ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic WonKyu] พิศวาส เสน่หา [END]

    ลำดับตอนที่ #25 : บทที่ 21

    • อัปเดตล่าสุด 11 ม.ค. 56


    บทที่ 21: ข่าวดี

     

     

     

     

     

         "อ้วกกกกกกก!!!"

         เสียงอาเจียนดังไปทั่วบริเวณ และเจ้าของเสียงคลื่นเหียนนั้นก็คือซีวอนนั่นเอง ชายหนุ่มโก่งคออาเจียนอย่างทรมาณหลังจากขับรถมาจอดตรงประตูบ้านเรียบร้อย ยังไม่ทันได้เดินเข้าบ้านก็ต้องออกมาอาเจียนเสียก่อน

         "คุณซีวอน!"เสียงแหลมของจองซูหวีดร้องอย่างตกใจที่เห็นลูกเลี้ยงของตนเองโก่งคออาเจียนอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด

         ซีวอนหันมามองตามเสียงเรียกด้วยสีหน้าคล้ายคนจะเป็นลม ความจริงเช้าวันนี้เขาอาเจียนมาแล้วสามสี่รอบตั้งแต่ตื่นมา ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร อาเป็นพิษหรือโรคกระเพาะก็ไม่น่าจะใช่ เพราะทุกวันนี้เขาดูแลตัวเองดีเยี่ยมอยู่เสมอ ร่างสูงเดินหมดแรงเข้าประตูบ้าน ท่ามกลางสายตาเป็นห่วงของจองซู

         จองซูเดินตามไม่ห่างกลัวว่าเขาจะทรุดลง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงอันห่วงใย

         “เป็นอะไรมากรึเปล่าครับคุณซีวอน น้าว่าคุณน่าจะพักก่อนนะครับ”

         “ไม่เป็นไร...คยูฮยอนอยู่ไหน...”ซีวอนไม่สนใจคำเตือนของจองซู แต่ถามหาคยูฮยอนแทน

         จองซูถอนหายใจอย่างปลงๆ ที่เห็นชายหนุ่มรุ่นลูกไม่ยอมอ่อนให้ตน แต่ก็ดีใจที่เห็นเขามาเหยียบที่บ้านหลังนี้

         “หนูคยูอยู่ที่ห้องนั่งเล่นครับ”

         “ขอบใจ”ซีวอนกล่าวเสียงห้วน และผละออกไปตามที่จองซูตอบ

         ร่างสูงที่แทบจะทรงตัวไม่อยู่เดินไปที่ห้องนั่งเล่น สายตาเฉียบคมเห็นร่างบางของคนรักนั่งกินมะม่วงจิ้มเกลือ(ของฝากจากเมืองไทย)อยู่ก็รู้สึกเปรี้ยวปากขึ้นมาทันที แต่สังขารที่ไม่ค่อยจะเป็นใจ ทำให้เขาถึงกับแทบทรุด แต่ยังดีที่เกาะขอบประตูไว้ทัน

         คยูฮยอนได้ยินเสียงเหมือนกับอะไรขูดประตู เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นซีวอนที่ยืนเกาะอยู่ ดวงตาหวานเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าของเขาซีดและไร้เลือดฝากอย่างที่เคยเห็นเมื่อวาน ท่าทางเหมือนคนหมดแรง ร่างบางเห็นดันนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุงอย่างห่วงใย

         “พี่ซีวอน...เป็นอะไรรึเปล่าฮะ”เสียงหวานถามขึ้น ก่อนจะช่วยพยุงเขาไปนั่งลงที่โซฟา

         ซีวอนใจชื้นขึ้นมาทันทีที่คยูฮยอนยังคงเป็นห่วงเขาอยู่ ฝ่ามือหนาลูบไล้ที่แก้มขาวเนียนอย่างอ่อนโยน

         “ฉันไม่เป็นไรหรอก สงสัยเมื่อคืนจะนอนไม่พอ”ซีวอนสันนิษฐาน

         “งั้นก็ต้องพักผ่อนให้มากๆ สิฮะ”

         “ไม่ได้หรอก ไม่มีนายอยู่ด้วยแล้วหลับไม่ลง...กลับไปอยู่ด้วยกันเถอะนะ”ซีวอนพูดเสียงออดอ้อน คยูฮยอนได้ยินแล้วรู้สึกขำขึ้นมาทันที

