ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { wonkyu } SUMMER KILLER.

    ลำดับตอนที่ #7 : { six summer }

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 145
      1
      22 มี.ค. 57

      

    Sixth


    นายเป็นเพียงเรื่องจริงเดียว

    ที่ฉันยอมโกหกเพื่อแลกมา

     

     


    ซีวอนไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองจะบัดซบได้มากถึงเพียงนี้ เขาวิ่งออกมาจากตัวรถหลังลั่นกระสุนปืนเป่าขยับของตำรวจใจกล้าคนนั้นที่เข้ามาประชิด ซึ่งมันนำพาห่ากระสุนระลอกใหญ่ตามมาในไม่ช้า อย่างไรก็ตามสัญชาติญาณ ความคุ้นชิน และโชคจากพระเจ้าก็พาเขาให้เข้ามาหลบในดงข้างทางได้ทันการณ์

     

     

    อึดใจใหญ่ที่เสียงปืนลั่นปะทุไปทั่วอาณาบริเวณ และการบอกลาโลกกว้างแห่งนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้เขาจะได้ที่ซ่อนตัวซึ่งปลอดภัยระดับหนึ่งแต่ก็ไม่อาจทิ้งลูกน้องจำนวนมากด้านนอกได้ ร่างสูงโหลดกระสุนตลับที่สามเข้าสู่กระบอกปืนของตัวเองและจ่อเล็งไปตามฝ่ายตำรวจ จัดการปลิดชีพทีละคนอย่างใจเย็นพร้อมกับขยับตัวเปลี่ยนที่ซ่อนไปเรื่อย

     

    เข็มขัดหนังราคาแพงกลายเป็นอุปกรณ์ในการช่วยพาตัวเองไต่ขึ้นไปบนต้นไม้ ขายาวเกี่ยวตัวเองไว้บนท่ินไม้สองท่อนแล้วเริ่มเล็งไปเรื่อย ฝ่ายของตำรวจดูจะเป็นผู้เสียเปรียบแล้วในเวลานี้ ซึ่งมันทำให้ร่างสูงพอใจเป็นอย่างมากแต่ก็ยังปรากฎความตรึงเครียดเท่าเดิมเพราะเขายังคงเป็นห่วงโจวคยูฮยอน

     

     

    สินค้าล็อตนี้เขาเสียได้ เขาเสียได้ทุกอย่าง

     

     

    แต่เขาเสียโจวคยูฮยอนไม่ได้

     

     

    มือหนาพยายามล้วงหาเครื่องมือสื่อสาร เขาพบว่ามันหล่นอยู่ด้านล่างจึงยอมไต่ลงจากต้นไม้เพื่อเก็บมันขึ้นมา ร่างสูงซุกตัวเองอยู่เบื้องหลังพุ่มหญ้า ปลายนิ้วรีบไล่กดหาเบอร์ของคิบอมมือเป็นระวิง เขาต้องการรู้ว่าอีกคนปลอดภัยดีหรือไม่

     

     

    อย่าขยับ...” หากแต่โชคของเขาคงสุดลงแล้ว ปลายกระบอกเย็นเฉียบจ่อเข้าที่ขมับพร้อมกับเสียงขู่จากนายตำรวจสักคนที่เขามองหน้าไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ผ่านเงาสะท้อนบนกระสุนปืน ซีวอนยอมปล่อยปืนลงแล้วยกมือขึ้นพาดไว้กับหัว กุมเครื่องมือสื่อสารของตัวเองเอาไว้แน่น

     

     

    ครับ...คุณตำรวจ...” ดวงตาคมไม่สั่นไหวแม้ตอนนี้หัวใจจะเต้นถี่เกินปกติ ซีวอนหลุบตาลงมองกระบอกปืนของตัวเองอีกครั้งแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อบอกว่าเขายังต้องสู้... ตอนนี้เขาต้องการรู้ว่าคยูฮยอนปลอดภัย

     

     

    ลุกแล้วตามมา...”

