ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    REST IN KAIHUN {OS/SF}

    ลำดับตอนที่ #54 : os National Anthem

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.48K
      67
      24 มี.ค. 61

    National Anthem 

    #skypagekh










    Red, white 
    Blue is in the sky 
    Sommer is in the air 
    Baby, heaven's in your eye



              "ศิลปินปลายแถวจะลอก ขณะที่ศิลปินที่ฉลาดแล้วจะขโมย จำไว้"

              (Bad Artists Copy, Good Artists Steal) 

              เสียงทุ้มต่ำพูดพลางหมุนแก้วไวน์ในมือเชื่องช้า ไทสีครามภายใต้เสื้อกั๊กสูทถูกจัดซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับกลัวว่าลมหายใจจะทำให้มันยับเป็นรอย ขายาวนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ไม้แกะสลักแบบฝรั่งเศสโบราณที่เป็นของสะสมตั้งแต่รุ่นปู่ ฝ่ามือหนาข้างซ้ายลูบหัวราชสีห์สีทองแดงบนไม้เท้าซ้ำๆยามดวงตาคมกวาดมองร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่มที่นอนเป็นแบบรูปบนเตียงนอนสีแดงชาดอย่างสุขุมแต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกผู้ว่าจ้างดูถูก ถึงจะเป็นแรงกดดันที่น่าอึดอัดแต่เซฮุนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายตาคู่นั้นช่างร้อนแรงเหลือเกิน 

              กลางห้องโถงใหญ่ราวกับปราสาท โอเซฮุนนอนเปลือยอยู่บนเตียงสีแดงตัดกับผิวขาวเนียนด้านหน้ากลุ่มนักเรียนหัวกะทิห้าคน อุณหภูมิเย็นเฉียบเพราะพื้นและกำแพงที่เป็นหินอ่อนทำให้ปลายลิ้นเล็กต้องแลบเลียริมฝีปากแห้งผากของตัวเองเหมือนลูกแมวที่เฝ้าเลียขนอันน่าหลงใหลของมัน เซฮุนกำลังไม่มีสมาธิเพราะสายตาเย่อหยิ่งของคนตัวสูงบนเก้าอี้นั่น คิมจงอินกำลังใช้สายตาเป็นแปรงพู่กันตวัดวาดไปทุกสัดส่วนบนร่างกายของเขา และที่แย่ยิ่งกว่านั้นเขากำลังตกที่นั่งลำบากเพราะตัวเองที่ตกไปอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ชายคนนั้นเสียเอง แทนที่จะรู้สึกโมโหเขากลับคิดว่าสายตาคมคู่นั้นไม่ได้หยาบคาย เป็นเพียงการขออนุญาตที่ไม่อ่อนหวานเท่านั้น 

              "มีสมาธิหน่อย...แบคฮยอน" 



              "ครับ"

              เปลือกตาสีอ่อนกะพริบลงอย่างตระหนก เซฮุนก้มลงมองหินอ่อนบนพื้นก่อนจะย้ายจุดรวมสายตาไปที่ตระกร้าผลไม้หลังห้อง จงอินพูดดุนักเรียนของตัวเองทั้งที่ดวงตานั่นยังมองสำรวจร่างกายเขาอย่างไม่ลดละ เขารู้ว่าผู้ชายคนนั้นจงใจเว้นประโยคให้กำกวมแบบนี้ ให้ตายเถอะ

              "อย่าเกร็งนัก ภาพมันจะไม่สวย" มือหนายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มยามสะโพกอวบราวกับผู้หญิงของชายหนุ่มบนเตียงขยับยกขึ้นเชื่องช้าอย่างยั่วยวน ผิวขาวเนียนราวกับเรืองแสงได้ถูกโปรยทับด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสด ซ้ำยังพรมทั่วด้วยหยดน้ำ จงอินได้แต่ปล่อยให้ของเหลวในแก้วไหลลงลำคอไปดับไฟที่ปะทุอยู่ในร่างกาย แต่เขากลับรู้สึกรุ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ หรือบางทีมันอาจจะเป็นเชื้อเพลิงกัน



              "ครับ" นักเรียนชายตอบ

              เซฮุนผ่อนลมหายใจออกช้าๆเพื่อให้ช่องท้องคลายอาการเกร็ง ผู้ชายในเสื้อกั๊กสูทนั่นยังคงใช้การว่าปรามนักเรียนเป็นข้ออ้างเพื่อพูดจาสบประมาทเขา แต่เพราะกำลังรู้สึกประหม่าแทนที่จะโมโหทำให้เขาเกลียดตัวเอง 

              "เลื่อนดอกไม้ขึ้นมาอีกสิ" 



              "..." 



