ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [WONKYU ft. KIHAE] DAMNCUPID . พรหมลิขิตพิสดาร

    ลำดับตอนที่ #16 : . ความวุ่นวายให้หลัง I

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 442
      3
      25 ก.พ. 56


    เมื่อไม่มีเขาอยู่
    อะไรอะไรก็ยากไปหมด

     

                คิบอมไม่รู้ว่าฝ่าเท้าของตัวเองกระทบลงกับพื้นพรมในระดับรุนแรงแค่ไหน แต่ที่เจ้าตัวรู้แจ้งมากที่สุดก็คือความโกรธกับอารมณ์ปรอทพุ่งปรี๊ดของตัวเองที่กำลังไต่ระดับขึ้นสูงจนชวนสยอง สายตานับสิบคู่จ้องมองมาทางร่างสูงโปร่งภายใต้เสื้อโค้ทและแว่นกันแดดสีดำที่คาดปิดรอบดวงตาที่ดูดีผิดมนุษย์มนาเดินจ้ำอ้าวไปโดยไม่มีใครกล้าเข้าไปทักสักคน แน่นอนหล่ะ... คิมคิบอมไม่ได้อยู่ในโหมดการโปรยรอยยิ้มการค้าหรอกนะ

     

                กริ่งหน้าห้องถูกกดย้ำอย่างไร้มารยาท แต่มันก็ไม่ได้อยู่ในระบบความคิดของผู้ชายสูงโปร่งเลยสักนิด เจ้าตัวยังคงรัวนิ้วจนมีเสียงติ๊ง ๆ ดังก้องออกมาจากด้านในแล้วตามด้วยเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่คาดว่าคงจะเป็นของเจ้าของห้องเดินตามมา

     

                “นั่นคระ...เหยยยยยยยย !” ชเวซีวอนที่ลูกตายังลืมขึ้นมาได้ไม่สุดถูกเพื่อนสนิทผลักเข้าไปในห้อง บานประตูหนาหนักถูกถีบปิดแบบส่ง ๆ ด้วยฝ่าเท้าของคิมคิบอมอยางไม่ใส่ใจใยดีนัก เพราะสิ่งที่เขาจะต้องใส่ใจคือไอ้ผู้ชายปลิ้นปล้อน กะล่อน ตรงหน้าต่างหาก !!

     

                “บอกมาว่าเหี้ยนี่คืออะไร !!” หนังสือพิมพ์บันเทิงกลิ่นฉุนถูกโยนอัดใบหน้าคมสันของชเวซีวอน คนที่เพิ่งจะลืมตาตื่นได้ไม่นานคว้าสะเปะสะปะ จับหนังสือพิมพ์เหม็น ๆ นั่นมาถือไว้ในมือแล้วกวาดตามองพาดหัวข่าวที่กินเนื้อที่กว่าครึ่งหน้ากระดาษพลางใช้สายตาเพ่งอ่านมันอย่างตั้งใจ

     

                “ซ้ำรอยซุปตาร์ ซ. พาหนุ่มเข้าห้อง โผล่ภาพหลุดเปลือยสะบักสะบอมยามเช้า... เฮ้ย....เฮ้ย.... ตอนนี้ฝ่ายเจ้าตัวยังไม่ออกมาแก้ข่าว คาดหลบหน้าสื่อ....เฮ้ย !! นี่มันคือเหี้ยอะไรวะ?” ซีวอนสบถออกมาเสียงดังแล้วจับแผ่นกระดาษในมือพับลงมา จ้องใบหน้าของคนที่คาบข่าวมาบอกเขาตั้งแต่เช้าด้วยแววตาสงสัย แต่สิ่งที่ได้กลับมากลับกลายเป็นสีหน้าโมโหโกรธาเหมือนหมาโดนเห็บกัดของคิบอมแทน

     

                “ไม่ต้องมาทวนคำถามกู ! ถ้าพี่จองฮุนตื่นมาเห็นมึงจะทำยังไง !!” เสียงทุ้มต่ำที่เคยสงบเย็นเยือกตลอดเวลาแผดตะคอกใส่ร่างสูงโปร่งตรงหน้า อันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องที่คิมคิบอมคนรักสงบ(?)จะต้องมาวิ่งโร่เลยนะ ถ้าไม่ติดว่าข่าวลักษณะนี้มันเคยเกิดขึ้นกับเพื่อนตัวดีของเขามาก่อนแล้วและไอ้สิ่งที่มันดำเนินอยู่ในเวลานี้ก็เหมือนเมื่อหลายปีก่อนไม่มีผิด

     

                เขากับซีวอนเป็นเพื่อนรักกันมานานเกินกว่าจะมาละเลยเรื่องพวกนี้หรอกนะ ! บางทีรอบนี้ชเวซีวอนอาจจะโดนโจมตีจนไม่เหลือชื่อเสียงเลยก็ได้ !!

