คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Meta-Affectionate 02
02
“อาทิตย์หน้าสิ้นเดือน...”
“ครับ?” ซีวอนเงยหน้าขึ้นไปถามเฮดบาร์เทนเดอร์ที่จู่ๆก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบระหว่างจัดวางขวดเครื่องดื่มกลับขึ้นไปบนชั้น
“อ่าว... วีคสุดท้ายของเดือนแล้วก็โชว์พิเศษไง...”
“อ๋อ...รู้ครับ" เด็กหนุ่มนึกขึ้นได้ทันทีเมื่อได้ยินคำว่าโชว์พิเศษ เหมือนมิทรา (ผู้คุมตัวใหญ่ที่ลากผมถูลู่ถูกังเข้ามาที่นี่) เคยพูดถึงเรื่องโชว์ให้ฟังเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนและบอกว่าเดือนนี้เป็นคิวของคยูฮยอน ฉะนั้นเขาซึ่งเป็นเด็กในปกครองจึงอาจจะต้องโดนโยกย้ายตำแหน่งไปอยู่หลังเวทีในวันโชว์
“มิทราให้มาย้ำนายอีกที"
“ที่ต้องไปช่วยงานหลังเวทีใช่ไหมครับ?”
“เยส... เดี๋ยวหลังงานวันนี้เขาจะนัดคุยกัน นายควรอยู่ด้วย" ซึงฮยอนหันมาบอกทั้งรอยยิ้ม "ที่จริงนายก็น่าจะต้องอยู่ เพราะเดี๋ยวคยูฮยอนก็จะเข้ามาหล่ะ"
ทันทีที่ซึงฮยอนพูดแบบนั้นซีวอนก็ต้องใช้สติอย่างมากในการประคองแก้วในมือไม่ให้ล่วงลงไปกับซิงค์ล้าง ตั้งแต่วันนั้นในห้องครัวเขาก็ยังไม่ได้มีโอกาสเจอหน้าคยูฮยอนแบบตรงๆเลยสักครั้งเพราะดูเหมือนเจ้าของบ้านคนนั้นจะมีเรื่องวุ่นวายให้ทำ ส่วนเขาก็ตั้งใจหลบหน้า เลือกไม่นั่งอ่านหนังสือตรงนั้นอีกเพื่อไม่ให้อะไรๆมันซ้ำรอย
“นายจะได้กลับบ้านพร้อมหมอนั่น ช่วงนี้มีข่าวคนจี้ชิงทรัพย์อะละวาดอยู่ด้วย สองหัวก็คงจะดีกว่าหนึี่ง"
นั่นหมายความว่าคืนนี้เขาต้องกลับบ้านพร้อมคยูฮยอนสินะ...
“ไงครับคุณเฮดบาร์เทนเดอร์ ไม่เจอกันนานเหมือนจะลงพุงนะ" หากแต่ความคิดของซีวอนก็ถูกตัดฉับลงเมื่อน้ำเสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหน้าเคาท์เตอร์บาร์ เขาไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองเพราะซุ่มเสียงหวานหยาดเยิ้มนั่นเป็นใครอื่นไปไม่ได้อีกแล้วนอกจากโจวคยูฮยอน
ภาพสะท้อนบนโหลเชคเกอร์ก็บอกเขาอย่างนั้น
“อ่า...นั่นสิ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย" คำพูดของซึงฮยอนแฝงนัยบางอย่างที่ทำให้ร่างบางต้องแค่นหัวเราะออกมา
“งั้นนายก็ควรฟิตนะซึงฮยอน... จะได้ขึ้นโชว์ทั้งที"
“ฮ่าๆ ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนไปด้วยหน่ะคยูฮยอน...”
ปึ้ง!!!
