ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    REST IN KAIHUN {OS/SF}

    ลำดับตอนที่ #12 : os photograph

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.7K
      14
      3 ก.ย. 58

    #โฟโต้ไคฮุน









    People fall in love by smile but you'd fall harder for tears 

    เขาเคยคิดว่าเราตกหลุกรักใครสักคนได้ด้วยรอยยิ้ม แต่สิ่งที่เขาเพิ่งค้นพบคือน้ำตาจะทำให้เราตกหลุมได้ลึกกว่า






    ปี 2000


           "ฮึก..อึก" เสียงสะอื้นเบาๆ ดังลอดออกมาจากห้องชมรมถ่ายภาพในเวลาสี่ทุ่มนิดๆ คิมจงอินกำลังหยุดยืนอยู่หน้าบานประตูสีขาวพร้อมกับขนที่ลุกซู่ทั้งตัว 




           "ฉิบหาย.." เสียงทุ้มสบถออกมาเบาๆ พร้อมกับมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง ตำนานสยองขวัญของมหา'ลัยเกือบๆ สิบเรื่องที่รุ่นพี่เคยเล่าให้ฟังกำลังย้อนเข้ามาในหัวของจงอินอีกครั้ง เวรกรรมอะไรเขาต้องหอบผ้าห่มย้ายมานอนห้องนี้ด้วยวะ


           คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อนึกถึงชะตากรรมที่ตัวเองกำลังเผชิญ เขาเป็นนักศึกษาปี2 คณะบริหารแต่ดันต้องหอบผ้าห่มเก่าๆ กับหมอนลายหมีมานอนที่คณะนิเทศเพราะความติดแฟนของพี่ชานยอล เขามาช่วยเตรียมงานรับน้องสำหรับวันพรุ่งนี้เพราะพี่คยองซูหวานใจพี่ชานยอลสั่งมา รุ่นพี่ตัวสูงนอนกับแฟนอยู่ที่ห้องซ้อมละคร พอคนเต็มเขาก็ต้องระเห็จหอบเครื่องนอนเดินมาถึงห้องนี้ แล้วยังมาเจอผีหลอกซ้ำสองอีก ผลบุญของคิมจงอินหายไปไหนกันหมด



           "นะโม-" 



    แกร่ก แกร่ก 


           เสียงกุกกักในห้องทำให้บทสวดของจงอินขาดตอน มือหนาผสานกันแน่นก่อนจะถอยหลังออกมาเมื่อเห็นเงาของใครสักคนผ่านช่องบานเกล็ด 


           "พี่ชานยอลให้มารึเปล่า?" เสียงนุ่มหูนั่นทำให้จงอินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ชายตัวบางดูเตี้ยกว่าเขานิดหน่อยกำลังยืนยิ้มจางๆ พร้อมกับยกมือขึ้นถูแก้มคล้ายกับเช็ดน้ำตาอยู่ตรงหน้าเขา 


           ผิวขาวตัดกับเสื้อยืดตัวหนาสีเขียวเข้มทำให้จงอินนึกถึงใบไม้ที่ถูกแปะอยู่บนสมุดไดอารี่ ผมสีน้ำตาลเข้มยุ่งๆ นั่นทำให้จงอินนึกถึงขนมสายไหมรสโค้ก ผู้ชายตรงหน้าทำให้เขารู้สึกเจ็บเพราะหัวเข่าของเขากระแทกลงไปที่ก้นหลุม ไม่ใช่การตกหลุมรักแต่เป็นการตกหลุมชอบ ขอบคุณพระเจ้า ไม่สิ, เขาหมายถึงขอบคุณพี่ชานยอลต่างหาก 



           "อยู่คณะนี้หรอ ทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย" เซฮุนเดินเข้ามาในห้องก่อนจะเทโกโก้ที่ใส่ขวดเก็บความร้อนไว้แบ่งให้คนมาใหม่




           "เปล่า ฉันอยู่บริหารมาช่วยพี่ชานยอลน่ะ ขอบคุณ" มือกร้านรับแก้วเซรามิกสีขาวที่ยังคงไอร้อนเอาไว้ทำให้ความหนาวจากฝนคลายลงไปได้บ้าง 




