ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิทานก่อนนอนของคิม จงแด

    ลำดับตอนที่ #10 : [Series คุณหมอ MinChen] Ophthalmology [Load 100%]

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 57


    Tag: Ophthalmology

    Series: คุณหมอ

    Paring: MinChen

    Tag: Romantic, Drama

    Note: ขอเปลี่ยนเนื้อเรื่องใหม่นะคะ จะเอาให้ดราม่ากว่าเดิมล่ะกันนะคะ^^

     

     

     

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

     

              25 ธันวาคม 2013

     

              วันนี้คือวันคริสมาสต์...วันแห่งความสุข วันแห่งการให้ของขวัญกับคนที่เรารัก ใช่...วันที่เราจะหมอบของขวัญที่มีค่าที่สุดให้แก่คนที่เรารัก

     

              “คุณจงแดแน่ใจแล้วเหรอครับ...”เสียงทุ้มของหมอหนุ่มนาม คิม มินซอก เอ่ยถามคนรักของคนไข้ในความดูแลของตนเพื่อต้องการคำตอบย้ำอีกครั้ง ว่าสิ่งที่เขาได้ยินก่อนหน้านี้ว่าเขาไม่ได้หูเพี้ยนไป

     

              “ครับผมแน่ใจแล้ว ผมจะขอบริจาคดวงตาให้จื่อเทาครับ”เสียงหวานของคุณนักร้องชื่อดังระดับเอเชียเอ่ยย้ำคำตอบที่ได้ให้ไปก่อนหน้านี้

     

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

     

              2 มกราคม 2014

     

              “วันนี้แล้วนะครับคุณจงแด”คุณหมอหนุ่มย่อตัวลงอยู่ตรงหน้าร่างเล็กๆ ของอดีตนักร้องชื่อดังที่จู่ๆ ก็ขอถอนตัวออกจากวงการทั้งๆ ที่กำลังรุ่งแท้ๆ แฟนคลับอาจจะไม่รู้เหตุผล หากแต่มินซอกที่เป็นหนึ่งในคนที่รู้เรื่องราวทั้งหมดก็ทำให้เขาอดเจ็บใจ และโกรธฮวัง จื่อเทานายแบบหนุ่มชื่อดังไม่ได้

     

     

              ทำไมคิม จงแดที่แสนดี ต้องเสียสละดวงตาทั้งสองข้างให้กับไอ้คนนิสัยไม่ดีที่ทำร้ายจิตใจคนที่เขารักมากด้วย

     

              ใช่ เขารักจงแด รักจงแดมาก รักมาก่อนจื่อเทาเสียด้วยซ้ำ เขารักจงแดตั้งแต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้เป็นนักร้องชื่อดังเสียด้วยซ้ำ ตอนนั้นเขายังเป็นแค่นักเรียนแพทย์อยู่เลย...

     

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

     

              สามปีก่อนหน้านี้

     

              ช่วงนั้นคิม มินซอกยังเป็นนักเรียนแพทย์ปีหกอยู่ ด้วยความที่ยิ่งสูงมากเท่าไหร่การเรียนยิ่งหนักขึ้นทำให้เขายิ่งรู้สึกท้อ กอปรกับช่วงนั้นทางบ้านของเขากำลังจะล้มละลาย และเขาถูกคนรักที่คบกันมากว่าแปดปีทิ้งไป ทำให้เขาเครียดจัดจนเกือบจะฆ่าตัวตาย

     

              เขายืนอยู่บนสะพานแม่น้ำฮันในช่วงใกล้เที่ยงคืน เพื่อจะฆ่าตัวตายหนีความเครียดทุกอย่าง หนีความทรงจำที่แสนเจ็บปวดนั้นทิ้งไป อีกอย่างที่แห่งนี้คือที่ในความทรงจำของเขากับเธอคนนั้น

     

              “ชีวิตของฉันอยู่ต่อไปก็ไม่มีค่า...”ชายหนุ่มพึมพำ กำลังจะปีนขึ้นไปยืนบนขอบสะพาน หากแต่น้ำเสียงหวานๆ ที่ล่องลอยมาตามสายลม

