ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิทานก่อนนอนของคิม จงแด

    ลำดับตอนที่ #16 : [SuChen] The Melody [End]

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 57


    Tag: The Melody

    Paring: SuChen

    Tag: Drama

    Note: เรากลับมาดราม่ากันสักหน่อยค่ะ

     

     

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

     

     

              เพลงที่คุณแต่งให้ฉันในวันวาน

              ในวันนี้เพลงนั้นกลายเป็นของใครอื่นที่ไม่ใช่ฉัน

              หากฉันจะถามประโยคนี้กับคุณอีกครั้ง คุณจะตอบฉันมั้ย...

                เรายังรักกันอยู่มั้ย?

     

              ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปสักกี่วัน กี่เดือน กี่ปี คิม จุนมยอนก็ยังคงไม่สามารถชินกับชีวิตที่ขาดคิม จงแดได้สักที ร่างสูงโปร่งของนักไวโอลินหนุ่มชื่อดังเดินเข้ามาในโรงเรียนสอนดนตรีของเพื่อนรักด้วยสีหน้าเรียบเฉยดังเช่นทุกวัน

     

              จุนมยอนรู้ดีว่าที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ล้วนมาจากการกระทำของเขาเองทั้งสิ้น เพราะเขาโลภ และมักมาก ทำให้เขาต้องสูญเสียคนที่รักเขาและเขารักไปมากอย่างไม่มีวันหวนกลับ คนๆ นั้นทิ้งเขาเอาไว้กับความเดียวดายไร้ซึ่งคนให้ปรึกษายามที่เขาท้อแท้ ไร้ซึ่งคนอยู่เคียงข้างเมื่อเขาต้องการใครสักคน แต่ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นผลกรรมที่มาจากการกระทำของเขา และเขาก็ยอมรับมัน...

     

              “สวัสดีค่ะคุณจุนมยอน”ประชาสัมพันธ์สาวเอ่ยทักทายทันทีเมื่อเห็นว่าครูสอนไวโอลินชื่อดังประจำอคาเดมี่และเป็นเพื่อนสนิทของคุณเจ้าของอคาเดมี่เดินเข้ามาข้างใน

     

              “ครับ เช่นกันครับคุณซุนคยู วันนี้นักเรียนผมเป็นใครครับ”ตอบรักทักทายอย่างไม่อยากให้เสียมารยาท พลางนั่งลงตรงเคาท์เตอร์ตรงข้ามกับประชาสัมพันธ์สาว เธอยิ้มให้ก่อนจะหมุนเก้าอี้ของเธอหันไปยังด้านหลังที่มีแฟ้มเอกสารเล่มหน้าตั้งไว้เกือบสิบๆ อัน

     

              “นี่ค่ะ....”เธอส่งกระดาษที่มีรายละเอียดของนักเรียนของเขาทั้งหมดให้ จุนมยอนพยักหน้ารับพึมพำเบาๆ เป็นการขอบคุณก่อนจะอ่านรายละเอียดในกระดาษเอสี่สีขาวและตรงไปยังห้องเรียนทันที

     

              คิม จินยอน อายุ 7 ปี เพศ หญิง เครื่องดนตรีที่เลือกเรียน ไวโอลิน

     

    จุนมยอนเลือกที่จะอ่านประวัตินักเรียนใหม่ของเขาคร่าวๆ ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองรึเปล่านะ แต่ภาพของเด็กหญิงตัวเล็กยิ้มจนตาปิดทำให้เขานึกถึงคนๆ นั้นไม่น้อย... เพราะอะไรหลายๆ อย่างที่คล้าย...คล้ายกับคิม จงแดเหลือเกิน...

     

    หากแต่เสียงไวโอลินแหลมสูงแต่ถูกกดให้นุ่มหูน่าฟังถูกบรรเลงให้เป็นทำนองหวานๆ เสียงสีไวโอลินนุ่มหวานที่กำลังบอกเล่าเรื่องราวความรักของชายหญิงคู่หนึ่ง ช่วยดึงห้วงความคิดของจุนมยอนให้หลุดไปด้วย ดนตรีเพลงๆ นี้เหมือนกับเพลงนั้น... เพลงที่เขาแต่งให้กับคนที่เขารักที่สุด เมื่อวันครบรอบคบกันสองปี

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

    [Load 10%] ก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวถ้าพรุ่งนี้ไรท์ไม่ติดงานจะมาลงต่อนะคะ {140122}
     

    [Continue] กลับมาต่อแล้วนะค้า~~

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

              หลายปีก่อนหน้านี้...

     

              14 มีนาคม...

     

              “ทำอะไรอยู่ฮะพี่จุนมยอน~~~”เสียงหวานเอ่ยร้องเรียกคนรักที่นั่งหลับตาพริ้มนิ้วเรียวพรมลงไปบนคีย์เปียโนของแกรนด์เปียโนสีขาวที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้องรับแขกของบ้านสามชั้นหลังงามแถบชานเมือง

     

              “เมโลดี้นี่เพราะมั้ยครับจงแด”ร่างโปร่งไม่ตอบแต่ถามกลับแทนพลางกดคีย์เปียโนเป็นเมโลดี้ง่ายๆ สบายหู ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย

     

              “เพราะจังเลยฮะ ความหมายดีมากๆ ด้วย”ร่างบางเอ่ยตอบพลางสวมกอดเข้าที่ลำคอของคนตัวขาวแผ่วเบา ร่างสูงหันมาหอมแก้มนุ่มของคนรักเบาๆ หนึ่งทีก่อนที่จะวางมือทั้งสองข้างลงบนแป้นคีย์และเริ่มบรรเลงเพลงที่มีเมโลดี้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเพลง ร่างบางหลับตาพริ้มพลางฮัมเนื้อเพลงคลอให้เข้ากับบทเพลงรักที่คนรักของตนเป็นผู้แต่ง บรรยากาศภายในบ้านสามชั้นหลังงามอบอวลไปด้วยความสุข

     

              แต่ใครเหล่าจะรู้ว่าความสุขจะอยู่กับเราไปอีกนานเท่าใดกัน...

