ตอนที่ 10 : MYBROTHER : 09
Beach
วันนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะออกเดินทางไปรับน้องแล้ว ฉันกับท้องฟ้าเดินลงมาจากแท็กซี่เนื่องจากมีการไปรับน้องสามวันสองคืนเขากลัวรถเขาจะหายเพื่อความปลอดภัยท้องฟ้าเลยเอารถไว้ที่คอนโดแทน ความจริงฉันก็ควรที่จะฝึกขับรถแล้วล่ะไม่งั้นฉันก็ต้องเกาะท้องฟ้าไปตลอด
พอมาถึงมหาลัยคนแรกที่ฉันเจอคือแซ็ก เขาดูนิ่งกว่าเดิมมากจนฉันไม่กล้าที่จะสบตาเขา ดูแซ็กผอมลงไปพอสมควรแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความดูดีของเขาลดน้อยลงเลย ฉันเดินเข้าไปหาเพื่อนๆรุ่นเดียวกันสองสามคนที่มาร่วมกิจกรรมรับน้องกับรุ่นน้องปล่อยให้ท้องฟ้าไปลงทะเบียน
จะว่าไปแล้วฉันก็ไม่ได้มีเพื่อนที่จะสนิทเอามากๆเลยซักคน ตั้งแต่แรกที่เข้ามาปีหนึ่งฉันก็รู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งเธอนิสัยดีมาก เราสนิทกันมากจนกระทั่งเธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่เลยลาออกไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ พอขึ้นปีสองมาฉันก็ไม่ได้ยุ่งกับใครมากเท่าไหร่นัก แต่ก็มีเพื่อนไปกินข้าวไปเที่ยวด้วยแต่ไม่ได้ถึงกับสนิทกันมาก จนกำลังจะขึ้นปีสามฉันจะเริ่มคบกับแซ็กหลังจากนั้นเราก็ไปไหนมาไหนด้วยกัน แซ็กเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่ทั้งแฟนให้ฉันได้หมด
แล้วฉันจะคิดถึงเรื่องพวกนั้นทำไมกัน…ฉันกับเขาเราก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันแล้ว
“พี่นิว ^^” น้องเป้เดินเข้ามาทักทายฉันที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนๆ
“จ๋า”
“พี่นิวกับ…”
“ขึ้นรถได้แล้ววววว!” เสียงตะโกนดังลั่นจากรุ่นน้องปีสองดังไปทั่วบริเวณมหาลัย
เป้ดูเหมือนจะอารมณ์เสียหน่อยๆที่มีเสียงขัดขึ้นมาก่อน ฉันยิ้มให้เป้แล้วขอตัวไปขึ้นรถก่อน ดีแล้วล่ะเพราะฉันรู้ว่าเป้จะมาพูดเรื่องอะไร ตอนนี้ฉันไม่อยากจะฟังเรื่องพวกนั้น
“นิว แกสนิทกับน้องที่ชื่อท้องฟ้าใช่ไหม” ก้ามปูเพื่อนที่นั่งข้างฉันบนรถทัวร์เอ่ยถาม
“ก็พอรู้จัก…ทำไมหรอ?”
“ฉันได้ยินมาว่าเขาจะแกล้งน้องคนนี้หนักเลยล่ะพอไปถึงที่ทะเล”
“เห?”
“เขาบอกว่าท้องฟ้าทำให้แซ็กกับเธอเลิกกัน”
“…”
“เตือนน้องเขาไว้หน่อยนะฉันสงสารน่ะ T^T”
“ทำไมละ?”
