ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] KRISHUN STORAGE'

    ลำดับตอนที่ #13 : Wandering V

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 160
      1
      11 เม.ย. 58

    { Wandering }

    Fifth Step

     

    เวลาล่วงเข้าสู่ช่วงค่ำหลังจากที่เราสองคนเตร็ดเตร่ไปมาตามแนวทางลาดชัน คริสได้รูปถ่ายมากมายจนสังหรณ์ใจว่าเม็มโมรี่การ์ดคงจะเต็มในไม่ช้าและมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก ช่างภาพหนุ่มจึงรีบเสียบอุปกรณ์ชิ้นนั้นเชื่อมต่อเข้ากับแล็บท็อปของเขาเพื่อถ่ายรูปลงไว้เสียก่อน

     

    ไม่หิวเหรอฮยอง?” เซฮุนเดินย่ำเข้ามาย่อตัวอยู่ข้างผมพร้อมกับจานใส่อาหารอะไรสักอย่าง ผมเหลือบตามองจึงได้รู้ว่ามันคือหมูย่าง คงเป็นสูตรประจำของอี้ชิงแน่ๆหล่ะ

     

    นายกินก่อนเลย"

     

    ผมไปจกในครัวพี่อี้ชิงมาหลายไม้แล้ว ฮยองแหละ กินเลยๆ" เซฮุนวางจานลงที่ข้างแล็บท็อปซึ่งกำลังฉายภาพของเขาอยู่ ดวงตาเรียวมองภาพถ่ายที่ถูกไล่ดูลวกๆของคริส ส่วนมากมันเป็นรูปของเขาในอิริยาบถต่างๆ มีฉากหลังคือต้นไม้ใบหญ้าและภูเขาสูง บางภาพเซฮุนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาทำท่าทางแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่

     

    อืม ขอบใจ"

     

    พรุ่งนี้เราต้องออกแต่เช้าหรือเปล่าอ่ะ?”

     

    อืม ขึ้นรถตอนประมาณแปดโมง"

     

    งี้ก็ต้องตื่นเช้าหน่ะสิ" เซฮุนเบ้ปากหน้าเบะ อากาศเย็นสบายน่านอนขนาดนี้เขาจะตื่นยังไงให้ไหวหล่ะเนี่ย!

     

    อืม อย่าคิดขี้เกียจเชียว ถ้าพลาดรอบนี้ก็ต้องรออีกทีตอนเย็นเลย...”

     

    หง่ะ งั้นเดี๋ยวผมรีบนอน ฮยองรีบกินแล้วไปอาบน้ำเร็วๆๆๆๆๆ" เซฮุนดันจานหมูย่างไปวางเหนือคีย์บอร์ดของคริสเป็นการประท้วงอย่างอหิงสาให้ร่างสูงละออกจากจอแล็บท็อปเสีย คริสหัวเราะขำกับการทำเนียนของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย มันดูไม่มีอะไรเลยแต่กลับสามารถทำให้ร่างสูงต้องยอมหยิบหมูปิ้งที่วางอยู่มากัดกินอย่างเสียไม่ได้

     

    หลังจัดการเนื้อหมูจนหมดจาน คริสก็ลุกขึ้นเอาจานลงไปให้อี้ชิงที่ห้องครัว ปล่อยให้เซฮุนเข้าห้องไปอาบน้ำชำระร่างกายให้เรียบร้อย ร่างสูงเดินเข้ามาในพื้นที่ครัวซึ่งมีกลิ่นหอมจากเครื่องเคียงหลายชนิด คริสเห็นอี้ชิงยืนหน้ามันขมักเขม้นอยู่ที่หน้าเขียง กำลังซอยต้นหอมอยู่ด้วยท่าทางคล่องแคล่ว

     

    หมูอร่อยหว่ะ" คำทักทายนั้นทำให้อี้ชิงสะดุ้งโหยง คริสหัวเราะ นึกขบขันอาการขวัญอ่อนของเพื่อนสนิทที่ไม่เคยจะแก้หายสักที อี้ชิงยกมีดขู่เป็นเชิงให้เขาหุบปากไปเสียแต่คนอย่างคริสหน่ะเหรอจะกลัว