“ดูเหมือนหนุ่มน้อยจะใจลอยนะครับวันนี้" คยูฮยอนเป็นฝ่ายเอ่ยทักหลังเสียงสะท้อนของแก้วที่ตกลงไปในอ่างล้างแสตนเลสสงบลง ซีวอนหันกลับมาขอโทษทั้งสองโดยตั้งใจไม่สบมองไปยังดวงตากลมคู่นั้นเพราะเกรงว่ามันจะบั่นทอนความอดทนของตนให้ต่ำลงไปอีก
“ระวังหน่อยแล้วกันซีวอน"
“ครับ...” เขาสะบัดหัวสองสามครั้งเพื่อพยายามเรียกสติของตัวเองกลับมาและใช้ความพยายามอีกระดับในการตัดตัวเองออกมาจากบทสนทนาของสองคนด้านหลัง
มันบ้ามาก... เขาไม่มีสิทธิ์นั้น
เขาจะหวงคยูฮยอนทำไม... ทำไมต้องโกรธซึงฮยอน
โดยพื้นเพชเวซีวอนเป็นคนใจเย็นมาแต่ไหนแต่ไร ตอนอยู่ที่บ่อกุ้ง มันก็มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้เวลาทั้งวันในการซ่อมแหได้ในขณะที่เด็กวัยเดียวกันคนอื่นมักจะอยู่กับกิจกรรมพรรค์นี้ได้อย่างมากสุดก็แค่สามชั่วโมง เขาไม่เคยมีประวัติชกต่อยกับใครเพราะความโกรธ เคยโดนเพื่อล้อหลายครั้งเรื่องเสื้อขาดแต่ก็ยังไม่เคยทำร้ายหรือลงอารมณ์กับอะไร
แล้วทำไมแค่ประโยคพวกนั้นถึงทำให้รู้สึกเหมือนมีไฟสุมอกได้หล่ะ...
มันไม่ควรเป็นแบบนั้นเลย
“ล้างเสร็จแล้วตามไปที่โต๊ะเก็บเงินนะ"
“ครับ" เด็กหนุ่มขานรับคำบอกของเฮดบาร์เทนเดอร์ที่พาตัวเองออกไปนอกเคาท์เตอร์บาร์พร้อมกับโจวคยูฮยอนซึ่งดูเหมือนจะไม่ยินดียินร้ายอะไรกับการโดนโอบเอวเอาไว้
บางทีซึงฮยอนกับคยูฮยอนอาจจะมีอะไรบางอย่าง... อาจจะคบกัน
และบางทีเขาอาจเป็นคนที่ควรถอยออกมาตั้งแต่ยังไม่ได้ก้าวเข้าไป
- - -
“บอกไม่ได้เลยเหรอว่านายหลบหน้าฉันเพราะอะไรหน่ะ?”
“ผม...ผมไม่ได้หลบหน้าพี่เลยนะครับ"
“งั้นเหรอ... แล้วอะไรคือการที่ฉันไม่เจอนายเป็นอาทิตย์หล่ะ" แม้มันจะเป็นเพียงประโยคคำถามธรรมดาที่เอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบสงัดของถนนสายเปลี่ยวแต่ซีวอนกลับสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจากน้ำเสียงนั้น เด็กหนุ่มสอดมือเข้าไปในเสื้อโค้ทแล้วกำบีบจนแน่นด้วยไม่รู้ว่าตัวเองควรจะตอบคำถามนั้นออกไปอย่างไร
“...”