         “ผทอยู่ที่นี่ก็มีความสุขดีนี่ฮะ”เสียงหวานแกล้งแหย่ ใบหน้าสวยยิ้มให้อย่างเป็นต่อ

         ซีวอนมองใบหน้าอย่างจ๋อยๆ เมื่อเห็นว่าคนรักไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปกับเขาเลย แต่ก่อนที่จะทันได้พูดอะไรต่อ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ซีวอนหยิบมันขึ้นมาก็พบว่าดงเฮโทรมา คยูฮยอนขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าซีวอนไม่รับโทรศัพท์ เมื่อชะโงกหน้ามาก็พบว่าเป็นพี่สาว(?)ที่เด็กหนุ่มเคารพโทรมานั่นเอง

         “ทำไมไม่รับล่ะฮะ”

         “อะ...อืม”

         ซีวอนกดรับสาบ แล้วถามอย่างสงสัย

         “มีอะไรเหรอดงเฮ”

         “พี่ซีวอนแย่แล้ว! พ่อเกิดอุบัติเหตุ! ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียูฮะ!!”เสียงตามสายกล่าวอย่างตื่นตกใจ

         ซีวอนลุกพรวดขึ้นอย่างตื่นตกใจ เมื่อได้ยินเรื่องที่ฮีชอลประสบอุบัติเหตุ

         “มีอะไรเหรอฮะพี่ซีวอน”คยูฮยอนถามอย่างสงสัย

         ซีวอนหันมามองคยูฮยอนอย่างช้าๆ ก่อนบอกเสียงต่ำ

         “คุณฮีชอล...ประสบอุบัติเหตุ...”

         เคล้ง!

         ส้อมหลุดลงจากมือของคยูฮยอนทันที ใบหน้าหวานขาวซีดเมื่อได้ยินข่าวร้าย หัวใจหล่นวูบ

         “ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียู”ซีวอนพูดอย่างเป็นกังวล

         “เราไป...ได้ไหมฮะ”เสียงหวานติดสั่นพูดขึ้น ซีวอนพยักหน้าช้าๆ

         คยูฮยอนลุกขึ้นยืน ก่อนจะรีบเดินตามซีวอนออกไป ซีวอนสตาร์ทรถและออกตัวอย่างเร่งรีบ ลืมอาการคลื่นไส้อาเจียนในทันที

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         ซีวอนกึ่งเดินกึ่งวิ่งทันทีที่มาถึงโรงพยาบาล และในที่สุดทั้งคู่ก็เดินมาจนถึงหน้าห้องไอซียูที่มีชายสามคนยืนอยู่ คยูฮยอนไม่รู้ว่าผู้ชายสวยแม้จะสูงวัยหน่อยนั้นคือใคร แต่ก็เอ่ยทักทาย

         “สวัสดีฮะพี่ดงเฮ พี่คิบอม และ...”

         “ฉันชื่อซองมินจ้ะ”

         “ฮะ คุณซองมิน”คยูฮยอนกล่าวอย่างนอบน้อม ก่อนจะเดินไปหาดงเฮที่ยืนร้องไห้โดยมีคิบอมคอยปลอบอยู่ไม่ห่าง

         “พี่ดงเฮ...”

         “คยู...”ดงเฮเอ่ยเรียกเสียงแผ่ว ก่อนจะเข้าไปสวมกอดร่างบางอย่างหาที่พึ่ง

         “ไม่เป็นไรฮะพี่ดงเฮ คุณฮีชอลต้องปลอดภัยฮะ”คยูฮยอนปลอบเสียงแผ่ว แม้ว่าในใจจะยังคงกังวลอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

         “แต่...พ่อเข้าไปหลายชั่วโมงแล้วนะ ฮึก...”

         “ไม่เป็นไรฮะ...ไม่เป็นไร”คยูฮยอนลูบหลังเบาๆ ก่อนจะมองไปยังประตูห้องไอซียู

         ท่ามกลางบรรยากาศที่อึมครึม มีเพียงซองมินเท่านั้นที่มองคยูฮยอนอย่างสนใจ เพราะใบหน้าหวานนั้นคลับคล้ายคลับคลาใครบางคนในอดีต ลักษณะท่าทางยิ่งเหมือนกัน ทำให้ซองมินรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพียงแค่คิดคุณหมอก็เดินออกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล

         “คุณพ่อปลอดภัยแล้วใช่มั้ยฮะคุณหมอ!”ดงเฮถลาเข้าไปถามอย่างตื่นๆ

         “คนไข้เสียเลือดมาก ทางเราต้องการเลือดด่วนเลยครับ”