     

    ขำเงิงยื่นไปถึงกระทะแล้ว"

     

    อย่าแรงกับการเรียงตัวของฟันกูสิวะ" เอื้อมแขนไปเปิดก็อกน้ำที่อ่างล้างจานแล้วเป็นคนจัดการกองถ้วยชามที่ถูกวางแอ้งแม้งอยู่ในอ่างอย่างใจเย็น อี้ชิงเหลือบมองเพื่อนตัวโย่งหมายจะอ้าปากห้ามแต่สุดท้ายเขาก็ปิดริมฝีปากลงเพราะตระหนักได้ว่าคริสคงอยากจะคุยอะไรกับเขา

     

    มีอะไรหล่ะคุณอู๋อี้ฟาน"

     

    หือ?”

     

    อย่างมึงคงไม่มาช่วยกูล้างจานฟรีหรอก จริงไหม?”

     

    เกลียดจริงคนรู้ทัน" คริสคลี่ยิ้มจางๆออกมาเมื่อโดนจับได้ เขาถูฟองน้ำไปบนจานกระเบื้องอย่างใจเย็น ซึ่งความตั้งใจเบื้องลึกนั้นไม่ใช่อะไร... แค่อยากยืดเวลายืนคุยนี้ให้มากกว่าเดิมเท่านั้น

     

    ฮ่าๆ... งั้นคงต้องเกลียดกูอีกนาน... เรื่องเซฮุนใช่ไหมหล่ะ?”

     

    เกลียดมึงระดับสิบ"

     

    ฮ่าๆๆๆๆ!!” อี้ชิงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นห้องครัว เขาสับต้นหอมเป็นครั้งสุดท้ายแล้วปาดมันลงชามใบใหญ่ที่วางรอเอาไว้ก่อนจะดันเขียงไม้ลงไปในอ่างล้างจานที่คริสกำลังวุ่นวายอยู่กับมัน เจ้าของห้องครัวหันหลังพิงเคาท์เตอร์ที่ยังระเกะระกะด้วยอุปกรณ์พลางคว้าแก้วน้ำเย็นขึ้นมาจิบเพื่อรอให้เพื่อนตัวใหญ่มันเปิดปากออกมา

     

    ขำไปเถอะ... กูเครียดจริงนะเว้ย"

     

    เอ้า... เป็นไรไปพ่อรูปหล่อของจางอี้ชิง" นิ้วเล็กจิ้มลงข้างแก้มตุ่ย หยอกเอินคนที่ยืนขมวดคิ้วยืนยันความเครียด

     

    กูชอบเซฮุน...” ร่างสูงลากเสียงยาวใส่เพื่อนสนิทที่ยืนรอฟังอยู่ "กูชอบน้องเขาจริงๆนะ แต่กูไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบ" คริสพ่นลมหายใจออกมาหลังได้พูดสิ่งที่ตกค้างอยู่ในใจของตัวเองออกมา

     

    แล้วทำไมต้องรู้วะ?”

     

    กูกลัว...”

     

    กลัว?”

     

    กลัวเป็นแบบที่ผ่านมา... กูชอบคนง่ายมึงก็รู้" คริสเริ่มหยิบจานเปื้อนฟองมาล้างน้ำเปล่าทีละใบ เอามือปาดชำระฟองสีขาวเหล่านั้นออกไปอย่างใจเย็น "กูชอบเซฮุนมากกว่าคนอื่นที่ผ่านมาก็จริง แต่บางครั้งกูก็รู้สึกเหมือนเขาเป็นตัวแทนของลู่หาน"

     

    “...”

     

    จนบางทีกูคิดว่ากูแค่อยากให้ลู่หานเป็นแบบเซฮุน"

     

    อาฮะ...”