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

              วันนี้คือการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของคิม จุนมยอน เมื่อนักประเพลงชื่อดังของเกาหลี ยื่นข้อเสนอให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของอีกฝ่าย แล้วอีกฝ่ายจะทำให้เขาเป็นนักเปียโนชื่อดังระดับโลก ข้อเสนอนั้นทำให้ความโลภเขาครอบงำเขา เขาเลือกที่จะทำเพื่อชื่อเสียงของตัวเองโดยไม่สนว่าใครอีกคนที่เป็นทั้งชีวิตและหัวใจของเขาจะต้องเสียใจมากแค่ไหน

     

              “จงแด...เราเลิกกันเถอะ”จุนมยอนเอ่ยบอกเลิกคนรักในวันครบรอบคบกันสี่ปี ดวงตาหวานเบิกกว้างมือบางที่กำลังตีแป้งในถ้วยส่วนผสมชะงักค้าง จงแดคงไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เขาเองก็ไม่คิดเช่นกัน หากแต่ความทะเยอทะยานของเขากำลังบังตาเขา

     

              “พ...พี่ล้อเล่นใช่มั้ย...”ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า น้ำเสียงหวานๆ ของนักร้องเดี่ยวที่กำลังมีชือเสียงสั่นพร่าด้วยความตกใจ

     

              “พี่พูดจริง อีกสองอาทิตย์...พี่จะแต่งงานซอลรี ยังไงก็...อย่าลืมมานะ”ร่างโปร่งว่าเสียงเรียบพยายามใจแข็งต่อน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลอย่างช้าๆ มือหนาล้วงเอาการ์ดแต่งงานดูเรียบๆ แต่หรูหรามาวางบนเคาท์เตอร์เบาๆ ก่อนจะหันหลังกลับออกไป เพราะจากวันนี้ไปเขาจะต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านซอลรีเป็นการถาวร ส่วนบ้านหลังนี้ แม้จะช่วยกันซื้อแต่เขาก็เลือกที่จะยกให้คนรักของเขาไปอย่างไม่มีข้อแม้ ถือเป็นของขวัญต่างหน้าจากเขา

     

              “ฮึก พี่จุนมยอน ไม่ไปได้มั้ยฮะ ฮือ..”ร่างเล็กสะอึกสะอื้น เรียวแขนเล็กทั้งสองข้างสวมกอดเข้าที่เอวของเขาแน่น ร่างสูงรู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย จุนมยอนรู้สึกลังเลกับการที่จะต้องปล่อยมือจากคนที่เขารักมาที่สุด หากแต่...

     

              “จุนมยอนคะ ยังร่ำรากันไม่เสร็จอีกเหรอคะ”เสียงหวานของชเว ซอลรีเอ่ยขึ้น เสียงส้นสูงกระทบมาตามพื้นกระเบื้องขัดเงา ก่อนจะเผยให้เห็นการปรากฏตัวของหญิงสาวร่างโปร่งในชุดเสื้อโค้ทสีหวาน ที่ช่วยให้การตัดสินใจทุกอย่างของจุนมยอนง่ายขึ้น

     

              “เสร็จแล้วครับซอลรี เราไปกันเถอะ ผมอยากกลับไปเล่น [Love] ให้คุณฟังจะแย่แล้ว”ร่างโปร่งรีบตรงไปหาคนรักใหม่อย่างรวดเร็วแสร้งทำเป็นพูดด้วยน้ำเสียงมีความสุขก่อนจะโอบเอวบางของชเว ซอลรีออกจากบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำของอดีตคนรักของเขาเต็มไปหมด และเขาเลือกที่จะไม่หันกลับมามองมันอีก...

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

    [Loading 25%] กลับมาต่อแล้วค่า~~~ ขอโทษที่หายไปนานนะคะ พอดีช่วงก่อนหน้านี้ไรท์วุ่นๆ กับงานที่โรงเรียนอ่ะค่ะ แถมช่วงนี้ยังมาไม่สบายอีกแหะๆ แต่สัญญาค่ะว่าพรุ่งนี้จะรีบกลับมาต่อให้มากที่สุดค่ะ ถ้าเป็นไปได้พรุ่งนี้จะพยายามให้จบตอนนะคะ

    แล้วก็ใครที่สนใจรวมเล่มออลจงแด ยังเปิดจองอยู่นะคะ ลิงค์ด้านล่างเลยค่ะ!

    รวมเล่มออลจงแด

    แล้วก็สำหรับคนที่อยากจะเช็ครายละเอียดการจองลิงค์ด้านล่างค่ะ สามารถแก้ไขได้เลยนะคะ

    รายละเอียดการจอง

    ไรท์ไปนอนล่ะ ซัลจาโยค่ะรีดเดอร์ทุกคน {140201}
     

    [Continue] กลับมาต่อแล้วค่า ขอโทษที่หายไปนานนะคะ

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

              “คุณครูคะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ”เสียงหวานของเด็กหญิงตัวน้อยถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าคุณครูหนุ่มดูจะเหม่อนานไปหน่อย จุนมยอนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะตอบให้เด็กหญิงตัวน้อยคลายความกังวล

     

              “ปละ...เปล่าครับ ครูไม่ได้เป็นอะไรครับ จินยอนครับ ใครสอนหนูเล่นเพลงนี่เหรอครับ”ร่างโปร่งปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้ม เอ่ยถามเด็กหญิงตัวน้อยที่เก็บไวโอลินลงกล่องด้วยความถนุถนอม

     

              “คุณแม่ค่ะ คุณแม่บอกว่าคุณพ่อชอบเล่นไวโอลินมาก คุณแม่เลยอยากให้หนูเล่นไวโอลินเหมือนคุณพ่อคะ”พอได้เอ่ยถึงคุณแม่แล้วเด็กหญิงก็ยิ้มออกมาทันที พอได้เห็นเด็กคนนี้ยิ้มจุนมยอนรู้สึกเอ็นดูแกไม่น้อย

     