           "ฉันเซฮุนนะ น้องรหัสพี่คยองซู แฟนพี่ชานยอลน่ะ" เซฮุนคลี่ยิ้มอย่างเป็นกันเองก่อนจะลงไปนั่งกับพื้นแล้วหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวไว้




           "ฉันจงอิน น้องรหัสพี่ชานยอล แฟนพี่คยองซูน่ะ" ประโยครูปเดิมเป๊ะๆ ทำให้เซฮุนแอบหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ผู้ชายที่ใช้หมอนรูปหมีนี่ตั้งใจจะกวนเขารึไงกัน




           "เมื่อกี้ได้ยินเสียงร้องไห้ แถวนี้มีผีด้วยเหรอ?" จงอินเริ่มบทสทนาต่อไปโดยอาศัยเรื่องที่เพิ่งเจอเมื่อครู่เพราะไม่อยากเสียเวลาคิดนานเดี๋ยวมันจะขาดตอนเกินไป 




           "ถ้าเจอนายจะทำยังไงล่ะ?" 




           "ร้องไห้แข่งมั้งฮ่าๆ" จงอินหัวเราะตาหยีจนลืมสังเกตคนตรงหน้าที่แอบลอบยิ้มจนเหมือนอิโมคอนในโทรศัพท์




           "เสียงฉันเองแหละ เมื่อกี้ดูหนังเศร้าน่ะ" เซฮุนพูดแล้วกระเถิบเข้าไปหาจงอินจนเข่าแทบจะชนกันก่อนจะชูโทรศัพท์ในมือให้อีกคนดู 




           "หนังผีเนี่ยนะ?" จงอินมองชื่อเรื่องบนจอสี่เหลี่ยมก่อนจะขมวดคิ้วใส่อีกคน American horror story เป็นสิ่งที่ทำให้เซฮุนร้องไห้เมื่อกี้หรอ?




           "หดหู่จะตาย" เซฮุนพูดก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นใส่เตรียมจะกลับเข้าไปในโลกของตัวเองอีกครั้ง




           "นี่.." จงอินลุกขึ้นนั่งหลังจากห่มผ้าจัดท่าทางเรียบร้อยแล้ว มือหนาสะกิดไหล่บางก่อนอีกฝ่ายจะหันมาเลิกคิ้วแล้วถอดหูฟังข้างหนึ่งออก




           "ฝันดี" เสียงทุ้มพูดก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมเหมือนปกติ เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นไข้ ไอเย็นรอบตัวลอยอยู่ทั่วแต่ข้างในจงอินกำลังร้อนผ่าวเพราะระบบสูบฉีดเลือดทำงานดีเกินไป เมื่อกี้เขาเผลอได้กินมิ้นต์จากผมอีกคนด้วย ใช่ยาสระผมยี่ห้อเดียวกันกับเขารึเปล่านะ




           "ฝันดี" หลังจากนั้นไม่นานไฟจากจอโทรศัพท์ที่เคยส่องอยู่ก็ปิดลงพร้อมกับมือเรียวที่จับผ้าห่มสีฟ้าซีดของอีกคนขึ้นเพราะอากาศเริ่มหนาว เป็นจังหวะเดียวกันที่จงอินสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วนอนหลับตาอมยิ้มทั้งคืน เซฮุนใช้ยาสระผมยี่ห้อด้วยกันกับเขาจริงๆ ด้วย บังเอิญชะมัด ไม่สิ, พรหมลิขิตชัดๆ









           เสื้อบอลเชลซี ชานมไข่มุก หมากฝรั่ง รูปถ่าย โอเซฮุน และคิมจงอิน 

           (จงแต่งเรื่องจากคำศัพท์ข้างต้น) 



           เซฮุนกำลังนั่งแกว่งขาไปในอากาศใต้หอพักของตัวเอง ร่างบางอมยิ้มกับเชือกรองเท้าที่หลุดลุ่ยลอยไปมาตามแรงที่ตัวเองแกว่ง เสียงเพลง Lego House ของ Ed Sheeran ยังคงเป็นเพลงโปรดของเซฮุนเหมือนเดิม ก้มลงกดโทรศัพท์บนตักให้เล่นเพลงเดิมแม้ว่าเซฮุนจะฟังมาเป็นสิบรอบแล้ว มุมปากสวยยกยิ้มอย่างขำขันมองเสื้อฟุตบอลสีฟ้าที่ตัวเองใส่อยู่ ตราสโมสรชื่อดังยังติดอยู่บนอกเขา ทีมนี้อะไรนะ? สิงโตน้ำเงินคราม? อะไรสักอย่างนั้นแหละ เขาเพิ่งไปซื้อมาจากตลาดหลังมหา'ลัยเมื่อวาน ถ้าจงอินเห็นต้องขำแหงๆ แต่ไม่เป็นไรหรอก รอยยิ้มของคนตัวสูงเป็นเป้าหมายของเขาอยู่แล้วนี่ 