     

    이유를 몰랐어왜 내가 변했는지(ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงเปลี่ยนไป)

     

    한참 생각했어 너와 만난 이후로 (ฉันคึดถึงแต่สิ่งดีๆมาตลอด หลังจากที่เราได้พบกัน)

     

    변한 같아  아주 많이 말이야 (ดูเหมือนสิ่งต่างๆกำลังเปลี่ยนไปอย่างมากมายโดยที่ฉันไม่รู้ตัว ได้โปรดหยุดมันเถอะ)

     

    노래 들리니 (เธอได้ยินเพลงนี้มั๊ย)

     

              ถัดจากท่อนนี้ไปมินซอกรู้สึกว่าประสาทการรับฟังของเขาจะบอดไปชั่วคราว เพลงรักหวานเศร้าๆ ที่ดังเข้ามาในประสาทการรับฟังเรียกให้เขาหันไปมองตามเสียงก็พบกับร่างเล็กๆ ที่ยืนอยู่ไม่ห่างเขามากเท่าไหร่หนัก ในดวงตาหวานคลอไปด้วยหยาดน้ำตา เสียงสะอื้นที่แทรกมากับเนื้อเพลงแสนเศร้านั้นเบาบางเสียจนแทบจะไม่ได้ยิน มือบางกำราวเหล็กแน่น ทั้งที่ริมฝีปากยังคงเอื้อนเอ่ยเนื้อเพลงรักแสนเศร้าออกมาอยู่เรื่อยๆ

     

              ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาถลาเข้าไปจับเอวบางๆ นั้นเอาไว้ทันทีที่เห็นว่าอีกคนกำลังจะฆ่าตัวตายด้วยการจะโดดจากสะพาน

     

              “อย่าโดดนะ!”ร้องสูงร้องตระโกนบอกพร้อมทั้งคว้าเอวบางเอาไว้มั่น อีกคนไม่มองหน้าเขาสักนิดร้องบอกให้เขาปลอยพร้อมทั้งพยายามจะสลัดเขาออก

     

              “ปล่อยผมนะ! ปล่อยผม ยังไงชีวิตนี้ของผมก็ไม่มีค่า! เป็นได้แค่ของเล่นให้ใครต่อใครเท่านั้นแหละ”ร่างเล็กว่าพร้อมเสียงสะอื้นที่เริ่มมากขึ้นอย่างหน้าสงสาร

     

              “ทำไมจะไม่มีค่า อย่าดูถูกชีวิตที่พ่อแม่เลี้ยงเรามาจนโตสิ ไม่มีความฝันที่อยากทำให้สำเร็จเหรอ ถึงได้คิดจะเอาชีวิตมาทิ้งแบบนี้! ชีวิตของเราเราต้องลิขิตเอง ชีวิตของเราจะไร้ค่าไม่ไร้ค่าขึ้นอยู่ที่ตัวเรา”ร่างสูงเอ่ยสอนอีกคน จริงๆ มินซอกจะไปสอนอีกฝ่ายก็คงไม่ถูกหนัก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาก็คิดจะฆ่าตัวตายเหมือนกันแท้ๆ แต่ดูเหมือนการที่จะได้เจอกับคนๆ นี้เหมือนจะทำให้เขาคิดได้

     

              พอได้ฟังดังนั้นร่างเล็กในอ้อมแขนเริ่มนิ่ง ร่างบางค่อยๆ ลงมาจากราวสะพานข้ามแม่น้ำที่สูงเสียจนน่ากลัว ร่างเล็กๆ หันมาหาเขาในสภาพที่น้ำตานองหน้า ดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงจัดคิดว่าคงเพราะร้องไห้มาพักใหญ่ๆ แล้ว ก่อนที่แขนเรียวบางจะโอบรอบเอวเขาเอาไว้แน่น ดวงหน้าหวานซบลงบนแพงอกของมินซอกราวกับต้องการหาที่พึ่ง น้ำตาอุ่นร้อนซึมลงมาถึงผิวหนังของเขา มือหนายกขึ้นลูบหัวคนในอ้อมกอดอย่างปลอบประโลม

     

              ถ้าหากเขาได้มีคนตัวเล็กในอ้อมแขนนี่เป็นคนสำคัญ เขาจะไม่มีวันทำให้คนตัวเล็กต้องเสียใจอย่างเด็ดขาด...

