ตอนที่ 3 : MYBROTHER : 02
When you smile, I smile
“ผมไม่ชอบเลยจริงๆ” แซ็กขับรถมาส่งฉัน เขาพูดทิ้งท้ายไว้หลังจากที่ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับฉันและท้องฟ้าให้เขาฟังอย่างละเอียด
“เชื่อใจฉันนะ” ฉันลูบมืออีกคนเบาๆ
เวลานี้ไม่มีคำไหนที่จะดีกว่าคำว่าเชื่อใจแล้ว…ฉันอยากให้เขาเชื่อใจฉันเพราะคนอย่างฉันไม่มีทางที่จะรักท้องฟ้าเด็ดขาดเพราะส่วนตัวแล้วฉันไม่ชอบคนเผด็จการและจู้จี้แบบเขาอยู่แล้ว
“ครับ ไม่ให้เชื่อใจนิวแล้วผมจะเชื่อใจใครล่ะ ^^” เขายิ้มน่ารัก
“ค่ะ งั้นนิวไปก่อนนะ บ๊ายบาย”
“ไว้เจอกันครับ” แซ็กพูดทิ้งท้าย
รถของเขาเคลื่อนออกไปจากคอนโดฉัน ไม่นานนักรถมอเตอร์ไซค์ของท้องฟ้าก็ขับเข้ามา ฉันรีบเดินเข้ามาในคอนโดเพื่อจะหนีการเจอหน้าเขา แต่ท้องฟ้าวิ่งมาคว้ามือฉันไว้ก่อน เขายังไม่ได้ถอดหมวกกันน็อคออก ฉันเลยเห็นเพียงแค่ด้วยตาของเขาผ่านหมวกกันน็อคเท่านั้น
“อยากหนีผมมากเลยหรือไง”
“รู้ก็ดี” ฉันตอบไปตามความจริง
เขาน่าจะรู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วนะว่าฉันรำคาญเขามากๆ ฉันแสดงท่าทางออกไปขนาดนี้แล้วเขาก็ควรจะเลิกยุ่งกับฉันซักที ฉันไม่ต้องการให้แซ็กเป็นห่วงฉัน…แค่สิ่งที่แซ็กรับผิดชอบอยู่ตอนนี้มันก็หนักพอแล้ว
“ไปกินข้าวกัน” เขาเปลี่ยนเรื่องพูดทันที
“นายน่าจะเข้าใจนะ…ฉันอยากหนีนาย ไม่อยากเห็นหน้านาย แล้วจะมาชวนฉันไปกินข้าว จะใช้ข้ออ้างอะไรกับฉันอีกล่ะ?”
“ไม่มี”
“งั้นก็ปล่อย” ฉันพยายามสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของเขา แต่ยิ่งทำเหมือนเขาจะยิ่งจับแน่นขึ้น
“ยิ่งนิวหนีผม…ผมก็จะยิ่งตาม”
“…”
“ไม่ว่านิวจะหนีผมไปอยู่ที่ไหน…ซักวันผมก็ต้องตามหานิวจนเจอ”
“!!!!”