     

     

    ครับ" เสียงทุ้มขานรับคำตอบอย่างว่าง่าย ยอมปฏิบัติตามด้วยการลุกขึ้น เสียงตำรวจคนนั้นกรอกลงไปในวอที่ติดกับมือเพื่อบอกว่าเจอตัวของเขาแล้ว และมันน่าประหลาดมากที่จู่ๆเสียงปืนทั้งหลายก็สงบลงไป

     

     

    ซีวอนถูกคุมให้เดินออกมาจากดงหญ้า ตรงไปบนท้องถนนซึ่งบัดนี้เต็มไปด้วยซากของความรุนแรง ดวงตาคมกวาดมองลูกน้องไร้ลมหายใจของตัวเองพลางสวดมนต์ให้กับพวกเขาโดยเฉพาะแทบินที่นอนแน่นิ่งอยู่ไม่ห่างจากเขตรั้วหลังเจ้าตัวไล่เขาลงมาในนี้เอง

     

     

    สวัสดีครับคุณชเว...” เสียงทักทายนั้นทำให้หัวใจของเขาเต้นหนักกว่าเดิม บางทีพ่ออาจจะอยากให้เขาหยุดแล้วจึงไม่อวยพรให้ดวงตาทั้งสองข้างเห็นทางหนีทีไล่ได้อีก ซีวอนเม้มริมฝีปากแน่นขึ้นเมื่อชายคนนั้นเดินเข้ามาตรงหน้าพร้อมกับปืนในมือ ดวงตาที่ดูเหนือกว่าคู่นั้นทำให้เขาต้องปกปิดความหวาดกลัวของตัวเองเอาไว้แล้วกลืนมันลงไปในลำคอ

     

     

    เรายินดีที่ได้พบคุณ"

     

     

    แต่ผมไม่ค่อยจะยินดีสักเท่าไหร่เลยครับ"

     

     

    คุณนี่คารมดีสมคำร่ำลือ...”

     

     

    "ใครกันยกยอผมอย่างนั้น"

     

     

    "..." ชายคนนั้นยกยิ้มขณะที่กำลังจะให้คำตอบ หากแต่เมื่อริมฝีปากนั้นเปิดอ้าออกก็มีเสียงวิ่งตึกตักมาจากด้านหลัง "นั่นไงครับ... มาพอดีเลย"

     

     

    ใบหน้าคมหันกลับไปเบื้องหลัง ถ้าหากมือของเขายังว่าง ซีวอนก็อยากจะยกมันขึ้นมาขยี้ดวงตาของตัวเองให้มันชัดเจนขึ้นกว่านี้ ให้แน่ชัดว่าตรงหน้าเขาไม่ใช่...

     

     

    คยูฮยอน...” เขาพึมพัมเสียงต่ำ ทอดมองร่างที่ยืนหอบเอามือเท้าไว้กับหัวเข่าของตัวเองด้วยหัวใจแหลกสลาย "นายกลับมาทะ...”

     

     

    ทำความเคารพครับผู้กอง"

     

     

    คำถามของซีวอนขาดไปเมื่อประโยคนั้นดังออกมาจากตำรวจนายที่ใส่กุญแจมือให้เขา ถ้าหากเมื่อสักครู่หัวใจของเขาร่วงหล่น ตอนนี้มันก็คงแตกสลายย่อยยับไม่เป็นชิ้นเสียแล้ว ดวงตาคมหลุบลงมองพื้นถนนสีเทา ริมฝีปากแห้งผาดเม้มเข้าหากันเมื่อความเจ็บร้าวของการโดนหักหลังแล่นพล่านไปทั่วทั้งหน้าอกจนร่างของเขาแทบทรุดลงไป

     

     

    ทำความเคารพครับผู้กอง" ผู้กองตัวหนาคนนั้นทำท่าตะเบ๊ะให้กับคยูฮยอนที่ตอนนี้เดินเข้ามาประชิดมากกว่าเดิม มันยืนยันได้ชัดเจนว่าตอนนี้โจวคยูฮยอนคนที่อยู่กับเขามาตลอดเป็นสายตำรวจที่เข้ามาเพื่อจับกุมเขา

     

     

    คุณซีวะ...”

     

     

    “...” โทรศัพท์ในมือของซีวอนร่วงลงไปที่พื้น หน้าจอซึ่งถูกกระทบทำให้เกิดแสงสว่างวาบขึ้นมา ปรากฎโปรแกรมข้อความของเครื่องที่ยังคงพิมพ์ค้างเอาไว้

     

     

    'ปลอดภัยหรือเปล่าคนดี...'

