คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : { six summer }
Sixth
นายเป็นเพียงเรื่องจริงเดียว
ที่ฉันยอมโกหกเพื่อแลกมา
ซีวอนไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองจะบัดซบได้มากถึงเพียงนี้ เขาวิ่งออกมาจากตัวรถหลังลั่นกระสุนปืนเป่าขยับของตำรวจใจกล้าคนนั้นที่เข้ามาประชิด ซึ่งมันนำพาห่ากระสุนระลอกใหญ่ตามมาในไม่ช้า อย่างไรก็ตามสัญชาติญาณ ความคุ้นชิน และโชคจากพระเจ้าก็พาเขาให้เข้ามาหลบในดงข้างทางได้ทันการณ์
อึดใจใหญ่ที่เสียงปืนลั่นปะทุไปทั่วอาณาบริเวณ และการบอกลาโลกกว้างแห่งนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้เขาจะได้ที่ซ่อนตัวซึ่งปลอดภัยระดับหนึ่งแต่ก็ไม่อาจทิ้งลูกน้องจำนวนมากด้านนอกได้ ร่างสูงโหลดกระสุนตลับที่สามเข้าสู่กระบอกปืนของตัวเองและจ่อเล็งไปตามฝ่ายตำรวจ จัดการปลิดชีพทีละคนอย่างใจเย็นพร้อมกับขยับตัวเปลี่ยนที่ซ่อนไปเรื่อย
เข็มขัดหนังราคาแพงกลายเป็นอุปกรณ์ในการช่วยพาตัวเองไต่ขึ้นไปบนต้นไม้ ขายาวเกี่ยวตัวเองไว้บนท่ินไม้สองท่อนแล้วเริ่มเล็งไปเรื่อย ฝ่ายของตำรวจดูจะเป็นผู้เสียเปรียบแล้วในเวลานี้ ซึ่งมันทำให้ร่างสูงพอใจเป็นอย่างมากแต่ก็ยังปรากฎความตรึงเครียดเท่าเดิมเพราะเขายังคงเป็นห่วงโจวคยูฮยอน
สินค้าล็อตนี้เขาเสียได้ เขาเสียได้ทุกอย่าง
แต่เขาเสียโจวคยูฮยอนไม่ได้
มือหนาพยายามล้วงหาเครื่องมือสื่อสาร เขาพบว่ามันหล่นอยู่ด้านล่างจึงยอมไต่ลงจากต้นไม้เพื่อเก็บมันขึ้นมา ร่างสูงซุกตัวเองอยู่เบื้องหลังพุ่มหญ้า ปลายนิ้วรีบไล่กดหาเบอร์ของคิบอมมือเป็นระวิง เขาต้องการรู้ว่าอีกคนปลอดภัยดีหรือไม่
“อย่าขยับ...” หากแต่โชคของเขาคงสุดลงแล้ว ปลายกระบอกเย็นเฉียบจ่อเข้าที่ขมับพร้อมกับเสียงขู่จากนายตำรวจสักคนที่เขามองหน้าไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ผ่านเงาสะท้อนบนกระสุนปืน ซีวอนยอมปล่อยปืนลงแล้วยกมือขึ้นพาดไว้กับหัว กุมเครื่องมือสื่อสารของตัวเองเอาไว้แน่น
“ครับ...คุณตำรวจ...” ดวงตาคมไม่สั่นไหวแม้ตอนนี้หัวใจจะเต้นถี่เกินปกติ ซีวอนหลุบตาลงมองกระบอกปืนของตัวเองอีกครั้งแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อบอกว่าเขายังต้องสู้... ตอนนี้เขาต้องการรู้ว่าคยูฮยอนปลอดภัย
“ลุกแล้วตามมา...”
