ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { wonkyu } Meta-Affectionate

    ลำดับตอนที่ #3 : Meta-Affectionate 02

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 431
      1
      13 มี.ค. 57

     

     

     02

     

     

     

    อาทิตย์หน้าสิ้นเดือน...”

     


    ครับ?” ซีวอนเงยหน้าขึ้นไปถามเฮดบาร์เทนเดอร์ที่จู่ๆก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบระหว่างจัดวางขวดเครื่องดื่มกลับขึ้นไปบนชั้น

     

     

    อ่าว... วีคสุดท้ายของเดือนแล้วก็โชว์พิเศษไง...”

     

     

    อ๋อ...รู้ครับเด็กหนุ่มนึกขึ้นได้ทันทีเมื่อได้ยินคำว่าโชว์พิเศษ เหมือนมิทรา (ผู้คุมตัวใหญ่ที่ลากผมถูลู่ถูกังเข้ามาที่นี่เคยพูดถึงเรื่องโชว์ให้ฟังเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนและบอกว่าเดือนนี้เป็นคิวของคยูฮยอน ฉะนั้นเขาซึ่งเป็นเด็กในปกครองจึงอาจจะต้องโดนโยกย้ายตำแหน่งไปอยู่หลังเวทีในวันโชว์

     

     

    มิทราให้มาย้ำนายอีกที"

     

     

    ที่ต้องไปช่วยงานหลังเวทีใช่ไหมครับ?”

     

     

    เยส... เดี๋ยวหลังงานวันนี้เขาจะนัดคุยกัน นายควรอยู่ด้วยซึงฮยอนหันมาบอกทั้งรอยยิ้ม "ที่จริงนายก็น่าจะต้องอยู่ เพราะเดี๋ยวคยูฮยอนก็จะเข้ามาหล่ะ"

     

     

    ทันทีที่ซึงฮยอนพูดแบบนั้นซีวอนก็ต้องใช้สติอย่างมากในการประคองแก้วในมือไม่ให้ล่วงลงไปกับซิงค์ล้าง ตั้งแต่วันนั้นในห้องครัวเขาก็ยังไม่ได้มีโอกาสเจอหน้าคยูฮยอนแบบตรงๆเลยสักครั้งเพราะดูเหมือนเจ้าของบ้านคนนั้นจะมีเรื่องวุ่นวายให้ทำ ส่วนเขาก็ตั้งใจหลบหน้า เลือกไม่นั่งอ่านหนังสือตรงนั้นอีกเพื่อไม่ให้อะไรๆมันซ้ำรอย

     

     

    นายจะได้กลับบ้านพร้อมหมอนั่น ช่วงนี้มีข่าวคนจี้ชิงทรัพย์อะละวาดอยู่ด้วย สองหัวก็คงจะดีกว่าหนึี่ง"

     

     

    นั่นหมายความว่าคืนนี้เขาต้องกลับบ้านพร้อมคยูฮยอนสินะ...

     

     

    ไงครับคุณเฮดบาร์เทนเดอร์ ไม่เจอกันนานเหมือนจะลงพุงนะหากแต่ความคิดของซีวอนก็ถูกตัดฉับลงเมื่อน้ำเสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหน้าเคาท์เตอร์บาร์ เขาไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองเพราะซุ่มเสียงหวานหยาดเยิ้มนั่นเป็นใครอื่นไปไม่ได้อีกแล้วนอกจากโจวคยูฮยอน

     

     

    ภาพสะท้อนบนโหลเชคเกอร์ก็บอกเขาอย่างนั้น

     

     

    อ่า...นั่นสิ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายคำพูดของซึงฮยอนแฝงนัยบางอย่างที่ทำให้ร่างบางต้องแค่นหัวเราะออกมา

     

     

    งั้นนายก็ควรฟิตนะซึงฮยอน... จะได้ขึ้นโชว์ทั้งที"

     

     

    ฮ่าๆ ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนไปด้วยหน่ะคยูฮยอน...”

     

     

    ปึ้ง!!!