“ไม่สังเกตหรอว่าเขาไม่มีเพื่อน…มันน่าสงสารนะแกถ้าโดนแกล้งแบบนั้นจริงๆ ใครจะช่วยเขาล่ะ” ก้ามปูพร้อมทำหน้าตาสงสารท้องฟ้าจับจิต
“คงไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง…”
ถึงฉันจะพูดแบบนั้นแต่ฉันก็อดที่จะเป็นห่วงเขาไม่ได้ จริงอยู่ที่เขาไม่มีเพื่อนเลยซักคน แต่เขาก็ไม่เห็นเดือดร้อนกับเรื่องพรรคนั้นเลยนี่นา…แต่ถ้าเขาโดนแกล้งเพราะเหตุผลเรื่องฉันกับแซ็กจริงๆฉันไม่ยอมหรอก เขาปกป้องฉันมาตั้งหลายครั้ง ฉันก็ควรที่จะปกป้องเขาบ้าง ก็แค่นั้นเอง
“ที่นั่งเต็มงั้นหรอ” เสียงของรุ่นน้องคนหนึ่งดังขึ้น
ฉันหันไปมองทางด้านหลังที่มีรุ่นน้องสองสามคนคุยกันอยู่ หนึ่งในนั้นก็มีท้องฟ้าที่ยืนหัวโด่ผมสีขาวบลอนอยู่ตรงนั้น
ถึงฉันจะขอร้องให้เขากลับไปย้อมผมสีเดิมแต่ท้องฟ้าก็ไม่เชื่อฉันหรอก เขาบอกว่าเขาชอบสีผมสีนี้แล้วก็ไม่อยากไปย้อมกลับเพราะมันทำร้ายเส้นผม สีนี้ก็ไม่ค่อยทำร้ายเส้นผมเขาเท่าไหร่เลยนะ =_=
ว่าแต่เกิดอะไรขึ้น
“แล้วน้องคนนี้ละ” รุ่นน้องปีสองเอ่ยถามพลางชี้นิ้วไปที่ท้องฟ้า
“ไปนั่งที่คนขับไป” เสียงของแซ็กดังขึ้นแทรก
“นั่นไงแก T^T” ก้ามปูหันมาสะกิดแขนฉันยิกๆ
“อาจไม่ใช่แบบนั้นก็ได้มั้ง” ฉันพยายามพูดปลอบใจ
“มันใช่แล้วล่ะนิว ช่วยเขาหน่อยนะๆ” ก้ามปูเขย่าแขนฉันจนแทบจะหลุดออกจากบ่า
“ท้องฟ้า” ด้วยความรำคาญหรือเพราะฉันเป็นห่วงก็ไม่รู้ จู่ๆฉันก็ลุกขึ้นเรียกชื่อเขาทันที
ท้องฟ้ารวมถึงรุ่นน้องปีสองอีกสองคนหันมามองฉันอึ้งๆ แซ็กก็ดูตกใจด้วยเหมือนกัน เขาคงไม่คิดว่าฉันจะนั่งรถคันนี้เพราะได้เตรียมรถไว้สองคัน คันนี้สำหรับรุ่นน้องปีหนึ่งแต่ฉันขึ้นมานั่งหน้าสุดกับเพื่ออีกสามคนเพื่อคอยคุมรุ่นน้อง
“มานั่งที่ฉันสิ” ฉันพูดเสียงเรียบ
ทั้งรถตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนดูอึ้งกับคำพูดที่ฉันพูดออกไปเมื่อกี้นี้ ท้องฟ้ามองหน้าฉันอย่างไม่เข้าใจ ผิดกับแซ็กที่ดูโมโหออกนอกหน้า
“จะให้รุ่นน้องไปนั่งข้างคนขับทั้งๆที่มันทรมานงั้นหรอ…เงินก็ออกเท่าๆกันจะบอกว่าไม่มีที่นั่งได้ยังไง” ฉันเหล่ตาใส่รุ่นน้องปีสองที่เป็นคนพูดให้ท้องฟ้าไปนั่งกับคนขับ
“นิว..” แซ็ก
“รถคันนึงนั่งได้สี่สิบที่นั่งเรามีรถกันสองคันก็แปดสิบ คณะของเราคนเยอะขนาดนั้นเลยหรอคะแซ็ก?” ฉันพูดต่อ
“…!!!”
“มานั่งที่ฉันซะ…ฉันจะไปนั่งอีกคันเอง” ฉันพูดพร้อมกับเดินออกไปประจันหน้ากับแซ็ก
“…” เขาไม่กล้าสบตาฉัน
“ทำตัวแบบนี้…น่าอายมากเลยนะแซ็ก!” ฉันทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินลงจากรถไปอีกคันทันที
ฉันขึ้นรถอีกคันมาด้วยอารมณ์ที่โมโหสุดขีด ฉันไม่คิดว่าคนอย่างแซ็กจะทำนิสัยแบบนี้ทั้งๆที่เขาควรจะแยกแยะมากกว่านี้ พอฉันขึ้นมาบนรถทั้งรถก็มองมาที่ฉันเหมือนจะถามว่ามาได้ยังไง แต่ให้ตายเถอะบนรถนี่มันว่างเกินสิบที่นั่งด้วยซ้ำไป ไหนเขาบอกว่าที่นั่งเต็มไง!