           "โอ้โห..." เสียงทุ้มที่ร้องอุทานอยู่ด้านหลังดึงเซฮุนออกจากห้วงของบทเพลงได้อย่างง่ายดายแม้ว่าจะเปิดเสียงดังสุดอยู่ก็ตาม 




           "ใช่ทีมนี้ป่ะ?" 




           "ฉันต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อโดเรม่อนป่ะเนี่ย?" จงอินพูดติดตลกก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ คนตัวเล็ก 




           "นายก็ซื้อชานมมาให้ฉันนี่ แลกกัน" ประโยคที่คนตัวเล็กเอ่ยออกมาพร้อมกับดวงตาเรียวรีที่ลุกวาวใส่ถุงชานมร้านดังทำให้จงอินคลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ขนาดกางเกงยังเป็นสีเดียวกับเสื้อทีมฟุตบอลที่เขาชอบเลย โอเซฮุนจะน่ารักเกินไปแล้ว 




           "ทำไมซื้อมาสามแก้วอ่ะ?" เซฮุนขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าในถุงมีชานามตั้งสามแก้ว แถมรสไม่เหมือนกันอีกต่างหาก 




           "เผื่อนายกินเยอะ.."




           "ไม่ใช่ว่าไม่รู้รสที่ฉันชอบหรอฮ่าๆ" เซฮุนเอ่ยแซวคนตัวสูงที่พูดเสียงแผ่วเพราะคิดคำตอบไม่ทัน เขาเพิ่งจะสังเกตว่าคิมจงอินหน้าเหมือนหมี เมื่อกี้ก็เป็นหมีตอนสะดุดล้ม ตลกชะมัด




           "ก็เผื่อเลือกไง เดาไม่ถูก..." 




           "ฉันชอบกินช็อกโกแลต แต่ชาเขียวก็ขอด้วยนะ" เซฮุนพูดแล้วหยิบชานมสีน้ำตาลขึ้นมาเจาะหลอดดังเป๊าะก่อนจะดูดไข่มุกขึ้นมาจนแก้มตุ่ย 




           "เซฮุน"




           "หือ" 

      


           แชะ! 


           "คนชอบถ่ายรูปไม่ค่อยถ่ายตัวเองใช่มั้ยล่ะ งั้นเดี๋ยวฉันถ่ายให้เอง" ร่างสูงมองรูปในมือแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความสุข 


    พระเจ้าต้องส่งคิมจงอินมาพร้อมกับพลังแสงอาทิตย์แน่ๆ แก้มเขาร้อนไปหมดแล้ว...






           ความชื้นจากยอดหญ้าหลังฝนกำลังซึมเข้ากางเกงขาสั้นของเซฮุนจนต้องรองมือกั้นเอาไว้ คิมจงอินวิ่งกระหืดกระหอบถือถุงจากร้านสะดวกซื้อมาก่อนจะหยุดเป่ามือข้างที่ถือรามยอนเพราะน้ำร้อนคงจะหกใส่ เซฮุนถอดหูฟังที่ไม่ได้เปิดเพลงอยู่แล้วออกก่อนจะเลิกคิ้วใส่อีกคนที่วางของแล้วยื่นมือมาให้เขา 



           "ลุกก่อน" มือเรียวจับฝ่ามือกร้านไว้ก่อนจะลุกขึ้นตามแรงฉุดของอีกคน 


           จงอินถอดเสื้อลายสก็อตสีเขียวที่สวมอยู่ออกก่อนจะสะบัดสองสามครั้งแล้วพับเป็นสี่เหลี่ยมวางลงบนพื้นหญ้าให้เป็นที่รองของคนตัวเล็ก



           "นายไม่นั่งด้วยกันรึไง?" 