     

                “เชี่ยเอ้ย ! แล้วแม่งมาได้ไงวะ !!

     

                “กูจะรู้มึงไหมหล่ะ นี่ถ้าพี่จอง....”

     

    ~ ปั้งงงงงงง

     

                “ชเวซีวอนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน !!

     

                O_______________O !!!!!!!

     

                ยังพูดไม่ทันจบประโยคเสียงของคนที่คุณก็รู้ว่าใครดังมาจากทางหน้าประตูห้อง ตามด้วยการก้าวเท้าตึกตักตึกตักหนัก ๆ ที่แทบจะถล่มคอนโดให้ราบเป็นหน้ากลอง ผู้จัดการคิมจองฮุนวิ่งตาลีตาเหลือกเข้ามาภายในห้องอย่างรวดเร็วจนต้องรีบยึดเอาขอบโซฟาไว้เป็นที่ตั้งเพื่อไม่ให้ร่างกายที่ยังคงอยู่ภายใต้ชุดนอนลายหมีเท็ดดี้สีชมพูของตัวเองไถลลงไปเกลือกกลิ้งบนพื้น...

     

                กาแฟยังไม่ทันถึงปาก ขี้ตายังไม่ทันล้าง...

     

                คิมจองฮุนก็เจอดีบนหน้าหนังสือพิมพ์แต่เช้า !!

     

                “โอ่พี่ ผมกำลังช็อคอยู่.....” ฝ่ามือใหญ่ของตัวต้นข่าวรีบปิดเข้าที่ริมฝีปากของผู้จัดการซึ่งอ้าออกเตรียมยกครูเขาชุดใหญ่ ใบหน้าตรึงเครียดถูกส่งไปให้เจ้าของปากผู้โดนสะกัดดาวรุ่งเอาไว้ก่อนที่ซีวอนจะพาผู้จัดการของตัวเองลงมานั่งบนโซฟาเพื่อให้ครียดอย่างเป็นที่เป็นทางไปพร้อมกับพื่อนสนิทอย่างคิมคิบอม

     

                สามหนุ่มสามมุมมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ต่างฝ่ายดูสงบสติอารมณ์ลงไปได้มากกว่าเมื่อหลายนาทีก่อน สายตาหกข้างสามคู่จ้องมองไปบนหน้าหนังสือพิมพ์ อ่านพาดหัวข่าวตัวโตซึ่งกินเนื้อที่ไปกว่าครึ่งหน้าซ้ำไปซ้ำมาอีกครั้งเหมือนต้องการจะชินชากับตัวอักษรให้จงได้

     

                “ทีนี้กูต้องทำไงต่อวะเนี่ย !” เป็นคิมจองฮุนที่มิอาจเก็บความตรึงเครียดเอาไว้อยู่ในอกได้อีกต่อไป ผู้จัดการร่างโปร่งคู้ตัว ยกขาขึ้นมาชันเข่าจนชิดอกพลางคว้าหมอนอิงมาปิดหน้าปิดตาเหมือนว่าการทำแบบนั้นจะช่วยให้ตัวเองสามารถหายไปจากโลกนี้ได้และไม่มีใครมองเห็นเขาอีกต่อไป

     

                “พี่ควรรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง...” คิบอมเปรยเสียงโทนเบสของตัวเองขึ้นประชดคนที่ได้ตำแหน่งเป็นผู้จัดการแต่ในเวลานี้กลับพยายามเอาหมอนอิงสามสี่ใบมาปิดตัวเองไว้ให้มิดที่สุดพลางใช้ดวงตาเล็ก ๆ คม ๆ จ้องมองประกอบไปด้วย มันแน่อยู่แล้วหล่ะ.... เขากับคิมจองฮุนหน่ะไม่ถูกกันมาตั้งแต่ตัวเป็นวุ้นแล้ว !

     

                “เสือกอะไร !!

     

                “ไม่เอาหน่าพี่จองฮุน...”