“มานั่งนี่ก่อนสินิว” เอเพื่อนสนิทของแซ็กเรียกฉันให้ไปนั่งข้างๆเขาที่ว่างอยู่
“อืม”
ฉันเดินไปนั่งข้างเออย่างว่าง่าย พยายามระงับอารมณ์ของตัวเองให้โมโหน้อยที่สุด ไม่นานนักแซ็กก็เดินขึ้นมาในรถ เขามองฉันแว๊บหนึ่งก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งแถวหน้าสุด
“ยังไม่หายโกรธมันอีกหรอ?” เอเอ่ยปากถาม
“เลิกกันแล้ว”
“อันนั้นรู้…แต่คบกันมานานจะเลิกกันแค่เรื่องพวกนี้งั้นหรอ?”
“นายพูดว่าแค่หรอเอ?”
“…”
“นายก็น่าจะรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรนะ”
“อือ ฉันรู้”
“เหอะ!”
“แซ็กมันรักเธอมากนะ”
“ฉันก็รักเขามาก…แต่ฉันไม่ชอบให้เขามาทำกับฉันแบบนี้ ไหนจะเรื่องท้องฟ้าอีกล่ะที่เขาบอกให้ท้องฟ้าไปนั่งกับคนขับรถ โกหกว่ารถที่นั่งเต็มทั้งๆที่มีรถตั้งสองคัน”
“ทำไมเธอต้องใส่อารมณ์ขนาดนั้นด้วย” เอมองด้วยสายตาจับผิด
“ฉันไม่ชอบ”
“ไม่ใช่หรอกนิว…เธอชอบไอ้เด็กที่ชื่อท้องฟ้า”
“ว่าไงนะ?” ฉันถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
ไม่มีทางที่ฉันจะรักท้องฟ้า ถึงเขาจะดีบ้างร้ายบ้างแต่ฉันก็ไม่เคยคิดอะไรกับเขาเกินคนรู้จักเลยและที่ฉันปกป้องเขานั่นก็เพราะการกระทำของแซ็กมันผิดจริงๆต่างหาก
“เวลามันจะเป็นเครื่องพิสูจน์…ระวังตัวไว้นะนิว”
“…”
“แซ็กมันรักเธอมาก…มันก็ยิ่งร้ายมาก”
“แต่เขาน่าจะรู้ตัวนะว่ามันงี่เง่าที่ทำแบบนั้น”
“มันไม่รู้ตัวหรอก…ความรักทำให้คนตาบอด ไม่เคยได้ยินหรือไง ^^”
ฉันตื่นขึ้นมาด้วยแรงสะกิดของเอที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พวกเรามาถึงที่ทะเลก็ปาไปเกือบสี่โมงเย็น แสงแดดตอนช่วงสายๆมันค่อนข้างร้อนและจัดพอสมควร
ฉันเดินลงมาจากรถพร้อมกับเอที่เดินลงมาตาม รุ่นน้องปีหนึ่งตอนนี้นั่งเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ฉันสังเกตเห็นท้องฟ้าที่มองมาที่ฉันไม่กระพริบตา ฉันหลบสายตาของเขาแล้วเดินเข้าไปสมทบกับรุ่นน้องปีสองที่มีหน้าที่ดูแลปีหนึ่ง
“จะพักกันที่ไหน?”
“อ่อสำหรับรุ่นน้องจะเป็นบังกะโลละหกคนค่ะ ^^”
“อืม…แล้วรุ่นพี่?”
“รุ่นพี่จะเป็นโรงแรมห้องละสองคนค่ะ”
“อ่อจ้า…พี่ไม่รู้อะไรเลยแหะๆ ^^” ฉันยิ้มแหย่ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไปนั่งที่ร่มๆก่อนก็ได้ค่ะเดี๋ยวจะเป็นลมเอานะ” รุ่นน้องพูดด้วยความเป็นห่วง
“แล้วจะทำกิจกรรมอะไรต่อหลังจากนี้?”