     

     

    ดูเหมือนหนุ่มน้อยจะใจลอยนะครับวันนี้คยูฮยอนเป็นฝ่ายเอ่ยทักหลังเสียงสะท้อนของแก้วที่ตกลงไปในอ่างล้างแสตนเลสสงบลง ซีวอนหันกลับมาขอโทษทั้งสองโดยตั้งใจไม่สบมองไปยังดวงตากลมคู่นั้นเพราะเกรงว่ามันจะบั่นทอนความอดทนของตนให้ต่ำลงไปอีก

     

     

    ระวังหน่อยแล้วกันซีวอน"

     

     

    ครับ...” เขาสะบัดหัวสองสามครั้งเพื่อพยายามเรียกสติของตัวเองกลับมาและใช้ความพยายามอีกระดับในการตัดตัวเองออกมาจากบทสนทนาของสองคนด้านหลัง

     

     

    มันบ้ามาก... เขาไม่มีสิทธิ์นั้น

     

     

    เขาจะหวงคยูฮยอนทำไม... ทำไมต้องโกรธซึงฮยอน

     

     

    โดยพื้นเพชเวซีวอนเป็นคนใจเย็นมาแต่ไหนแต่ไร ตอนอยู่ที่บ่อกุ้ง มันก็มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้เวลาทั้งวันในการซ่อมแหได้ในขณะที่เด็กวัยเดียวกันคนอื่นมักจะอยู่กับกิจกรรมพรรค์นี้ได้อย่างมากสุดก็แค่สามชั่วโมง เขาไม่เคยมีประวัติชกต่อยกับใครเพราะความโกรธ เคยโดนเพื่อล้อหลายครั้งเรื่องเสื้อขาดแต่ก็ยังไม่เคยทำร้ายหรือลงอารมณ์กับอะไร

     

     

    แล้วทำไมแค่ประโยคพวกนั้นถึงทำให้รู้สึกเหมือนมีไฟสุมอกได้หล่ะ...

     

     

    มันไม่ควรเป็นแบบนั้นเลย

     

     

     

    ล้างเสร็จแล้วตามไปที่โต๊ะเก็บเงินนะ"

     

     

    ครับเด็กหนุ่มขานรับคำบอกของเฮดบาร์เทนเดอร์ที่พาตัวเองออกไปนอกเคาท์เตอร์บาร์พร้อมกับโจวคยูฮยอนซึ่งดูเหมือนจะไม่ยินดียินร้ายอะไรกับการโดนโอบเอวเอาไว้

     

     

    บางทีซึงฮยอนกับคยูฮยอนอาจจะมีอะไรบางอย่าง... อาจจะคบกัน

     

     

    และบางทีเขาอาจเป็นคนที่ควรถอยออกมาตั้งแต่ยังไม่ได้ก้าวเข้าไป

     

     

    - - -

     

     

    บอกไม่ได้เลยเหรอว่านายหลบหน้าฉันเพราะอะไรหน่ะ?”

     

               

    ผม...ผมไม่ได้หลบหน้าพี่เลยนะครับ"

     

     

    งั้นเหรอ... แล้วอะไรคือการที่ฉันไม่เจอนายเป็นอาทิตย์หล่ะแม้มันจะเป็นเพียงประโยคคำถามธรรมดาที่เอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบสงัดของถนนสายเปลี่ยวแต่ซีวอนกลับสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจากน้ำเสียงนั้น เด็กหนุ่มสอดมือเข้าไปในเสื้อโค้ทแล้วกำบีบจนแน่นด้วยไม่รู้ว่าตัวเองควรจะตอบคำถามนั้นออกไปอย่างไร

     

     

    “...”