     

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

     

              หลังจากนั้นสามเดือน...

     

              หลังจากวันนั้นด้วยการเรียนที่หนักหน่วงเพราะใกล้จบทำให้เขาลืมเรื่องของร่างเล็กไปเสียสนิทจนกระทั่งเขาเรียนจบ และถูกบรรจุเข้าไปทำงานในโรงพยาบาลอันดับหนึ่งของรัฐ เขาก็ได้เจอคนตัวเล็กคนนั้น...ที่เขาไม่รู้จักชื่อในฐานะนักร้องหน้าใหม่มาแรงนาม คิม จงแด...

     

              คนตัวเล็กที่เขาหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเจอ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักชื่อกันด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้อีกคนเป็นคนที่เขาไม่อาจเอื้อมไปหาแล้วจริง...

     

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

     

              กลับมาสู่ปัจจุบัน...

     

              “อีกครึ่งชั่วโมงนะครับ พร้อมมั้ย”หมอหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง ร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัดพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น ดวงหน้าหวานหันไปมองใครอีกคนที่นอนหลับเพราะฤทธิ์ของยาสลบด้วยแววตาที่รัก...รักมาก แม้ว่าอีกฝ่ายจะหมดรักตัวเองแล้วก็ตาม

     

              “คุณหมอครับ...ผมมีเรื่องจะขอร้อง...”

     

              “อะไรเหรอครับ...”

     

              “ถ้าเขาถามว่าใครเป็นคนบริจาคดวงตาให้ อย่าบอกเขานะครับว่าเป็นผม...”ร่างเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงเว้าวอนพร้อมทั้งดวงตาที่ขอร้องอยู่ในทีทำให้คิม มินซอกที่ไม่มีภูมิต้านทานต่อคิม จงแดอยู่แล้วยอมทำตามอย่างเสียไม่ได้

     

              “ได้สิครับ...”

     

     

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

     

              20 ธันวาคม 2013

     

              “คุณหมอมินซอกคะแย่แล้วค่ะ!”เสียงหวานของคุณพยาบาลตะโกนเรียกเขาที่เป็นแพทย์อยู่เวรประจำคืนนี้ให้รู้สึกตกใจตามไปอย่างช่วยไม่ได้

     

              “เกิดอะไรขึ้นครับ!

     

              “คือ...เมื่อกี้หน่วยกู้ภัยนำคนไข้ฉุกเฉินมาส่งค่ะ เขาประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ ในที่เกิดเหตุมีเยื่อสองคนค่ะ หญิงคน ชายคน โดยที่ฝ่ายหญิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุค่ะ ส่วนฝ่ายชายเศษกระจกได้เข้าทิ่มดวงตาทั้งสองข้างของเขาค่ะ”สิ้นเสียงรายงานอาการของพยาบาลสาวที่อยู่เวรคู่กับเขา มินซอกก็ไม่รอช้ารีบคว้าเสื้อกาวน์ตามนางพยาบาลไปที่ห้องฉุกเฉินทันที

     

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

     

              ห้าชั่วโมงต่อมา...

