ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { wonkyu } Every Night Stand

    ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER IV.

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 56


    CHAPTER IV

    กลุ่มเพื่อนผู้ปราศจากความปกติใดใด

     

     

                ช่วงบ่ายของวันผ่านไปอย่างเชื่องช้าเพราะคาบเรียนเคมีอันไม่เป็นที่โปรดปรานของคยูฮยอน (อันที่จริงทั้งห้องเขาไม่มีใครชอบเคมีหรอกนี่พูดเลย) นักเรียนตัวผอมที่พ่ายแพ้ต่อความเบื่อหน่ายของคาบเรียนจึงทิ้งหัวฟุบลงไปกับโต๊ะตรงหน้าเพื่อพาตัวเองเลี่ยงออกมาจากน้ำเสียงโมโนโทนคล้ายเทปธรรมเทศนา

     

    ~ ครืด ครืด ครืด

     

                ยังไม่ทันจะได้ปิดลูกตาตามเสต็ปที่ตั้งใจไว้ แรงสั่นสะเทือนของเครื่องมือสื่อสารก็ทำให้คยูฮยอนต้องเงยหน้าขึ้นมาตั้งสติ ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมากดดู

     

                          คุณมีข้อความใหม่จาก พี่ซีวอน

                                        ต้องทำงานกับเพื่อน เดินมาที่ตึกคณะหลังเลิกเรียน

     

                คำสั่งกลาย ๆ ที่อยู่ในรูปของตัวอักษรทำให้คยูฮยอนแอบเบ้หน้าด้วยไม่อยากจะทำตาม มหาวิทยาลัยคยองฮีกว้างขวางอย่างกับป่าร้อยเอเคอร์ ตึกแต่ละหลังนี่ก็อลังกาลอย่างกับวังสุลต่าน แล้วพี่ซีวอนจะให้เขาซึ่งไม่เคยย่างกรายเข้าไปด้านในนั้นอย่างจริงจังสักครั้งเดินไปหาที่ตึกคณะดุริยางคศิลป์ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของมหาลัยโดยไม่มีการบอกทิศบอกทางกันสักคำแบบนี้หน่ะ... ต่อให้โจวคยูฮยอนเป็นไอสไตน์ก็เงิบเถอะ !

     

                “หง่ะ...” ถึงใจจะนึกบ่นไปไหนต่อไหน แต่สุดท้ายคยูฮยอนก็ต้องมานั่งคิดนอนคิดหาวิธีไปคณะดุริยางคศิลป์อย่างกบฎไม่ได้นั่นแหละ ฮุ่ย !

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

                “ทางไหนเนี่ย...” โจวคยูฮยอนยืนเกาหัวแกรก ๆ มองแผนที่อันยักษ์ที่ตรงหน้าปากทางเข้ามหาวิทยาลัยคยองฮีเพื่อมองหาจุดแดงพร้อมคำว่า คุณอยู่ที่นี่ให้ใจชื้น แต่นี่ผ่านมา 15 นาทีแล้ว เขาก็ยังหาไอ้จุดแดงที่ว่านั่นไม่เจอ และยังไม่รู้ด้วยว่าตัวเองอยู่ตรงไหนของมหาวิทยาลัยกันแน่

     

                มือบางกำโทรศัพท์มือถือเอาไว้แน่น เมื่อครู่กะว่าจะโทรหาพี่ซีวอนเพื่อถามว่าต้องเดินไปทางไหนยังไง แต่ก็กลัวว่าถ้าโทรไปแล้วจะไปกวนเวลาทำงานของพี่ซีวอนแล้วก็จะโดนดุด้วยน้ำเสียงเหวี่ยง ๆ เข้าให้ เพราะพี่ซีวอนไม่ชอบให้ใครรบกวนเวลาการทำงาน (วันนั้นเขาแค่เรียกไปกินข้าวยังค้อนขวับ) เลยตัดสินใจถือโทรศัพท์ค้างไว้อย่างนั้น ไว้คับขันจริง ๆ แล้วค่อยโทรแล้วกัน (นี่ยังไม่ถือว่าคับขัน........ หล่ะมั้ง)

     