     

                “ไม่เอาหอกอะไร ! มึงหน่ะ เอาเขาจนเป็นเรื่องแล้วหนิ !!” ผู้หวังดีซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสอดมือเข้าไปใต้กองหมอนเพื่อตบบ่าผู้จัดการของตัวเองเบา ๆ แต่มันกลับทำให้คิมจองฮุนระเบิดตัวเอง สะบัดหมอนอิงเคว้งไปคนละทิศคนละทางแล้วปรี่กายขึ้นเพื่อเดินหนีไปโดยไม่ฟังคำอธิบาย(ที่แถวบ้านเรียกแก้ตัว)ของเขาเลยสักนิด

     

                “พี่ครับ มันเป็นเรื่องบังเอิญหน่า !” ชเวซีวอนรู้ดีว่าเขาไม่ควรพูดเรื่องยาปลุกออกไป ในเมื่อโจวคยูฮยอนหวังดีที่จะให้เรื่องราวมันจบเร็ว ๆ และถ้าความจริงข้อนั้นมันหลุดออกไปหล่ะก็... เดาได้เลยว่าคนอย่างพี่จองฮุนต้องไปบีบบังคับให้นางฟ้าของเขาออกมาสารภาพกับสื่อมวลชนว่าเป็นคนวางยาปลุกเขาแน่ ๆ .... เขาจะทำให้โจวคยูฮยอน แม่ยอดดวงใจแปดเปื้อนไม่ได้ !!

     

                “นี่ขนาดบังเอิญนะไอ้เหี้ย.... แต่กูอยากรู้จริง ๆ ว่าไอ้ปาปารัซซี่ชองของมึงถ่ายรูปนี้มาได้ยังไงวะ !?” คิบอมหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาเพ่งใกล้ๆ  อีกครั้ง มองภาพของคนสองคนที่เขาคุ้นตาเป็นอย่างดี แม้จะมองเพียงผ่าน ๆ แต่ก็ระบุได้เลยว่าผู้ชายตัวสูงที่โอบใครอีกคนเอาไว้กับอกคือชเวซีวอนแน่ ๆ ปัญหาใหญ่คือ โจวคยูฮยอน หรือผู้ชายในอกซึ่งโดนเซ็นเซอร์อยู่ดันถอดเสื้ออออกไปแล้วหน่ะสิ !

     

                “กูก็อยากรู้... ไอ้ห่า... อกขาว ๆ นมเต่ง ๆ ของโจวคยูฮยอนกูอยากเก็บไว้ดูคนเดียว...”

     

                “ยังเสือกเล่น” -______-

     

                “ก็ไม่อยากให้เครียดมากนี่หว่า..” ชเวซีวอนว่าพลางมองหน้าของเพื่อนสนิทกับผู้จัดการของตัวเองสลับกันไปมา ดูเหมือนว่าไอ้คำพูดเมื่อครู่จะไม่ได้ช่วยให้มนุษย์สองร่างที่นั่งขนาบเขาอยู่กังวลใจน้อยลงไปได้เลย เพราะนอกจากใบหน้าของทั้งสองจะยังคงยับย่นแล้ว เสียงถอนหายใจแรง ๆ ที่ดังขึ้นพร้อมกันยังดังลอดมากดดันเขาอย่างมองไม่เห็นได้อีก

     

                ลำพังแค่ตัวเองก็ไม่รู้จะไปทางไหนแล้ว มาเจอคนอีกสองคนนั่งเครียดขนาดข้างแบบนี้ซีวอนก็หนักใจนะเออ...

     

                “จองฮุนฮยองอ่า...” เขาเอ่ยเสียงเบาเรียกผู้จัดการที่ยืนเท้าสะเอวด้วยอารมณ์เย็นลงแต่ก็ยังคุและพร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ

     

                “ไม่ต้องมาเรียกฉันแบบนั้น...” เสียงแข็งกร้าวของผู้จัดการทำให้ชเวซีวอนเริ่มใจแป้ว ร่างสูงมองเสี้ยวหน้าอันแสนเคร่งเครียดที่ยังคงเพ่งสายตาลงไปบนหน้าหนังสือพิมพ์ไม่มีวอกแวก คิ้วของจองฮุนตั้งตรงเพราะความโกรธและเครียดที่ผสมปนเปไปมาอยู่ในหัวสมอง... ก็มันหมดทางออกจริง ๆ

     

                “ฉันบอกให้แกระวังตัว... แกไม่ควรจะพาเขามาที่ห้องทั้งที่ยุนโฮเพิ่งจะส่งรูปมาขู่เมื่อสองสามวันก่อน แต่แกก็ห้ามตัวเองไม่ได้ ฉันบอกแล้วนะ ฉันหน่ะไม่เคยห้ามแกเรื่องนี้เลย แต่ฉันขอให้แกระวังตัว”

     

                “...”