     

     

    นายตอบไม่ได้ ก็คือนายหลบหน้านะคยูฮยอนพูดต่อด้วยท่าทางสบายๆ เขาสอดมือเข้าไปในเสื้อโค้ทของตัวเองบ้างเมื่อสายลมเย็นพัดผ่านไประลอกใหญ่ ดวงตากลมเหลือบมองไฟริบหรี่ที่ริมทาง เงยหน้าขึ้นมองดวงดาวบนท้องฟ้า ก่อนจะหยุดสายตาไว้บนเสี้ยวใบหน้าคมสันของผู้อาศัยที่ยังคงพยายามเว้นระยะห่างออกไป

     

               

    คยูฮยอนลองก้าวเข้าไปหา... ซีวอนถอยออกไปอีกหนึ่งก้าว

     

     

    คยูฮยอนลองก้าวเข้าไปอีกหนึ่งก้าว

     

     

    และซีวอนก็ถอยออกไปอีกหนึ่งก้าว

     

     

    รอบนี้เขาลองขยับสองก้าว

     

     

    แต่ซีวอนขยับไปแค่หนึ่งก้าว... เพราะติดกำแพง

     

     

    โอเคเด็กน้อย นายไม่หลบหน้าฉันแต่นายเดินหนีฉันก้าวต่อก้าวเลยแฮะ...” คยูฮยอนพยักหน้าคล้ายว่าจำนนต่อสถานะของตัวเองที่มันเป็นเช่นนั้นแล้วก้าวเดินต่อไปโดยยังคงกระชับระยะห่างระหว่างตนเองกับซีวอนเอาไว้เหมือนเดิม

     

     

    ผม....”

     

     

    ไม่เหมือนคนหลบหน้าเลยจริงๆใบหน้าเบ้ๆของคยูฮยอนกลับทำให้เด็กหนุ่มเผลอหลุดรอยยิ้มออกมาที่มุมปากของตัวเองอย่างเผลอไผลเพราะตลกกับท่าทางเหมือนเด็กประถมเวลาไม่ได้ขนม ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนแบบโจวคยูฮยอนจะมีมุมงอแงเหมือนคนอื่นเขาก็เป็น

     

     

    “...”

     

     

    นายขำอะไรของนาย...”

     

               

    “...ฮะๆ...”

     

     

    หยาขำอะไรของนายกัน?!”

     

     

    พี่เหมือนเด็ก"

     

     

    ฉัน?... เหมือนเด็ก?”

     

     

    เวลาพี่เบ้หน้า... แบบนี้ริมฝีปากหยักศกบิดคว่ำลงมา ลอกเลียนแบบอากัปกิริยาเมื่อสักครู่ของคยูฮยอนจนแน่ใจว่าเหมือนทุกกระเบียดนิ้ว

     

     

    ห๊า!! นายล้อฉันอยู่นะซีวอน!”

     

               

    ก็ใช่ไง...ฮ่าๆๆๆๆ...โอ้ยพี่!!” ประเด็นสนทนาเคร่งเครียดจบลงอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเมื่อคยูยอนฟาดกำปั้นลงไปบนหัวของของเด็กหนุ่มด้วยน้ำหนักไม่มากไม่น้อย จากนั้นจึงเริ่มระดมฟาดลงไปอีกหลายๆครั้งเพราะซีวอนยังไม่ยอมหยุดขำ

     

     

    หยา!! นายขำบ้าอะไรวะ?”

     

     

    ฮ่าๆๆๆผมขำ..โอ้ย...ขำพี่แหละ...ฮะๆ"

     

               

    คำตอบแบบดังกล่าวทำให้ซีวอนโดนหมัดเหวี่ยงลงมาอยู่อีกหลายครั้ง และระยะห่างของทั้งคู่ก็ลดลงจนชิดกันขึ้นมาเสียเฉยๆ เสียงโวยวายของคยูฮยอนและเสียงร้องโอดโอยของซีวอนดังไปตลอดทาง กระทั่งซีวอนเห็นรั่วประตูบ้านเขาจึงรีบวิ่งถลาหนีออกไปโดยมีคยูฮยอนวิ่งตามมาติดๆ

     

     

    ทั้งคู่หอบหายใจกันยกใหญ่ เอามือท้าวไว้กับหัวเข่า พ่นไอควันเย็นๆขึ้นไปบนอากาศขณะสายตาก็เหลือบมองกันอยู่อย่างนั้น

     

     

    ซีวอนคิดว่าอากาศมันคงจะหนาวมากเขาถึงได้ขยับตัวเดินเข้าไปหาเจ้าของกำปั้นที่ระดมฟาดลงมาตลอดทาง ขยับเข้าไปใกล้แม้ว่าตอนนี้เราต่างยืนตัวตรงกันอยู่แล้ว