         “เลือดของผมก็ได้นะฮะ”ดงเฮบอก พร้อมเลิกแขนเสื้อขึ้นจนถึงข้อศอก แต่กระนั้นสีหน้าของคุณหมอก็ยังดูเป็นกังวลอยอยู่ดี

         “มีอะไรหรือครับคุณหมอ”ซองมินถาม

         “ทางเราไม่แน่ใจว่าคุณจะให้ได้รึเปล่า”

         “ทำไมล่ะฮะ ผมเป็นลูกของเขา”ดงเฮถามอย่างสงสัย

         “กรุ๊ปเลือดของผู้ป่วยเป็นกรุ๊บเลือดหายากมาก เป็นกรุ๊ป AO- ซึ่งมีแต่ทายาททางสายเลือดเท่านั้นที่มี”คุณหมอบอก

         ดงเฮตาโตเบิกกว้าง ก่อนจะทรุดนั่งลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง เพราะร่างบางมีกรุ๊ปเลือดไม่ตรงกับบิดา และไม่ต่างกับซองมินที่ใบหน้าซีดเซียว ร่างกายเหมือนอ่อนแรงทันทีจนต้องนั่งลงกับเก้าอี้อย่างหมดหวัง

         คยูฮยอนชักสีหน้าสงสัย ก่อนจะยกมือขึ้น

         “ผมมีเลือดกรุ๊ปเดียวกันฮะ”เสียงหวานว่า ทำให้ทุกคนถึงกับหันมามองอย่างแปลกใจ

         “คยู...”ซีวอนคราง ไหนบอกว่าต้องเป็นผู้สืบทายาททางสายเลือดเท่านั้น แล้วทำไมถึงได้...ชายหนุ่มคิดอย่างแปลกใจ พลางมองคนตัวเล็กไม่วางตาอย่างสงสัย

         “งั้นเชิญครับ ขอตรวจเลือดอย่างละเอียดด้วยนะครับ”หมอหนุ่มกล่าวอย่างเร่งรีบ

         “ได้ฮะ”คยูฮยอนพยักหน้า แล้วเดินตามคุณหมอไป ทิ้งความสงสัยไว้ในใจของใครหลายคน...

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         คยูฮยอนเดินตามหมอเข้าไปในห้อง ก่อนจะทำการตรวจเลือด จากผลตรวจที่ได้คุณหมอขมวดคิ้วขึ้น ก่อนจะเรียกพยาบาลเข้ามาในห้อง

         “มีอะไรคะคุณหมอ”

         “คุณพยาบาล ช่วยพาคุณคยูฮยอนไปตรวจปัสสาวะทีครับ”

         “ได้ค่ะ เชิญค่ะคุณคยูฮยอน”พยาบาลสาวหันมายิ้มให้เด็กหนุ่มอย่างเป็นมิตร และแม้ว่าคยูฮยอนจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องตรวจปัสสาวะด้วย แต่ก็ได้แต่เดินตามพยาบาลไป

         หลังจากที่เก็บตัวอย่างปัสสาวะเสร็จ คยูฮยอนก็นั่งรอผล จนกระทั่งคุณหมอเรียก

         “มีอะไรรึเปล่าฮะคุณหมอ”

         “อืม...มีแน่ๆ ครับ ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย”

         คิ้วสวยขมวดขึ้นอย่างงงๆ ทำไมต้องแสดงความยินดี นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะแสดงความยินดีได้เลย

         “แสดงความยิน...เรื่องอะไรเหรอฮะ

         “คุณตั้งครรภ์ครับ

         “ตั้งครรภ์...ท้องน่ะเหรอฮะ!!”ร่างบางกล่าวอย่างตกใจ

         “ครับ สี่สัปดาห์แล้ว คุณคงบริจากเลือดไม่ได้แล้ว”

         ร่างบางนั่งหน้าซีด นี่เขาท้องเหรอ เขากำลังจะเป็นแม่คน...ฝ่ามือเล็กลูบหน้าท้องของตัวเอง ความรู้สึกหลายอย่างประเดประดังเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งตื่นเต้น ดีใจ และเสียใจที่ไม่อาจให้เลือดกับฮีชอลได้

         ขณะที่ร่างบางกำลังจมสู่ความคิดของตน พยาบาลสาวก็พรวดพราดเข้ามา ใบหน้าหอบราวกับเพิ่งผ่านกันวิ่งมาพันเมตร