     

                “แกรู้หรือเปล่าว่าการเป็นคิมจองฮุนที่ต้องจัดการชีวิตแกหน่ะ มันลำบากชิพหายจนฉันอยากตายไปให้หมดเรื่อง”

     

                “พี่...”

     

                “... งานเช็ดตีนแกมันไม่ง่ายเลยนะ...” โทรศัพท์มือถือในมือถูกกำเอาไว้แน่นในขณะที่เจ้าของร่างพยายามจะทรงตัวให้ยืนไหวในท่าปกติ คิมจองฮุนที่กำลังมีเรื่องหนักใจหลายกิโลพยายามควบคุมระดับความร้อนในกายให้คงที่เป็นปกติที่สุดด้วยการกล่าวคำว่า ช่างมันในใจนับร้อยครั้งแล้วเดินห่างออกมาจากตัวปัญหาชื่อดังที่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกอยากมองใบหน้าหล่อคมสันนั้นอีก

     

                เขาซีวอน และครั้งนี้เขาก็ต้องห่วงโจวคยูฮยอนคนนั้นเพิ่มมาอีกคน

     

                มันเป็นเหตุผลที่คิมจองฮุนเจ็บปวดมากกว่าทุกครั้งยังไงหล่ะ....

     

     

     

     

     

     

     

     

     




















     

     

     

     

     

     

                “ทงเฮครับ มึงต้องช่วยกูนะ T_______T

     

                (แล้วกูจะช่วยมึงยังไงวะเนี่ย... ฮู้ยยยยยยยย ~ นี่มันคือมายเมโลดี้อะไรวะครับ -__-)

     

                “ไม่รู้แหละ แต่ไอ้พวกบ้านั่นเอากล้องจ่ออยู่หน้าบ้านกูเหมือนพรานป่าล่าสัตว์เลย ไอ้เชี่ย... กูอยากออกไปเรียนอ่ะ” คยูฮยอนคร่ำครวญใส่แท่งโลหะสีดำในมือที่เชื่อมสัญญาณอยู่กับเพื่อนสนิทของเขาซึ่งป่านนี้คงจะนั่งเอ้อระเหยอยู่ใต้ต้นไม้สักต้นในมหาวิทยาลัย ตัวผอม ๆ กลิ้งพลิกซ้ายพลิกขวาไปมาบนเตียงนอนเพื่อหวังจะคลายความกระวนกระวายใจออกไปจากอก แต่มันก็ไม่ได้ช่วยมากนักในเมื่อเสียงเดินตึกตักกับเสียงพูดคุยของเหล่านักข่าวที่ด้านหน้าบ้านยังคงดังเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยินอยู่ตลอดเวลา

     

                (กูจะช่วยมึงได้ไหมครับเนี่ย.... มึงไปทำอะไรยังไงวะถึงเป็นข่าวได้หน่ะ !)

     

                “มึงต้องช่วยกูก่อนแล้วกูถึงจะเล่าได้ เรื่องมันยาวมาก....”

     

                (ยาวแค่ไหน?)

     

                “ยาวกว่าตัวมึงเยอะเลย...”

     

                (เชี่ยคยู มึงพูดงี้เราขาดกัน !)

     

                “เฮ้ยยยยยยยย ! ไม่ได้นะลีทงเฮ !!