“ไปกับผม…นะครับ” เขาเริ่มเสียงอ่อนลง
“ไม่” ฉันพูดเสียงแข็ง
“ผมกำลังขอร้องนะ”
“ฉันสั่งหรอ?” ฉันพูดเสียงแข็งกลับไป
ปกติฉันไม่ใช่คนที่ชอบพูดจายอกย้อนใครซักเท่าไหร่ แต่นิสัยแบบนี้มันก็มาตั้งแต่ท้องฟ้าเข้ามาป้วนเปี้ยนกับฉันนั่นแหละ ตั้งแต่อยู่กับเขามันทำให้ฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง
“ก็ผมขอไง” เขาเสียงอ่อนลง
“ฉันกินมาแล้ว จบไหม?” ฉันโกหกกลับไปทั้งๆที่ความจริงยังไม่ได้กินมาเลยด้วยซ้ำ
“งั้นไปเที่ยวก็ได้”
“ฉันเหนื่อย ฉันไม่ไป” ฉันพูดตัดบท
ตอนแรกท้องฟ้าทำท่าจะปล่อยมือฉันแต่จู่ๆเขาก็กระชับแน่นอีกครั้ง ดวงตาที่มองผ่านหมวกกันน็อคของเขาฉายแววผิดหวังเล็กน้อยแต่มันก็แค่แว๊บเดียวเท่านั้นดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเรียบเฉยอีกครั้ง
“ไปกับผมดีๆเถอะนิว”
“ฉันบอกว่าไม่”
“งั้นผมบังคับ”
เขาไม่ว่าเปล่า ร่างสูงถือวิสาสะอุ้มฉันพาดบ่าเหมือนฉันเป็นตุ๊กตาไร้น้ำหนัก เขาทำเหมือนกับว่าตัวฉันเบามากๆ แล้วเดินมาที่รถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่
“ปล่อย!!!” ฉันดิ้นไปมาอยู่บนไหล่เขาโดยที่เจ้าตัวดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
เขาใช้มือข้างเดียวที่เหลืออยู่ถอดหมวกกันน็อคออกอย่างทุลักทุเลก่อนจะเปลี่ยนมาสวมใส่ให้ฉันแทน กว่าเขาจะใส่ได้เล่นเอาฉันแทบขาดอากาศหายใจอยู่เหมือนกันเพราะฉันดิ้นไปมาไม่ยอมให้เขาใส่ให้
ร่างของฉันถูกวางลงตรงเบาะหน้าของรถมอเตอร์ไซค์ เขาขึ้นตามฉันก่อนจะสตาร์ทรถออกไป หรือถ้าจะพูดง่ายๆคือฉันนั่งหน้าแทนที่เขาจะเป็นคนนั่ง…ท้องฟ้าเป็นผู้ชายที่สูงมากกว่าร้อยแปดสิบเซนแต่ฉันสูงแค่ร้อยห้าสิบห้ามันเลยไม่ได้ยากเลยที่เขาจะสามารถขับรถได้อย่างสบาย
แต่คนที่ไม่สบายใจคือฉันน่ะสิ! เขากำลังกอดฉันทางอ้อมอยู่
“จะไปไหน” ฉันพูดผ่านหมวกกันน็อคและดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ยินเสียงฉัน
แน่ล่ะก็ลมมันตีใส่หน้าหน้าเขานิ
“จะไปไหน!” ฉันตะโกนดังขึ้นกว่าเดิม
“ครับ?”
และมันก็ได้ผล ท้องฟ้าขานรับแต่ก็ไม่วายมองทางข้างหน้าอยู่ดี
กลิ่นเกลือลอยมากับลมเป็นพักๆ ฉันมองข้างทางที่เป็นน้ำทะเล อีกฝั่งเป็นร้านอาหารและโรงแรมเต็มข้างทาง ถนนทอดยาวไปเรื่อยๆ ซักพักเขาก็จอดรถลงตรงหน้าร้านขายปลาหมึกที่เป็นรถเข็น เขาเดินเข้าไปสั่งซักพักก็เดินกลับมาแล้วถอดหมวกกันน็อคออกให้ฉันเหมือนตอนเช้า
ไม่จำเป็นที่เขาต้องบอกฉันอีกแล้วล่ะ ฉันรู้แล้วว่าเขาพาฉันมาที่ทะเล -_-
มือหนาจับมือฉันอีกครั้ง เขาพาฉันเดินมาเลียบชายหาด ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มจะมืดลงแล้ว ตะวันใกล้จะลงขอบฟ้าเต็มที่ เขานั่งลงตรงพื้นทรายที่ตรงกับพระอาทิตย์พอดี วันนี้เป็นวันอาทิตย์เลยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวทะเลกันเยอะพอสมควร เขายื่นถุงปลาหมึกมาให้ฉันถือไว้ มือข้างหนึ่งของเขาหยิบไอโฟนขึ้นมาแล้วถ่ายรูปตะวันที่กำลังจะตกดิน
“สวยเนอะ…นิวว่าไหม”
“อืม” ฉันตอบกลับไปเรียบๆ ตอนนี้อารมณ์ของฉันที่โกรธเขายังไม่น้อยลงเลยซักนิด
“โกรธผมมากเลยหรอที่พานิวมา?”