                ในเมื่อดูแผนที่ไม่เป็น เริ่มต้นไม่ถูก โจวคยูฮยอนก็ป่วยการจะยืนอยู่ตรงนั้นให้มันเสียเวลา ขาเรียวเริ่มก้าวสะเปะสะปะไปตามทางเดินฟุตบาทที่ทอดยาวผ่านตึกคณะต่าง ๆ ไปเรื่อย แล้วพอเห็นตึกไหนประหลาดตาก็ลองหยุดอ่านป้ายดู.... คยูฮยอนเชื่อว่าถ้าทำแบบนี้แล้วอาจจะช่วยก็ได้

     

                แต่ดูเหมือนจะคิดผิด......... นี่เดินจนเสื้อชุ่มน้ำไปหมด ถอดสูท ถอดเสื้อ ปลดกระดุมจนแทบจะแก้ผ้าเดินอยู่แล้ว คยูฮยอนก็ยังไม่เห็นวี่แววของตึกดุริยางคศิลป์ที่ว่าเลย

     

                “น้องหาอะไรอยู่หรือเปล่าครับ ?”

     

                “โอ๊ะ !!!!” คนขวัญอ่อนที่โดนเสียงทุ้มต่ำละมุนละไมของใครสักคนทักเข้าให้สะดุ้งจนเกือบตกฟุตบาท คยูฮยอนหันขวับไปหาเจ้าของเสียงดังกล่าวที่ยืนถือกล่องหนังอันใหญ่ยักษ์ไว้ในมือแต่ความสูงที่ต่างกันอยู่ระดับหนึ่งทำให้ร่างบางต้องเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงนั้นด้วยแววตาเออเร่อทันทีเมื่อเห็นหน้า

     

     

     

                คือ...... คือแบบ.....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                หล่อ....... -/////////////////////////-

     

     

     

                “น้องหาอะไรอยู่เหรอครับ ?”

     

                “อะ อ่อ... อ่อ... หาครับ...เอ่อ...ด ดุริ... ดุริยางคศิลป์ครับ” น้ำเสียงสั่นไหวเพราะความตื่นเต้นปนตระหนกให้คำตอบกับพี่ชายตัวสูงที่ยืนยิ้มขำท่าทางลนลานของเด็กมัธยมตรงหน้าซึ่งดูตลกไม่หยอก ชเวจงฮุนจึงถือวิสาสะวางฝ่ามือกว้างของตัวเองบนไหล่ของอีกคนแล้วรุนหลังให้เดินไปตามทาง

     

                “ป่ะครับ... เดี๋ยวพี่พาไป”

                *พูดพร้อมโปรยยิ้มหล่อ*

     

     

    โอ้คุณพระคุณเจ้า....... นี่ละมุนมากจะไม่ทน

    -/////////////////////////////////////////////////-

     

                เขาถูกพี่ชายตัวโย่งที่มีกระเป๋าใบใหญ่เหมือนซุกซ่อนวัตถุระเบิดเอาไว้บังคับให้เดินไปตามทางฟุตบาทอย่างชำนิชำนาญ ผ่านตรอกซอกซอยหนทางคดเคี้ยว ลดเลี้ยวมากมายชนิดที่ว่าถ้าคลำทางมาเองเหมือนอย่างที่ตั้งใจไว้ เขาคงถึงคณะพี่ซีวอนพรุ่งนี้เช้าแน่ ๆ นี่โชคดีได้พี่หล่อพาเดินมาจนเจอป้ายคณะที่สลักด้วยหินอ่อนขนาดใหญ่

     

                “อ่า ที่นี่เอง ขอบคุณนะครับ” หันไปเอ่ยคำขอบคุณให้กับพี่ชายตัวสูงที่ตอนนี้เปลี่ยนมายืนอยู่ข้างเขาแล้ว

     

                “มาหาใครหล่ะ เข้าไปด้วยกันสิ”

     

                “พี่เรียนที่นี่เหรอครับ ?”

     

                “อืม.... นี่มาหาใครเนี่ย ?”

     

                “อ้อ...ก็...พี่ซีวอนหน่ะครับ”

     

                “โหยดโด้.. โกโก้เห็ดป่า ! วันนี้ไอ้จงฮุนมีเด็กมาด้วยเหว่ยเฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย !” จงฮุนยังไม่ทันได้ตกใจที่อยู่ดี ๆ ก็มีเด็กหน้าตาน่ารักมาหาไอ้คนเถื่อนอย่างชเวซีวอน เสียงเอะอะโวยวายจากใต้ตึกคณะก็ดูดความสนใจของเขาไปทางนั้นเสียหมด ภาพอุจาดตาของปาร์คยูชอนที่ใส่กางเกงเล ยืนจังก้าอยู่ตรงนั้นทำให้จงฮุนเผลอหลุดหัวเราะในขณะที่พรูลมหายใจยาวเหยียดออกมา

     

                คนที่น่าสงสารคือโจวคยูฮยอนซึ่งไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่านั่นคือตัวอะไร ใช่คนหรือเปล่า .___.