     

                (เหอะ... ไอ้ห่า แล้วกูต้องทำยังไงวะเนี่ย ) ทงเฮใช้เท้าเขี่ยกองทรายตรงหน้าพลางแกว่งชิงชาตัวน้อยไปมา ความจริงแล้วเวลานี้เขาควรจะอยู่ที่มหาวิทยาลัย นั่งรอโจวคยูฮยอนใต้ต้นมะขามต้นเดิม แต่เพราะความดุเดือดเลือดพล่านอะไรสักอย่างของคิบอม สารถีจำเป็นของเขาที่อาสาขับรถมาส่งเมื่อเช้านี้ ทำให้เจ้าตัวทิ้งเขาลงกลางทางไว้หนังสือก็อซซิปรายปักษ์เล่มใหญ่ ก่อนที่ตัวเองจะเหยียบคันเร่งจมเพื่อตรงไปหาชเวซีวอน ดาราตัวย่อ ซ. ในหนังสือนั่นแหละ

     

                ลีทงเฮคงจะใจเย็นได้มากกว่านี้ถ้าบนหนังสือไม่ปรากฏใบหน้าของเพื่อนรักสุดชีวิตของเขาอยู่ด้วยหน่ะ -______-

     

                “กูคิดไม่ออก T____T” เสียงโอดครวญของคยูฮยอนยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เขาก็ได้แต่คิดหาทางขึ้นไปบนห้องของเจ้าตัวให้ได้เสียก่อน แล้วฉับพลันเขาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายในชุดหมีสีเทาที่กำลังซ่อมเสาไฟฟ้าอยู่......

     

                (กูนึกออกแล้ว !! มึงรอกูเดี๋ยวนะ !!!! ตู้ดๆๆๆๆๆ)

     

                “เชี่ยทง !! มึงตัดสายกูทำไมมมมมม T^T” คยูฮยอนผละใบหน้าของตัวเองออกมาจากโทรศัพท์ แยกเขี้ยวใส่มันประหนึ่งว่าแท่งในมือนั้นเป็นลีทงเฮที่เพิ่งจะขัดใจเขาด้วยการตัดสายไปเสียดื้อ ๆ เขาวางมือถือลงบนเตียงนอนก่อนจะเริ่มกลิ้งไปกลิ้งมาอีกครั้งแล้วเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง สำรวจดูว่าปริมาณนักข่าวที่ยืนอยู่ตรงนั้นลดน้อยถอยลงไปบ้างหรือเปล่า...

     

                “ให้ตายสิ นี่เยอะกว่าเมื่อเช้าอีกนะ” สลัดตัวขึ้นมาจากกองผ้าห่มแล้วเริ่มเดินวนไปวนมาในห้องนอนอย่างกระวนกระวายใจ เขาไม่น่าเลยจริง ๆ ! ไม่น่าอยากได้ตังค์เพิ่มแล้ววางยาซีวอน ไม่น่าตกลงรับคำท้าของไอ้อ้วนมุนจองฮยอก ไม่น่าตกลงค้าตูด ไม่น่าตามทงเฮไปลานปาร์ควันนั้น ไม่น่าอยากได้ตังค์ไปถล่มแม่เลี้ยงเลย ! โอ้ยยย !! ให้ตายสิวะ นี่เขาตัดสินใจผิดอย่างชิพหายวายป่วงเลยนะเนี่ยยยยย T___T

     

                “ห่าเอ้ย ! กูหล่ะอยากจะร้องไห้.... ป่านนี้ซีวอนฮยองแม่งเป็นไงบ้างวะเนี่ย !!” เมื่อไปไหนไม่รอดก็เป็นอันต้องกระโดดทุ่มตัวลงมาบนเตียงนอนอย่างหมดหนทางอีกครั้ง เขาเหลือบมองโทรศัพท์ของตัวเองที่วางแอ้งแม้งอยู่ข้างหมอน อันที่จริงกะว่าจะโทรไปตั้งแต่ตอนเช้าที่นักข่าวมารอแล้ว แต่ก็กลัวว่ามันจะยิ่งไปสร้างเรื่องให้กับเจ้าตัวเข้าไปใหญ่ อีกอย่างช่วงนี้หัวใจของเขามันเต้นแปลก ๆ เวลาได้ยินชื่อซีวอน หรือเห็นภาพซีวอนบนบิลบอร์ดโฆษณา... ยิ่งหมอนั่นสารภาพความรู้สึกของตัวเองให้ฟังออกมาเมื่อวันก่อนยิ่งพาลทำให้เขาว้าวุ่นหนักเข้าไปใหญ่

     

                บ้าจริง ! เขาไม่อยากยอมรับหรอกนะว่าตกหลุมรักชเวซีวอนหน่ะ...

     

                แล้วก็พยายามจะบอกตัวเองว่ากับดารา ใคร ๆ ก็หลงสเน่ห์ทั้งนั้นนั่นแหละ !!

     

                “ขอทางหน่อยครับ !!