     

              ในที่สุดการผ่าตัดเปลี่ยนดวงตาของคิม จงแดให้กับฮวัง จื่อเทาก็จบลง เขายืนมองบุรุษพยาบาลพาทั้งสองกลับไปยังห้องพักฟื้น มือหนากำแน่นด้วยความเจ็บใจ เมื่อมองร่างเล็กๆ บนเตียงหายไปจนลับสายตาแล้ว ร่างสูงจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า ตรงไปยังรั้วตาข่ายสีขาว มือหนาที่กำแน่นทุบลงบนตาข่ายสีขาวอย่างรุนแรงระบายอารมณ์ของตน

     

              “ทำไม?!!!”ร่างสูงตะโกนเสียงดังลั่นแข่งกับเสียงสายลม

     

              “ทำไมคุณถึงต้องทำเพื่อผู้ชายคนนั้นขนาดนั้นด้วย...”ร่างสูงพูดอย่างอ่อนแรงก่อนจะทรุดตัวลงพิงกับกำแพงดาดฟ้าของโรงพยาบาลด้วยความอ่อนล้า น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงมาอย่างไม่อาจห้ามได้

     

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

    [Loading 50%] กลับมาต่อแล้วค่ะ เรื่องนี้ไรต์ขอรีใหม่นะคะ รู้สึกเวอร์แรกไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไหร่ {140113}
     

    [Continue] กลับมาต่อแล้วค่า~~~

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

     

              “คุณหมอครับ คุณหมอบอกผมไม่ได้จริงๆ เหรอว่าใครเป็นคนหมอบดวงตาคู่นี้ให้กับผม”นายแบบหนุ่มเอ่ยขอร้องคุณหมอหนุ่มเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจจะนับได้ มินซอกทำได้แค่ถอนหายใจ พลางเก็บของภายในห้องทำงานของตนลงลังกระดาษที่เตรียมมา

     

              “ผมบอกไม่ได้หรอกครับ เจ้าของดวงตานั่นเค้าขอผมไว้”ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ มือก็ยังคงจัดเก็บของต่อไป

     

              “บอกใบ้นิดนึงก็ไม่ได้จริงๆ เหรอครับ ผมอยากขอบคุณเค้าจริงๆ นะครับ”นายแบบหนุ่มอ้อนวอน เพราะหลายครั้งเหมือนกันที่เค้าส่องกระจกแล้วรู้สึกเหมือนว่าคนที่เค้าทำผิดไว้กำลังมองเค้าอยู่

     

              “...ในเมื่อคุณพูดแบบนั้น ผมจะใบ้ก็ได้...คนที่มอบดวงตาคู่นี้ให้กับคุณ คือคนที่รักคุณมาก รักคุณโดยไม่หวังแม้แต่สิ่งตอบแทน เขารักคุณมากจริงๆ นะ รู้มั้ยผมอิจฉาคุณจริงๆ ทั้งๆ ที่ผมเจอเค้าก่อนคุณ แต่คนที่ได้หัวใจของเค้าไปกลับเป็นคุณ จากนี้ไปก็...รักษาดวงตาคู่นั้นเอาไว้ดีๆ นะ เพราะดวงตาคู่นั้นคือดวงตาของคนที่ผมรักมากที่สุด...”มินซอกตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ เมื่อได้เอ่ยถึงใครคนนั้น ก่อนจะหันหน้าไปอีกทางเพื่อไม่ให้นายแบบหนุ่มได้เห็นน้ำตาของตนไหลออกมา

     

              “งั้นเหรอครับ...งั้นผมฝากคุณหมอขอบคุณเค้าหน่อยนะครับ”เมื่อได้รับคำตอบเช่นนั้นจื่อเทาก็จนปัญญา จึงทำได้แค่ยิ้มบางๆ ให้พร้อมทั้งบอกฝากคำพูดไปให้อีกคน

     

              “ได้สิครับ...”ชายหนุ่มยิ้มบางๆ

     

              “ขอบคุณนะครับ...ว่าแต่นี่คุณหมอเก็บของทำไมน่ะครับ”

     

              “ผมลาออกแล้วน่ะครับ...”

     

              “หา???”