     

     

    ไอควันของเราปะทะกันรุนแรงขึ้นเมื่อระยะห่างหดสั้นลง คยูฮยอนโดนกักตัวเอาไว้กับรั้วประตูบ้าน ภายใต้อาณัติของเด็กหนุ่มซึ่งมีส่วนสูงมากกว่าเขาอยู่ไม่กี่เซนติเมตร ดวงตากลมสบประสานกับสายตาคมเข้มที่มองไล้จากปลายจมูกลงไปบนริมฝีปาก

     

     

    ไม่หลบหน้าพี่แล้วหรือไง..”

     

     

    “...”

     

     

    “...”

     

     

    ที่ไม่ไม่ทำ... ไม่ใช่เพราะผมไม่คิดจะทำเสียงทุ้มเอ่ยออกมาเบาๆเพราะเขาไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องพูดเสียงดังในเมื่อระยะห่างระหว่างกันมันมีไม่พอให้มดลอดผ่านด้วยซ้ำ ซีวอนกดดวงตามองลงไปบนริมฝีปากฉ่ำสีชมพูก่อนจะค่อยๆเบียดกลีบปากของตัวเองลงไปโดยไม่มีการรุกล้ำอะไรมากไปกว่านั้นอีก

     

     

    “...” คยูฮยอนอมยิ้มขณะมองเข้าไปในดวงตาของเด็กหนุ่มที่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามมันก็ยังคงสะท้อนทุกความรู้สึกออกมาให้เห็น

     

     

    แต่ถ้าผมคิด...พี่นั่นแหละครับซีวอนกดจูบย้ำลงไปอีกครั้ง "พี่นั่นแหละที่จะไม่รอดปลายจมูกโด่งกดลงไปคลอเคลียอยู่ที่ส่วนเดียวกันของคนตรงหน้าก่อนจะผละใบหน้าออกมาให้ห่าง

     

     

    เด็กอวดดี"

     

     

    หึ...”

     

     

    งั้นก็อย่าปล่อยให้ฉันรอดสิมือเรียวตะปบลงไปบนลำคอของอีกคนก่อนจะใช้ปลายนิ้วกรีดลงไปเบาๆ ดวงตากลมช้อนมองใบหน้าที่ขยับห่างออกไปก่อนจะหลุบลงเพื่อจ้องไปยังปกเสื้อซึ่งโดนปลายนิ้วของเขาแหวกออก

     

     

    “...”

     

     

    ฉันไม่ทำอะไรไร้ประโยชน์หรอกซีวอน...” นิ้วเรียววกกลับขึ้นไปแตะที่ริมฝีปากหยักสวยแล้วเกลี่ยไล้เบาๆบนผิวเนื้อนุ่ม

     

     

    “...”

     

     

    อะไรที่อยากได้ ฉันก็พร้อมเอาตัวเข้าไปแลกทั้งหมดนั่นแหละปลายนิ้วละออกมาจากกลีบปากของอีกคนเพื่อแตะลงบนริมฝีปากของตัวเอง ก่อนจะพลิกตัวกลับไปไขกุญแจบ้าน ทำท่าเหมือนว่าเมื่อสักครู่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นและทิ้งให้ซีวอนยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

     

     

    - - -

    ซีวอน ดึงสายเสื้อให้หน่อยสิ"

    ขอน้ำสองแก้วด้วยนะสุดหล่อ...”

    นี่ๆ ช่วยป้อนขนมหน่อยได้ไหม กินไม่ถนัดเลย"

     

     

    และยังมีอีกหลายเสียงเรียกที่ทำให้เด็กหนุ่มหัวปั่นเพราะการวิ่งวุ่นไปมาอยู่หลังเวทีตลอดงาน ความจริงแล้วหน้าที่พวกนี้มันไม่ใช่งานของเขาซึ่งได้รับมอบหมายให้มาเป็นคนถือคิวคอยเปิดปิดม่านหลังเวทีเลยสักนิดแต่เพราะบังเอิญว่าตนเองกลายเป็นที่หมายตาของเหล่านักแสดงทั้งหลายเลยทำให้ต้องมาวิ่งวุ่นคอยช่วยเหลืองานจุกจิกเล็กน้อยอย่างปฏิเสธไม่ได้