     

                “อาม่ามึง...... เขามาหาไอ้ชเวนู่น” ยืนงงได้ไม่นาน คยูฮยอนก็โดนจงฮุนรุนหลังให้เดินตรงเข้าไปด้านใน ซึ่งพอก้าวเท้าเข้ามาที่ใต้ตึก คยูฮยอนก็เห็นว่าลานโล่งกว้างนั้นเต็มไปด้วยนักศึกษาหลายกลุ่มที่นั่งสุมหัวกันอยู่เต็มไปหมด แต่ละคนก็ดูเหมือนจะมีงานที่ต้องจัดการกันทั้งนั้น

     

                “สงสัยสัดวอนอึ๊บแล้วไม่จ่าย....” ผู้ชายในกางเกงเลคนนั้นพูดขึ้นมาเสียงดังแล้วกระโดดลงจากโต๊ะไม้สีเขียวลงมายังกลุ่มนักศึกษากลุ่มใหญ่ที่ทิ้งตัวอยู่บนพื้น ซึ่งในวงนั้นก็มีพี่ชเวซีวอนนั่งกอดกีต้าร์อยู่ตรงด้วย... อึ๊บแล้วไม่จ่าย... เดี๋ยวนะ พี่ชายคนนั้นเข้าใจอะไรแบบนั้นได้ยังไงกัน !!

     

                “มึงใช้พื้นที่ในปากเป็นฟาร์มหมาเหรอ เชี่ยปาร์ค ?” ยังไม่ทันที่ผมจะคิดคำแก้ตัวออก พี่ซีวอนก็ตอบโต้กลับไปได้ทันควันก่อนจะหันมาหาผมที่ยืนอยู่รอบนอกของวง ร่างสูงลุกขึ้นยืน วางกีต้าร์ลงที่พื้นแล้วเดินตรงเข้ามาวางฝ่ามือกว้างนั้นไว้บนหัวของผม

     

                “กินข้าวยัง ?”

     

                “ย ยังครับ...” ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ซีวอนด้วยท่าทางเก้กังเพราะวางตัวไม่ถูกเมื่อมีสายตาหลายคู่จับจ้องมาทางเราอย่างมีเลศนัย ไม่ใช่แค่กลุ่มเพื่อนของพี่เขานะครับ แต่มันยังรวมคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นด้วย คนพวกนั้นพอเดินผ่านมาก็ยิ้มแล้วหันไปซุบซิบอะไรกันก็ไม่รู้ด้วยอ่ะ

     

                “งั้นเดี๋ยวพาไปหาอะไรกิน”

     

                “แล้วไม่ทำงานเหรอครับ”

     

                “กูก็หิวไง” คยูฮยอนพยักหน้าเข้าใจและไม่เอ่ยถามอะไรต่อมาอีกเพราะเดาได้ว่าซีวอคงไม่ชอบใจนัก แม้เขาจะอยากเสนอตัวออกไปซื้อให้เองก็เถอะ

     

                “คระ.. ครับ”

     

                “แดกไรมั๊ย กูจะไปเซเว่น” ร่างสูงกว่าเลื่อนมือที่วางอยู่บนกลุ่มผมลงมาจับบ่าของคยูฮยอนแทน เขาเอี้ยวตัวกลับไปถามเพื่อนที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่เผื่อว่าจะมีใครสักคนหิว

     

                “แดกน้องคนสวยของมึงได้ไหมหล่ะครับ” ปาร์คยูชอนตอบกลับโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก นำพามาซึ่งเสียงโห่หิ้ว หัวเราะ หยอกล้อจากเพื่อนคนอื่น ๆ ในวงเมื่อเห็นว่าใบหน้าของซีวอนเริ่มเข้าสู่โหมดบึ้งตึง ดวงตาคมกริบคู่นั้นฉายแววไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน

     