“นายควรจะรู้ตัวนะ” ฉันตอบประชด
จะว่าฉันโกรธก็คงไม่ใช่จะว่าฉันชอบก็ไม่เชิง ฉันจะไปโกรธเขาได้ยังไงในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันนอกจากคนรู้จัก แต่ฉันก็แอบดีใจนิดๆที่เขาพามาที่นี่ มันทำให้ฉันผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย
แต่มันจะดีมากกว่านี้ถ้าคนที่พามาไม่ใช่เขา
“วันนี้เป็นวันเกิดผม”
“แล้วไง” ฉันยังคงตอบกลับไปห้วนๆ
“ผมฝันอยากจะพาคนที่รักมากินปลาหมึกที่ทะเลแล้วนั่งดูตะวันตกดินด้วยกัน”
“แต่นายบังคับฉันมา”
“ครับ…เพราะนิวไม่ยอมมาดีๆไง”
“นั่นก็เพราะฉันไม่อยากมา”
“แต่ผมอยากให้นิวมา…เขาว่ากันว่าวันที่สำคัญที่สุดคือวันเกิดของเรา วันที่เราจะได้อยู่กับคนที่รัก” สายตาของเขาดูเหม่อลอย เขาค่อยๆเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวของเขาด้วยสายตาที่มันสลดลงเรื่อยๆ
“พ่อแม่ของผมน่ะเขาหย่ากันตั้งแต่ผมอายุสิบห้า…ตั้งแต่นั้นผมก็อยู่กับลุง แต่พ่อกับแม่ก็ยังส่งเงินมาให้ผมใช้ตลอดทุกเดือน จนผมเข้ามหาลัยผมเลือกที่จะออกมาจากบ้านของลุงเพื่อมาอยู่คนเดียว” เสียงของท้องฟ้าแอบสั่นเล็กน้อย
ฉันเลือกที่จะฟังเขาเล่าต่อแทนที่จะพูดอะไรออกไป ในเมื่อฉันไม่รู้ว่าเขาต้องการให้ฉันตอบกลับเขาไปแบบไหน ต้องการให้ฉันปลอบเขา สงสารเขา หรืออะไรกันแน่ฉันเลยเลือกที่จะเงียบฟังเขาเล่าต่อไปแทน
“…”
“ผมอยากอยู่กับคนที่ผมรัก…เพราะพ่อกับแม่เขาไม่กลับมาหาผมแล้ว ผมไม่เหลือใครแล้วล่ะ”
“ลุงนายไง”
“ฮ่าๆ…ลุงผมน่ะเป็นมาเฟียใหญ่ เขาไม่ได้รักผมหรอกแค่สงสาร”
“…”
“ที่เล่าไม่ได้ให้นิวสงสารผม…แค่อยากให้นิวรู้ว่าที่ผมพานิวมาที่นี่ผมแค่อยากจะอยู่กับคนที่ผมรักจริงๆแค่นั้นเอง”
“รัก…คำว่ารักของนายมันพูดง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง?”
“ไม่ง่ายหรอกครับ…แต่ถ้านิวเจอคนที่อยากจะพูด คำๆนั้นมันจะออกมาเอง มันออกมาจากใจ” เขายิ้มบางๆ
“คงเป็นแซ็กมั้ง” จู่ๆฉันก็พูดชื่อแฟนของตัวเองขึ้นมา
“นั่นสิเนอะ” ท้องฟ้าดูชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะทำตัวตามปกติ
“จะว่าไปชีวิตนายก็น่าสงสาร”
“ฮ่าๆ คงจะใช่มั้งครับ”
ท้องฟ้าว่าพลางเล่นทรายที่อยู่ตรงหน้า ตอนนี้ฉันกับเขานั่งอยู่บนพื้นทรายดูตะวันตกดิน บรรยากาศมันค่อนข้างโรแมนติกเอามากๆ แต่ทำไมฉันไม่เห็นรู้สึกอินกับบรรยากาศพวกนี้เลย -_-
“ถ้าให้นิวเขียนคำๆหนึ่งให้ผมลงบนพื้นทรายนิวจะเขียนว่าอะไร?”