         “คุณหมอคะ...แฮ่กๆ”

         “เอ้าใจเย็นๆ ครับ มีอะไร”

         “คือทางเราสามารถติดต่อกับโรงพยาบาลที่คุณฮีชอลเคยไปบริจาคเลือดได้แล้วค่ะ”

         “จริงหรือ!”คุณหมอถามอย่างตกใจ

         “จริงค่ะ ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เลือดก็จะมาถึงค่ะ”

         “พระเจ้าเข้าข้างเราแล้ว รีบไปเถอะ”คุณหมอพยักหน้าให้กับพยาบาลสาว ก่อนจะรีบลุกออกไป

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         ซีวอนที่ยืนรออยู่ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ วิ่งตรงมายังห้องไอซียู ภาพตรงหน้าคือคุณหมอที่วิ่งหน้าตื่นมา ตามด้วยพยาบาลสาวที่วิ่งตาม

         “มีอะไรรึเปล่าครับคุณหมอ”ซีวอนคว้าแขนหมอไว้ก่อนถามขึ้น

         “ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องใช้เลือดของคุณคยูฮยอนแล้วครับ เพราะเราได้รับกรุ๊ปเลือดที่มีตรงกันมาแล้ว”แต่ไม่ทันได้พูดอะไรมาก คุณหมอก็วิ่งเข้าไปในห้องไอซียู

         ซีวอนมองอย่างสงสัย ก่อนจะเหลือไปเห็นคยูฮยอนที่เดินหน้าซีดมา ร่างสูงจึงสาวเท้ายาวๆ เพื่อไปรับเด็กหนุ่ม ซีวอนเข้าประครองร่างของคยูฮยอนเบาๆ ให้มานั่งลงที่เก้าอี้

         “เป็นอะไรไปคยู ทำไมหน้าซีด”ซีวอนถามอย่างเป็นห่วง

         นัยน์ตาสวยช้อนมองร่างที่นั่งลงตรงหน้า ก่อนจะหลุบตาลง

         “ผม...

         “.....”ชายหนุ่มนิ่งเงียบรอฟังคำตอบ

         ร่างบางมองชายหนุ่มตรงหน้า ตระหนักว่าหากไม่บอกตอนนี้ ยังไงต่อไปก็คงจะต้องรู้อยู่ดี แต่ถ้าบอก...เด็กหนุ่มก็คงไม่พ้นต้องกลับไปอยู่กับเขา คยูฮยอนไม่อยากเจ็บแบบนั้นอีกครั้ง แม้ว่าจะรับรู้ความจริงทุกอย่างแล้วว่ามันเป็นแผนการของซูยอนที่ต้องการให้เด็กหนุ่มกับซีวอนแตกหักกัน แต่ความร้ายกาจของเขาในครั้งนั้น เด็กหนุ่มไม่อาจลืมได้เลย

         แต่เมื่อคิดถึงความรักของเขาแล้ว หัวใจของคยูฮยอนกลับให้อภัยอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง... คยูฮยอนสูดหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ

         “ที่ผมให้บริจาคเลือดไม่ได้เป็นเพราะ...ผม...ท้องฮะ”ร่างบางกลั้นใจบอก ก่อนจะจ้องดูปฏิกริยาของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ซีวอนตาโตเมื่อได้ฟังในสิ่งที่ได้ยิน ราวกับตัวเองตกอยู่ในความฝันจึงได้ถามซ้ำอีกครั้ง

         “ว่า...อะไรนะ”

         คยูฮยอนเริ่มใจไม่ดีเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำสีหน้าตกใจ ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร อย่างไร

         “ผมท้องฮะ...ผมกำลังจะมีลูกับ...

         “กับฉัน! นี่ฉันไม่ได้หูฝาดใช่มั้ย!”ซีวอนร้องเสียงดังพร้อมกับยืนขึ้นทำให้ทุกคนหันมามอง

         “เป็นอะไรเหรอฮะพี่ซีวอน”ดงเฮถามอย่างสงสัย เมื่อซีวอนร้องเสียงดัง

         “คยูท้อง!”ซีวอนตอบเสียงดังอย่างลืมตัว

         “จริงเหรอฮะ!”ดงเฮทำสีหน้าตกใจเมื่อได้ยินว่าคยูฮยอนท้อง ก่อนจะหันไปมองคยูฮยอน

         “จริงฮะ”คยูฮยอนยืนยันด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี

         “อย่างงั้นก็ดีสิ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยทีเดียว”ซองมินพูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก แม้ว่าจะดีใจกับข่าวดีนี้ แต่ในใจก็เป็นห่วงสามีไม่น้อยไปกว่ากัน