     

                “ใครอีกวะ ?” คยูฮยอนชะเง้อคอมองออกไปหน้าบ้านซึ่งผู้ชายชุดหมีคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับบันใดลิง เขาพยายามเพ่งมองหน้าผู้มาเยือนที่ส่งเสียงดังโวยวายคนนั้นเพื่อสำรวจดูเจ้าของท่าทางประหลาดคนนั้นที่เริ่มพาดบันไดลิงเข้าที่กำแพงบ้าน...

     

                “=[]=!!!”

     

                “อย่าปีนเข้ามานะครับ ! ถ้าคุณปีนเข้ามาผมแจ้งตำรวจแน่.....” ผู้ชายคนนั้นตะโกนขู่เมื่อเห็นนักข่าวเริ่มกรูกันเจ้ามา ทันทีที่เท้าของเขาถึงพื้น ชายชุดหมีสีเทาก็เอื้อมไปคว้าเอาบันไดลิงของตัวเองแล้วยกมันข้ามรั่วบ้านขึ้นมาอย่างชำนิชำนาญ....

     

                “ใครวะ ?” คยูฮยอนรีบดีดตัวออกมาจากบานหน้าต่างเพื่อลงไปยังชั้นสอง แหงหล่ะ มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าจะมีใครบางคนเอาบันไดปันเข้ามาในรั้วบ้านของเขาในเวลาแบบนี้หน่ะ

     

                “อีห่า เยอะกว่าที่กูคิดไว้อีก !” แต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้าย ผู้ชายในชุดหมีที่เขาเห็นก็คือลีทงเฮติดหนวดนั่นเอง... หมอนั่นวางบันไดลิงทิ้งเอาไว้ที่หน้าประตูบ้านก่อนจะเริ่มปลอกเปลือกสีเทามอมแมมที่สวมอยู่ออกแล้วจัดการโยนกายลงเอกขเนกบนโซฟาของเขาอย่างถือวิสาสะ

     

                “อย่ามองกูแบบนั้น นี่กูไปยืมลุงยูชอนมาเลยนะเว้ย”

     

                “เออ... มึงก็เด็ดดี”

     

                “ทีนี้มึงต้องเล่าแล้วว่ามันเป็นเรื่องได้ยังไง !” ทงเฮใช้สายตาคาดโทษมองเพื่อนสนิทที่ทำให้เขาต้องลำบากลำบนมากมายถึงขนาดนี้พลางเอื้อมไปดึงโจวคยูฮยอนให้นั่งลงบนโซฟาด้วยกัน

     

                “คืองี้เว้ย....” คยูฮยอนถอนหายใจออกมาหนึ่งครั้งหลังจากที่เริ่มตัดสินใจได้แล้วว่าเขาไม่ควรเก็บงำอะไรเอาไว้อีกต่อไป เขายอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทงเฮฟังอย่างละเอียดและหมดเปลือกตั้งแต่วันที่เจอกับคุณจองฮุนในลานปาร์ค เรื่อยมาจนถึงการปรากฏตัวของชองยุนโฮและประสบการณ์เตะกล้องปาปารัซซี่ รวมไปถึงเรื่องของมุนจองฮยอกและสัญญาอันน่าปวดหัวระหว่างเขากับสองแฝดที่ทำกันอย่างลับ ๆ จนเป็นเรื่องบานปลายในปัจจุบันนี้

     

                “งั้นตอนนี้.....ตูดมึง.....”

     

                “อื่อ ._____.

     

                “โจวคยูฮยอน อีตูดพรุนนนนนนนนนนนนนนนน !!

     

                “พรุนเหี้ยไร แค่คืนเดียวเว้ย !!

     

                “แล้วกี่รอบ ?”

     

                “....... สาม........” ._____.

     

                “ไอ้พรุนสดสกัด !” ทงเฮทิ้งตัวเองลงบนโซฟาตัวยาวของเพื่อนพลางเหลือบมองออกไปด้านนอกที่นักข่าวกลุ่มใหญ่ยังคงออกันอยู่อย่างหมดทางสู้ แค่กำลังคนเขาก็แพ้แล้ว แบบนี้คยูฮยอนคงไม่ได้ออกไปไหนอีกหลายวัน

     

                “เฮ้อ... ทำไงดีวะทงเฮ กูต้อไปเรียนนะเว้ย...”

     

                “มึงบอกซีวอนยัง ?”