     

    ตอนกูกอดเขากูชอบนึกว่าถ้ากอดลู่หานแล้วรู้สึกแบบนี้คงดี" คริสยื่นมือไปปิดก็อกน้ำ จานชามกระเบื้องหลายสิบใบถูกจับคว่ำกับชั้นที่อยู่เยื้องไปทางด้านขวา ร่างสูงสะบัดมือไล่น้ำออกไปแล้วพลิกตัวมายืนท่าเดียวกับอี้ชิงบ้าง

     

    มึงยึดติด"

     

    ยังไงวะ...” คริสขมวดคิ้ว มองหน้าเพื่อนสนิทด้วยสายตาไม่เข้าใจ

     

    ลู่หานก็คือลู่หาน เซฮุนก็คือเซฮุน... มันไม่มีใครเพอร์เฟ็ต เพรียบพร้อมเสมอไปหรอกนะ" อี้ชิงยกแก้วน้ำขึ้นจิบ เหลือบมองเสี้ยวใบหน้าของเพื่อนที่ก้มลงมองปลายเท้าตัวเอง "มันก็เหมือนเวลามึงถ่ายรูปนั่นแหละ มึงอยากได้แสงเข้าทางขวาแต่มันดันส่องมาทางซ้าย ดอกไม้ดอกนั้นสีสวยแต่มึงก็หามุมที่ต้องการไม่ได้..."

     

    “...” คริสเงียบฟังสิ่งที่เพื่อนพูด อี้ชิงผ่านความรักมามากกว่าเขานั่นเป็นสิ่งที่คริสรู้ดี เขาจึงยืนนิ่งฟังสิ่งที่เพื่อนพูดอย่างจดจ่อ

     

    มึงอาจจะลองถ่ายดอกนั้นจากมุมที่มึงคิดว่าสวย... แต่สุดท้ายมึงก็ไม่ได้ภาพที่ต้องการ มึงก็ต้องลองเปลี่ยนไปที่กิ่งอื่น ช่ออื่น ตรงที่มึงสามารถขยับกล้องไปได้อย่างอิสระ... ดอกไม้ดอกนั้นอาจจะไม่ได้สวยที่สุดเมื่อมันถูกเปรียบเทียบกับคนอื่น กลีบของมันคงจะบิดเบี้ยวไปบ้าง ไม่ได้สมส่วนเหมือนดอกแรกที่มึงเห็น...”

     

    “...”

     

    แต่เมื่อมันถูกบันทึกลงในเฟรม... มันคือจุดเด่นของภาพ" อี้ชิงยิ้ม เขานึกไปถึงใบหน้าแสนซื่อของโอเซฮุนที่บางครั้งเวลาเหม่อลอยก็ตลกได้อย่างไม่น่าให้อภัย และเมื่อยามยิ้มก็เบ่งบานได้ราวกับดอกไม้ในยามเช้าตรู่ "มันคือสิ่งที่สวยที่สุด... หลังจากที่มึงกดชัตเตอร์ไปแล้ว"

     

    “...”

     

    มันไม่มีหรอกคนที่ตรงตามอย่างที่ใจเราคาดหวัง มันมีแต่คนที่รักเราและเราเองก็รักเขาเช่นกัน"

     

    “...”

     

    ไม่จำเป็นต้องเข้าแก็ปกันทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องยอมรับกันได้ทุกอย่าง... แต่แค่พร้อมจะรับฟังกันและกัน" มือเล็กของเชฟหนุ่มแตะเบาๆที่บ่ากว้างของช่างภาพตัวสูง

     

     

    "แค่เป็นดอกไม้ดอกนั้นในเฟรมของกันและกันก็พอแล้ว"

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    ซาปาหนาวกว่าที่โฆษณาเอาไว้ในหนังสือมาก! เซฮุนโมโหอีกครั้งเมื่อพบว่าลมเย็นกำลังทำให้กรามของเขาขบสั่น ทุกอย่างลำบากขึ้นเมื่อเขาเป็นโรคโลหิตจางทำให้เมื่อเจออากาศหนาวแล้วร่างกายแทบไม่สามารถรักษาความอุ่นเอาไว้ได้เลย แขนทั้งสองข้างพยายามกอดกระชับเสื้อเข้ามาให้แนบตัวมากที่สุด หวังว่าจะอุ่นให้ได้มากกว่านี้

     

    นายหนาวมากขนาดนี้เลยเหรอ...”