“ครับ" เสียงทุ้มขานรับคำตอบอย่างว่าง่าย ยอมปฏิบัติตามด้วยการลุกขึ้น เสียงตำรวจคนนั้นกรอกลงไปในวอที่ติดกับมือเพื่อบอกว่าเจอตัวของเขาแล้ว และมันน่าประหลาดมากที่จู่ๆเสียงปืนทั้งหลายก็สงบลงไป
ซีวอนถูกคุมให้เดินออกมาจากดงหญ้า ตรงไปบนท้องถนนซึ่งบัดนี้เต็มไปด้วยซากของความรุนแรง ดวงตาคมกวาดมองลูกน้องไร้ลมหายใจของตัวเองพลางสวดมนต์ให้กับพวกเขาโดยเฉพาะแทบินที่นอนแน่นิ่งอยู่ไม่ห่างจากเขตรั้วหลังเจ้าตัวไล่เขาลงมาในนี้เอง
“สวัสดีครับคุณชเว...” เสียงทักทายนั้นทำให้หัวใจของเขาเต้นหนักกว่าเดิม บางทีพ่ออาจจะอยากให้เขาหยุดแล้วจึงไม่อวยพรให้ดวงตาทั้งสองข้างเห็นทางหนีทีไล่ได้อีก ซีวอนเม้มริมฝีปากแน่นขึ้นเมื่อชายคนนั้นเดินเข้ามาตรงหน้าพร้อมกับปืนในมือ ดวงตาที่ดูเหนือกว่าคู่นั้นทำให้เขาต้องปกปิดความหวาดกลัวของตัวเองเอาไว้แล้วกลืนมันลงไปในลำคอ
“เรายินดีที่ได้พบคุณ"
“แต่ผมไม่ค่อยจะยินดีสักเท่าไหร่เลยครับ"
“คุณนี่คารมดีสมคำร่ำลือ...”
"ใครกันยกยอผมอย่างนั้น"
"..." ชายคนนั้นยกยิ้มขณะที่กำลังจะให้คำตอบ หากแต่เมื่อริมฝีปากนั้นเปิดอ้าออกก็มีเสียงวิ่งตึกตักมาจากด้านหลัง "นั่นไงครับ... มาพอดีเลย"
ใบหน้าคมหันกลับไปเบื้องหลัง ถ้าหากมือของเขายังว่าง ซีวอนก็อยากจะยกมันขึ้นมาขยี้ดวงตาของตัวเองให้มันชัดเจนขึ้นกว่านี้ ให้แน่ชัดว่าตรงหน้าเขาไม่ใช่...
“คยูฮยอน...” เขาพึมพัมเสียงต่ำ ทอดมองร่างที่ยืนหอบเอามือเท้าไว้กับหัวเข่าของตัวเองด้วยหัวใจแหลกสลาย "นายกลับมาทะ...”
“ทำความเคารพครับผู้กอง"
คำถามของซีวอนขาดไปเมื่อประโยคนั้นดังออกมาจากตำรวจนายที่ใส่กุญแจมือให้เขา ถ้าหากเมื่อสักครู่หัวใจของเขาร่วงหล่น ตอนนี้มันก็คงแตกสลายย่อยยับไม่เป็นชิ้นเสียแล้ว ดวงตาคมหลุบลงมองพื้นถนนสีเทา ริมฝีปากแห้งผาดเม้มเข้าหากันเมื่อความเจ็บร้าวของการโดนหักหลังแล่นพล่านไปทั่วทั้งหน้าอกจนร่างของเขาแทบทรุดลงไป
“ทำความเคารพครับผู้กอง" ผู้กองตัวหนาคนนั้นทำท่าตะเบ๊ะให้กับคยูฮยอนที่ตอนนี้เดินเข้ามาประชิดมากกว่าเดิม มันยืนยันได้ชัดเจนว่าตอนนี้โจวคยูฮยอนคนที่อยู่กับเขามาตลอดเป็นสายตำรวจที่เข้ามาเพื่อจับกุมเขา
“คุณซีวะ...”
“...” โทรศัพท์ในมือของซีวอนร่วงลงไปที่พื้น หน้าจอซึ่งถูกกระทบทำให้เกิดแสงสว่างวาบขึ้นมา ปรากฎโปรแกรมข้อความของเครื่องที่ยังคงพิมพ์ค้างเอาไว้
'ปลอดภัยหรือเปล่าคนดี...'