“ฉันจะเขียนว่า…” ฉันเว้นระยะแล้วใช้นิ้วเขียนลงบนพื้นทรายแทน
เกลียด
นั่นคือคำที่ฉันเขียนลงไป มันอาจจะดูทำร้ายจิตใจเขาไม่มากก็น้อย แต่ถ้ามันทำให้เขาเลิกยุ่งกับฉันได้มันก็คงจะคุ้มเหมือนกัน
“ฮ่าๆ ส่วนผมถ้าจะเขียนคำๆหนึ่งให้นิวผมจะเขียนคำนี้” ท้องฟ้าเขียนคำลงพื้นทรายบ้าง
รัก
“ฮะๆ” ฉันหัวเราะกลบกลื่น
ไม่ได้อายหรืออะไรหรอกนะ แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรออกไปต่างหาก
“สงสัยไหมทำไมคำว่ารักกับเกลียดมันถึงเป็นคำตรงกันข้าม”
“ไม่สงสัย”
“เพราะอะไรครับ?”
“เพราะฉันไม่อยากรู้ไง”
“ฮ่าๆ แต่ผมอยากบอก ^^” เขายิ้มแล้วลบคำที่ฉันเขียนบนพื้นทรายออกไป “คำว่ารักสามารถลบคำว่าเกลียดได้เสมอ ว่าไหม?”
“มันเกี่ยวกันตรงไหนหา -_-”
“เกี่ยวสิ เพราะมันตรงกันข้ามกัน มันก็มีกันแค่สองคำเหลือแค่ว่าเราจะเลือกคำไหน”
“ฉันว่ามันไม่เกี่ยวนะ” ฉันท้วง
“โอเค ผมมั่วเองก็ได้” ท้องฟ้าเป็นคนยอมแพ้
“นั่นแหละ นายมั่ว”
แต่จะว่าไปที่เขาพูดมันก็ทำให้ฉันคิดเหมือนกันนะ ฉันไม่เคยสงสัยว่าทำไมมันถึงเป็นคำตรงกันข้ามก็ในเมื่อมันมีความหมายตรงกันข้ามมันก็ต้องตรงกันข้ามกันอยู่แล้วนี่นา
“แต่ถ้าผมต้องเลือกผมจะเลือกรัก”
“ทำไมละ?”
“ผมว่ามันดูอบอุ่นกว่าคำว่าเกลียดนะ”
“เหอะ คงงั้นมั้ง”
“นิวก็คงจะเลือกรัก แต่ไม่ใช่กับผมใช่ไหมละ?”
“ถูกต้องที่สุด” ฉันทำท่าลอกเลียนแบบคุณปัญญาในเกมส์ทศกัณฑ์
“ฮ่าๆ” ท้องฟ้าหัวเราะกลบกลื่นถึงเขาจะไม่ได้รู้สึกแบบนั้นก็เถอะ ฉันพอจะดูอาการเขาออก
ฉันละสายตาจากท้องฟ้ามามองถุงปลาหมึกในมือแทน ฉันเป็นคนชอบกินปลาหมึกมากๆ นานเท่าไหร่แล้วนะที่ฉันไม่ได้มาที่ทะเล ไม่ได้กินปลาหมึก ไม่ได้มองพระอาทิตย์ตกดิน มันนานมากๆจนฉันจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่มาคือตอนไหน
“กินสิ” ฉันยื่นถุงปลาหมึกให้เขา
“นิวป้อนผมสิ ^O^” ท้องฟ้าเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว
“ตลก -_-” ฉันหยิบปลาหมึกยัดใส่ปากท้องฟ้าเต็มกำมือ
“อั๊ก -[]-!” ท้องฟ้าทำท่าจะอ้วกออกมาแต่เขาก็พยายามเคี้ยวปลาหมึกในปากให้หมดอย่างยากลำบาก ฉันมองเขาเคี้ยวแก้มตุ่ยแล้วก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้
“ฮ่าๆ…หน้านายมันตลกมากๆเลย” ฉันหัวเราะร่า
“นิวว่าผม -).(-” เขาพูดไปเคี้ยวไป
“กินให้หมดก่อนไป ฮ่าๆ” ฉันหัวเราะไม่หยุดกับท่าทางตลกๆของเขา
“ไม่เอา…กินช้าๆ”
“…?”