     

           "กางเกงฉันหนาไม่เปียกหรอก" 




           "กางเกงฉันก็ไม่ได้บางขนาดนั้นสักหน่อย" เซฮุนบ่นอุบอิบแล้วฝากโทรศัพท์ไว้กับอีกคน มือเรียวคลี่เสื้อที่ปูอยู่ออกเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพื่อให้พอกับสองที่นั่ง 




           "ให้ช่วยจ่ายมั้ย?" เซฮุนมองขนมจำนวนมากในถุงแล้วถึงกับต้องถามคู่เดทตัวสูงที่บรรจงหยิบถุงขนมพวกนั้นออกมาเรียงตรงหน้า จงอินซื้อขนมแต่ละอย่างแบบหลากรส อย่างน้ำอัดลมก็มีทั้งโค้กทั้งสไปรท์ นมก็มีทั้งรสช็อกโกแลตทั้งรสกล้วย ขนมบางอย่างก็มีตั้งสามสี่แบบ เขาดูเหมือนคนกินเยอะขนาดนั้นเลยรึไงกัน 




           "บ้านรวยไม่เป็นไร" เซฮุนหลุดขำกับคำตอบกวนประสาทของร่างสูงก่อนจะแนบมือกับถ้วยรามยอนแล้วยกขึ้นมาถูกันคลายความหนาว 




           "แล้วจะกินหมดหรอ?" 




           "ซื้อมาให้เลือก ไม่หมดเดี๋ยวเก็บไปกินเอง" 




           "ความจริงซื้ออะไรมาก็ได้"




           "ก็อยากรู้ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร รอบหน้าจะได้ซื้อถูกไง" ท่าทางขะมักเขม้นกับน้ำเสียงทุ้มๆ นั่นทำเอาเซฮุนได้แต่นั่งเงียบรออีกคนจนกว่าจะเสร็จ ใช้เวลาว่างชั่วอึดใจจัดการกับก้อนเนื้อที่เต้นอยู่ในอกจนแทบจะหลุดออกมา ก็แค่คิมจงอินผู้ชายบ้านรวย ทำไมต้องใจเต้นขนาดนี้ด้วยล่ะเซฮุน...




           "ชอบกินอะไรบ้างอ่ะ?" จงอินถามเมื่อเรียงถุงขนมเป็นกำแพงเตี้ยๆ ด้านหน้าเสร็จ 




           "ฉันชอบสไปร์ท ฮันนี่ชิป ช็อกโกเอม่อน เปเปโร่ช็อกโกแลตอัลมอนด์...แล้วนายชอบอะไรบ้าง?" 




           "เหมือนกันเลย" 




           "อ้าวงั้นนายกินเหอะเงินนาย" 




           "ตั้งใจซื้อมาให้ กินเหอะ" 




           "เดินไปซื้อใหม่มั้ยล่ะเดี๋ยวรอ" 




           "ตลกละ" จงอินทำหน้าเอือมใส่คนตัวเล็กก่อนอีกคนจะหัวเราะออกมาเสียงใส ถ้าจงอินเล่นเกมเดาใจเขาว่าเจ้าตัวต้องถูกลงโทษแหงๆ แต่นี่ไม่ใช่เกมนี่...เดทแรกของเขาต่างหาก








           ปี 2007


           เอกสารนับสิบวางเกลื่อนกลาดอยู่บนโต๊ะทำให้แม่บ้านอย่างเซฮุนต้องเดินเก็บใส่แฟ้มให้เรียบร้อย มือเรียวรีบท้าวกับขอบโต๊ะทันทีเมื่อตัวเองรู้สึกเหมือนมีลูกตุ้มเหล็กมาถ่วงที่หัวจนหน้ามืดไปหมด เมื่อคืนเขานอนดึกเพราะเที่ยวบินของจงอินล่าช้าไปเกือบสามชั่วโมงเนื่องจากพายุฤดูร้อน เขาแค่กลัวว่าจงอินจะไม่มีอะไรกิน ยิ่งตอนนี้ร่างสูงกำลังโหมงานหนักเขายิ่งเป็นห่วงเข้าไปใหญ่ 