     

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

     

              ณ สวนดอกไม้แห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์

     

              “ที่นี่หนาวจังเลยครับคุณหมอ”เสียงหวานของร่างเล็กบางบนรถเข็นเอ่ยขึ้นพลางไล่มือไปตามตัวเพื่อดึงกระชับผ้าห่มผืนหนาที่ร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังวีลแชร์น้ำมาห่มให้ให้แน่นขึ้น เปลือกตาบางปิดสนิท จงแดเริ่มจะคุ้นชิ้นกับการอยู่ในความมืดซะแล้วสิ

     

              “ตอนนี้ที่นี่เป็นฤดูหนาวพอดีน่ะครับ จะเข้าข้างในเลยมั้ยครับจงแด”ชายหนุ่มเอ่ยถามร่างเล็ก มือหนาข้างหนึ่งละจากที่จับวีลแชร์มาจับบนไหล่บางเบาๆ พลางเหม่อมองไปยังทุ้งดอกกุหลาบสีขาวที่เริ่มบานสะพรั่งเบื้องหน้า

     

              ทุ่งดอกไม้ที่เขาซื้อไว้หลายปีมาแล้ว...เขาซื้อที่นี้ไว้เป็นเรือนหอของเขากับคนที่เขารัก แต่ตอนนี้คงจะเรียกว่าเรือนหอไม่ได้ ในเมื่อเขากับจงแดไม่ได้เป็นอะไรกัน เขาก็แค่คนที่...เสนอตัวมาดูแลอีกฝ่ายเอง แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทนนอกจากให้เขาได้ดูแลคนๆ นี้ ตลอดไป...

     

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

     

              “คุณหมอครับผมถามอะไรหน่อยสิ...”เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่คุณหมอหนุ่มช่วยประครองลงจากวีลแชร์ไปนั่งอยู่บนเตียงในห้องนอนที่มินซอกเตรียมไว้ให้

     

              “ถามอะไรเหรอครับ...”มินซอกถามกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางถอดรองเท้าสลิปเปอร์ออกจากฝ่าเท้าเล็กๆ นั้น ก่อนจะนำผ้าเช็ดน้ำอุ่นมาเช็ดเท้าให้ แรกๆ จงแดก็รู้สึกเขินและเกรงใจเพราะไม่ได้เป็นอะไรกันแต่มินซอกมาทำอะไรแบบนี้ให้มันก็เขินและเกรงใจเหมือนกันนะ รู้สึกเหมือนตัวเองกับคุณหมอหนุ่มเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันอย่างไรอย่างนั้น

     

              “ทำไมคุณต้องทำเพื่อผมขนาดนี้ด้วยครับคุณหมอ...”สิ้นคำถามง่ายๆ แต่คุณหมอหนุ่มเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังกลับไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ร่างสูงถอนหายใจเบาๆ

     

              “คุณเคยรักใครโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนมั้ยครับ...”สิ้นคำถามกลับจากมินซอก คำถามง่ายๆ แต่ก็ทำเอาอดีตนักร้องหน้าหวานชื่อดังไม่รู้จะตอบยังไงเช่นกัน

     

              “....”

     

              “ความรู้สึกที่ผมมีให้คุณก็เหมือนที่คุณมีให้คุณจื่อเทานั่นล่ะครับ มันไม่ต่างกันสักนิด อาจจะต่างกันตรงที่...ผมอาจจะรักคุณมาก่อนที่คุณจะรักคุณจื่อเทาซะอีก...”ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียก รู้สึกเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง หากแต่เขาก็พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้

     

              “......”

     