              “หืม...แล้วตอนนี้หนูอยู่กับใครครับ”ร่างโปร่งเอ่ยถามพลางค้นหาโน้ตเพลงง่ายๆ ให้เด็กหญิง จินยอนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตอบ

     

              “คุณแม่ค่ะ แต่ช่วงนี้คุณแม่ไปทำงานนอกบ้านหนูก็เลยต้องอยู่กับคุณน้าคะ”เด็กหญิงว่าพลางหันมารับโน้ตเพลงจากจุนมยอนหลังจากเก็บไวโอลินเรียบร้อยแล้ว

     

              “แล้วคุณพ่อของหนูล่ะครับ”จุนมยอนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอยากจะรู้เรื่องของเด็กคนนี้ไปทำไม ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกันแต่เขาก็เอ็นดูเด็กคนนี้มากกว่านักเรียนคนไหนๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ อะไรในตัวจินยอนหลายๆ อย่างบอกเขาว่าเด็กคนนี้ต้องเป็นลูกของคนๆ นั้น

     

              “หนูไม่เคยเจอคุณพ่อหรอกค่ะ แม้แต่รูปก็ไม่เคยเห็น คุณแม่บอกว่าคุณพ่อเขาไม่รักเราเลยไม่อยู่กับเราค่ะ”สิ้นคำบอกเหล่าง่ายๆ จากเด็กหญิงจุนมยอนก็รู้สึกบีบรัดที่หัวใจเหลือเกิน

     

              “งั้นเหรอครับ...เอาล่ะครูว่าเราไปนั่งรอผู้ปกครองหนูข้างนอกกันดีกว่าครับ ครูอยากเจอผู้ปกครองของหนูจัง”จุนมยอนว่าก่อนจะช่วยเด็กหญิงถือกระเป๋าเป้ใบเล็ก เดินตามจินยอนที่ถือกระเป๋าใส่ไวโอลินออกไปก่อน

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

              “คุณน้าลู่~~~~

     

              “จินยองงงงงง”

     

              “ไอ้ลู่!!!

     

              ผู้ปกครองของคิม จินยองคือเสี่ยว ลู่หาน คิดว่าประโยคบอกเล่าสั้นๆ นั้นคงจะบอกได้ทุกอย่าง ทันทีที่ผู้ปกครองที่จินยองพูดถึงก้าวเข้ามาในโรงเรียนสอนดนตรีชื่อดัง ร่งโปร่งถึงกับอ้าปากค้างตะโกนเรียกร่างนั้นอย่างไม่สุภาพทันที

     

              “อ้าว จุนมยอน มีไรวะ”หลังกอดหลานสาวที่ไม่ได้เจอกันกว่าสองชั่วโมงจนหนำใจ ก็เงยหน้าขึ้นมาถามเพื่อนรักอย่างงุนงง

     

              “ทำไมมึงถึง...”จุนมยอนพูดแบบไม่มีเสียง พลางส่งสายตาไปยังเด็กหญิงจินยอง ลู่หานเข้าใจในทันทีจึงตัดสินใจก้มลงไปกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูเด็กน้อย เมื่อได้ฟังแล้วเด็กน้อยก็พยักหน้ารับหันมาบอกลาคุณครูตัวขาวก่อนจะสะพายเป้MCMใบจิ๋ว ในมือถือกระเป๋าไวโอลินตัวเล็กเอาไว้ด้วย เด็กหญิงตรงไปยังรถเบนซ์สีเงินคันหรูที่จอดอยู่ด้านหน้า เปิดประตูและก้าวเข้าไปนั่งอย่างคุ้นเคย

     

              เมื่อเห็นว่าคนในประโยคสนทนาไม่อยู่ในระยะได้ยินแล้ว จุนมยอนจึงเอ่ยถามลู่หานในสิ่งที่ตนอยากรู้ด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

     

              “มึงรู้จักจินยอน?”

     

              “ก็ต้องรู้จักสิวะ ทั้งจินยอนและแม่จินยอน อย่าว่าแต่กูรู้จักเลย แม่จินยอนน่ะมึงเองก็รู้จักดีเลยล่ะ”

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

    [Loading 40%] มาต่ออีก 20% เป็นยี่สิบเปอร์ที่ยาวมากกก แค่นี้ก็ล่อไปแล้วแปดหน้าเวิร์ด รับรองค่ะว่าครบร้อยนี่ ยี่สิบหน้าเวิร์ดแน่นอน สำหรับใครที่ยังอยากสั่งฟิค นิทานก่อนนอนยังสั่งได้นะคะ ตามลิงค์เลยจ้า~~~ Pre-Order รวมเล่มนิทานก่อนนอน (15/03/14)
     

    [Continue] กลับมาต่อแล้วค่า~~~

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

              “กลับมาแล้วค่ะแม่~~~”เสียงหวานๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยวัยเจ็บขวบเอ่ยทักร่างบางที่นั่งอยู่หน้าเปียโน ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปกอดจากด้านหลัง ร่างบางๆ ในชุดลำลองสบายๆ สะดุงเล็กน้อยก่อนจะหันมามอง

     

              “ไงจ๊ะ จินยอน ไปเรียนไวโอลินสนุกมั้ย”ร่างบางเอ่ยถามพลางหันมาอุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมานั่งตัก เด็กหญิงยิ้มจนตาปิดก่อนจะตอบ

     

              “สนุกค่ะ คุณครูจุนมยอนสอนเก่งมากๆ เลยค่ะ”ร่างบางชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อที่คุ้นเคย ก่อนจะเอ่ยถามลูกสาวคนสวยซ้ำอีกที

     

              “จินยอนคะ เมื่อกี้หนูว่าคุณครูอะไรสอนเก่งนะคะ”จงแดเอ่ยถามลูกสาวคนสวย ได้แต่หวังว่าคงจะไม่ใข่เขาคนนั้น

     