“นายตอบไม่ได้ ก็คือนายหลบหน้านะ" คยูฮยอนพูดต่อด้วยท่าทางสบายๆ เขาสอดมือเข้าไปในเสื้อโค้ทของตัวเองบ้างเมื่อสายลมเย็นพัดผ่านไประลอกใหญ่ ดวงตากลมเหลือบมองไฟริบหรี่ที่ริมทาง เงยหน้าขึ้นมองดวงดาวบนท้องฟ้า ก่อนจะหยุดสายตาไว้บนเสี้ยวใบหน้าคมสันของผู้อาศัยที่ยังคงพยายามเว้นระยะห่างออกไป
คยูฮยอนลองก้าวเข้าไปหา... ซีวอนถอยออกไปอีกหนึ่งก้าว
คยูฮยอนลองก้าวเข้าไปอีกหนึ่งก้าว
และซีวอนก็ถอยออกไปอีกหนึ่งก้าว
รอบนี้เขาลองขยับสองก้าว
แต่ซีวอนขยับไปแค่หนึ่งก้าว... เพราะติดกำแพง
“โอเคเด็กน้อย นายไม่หลบหน้าฉันแต่นายเดินหนีฉันก้าวต่อก้าวเลยแฮะ...” คยูฮยอนพยักหน้าคล้ายว่าจำนนต่อสถานะของตัวเองที่มันเป็นเช่นนั้นแล้วก้าวเดินต่อไปโดยยังคงกระชับระยะห่างระหว่างตนเองกับซีวอนเอาไว้เหมือนเดิม
“ผม....”
“ไม่เหมือนคนหลบหน้าเลยจริงๆ" ใบหน้าเบ้ๆของคยูฮยอนกลับทำให้เด็กหนุ่มเผลอหลุดรอยยิ้มออกมาที่มุมปากของตัวเองอย่างเผลอไผลเพราะตลกกับท่าทางเหมือนเด็กประถมเวลาไม่ได้ขนม ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนแบบโจวคยูฮยอนจะมีมุมงอแงเหมือนคนอื่นเขาก็เป็น
“...”
“นายขำอะไรของนาย...”
“...ฮะๆ...”
“หยา! ขำอะไรของนายกัน?!”
“พี่เหมือนเด็ก"
“ฉัน?... เหมือนเด็ก?”
“เวลาพี่เบ้หน้า... แบบนี้" ริมฝีปากหยักศกบิดคว่ำลงมา ลอกเลียนแบบอากัปกิริยาเมื่อสักครู่ของคยูฮยอนจนแน่ใจว่าเหมือนทุกกระเบียดนิ้ว
“ห๊า!! นายล้อฉันอยู่นะซีวอน!”
“ก็ใช่ไง...ฮ่าๆๆๆๆ...โอ้ยพี่!!” ประเด็นสนทนาเคร่งเครียดจบลงอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเมื่อคยูยอนฟาดกำปั้นลงไปบนหัวของของเด็กหนุ่มด้วยน้ำหนักไม่มากไม่น้อย จากนั้นจึงเริ่มระดมฟาดลงไปอีกหลายๆครั้งเพราะซีวอนยังไม่ยอมหยุดขำ
“หยา!! นายขำบ้าอะไรวะ?”
“ฮ่าๆๆๆผมขำ..โอ้ย...ขำพี่แหละ...ฮะๆ"
คำตอบแบบดังกล่าวทำให้ซีวอนโดนหมัดเหวี่ยงลงมาอยู่อีกหลายครั้ง และระยะห่างของทั้งคู่ก็ลดลงจนชิดกันขึ้นมาเสียเฉยๆ เสียงโวยวายของคยูฮยอนและเสียงร้องโอดโอยของซีวอนดังไปตลอดทาง กระทั่งซีวอนเห็นรั่วประตูบ้านเขาจึงรีบวิ่งถลาหนีออกไปโดยมีคยูฮยอนวิ่งตามมาติดๆ
ทั้งคู่หอบหายใจกันยกใหญ่ เอามือท้าวไว้กับหัวเข่า พ่นไอควันเย็นๆขึ้นไปบนอากาศขณะสายตาก็เหลือบมองกันอยู่อย่างนั้น
ซีวอนคิดว่าอากาศมันคงจะหนาวมากเขาถึงได้ขยับตัวเดินเข้าไปหาเจ้าของกำปั้นที่ระดมฟาดลงมาตลอดทาง ขยับเข้าไปใกล้แม้ว่าตอนนี้เราต่างยืนตัวตรงกันอยู่แล้ว
ไอควันของเราปะทะกันรุนแรงขึ้นเมื่อระยะห่างหดสั้นลง คยูฮยอนโดนกักตัวเอาไว้กับรั้วประตูบ้าน ภายใต้อาณัติของเด็กหนุ่มซึ่งมีส่วนสูงมากกว่าเขาอยู่ไม่กี่เซนติเมตร ดวงตากลมสบประสานกับสายตาคมเข้มที่มองไล้จากปลายจมูกลงไปบนริมฝีปาก
“ไม่หลบหน้าพี่แล้วหรือไง..”