     

    ซีวอนผม...” คยูฮยอนเชื่อมาตลอดว่าเขาจะเข้มแข็งพอสำหรับภารกิจนี้ หากแต่ความจริงแล้วความเชื่อนั้นมันไม่มีจริง มันชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อร่างสูงหันแผ่นหลังกว้างให้กับเขาซึ่งมีน้ำตาคลอเบ้าและพยายามจะปริปากพูดเพื่ออธิบาย ฝ่าเท้าของซีวอนยังคงเดินไปข้างหน้า ไปที่รถตำรวจซึ่งเปิดประตูอ้าค้างเอาไว้ก่อนจะหย่อนตัวเองเข้าไปนั่งภายในนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ

     

     

    ไม่มีแม้แต่การหันหลังมามอง

     

     

    ทำได้ดีมากคยูฮยอน...” ชายผู้มีตำแหน่งเหนือกว่าตบบ่าเขาสองสามครั้งท่ามกลางความงุนงงของสถานการณ์ซึ่งถูกพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ผู้ช่วยคนหนึ่งหยิบป้ายชื่อตำรวจมาคล้องไว้ที่คอของคยูฮยอนก่อนจะบอกให้เขาเดินไปขึ้นรถ

     

     

    ขาเรียวพาตัวเองไปยืนเทียบอยู่ข้างรถซึ่งมีชเวซีวอนนั่งอยู่บนนั้น เขายืนมองเสี้ยวใบหน้าคมคายที่ตัวเองปฏิเสธไม่ได้ว่ารักที่จะมองในทุกเช้าและก่อนนอน มือบางเอื้อมไปคว้าบานประตูมาแล้วค่อยๆดันปิดมันลงอย่างเชื่องช้า

     

     

    ผมอาจจะหลอกคุณทุกอย่าง... แต่ที่ผมบอกว่ารักคุณมันคือความจริง" เสียงหวานกระซิบแผ่วเบาโดยมิอาจรู้ได้เลยว่าอีกคนจะได้ยินมันหรือไม่ เพราะใบหน้าของซีวอนยังคงนิ่งสนิท ร่างสูงใหญ่นิ่งไม่ไหวติงต่ออะไรใดๆ

     

     

    กระทั่งประตูรถปิดกระแทกลงด้วยฝ่ามือเรียวของคยูฮยอนที่ตอนนี้ถอยห่างออกมาเพื่อให้รถได้เคลื่อนตัว ซีวอนจึงผินใบหน้าตะแคงมายังร่างที่ยินนิ่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาคมมองสบเข้าไปในก้อนลูกปัดสีน้ำตาลเข้มที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นเขาพยายามอย่างมากที่จะฝืนน้ำตาเอาไว้แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้แล้วจำยอมต้องปิดเปลือกตาลง ปล่อยให้น้ำใสไหลลงมาอาบแก้มของตนเองอย่างผู้ไร้หนทาง

     

     

    ความจริงคือวินาทีนั้นเขาสามารถหนีไปได้ ชเวซีวอนที่ถูกรุมล่ามานานนับทศวรรษทำไมจะไม่รู้ทางหนีทีไล่ แต่เพราะโจวคยูฮยอนเขาจึงไม่เลือกทำเช่นนั้น

     

     

    การล่าหัวเขามีมูลค่าเท่ากับตำแหน่งของตำรวจคนหนึ่ง

     

    และถ้างานนี้พลาด โจวคยูฮยอน จะไม่ปลอดภัยจากพวกตนเองและพวกของเขา

     

    มันคงเป็นสิ่งสุดท้ายที่คนเลวทรามต่ำช้าจะมอบให้กับผู้เป็นที่รักสุดหัวใจของตนเองได้..