              “คุณครูจุนมยอนค่ะ”สิ้นคำตอบจากลูกสาว เป็นจังหวะเดียวกับที่รุ่นพี่คนสนิทอย่างลู่หานถือกระเป๋าMCMและกระเป๋าไวโอลินของหลานสาวคนโปรดเข้ามาไว้ในบ้านให้ ลู่หานถึงกับสะดุ้งเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาอัมหิตของเจ้าของบ้าน

     

              “จินยอนคะ...หนูขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะแล้วค่อยลงมาทานข้าว ขอแม่คุยกับคุณน้าลู่แป๊บนะคะ”สิ้นคำบอกของผู้เป็นแม่ เด็กหญิงตัวน้อยก็พยักหน้ารับทันที มือเล็กๆ คว้าเอากระเป๋าเป้ใบสวยและกระเป๋าไวโอลินเอาไว้ ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองของบ้านทันที ทิ้งให้ผู้ใหญ่ทั้งสองอยู่กับบรรยากาศอันแสนมาคุ

     

              “ที่จินยอนพูดหมายความว่าไงครับพี่ลู่หาน”ร่างบางเอ่ยถามช้าๆ ที่ละคำแต่แสนจะกดดัน

     

              “ก็...จงแดบอกว่าอยากให้จินยอนได้เรียนกับนักไวโอลินเก่งๆ ที่สถาบันพี่ ก็นี่ไง ไอ้จุนมันเก่งสุดแล้ว”ร่างโปร่งพูดไปเหงื่อแตกไป เพราะก่อนที่จงแดจะยอมให้จินยอนไปเรียนดนตรีที่สถาบันของลู่หาน ร่างเล็กก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่าอย่าให้จินยอนเจอจุนมยอน แล้วอย่าให้จุนมยอนรู้เรื่องจินยอนเด็ดขาด แต่จะทำไงได้ล่ะในเมื่อคุณครูไวโอลินที่สถาบันของเขานอกจากจุนมยอนแล้ว เฮนรี่ หลิวที่เป็นคุณครูชาวจีนก็ติดงานแสดงสดที่ลาสเวกัสพอดี เขาเลยไม่มีทางเลือกที่จะต้องให้จินยอนเรียนไวโอลินกับจุนมยอน

     

              “เรื่องนั้นผมรู้ แต่พี่จำเรื่องที่ผมขอก่อนที่ผมจะให้จินยอนไปเรียนที่สถาบันของพี่ไม่ได้เหรอ”ร่างบางเอ่ยอย่างกังวล พลางเดินไปเดินมาดวงหน้าหวานเต็มไปด้วยความกังวล ภาพอดีตที่อีกคนทำร้ายเขาอย่างเลือดเย็นมันทำให้ร่างเล็กไม่อยากให้ตัวเองและลูกไปมีชีวิตอยู่ในวังวนของเขาคนนั้น

     

              “พี่จำได้...พี่ขอโทษจงแด แต่มันไม่มีทางเลือกพี่สัญญากับจินยอนแล้วว่าจะให้แกได้เรียนเร็วที่สุด แต่บังเอิญเฮนรี่ หลิวติดแสดงสดที่ลาสเวกัสกว่าจะกลับมาก็อีกสามอาทิตย์ พี่คิดว่าจินยอนคงรอไม่ไหวแน่ แต่ไม่ต้องห่วงจุนมยอนจะไม่มีวันรู้แน่นอนว่าจินยอนเป็นลูกมัน พี่สัญญา”ลู่หานเอ่ยอย่างหนักแน่น เพราะเขาเองก็ไม่อยากเห็นรุ่นน้องคนสนิทคนนี้กลับไปเป็นแบบเมื่อเจ็ดปีก่อนได้อีกแล้ว

     

              เมื่อได้ยินรุ่นพี่คนสนิทพูดเช่นนั้นจงแดก็เบาใจไปเปลาะนึง แต่ก็ยังไม่คลายความกังวลไปทั้งหมด เพราะเขาไม่อยากให้ลูกรู้ว่าแกมีพ่อ แต่พ่อไม่รักแก

     

              “ได้ยินพี่พูดอย่างนั้นผมก็เบาใจ แต่ยังไงพี่ต้องสัญญากับผมนะว่าเขาจะต้องไม่รู้ว่าจินยอนคือลูก และจินยอนก็จะต้องไม่รู้ว่าเขาคือพ่อ”

     

              “อืม...พี่สัญญา”

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

              “เป็นอะไรครับจินยอน ทำไมดูไม่ค่อยจะมีสมาธิเลย”จุนมยอนเอ่ยขึ้นหลังจากนั่งฟังลูกศิษย์ตัวน้อยสีไปตามบทเพลงที่เขาสีให้ฟังก่อนแล้วหนึ่งรอบ เด็กหญิงวางไวโอลินตัวเก่งลงในกระเป๋าก่อนจะนั่งกอดเข่าแล้วตอบ

     

              “คิดถึงคุณแม่...”ตอบเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน จุนมยอนยิ้มให้อย่างเอ็นดูก่อนจะนั่งลงข้างๆ เด็กหญิง

     

              “หืม...เดี๋ยวเย็นนี้ก็ได้กันแล้วนี่ครับ ทำไมคิดถึงเร็วจัง”ชายหนุ่มเอ่ยพลางยิ้มจางๆ ให้ เขาพอจะเดาได้ว่ามารดาของเด็กหญิงจากสิ่งที่ลู่หานพยายามสื่อทางคำพูดและการกระทำ

     

              แต่เขาก็ไม่อาจจะเชื่อเซ้นท์ของตัวเองได้ 100% หรอก เพราะหลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้ข่าวของคิม จงแดอีกเลย...