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         เวลาได้เดินไปอย่างช้าๆ แต่ในใจของทุกคนต่างเต้นแรงไม่หยุด ด้วยความเป็นห่วงฮีชอลที่เข้ารับการผ่าตัดด่วนร่วมสองชั่วโมงแล้ว แต่ไม่มีท่าทีว่าจะรู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไร ทำเอาทุกคนนั่งไม่ติด โดยเฉพาะดงเฮที่เดินเป็นหนูติดจั่นอยู่หน้าห้อง จนกระทั่งจองซูและยองอุนเดินทางมาถึง สีหน้าของทั้งคู่ก็ไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก เพราะตั้งแต่รู้ข่าวทั้งคู่ก็รีบมาทันที แต่ติดที่ปัญหาจราจรทำให้ล่าช้า ทำให้พลาดข่าวดีอย่างน่าเสียดาย

         “คุณฮีชอลเป็นอย่างไรบ้างครับคุณซองมิน”จองซูถามอย่างเป็นห่วง

         “ผมก็ยังไม่ทราบครับ นี่ก็เข้าไปสองชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีวี่แววอะไรเลย”

         “คุณฮีชอลต้องไม่เป็นอะไรครับ”จองซูพูดให้กำลังใจ ก่อนจะส่งยิ้มให้กำลังใจทั้งซองมินและดงเฮ แต่ไม่ทันได้ถามไถ่อะไรมาก คุณหมอก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน จากนั้นก็ถูกถามเป็นการใหญ่

         “สามีผมเป็นอย่างไรบ้างครับ”

         “ตอนนี้คุณฮีชอลพ้นขีดอันตรายแล้วครับ โชคดีที่ได้รับเลือดทัน แต่คงต้องรอดูอาการสักสองสามวันนะครับ”

         “ครับ”

         “งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”

         “ขอบคุณครับคุณหมอ”ซองมินกล่าวขอบคุณ สีหน้าโล่งอก

         “โล่งอก...”คยูฮยอนพูดขึ้นลอยๆ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงดื้อๆ ทำเอาซีวอนถึงกับสะดุ้งที่คยูฮยอนทิ้งตัวนั่งลงแรงขนาดนั้น

         “อย่านั่งลงแรงสิ เดี๋ยวกระเทือนหรอก”ซีวอนดุ  แล้วนั่งลงข้างๆ คยูฮยอน ยองอุนและจองซูมองลูกชายตัวเองอย่างงงๆ ซองมินเห็นดังนั้นจึงเข้ามาแสดงความยินดี

         “ยินดีด้วยนะครับ ตอนนี้หนูคยูท้องแล้วครับ”ยองอุนตาโตก่อนมองซีวอนที่นั่งประคบประหงมภรรยาจนออกนอกหน้า

         “จริงหรือ!”

         “จริงสิพ่อ คราวนี้รออีกไม่กี่เดือนเดี๋ยวก็ได้อุ้มหลานแล้ว บอกแล้วว่าเชื้อไม่ทิ้งแถว ฮึๆ”ซีวอนว่า แถมยังยิ้มไม่หุบ เลยโดนคยูฮยอนแจกฝ่ามือไปด้วยเพราะความเขิน

         “พี่ซีวอนบ้า!”

         “ฮ่าๆๆๆๆ”

         นับว่าเป็นข่าวดีสองต่อเลยก็ว่าได้ ทั้งเรื่องทายาทของตระกูลชเว และเรื่องที่ฮีชอลปลอดภัยแล้ว...

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         อาการของฮีชอลค่อยๆ หายเป็นปกติ แต่ก็ต้องนอนดูอาการในโรงพยาบาล และดูเหมือนว่าความสงสัยของซีวอนนั้นจะดูรุนแรงเป็นพิเศษเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างฮีชอลกับคยูฮยอน จากที่ได้ฟังตามที่หมอบอกแล้ว เลือดกรุ๊ปนี้นอกจากทายาททางสายเลือดแล้ว ยังเป็นกรุ๊ปหายากอีกด้วย ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า คยูฮยอนมีที่มายังไงแน่ ทำไมครอบครัวของฮีชอลถึงได้ทิ้งเด็กหนุ่ม ถ้าหากเป็นคนหนึ่งในสายเลือดของตระกูลนี้

         ความสงสัยคงไม่กระจ่างแน่ ถ้าไม่มีการพิสูจน์!