     

     

    เป็นเพียงอย่างสุดท้ายจริงๆ

     

     

     

     

     

     

     

     




















     

     

     

     

     

     

     

     


















     

     

     

     

     

     

    คุณเป็นเรื่องโกหกเดียว

    ที่ผมทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นจริง

     

     

     

    ห้องสอบสวนเป็นสถานที่ซึ่งไม่น่าพิสมัยเลยสักนิด มันทั้งอึดอัด กว้างขวางทางกายภาพแต่กลับอึดอัดในจินตภาพและมันก็ทำให้ซีวอนแทบจะทำไม่ได้แม้แต่หายใจ

     

     

    เขาตอบคำถามกับคุณตำรวจอย่างใจเย็นทุกข้อและพูดความจริงเกือบทุกประการตามคำถาม ร่างสูงรู้ดีว่าเบื้องนอก ตรงที่สายตามองเห็นเป็นภาพสะท้อนของห้องกว้างคงจะมีใครต่อใครยืนกล่าวคำสาปแช่งเขาอยู่เป็นแน่ ตำรวจหลายสิบนายคงโล่งใจที่นักค้ามนุษย์ข้ามชาติอย่างเขาถูกคุมขัง

     

     

    อยากบอกคนพวกนั้นเหลือเกินว่าเขาเองก็ดีใจที่ได้หยุดมันลงเสียที

     

     

    ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ" หลังได้คำตอบที่ต้องการมากมาย ผู้สอบสวนก็กล่าวปิดบทสนทนาและเตรียมกดสัญญาณเพื่อเรียกให้ผู้คุมเข้ามาพาตัวเขาไปส่งยังบ้านหลังใหม่

     

     

    เดี๋ยวครับ" นับเป็นการปรอปากพูดนอกบทครั้งแรกของชเวซีวอนที่นั่งเงียบมาตลอดทางจนกระทั่งถึงห้องสอบปากคำ ชายวันกลางคนกดสายตาลงมองแล้วพยักหน้าให้ร่างสูงพูดต่อ "ผมอยากถามอะไรคุณ... สักสองสามคำถาม"

     

     

    ว่ามาสิ...”

     

     

    คยูฮยอน...” เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อต้องพูดถึงคนๆนั้น "เขาจะสบายดีใช่ไหม?”

     

     

    ผู้กองโจวคยูฮยอนจะสบายดี" ผู้สอบสวนตอบเสียงเรียบและหนักแน่น ยืนยันว่าโจวคยูฮยอนคนนั้นจะสบายดีจริงๆหลังจากเรื่องจบลง ซีวอนถึงได้เงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มจางๆ

     

    งั้นผม... ฝากบอกเขาได้ไหมครับ"

     

     

    ว่ามาสิ... เขาเองก็อยู่ข้างนอกนั่น"

     

     

    ซีวอนขยับหน้าหันไปทางบริเวณที่เป็นประจกสะท้อนเงาตัวเองซึ่งตรงนั้นมีโจวคยูฮยอนยืนกอดอกอยู่เพียงลำพัง ริมฝีปากแห้งผาดของซีวอนขยับขบเม้มกันอยู่สักพักก่อนที่เสียงแหบพร่าจะเปล่งออกมา

     

     

    ฉันรักนาย"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    นายดูไม่ค่อยสดชื่นเลยนะคยูฮยอน...” เพื่อนร่วมงานโต๊ะตรงข้ามเอ่ยทักหลังจากที่เขาเข้ามานั่งบนเก้าอี้ของตัวเองได้เพียงครู่เดียว คิมเรียวอุคยื่นลูกอมมาให้พร้อมกับรอยยิ้มสดใสอย่างที่เจ้าตัวมีมันติดอยู่ตลอดเวลา "ได้รางวัลนายตำรวจดีเด่นนี่ไม่ดีใจเหรอ...”

     

     

    ก็ดีแหละ... ขอบใจนะ"

     

     

    ของขวัญไง... ฮ่าๆ ขอโทษทีนะ แต่ฉันเพิ่งกลับมาจากทำคดีที่ปูซาน เพิ่งรู้เรื่องนายเมื่อเช้าเลยไม่ได้ซื้ออะไรมาให้เลย"

     

     

    อย่าคิดมากหน่า"

     

     

    นายเก่งมากเลยนะ ไปขลุกอยู่กับหมอนั่นได้เป็นปี เนียนมากด้วย" เพื่อนตัวเล็กยังคงเอ่ยปากชมเขาไม่หยุดหย่อน ซึ่งคยูฮยอนก็ได้แต่ขยับยิ้มรับอย่างเนือยๆ