              "ฉันหมายถึงนาย" นิ้วยาวยกขึ้นปัดหัวคิ้วตัวเองพลางเลิกคิ้วขึ้นออกคำสั่งอย่างเย่อหยิ่งยามสบตานายแบบบนเตียง 



              "อ๋อ...ครับ" เซฮุนหยิบดอกกุหลาบก้านยาวสีแดงสดขึ้นทัดใบหูก่อนจะขยับขาเรียวให้อยู่ในองศาที่เหมาะสม เขารู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ชะมัดที่ไม่ทันลูกเล่นของจงอิน 



              "มันผิดท่าแล้วแบบนั้น" แก้วไวน์ถูกวางลงบนโต๊ะไม้จังหวะเดียวกันที่ขายาวก้าวลงบนพื้น จงอินถือไม้เท้าด้วยมือข้างขวาเดินตรงเข้าไปหาชายหนุ่มบนเตียง 



              "ฉันไม่ได้สั่ง อย่าขยับ" มือหนายกด้ามไม้เท้าขึ้นชี้ก้นกลมอย่างเจ้ากี้เจ้าการจนมันจมหายไปในผิวนุ่มขาวละเอียด จรดปลายด้ามลากสัมผัสร้อนระอุไปตามบั้นท้ายกลมกลึงราวกับกำลังร่ายมนต์สะกดให้อีกคนอยู่นิ่ง ขายาวย่อลงนั่งบนพื้น ใบหน้าคมเข้มชวนให้เพ้อฝันเลื่อนเข้าไปใกล้คนบนเตียงจนได้กลิ่นหอมจากผิวเนียนก่อนจะจัดดอกกุหลาบที่ทัดใบหูบางอย่างไม่เร่งรีบ 



              "...ครับ" ร่างบางพรูลมหายใจออกมาหลังจากร่างสูงเดินออกไป ตอนนี้หัวใจของเซฮุนกำลังเต้นอย่างบ้าคลั่งราวกับจะหมดสติ 



    ให้ตายเถอะ เขาเหมือนคนโง่ชะมัด 





              "ส่งงานแล้วกลับบ้านกันได้แล้ว" เสียงทุ้มพูดบอกนักเรียนของตัวเองขณะที่มองชายหนุ่มบนเตียงลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมสีขาวปกปิดร่างกาย 

              ประโยคที่ว่า วัยเยาว์ไม่มีอายุขัย เขาเพิ่งจะเข้าใจมันดีตอนที่เห็นเซฮุนทัดดอกกุหลาบสีแดงสดนั่นแหละ หากแสงสีทำให้เราหลงทาง วัยเยาว์จะทำให้เราลืมแม้กระทั่งจุดหมาย ร่างกายของเซฮุนทำให้เขาลืมทุกอย่างไปชั่วขณะ ยามร่างบางกระตุกสั่นเมื่อถูกตีด้วยไม้เท้าของเขา ผิวเนียนขึ้นรอยแดงจางเหมือนกลีบกุหลาบที่โรยอยู่รอบๆ วัยเยาว์ที่สวยงามขนาดนั้น จงอินไม่สามารถปฏิเสธได้ เขาไม่คิดว่าจะมีวันที่ได้สัมผัสความรู้สึกเหล่านี้อีก และแน่นอนว่าเขายินดีกับมันอย่างยิ่ง 

              "สัปดาห์หน้าตรงเวลาด้วย" มือหนายื่นซองกระดาษสีขาวให้ชายหนุ่มร่างบางก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม



              "ครับ" 

              เขาลืมบอกไป...เมื่อวัยเยาว์ทำให้เราลืมปลายทางมันก็จะพาเราไปในตรอกปริศนา แต่จงอินมีกระบอกไฟฉายในมือ เขามองเห็นตรอกมืดสนิทตรงหน้าอย่างทะลุปรุโปร่งเลยล่ะ 






    cut






    สามปีถัดมา 

              "วันนี้พี่หล่อที่สุดเลย" เสียงหวานกระซิบข้างหูคนรักพร้อมกับโปรยยิ้มหวานอย่างออดอ้อน มือเรียวยกขึ้นจัดไทสีกรมบนอกหนาให้เข้าที่ก่อนจะถูกคนรักชิงหอมแก้มจนต้องก้มหน้าหงุด



