ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (kaihun) High Hopes

    ลำดับตอนที่ #3 : Fall

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.38K
      17
      25 ม.ค. 59


     ความผูกพันเริ่มต้นด้วยการสบตาในยามเช้า

    สานต่อในอ้อมกอดกลางดึก

     


    “คุณเป็นนักวาดรูปเหรอ?



    “อืม”



    “วาดแต่รูปอย่างเดียวเหรอครับ?



    “ก็...รับงานออกแบบด้วย ถ้าถูกใจจะทำน่ะนะ” จงอินตอบคำถามพร้อมกับลากมือขึ้นเส้นโครงลงบนผืนผ้าใบตรงหน้า ขีดเส้นดินสอทบไปทบมาตามความรู้สึกของตัวเองที่คิดว่ามันใช่โดยมีเซฮุนชะเง้อคอขึ้นมองขั้นตอนเหล่านั้นด้วยความสนอกสนใจ



    ดวงตาเรียวเหลือบมองปลายยอดดอกหญ้าสีขาวปุกปุยในท้องทุ่งสลับกับโครงร่างคร่าวๆของจงอินซึ่งเริ่มเป็นรูปเป็นร่างอยู่บนผ้าใบ เขาไม่มีความรู้เรื่องการวาดภาพมากนัก ทั้งยังเคยคิดว่ามันเป็นงานน่าเบื่อ สืบเนื่องมาจากการได้คะแนนน้อยในวิชาดังกล่าว แต่คิมจงอินกำลังค่อยๆเปลี่ยนทัศนคติของเขาให้สลับขั้ว



    ศิลปินวัยสามสิบตอนต้นร่ายมนต์สะกดสายตาไม่ให้หันเหไปไหนได้ด้วยเสี้ยวหน้าคมคร้ามตัดกับแววตาอ่อนละมุนที่มองปราดไปทั่วผืนผ้า พินิจลายเส้นแกรไฟต์อันแสนวิจิตร ยิ่งเมื่อแสงแดดอ่อนฉายลงมาบนผิวกายสีเข้มยิ่งทำให้คิมจงอินดูเหมือนเทวดาผู้มีสรรพวิชาในงานศิลป์ ราวกับถ้าหากภาพวาดนั้นสำเร็จสมบูรณ์แล้วมันจะหลุดออกมามีชีวิต โลดแล่นอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงได้



    “แล้วส่วนมากนายทำอะไรเหรอ?” จงอินเป็นฝ่ายตั้งตำถามบ้างหลังจากเซฮุนนิ่งไป การเปิดบทสนทนาไม่ใช่เรื่องถนัดของเขา มันค่อนข้างลำบากใจเวลาต้องเป็นคนคิดคำถาม สมองกลวงอันแสนเชื่องช้าจะประมวลเอาเรื่องราวต่างๆมาปนเปะปะกันเต็มไปหมด มีประโยคนับร้อยพันผุดขึ้นมาในคราวเดียวกัน ทำให้จงอินกลับไม่สามารถเลือกได้ว่าควรพูดอะไรออกไป แต่อาการเหล่านั้นไม่ปรากฏเมื่อยามเมื่อต้องเป็นฝ่ายเริ่มพูดอะไรสักอย่างกับโอเซฮุนก่อน



    อาจเป็นเพราะดวงตาคู่สวยไม่ทำให้เขาต้องกังวลอะไร



    “ผมเป็นตากล้อง”



    “ตากล้องทั่วไปเลยเหรอ?