“ซีวอนผม...” คยูฮยอนเชื่อมาตลอดว่าเขาจะเข้มแข็งพอสำหรับภารกิจนี้ หากแต่ความจริงแล้วความเชื่อนั้นมันไม่มีจริง มันชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อร่างสูงหันแผ่นหลังกว้างให้กับเขาซึ่งมีน้ำตาคลอเบ้าและพยายามจะปริปากพูดเพื่ออธิบาย ฝ่าเท้าของซีวอนยังคงเดินไปข้างหน้า ไปที่รถตำรวจซึ่งเปิดประตูอ้าค้างเอาไว้ก่อนจะหย่อนตัวเองเข้าไปนั่งภายในนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ไม่มีแม้แต่การหันหลังมามอง
“ทำได้ดีมากคยูฮยอน...” ชายผู้มีตำแหน่งเหนือกว่าตบบ่าเขาสองสามครั้งท่ามกลางความงุนงงของสถานการณ์ซึ่งถูกพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ผู้ช่วยคนหนึ่งหยิบป้ายชื่อตำรวจมาคล้องไว้ที่คอของคยูฮยอนก่อนจะบอกให้เขาเดินไปขึ้นรถ
ขาเรียวพาตัวเองไปยืนเทียบอยู่ข้างรถซึ่งมีชเวซีวอนนั่งอยู่บนนั้น เขายืนมองเสี้ยวใบหน้าคมคายที่ตัวเองปฏิเสธไม่ได้ว่ารักที่จะมองในทุกเช้าและก่อนนอน มือบางเอื้อมไปคว้าบานประตูมาแล้วค่อยๆดันปิดมันลงอย่างเชื่องช้า
“ผมอาจจะหลอกคุณทุกอย่าง... แต่ที่ผมบอกว่ารักคุณมันคือความจริง" เสียงหวานกระซิบแผ่วเบาโดยมิอาจรู้ได้เลยว่าอีกคนจะได้ยินมันหรือไม่ เพราะใบหน้าของซีวอนยังคงนิ่งสนิท ร่างสูงใหญ่นิ่งไม่ไหวติงต่ออะไรใดๆ
กระทั่งประตูรถปิดกระแทกลงด้วยฝ่ามือเรียวของคยูฮยอนที่ตอนนี้ถอยห่างออกมาเพื่อให้รถได้เคลื่อนตัว ซีวอนจึงผินใบหน้าตะแคงมายังร่างที่ยินนิ่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาคมมองสบเข้าไปในก้อนลูกปัดสีน้ำตาลเข้มที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นเขาพยายามอย่างมากที่จะฝืนน้ำตาเอาไว้แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้แล้วจำยอมต้องปิดเปลือกตาลง ปล่อยให้น้ำใสไหลลงมาอาบแก้มของตนเองอย่างผู้ไร้หนทาง
ความจริงคือวินาทีนั้นเขาสามารถหนีไปได้ ชเวซีวอนที่ถูกรุมล่ามานานนับทศวรรษทำไมจะไม่รู้ทางหนีทีไล่ แต่เพราะโจวคยูฮยอนเขาจึงไม่เลือกทำเช่นนั้น
การล่าหัวเขามีมูลค่าเท่ากับตำแหน่งของตำรวจคนหนึ่ง
และถ้างานนี้พลาด โจวคยูฮยอน จะไม่ปลอดภัยจากพวกตนเองและพวกของเขา
มันคงเป็นสิ่งสุดท้ายที่คนเลวทรามต่ำช้าจะมอบให้กับผู้เป็นที่รักสุดหัวใจของตนเองได้..