“เดี๋ยวเราจะแบ่งให้น้องๆเข้าที่พักไปก่อนแล้วจะเรียกมารวมตัวตอนห้าโมงกินข้าวเย็นแล้วมีกิจกรรมรอบกองไฟค่ะ”
“โอเคจ้ะ ^^” ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนที่นั่งรถด้วยตอนแรก
ก้ามปูหันมายิ้มให้ฉันพร้อมกับเพื่อนๆอีกสองคน ฉันกับก้ามปูได้นอนด้วยกันส่วนเพื่อนอีกสองคนของเธอก็นอนห้องข้างๆพวกเราอีกที
ฉันเดินขึ้นมาบนห้องของโรงแรมระดับห้าดาวที่จัดไว้อย่างสวยงาม เตียงคู่ที่มีนกที่พับจากผ้าวางไว้บนเตียง ระเบียงที่เดินออกไปเห็นวิวทะเลโดยรอบไม่มีต้นไม้หรืออะไรมาบัง ลมที่พัดไปมาสม่ำเสมอ ฉันนั่งอยู่ในห้องพักใหญ่รอก้ามปูอาบน้ำเสร็จฉันจะได้อาบต่อแล้วลงไปช่วยรุ่นน้องทำกิจกรรมข้างล่าง
“แกท้องฟ้าน่ารักมากเลยอ่ะ >_<” ก้ามปูเดินเช็ดผมที่เปียกออกมาจากห้องน้ำเอ่ยขึ้น
“ยังไง?” ฉันถามกลับไป
“เขาดูเรียบร้อยถามอะไรก็ตอบ ถึงจะไม่ค่อยสนใจฉันเท่าไหร่ก็เถอะ -.,-”
“อ่อ…”
“ฉันว่าท้องฟ้าเป็นผู้ชายยิ้มสวยนะ *0*”
“แต่ตอนนี้ฉันว่าแกดูเพ้อไปนะ”
“ก็ฉันชอบน้องเขานี่นา”
“จ้า ฮ่าๆ” ฉันพูดพร้อมกับเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
ผ่านไปสิบห้านาทีฉันกับก้ามปูก็เดินลงมาพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน เราเดินไปหารุ่นน้องปีสองที่ดูเหมือนจะยังมีปัญหากับการแบ่งบังกะโลให้รุ่นน้องปีหนึ่งอยู่ หวังว่าพวกเราจะช่วยอะไรได้บ้างนะ
“ยังแบ่งไม่ถึงไหนเลยหรอ” ก้ามปูถาม
“เหลือเศษค่ะ”
“กี่คน” ฉันเป็นฝ่ายถามบ้าง
“คนเดียว”
รุ่นน้องไม่ได้เป็นคนตอบแต่คนที่ตอบคือแซ็กต่างหาก
“ใคร” ฉันยังคงถามออกไปทั้งๆที่รู้ว่าเศษนั่นคือท้องฟ้า
“ท้องฟ้า”
“ดีเลย ^^” ฉันยิ้มกว้าง
ทำเอาแซ็กขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ ฉันกระตุกยิ้มร้ายแล้วเดินเข้าไปประชิดตัวเขาแล้วพูดเน้นๆว่า
“ให้ท้องฟ้ามานอนกับฉัน J”
“ไม่ได้!!” แซ็กตะโกนเสียงดัง
“ไม่เห็นผิดตรงไหนเลยเนอะก้ามปู” ฉันหันไปหาตัวช่วยสมทบ
“ใช่ๆ ^O^” ก้ามปูพยักหน้ารัว
“เอามันไปแทรกห้องไหนก็ได้” แซ็กหันไปพูดกับรุ่นน้อง
“นอนกับฉันก็ได้นะถ้ามันลำบาก”
“เธอเป็นผู้หญิง!”
“แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรฉันเหมือนนาย!” ทันทีที่ฉันพูดจบท้องฟ้าก็เดินเข้ามาพอดี
ฉันเห็นสายตาของเขาที่ดูหม่นลงเล็กน้อยก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นฉันมองเขาอยู่ ท้องฟ้าเดินเข้ามาใกล้ๆฉันเขาส่งกระดาษใบเล็กๆใบหนึ่งใส่มือฉันก่อนจะเดินจากไป
“ขอโทษนะแซ็กแต่ฉันอยากจะบอกนายว่าที่นายกำลังทำอยู่ตอนนี้น่ะ”
“…”
“โคตรปัญญาอ่อน!” ฉันจ้องตาเขานิ่ง
แซ็กกำมือแน่นจนเส้นเลือดปูดออกมา ฉันยิ้มอย่างสะใจก่อนจะเดินออกมาจากจุดนั้นแล้วเปิดจดหมายที่ท้องฟ้ายัดใส่มือฉันเมื่อกี้
‘ไม่ต้องปกป้อง ไม่ต้องทำแบบนี้
ผมดูแลตัวเองได้ นิวอย่าเหนื่อยเลยนะ -..-v’
ข้อความสั้นๆของเขาทำให้ฉันยิ้มออกมา ฉันไม่รู้ว่าฉันจะช่วยเขาแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน ฉันรู้สึกสงสารทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด…แซ็กผู้ชายที่ฉันไว้ใจเขามาตลอดกลับเป็นคนร้ายกาจอย่างคาดไม่ถึง ตอนนี้จากรักที่เคยมีมันกลับกลายเป็นเกลียดไปแล้วล่ะ
ฉันเดินไปนั่งข้างๆท้องฟ้าที่นั่งอยู่ริมชายหาดคนเดียว อีกซักพักก็จะได้รวมตัวกินข้าวกันแล้วก็เริ่มกิจกรรมรับน้องในช่วงหัวค่ำ ฉันว่าวันนี้อาจรับน้องไม่หนักเท่าไหร่ มันจะไปหนักเอาอีกสองวันข้างหน้ามากกว่า
“นายทนให้แซ็กมาทำแบบนี้ได้ยังไง”
“ผมไม่อยากมีเรื่อง”
“เห?...อะไรเข้าสิงนาย”
“เปล่าหรอก แต่แซ็กเขาเป็นรุ่นพี่ที่ดูแลงานรับน้องปีนี้ ถ้าผมไม่ยอมเค้าผมก็โดนทัณฑ์บนอีกสิครับ”
“ไม่เห็นเกี่ยวกัน…เขาบอกนายแบบนั้นหรอ?”
“ผมไม่รู้…ผมแค่ไม่อยากมีปัญหาตอนนี้”
“…”
“ผมกลัวว่ามหาลัยจะแจ้งไปถึงลุงผมอีก…ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆอาจไม่โชคดีแบบนี้แล้วก็ได้”
“อืม…เหนื่อยหน่อยนะทั้งเรียนทั้งรับน้องไหนจะมาเจอแบบนี้อีก” ฉันตบบ่าเขาเบาๆ
“ครับผม แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอกน่า~”
“จ้า” ฉันล้อเลียน
เราสองคนนั่งคุยเล่นกันไปเรื่อยๆจนเสียงประกาศเรียกรุ่นน้องรวมตัวดังขึ้น โชคดีที่ทะเลช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนมากนัก เรียกว่าไม่มีเลยมากกว่าเพราะมันเข้าช่วงหน้าฝนพอดี ฉันเดินไปพร้อมกับท้องฟ้า แว๊บหนึ่งฉันเห็นแซ็กมองมานิ่งๆแต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ฉันไม่ชอบที่ท้องฟ้ายอมคนเลยซักนิด…เขาควรจะทำให้แซ็กรู้ซะบ้างว่าควรจะแยกแยะให้ถูกระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน
“เดี๋ยวเราจะให้น้องๆทำอาหารกันเองนะคะ…เออน้องท้องฟ้าคะช่วยพี่ๆยกโต๊ะหน่อยได้ไหม ^^;” หนึ่งในรุ่นน้องปีสองเอ่ย
ฉันเริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดีอีกแล้ว ทำไมต้องเจาะจงแค่ท้องฟ้าด้วย คิดจะเล่นงานท้องฟ้าทุกดอกเลยหรือยังไงกัน -_- สาธุ! ขอให้ท้องฟ้าโมโหบ้างเถอะแล้วพวกนี้จะหนาว
ท้องฟ้าเดินออกไปตามที่ปีสองบอก ฉันยืนดูอยู่นิ่งๆกับกับก้ามปูและเพื่อนๆคนอื่นๆที่มองดูอย่างใจจดใจจ่อเหมือนกัน ใครๆก็ดูออกว่าท้องฟ้าโดนแกล้งชัดๆ รุ่นพี่ปีห้าผู้ชายก็มีกันตั้งห้าหกคนทำไมไม่ขอให้ช่วยทำไมต้องเป็นเขาด้วย
ปึก!