     

                “เหอะ... บอกเหี้ยไรหล่ะ ! กูกับเขาพอจบเรื่องนั้นก็ขาดกันหมดแล้ว” รีบส่ายหน้าให้คำตอบออกไปทั้งที่ใจจริง คนแรกที่เขานึกถึงตอนตื่นขึ้นมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้คือชเวซีวอนนั่นแหละ แต่การจะโทรไปหาแล้วเล่าให้ฟังก็ดูจะไร้ประโยชน์ในเมื่อซีวอนก็ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการไปแล้ว และเงินที่เขาต้องได้ก็ได้มาแล้วเช่นกัน

     

                ไม่เหลือเหตุผลอะไรที่จะต้องโทรไปเลยจริง ๆ

     

                “มึงต้องบอกเว้ย ! มานี่ !! เดี๋ยวกูจะโทรหาคิบอมให้ !” เพื่อตัวสั้นที่ทำกิริยาบุ่มบ่ามเสมอล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง แต่ยังไม่ทันได้กดเบอร์คยูฮยอนก็รีบโถมตัวเข้าไปตระครุบมันเอาไว้เสียก่อน

     

                “บ้าเหรอ ! อย่าให้มันเป็นเรื่องเลยหน่า กูไม่อยากรบกวนคุณซีวอน....”

     

                “เขาให้มึงเรียกฮยองไม่ใช่หรือไง ?”

     

                “บ้า มันจบสัญญาแล้วหน่า... อย่าไปกวนเขาเลย”

     

                “กวน ? กวนเหี้ยไร ! ไอ้คนที่โดนกวนอ่ะคือมึง มึงขายตูดให้เขาเสียบแล้วยังต้องมาเจอนักข่าวรุมอย่างนั้นเป็นเพราะใคร... ? ก็เพราะคุณซีวอนไง ! ถามจริง ถ้ามึงโดนเยซองเอกจิตเสียบตูดจะมีนักข่าวมาตามแบบนี้ไหม ?....” คำพูดของทงเฮทำให้คยูฮยอนชะงักไปอย่างไม่มีอะไรจะเถียง... แน่นอน ว่ามันเป็นเพราะชเวซีวอนทั้งนั้นเขารู้ดี แต่ถ้าให้เดา ตอนนี้ซีวอนเองก็คงมีเรื่องเครียดมากอยู่เช่นกัน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อยากจะเป็นปัญหาให้กับดาราหนุ่มไปมากกว่านี้

               

                เพราะแค่ที่เป็นอยู่แบบนี้ ไม่รู้ว่าชเวซีวอนจะเกลียดเขาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว...

     

                “กูไม่อยากทำตัวให้เป็นปัญหา.... แค่นี้เขาก็เกลียดกูตายห่าแล้ว”

     

                “...”

     

                “พี่จองฮุนก็ด้วย เครียดจนเส้นเลือดระเบิดไปแล้วหรือยังก็ไม่รู้”

     

                “...”

     

                “ทงเฮอ่า...”

     

                “...”

     

                “มึงอย่าโทรเลยนะ...”

     

                “...ฮัลโหล ! คิมคิบอม เอาเพื่อนแกมารับสายเดี๋ยวนี้ !!!

     

                “ทงเฮ มึงฟังกูบ้างหรือเปล่าเนี่ย” -_________________-

     

                “ไม่อยู่ ?! ไม่อยูเหี้ยไร กูเห็นนะ เมื่อเช้าในทวิตเตอร์มึงเช็คอินที่ห้องซีวอนหน่ะ ! กูเห็นนะ !!!” ลีทงเฮที่เริ่มหงุดหงิด เริ่มขึ้นเสียงแบบฮาร์ดร็อคที่แสดงให้เห็นถึงความโมโหสุดตีนเหวี่ยงของตัวเอง ซึ่งภายในเวลาไม่นานนักหลังจากนั้น ปลายสายโทรศัพท์ก็ถูกเปลี่ยนเป็นคนที่เขาต้องการทันที

     

                “เอ้า....”

     

                “หือ ?”

     

                “ทำหน้าแมวอะไร ?! คุยสิ พี่ซีวอนของมึงอยู่ในสายแหนะ”

     

                “ของกูเหี้ยไร...... สวัสดีครับ” คยูฮยอนที่ทำตัวดื้อด้านไปอย่างนั้น (แต่ใจจริงแทบจะกินโทรศัพท์เข้าไป) รับเครื่องมือสื่อสารของเพื่อนมาแนบกับใบหูแล้วกรอกเสียงสุภาพลงไป ทั้งที่ตัวเองเพิ่งจะสบถด่าเพื่อนจนเกิดเสียงลอดให้คนที่อยู่อีกฝั่งสัญญาณหลุดรอยยิ้มออกมา

     

                (เป็นไงบ้างเรา....)