     

              “คุณแม่ไปทำงานที่เมืองนอกอีกตั้งเดือนนึงกว่าจะกลับคะ”เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า เพราะตั้งแต่เกิดมาจนอายุเจ็ดขวบจินยอนกับคุณแม่ก็ไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้มาก่อน เพราะปกติถ้าคุณแม่จะไปทำงานต่างประเทศนานๆ ก็มักจะพาเด็กหญิงไปด้วย แต่คราวนี้ไม่ได้ เพราะนอกจากคุณแม่จะยุ่งแล้วจินยอนยังติดเรียนไวโอลินอีก เด็กหญิงก็เลยจำเป็นจะต้องอยู่เกาหลีกับคุณน้าลู่

     

              “งั้นเหรอ แล้วตอนนี้หนูอยู่กับใครคะ”เอ่ยถามพลางยกน้ำขวดขึ้นดื่ม

     

              “อยู่กับคุณน้าลู่ค่ะ”เด็กหญิงเอ่ยบอกพลางรับขนมจากคุณครูตัวขาวมาทานปลอบใจตัวเอง จุนมยอนมองด้วยแววตาสงสารปนรักใคร่โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

              ปิ๊งป๊อง ปิ๊งป๊อง ปิ๊งป๊อง

     

              เสียงกริ่งที่ถูกกดรัวๆ เรียกความสนใจให้กับเจ้าของห้องตัวขาวในชุดนอนที่กำลังใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดเส้นผมที่เปียกน้ำไปพลางๆ ได้เป็นอย่างดี พลางขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าใครกันคือแขกที่มาในยามวิกาลเช่นนี้

     

              “ครับๆ มาแล้วครับ”จุนมยอนตอบกลับไปด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เนื่องด้วยความเพลียจากการสอนตั้งแต่เช้าทำให้เขารู้สึกง่วงเหลือเกิน

     

              แอ๊ด!!!

     

              “ไอ้จุน!!!

     

              “หือ...อ้าวลู่มึงเองเหรอ มีไรวะ มาซะดึกด....”ยังไม่ทันที่คิมจุนมยอนจะเอ่ยจบประโยค อะไรบางอย่างที่ลู่หานอุ้มมาเมื่อครู่ก็มาอยู่ในอ้อมแขนของจุนมยอนเรียบร้อย เสียงครางอืออาคล้ายคนถูกรบกวนเวลานอนทำให้เขารู้ว่าคือคน เมื่อคนในอ้อมแขนของพลิกหน้าออกจากอกของเขา ก็ทำเอาจุนมยอนตกใจจนเกือบจะปล่อยคนในอ้อมแขนตกลงพื้น

     

              “จินยอน!!!

     

              “เฮ้ย! เบาๆ หน่อยสิวะ เดี๋ยวหลานกูก็ตื่นพอดี”ลู่หานว่าพลางดันกระเป๋าลากใบเล็กสีชมพูหวานเข้ามาไว้ในห้องอย่างถือวิสาสะ ใบหน้าหล่อหวานดูรีบร้อนอย่างไรพิกล

     

              “ด...เดี๋ยวมึงช่วยอธิบายให้กูฟังแป๊บดิ่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเอาจินยอนมาให้กูทำไมเนี่ย”ร่างโปร่งเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจหากแต่ตัวก็โยกไปโยกมาราวกับกล่อมเด็กทารก หากแต่เด็กหญิงในอ้อมกอดก็เริ่มเข้าสู่ห้วงนิทราที่แสนลึกอีกครั้ง

     

              “กูไม่มีเวลาอธิบายมาก เปาจื่อจะคลอดลูกกูแล้ว กูต้องรีบไปดูลูกแต่กูห่วงหลาน กูเลยเอามาฝากให้มึงดูแลไง ลูกมึงนิ่มึงก็ดูแลแกหน่อยนะ แล้วก็พรุ่งนี้พาแกไปสมัครเข้าโรงเรียนประถมด้วยนะ พวกเอกสารที่จะเป็นจะต้องใช้อยู่ในกระเป๋าสะพายของแกน่ะ กูไปก่อนนะ ป่านนี้เปาจื่อต้องเข้าห้องคลอดแล้วแน่ๆ”ลู่หานพูดรัวเร็วเป็นชุดจนฟังแทบไม่ทัน มีเพียงอยู่คนเดียวที่เข้าหัวของจุนมยอนคือ คำว่าลูก

     

              ปึง!

     

              ก่อนจากลู่หานก็รีบปิดประตูห้องให้คนตัวขาว เพราะความที่ห่วงภรรยาที่ใกล้คลอดโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองได้เปิดเผยความลับสุดยอดออกไปแล้ว นานหลายนาทีกว่าที่จุนมยอนจะตั้งสติได้ นัยน์ตาเรียวก้มลงมองเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบที่ตัวเล็กกว่าเด็กรุ่นเดียวกันอยู่หลายเท่าด้วยสายตาหลากหลายอารมณ์ จะว่าไปก็มีหลายอย่างนะที่จินยอนคล้ายเขา เขาเคยลองถ่ายรูปจินยอนไปให้พ่อกับแม่ดู

     

              พ่อกับแม่ของเขาก็บอกว่าคล้ายเขาอยู่มากเหมือนกัน มีเพียงริมฝีปากเป็นกระจับสวย กับมุมปากที่เวลายกยิ้มดูน่ารักเท่านั้นที่เหมือนคนคนนั้น...คิม จงแด

     

              “หนูคือลูกพ่อใช่มั้ยครับจินยอน? พ่อขอโทษนะที่พ่อทิ้งหนูไปเพราะความเห็นแก่ตัวของพ่อ”จุนมยอนเอ่ยเบาๆ กับเด็กหญิงตัวน้อยที่หลับไปแล้ว ร่างโปร่งวางร่างของเด็กหญิงลงในห้องเล็กของห้องชุดของเขา มันเป็นห้องที่เขาแต่งไว้ให้ลูกของเขาหลังจากที่เขารู้ว่าโดนเธอคนนั้นหลอกใช้ เขาคิดเสมอว่าลูกคนแรกจะต้องเป็นผู้หญิงเลยตกแต่งห้องเล็กให้หวานมากๆ และเหมือนพระเจ้าจะเห็นใจให้เขาได้ตามที่ปราถนา

     

              มือหนาจับผ้าห่มผืนหนาสีหวานขึ้นห่มจนถึงอกของเด็กหญิงตัวน้อยที่กอดตุ๊กตาหมาไซบีเรียนด้วยใบหน้ามีความสุขเพราะฝันดี ก่อนจะเอาเสื้อผ้าในกระเป๋าของเด็กหญิงเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าที่อยู่ไม่ไกลมากนักให้เรียบร้อย จนมาถึงกระเป๋าเป้MCM เอกสารสำคัญที่ใช้ในการสมัครโรงเรียน ต้องมีใบเกิดอยู่แน่นอน ร่างโปร่งเริ่มลังเล

     

              ก่อนจะตัดสินใจบางอย่างที่สำคัญมากสำหรับอนาคตของเขาและจงแด...