         ว่าแล้วร่างสูงก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังห้องของหมอที่เคยตรวจเลือดให้กับคยูฮยอน

         ก๊อกๆๆ

         ซีวอนเคาะประตูห้อง

         “เชิญครับ”เสียงตอบรับดังมาจากข้างใน ขายาวก้าวเข้าไม่ในห้องไม่เร่งรีบอย่างที่ผ่านมา

         “อ้าวคุณซีวอนนั่นเอง มีอะไรหรือเปล่าครับ”คุณหมอถามเสียงนุ่ม พร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเป็นมิตร

         “ครับ...คือผมสังสัยเกี่ยวกับคยูฮยอน ภรรยาของผมน่ะครับ”

         “เรื่องอะไรครับ”

         “เรื่อง...เลือดของคยูฮยอนน่ะครับ ผมอยากรู้ว่าภรรยาผมเกี่ยวข้องกับคุณฮีชอลรึเปล่า”ซีวอนพูดตามความจริง

         “ครับ ถ้าถามหมอ หมอก็บอกได้แค่ว่ามีโอกาสสูงที่จะเป็นทายาททางสายเลือดโดยตรง หรือไม่ก็ญาติสนิท หรือโอกาสน้อยที่สุดคือไม่เกี่ยวข้องกันเลย เพราะบางตระกูลก็จะมีกรุ๊ปเลือดพิเศษแบบนี้ แต่หาได้ยากมากครับ”

         “ผมอยากตรวจดีเอ็นเอ”ชายหนุ่มบอกเสียงเบา

         “ครับ ถ้าอยากตรวจ คุณก็ต้องใช้เส้นผม หรือไม่ก็เลือด”

         “ถ้าเป็นเลือดผมว่าคุณหมอน่าจะมีนะครับ ทั้งของคยูฮยอนและคุณฮีชอล ที่ผมอยากตรวจก็เพราะอยากรู้ว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่”ซีวอนพูดอย่างมีความนัยแอบแฝง

         คุณหมอทำสีหน้าบอกไม่ถูกเล็กน้อย ก่อนพยักหน้าเป็นอันเข้าใจ

         “ครับ...อีกสามงวันคุณมารับผลตรวจได้เลย”

         “ครับ งั้นผมขอตัวก่อน”

         “เชิญครับ”

         ซีวอนเดินมาจนถึงหน้าห้องที่ฮีชอลพักอยู่ ก่อนมองลอดกระจกเห็นดงเฮและคยูฮยอนกำลังพูดหยอกล้อกันกับฮีชอลอย่างสนุกสนาน สายตาของเขาตอนนี้มีความรู้สึกที่บอกไม่ถูกอยู่ในใจ จนกว่าจะได้รับคำตอบบางอย่าง

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         สามวันต่อมา

         แม้ว่าคยูฮยอนจะยังพักอยู่ที่บ้านใหญ่ แต่ซีวอนก็ยังคอยเทียวไปเทียวมาไม่ขาด เพราะเขาจะมารับคยูฮยอนไปอยู่กับดงเฮที่คอยเฝ้าดูอาการของฮีชอลอย่างใกล้ชิด และตอนนี้ฮีชอลก็หายเกือบเป็นปกติแล้ว อีกไม่กี่วันก็กลับบ้านได้ แต่สำหรับซีวอนวันนี้จะเป็นวันที่ทุกอย่างได้กระจ่างแจ้งแก่ในใจของเขาเสียที

         ซีวอนส่งคยูฮยอนแค่ห้องพักของฮีชอลก่อนจะรีบออกมา คยูฮยอนก็มองตามหลังอย่างงงๆ เมื่อเห็นคนเป็นสามีรีบร้อนออกไป แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก ชายหนุ่มเดินมาหยุดตรงหน้าห้องของหมอที่เขานัดเอาไว้

         ก๊อกๆๆ

         “เชิญครับ”

         ซีวอนรีบเปิดประตูเข้าไปข้างในอย่างใจร้อน

         “อ้าวคุณซีวอน สวัสดีครับ”คุณหมอทักทายด้วยรอยยิ้ม

         “ผมมารับผลตรวจ”