     

     

    กว่าจะเสร็จจากการจับสายเสื้อ ป้อนข้าวป้อนน้ำ และจัดแต่งเครื่องประดับ เขาก็เหลือเวลาไม่กี่นาทีในการหายใจหายคอ การแสดงชุดแรกเริ่มขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการสมชื่อเสียงของคุณฮีชอลที่เลื่องลือเสมอในด้านนี้ เด็กหนุ่มยืนประจำอยู่หลังผ้าม่านและคอยเรียกนักแสดงในแต่ละชุดให้เข้าประจำที่เรียบร้อย

     

               

    เหลืออีกกี่ชุดเหรอ?”

     

     

    ของคุณซองมินต้องรออีกสองชุดครับ"

     

     

    ว้า... นานจังใบหน้าหวานเบ้บูดขณะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ของเด็กหนุ่ม จงใจยกขาขึ้นไขว่ห้างเพื่อยั่วยวนชเวซีวอนซึ่งขณะนี้ได้ชื่อว่าเป็นเด็กฝึกเนื้อหอมของที่นี่ หากแต่การเมินเฉยจากร่างสูงก็ทำให้ซองมินจำใจต้องลุกขึ้นแล้วกลับเข้าไปนั่งรอในห้องนักแสดง

     

     

    เมื่อเห็นดังนั้นซีวอนจึงถอนหายใจออกมาอย่างโลกอก วันนี้เขาโดนสายตาปรือๆฉ่ำๆพวกนั้นฟาดหน้ามาไม่รู้กี่ร้อยรอบ ดูปราดเดียวก็มองออกว่าต้องการอะไร...

     

     

    แล้วของฉันเหลืออีกกี่คิวเหรอ.. เด็กน้อย?”

     

     

    ของพี่.........” เด็กหนุ่มชะงักมือเมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นใคร "เหลือ...เหลือ....นานครับ...” เสียงทุ้มกระตุกสั่นเพราะคนที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นมีเพียงชุดคลุมผ้าแพรสีแดงบางๆที่หุ้มร่างกายเอาไว้ และแม้ว่าคยูฮยอนจะจับมันบดบังผิวไว้มากเพียงใดแต่ซีวอนกลับรู้สึกได้ว่ามันเซ็กซี่มากเกินกว่าชุดไหนๆในงานวันนี้

     

     

    อ่อ...นานแค่ไหนเหรอ?” คยูฮยอนช้อนดวงตาขึ้นมองใบหน้าได้รูปที่สะท้อนกับแสงจากเวทีหลังม่าน

     

     

    เกือบคิว...สุดท้ายเลยครับ"

     

     

    งั้นคงนานพอให้ฉันกับนายหาอะไรทำแก้เบื่อได้สินะซีวอนเข้าใจความหมายของคำว่าแก้เบื่อได้เป็นอย่างดีแต่เขาไม่เข้าใจแววตาของคยูฮยอนที่จ้องมองมาเลยแม้แต่น้อย มันเรียบเฉยราวกับว่าเมื่อครู่เป็นเพียงการกล่าวสวัสดีทักทายคนแปลกหน้าสักคนบนท้องถนนหรือไม่ก็สั่งเครื่องดื่มสักแก้ว สิ่งเดียวที่ยังคงยืนยันว่าความเข้าใจของเขาถูกต้องคงเป็นการยกมือขึ้นมาจับชายเสื้อของเขาส่งผลให้ผ้าคลุมหละหลวมแหวกกลางจนเห็นหน้าท้องแบนราบที่มีสายสร้อยคล้องประดับอยู่

     

     

    นั่นคือความน่ากลัวของโจวคยูฮยอน

     

    เป็นเหมือนพายุที่ไม่มีสัญญาณเตือน

     

     

    เอ่อ...”