           จงอินต้องเดินทางไปติดต่อเรื่องการนำเข้าสินค้ากับทางบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเพื่อความคล่องตัวของการจัดการ ร่างสูงเพิ่งจะเริ่มทำบริษัทนำเข้ารถยนต์เป็นของตัวเองแน่นอนว่าจงอินยังเสียเปรียบเพราะยังอายุน้อยและไม่มีประสบการณ์แต่การมีพี่ชานยอลที่เคยทำงานในบริษัทใหญ่ๆ แล้วมาเป็นหุ้นส่วนทำให้จงอินยังพอเบาแรงไปบ้าง แต่ถึงยังไงเขาก็ยังเป็นห่วงอยู่ดีนั่นแหละ ไม่ใช่เรื่องงานแต่เป็นเรื่องสุขภาพของอีกคนที่เล่นทำงานอย่างกับหุ่นยนต์แถมยังกินข้าวไม่ตรงเวลาอีก เขามีแค่จงอินคนเดียวนี่นา 


           "ดึกแล้วยังไม่นอนอีกหรอ" เสียงทุ้มปลุกคนที่เผลองีบหลับบนโซฟาให้ตื่นขึ้นมา มือเรียวขยี้ตาก่อนจะรีบดิ่งไปที่ห้องครัวเพื่อทำข้าวผัดกิมจิให้คนตัวสูงกิน ไปอยู่ญี่ปุ่นคงได้กินแต่ซูชิ กลับบ้านทั้งทีเซฮุนต้องสวมผ้ากันเปื้อนเป็นแม่บ้านสักหน่อย 




           "ไปนอนไปเดี๋ยวทำกินเอง" จงอินเท้าแขนกับเคาน์เตอร์ในครัวก่อนจะยกน้ำเย็นในแก้วขึ้นดื่มดับกระหาย เขายังไม่ได้กินอะไรมาก็จริงแต่เซฮุนอุตส่าห์รอมาขนาดนี้แล้วไม่เห็นจะต้องลำบากมาทำอาหารให้เขาเลย 




           "ไปนั่งเถอะน่า" เซฮุนบ่นออกมาโดยที่ยังเพ่งสมาธิกับการหั่นกิมจิอยู่ 




           "ไม่หลับคาเขียงนะ?" 




           "อยากเจอมีดรึไง" 




           "น่ารักจังโว้ย!" กดจมูกโด่งลงฟัดแก้มเนียนไปทั้งสองข้างจนเกือบโดนมีดแทงเข้าให้ ทำไมแม่บ้านเข้าถึงได้โหดขนาดนี้ล่ะ ไม่เห็นเหมือนแรกๆ เลย แหงล่ะ, ยิ่งนานยิ่งจืดจางนี่ 




           "ยังมายืนเกะกะอีก จะไปดีๆ หรือไปพร้อมเลือด" 




           "รักนะ" ร่างสูงส่งจูบมาก่อนจะหันเดินออกจากครัวด้วยเสียงหัวเราะอย่างสบายอารมณ์จนเซฮุนหลุดยิ้มตามไปด้วย เป็นแบบนี้แล้วลูกน้องจะเคารพมั้ยเนี่ย แต่ที่แน่ๆ เขาก็ตกหลุมรักไปหลายหนแล้วล่ะ 




           "ไดเอทหรอ?" จงอินตักข้าวผัดฝีมือแฟนตัวเล็กเข้าปากแล้วอมยิ้มใส่คนตรงข้ามที่นั่งกัดแอปเปิ้ลเขียวทั้งๆ ที่ปกติไม่ชอบกินผลไม้แท้ๆ




           "อือ" 




           "พุงนิ่มๆ น่ารักกว่าเยอะเลย" พูดจบก็ใช้เท้าเขี่ยขาอีกคนเบาๆ อย่างหยอกเย้า เซฮุนง้างมือทำท่าจะขว้างแอปเปิ้ลใส่หัวอีกคนอย่างนึกหมั่นไส้ ทำไมจงอินยิ่งแก่ยิ่งทำตัวเป็นเด็กนะ 







           "หลับไปเลยเดี๋ยวไปอาบน้ำก่อน" มือหนาดึงผ้าห่มขึ้นคลุมคนตัวเล็กที่นอนมองหน้าเขาอยู่บนเตียง 