“...”
“...”
“ที่ไม่ไม่ทำ... ไม่ใช่เพราะผมไม่คิดจะทำ" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเบาๆเพราะเขาไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องพูดเสียงดังในเมื่อระยะห่างระหว่างกันมันมีไม่พอให้มดลอดผ่านด้วยซ้ำ ซีวอนกดดวงตามองลงไปบนริมฝีปากฉ่ำสีชมพูก่อนจะค่อยๆเบียดกลีบปากของตัวเองลงไปโดยไม่มีการรุกล้ำอะไรมากไปกว่านั้นอีก
“...” คยูฮยอนอมยิ้มขณะมองเข้าไปในดวงตาของเด็กหนุ่มที่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามมันก็ยังคงสะท้อนทุกความรู้สึกออกมาให้เห็น
“แต่ถ้าผมคิด...พี่นั่นแหละครับ" ซีวอนกดจูบย้ำลงไปอีกครั้ง "พี่นั่นแหละที่จะไม่รอด" ปลายจมูกโด่งกดลงไปคลอเคลียอยู่ที่ส่วนเดียวกันของคนตรงหน้าก่อนจะผละใบหน้าออกมาให้ห่าง
“เด็กอวดดี"
“หึ...”
“งั้นก็อย่าปล่อยให้ฉันรอดสิ" มือเรียวตะปบลงไปบนลำคอของอีกคนก่อนจะใช้ปลายนิ้วกรีดลงไปเบาๆ ดวงตากลมช้อนมองใบหน้าที่ขยับห่างออกไปก่อนจะหลุบลงเพื่อจ้องไปยังปกเสื้อซึ่งโดนปลายนิ้วของเขาแหวกออก
“...”
“ฉันไม่ทำอะไรไร้ประโยชน์หรอกซีวอน...” นิ้วเรียววกกลับขึ้นไปแตะที่ริมฝีปากหยักสวยแล้วเกลี่ยไล้เบาๆบนผิวเนื้อนุ่ม
“...”
“อะไรที่อยากได้ ฉันก็พร้อมเอาตัวเข้าไปแลกทั้งหมดนั่นแหละ" ปลายนิ้วละออกมาจากกลีบปากของอีกคนเพื่อแตะลงบนริมฝีปากของตัวเอง ก่อนจะพลิกตัวกลับไปไขกุญแจบ้าน ทำท่าเหมือนว่าเมื่อสักครู่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นและทิ้งให้ซีวอนยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
- - -
“ซีวอน ดึงสายเสื้อให้หน่อยสิ"
“ขอน้ำสองแก้วด้วยนะสุดหล่อ...”
“นี่ๆ ช่วยป้อนขนมหน่อยได้ไหม กินไม่ถนัดเลย"
และยังมีอีกหลายเสียงเรียกที่ทำให้เด็กหนุ่มหัวปั่นเพราะการวิ่งวุ่นไปมาอยู่หลังเวทีตลอดงาน ความจริงแล้วหน้าที่พวกนี้มันไม่ใช่งานของเขาซึ่งได้รับมอบหมายให้มาเป็นคนถือคิวคอยเปิดปิดม่านหลังเวทีเลยสักนิดแต่เพราะบังเอิญว่าตนเองกลายเป็นที่หมายตาของเหล่านักแสดงทั้งหลายเลยทำให้ต้องมาวิ่งวุ่นคอยช่วยเหลืองานจุกจิกเล็กน้อยอย่างปฏิเสธไม่ได้
กว่าจะเสร็จจากการจับสายเสื้อ ป้อนข้าวป้อนน้ำ และจัดแต่งเครื่องประดับ เขาก็เหลือเวลาไม่กี่นาทีในการหายใจหายคอ การแสดงชุดแรกเริ่มขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการสมชื่อเสียงของคุณฮีชอลที่เลื่องลือเสมอในด้านนี้ เด็กหนุ่มยืนประจำอยู่หลังผ้าม่านและคอยเรียกนักแสดงในแต่ละชุดให้เข้าประจำที่เรียบร้อย
“เหลืออีกกี่ชุดเหรอ?”