     

     

    นายต้องคอยซัพพอร์ทนักแสดงไม่ใช่เหรอคยูฮยอนกลั้วยิ้มเมื่อเห็นเด็กหนุ่มเริ่มวอกแวก ส่ายดวงตามองซ้ายมองขวาอย่างกังวล

     

     

    “...ครับ"

     

     

    นักแสดงอยากได้อะไรนายก็ต้องหาให้ใช่ไหม...” มือเรียวสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดของอีกคนแล้วเกลี่ยย้อนไปตามขอบกางเกงเพื่อวนมาข้างหน้า อาศัยการที่ซีวอนพยายามจะดันมือเขาออกกระตุกซิปกางเกงสีทองให้รูดลงมาจนเผยให้เห็นชั้นในที่อีกคนสวมอยู่

     

     

    พี่...ผมว่า...”

     

     

    ตอนนี้ฉันอยากได้อารมณ์คยูฮยอนไม่สนใจคำทักท้วงจากริมฝีปรกหยัก ใบหน้าหวานซุกลงกับหน้าขา แหย่ปลายลิ้นเข้าไปไล้เลียส่วนที่ตุงแข็งอยู่ด้านในผ่านช่องซิป ตวัดไปตะหวัดมาจนซีวอนต้องขมวดคิ้ว

     

     

    พี่...แบบนี้มัน...”

     

     

    นายควรหามาให้ฉันไม่ใช่เหรอซีวอนคยูฮยอนเหลือบมองไปยังเวทีที่การแสดงยังคงดำเนินต่อไป เขาดันร่างของเด็กหนุ่มหลบไปตรงกลีบม่าน ผลักให้ร่างสูงเอนหลังพิงเข้ากับเสาหลักต้นหนาพร้อมๆกับบีบหัวไหล่เข้ามาให้ชุดคลุมผ้าแพรของตัวเองร่วงหลุดลงมาตามธรรมชาติ 

     

    เจ อี เอ เอ็น อี ที อาร์ ไอ เอ็กซ์ จุด บล็อกสป็อต จุด คอม

    คยูฮยอนหัวเราะเบาๆทั้งลมหายใจเหนื่อยหอบ ปรายตามองเด็กหนุ่มที่ลากกางเกงของตัวเองขึ้นมาสวมก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นมาดึงจัดผ้า สำรวจความเรียบร้อยว่าไม่มีส่วนไหนเลอะเทอะ

     

     

    เด็กดี...” ทันทีที่ลุกได้เต็มความสูงคยูฮยอนเอ่ยชมอีกคนก่อนจะตวัดลิ้นเลียที่ปลายจมูกโด่งซึ่งมีคราบน้ำขาวขุ่นขงตัวเองติดอยู่ มือเรียวจัดกระชับเสื้ออีกครั้งแล้วเป็นฝ่ายแหวกม่านเดินออกไปก่อน สักพักซีวอนจึงตามออกไปถือสคริปต์งานอยู่ที่ม่านหลังเวทีเหมือนเดิม

     

     

    ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยตามกำหนดการของมันโดยที่ซีวอนก็สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่บกพร่องแม้สายตาจะวอกแวกไปหาคนที่ทิ้งเสียงหัวใจเต้นแรงไว้กับเขาเป็นระยะก็ตาม คิวการแสดงใกล้จะหมดลงในเมื่อเวลาของคืนนี้เองก็ใกล้เช้าเข้าไปทุกที แต่ผู้ชมที่หน้าเวทีต่างก็ยังรอไฮไลท์ของงานอย่างจดจ่อ

     

     

    ซึ่งซีวอนยอมรับว่าตนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน

     

     

    ชุดต่อไปคงเป็นโชว์ที่ทุกคนรอคอย...” เสียงของพิธีกรทำให้ร่างสูงต้องรีบโผล่หน้าไปยังฝั่งหลังเวทีที่ตอนนี้มีบาร์เทนเดอร์ตำตั้งตัวตีสามสี่คนมายืนรอเรียบร้อย ซึงฮยอนยักคิ้วแล้วชูนิ้วโป้งให้กับเขาเป็นทั้งการชื่นชมและสัญลักษณ์ที่บอกว่าตัวเองพร้อมแล้ว เด็กหนุ่มพยักหน้าก่อนจะแหวกม่านชั้นแรกออกให้ผู้แสดงเข้ามายืนรอ