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

    [Loading  70%] อันยองงงงค่ะรีดเดอร์ ขอโทษที่หายไปนานค่ะ ตอนแรกไรท์กะจะให้ครบร้อยแหละ แต่ไรท์รู้สึกเพลียมาก เพราะวันนี้ไปงานหนังสือมาเดินแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่ไรท์เหนื่อยมาก 555+ เอาเป็นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ไรท์จะกลับมาต่อให้จบนะคะ มาเสิร์ฟพร้อมกับคุณหมอชานนน ใครคิดถึงคุณหมอชานบ้างงง ยกมือขึ้นเร้ว อิอิ ไรท์ไปนอนล่ะบ๊ายบาย {30/03/14}
     

    [Continue] กลับมาต่อกันเลยกับสามสิบเปอร์สุดท้ายยยยย~~~

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

              “อรุณสวัสดิ์ครับจินยอน หิวรึยังครับ”ทันทีที่เด็กหญิงตัวน้อยตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคย เธอก็ไม่รอช้าที่จะรีบลุกจากเตียงนอนแสนนุ่ม เขย่งปลายเท้าเปิดประตูห้องออก ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ ห้องอย่างสำรวจ ก่อนที่ประสาทรับกลิ่นจะได้กลิ่นหอมๆ อะไรบางอย่าง ขาเล็กๆ ของเด็กหญิงพาร่างของเจ้าตัวเดินตามกลิ่นไปโดยไม่รู้ตัว จนมาเจอกับคุณครูไวโอลินตัวขาวที่ขะมักเขม้นกับอะไรบางอย่างอยู่หน้าเตา ก่อนที่เขาจะหันมาเห็นเด็กหญิงและเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้ม

     

              “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณครูจุนมยอน”เด็กหญิงทักทายตามประสาคนมีมารยาท ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องชุดที่แสนกว้างอีกครั้ง จุนมยอนยิ้มกับท่าทางน่ารักของเด็กหญิงตัวน้อย

     

              “เบคอนใกล้สุกแล้วล่ะ หนูไปอาบน้ำแต่งตัวรอเลยก็ได้จินยอน”ชายหนุ่มว่า เด็กหญิงพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ก่อนจะวิ่งดุกดิกๆ กลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อหยิบของใช้ที่จำเป็นอย่างผ้าขนหนู แปรงสีฟัน ยาสีฟันและเสื้อผ้า

     

              ปล่อยให้จุนมยอนจมอยู่กับห้วงแห่งความคิด ถ้าจินยอนเป็นลูกของเราจริงๆ แกจะรับเราได้มั้ยนะ?

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

              หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ จุนมยอนก็ทำตามภารกิจแรกที่เพื่อนรักอย่างลู่หานหมอบหมายไว้ให้ทันทีคือการพาจินยอนไปสมัครเข้าโรงเรียนประถมโดยที่เอกสารที่ต้องใช้ทุกอย่างอยู่ในซองสีน้ำตาลที่วางอยู่บนคอนโซลหน้ารถ ตลอดทางเด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งอยู่ที่ๆ นั่งข้างคนขับก็ฮัมเพลงด้วยความอารมณ์ดี ช่วยให้จิตใจของจุนมยอนหายกังวลไปเปลาะหนึ่ง จนกระทั่งเข้าเขตรั้วโรงเรียนประถมชีอดังเสียงฮัมเพลงของเด็กหญิงๆ ก็ค่อยๆ ลดลงจนแปรเปลี่ยนเป็นความเงียบ

     

              จุนมยอนเหล่มองเด็กหญิงตัวน้อยที่มองไปยังรถของเพื่อนนักเรียน พลางเม้มปากแน่น มือเล็กบิดชายกระโปรงตัวเองค่อนข้างแรง เมื่อจุนมยอนมองไปตามสายตาของเด็กหญิงก็พบว่า เพื่อนนักเรียนหญิงรุ่นเดียวกับจินยอนจูงมือคุณพ่อมาโรงเรียนด้วยท่าทางมีความสุข เขาเห็นแล้วรู้สึกสงสารแกเหลือเกิน

     

              จากที่เคยได้ฟังลู่หานมา เพื่อนรักของเขาบอกว่าเด็กน้อยมักจะนั่งมองเพื่อนด้วยความอิจฉาทุกครั้งที่เห็นเพื่อนมีคุณพ่อมารับ แต่แกไม่เคยพูดกับแม่ของแกสักครั้งว่าอยากเจอพ่อ ไม่เคยถามว่าพ่อไปไหน แกเก็บเอาไว้ในใจตลอดเพราะครั้งแรกที่แกถามถึงพ่อ แม่ของแกก็ร้องไห้อย่างหนักจนแกไม่กล้าถาม ทำให้บางทีจินยอนดูเหมือนเด็กเก็บกด

     

              ทันทีที่รถจอดจุนมยอนก็จัดการปลดเบลท์ของตัวเองออกก่อน จะหันไปปลดเบลท์ให้เด็กหญิง ทันทีที่สายรัดหลุดออกมือเล็กๆ ก็ทำท่าจะเปิดประตูลงไปทันที หากแต่โชคดีเขาคว้ามือไว้ได้

     

              “เดี๋ยวก่อนครับจินยอน”

     

              “คะ?”