“ของคุณซองมินต้องรออีกสองชุดครับ"
“ว้า... นานจัง" ใบหน้าหวานเบ้บูดขณะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ของเด็กหนุ่ม จงใจยกขาขึ้นไขว่ห้างเพื่อยั่วยวนชเวซีวอนซึ่งขณะนี้ได้ชื่อว่าเป็นเด็กฝึกเนื้อหอมของที่นี่ หากแต่การเมินเฉยจากร่างสูงก็ทำให้ซองมินจำใจต้องลุกขึ้นแล้วกลับเข้าไปนั่งรอในห้องนักแสดง
เมื่อเห็นดังนั้นซีวอนจึงถอนหายใจออกมาอย่างโลกอก วันนี้เขาโดนสายตาปรือๆฉ่ำๆพวกนั้นฟาดหน้ามาไม่รู้กี่ร้อยรอบ ดูปราดเดียวก็มองออกว่าต้องการอะไร...
“แล้วของฉันเหลืออีกกี่คิวเหรอ.. เด็กน้อย?”
“ของพี่.........” เด็กหนุ่มชะงักมือเมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นใคร "เหลือ...เหลือ....นานครับ...” เสียงทุ้มกระตุกสั่นเพราะคนที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นมีเพียงชุดคลุมผ้าแพรสีแดงบางๆที่หุ้มร่างกายเอาไว้ และแม้ว่าคยูฮยอนจะจับมันบดบังผิวไว้มากเพียงใดแต่ซีวอนกลับรู้สึกได้ว่ามันเซ็กซี่มากเกินกว่าชุดไหนๆในงานวันนี้
“อ่อ...นานแค่ไหนเหรอ?” คยูฮยอนช้อนดวงตาขึ้นมองใบหน้าได้รูปที่สะท้อนกับแสงจากเวทีหลังม่าน
“เกือบคิว...สุดท้ายเลยครับ"
“งั้นคงนานพอให้ฉันกับนายหาอะไรทำแก้เบื่อได้สินะ" ซีวอนเข้าใจความหมายของคำว่าแก้เบื่อได้เป็นอย่างดีแต่เขาไม่เข้าใจแววตาของคยูฮยอนที่จ้องมองมาเลยแม้แต่น้อย มันเรียบเฉยราวกับว่าเมื่อครู่เป็นเพียงการกล่าวสวัสดีทักทายคนแปลกหน้าสักคนบนท้องถนนหรือไม่ก็สั่งเครื่องดื่มสักแก้ว สิ่งเดียวที่ยังคงยืนยันว่าความเข้าใจของเขาถูกต้องคงเป็นการยกมือขึ้นมาจับชายเสื้อของเขาส่งผลให้ผ้าคลุมหละหลวมแหวกกลางจนเห็นหน้าท้องแบนราบที่มีสายสร้อยคล้องประดับอยู่
นั่นคือความน่ากลัวของโจวคยูฮยอน
เป็นเหมือนพายุที่ไม่มีสัญญาณเตือน
“เอ่อ...”