           "เร็วๆ นะ" เซฮุนพูดแค่นั้นแล้วซุกหน้าลงกับหมอนเพื่อหาไออุ่น จงอินคลี่ยิ้มออกมาบางๆ พร้อมกับลูบผมนุ่มอย่างคิดถึง ถึงแม้เซฮุนจะแสดงออกว่ารำคาญเขาแต่คนตัวเล็กก็ยังอยากให้เขากอดก่อนนอนเสมอ เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่เขาจะให้เซฮุนได้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม 


           เขาเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าเซฮุนจะอิจฉาคู่อื่นมั้ยที่ได้ช่อดอกไม้ราคาแพง ดินเนอร์หรู เดทกันบนชิงช้าสวรรค์กลางเมือง แต่รอยยิ้มของร่างบางตอนที่นั่งกินรามยอนใต้ต้นไม้ในสวนสาธารณะกับเขาทุกวันเสาร์หลังเลิกเรียนก็พอจะเป็นคำตอบได้ เซฮุนชอบไอร้อนของถ้วยรามยอนมากกว่าแอร์เย็นๆ ในภัตตาคาร เหมือนกับเขาที่ชอบรอยยิ้มของเซฮุนมากกว่าไก่ทอดร้านโปรด 


           เสียงกดปิดสวิตซ์ไฟดังขึ้นพร้อมกับแสงจันทร์ด้านนอกที่สาดเข้ามาเต็มที่เพราะไฟในห้องดับลงแล้ว จงอินยืนเช็ดผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตรงมาที่เตียงนอน มือกร้านเลิกผ้าห่มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงไปเบาๆ แล้ววาดกอดรอบเอวบางที่อยู่ห่างกันไม่ถึงห้าเซน "หลับยัง?" 


           เซฮุนไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่พลิกตัวเขาหาอีกคนแล้วกอดตอบ ซุกหน้าเข้าหาไออุ่นจากอกหนาที่ห่างกันมาเกือบอาทิตย์ 


           เขาไม่ใช่สัตว์สังคมที่อยู่คนเดียวไม่ได้ แต่ข้อหนึ่งที่เขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้คือการมีจงอินอยู่ข้างๆ จะทำให้เขาอุ่นใจกว่า ในโลกเราไม่มีอะไรแน่นอนนั่นเป็นกฎธรรมชาติที่เขาเกลียดที่สุด เพราะแบบนั้นเขาถึงอยากใช้ชีวิตกับคนรัก เก็บรอยยิ้มของจงอินให้มากพอที่จะบันทึกลงกินเนสส์บุ๊คว่าโอเซฮุนเป็นบุคคลที่ทำให้คิมจงอินยิ้มได้มากที่สุด มากกว่าไก่ทอดร้านโปรดของเจ้าตัว


           "กินยาแล้วใช่มั้ย?" เซฮุนปล่อยให้จงอินพูดกับอากาศแล้วพยักหน้าตอบไปแทนที่จะเอ่ยออกมา เขาชอบอากาศเย็นๆ ที่ทำให้จงอินกระชับกอดแน่นขึ้นเพราะกลัวว่าเขาจะหนาว มันอบอุ่นเหมือนได้นอนฟังเพลงโปรดบนเตียงสมัยเด็ก จงอินทำให้เขารู้สึกอย่างนั้น




           "นมช็อกโกเอม่อนหมดตู้แล้วใช่มั้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปซื้อกัน" เซฮุนพยักหน้าแล้วขยับตัวเล็กน้อยเพื่อจัดท่าทางให้สบายมากขึ้น 




           "ง่วงนอนใช่มั้ย?" 




           "ฝันดีนะเซฮุน" ริมฝีปากหนาทาบลงบนหน้าผากเนียนแผ่ความอบอุ่นให้ซึมซับไปทั่วร่าง คราวนี้เซฮุนไม่ได้พยักหน้าอย่างเดิมเพียงแต่จูบเบาๆ ผ่านเสื้อยืดตัวบางที่อีกคนสวมใส่เป็นการบอกฝันดี