              "คุณก็สวยเหมือนกัน" ดวงตาคมยังคงหวานเยิ้มเสมอยามมองคนรักข้างกาย จงอินกระชับมือข้างที่โอบรอบเอวบางก่อนจะเริ่มเดินเข้าไปร่วมวงสนทนากับคนในงาน



              "ถ้าไม่ได้ท่านชานยอลช่วยผมคงแย่แน่ๆ ไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไรเลยครับ" 



              "คนทำงานกระทรวงเดียวกัน จะถือเป็นบุญคุณทำไมล่ะ" 

              เสียงพูดคุยของพวกเจ้านายไม่ได้ทำให้เซฮุนสนใจมากนัก เว้นเสียแต่ผู้ชายตัวสูงคนนั้นที่ใครๆต่างก็เรียกว่า ท่านชานยอล
     
              "วันนี้มางานกับเขาด้วยเหรอช่างจงอิน" ชานยอลเดินตรงเข้ามาหาคนสนิทคุ้นเคยหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานเพราะธุระงานที่อังกฤษ ได้ฤกษ์กลับมาประจำตำแหน่งครั้งนี้คงจะได้เรียกหาคิมจงอินบ่อยๆ 



              "ครับท่าน" 



              "แล้วนี่ใครล่ะ? เมียรึไง?" 



              "ครับ โอเซฮุนนี่ท่านชานยอล เจ้าของวันเกิด" จงอินหันไปบอกกับคนรัก



              "สวัสดีครับ" 



              "อืม" ดวงตาคู่โตฉายแววเจ้าเล่ห์ชวนให้คนถูกมองขวยเขินอย่างห้ามไม่ได้ มุมปากหยักนั่นยกยิ้มพลางเลิกคิ้วเล็กน้อยกลับมีเสน่ห์อย่างเหนือแรงต้านทาน



              "เจ้าพวกนั้นเรียกหาอยู่ ไปสิ" ชานยอลก้มลงกระซิบเจ้าของผิวแทนเพราะเสียงดนตรีบรรเลงปนกับเสียงพูดคุยในงานทำให้ได้ยินกันลำบาก 



              "ครับท่าน แล้วเจอกันนะครับ เดี๋ยวพี่มานะ" จงอินบอกกับคนรักก่อนจะเดินเข้าไปทักทายกลุ่มเพื่อนสนิทอีกฟากหนึ่งของงาน 



              "ชื่อโอเซฮุนหรอ?" เสียงทุ้มก้มลงถามชิดใบหูทำให้คนถูกถามต้องย่นคอหนีอย่างเขินอาย 



              "ครับ..." 



              "ขับรถเป็นรึเปล่า ฉันมีคันที่ซื้อมาจากเยอรมันอยากลองขับดูมั้ย" คิ้วหนาเลิกขึ้นถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งขณะที่มือใหญ่กำลังลูบไล้อยู่บนบั้นท้ายกลมกลึงอย่างฉวยโอกาส 



              "ครับ ผมอยากลอง" เซฮุนวาดยิ้มหวานแบบที่ใครๆก็ต้องตกหลุม มือเรียวยกขึ้นปัดเบาๆบนอกกว้างก่อนจะเขย่งขาขึ้นกระซิบกระซาบข้างใบหูหนา 



              "ผมขับเองนะครับ ท่านแค่โยกคันเร่งก็พอ" 



    Money is the reason we exist 
    Everybody knows it, it's a fact 
    Kiss, kiss







    talk : กลับมาแล้วค่า ฝาก comment ติดแท็ก #skypagekh กันด้วยนะค้า กำลังใจเขียนหลักๆของเรามาจาก feedback ของเพื่อนๆนะคะ ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยน้า ขอบคุณที่อ่านฟิคเรานะคะ ถ้าอ่านตอนเช้าขอให้ทุกคนมีวันที่ดี ถ้าอ่านก่อนนอนขอให้ฝันดีนะคะ เจอกันเรื่องหน้าน้า ;) 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×