“นายต้องคอยซัพพอร์ทนักแสดงไม่ใช่เหรอ" คยูฮยอนกลั้วยิ้มเมื่อเห็นเด็กหนุ่มเริ่มวอกแวก ส่ายดวงตามองซ้ายมองขวาอย่างกังวล
“...ครับ"
“นักแสดงอยากได้อะไรนายก็ต้องหาให้ใช่ไหม...” มือเรียวสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดของอีกคนแล้วเกลี่ยย้อนไปตามขอบกางเกงเพื่อวนมาข้างหน้า อาศัยการที่ซีวอนพยายามจะดันมือเขาออกกระตุกซิปกางเกงสีทองให้รูดลงมาจนเผยให้เห็นชั้นในที่อีกคนสวมอยู่
“พี่...ผมว่า...”
“ตอนนี้ฉันอยากได้อารมณ์" คยูฮยอนไม่สนใจคำทักท้วงจากริมฝีปรกหยัก ใบหน้าหวานซุกลงกับหน้าขา แหย่ปลายลิ้นเข้าไปไล้เลียส่วนที่ตุงแข็งอยู่ด้านในผ่านช่องซิป ตวัดไปตะหวัดมาจนซีวอนต้องขมวดคิ้ว
“พี่...แบบนี้มัน...”
“นายควรหามาให้ฉันไม่ใช่เหรอซีวอน" คยูฮยอนเหลือบมองไปยังเวทีที่การแสดงยังคงดำเนินต่อไป เขาดันร่างของเด็กหนุ่มหลบไปตรงกลีบม่าน ผลักให้ร่างสูงเอนหลังพิงเข้ากับเสาหลักต้นหนาพร้อมๆกับบีบหัวไหล่เข้ามาให้ชุดคลุมผ้าแพรของตัวเองร่วงหลุดลงมาตามธรรมชาติ
เจ อี เอ เอ็น อี ที อาร์ ไอ เอ็กซ์ จุด บล็อกสป็อต จุด คอม
คยูฮยอนหัวเราะเบาๆทั้งลมหายใจเหนื่อยหอบ ปรายตามองเด็กหนุ่มที่ลากกางเกงของตัวเองขึ้นมาสวมก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นมาดึงจัดผ้า สำรวจความเรียบร้อยว่าไม่มีส่วนไหนเลอะเทอะ
“เด็กดี...” ทันทีที่ลุกได้เต็มความสูงคยูฮยอนเอ่ยชมอีกคนก่อนจะตวัดลิ้นเลียที่ปลายจมูกโด่งซึ่งมีคราบน้ำขาวขุ่นขงตัวเองติดอยู่ มือเรียวจัดกระชับเสื้ออีกครั้งแล้วเป็นฝ่ายแหวกม่านเดินออกไปก่อน สักพักซีวอนจึงตามออกไปถือสคริปต์งานอยู่ที่ม่านหลังเวทีเหมือนเดิม
ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยตามกำหนดการของมันโดยที่ซีวอนก็สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่บกพร่องแม้สายตาจะวอกแวกไปหาคนที่ทิ้งเสียงหัวใจเต้นแรงไว้กับเขาเป็นระยะก็ตาม คิวการแสดงใกล้จะหมดลงในเมื่อเวลาของคืนนี้เองก็ใกล้เช้าเข้าไปทุกที แต่ผู้ชมที่หน้าเวทีต่างก็ยังรอไฮไลท์ของงานอย่างจดจ่อ
ซึ่งซีวอนยอมรับว่าตนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน
“ชุดต่อไปคงเป็นโชว์ที่ทุกคนรอคอย...” เสียงของพิธีกรทำให้ร่างสูงต้องรีบโผล่หน้าไปยังฝั่งหลังเวทีที่ตอนนี้มีบาร์เทนเดอร์ตำตั้งตัวตีสามสี่คนมายืนรอเรียบร้อย ซึงฮยอนยักคิ้วแล้วชูนิ้วโป้งให้กับเขาเป็นทั้งการชื่นชมและสัญลักษณ์ที่บอกว่าตัวเองพร้อมแล้ว เด็กหนุ่มพยักหน้าก่อนจะแหวกม่านชั้นแรกออกให้ผู้แสดงเข้ามายืนรอ