    “ช่างภาพนิตยาสารแฟชั่นครับ แต่ก็หยุดไปสักพักแล้ว...ตอนนี้ผมเรียนโทอยู่” จงอินขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจมากกว่าเดิม เผลอจ้องหน้าเซฮุนแล้วขำออกมาเบาๆ เพราะในจินตภาพของเขา เซฮุนเหมือนลูกคุณหนูคนเล็กของบ้านมากกว่าช่างภาพที่จะต้องออกไปลุยงานสมบุกสมบัน ด้วยทรงผมสีบลอนด์ที่ตัดแต่งอย่างเรียบร้อยและท่าทางการพูดจาที่เป็นทางการ ทั้งหมดนั่นให้ความรู้สึกขบขันพิลึกเมื่อรู้ว่ามืออันแสนบอบบางต้องจับตัวกล้องหนักเป็นกิโลไปเผชิญแสงแฟลชชนิดทำลายล้างม่านตาตลอดเวลา



    “ทำไมหัวเราะอ่ะ...



    “เปล่าๆ แค่ไม่คิดว่านายจะถ่ายรูปน่ะ นายเหมือนนักศึกษาปีสองหรือไม่ก็นักธุรกิจมากกว่า”



    “ห๊ะ?!” สีหน้าเซฮุนเต็มไปด้วยความตกใจ เขากลอกตามองท้องฟ้าแล้วตวัดไปจ้องสบกับดวงตาของจงอินตรงๆ “นั่นมันไม่ใช่ผมเลย...ไม่เลยสักนิด”



    “อ่าวเหรอ?



    “ผมเกลียดธุรกิจและปีนี้ผมอายุยี่สิบแปดแล้ว” น้ำเสียงที่เคยเบาหวิวกลับเน้นย้ำหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำ เพื่อให้คนที่กำลังเคลื่อนกายมาหย่อนตัวนั่งข้างกันเปลี่ยนความเข้าใจผิดนั่นเสียใหม่



    จงอินยังคงมีรอยยิ้มติดมุมปาก แม้แต่ตอนที่ส่งซองบุหรี่ในมือไปให้เซฮุนแล้วโดนปฏิเสธ ใบหน้าคมคร้ามก็ยังคงมีรอยยิ้มติดอยู่ “ผมไม่สูบ”



    “อ่า...



    “คุณก็ควรจะเลิกมันนะ”



    “ฮ่าๆ...นั่นก็ไม่ใช่ฉันเลย” น้ำเสียงทุ้มของจงอินเจือเสียงหัวเราะขัน มวนบุหรี่ติดไฟยกขึ้นมาแนบปากแต่มันก็ล้มเหลวเมื่อเศษหญ้าในมือของคนข้างกายลอยมาติดอยู่ข้างริมฝีปากและปลายคาง เขาใช้มือป้ายมันออกอย่างไม่ใส่ใจแล้วระเบิดหัวเราะเสียงดังขณะพยายามเบี่ยงตัวหลบออกจากวิถีเศษหญ้าระลอกสองซึ่งกำลังปลิวมากับเสียงร้องเอะอะ



    “คุณย้อนผมนี่!



    “อะไรกัน ฉันแค่ยืมประโยคนายมาพูดเอง



    “ย๊า! คุณนี่มัน... เซฮุนสบถ จิ๊ปากขัดใจและเริ่มทำการดึงหญ้าขึ้นมาอีกครั้งเพื่อปาใส่ศิลปินหนุ่มผู้พยายามปกป้องทั้งมวนบุหรี่และใบหน้าของตัวเองไปพร้อมๆกัน



    การเอาคืนอย่างเป็นทางการส่งผลให้สงครามกระสุนหญ้าดำเนินต่อไป จงอินตัดสินใจขยี้บุหรี่ของตัวเองลงกับพื้นดินแฉะเพื่อให้มีมือว่างใช้เด็ดหญ้าปาใส่เซฮุนบ้าง เสียงหัวเราะของทั้งสองก้องกังวานไปทั่วทุ่งระยะห่างระหว่างกันลดลงเป็นศูนย์เมื่อเซฮุนสามารถผลักจงอินล้มลงไปหนอนหงายอยู่บนพื้นได้