“เวลานิวยิ้มมันน่ารักมากๆเลย ผมชอบเสียงหัวเราะของนิวด้วย”
“บ้า -_-” ฉันว่ากลับไป
“บ้ารักนิวได้ไหมอ่ะ >3<”
“ไม่ได้ ไม่อนุญาติ :p” ไปๆมาๆฉันก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
ฉันกินปลาหมึกที่ถืออยู่ สายตาทอดมองไปที่พระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินลงทุกทีๆ ลมทะเลพัดเข้ามากระทบใบหน้าเป็นระยะๆ มันเป็นบรรยากาศที่คลายเครียดของฉันได้ดีทีเดียว…มันไม่ได้มีบ่อยๆที่ฉันจะได้มาเที่ยวแบบนี้
“สุขสันต์วันเกิด” ฉันพูดแต่ไม่ได้หันไปมองหน้าท้องฟ้า
“ขอบคุณครับ” เขาพูดอย่างร่าเริง
“เล่นน้ำกันหน่อยไหม?”
“ไม่เล่น”
“แต่ผมอยากเล่น ^^”
ท้องฟ้าลุกขึ้นฉุดมือฉันไปตรงน้ำทะเลที่สะท้อนแสงอาทิตย์สวยงาม เขาสาดน้ำใส่ฉันจนเสื้อผ้าที่ใส่มาเปียกไปหมด นี่มันยังไม่ถึงเทศกาลวันสงกรานต์เลยนะ -_-
“จะเล่นใช่ไหม?” ฉันถามเพื่อความแน่ใจ
“ประมาณนั้น” เขายักคิ้วกวน
“ได้” ฉันโยนถุงปลาหมึกกับรองเท้าผ้าใบที่ใส่ไปไว้บนพื้นทราย
“ไม่สบายโทษผมไม่ได้นะ -0-” เขาพูดเหมือนเตือนฉันไว้ล่วงหน้า
“ฉันปีห้าแล้ว เรื่องไม่สบายจิ๊บจ๋อย” ฉันยักคิ้วกวน
“แล้วถ้าผมไม่สบายนิวก็จะมาดูแลผมอ่ะดิ -..-”
“ไม่เกี่ยวเลยเถอะ -_-” ฉันใช้โอกาสทีเผลอวักน้ำใส่เขาทันที
“โหยเล่นทีเผลอนี่ -0-” เขาพูดพร้อมสาดน้ำฉันกลับ
“นายไม่ดูเองต่างหากเล่า”
“ผมไม่เกรงใจแล้วนะ~”
ราวสิบห้านาทีที่เราเล่นกันเหมือนเด็กๆ นักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติต่างมองมาที่ฉันกับเด็กผู้ชายผมบลอนขาวที่เล่นน้ำกันโดยที่ไม่ใส่ชุดว่ายน้ำหรือชุดลำลองสำหรับเล่นน้ำ เอาง่ายๆว่าเราใส่ชุดที่มีเล่นเลย ฉันไม่ค่อยเป็นจุดสังเกตหรอกเพราะฉันใส่เสื้อยืดสีดำท้องฟ้ามากกว่าที่มีสาวๆมองกันตรึมเพราะเสื้อนักศึกษาของเขาพอเปียกมันก็เห็นส่วนบนของเขาอย่างชัดเจน
“พอแล้ว” ฉันพูดขัดขึ้นมา
ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดลงทุกที ความจริงฉันเป็นคนค่อนข้างกลัวผีเอามากๆ -_-;;
“ถ่ายรูปกัน” ท้องฟ้าหยิบไอโฟนของตัวเองที่เปียกน้ำออกมา
“ไม่ -_-”
“นะ…วันนี้วันเกิดผมนะ ^^”
“ยังไงก็จะบังคับให้ได้เลยใช่ไหม?” ฉันถาม
“ครับผม”
“ก็ได้” ฉันยอมเขาแต่โดยดี
ไม่อยากจะเถียงกับเขาให้เปลืองน้ำลาย ฉันรู้อยู่ดีว่าถ้าฉันกับเขาเถียงกันคนที่ชนะก็ต้องเป็นเขาอยู่ดี ท้องฟ้าเป็นผู้ชายที่สามารถชักแม่น้ำทั้งห้ามาใช้เป็นข้ออ้างได้
เขากดรัวชัตเตอร์หลายๆรูป พื้นหลังของเราคือพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินจนจะมิดอยู่แล้ว เขาถ่ายได้สิบกว่ารูป ใบหน้าของเราสองคนดูร่าเริงเอามากๆ ฉันยิ้มกว้างเหมือนกับเขาที่ยิ้มกว้างเหมือนกัน
“หน้าผมกับนิวเหมือนกันเลย” ท้องฟ้ายื่นมือถือของตัวเองให้ฉันดู
“นายยิ้มเลียนแบบฉัน”
“เปล่านะ”
“หรอ”
“เวลานิวยิ้ม ผมก็ยิ้มด้วย ^^”
“เกี่ยวอะไรกับเวลาฉันยิ้ม?”