     

                “อ่า ก็.......”

     

                (นักข่าวเยอะใช่ไหม....)

     

                “ยกมาทั้งสถานีเลยครับ -___-

     

                (ขอโทษนะ)

     

                “เฮ้ย ไม่เป็นไรครับ..... แค่นี้เอง” ที่จริงไม่แค่นี้เองหรอก แต่ฟังจากเสียงแล้วชเวซีวอนเหมือนจะประสบวิกฤตการณ์อยู่ แค่นี้ไปก่อนก็ได้ แล้วค่อยไปใหญ่วันหลัง.....

     

                (ไม่หรอก เพราะฮยองเองแหละ)

     

                “ไม่.. ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อยครับ...”

     

                (อ่า นายยังไม่ได้ไปเรียนเลยใช่ไหมหน่ะ ?)

     

                “ก็... ประมาณนั้นหน่ะครับ ผมไม่ควรออกไปใช่ไหม ?”

     

                (รออีกสักสองสามวัน พวกนั้นคงเลิกตามแหละ... ระวังตัวด้วยนะคยูฮยอน ฮยองเป็นห่วง)

     

                “ฮยองก็ด้วยนะครับ... ดูแลตัวเอง”

     

                (แน่นอน ฮยองต้องดูแลตัวเองอยู่แล้ว)

     

                “ครับ...เอ่อ... งั้นผมวางก่อนนะครับ เดี๋ยวทงเฮไม่มีปัญญาจ่ายค่าโทรศัพท์”

     

                (ฮะ ๆ โอเค.... )

     

                “ครับผม บ๊ายบายครับฮยอง”

     

                (อืม คิดถึงเรานะ) ประโยคสุดท้ายสั้น ๆ ทำให้คยูฮยอนหน้าแดงจนต้องเบนหน้าหนีแล้วรีบกดวางสายส่งโทรศัพท์คืนให้ทงเฮแบบเร็ว ๆ

     

                “ให้ตายสิ กูโทรให้มึงด่าเขาไม่ใช่ให้มึงหวานกัน !” คนที่เสียค่าโทรศัพท์ผิดจุดประสงค์เอาไหล่ดันกับบ่าของเพื่อนสนิทซึ่งนั่งหน้าแดงตัวม้วนอยู่ข้าง ๆ คยูฮยอนเบ้ปากเล็กน้อยเหมือนจะปฎิเสธว่าเขาไม่ได้หวานอะไรกับซีวอนสักหน่อย แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่หรอก

     

                “...”

     

                “ถามจริงเถอะคยูฮยอน มึงรักซีวอนแบบใช่ป่ะ ?”

     

                “รักอะไร ! ใครรัก ?! ไม่มี๊ ~

     

                “แหนะ มึงอย่ามาเนียน..... รู้สึกดีกับเขาก็บอกมา ~” ทงเฮแซะคนที่หน้าแดงเหมือนลูกตำลึงด้วยบ่าของตัวเอง พลางพยายามจับคยูฮยอนให้หันหน้ามาเล่นเกมส์จ้องตาเฉลยความนัยกับเขา แต่ไอ้เพื่อนหน้าแมวก็เอาแต่จะหันหน้าหนีไปซุกขอบโซฟาไม่เลิก ซึ่งท่าทางแบบนั้นมันก็ให้คำตอบกับลีทงเฮได้ดีอยู่แล้วนั่นแหละ

     

                “เนียนเหี้ยไร ไม่มีอ่ะ ไม่เนียน...”

     

                “บอกมาเหอะหน่า มึงรู้สึกดีกับพี่ซีวอนใช่ป่ะ ?”

     

                “ไม่เว้ยยย ! กูรู้สึกดีกับเงินในบัญชีเขาเท่านั้นแหละ !!-//////////////////////////////-

     

     

    DAMN CUPID

    คุณคยูเรื่องนี้งกมากเลยอ่ะให้ตาย.....
    หายไปนานมาก อย่าเพิ่งลืมนะ อย่าเพิ่งลืม
     T________________T

     

    THE★ FARRY

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×