           เซฮุนเคยลองเทียบความชอบว่าเพลงใดคือเพลงโปรดของตัวเองกันแน่ระหว่าง lego house กับ I would แต่ตอนนี้เขาว่าสองเพลงนั้นคงเป็นลำดับสองและสามรองลงมา เพราะเขาว่าเขาชอบฟังเสียงหัวใจจงอินมากที่สุด จังหวะที่ช้าและเร็วสลับกัน...เขาชอบจังหวะแบบนั้นมากที่สุดแล้วล่ะ




    We keep this love in a photograph

    (เราเก็บความรักไว้ในรูปถ่าย)

    We made these memories for ourselves 

    (สร้างความทรงจำแสนสวยเหล่านี้)

    Where our eyes are never closing

    (ในที่ที่ดวงตายังคงมองเห็นกันและกัน)

    Hearts are never broken 

    (หัวใจยังไม่แตกสลาย)

    And time's forever frozen still 

    (ช่วงเวลาที่จะคงอยู่ตลอดไป)




           กระเป๋าเป้สีน้ำเงินเข้มบนผืนทรายสีขาวและเซฮุนดูจะเป็นสิ่งที่เข้ากันมากที่สุด เซฮุนชอบเสียงคลื่น ชอบท้องฟ้า ชอบเปลือกหอย แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุในการไปทะเลครั้งนี้ เขาแค่ต้องการหลับตา... 


           มือเล็กรูดซิปปิดกระเป๋าเป้ประจำตัวลงเมื่อใส่ลูกอมรสโปรดเสร็จ เซฮุนหยิบกล้องโพราลอยด์สีครีมบนโต๊ะขึ้นมาก่อนจะหันเข้าหาตัวเองแล้วคลี่ยิ้มเล็กน้อย 


           นี่เป็นเรื่องปกติที่เขาทำทุกครั้งก่อนจะออกไปทำงานคือการถ่ายรูปตัวเองไว้ให้คนตัวสูง จะเรียกว่างานก็คงไม่ใช่สักทีเดียวเรียกว่าไปเที่ยวคงจะเข้าท่ากว่า เขาเรียนไม่เก่งเหมือนจงอิน จะมีเรื่องที่ทำได้ก็แค่เรื่องถ่ายรูป เขาอยากจะทำหนังสือของตัวเองสักเล่ม หนังสือที่มีแต่รูปถ่ายฝีมือเขากับข้อความสั้นๆ ใต้ภาพ มันไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความชอบซะมากกว่า เหมือนอย่างที่เขาไม่ได้ฝันว่าจะได้เป็นแฟนกับจงอินแต่เขาก็ชอบที่ได้เป็นแฟนกับจงอิน 


           จงอินไม่ใช่ผู้ชายพูดเก่งแต่เป็นผู้ชายพูดไม่รู้เรื่อง จงอินไม่ใช่ผู้ชายขี้แกล้งแต่เป็นผู้ชายกวนประสาท จงอินเป็นผู้ชายที่เขาสันนิษฐานไม่ได้ว่าใครตกหลุมรักใครก่อน บางที่เราอาจจะตกหลุมรักพร้อมๆ กัน ในจังหวะที่พรหมลิขิตบิดเบี้ยวพอดี 


           เขาไม่รู้ว่าพระเจ้าจะมอบช่วงเวลาแห่งความสุขแบบนี้ให้มนุษย์คนหนึ่งนานเท่าใด แต่อย่างน้อยท่านก็ลัดคิวให้เขาแล้ว 


           มือเรียวเขียนข้อความสั้นๆ ลงบนพื้นที่ว่างสีขาวของรูปก่อนจะเติมรูปหัวใจเล็กๆ ท้ายข้อความแล้วคลี่ยิ้มบางกับผลงานของตัวเอง ถ้าจงอินเห็นต้องยิ้มแก้มปริแน่ๆ เขาพนันเลย 



           "You won't ever be alone" 

           (นายจะมีฉันตลอดไป)









    ปี 2010 


           สายลมริมทะเลไม่เคยทำหน้าที่บกพร่อง กลิ่นไอทะเลถูกพัดโชยขึ้นมาแตะปลายจมูกของคนที่ยืนอยู่บนนี้ด้วย จงอินซุกมือกับเสื้อโค้ตตัวยาวที่สวมอยู่เมื่อลมหนาวโชยมาก่อนจะหลับตาลงเพราะตาแห้งจนแสบไปหมด เคยมีคนบอกว่าหากเรารู้ว่าจุดจบของเรื่องราวจะเป็นอย่างไรเราจะทำใจได้เร็วกว่า แต่เขาว่านั่นมันเป็นเรื่องหลอกเด็กที่ดูเหมือนจะสมจริงที่สุด เพราะสุดท้ายเราก็โหยหาอดีตเหล่านั้นพอๆ กับคนที่ไม่รู้อะไรมาก่อน บางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ 