         “อย่าเพิ่งใจร้อนสิครับ”คุณหมอพูดอย่างติดตลก ก่อนจะหยิบแฟ้มบางอย่างให้ซีวอน ซีวอนหยิบมาดูแล้วเปิดออก เขาหยิบเอาเอกสารภายในออกมาอ่านอย่างระทึกใจ

         “ผลตรวจออกมาว่า คุณคยูฮยอนและคุณฮีชอลมีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดครับ

         สิ้นเสียงของหมอ ซีวอนรู้สึกเหมือนมีฟ้าผ่าลงกลางศีรษะ ในใจรู้สึกสับสนอย่างหนัก ความสงสัยมากมายถาโถมเข้ามาในจิตใจของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน เมื่อรู้ตัวเขาก็รีบวิ่งออกจากห้องนี้ทันที เขาควรบอกเรื่องนี้ให้แก่ฮีชอลทราบ ขายาวก้าวมาหยุดตรงหน้าประตู ก่อนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด

         ประตูห้องถูกเปิดออกทำให้ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องหันไปมอง ปรากฏว่าเป็นซีวอนที่เดินเข้ามา ฮีชอลมองสีหน้าของซีวอนออกว่าต้องการพูดอะไรกับเขา

         “อ้าวคุณซีวอน มาแล้วเหรอครับ อ้อใช่...ดงเฮ ตอนนี้พ่ออยากกินทาร์ตผลไม้จังเลย ช่วยไปซื้อให้หน่อยได้มั้ย”ดงเฮหันไปบอกลูกชาย

         ดงเฮมองบิดาอย่างงงๆ เมื่ออยู่ดีๆ เกิดอยากกินทาร์ตผลไม้ขึ้นมา แต่ก็ยอมเดินออกจากห้องไป เพราะคิดว่าบิดาคงจะมีเรื่องบางอย่างจะคุยกับซีวอนเป็นการส่วนตัวแน่ ฉะนั้นลากคยูฮยอนไปด้วยก็ดี

         “ได้ฮะ คยูไปกับพี่ด้วยนะ”ดงเฮหันไปพูดกับคยูฮยอน คยูฮยอนที่ไม่รู้เรื่องอะไรจึงตอบตกลง

         “ได้ฮะพี่ดงเฮ”แล้วสองสาว(?)ก็ลุกเดินออกไปจากห้อง เหลือเพียงฮีชอลและซีวอน

         “เอ้า มีอะไรก็ว่ามาเลย”ฮีชอลพูดขึ้น พร้อมกับขยับตัวให้ลุกกึ่งนั่งกึ่งนอน

         ซีวอนมองชายวัยกลางคนตรงหน้า แม้จะเรียกได้ว่าครอบครัวของเขากับตระกูลคิม(ของฮีชอล) จะสนิทกันมาก แต่ก็ยังคงมีความเกรงใจกันเป็นส่วนหนึ่ง เพราะไม่เคยคิดจะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันอยู่แล้ว แต่นี่เป็นเรื่องของภรรยาของเขา จะให้เขาอยู่เฉยได้อย่างไร เป็นตายยังไงก็ต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมถึงได้ทิ้งคยูฮยอนให้อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทำไมถึงทอดทิ้งเด็กหนุ่ม

         “ผมมีบางอย่างจะให้คุณดู”แล้วก็ยื่นซองสีน้ำตาลแก่ฮีชอล ฮีชอลรับมาอย่างไม่เข้าใจ

         “นี่อะไร”

         “ผลการตรวจดีเอ็นเอครับ”ชายหนุ่มตอบเสียงอ่อน

         “ผมต้องขอโทษด้วยที่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคุณ...”

         ฮีชอลมองซีวอนก่อนหลุบตาลงมองเจ้าซองสีน้ำตาลในมือ และแกะออกเพื่อดูเอกสารในซองนั้น

         “มันคือผลตรวจระหว่างคุณกับ...คยูฮยอน

         “คยูฮยอน?”

         “ครับ”

         “ผลล่ะ”ฮีชอลกล่าวอย่างตื่นเต้น กวาดสายตาหาผลการตรวจ

         “ครับ คยูฮยอนกับคุณมีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดจริงๆ บางทีอาจจะเป็น...