     

              “หนูอยากมีพ่อมั้ยคะ?”สิ้นคำถามง่ายๆ ก็ทำเอาตากลมๆ นั้นของเด็กหญิงเบิกกว้างด้วยความตกใจปนยินดี ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบถามกลับทันทีที่สมองประมวลผลเสร็จ

     

              “อยากมีสิคะ! คุณครูจุนมยอนจะมาเป็นพ่อให้หนูเหรอคะ?”เด็กหญิงร้องถามด้วยความตื่นเต้น มือเล็กๆ เขย่าแขนของคุณครูตัวขาวด้วยความตื่นเต้นเป็นอันมาก จุนมยอนยิ้มให้ก่อนจะตอบ

     

              “ใช่ครับ ครูจะเป็นคุณพ่อให้หนูตลอดช่วงที่หนูอยู่กับครูนะครับ ดีมั้ยครับ”จุนมยอนถามพลางลูบหัวเด็กหญิงด้วยความเอ็นดู รอยยิ้มจนตาหยีแบบนั้นเหมือนจงแดมากๆ เลยนะ...

     

              “ดีสิคะ เย้ๆ จินยอนมีคุณพ่อแล้ว”เด็กหญิงร้องอย่างดีใจ

     

              “หึหึ ไหนจินยอนลองเรียกป๊ะป๋าจุนสิครับ”

     

              “ป๊ะป๋าจุน”

     

              “ดีมากครับคนเก่งของป๊ะป๋า ป่ะ เราไปสมัครเรียนกันดีกว่า”ชายหนุ่มว่าอย่างอารมณ์ดีก่อนจะออกจากรถไปก่อนปิดประตูและอ้อมไปอีกฝั่งอุ้มเด็กหญิงมาไว้ในอ้อมแขนข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือก็หยิบเอาเอกสารสมัครเรียนออกมา ก่อนที่สองพ่อลูกจะเดินเข้าไปในโรงเรียนประถมอย่างอารมณ์ดี

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

              หนึ่งเดือนต่อมา...

     

              เขาว่ากันว่าเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็ว....

     

              ปิ๊งป๊อง ปิ๊งป๊อง

     

              เสียงกริ่งที่ดังขึ้นเรียกให้ลู่หานที่กำลังนั่งมองคนรักให้นมลูกน้อย ต้องขมวดคิ้วได้ไม่น้อย ก่อนจะรีบลุกไปดูว่าใครเป็นแขกของวันนี้ ก่อนจะไปก็ไม่ลืมที่จะจูบกระหม่อมบางของลูกชายคนแรกด้วยความรัก

     

              “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าม....จงแด!!!

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

     

              “ป๊ะป๋าขา จินยอนอยากทานแพนเค้กจังเลยคะ”เสียงหวานของคุณลูกสาวตัวน้อยที่นั่งนิ่งๆ เป็นตุ๊กตาให้คุณพ่อมัดผมให้เอ่ยอ้อนๆ เพราะตั้งแต่มาอยู่กับป๊ะป๋าจุนมยอน เธออยากกินอะไรได้กิน ป๊ะป๋าตามใจเธอทุกอย่าง

     

              “ได้สิครับนางฟ้าของป๊ะป๋า เดี๋ยวตอนเย็นเราไปทานที่ร้านพี่คยองซูกันเนอะ”พูดไปมัดผมลูกสาวไปพลาง ช่วงเวลาตลอดหนึ่งเดือนที่มีคนเรียกเขาว่าป๊ะป๋ามันทำเอาจิตใจของชายโสดกระชุ่มกระชวยขึ้นมามากโขเลย

     

              ปิ๊งป๊อง ปิ๊งป๊อง ปิ๊งป๊อง ปิ๊งป๊อง

     

              เสียงกดกริ่งรัวๆ ทำเอาสองพ่อลูกที่กำลังนั่งการ์ตูนเรื่องFrozen อยู่หันไปมองได้เป็นอย่างดี จุนมยอนขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางคิดว่าใครกันที่มากดกริ่งห้องคนอื่นแบบเสียมารทยาทแบบนี้ มือหนาลูบหัวลูกสาวตัวน้อยพลางกระซิบบอกให้แกนั่งต่อไป ส่วนตนเองก็ลุกขึ้นมาดูว่าใครเป็นคนกดกริ่ง มองลอดตาแมวออกไปก็พบลู่หานทำหน้ากระวนกระวายอยู่ ในใจก็ได้แต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับลู่หานอีก แต่มือก็ยอมปลดล็อคกลอนให้ ทันทีที่จุนมยอนหมุนลูกบิดประตู ประตูก็ถูกภายนอกดันเข้ามาอย่างรุนแรงจนเกือบชนหน้าเขา

     

              กำลังจะเอ่ยต่อว่าลู่หานเสียหน่อย ก็ต้องหุบปากฉับทันทีที่เห็นคนที่เข้ามาคนแรก

     

              “จ...จงแด”เอ่ยเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเบาหวิว หากแต่เจ้าของชื่อคงจะได้ยินชัดเจน ร่างบางหันมามองเขาตาขวาง

     

              “ลูกผมอยู่ไหน! พี่เอาลูกผมไปไว้ที่ไหน”ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรียวกราดระคนหวาดกลัว หัวใจคนเป็นแม่นั้นวูบโหว่งทันทีที่ได้รู้ลูกสาวสุดที่รักอยู่กับคนที่เขาทั้งรักทั้งเกลียด

     

              “ด...เดี๋ยวจงแดใจเย็นๆ ก่อนนะ ลูกของเราแกนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องดูหนัง”เอ่ยตอบพลางส่งสายตาขอให้ลู่หานช่วยทำให้คนที่เขารักมากสงบลง เพราะเวลาจงแดโกรธเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก แม้แต่จุนมยอนเองก็เอาไม่อยู่

     

              “ลูกของเราเหรอ? มันไม่มีคำนั้นตั้งแต่วันที่พี่เลือกผู้หญิงคนนั้นแล้วล่ะ...”ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ภาพในอดีตย้อนกลับคืนมา

     