              “ผมไม่รู้ว่าคุณจะจำวันนั้นได้รึเปล่า 20 กันยายนเมื่อสามปีก่อน... วันนั้นคุณที่ยังคงเป็นเด็กฝึกคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จเพราะมีผู้ชายคนนึงเข้ามาห้ามคุณไว้ ให้กำลังใจคุณที่จะเดินทำตามฝันต่อไป คุณจะรู้รึเปล่านะว่าผู้ชายคนนั้นตอนแรกเขาก็คิดจะฆ่าตัวตายเพราะสิ้นหวังในชีวิต แต่น้ำเสียงหวานๆ ที่แสนเศร้าสร้อยนั้นช่วยทำให้เขาคนนั้นล้มเลิกความคิดที่จะฆ่าตัวตาย ความคิดนั้นแปลเปลี่ยนเป็นความอยากรู้ ทันทีที่เขาคนนั้นได้พบกับคุณเขาก็รู้สึกสงสารคุณ อยากจะปกป้องคุณ อยากจะดูแลคุณ ความรู้สึกเหล่านั้นๆ เมื่อเวลาผ่านไปก็กลายเป็นความรัก...รักโดยที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน ทุกๆ วันเขาจะส่งดอกกุหลาบขาวที่คุณชอบไปให้ ไม่รู้ว่าคุณจะจำมันได้รึเปล่า ดอกกุหลาบขาวหนึ่งดอกที่มีแฟนคลับฝากไว้ให้คุณทุกๆ วัน...”เมื่อฟังมาถึงตรงนี้จงแดเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ ร่างเล็กนั่งนิ่งก่อนจะเอ่ยเสียงเบาว่า...

     

              “ดอกกุหลาบขาวพวกนั้นมาจากคุณสินะฮะคุณหมอ แล้วก็...คนๆ นั้นก็คือคุณใช่มั้ย...”

     

              “ใช่...ที่ผมซื้อไร่ดอกไม้ที่นี่ไว้ก็ซื้อไว้ให้คุณเพื่อสักวันนึงคุณจะรักผม ผมจะหมอบไร่ดอกไม้แห่งนี้เป็นของขวัญแต่งงานให้กับคุณ...แต่มันคงไม่มีวันนั้นหรอก...”เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ก็รู้สึกเหมือนไม่อาจจะอดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาได้...น้ำตาของผู้ชายในที่สุดก็ไหลออกมาต่อหน้าคนที่เขารัก แต่อีกฝ่ายก็ไม่อาจจะมองเห็นได้...ตลอดกาล

     

              “คุณรู้มั้ยว่า...วันนั้นหลังจากที่คุณมาห้ามไม่ให้ผมฆ่าตัวตาย ผมรู้สึกขอบคุณคุณที่ให้กำลังใจ และผลักดันให้ผมใช้ชีวิตต่อไป...หลังจากวันนั้นผมไปที่นั่นทุกวันเพื่อจะขอบคุณคุณและจะบอกว่าผมชอบคุณ แต่ผมก็ไม่เจอคุณอีกเลยจนกระทั่งเดบิวต์”

     

              “......”

     

              “สำหรับจื่อเทาเค้ามีอะไรที่คล้ายคุณหลายอย่าง ในตอนแรกเราเป็นแค่เพื่อนกัน แต่เพราะในวันที่ผมรู้สึกท้อ หรือเหนื่อย นอกจากคุณแล้วเขาเป็นอีกคนที่คอยอยู่เคียงข้างผม คอยให้กำลังใจผมทุกครั้ง ตอนที่เค้าขอคบกับผม...ผมคิดว่ามันคงไม่เลวร้ายเลยตอบตกลง และคิดว่าเมื่อถึงเวลาผมจะปล่อยเค้าไป...”

     

              “...แต่พอถึงเวลาจริงๆ ผมกลับกลัวการที่จะต้องปล่อยเค้าไป ผมเห็นแก่ตัวที่อยากจะรั้งเค้าไว้กับตัวคนเดียว เห็นแก่ตัวที่อยากจะรั้งเค้าเอาไว้กับตัวเอง ผมเลยรู้สึกผิดตอนที่รู้ว่าเค้าประสบอุบัติเหตุจนสูญเสียดวงตาทั้งสองข้างไป...”