“ผมยิ้มเวลาเห็นคนที่ผมรักยิ้มไง~”
“เสี่ยว” ฉันว่าพร้อมกับสาดน้ำใส่เขาอีกรอบก่อนจะวิ่งหนีขึ้นมาก่อน
ท้องฟ้าหัวเราะเบาๆ เขาเสยผมที่ลงมาปรกหน้าขึ้นไปลวกๆ ผมสีขาวของเขายิ่งเวลาเปียกมันยิ่งทำให้เขามีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก…ฉันชอบสีผมของเขามาก แต่มันไม่ดีแน่ถ้าเขาจะทำสีผมนี้ในมหาลัย แถมยังเป็นคณะแพทย์ด้วย
“ผมของนาย”
“หืม?”
“มันผิดกฎคณะ”
“แล้วนิวชอบสีผมนี้ไหมละครับ?”
“ชอบสิ”
“งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก โดนว่ายังไงก็ช่างเถอะ ไม่เห็นเป็นไรเลย” เขาพูดด้วยท่าทางสบายๆ
“ไม่ได้นะ นายพึ่งเข้าปีหนึ่งอยากโดนทัณฑ์บนหรือไง”
“ไม่เป็นไร ก็คือไม่เป็นไรไง” เขายกมือยีหัวฉันอย่างอ่อนโยน
“ฉันอายุมากกว่านายนะ!”
“อายุมันก็เป็นแค่ตัวเลข…ผมต้องแคร์มันด้วยหรอครับ?” คำพูดของเขาไม่ได้ต้องการคำตอบจากฉันเลย เขาแยกตัวเดินออกไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองแล้วหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาจากใต้เบาะรถ
“มานี่มา” เขานั่งลงตรงฟุตบาทที่กันระหว่างพื้นทรายกับพื้นปูน
“…?” ฉันเดินเข้าไปหาตามที่เขาบอก
ฉันกลายเป็นคนเชื่อคนง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน -___-^
ผ้าขนหนูที่เขาไปหยิบมาวางลงบนหัวฉันพร้อมกับมือของเขาที่ค่อยๆเช็ดผมให้ฉันอย่างเบามือ ฉันอึ้งไปกับท่าทางของเขาที่ดูอบอุ่นและอ่อนโยน ทั้งๆที่เวลาเขาอยู่ที่มหาลัยหรือเวลาที่เราเจอกันที่คอนโดเขาจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาไม่เหมือนตอนนี้ที่กำลังเช็ดผมให้ฉันอยู่
“เดี๋ยวพรุ่งนี้นิวก็ต้องไปโรงพยาบาลต่อ จะไม่สบายเอานะ”
“นายรู้ได้ยังไง”
“ผมบอกแล้วไงสี่ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องไหนที่ผมไม่รู้นอกจากนิวมีแฟน” ประโยคหลังเขาพูดเสียงอ่อย
“ฉันเกือบจะลืมไปแล้วล่ะ”
เกือบจะลืมว่าพรุ่งนี้ฉันต้องไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปรับรายชื่อคนไข้ใหม่ที่ย้ายเข้ามาที่โรงพยาบาลแล้วหลังจากวันนี้ฉันก็มีเวลาว่างแค่ช่วงเย็นๆไม่ก็ดึกๆเท่านั้น บางทีก็ต้องอยู่เวร ไหนจะต้องเข้าเรียนในตอนเช้าๆอีก มันเหนื่อยจริงๆให้ตายเถอะ
“นิวเหนื่อยไหม”
“เหนื่อย?”