     

     

    เสียงเพลงบรรเลงขึ้นมาเมื่อมือชงทั้งหลายประจำที่ ขวดสีใสถูกควงกลางอากาศท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นจากลูกค้าที่ล่างเวทีบ่งบอกได้ถึงความสำเร็จของการแสดงชุดนี้ตั้งแต่มันยังไม่ครบสมบูรณ์แบบ

     

     

    พี่คยูฮยอน... เข้ามาสแตนบายได้แล้วครับเด็กหนุ่มชะโงกหน้าไปข้างหลังซึ่งร่างบางในชุดผ้าแพรคุ้นตากำลังก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง เจ้าของชื้อพยักหน้าก่อนจะวางเครื่องมือสื่อสารของตัวเองลงแล้วเดินตามผ่านม่านชั้นแรกไปรออยู่เบื้องหลังเวที

     

     

    พร้อมนะครับ"

     

     

    ฉันพร้อมเสมอ...” ผ้าแพรสีแดงปลดลงจากร่างผอม มันถูกส่งไปให้ซีวอนที่ยืนอยู่ด้านข้าง หลังจากนั้นคยูฮยอนจึงก้าวผ่านม่านออกไปทั้งร่างที่เปลือยเปล่าซึ่งมีเพียงเส้นสร้างพาดไล้ไปมา

     

     

    หัวใจของซีวอนเต้นเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อคยูฮยอนปีนขึ้นไปนอนราบอยู่บนโต๊ะชงเครื่องดื่มทั้งที่ร่างกายมีเพียงเส้นสร้อยเพชรคล้องปาดไปปาดมาเพื่อประดับประดาเท่านั้น สายตาของเฮดบาร์เทนเดอร์ที่กำลังง่วนอยู่กับการผสมเครื่องดื่มลงแก้วดูจะวอดแวกไปสักนิดเมื่อเจอการรุกอย่างเหนือชั้น โจวคยูฮยอนเก่งมากเรื่องการใช้ร่างกายก่อกวนคนอื่นเพราะเมื่อซึงฮยอนยื่นมือไปคอลูกเชอรี่จากขวดใส เรือนกายบางก็จับมันวางลงบนยอดอกของตัวเองแล้วแอ่นขึ้นให้อีกคนก้มลงมาหยิบมันไป

     

     

    ซีวอนเห็นว่าซึงฮยอนลอบกลืนน้ำลายแต่นิ้วทั้งสองที่ขยับมาคีบก้านก็ยังสะกิดไปบนยอดอกของอีกคนได้อยู่ดี

     

    ฝ่ามือหนากำเนื้อผ้าม่านกำมะหยี่แนบแน่นขณะดวงตาประสานจ้องเข้ากับม่านตากลมของอีกฝ่ายที่ตอนนี้เคลื่อนตัวขยับมาอยู่ด้านหลังของซึงฮยอนแล้วใช้สะโพกกลมกลึงถูไล้ไปกับช่วงขายาว จงใจหันหลังแล้วแยกขาออกเพื่อให้เกิดเงาสะท้อนด้านบนที่ชวนเอาผู้รับชมเบื้อล่างหวิวใจ

     

    แต่สำหรับซีวอน เขาเห็นทุกอย่างชัดเจน แม้กระทั่งตอนที่ร่างบางใช้มือของตัวเองขยี้ไปบนแก่นกายของตัวเองที่มันยังบวมแดงจากกิจกรรมเมื่อสักครู่แล้วลากไล้สัมผัสไปยังหน้าขา... ดวงตากลมจ้องมองตอบกลับมาทางเขา

     

    ร่างสูงสาบานกับตัวเองในใจด้วยแววตาที่จ้องมองไม่ขยับไปไหน

     

    สักวันคนที่ยืนอยู่บนนั้นต้องเป็นผม

     

    คนที่พี่จะไล้ตัวลงไปเกลือกกลั้วด้วยมันต้องเป็นแค่ชเวซีวอนคนนี้เท่านั้น


    - - -
     
    คืออยากเป็นไรฝุ่นบนม่านกำมะหยี่สีแดง.....
    #metawonkyu

      

      

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×