เป็นเพียงอย่างสุดท้ายจริงๆ
คุณเป็นเรื่องโกหกเดียว
ที่ผมทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นจริง
ห้องสอบสวนเป็นสถานที่ซึ่งไม่น่าพิสมัยเลยสักนิด มันทั้งอึดอัด กว้างขวางทางกายภาพแต่กลับอึดอัดในจินตภาพและมันก็ทำให้ซีวอนแทบจะทำไม่ได้แม้แต่หายใจ
เขาตอบคำถามกับคุณตำรวจอย่างใจเย็นทุกข้อและพูดความจริงเกือบทุกประการตามคำถาม ร่างสูงรู้ดีว่าเบื้องนอก ตรงที่สายตามองเห็นเป็นภาพสะท้อนของห้องกว้างคงจะมีใครต่อใครยืนกล่าวคำสาปแช่งเขาอยู่เป็นแน่ ตำรวจหลายสิบนายคงโล่งใจที่นักค้ามนุษย์ข้ามชาติอย่างเขาถูกคุมขัง
อยากบอกคนพวกนั้นเหลือเกินว่าเขาเองก็ดีใจที่ได้หยุดมันลงเสียที
“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ" หลังได้คำตอบที่ต้องการมากมาย ผู้สอบสวนก็กล่าวปิดบทสนทนาและเตรียมกดสัญญาณเพื่อเรียกให้ผู้คุมเข้ามาพาตัวเขาไปส่งยังบ้านหลังใหม่
“เดี๋ยวครับ" นับเป็นการปรอปากพูดนอกบทครั้งแรกของชเวซีวอนที่นั่งเงียบมาตลอดทางจนกระทั่งถึงห้องสอบปากคำ ชายวันกลางคนกดสายตาลงมองแล้วพยักหน้าให้ร่างสูงพูดต่อ "ผมอยากถามอะไรคุณ... สักสองสามคำถาม"
“ว่ามาสิ...”
“คยูฮยอน...” เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อต้องพูดถึงคนๆนั้น "เขาจะสบายดีใช่ไหม?”
“ผู้กองโจวคยูฮยอนจะสบายดี" ผู้สอบสวนตอบเสียงเรียบและหนักแน่น ยืนยันว่าโจวคยูฮยอนคนนั้นจะสบายดีจริงๆหลังจากเรื่องจบลง ซีวอนถึงได้เงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มจางๆ
“งั้นผม... ฝากบอกเขาได้ไหมครับ"
“ว่ามาสิ... เขาเองก็อยู่ข้างนอกนั่น"
ซีวอนขยับหน้าหันไปทางบริเวณที่เป็นประจกสะท้อนเงาตัวเองซึ่งตรงนั้นมีโจวคยูฮยอนยืนกอดอกอยู่เพียงลำพัง ริมฝีปากแห้งผาดของซีวอนขยับขบเม้มกันอยู่สักพักก่อนที่เสียงแหบพร่าจะเปล่งออกมา
“ฉันรักนาย"
“นายดูไม่ค่อยสดชื่นเลยนะคยูฮยอน...” เพื่อนร่วมงานโต๊ะตรงข้ามเอ่ยทักหลังจากที่เขาเข้ามานั่งบนเก้าอี้ของตัวเองได้เพียงครู่เดียว คิมเรียวอุคยื่นลูกอมมาให้พร้อมกับรอยยิ้มสดใสอย่างที่เจ้าตัวมีมันติดอยู่ตลอดเวลา "ได้รางวัลนายตำรวจดีเด่นนี่ไม่ดีใจเหรอ...”
