา? ปีเดียวกันกับเราเหรอวะ? ใครอ่ะ?”ร่างบางถามอย่างสงสัยพลางนึก เพราะก่อนปิดเทอมไม่มีที่ท่าว่ามินอูจะแอบสนใจเพื่อนในสาขาคนไหนเลยสักคนเดียว

            “เดี๋ยวแกก็รู้ อ่ะ มาพอดีเลย ทางนี้วานนี่”เจ้าตัวตอบทิ้งเป็นเลศนัยก่อนจะร้องขึ้นเมื่อเห็นกลุ่มคนสามคนกลุ่มใหม่เดินมา ซึ่งคนที่เดินนำมานั้นเฮซองรู้จักดี คิม ดงวาน ประธานรุ่นของพวกเขาเอง นึกว่าไอ้แมวน้ำจะหาใครมาเป็นแฟนซะอีก ที่ไหนได้คนไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง เพราะจริงๆ มินอูเองก็ตามจีบดงวานมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีที่ท่าว่าอีกฝ่ายจะเล่นด้วย ก็เลยหนีไปคบสาวอื่น แต่พอจะขึ้นปีสามดันมาคบกันซะงั้นอ่ะ

            เมื่อเฮซองและจอนจินล่ะความสนใจจากแฟนของมินอูไปแล้ว มองไปยังอีกสองคนที่เดินตามหลังดงวานมา สองแม่ลูก(?) ถึงกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าใครเดินตามหลังแฟนเพื่อนมา

            “เฮ้ ไอ้ซองนี่ไงแฟนฉัน ส่วนนั้นเพื่อนสนิทของวานนี่กับน้องชายของเพื่อนสนิทวานนี่น่ะ เอริคกับแอนดี้ เอริค แอนดี้ นี่เพื่อนสนิทฉันเองเฮซองกับจอนจิน”

            “ยินดีที่ได้พบกันอีกนะเฮซอง”

            “ยินดีที่ได้พบกันอีกฮะพี่จิน”

     

    ++++++ Special Holiday ++++++

     

    มุมเม้าท์มอยท้ายเรื่อง

    เอาล่ะค่ะตอนนี้เราพักเรื่องหลักไว้ก่อนดีกว่านะ

    มาอ่านตอนพิเศษคล้ายร้อนรับวันสงกรานต์หน่อยดีกว่านะคะ

    ถึงแม้มายด์จะลงหลังวันสงกรานต์ก็เถอะ รีดเดอร์อย่าโกรธมายด์นะคะ

    พอดีช่วงสงกรานต์มายด์อยู่บนเขาน่ะค่ะมันไม่มีเนตให้ลง (ไปเป็นเด็กดอย)

    แล้วเดี๋ยววันศุกร์นี้มายด์จะเอาเนื้อเรื่องหลักตอนที่สามาลงนะคะ รออ่านกันด้วยนะคะ

    ทั้งรีดเดอร์ในเด็กดี และรีดเดอร์ในบ้านชินฮวาเลยค่ะ แล้วเจอกันค่ะ ซียูอะเก๊น~~~

     

     

     

     

     

     

    ++++++ อ่ะๆ แถมอีกหน่อยก็ได้ ++++++

            “นี่วานนี่ พวกนั้นไปสนิทกันได้ยังไงอ่ะ”มินอูถามคนรักพลางมองเพื่อน น้องเพื่อน เพื่อนแฟน และน้องของเพื่อนแฟนที่นั่งคุยกันอย่างกระหนุงกระหนิงด้วยความสงสัย

            “เค้าไม่รู้หรอกมินอู แต่วานนี่ว่ามินอูเลิกสนใจคนอื่นเถอะ ไม่งั้นวานนี่จะน้อยใจนะ”ร่างเล็กว่าด้วยน้ำเสียงติดงอนนิดๆ ที่คนรักสนใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง

            “โอ๋ๆ วานนี่อ่า อย่างงอนเค้านะ เค้าขอโทษ”และแล้วณ บริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยเสียงง้องอนของดงวานกับมินอูและอบอวลไปด้วยไอความรักของคนสี่คน...

     

    +++ จบจริงๆ แล้วจ้า +++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×