     

              “เพราะอย่างนั้นคุณเลยไม่ลังเลที่จะเสียสละดวงตาของคุณให้เขาใช่มั้ย...”ชายหนุ่มถามกลับพลางวางผ้าชุบน้ำอุ่นลงในอ่างแก้วที่วางไว้ข้างๆ ตัวก่อนจะหยิบผ้าขนหนูแห้งมาเช็ดเท้าเล็กๆ นั่นต่อ

     

              “ใช่...เพราะผมรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนั้น ถ้าวันนั้นไม่ใช่เพราะผมงี่เง่าใส่เค้า จนเค้าหนีไปพร้อมกับเธอคนนั้น เค้าก็คงจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคนที่เขารักแล้วล่ะครับ”ร่างบางตอบพลางพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้

     

              “แล้ว...คุณไม่เสียดายอาชีพนักร้องที่คุณพยายามจนได้เป็นบ้างเหรอ กว่าคุณจะดังได้ขนาดนี้คุณต้องเสียอะไรไปบ้างน่ะ...”

     

              “ผมไม่เสียดายหรอกครับ ในเมื่อถ้าต้องแลกมันกับการที่ผมจะได้เจอกับคนที่ผมรักและรักผมน่ะ ผมยอม...”สิ้นคำตอบนั้นมินซอกก็อดจะยิ้มบางๆ อย่างเสียไม่ได้ ความรู้สึกโกรธเกลียดจื่อเทาที่เคยมีหายไป เป็นความรู้สึกขอบคุณแทน ก่อนที่ชายหนุ่มจะประครองร่างบางให้ล้มตัวลงนอนบนเตียง ระหว่างนั้นร่างบางก็ถามเขาต่อ

     

              “แล้วคุณล่ะ...ไม่เสียดายวิชาชีพกับเวลาหกปีที่คุณเรียนมาบ้างเหรอ...”ร่างบางถาม หากร่างเล็กยังมีดวงตาอยู่ล่ะก็ เขาคงจะเห็นลูกตากลมโตแป๋วแว๋วมองเขาอยู่ก็เป็นได้

     

              “ผมไม่เสียดายหรอก ถ้าแลกกับการที่ผมจะได้อยู่ดูแลคนที่ผมรักตลอดไป ผมก็ยอม...”เอ่ยเพียงแค่นี้ก็ทำให้ร่างบางรู้สึกตื้นตันขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

     

              “ขอบคุณนะ...ที่รักผม ผมก็รักคุณ...คุณหมอของผม อยู่เป็นดวงตาให้ผมตลอดไปนะ...”

     

              “แน่นอนครับ คนดี ผมจะอยู่เป็นดวงตาให้คุณ...จนกว่าเราจะตายจากกัน...”

     

     

    End

     

     

    ++++++ Ophthalmology ++++++

     

    [Loading 100%]

    ครบร้อยแล้วววววว เรื่องนี้ใช้เวลานานมากกว่าจะจบแหะๆๆ

    แถมดูเหมือนหลายคนพร้อมจะฆ่าไรท์ซะแล้วสิ อย่าเพิ่งนะค้า~~~

    ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ อย่างน้อยมันก็แฮปปี้น้า ถึงแม้น้องเป็ดจะตาบอดก็เถอะ #หัวเราะแห้งๆ

    เอาเป็นว่าเดี๋ยวช่วงบ่ายๆ ไรท์จะเอาลู่เฉินมาเสิร์ฟต่อนะ

    สำหรับลู่เฉินไรท์อาจจะรีไรท์เนื้อเรื่องนะคะ เพราะเห็นหลายคนบ่นว่ามันไม่คอมเมดี้เลย

    เอาล่ะไปล่ะบ๊ายบาย....

     

    ปล.อย่าลืมมาอุดหนุนไรต์กันด้วยนะคะ
    https://docs.google.com/forms/d/18iRo7O426sXIaBPuRjN-8OB7djewFtJ_yXB1z2OQjEY/viewform

    อันล่างตรวจสอบรายชื่อผู้สั่งจองงงงง
    https://docs.google.com/spreadsheet/ccc?key=0AirTR0g1ouSudEpkU29VTDlUVjVYOVhuOTZsQ3dNakE&usp=drive_web#gid=0







    :-Daisy ✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×