“ก็ดีแหละ... ขอบใจนะ"
“ของขวัญไง... ฮ่าๆ ขอโทษทีนะ แต่ฉันเพิ่งกลับมาจากทำคดีที่ปูซาน เพิ่งรู้เรื่องนายเมื่อเช้าเลยไม่ได้ซื้ออะไรมาให้เลย"
“อย่าคิดมากหน่า"
“นายเก่งมากเลยนะ ไปขลุกอยู่กับหมอนั่นได้เป็นปี เนียนมากด้วย" เพื่อนตัวเล็กยังคงเอ่ยปากชมเขาไม่หยุดหย่อน ซึ่งคยูฮยอนก็ได้แต่ขยับยิ้มรับอย่างเนือยๆ
การพาตัวซีวอนไปคุมขังในคุกกลางทะเลเป็นเรื่องที่ถูกดำเนินการอย่างลึกลับเพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวและด้วยข้อหาอีหหลายกระทงจึงทำให้ต้องติดคุกกลางทะเลตลอดชีวิต ไม่มีใครรู้ว่าโจวคยูฮยอนแอบขับรถตามไปและมองแผ่นหลังกว้างขึ้นเรือตำรวจจนลับตาหายออกจากชายฝั่ง
และเมื่อเทียบกัน สองวันนี้เขาเสียน้ำตามากกว่าสองปีที่ใช้มันกับชเวซีวอนเสียอีก
“เออจริงสิ... พี่จองฮีฝากมาบอกว่านายมีวันพักร้อนเหลือเกลื่อนกลาด... เขาเลยถามว่านายอยากจะพักไหม ตารางช่วงนี้ว่างพอดี" คิมเรียวอุคชะโงกหน้ามาถามเขาอีกครั้งหลังจากเลื่อนตัวไปคีย์นิ้วลงในคอมได้สักพัก
“อ่า...”
“นายน่าจะพักจริงๆนะคยูฮยอน นายดูเหนื่อยมากเลย...” เรียวอุคยังคงคะยั้นคะยอด้วยน้ำเสียงเปี่ยมความกังวล "พักร้อนไปทำตามใจตัวเองบ้างไง อยู่กับคดีนี่อึดอัดจะตาย...”
คำพูดของเรียวอุคสะกิดเข้ากับความรู้สึกของเขาได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะคำว่า "ทำตามใจตัวเอง" คยูฮยอนมองออกไปนอกหน้าต่าง ซึ่งมันมีแม่น้ำฮันไหลเอื่อยไปเรื่อย พาฝูงเรือเคลื่อนตัวไปตามวิถีแห่งสายลมแต่มีเส้นทางเป็นของตัวเอง
เขานึกถึงเมื่อวานที่พยายามห้ามใจตัวเองไม่คว้าร่างนั้นเข้ามากอดไว้
ทั้งที่ใจอยากซุกลงไปกับอกกว้างแล้วบอกว่าขอโทษ
“จริงด้วยสิเรียวอุค... ฉันควรไปพักร้อนเนอะ"
“ดีมากคยูฮยอน พี่จองฮียังอยู่ที่โต๊ะนะ"
“ฮ่าๆ... บ๊ายบายเรียวอุค ฝากงานด้วยแล้วกัน เหนื่อยหน้อยนะ"
“ด้วยความยินดี...” เรียวอุครับคำพร้อมกับรอยยิ้มกว้างตามแบบฉบับของตัวเอง และมันก็ทำให้คยูฮยอนรู้สึกอยากจะขอโทษเพื่อนโต๊ะตรงข้ามของตัวเองเหลือเกิน "แต่อย่าไปนานเป็นเดือนหล่ะ รีบกลับมานะ"
“ฮะๆ...” มีเพียงเสียงหัวเราะแห้งๆตอบกลับมาพร้อมกับฝ่ามือเรียวตบปุลงไปบนไหล่ของคิมเรียวอุคเบาๆขณะกวาดสายตามองไปรอบตัว
คงไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว
เพราะโจวคยูฮยอนกำลังจะไปทำตามสิ่งที่หัวใจตัวเองต้องการสักที
THE END
ขอโทษจากใจจริงที่หายไปนานแสนนาน...
คือเรารักซีรี่ย์นี้มากแต่อารมณ์ช่วงนั้นมันขาดๆหายๆ
ยังไม่แน่ใจว่าจะได้แต่ง Rainfall ต่อหรือเปล่าด้วยซ้ำ
แต่ก็จะพยายามบิวต์นะ 55555555555
คนอ่านน้อยมาก... แต่ก็ขอบคุณจากใจจริง
ขอบคุณที่ติดตามนะ ^^
ความคิดเห็น