         “ลูกชายของฉัน”ฮีชอลพูดตัด ทำให้ซีวอนมองอย่างงงๆ ฮีชอลเงยหน้าขึ้นมาสบตากับซีวอน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

         “เด็กคนนั้นต้องเป็นลูกชายของฉันกับอาราแน่ๆ”แม้ว่าน้ำเสียงจะดูขาดความมั่นใจ แต่ในใจนั้นกลับมั่นใจมาก

         “ใครคืออาราครับ”ซีวอนถาม ฮีชอลมองหน้าชายหนุ่ม ก่อนตัดสินใจเล่าเรื่องในอดีตของตนให้ฟัง

         “อารา...คืออดีตคนรักของฉันก่อนที่ฉันจะแต่งงานกับซองมิน อารากับฉันเรารักกันมาก แต่คุณแม่ฉันไม่เห็นด้วย เพราะท่านคิดว่าอาราต่ำต้อยเกินไป จึงจับฉันแต่งงานกับซองมิน ซึ่งซองมินความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้รักฉันเลย ทางนั้นก็ถูกจับแต่งเหมือนกัน”

         สายตาหม่นของฮีชอลหรี่ลง เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เจ็บปวดในวันวาน

         “เราแต่งงานกันแต่ฉันก็ยังคงไปหาอาราอยู่ไม่ขาด ถึงขั้นเอามาอยู่ในบ้านด้วยเลยล่ะ คุณแม่ไม่พอใจฉันมาก คอยกลั่นแกล้งอาราตลอดเวลา แต่ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก มีแต่ซองมินนี่แหละที่คอยช่วยอารา จนกระทั่งคุณแม่บ่นว่าอยากอุ้มหลาน แต่เป็นลูกของฉันกับซองมินเท่านั้น และไม่นานซองมินก็ท้อง คุณแม่พอใจมาก ความจริงแล้วฉันไม่ได้มีอะไรกับซองมินหรอก ซองมินขอทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งฉันก็เข้าใจดี”

         ฮีชอลสูดหายใจลึกเก็บกดความเสียใจ ภาพความหลังย้อนคืนกลับมาเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน

         “แต่แล้วเมื่อซองมินใกล้จะคลอด อาราเธอก็ท้อง คุณแม่รู้เข้าจึงโกรธจัดคิดว่าที่อาราท้องเพราะต้องการจะจับฉันให้ได้ จนกระทั่งซองมินคลอดดงเฮออกมา ไม่กี่วันอาราก็หายออกไปจากบ้าน หายไปอย่างไร้ร่องรอย คุณแม่บอกว่าเธอหนีไปกับชู้ เด็กในท้องนั่นก็ไม่ใช่ลูกฉัน”

         ถึงตอนนี้ชายวัยกลางคนยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอ ซีวอนยืนมองนิ่งด้วยความเห็นใจคนตรงหน้า รอรับฟังเรื่องราวที่เขากำลังจะเล่าต่อ

         “ตอนนั้นฉันโง่มากที่เชื่อ ก็คุณแม่มีหลักฐานเป็นรูปของอาราเยอะแยะ แต่ไม่นานฉันก็เริ่มคิดได้ จึงถามกับคุณแม่ว่าอาราไม่ได้มีชู้ใช่มั้ย ในที่สุดท่านก็บอกความจริงกับฉันมา ฮึ! แม่ไล่อาราออกจากบ้านไปทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอท้อง...”ฮีชอลเล่าไปด้วยเสียงสั่นเครือ นัยน์ตาคลอใสไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความเศร้าและโกรธเกลียดตัวเองที่ช่วยอะไรคนรักและลูกไม่ได้เลย

          “แล้วหลังจากนั้นล่ะครับ”ซีวอนถาม เขารู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก

          “ฉันตามหาเธอเป็นบ้าเป็นหลัง แต่ก็ไม่พบวี่แววอะไรเลย ฉันหมดหนทางเมื่อรู้ว่าเธอคลอดลูกตายอย่างโดดเดี่ยว และทุกอย่างก็จบลงแค่นั้น ฉันเป็นพ่อที่แย่จริงๆ ไม่มีโอกาสเลี้ยงดูอุ้มชู ไม่เคยแม้แต่จะได้เห็นหน้าสายเลือดของตัวเอง

     

    +++++++++++++

    จบไปแล้วอีกตอน~~ เอาล่ะค่ะรีดเดอร์ทูกโคน~~ เหลืออีกเพียงแค่ตอนเดียวฟิคเรื่องนี้ก็จะจบอย่างสมบูรณ์แล้ว ถ้าฉะนั้นไรท์เตอร์ขอตัวไปปั่นตอนจบก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวเจอกันในตอนจบค่ะ บ๊ายบาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×