ทันทีที่ท้องฟ้าเดินไปช่วยยกโต๊ะยาวจัดเตรียมสถานที่ปีห้าคนที่ช่วยท้องฟ้ายกโต๊ะก็ปล่อยมือทันที มันจะไม่เป็นอะไรมากถ้าบนนั้นไม่มีของวางอยู่เยอะเพราะความหนักของโต๊ะและความสูงตอนยก พอคนนึงปล่อยข้อมือก็ต้องรับของหนัก ท้องฟ้าถึงกับทรุดนั่งกับพื้น เขาก้มหน้าจับข้อมือตัวเองแน่น
“ทำอะไรน่ะ!” ฉันโพลงขึ้น
“ไม่ได้ตั้งใจ” ปีห้าที่เป็นผู้ชายเอ่ยลอยหน้าลอยตา
“ไม่เป็นไรหรอกนิว” ท้องฟ้าพูดทั้งๆที่เขายังก้มหน้าอยู่
“อยากจะรู้จังเลยว่าถ้าครูมาเห็นรุ่นพี่รังแกรุ่นน้องแบบนี้คุณครูจะว่ายังไง J” ฉันเดินเข้าไปพูดใกล้ๆทำเอารุ่นเดียวกันหน้าซีดเผือก
“ฉันจะเป็นพยานให้” ก้ามปูที่ทนยืนเงียบอยู่นานพูดขึ้น
“แค่คนเดียวคงน้อยไปสินะ…น้องๆปีหนึ่งก็คงจะเห็นเหมือนพี่ใช่ไหม” ฉันหันไปสบตาน้องๆที่มองพวกเราคุยกันอย่างอึ้งๆ
รุ่นน้องหลบตาฉันเป็นพัลวัน ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วตะหวัดสายตาไปหยุดที่แซ็ก ฉันมองเขาด้วยความโกรธแค้นปนความเกลียดที่เริ่มมากขึ้นทุกวินาที
“ไม่มีใครเข้าข้างเราหรอกนิว!” ก้ามปูพูด
“หมายความว่ายังไง?”
“หลังจากที่เธอลงรถไป…รุ่นพี่ที่แสนดีที่น้องๆรักสั่งรุ่นน้องว่าไงจำได้ไหมแก้ม” ก้ามปูหันไปพูดกับเพื่อนในกลุ่ม
“อื้อ…ห้ามคิดจะช่วยเหลือท้องฟ้า” แก้มถึงทีพูดบ้าง
“ฉันก็เป็นพยานให้อีกคน” ฝนเพื่อนอีกคนในกลุ่มของก้ามปูพูด
“แค่นั้นถือว่าเป็นพยานได้หรอ? ก็เข้าข้างกันเองทั้งนั้น” แซ็กพูดพร้อมเหยียดยิ้มร้าย
“ที่ผมบอกว่าไม่เป็นไรน่ะ…” ท้องฟ้าพูดแล้วลุกขึ้นยืนระยะประชิดกับแซ็ก “เพราะผมอัดเสียงไว้แล้วต่างหากละครับพี่ชาย J”
“…!!!!”
--------------------------
talk : ไม่ได้ว่าจะไม่อัพนะคะ อัพให้ตลอดแต่อาจจะช้าเพราะเรารอคอมเม้น อยากรู้ว่าคนอ่านรู้สึกอะไรยังไงบ้าง ที่อัพช้าเพราะว่ารอคอมเม้น บางคนเข้ามาอ่านแล้วไม่คอมเม้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไรท์เตอร์ส่งไปพิจารณาที่สำนักพิมพ์ อยากได้คอมเม้นจากนักอ่าน ถ้าคอมเม้นกันเยอะ คอมเม้นบ้างเค้าก็อัพให้นะคะ ใจเขาใจเราเนอะ รู้ว่านักอ่านก็อยากอ่าน นักเขียนก็อยากอ่านคอมเม้น ถ้าอยากให้อัพเร็วๆก็ช่วยกันคอมเม้นหน่อยเนอะ เห็นใจกันหน่อย T_T
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นี่ชมนะเนี่ย ย ย ฮิฮิ๊ววว
ท้องฟ้าก้อร้ายไม่เบานะเนี่ย
สู้ๆค่ะ ไรเตอร์
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 10 สิงหาคม 2555 / 20:19