           แท่งหินสีขาวที่ถูกกร่อนลงไปตามกาลเวลายังดูใหม่สำหรับจงอินเสมอ เหมือนกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงที่แล้วด้วยซ้ำ เพราะสุดท้ายพระเจ้าก็คงช่วยอะไรเราไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดที่คงอยู่ตลอดไป เหมือนที่โอเซฮุนจากเขาไปแล้ว ไม่ใช่ชั่วโมงที่แล้วแต่เป็นสามปีที่แล้ว...เมื่อนานมาแล้ว 


           เราต่างช่วยกันดูแลกันและกัน อาการป่วยที่เซฮุนเป็นอยู่ไม่ได้ย่ำแย่แต่เราไม่มีความหวังพอ พวกเขามีแผนที่จะใช้เวลาร่วมกันมากที่สุด แต่แน่นอนว่ามันไม่พอและไม่มีทางพอ 


           เขาได้รับโทรศัพท์จากพี่คยองซูเมื่อสามปีที่แล้วหลังจากที่เซฮุนไปเที่ยวได้สามอาทิตย์ นั่นเป็นคำพูดที่เขากรอกใส่หัวตัวเองตลอดเวลาที่คบกับคนตัวเล็กเพื่อให้ตัวเองเข้มแข็งพอ แต่สุดท้ายตัวเขาก็ไม่ได้ต่างจากแผ่นแก้วบางๆ เลยสักนิด 


           'เซฮุนไปแล้วนะจงอิน' นี่มันเป็นความจริงที่เหมือนความฝันที่สุด ฝันร้ายที่กลายเป็นความจริงอย่างกะทันหันที่สุด


           เซฮุนยังคลี่ยิ้มให้เขาเสมอตลอดสามปีที่ผ่านมา แต่เขามันเห็นแก่ตัวที่มายืนร้องไห้ต่อหน้าคนตัวเล็กทุกครั้ง สายลมที่พัดผ่านมาเป็นเหมือนมือเรียวที่คอยลูบปลอบเขา น่าเสียดายที่มันไม่อุ่นอย่างแต่ก่อน มันหนาวเหน็บจนต้องเสียน้ำตาออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า...เหมือนกับตอนนี้ 


           "ยังยิ้มเหมือนเดิมเลยนะเซฮุน" เสียงทุ้มสั่นเครือทว่ายังหัวเราะออกมาอย่างน่าเศร้า นิ้วยาวเกลี่ยเศษทรายออกจากแก้มเนียนก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว 


           รูปภาพผู้ชายผิวขาวคลี่ยิ้มกว้างให้กล้องมีปากกาเมจิกสีดำเติมหูแมวให้ดูน่ารักจนจงอินไม่สามารถหุบยิ้มได้แม้ว่าจะเห็นมันเป็นร้อยครั้งแล้วถูกหยิบออกมาจากกางเกงยีนส์ตัวโปรด มือหนาถือมันไว้อย่างนั้นจนจังหวะหายใจกลายเป็นเสียงเดียวกันกับคลื่นทะเล จนจงอินกลายเป็นหนึ่งเดียวกันกับรูปภาพ จุดที่ความทรงจำยังทำให้เขายิ้มได้เสมอ...โอเซฮุนยังทำให้เขายิ้มได้เสมอ 




    So you can keep me

    (เก็บรูปของฉันไว้)

    Inside the pocket of your ripped jeans

    (เก็บฉันไว้ในกางเกงยีนส์ตัวโปรดของเธอ)

    Holding me closer 'til our eyes meet

    (กอดฉันไว้จนกว่าตาเราจะสบกัน)

    You won't ever be alone

    (คุณจะมีฉันอยู่เสมอ...ตลอดไป)






    talk: จบแล้วค่ะ ทำไมเศร้าฮือออออออออออออออออออออออออ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×