     

    อือ...” เซฮุนทำได้แค่ครางตอบสั้นๆเพราะแรงของเขามีอยู่แค่นั้นและเกรงว่าหากใช้มันมากเกินควร บางทีเขาอาจไปไม่ถึงบังกะโล ในขณะที่คริสขมวดคิ้วมุ่น ร่างสูงเริ่มคิดหนักในเมื่อยิ่งสูงยิ่งหนาว แล้วบังกะโลที่พวกเขาจองไว้ก็อยู่เกือบจะยอดสุดเสียด้วย ขืนเป็นแบบนั้นโอเซฮุนไม่แข็งตายไปก่อนเลยหรือไง

     

    งั้นพี่ว่าเราควรย้ายที่พัก"

     

    แต่...แต่...ตรงนั้นมัน.. สวยนี่...นี่ครับ"

     

    สวยกับนายป่วยแบบนี้มันคุ้มกันตรงไหน... เอาสุขภาพนายก่อนเถอะ" คริสจับชายผ้าพันคอของคนที่เดินสั่นงกๆอยู่ข้างกายพาดเข้าไปกับซอกคอก่อนจะซุกมือเข้าไปในเสื้อกันหนาวของตัวเองเพราะเขาได้สละถุงมือทั้งสองข้างให้โอเซฮุนไปหมดแล้ว มันช่วยให้เซฮุนหยุดถูมือได้แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้เจ้าของร่างผอมหยุดอาการสั่นได้เลย

     

    ท้ายที่สุดบังกะโลของพวกเขาก็ถูกย้ายลงมาอีกระดับ คริสไม่ได้ใส่ใจนักแม้ลึกๆจะเสียดายที่อดเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าจากจุดสูงสุดของยอดดอยอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับการได้เห็นโอเซฮุนนั่งกอดตัวเองนิ่งๆแบบนี้มันย่อมแทนกันได้

     

    ผิดกับคนป่วยขี้กังวลที่ตอนนี้นั่งโทษตัวเองอยู่หน้ากองไฟว่ามาเป็นภาระทำให้ตากล้องตัวสูงไม่ได้บรรลุความฝันที่ตั้งไว้ซ้ำไปซ้ำมา

     

    งั้นพรุ่งนี้เช้าเราไต่เขาขึ้นไปดูพระอาทิตย์นะ"

     

    ไหวหรือไง...”

     

    ไหวครับ... ยังไงก็ต้องไหว ฮยองมาถึงนี่แล้วนะ อีกกิโลเดียวเองไม่ใช่เหรอ"

     

    อืม แต่มันหนาว เกิดนายไม่สบายหล่ะ?”

     

    ไม่มีทาง... ผมจะกลับไปป่วยที่เกาหลีแทน" เซฮุนยังคงยืนยันเสียงแข็งด้วยท่าทางเหมือนเด็กหัวรั้นกับถ้อยคำที่ดูเป็นใหญ่เป็นโตจนคริสเผลอหลุดขำ เขาตลกเจ้าเด็กนี่ชะมัด... มีใครที่ไหนเล่าสามารถบงการร่างกายได้ว่าอยากให้ป่วยที่ไหนเมื่อไหร่

     

    ฮะๆ... คนเราถ้าจะป่วยมันก็ต้องป่วย...เด็กโง่" คนตัวสูงกว่าวางฝ่ามือไปบนหมวกไหมพรมใบหน้าที่สวมทับเอาไว้ ออกแรงลงบนฝ่ามือให้หนักจนเซฮุนโงนเงนซบลงกับแผ่นอกกว้างของคริสอย่างเสียไม่ได้ ร่างสูงปล่อยเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นฝ่าเสียงลม แผ่นอกกว้างกระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงโยกนั้นและมันก็คงเหมือนโรคติดต่อเมื่อเซฮุนรู้สึกว่าที่แก้มของเขามันตึงขึ้นมา