    ร่างผอมขึ้นคร่อมทับหน้าท้องอีกคนเอาไว้แล้วเอาหญ้าในมือป้ายไปบนแก้มกร้านของหนุ่มศิลปินให้เลอะเป็นแถบ หากเป็นคนอื่นจงอินอาจจะนอนนิ่งแล้วปล่อยให้ตัวเองโดนกระทำจนสาสมแต่เพราะเหนือร่างของเขาคือโอเซฮุน จึงไม่มีอะไรเป็นเหมือนในความคิด มือหนาเอื้อมไปคว้าเอวของคนตรงหน้า กระชากลงมากะให้เซฮุนเสียหลัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทุกอย่างหยุดชะงักเพราะเซฮุนไม่ได้เอียงล้มลงไปบนพื้นตามที่จงอินต้องการ ร่างบางกลับถลาลงมาทับบนลำตัวของเขาพอดี



    ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันแค่จมูกชนจมูก กลิ่นหอมของเซฮุนปะทะกับกลิ่นบุหรี่ของจงอิน โลกเหมือนหยุดโคจรรอบตัวเองไปแล้วในช่วงเวลานั้น จงอินลืมวิธีการหายใจ เซฮุนลืมไปว่าตัวเองควรลุกขึ้น ดวงตาสบมองประสานกันราวกับกำลังส่งผ่านบางอย่างที่มองไม่เห็น



    บางอย่างที่ว่าอาจหมายถึงการที่ริมฝีปากของทั้งคู่ ที่แตะกันจนแนบสนิบางอย่างที่ว่ามีแรงดึงดูดมากเสียจนต่างฝ่ายต่างดูดดึงกลีบปากของกันและกันโดยไม่คิดจะผละออก



    มือของเซฮุนสอดเข้าแทรกในกลุ่มผมสีน้ำตาล ขยุ้มรั้งจนมันชี้ไปคนละทิศละทางเพื่อระบายความรู้สึกวาบหวามยามลิ้นชื้นสอดเข้ามากวาดกว้านภายในโพรงปากของเขาเหมือนงูพิษหลงทางในเขาวงกต วูบหนึ่งที่ใบหน้าของทั้งสองขยับห่างออกมาและมันทำให้เราได้จ้องมอง ทบทวนความรู้สึกของกันและกันที่ปรากฏอยู่ในดวงตา



    ทั้งจงอินและเซฮุนคิดว่ามันผิด...พวกเขาไม่ควรผละออกมาในเมื่อเวลานี้เราทั้งคู่ประกอบสร้างขึ้นด้วยความโหยหา



    ดังนั้นเราจึงขยับเข้าหากันอีกครั้งแล้วบดจูบให้ดูดดื่มกว่าครั้งก่อน

     


    - - -

     


    ขาตั้งสำหรับวาดภาพถูกจับกองลงไปกับพื้นบ้านอย่างไม่ใส่ใจเช่นเดียวกับผ้าใบสีขาวผืนใหญ่ที่กลิ้งโค่โล่ไปติดอยู่กับซอกตู้ กล่องสีกระเด็นไปนอนเคียงกับชั้นวางรองเท้า ในขณะที่ร่างผอมบางถูกจับยกขึ้นมาด้วยท่อนแขนแกร่งทั้งสองข้างที่มีริ้วมัดกล้ามปรากฏให้เห็นเป็นแถบอยู่บ้างหลังห่างหายการออกกำลังกายไปนานเกือบครึ่งปี



    เซฮุนไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางที่จงอินพาเขาไปจะเป็นที่เดียวกับที่ตนคิดไว้หรือเปล่า เพราะเขามองไม่เห็นอะไรสักอย่างในเมื่อดวงตาทั้งสองข้างจับได้เพียงภาพใบหน้าคมคร้ามเปี่ยมเสน่ห์เท่านั้น จงอินยังคงระดมจูบแก้มทั้งสองข้างสลับกับบดเบียดริมฝีปากเข้ามาแลกลิ้นกันทั้งในและนอกโพรงปาก ขาทั้งสองข้างยังก้าวเดินฉับๆและยังสามารถเตะประตูบ้านให้ปิดลงมิดชิด