เสียงเพลงบรรเลงขึ้นมาเมื่อมือชงทั้งหลายประจำที่ ขวดสีใสถูกควงกลางอากาศท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นจากลูกค้าที่ล่างเวทีบ่งบอกได้ถึงความสำเร็จของการแสดงชุดนี้ตั้งแต่มันยังไม่ครบสมบูรณ์แบบ
“พี่คยูฮยอน... เข้ามาสแตนบายได้แล้วครับ" เด็กหนุ่มชะโงกหน้าไปข้างหลังซึ่งร่างบางในชุดผ้าแพรคุ้นตากำลังก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง เจ้าของชื้อพยักหน้าก่อนจะวางเครื่องมือสื่อสารของตัวเองลงแล้วเดินตามผ่านม่านชั้นแรกไปรออยู่เบื้องหลังเวที
“พร้อมนะครับ"
“ฉันพร้อมเสมอ...” ผ้าแพรสีแดงปลดลงจากร่างผอม มันถูกส่งไปให้ซีวอนที่ยืนอยู่ด้านข้าง หลังจากนั้นคยูฮยอนจึงก้าวผ่านม่านออกไปทั้งร่างที่เปลือยเปล่าซึ่งมีเพียงเส้นสร้างพาดไล้ไปมา
หัวใจของซีวอนเต้นเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อคยูฮยอนปีนขึ้นไปนอนราบอยู่บนโต๊ะชงเครื่องดื่มทั้งที่ร่างกายมีเพียงเส้นสร้อยเพชรคล้องปาดไปปาดมาเพื่อประดับประดาเท่านั้น สายตาของเฮดบาร์เทนเดอร์ที่กำลังง่วนอยู่กับการผสมเครื่องดื่มลงแก้วดูจะวอดแวกไปสักนิดเมื่อเจอการรุกอย่างเหนือชั้น โจวคยูฮยอนเก่งมากเรื่องการใช้ร่างกายก่อกวนคนอื่นเพราะเมื่อซึงฮยอนยื่นมือไปคอลูกเชอรี่จากขวดใส เรือนกายบางก็จับมันวางลงบนยอดอกของตัวเองแล้วแอ่นขึ้นให้อีกคนก้มลงมาหยิบมันไป
ซีวอนเห็นว่าซึงฮยอนลอบกลืนน้ำลายแต่นิ้วทั้งสองที่ขยับมาคีบก้านก็ยังสะกิดไปบนยอดอกของอีกคนได้อยู่ดี
ฝ่ามือหนากำเนื้อผ้าม่านกำมะหยี่แนบแน่นขณะดวงตาประสานจ้องเข้ากับม่านตากลมของอีกฝ่ายที่ตอนนี้เคลื่อนตัวขยับมาอยู่ด้านหลังของซึงฮยอนแล้วใช้สะโพกกลมกลึงถูไล้ไปกับช่วงขายาว จงใจหันหลังแล้วแยกขาออกเพื่อให้เกิดเงาสะท้อนด้านบนที่ชวนเอาผู้รับชมเบื้อล่างหวิวใจ
แต่สำหรับซีวอน เขาเห็นทุกอย่างชัดเจน แม้กระทั่งตอนที่ร่างบางใช้มือของตัวเองขยี้ไปบนแก่นกายของตัวเองที่มันยังบวมแดงจากกิจกรรมเมื่อสักครู่แล้วลากไล้สัมผัสไปยังหน้าขา... ดวงตากลมจ้องมองตอบกลับมาทางเขา
ร่างสูงสาบานกับตัวเองในใจด้วยแววตาที่จ้องมองไม่ขยับไปไหน
สักวันคนที่ยืนอยู่บนนั้นต้องเป็นผม
คนที่พี่จะไล้ตัวลงไปเกลือกกลั้วด้วยมันต้องเป็นแค่ชเวซีวอนคนนี้เท่านั้น
- - -
คืออยากเป็นไรฝุ่นบนม่านกำมะหยี่สีแดง.....
#metawonkyu
ความคิดเห็น