     

    ท้ายที่สุดโอเซฮุนก็ปล่อยเสียงหัวเราะตามต่อมาอย่างไร้เหตุผล เขารู้สึกว่ามันงี่เง่าเหลือเกินกับการที่คนสองคนยืนกอดกันริมระเบียงแล้วเปล่งเสียงหัวเราะอย่างไร้สาเหตุ และมันก็ดูจะไร้สาระมากยิ่งขึ้นเมื่อเขารู้สึกว่าการกระทำแบบนี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ โอเซฮุนกลัวว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้าแต่มันก็ห้ามไม่ได้ในเมื่อนาทีนี้เขามีความสุขมากเกินกว่าจะหุบยิ้ม

     

    ทั้งสองคนตัดสินใจเข้ามาพักผ่อนในห้องเมื่อพบว่าลมด้านนอกทวีความแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนหมวกไหมพรมเกือบจะปลิวหลุดออกไปจากหัว ที่นี่ไม่มีฮีตเตอร์แต่มีเตาผิงขนาดย่อมไว้ให้พวกเขาสองคนนั่งแช่กลิ่นเปลือกไม้ไหม้ๆ

     

    เซฮุนเดินออกมาจากเตียงนอนเมื่อจัดการรื้อพับเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่ขาเรียวก้าวเข้ามาในกรอบสายตาคริสก็เอื้อมมือออกไปดึงร่างผอมให้นั่งลงบนหน้าตักของเขา ปลายคางมนเกยบนบ่าของอีกคนพลางใช้สองแขนสอดเข้าไปโอบผ่านช่องเอวคอดเพื่อกดไล่รูปถ่ายให้อีกคนดูไปพร้อมๆกันด้วย

     

    หยา... หน้าผมตลกชะมัด"

     

    ธรรมชาติๆ"

     

    อย่าสร้างธรรมชาติเยอะเลยครับ" เซฮุนไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาพิงแผ่นหลังลงไปกับอกของคริส แต่พอเขารู้สึกตัวขึ้นมาเขาก็ไม่อยากจะขยับออกห่างเลยสักนิดเดียว เด็กน้อยโยนควาผิดให้อากาศหนาวที่กำลังรุมเร้าเขาอยู่แต่อีกใจหนึ่งมันก็อดคะเนไปไม่ได้ว่าเป็นเขาไม่อยากอยู่ห่างจากคริสอีกแล้วต่างหาก

     

    รูปภาพบนหน้าจอยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆพร้อมกับคำวิพากวิจารณ์ เข็มนาฬิกาที่เดินวนผ่านแต่ละช่องซ้ำๆไม่ได้ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกเบื่อหน่าย เหน็บชาตามท่อนขาก็ไม่ได้ทำให้คริสนึกอยากขยับกายหนีหรือผลักเซฮุนลงไปกับพื้น เขารู้แค่ว่าเขาสามารถอดทนได้เพื่อให้ปลายคางได้วางเกยอยู่กับบ่านุ่ม สูดกลิ่นหอมแป้งเด็กจากซอกคอขาวอันแสนเย้ายวนนี้

     

    ภาพวนกลับมาที่เดิม คริสวางกล้องลงไปในกระเป๋าเพื่อเก็บมันให้พ้นจากความเย็นแต่ก็ยังไม่ยอมผละแขนที่คล้องรอบเอวของเซฮุนออกมา ในขณะที่ร่างบางเองก็ไม่ได้ขยับลุกไปไหนเช่นกัน ความเงียบปกคลุมเขาทั้งสองแต่มันไม่ใช่ความเงียบแบบอึดอัด มันเป็นบรรยากาศเงียบสงบที่พวกเขาได้ยินเสียงหัวใจของกันและกันเต้น มีเตาผิงขนาดกลางคอยให้ความอุ่นไม่ให้เท้าหรือมือแข็งกันจนเกินไป