“ที่ต้องดูแลคนไข้เป็นสิบๆคน”
“ไม่หรอก…ฉันเลือกที่จะมาเรียนฉันจะทำยังไงได้ละ?”
“ฮ่าๆ แต่เวลาส่วนตัวมันก็น้อยลงถูกไหมละ”
“อือ คงแบบนั้น”
“แล้วนิวเอาเวลาไหนไปเที่ยวกับแฟนละ?”
“ไม่จำเป็นหรอก…ฉันกับเขาเราก็เรียนหมอกันทั้งคู่”
“นั่นสิ ผมก็ถามแปลกๆ” เขาเกาหัวตัวเองแก้เก้อ
“แต่นาย ถ้ารู้ว่ามันไม่ใช่นายสามารถที่จะขอสอบเปลี่ยนคณะได้นะ คณะของเราได้รับอภิสิทธิพิเศษ” ฉันบอกเขาไป
บางทีเขาอาจเลือกเข้าคณะผิดก็ได้…มันไม่มีความสุขหรอกนะที่เราจะต้องเรียนอะไรในสิ่งที่เราไม่ชอบ แรกๆที่ฉันเข้ามาเรียนฉันร้องไห้เกือบทุกวัน วิชาที่ลงเรียนงานแต่ละอย่างมันทำให้หัวปั่นไปหมด กว่าจะผ่านมาได้ก็แทบนองเลือดเหมือนกัน
“ผมไม่เปลี่ยนหรอก…ผมเรียนได้ทุกอย่าง”
“เก่งสินะ?”
“ไม่เก่งหรอก…ผมแค่มีแรงบันดาลใจ”
“แรงบันดาลใจหรอ?...ฉันไม่เคยมีเลย ฮ่าๆ”
“อยากรู้แรงบันดาลใจของผมไหมละ?” เขาถามขึ้น
“ถ้าฉันตอบว่าไม่ยังไงนายก็ยังจะบอกฉันอยู่ดีแหละ” ฉันพูดเหมือนรู้ทัน
“ใช่ครับ ฮ่าๆ”
“งั้นก็บอกมา”
“ครับผม…”
“…?”
“You’re my inspiration”
--------------------
ชอบท้องฟ้าไหม =////= อยากบอกว่าตอนแต่งเพ้อถึงท้องฟ้ามาก 555 คอมเม้นกันเยอะๆเด้อ TOT
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อ๊ากกกกกกกกก คลั่งตามไรท์ไปติดๆ
เกลียดท้องฟ้า ท้องฟ้าทำให้นิว(กำลัง)จะกลายเป็นผู้หญิงหลายใจ โลเล
เกลียดนิว นิวทำให้ผู้ชายดีๆสองคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนแต่กลับสามารถเกลียดกันได้มากมายเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว
เกลียดไรเตอร์ เพราะไรเตอร์ทำให้ฉันโลเล สับสน ไม่รู้ว่าจะเชียร์ใครดี
เกลียดตัวเอง เพราะตัวเองเป็นจุดเริ่มต้น ถ้าไม่คลิกเข้ามาตั้งแต่แรกคงไม่ติดนิยายเรื่องนี้หนึบขนาดนี้
โอเคเราผิดเอง
ชอบสิเจ้าค้าาา ตอนนี้เปลี่ยนใจละ ฮ่าๆๆ
>< ถ้ามีคนรอเรา ขนาดนั้นก็คงดี : D
สนุกดีนะเรื่องนี้ ถ้าไม่มีไอแซ็ก