              “พี่ขอโทษจงแด...วันนั้นความโลภมันทำให้พี่ตาบอด มันทำให้พี่ทำร้ายทั้งจงแด ทำร้ายจินยอนและทำร้ายหัวใจพี่เอง”ร่างโปร่งเอ่ยพลางเอื้อมไปกุมมือบางเอาไว้ ร่างบางเม้มปากก่อนจะสะบัดมือออก และเอ่ยวาจาเฉือดเฉือนหัวใจคนฟังไม่น้อย

     

              “รู้ด้วยเหรอว่าผมก็เจ็บ พี่รู้มั้ยว่าวันที่พี่พาผู้หญิงคนนั้นมาที่บ้านของเรา เล่นเพลงของเราให้ยัยนั่นฟัง ผมทั้งเจ็บทั้งมีความสุข ผมวางแผนจะเซอร์ไพรส์พี่เรื่องลูก แต่พี่กลับเซอร์ไพรส์ผมซะเอง พี่ทำซะผมจุกจนพูดไม่ออก ถ้าวันนั้นพี่ลู่หานไม่รั้งผมเอาไว้ ป่านนี้ผมกับจินยอนคงจะไปเกิดในภพหน้า ภพที่ไม่มีคนเลวๆ อย่างพี่”ร่างบางเอ่ยเป็นชุดใส่ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนพื้น มือบางปาดน้ำตาออกจากใบหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

     

              จุนมยอนจ้องมองร่างบางที่นั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความเจ็บปวด ร่างขาวค่อยๆ ย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับร่างบาง อ้าแขนรั้งร่างบอบบางของคนที่เขาโหยหามาตลอดเข้าสู่อ้อมกอดของเขาหวังให้ไหล่ของเขาช่วยซับน้ำตาของอีกคนได้เป็นอย่างดี

     

              “พี่ขอโทษจงแด ให้โอกาสพี่สักครั้งจะได้มั้ย ให้พี่ได้ทำหน้าที่คนรักอีกครั้ง และได้ทำหน้าที่พ่อได้มั้ย”เอ่ยบอกที่ข้างหูอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงขอร้องและเว้าวอน แต่ดูเหมือนยิ่งเขาพูดก็ทำให้คนในอ้อมกอดของเขายิ่งก๊อกแตกหนักกว่าเดิม หากแต่อีกคนก็พยายามกลั้นสะอื้นและตอบรับในสิ่งที่เขาร้องขอ

     

              “ได้...ฮึก...แต่พี่...ฮือ...ต้องสัญญานะว่า ฮึก...พี่จะไม่ทำร้ายผมกับจินยอนนะ”ร่างบางพูดไปพลางสะอึกสะอื้นไปพลาง ดวงหน้าหวานที่อาบน้ำตาเงยจากไหล่หนาขึ้นมองสบตากับร่างโปร่ง

     

              “ครับพี่สัญญา....”

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

     

              หลายปีต่อมา...

     

              “ทำอะไรอยู่ครับที่รัก....”เสียงทุ้มเอ่ยที่ข้างหูพร้อมทั้งจมูกโด่งๆ กดลงที่แก้มนุ่มนิ่ม ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีคิม จงแดก็ยังคงสวยไม่สร่างไปจากเมื่อก่อน แม้จะมีลูกให้คิม จุนมยอนแล้วถึงสามคน ร่างบางก็ยังคงหุ่นเพรียวบางเอาไว้ได้

     

              “นึกถึงเรื่องเมื่อตอนนั้นครับ”เอ่ยตอบพลางยิ้มบางๆ อ้อมแขนแข็งแรงโอบรัดรอบเอวบางๆ เอาไว้ ศรีษะกลมซบไหล่คนข้างหลัง

     

              “หืม? มานั่งระลึกความหลังเป็นคนแก่ไปได้น้า จงแดอ่า”ร่างสูงเอ่ยแซว ก็เลยถูกร่างบางหยิกไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ ทั้งๆ ที่ตัวเองแกกว่าแท้ๆ

     

              “โอ๊ย พี่เจ็บนะจงแดอ่า มาให้พี่ทำโทษซะเลยนะ”ร่างโปร่งร้องโอดโอ๊ยเสียจนน่าหมั้นไส้ ก่อนจะทำโทษคนภรรยาคนสวยที่บังอาจมาหยิกตนด้วยความหมั่นเขียว ทั้งสองคนสวีทหวานโดยไม่ทันสังเกตุเห็นว่าลูกๆ ทั้งสามคนแอบดูฉากสวีทหวานของพ่อกับแม่ตาเป็นมันเชียว และก่อนที่จุนมยอนกับจงแดจะโชว์จูบหวานๆ ให้ลูกๆ ดู ลูกสาวคนโตอย่างจินยอนก็เอ่ยขัดจังหวะการจูบของพ่อกับแม่เสียซะอย่างนั้น ก่อนที่จะสลายตัวไปพร้อมน้องๆ ทันที ไม่อยู่รอให้คุณแม่คนสวยโวยวายอย่างรู้ทัน

     

              “นี่เดี๋ยวเถอะ เด็กๆ อ่า!”ว่าแล้วก็ไม่รอช้าที่คุณแม่คนสวยจะวิ่งไล่ตีคุณลูกๆ ทีละคนแก้เขินอายทันที ปล่อยให้จุนมยอนมองไปพลางอมยิ้มไปพลาง มองครอบครัวแสนสุขของเขา ถ้าหากวันนั้นจงแดไม่ยอมให้โอกาสเขา เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะมีครอบครัวที่อบอุ่นอย่างนี้รึเปล่า....

     

     

    ++++++ The Melody ++++++

     

    [Loading 110%] จบแล้วจ้า~~~~ จบแล้ววววว ขอโทษทีให้รอนานนะคะรีดเดอร์ คิดว่ารีดเดอร์หลายๆ คนคงลุ้นสินะคะว่าคุณแม่จงแดจะยอมให้อภัยง่ายๆ รึเปล่า แต่คิดว่าคงจะรู้กันแล้วเนอะ เอาล่ะเอาเป็นว่าเจอกันเรื่องน้าค่ะ ไรท์ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ซัลจาโยค่ะรีดเดอร์ทุกคน บ๊ายบาย






    :-Daisy ✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×