     

    ริมฝีปากหยักของคริสสัมผัสลงเบาๆบนผิวคอบอบบาง มันเป็นจุดไวสัมผัสเซฮุนจึงเผลอย่นคอหลบแต่เมื่อฝ่ามือของอีกคนกระชับกอดเข้ามา ร่างบางก็ยอมผ่อนตาม มือเรียววางทาบลงไปที่หลังมือของพี่ชายตัวสูง เซฮุนคิดว่ามันอุ่น... อุ่นจนเขาไม่อยากละมือออกมาแต่ในขณะเดียวกันเขาก็ตระหนักดีว่ามันไม่ได้อุ่นมากมายขนาดนั้น

     

    แต่เพราะมันเป็นมือของคริส

    มือที่เขาอยากจับเอาไว้ ไม่ปล่อยไปไหนต่างหาก

     

    ใบหน้าของเซฮุนตะแคงกลับมาตอนที่ริมฝีปากนุ่มนั้นหยุดลงบนปลายคาง คริสค้างจูบเอาไว้เนิ่นนานกว่าจะขยับเลื่อนขึ้นมาอย่างใจเย็น แตะสัมผัสเบาๆบนริมฝีปากล่างของเขาแล้วจึงกดแนบลงมากระทั่งกลีบปากของเราปิดชนกันสนิท ครานี้เซฮุนกำปกเสื้อเจ้าของหน้าตักกว้างเอาไว้ แทนที่จะเป็นชายเสื้อ และนอกเหนือไปจากการขยุ้มมันจนเป็นรอยยับแล้ว นิ้วเรียวของเขาก็เกลี่ยไล้ไปตามแนวสันกรามยาวได้รูปนั่นพร้อมกันด้วย

     

    ลิ้นชื้นแตะแลกรสสัมผัสกันอยู่สักพักก่อนที่มันจะถูกกดให้สอดเข้าไปในโพรงปากอุ่น เกี่ยวกวัดไปมาอย่างไร้ทิศทางพอๆกับความต้องการที่มันเตลิดไกลไปถึงไหนต่อไหน สะโพกกลมของเซฮุนเบียดลงบนหน้าตักของคนด้านใต้ คริสเพิ่งรู้ว่ารอบเอวของเด็กที่เคยมีแฟนเป็นนางแบบคนนี้คอดกิ่วเพียงใดจนเขานึกขำเมื่อคิดว่ามันคงเทียบเท่ากับพวกนางแบบชุดชั้นในหรืออะไรทำนองนั้น

     

    มืออุ่นไล้ลงบนหน้าท้องแบนราบ เกลี่ยวนไปรอบสะดือเช่นเดียวกับเรียวลิ้นที่กำลังขดพันประหนึ่งเป็นก้านเถาวัลย์ เซฮุนตรึงร่างด้านใต้เอาไว้ด้วยการสอดมือทั้งสองเข้าไปประคองใบหน้าของอีกคนเอาไว้ กดจูบแนบแน่นลงไปเมื่อรู้สึกว่าเรากำลังจะผละออกมา มันเป็นเช่นนั้นซ้ำไปซ้ำมานับสิบรอบก่อนที่เสื้อไหมพรมของเขาจะถูกกระตุกออกไปจากตัว

     

    แผ่นหลังของเซฮุนโน้มลงทาบกับพื้นห้องที่เป็นพรมหนา เราผละริมฝีปากออกมาอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกเพื่อหอบหายใจโกยอากาศเข้าไป ดวงตาของทั้งสองสอดประสานกันท่ามกลางความสงบเงียบ มีรอยยิ้มจางๆปรากฎขึ้นอยู่บนมุมริมฝีปากของเด็กน้อยที่จ้องมองดวงตากลมไม่วางตา

     

    ผมหนาว...”

     

    “...”

     

     

















    ทำให้ผมอุ่นได้ไหมครับ
     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    กดตรงทำให้ผมอุ่นได้ไหมครับสิ. -..-

     

     

    Supercell
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×