     

     

    การพาตัวซีวอนไปคุมขังในคุกกลางทะเลเป็นเรื่องที่ถูกดำเนินการอย่างลึกลับเพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวและด้วยข้อหาอีหหลายกระทงจึงทำให้ต้องติดคุกกลางทะเลตลอดชีวิต ไม่มีใครรู้ว่าโจวคยูฮยอนแอบขับรถตามไปและมองแผ่นหลังกว้างขึ้นเรือตำรวจจนลับตาหายออกจากชายฝั่ง

     

     

    และเมื่อเทียบกัน สองวันนี้เขาเสียน้ำตามากกว่าสองปีที่ใช้มันกับชเวซีวอนเสียอีก

     

     

    เออจริงสิ... พี่จองฮีฝากมาบอกว่านายมีวันพักร้อนเหลือเกลื่อนกลาด... เขาเลยถามว่านายอยากจะพักไหม ตารางช่วงนี้ว่างพอดี" คิมเรียวอุคชะโงกหน้ามาถามเขาอีกครั้งหลังจากเลื่อนตัวไปคีย์นิ้วลงในคอมได้สักพัก

     

     

    อ่า...”

     

    นายน่าจะพักจริงๆนะคยูฮยอน นายดูเหนื่อยมากเลย...” เรียวอุคยังคงคะยั้นคะยอด้วยน้ำเสียงเปี่ยมความกังวล "พักร้อนไปทำตามใจตัวเองบ้างไง อยู่กับคดีนี่อึดอัดจะตาย...”

     

     

    คำพูดของเรียวอุคสะกิดเข้ากับความรู้สึกของเขาได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะคำว่า "ทำตามใจตัวเอง" คยูฮยอนมองออกไปนอกหน้าต่าง ซึ่งมันมีแม่น้ำฮันไหลเอื่อยไปเรื่อย พาฝูงเรือเคลื่อนตัวไปตามวิถีแห่งสายลมแต่มีเส้นทางเป็นของตัวเอง

     

     

    เขานึกถึงเมื่อวานที่พยายามห้ามใจตัวเองไม่คว้าร่างนั้นเข้ามากอดไว้

     

     

    ทั้งที่ใจอยากซุกลงไปกับอกกว้างแล้วบอกว่าขอโทษ

     

     

     

    จริงด้วยสิเรียวอุค... ฉันควรไปพักร้อนเนอะ"

     

     

    ดีมากคยูฮยอน พี่จองฮียังอยู่ที่โต๊ะนะ"

     

     

    ฮ่าๆ... บ๊ายบายเรียวอุค ฝากงานด้วยแล้วกัน เหนื่อยหน้อยนะ"

     

     

    ด้วยความยินดี...” เรียวอุครับคำพร้อมกับรอยยิ้มกว้างตามแบบฉบับของตัวเอง และมันก็ทำให้คยูฮยอนรู้สึกอยากจะขอโทษเพื่อนโต๊ะตรงข้ามของตัวเองเหลือเกิน "แต่อย่าไปนานเป็นเดือนหล่ะ รีบกลับมานะ"

     

     

    ฮะๆ...” มีเพียงเสียงหัวเราะแห้งๆตอบกลับมาพร้อมกับฝ่ามือเรียวตบปุลงไปบนไหล่ของคิมเรียวอุคเบาๆขณะกวาดสายตามองไปรอบตัว

     

     

    คงไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว

     

     

    เพราะโจวคยูฮยอนกำลังจะไปทำตามสิ่งที่หัวใจตัวเองต้องการสักที

     

     

     

    THE END

     

     

    ขอโทษจากใจจริงที่หายไปนานแสนนาน...

    คือเรารักซีรี่ย์นี้มากแต่อารมณ์ช่วงนั้นมันขาดๆหายๆ

    ยังไม่แน่ใจว่าจะได้แต่ง Rainfall ต่อหรือเปล่าด้วยซ้ำ

    แต่ก็จะพยายามบิวต์นะ 55555555555

     

    คนอ่านน้อยมาก... แต่ก็ขอบคุณจากใจจริง

    ขอบคุณที่ติดตามนะ ^^

     

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×