    แผ่นหลังบางสัมผัสได้กับไอเย็นเฉียบจากผนังปูน ดวงตากลมเหลือบมองไปรอบตัวเพื่อสำรวจว่าตรงนี้คือส่วนไหนของบ้านและเขาก็ได้คำตอบในทันที มันคือมุมอ่านหนังสือเล็กๆในห้องนั่งเล่นขนาดย่อมที่เบี่ยงออกมาจากจอโทรทัศน์เล็กน้อย เซฮุนไม่รู้ว่าทำไมมันถึงต้องเป็นที่นี่กระทั่งจงอินวางเขาลงบนโต๊ะไม้สักขนาดใหญ่ที่กลางห้องจึงเริ่มเข้าใจ



    ใบหน้าของศิลปินหนุ่มยอมขยับให้คนตรงหน้าพักหายใจจากรสจูบมาราธอนที่เกิดขึ้นตลอดหลายนาทีก่อนหน้า กระนั้นเซฮุนกลับเป็นฝ่ายคว้าลำคอแกร่ง ประคองดวงหน้าเข้มด้วยอุ้งมือเรียวอุ่นพร้อมไล้นิ้วโป้งสัมผัสไปตามแนวสันกรามก่อนจะดึงใบหน้าคมคร้ามลงมาป้อนจูบ ดวงตาฉ่ำเยิ้มช้อนขึ้นมองริมฝีปากบวมเจ่อที่กำลังเผยอออกโกยอากาศหายใจ คราวนี้เป็นจงอินที่ทนไม่ไหวแล้วโน้มตัวลงบดจูบเหนือกลีบปากสีชมพูกระจับของเซฮุนก่อน แต่พอในจังหวะหลังก็เป็นเซฮุนที่คอยเบียดเข้าหา



    เริ่มต้นอย่างเชื่องช้าด้วยการแตะหยั่งเชิงตรงกลีบปากด้านบนแล้วผละออกมา ตาทั้งสองคู่มองประสานก่อนที่จงอินจะเป็นฝ่ายขยับโน้มใบหน้าเข้าไปฉกริมฝีปากล่าง ดูดคลึงเอาไว้ด้วยส่วนเดียวกันของตัวเองอยู่นานสองนานก่อนจะยอมผละออกมาเพื่อชมผลงานบวมเจ่อ



    ฉันจะไม่ขอโทษนายหลังจากนี้แน่ๆ...” จงอินพูดเบาๆ ปิดประโยคด้วยการกดจูบลงบนมุมริมฝีปาก สันจมูกตรงทู่ซุกอยู่กับข้างแก้มนวลขาว เบียดใบหน้าและลำตัวเข้าไปใกล้โดยไล้ฝ่ามือวนไปรอบขอบกางเกงของอีกคน



    ผมก็จะไม่ขอให้คุณอภัยให้ผมเหมือนกัน” เซฮุนขบติ่งหูของจงอิน ก่อนยกสะโพกขึ้นด้วยการเกี่ยวแขนไว้รอบคออีกฝ่ายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การเปลื้องกางเกงออกไป ลมหวิวที่พัดเข้ามาแตะผิวเนื้อบอกให้รู้ได้ว่าเขาสูญเสียอาภรณ์เบื้องล่างไปแล้วด้วยความเต็มใจ

     


     

    CUT
    [เจอีเอเอ็นอีทีอาร์ไอเอ็กซ์ จุด บีแอลโอจีเอสพีโอที จุด คอม]
    ที่แถบสีเทาด้านบนจะมี Kaihun Contents จิ้มเข้าไปในนั้นเลยจ้า


     

     

     

    - - -

    LAST UPDATE : 25/01/16

    #ฮายโฮป


     

    Fall ไปที่ไหนคงไม่ต้องบอก
    ขอบคุณทุกคอมเมนต์เลยนะ <3 อ่านแล้วอุ่นมาก -///-

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×