                “ควาย ! แดกตีนกูแก้เงี่ยนก่อนไหม ?! อย่าลามปามกับเด็กกู...” มือใหญ่เลื่อนมาวางอยู่ที่ลำคอขาวระหงของคนที่ถูกจับมาไว้ในอ้อมแขนจนใบหน้าขาวผ่องของคยูฮยอนมันซบลงกับอกกว้างของเขาพอดี ซีวอนสาบานได้เลยนะว่าเขาไม่ได้หวงอะไรโจวคยูฮยอนเลยสักนิดเดียว เขาก็แค่ดูแลน้องของเพื่อนให้อย่างดีเท่านั้นเอง... ไม่อยากให้ตกเป็นขี้ปากเน่า ๆ ของไอ้เฒ่าหัวงูยูชอนแค่นั้นแหละ

     

                แต่เด็กหน้าหวานที่ซุกอยู่กับอกอ่ะ.... หน้าแดงเป็นลูกตำลึงแล้วเหอะ !

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

                “...” พอได้ขนมมาอุดปากเข้าหน่อย โจวคยูฮยอนก็นั่งเงียบเป็นสากอยู่นอกวงของรุ่นพี่ที่กำลังสุมหัวคุยเรื่องอะไรกันอยู่สักอย่าง อันที่จริงตอนแรกก็นั่งอยู่ข้าง ๆ พี่ซีวอนในวงนั่นแหละ แต่ก็โดนพี่คนที่หน้าแก่ ๆ หน่อยหยอกล้อมากเกินไป พี่ซีวอนเลยจับเขามานั่งอยู่นอกวงแบบนี้ยังไงหล่ะ

     

                วงสนทนาส่งเสียงดังมากขึ้นเรื่อย ๆ จากตอนแรกที่ดูเหมือนคุยงาน ตอนนี้เลยคล้ายจะคุยเล่นกันมากกว่า คยูฮยอนยัดขนมปังคำสุดท้ายเข้าปากแล้วตัดสินใจหยิบการบ้านในกระเป๋าขึ้นมานั่งทำฆ่าเวลาที่เสียไปเฉย ๆ

     

                “สวัสดีครับน้องคยูฮยอน... การบ้านยากไหมครับ”

     

    “เฮ้ย !ระหว่างกำลังนั่งทำการบ้านอย่างตั้งอกตั้งใจ เสียงเอ่ยทักจากด้านหลังพร้อมด้วยสัมผัสหนัก ๆ ตรงรอบเอวทำให้คนตัวผอมสะดุ้ง ตอนแรกนึกว่าพี่ซีวอนแต่พอหันไปกลับไม่ใช่คนที่เขาคิดเลยสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ

     

    “พี่ชื่อแทคยอนนะครับ... แทค-ยอน ไม่แทค-คะ-ยอนครับ” ผู้ชายกล้ามใหญ่ตัวสูงคนนั้นฉีกรอยยิ้มให้ดันเขาจนเห็นฟันเต็มปาก... น่าจะเกิน 32 ซี่นะครับผมว่า...

     

    “ค ครับ...”

     

    “ส่วนพี่ชื่อยูชอนนะครับ ปาร์คยูชอน สโลกแกนหน้าแก่ แดกเด็กครับ” ตามมาด้วยพี่คนที่เขาบอกว่าหน้าแก่อีกคนที่มายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง คยูฮยอนได้แต่นั่งเงียบ ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรกลับไปดีจึงพยักหน้ารับว่ารู้เรื่องไป ครั้นจะขยับตัวหนีก็โดนมือของพี่แทคยอนโอบเอวล็อคเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

     

    “จะขยับไปไหนเหรอครับ ?^^” พี่แทคยอนหันมาถามหน้านิ่ง... ให้ตายสิ เพื่อนพี่ซีวอนนี่ถอดแบบพี่ซีวอนมาเป๊ะเลยอ่ะ ! T___T

     

    “ปะ..เปล่า... เปล่า ครับ”

     

    “ดูสิ ลูกแมวเสียงสั่นเชียว...” พี่ยูชอนยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาที่พยายามจะหดขอหนี ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าใดนัก กลับกัน ท่าทางหวาดกลัวนั่นยังทำให้คยูฮยอนดูน่ารักมากเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว... หัวใจยูชอนงี้กระตุกวูบเหมือนจะเป็นลม (?)

     

    “ทำเหี้ยอะไรกันครับ ไอ้เวร....”

     

    “อุ่ย/อุ่ย” พี่ตัวสูงทั้งสองคนชะงักการกระทำเมื่อลำคอถูกล็อคด้วยมือหนาจากคนข้างหลัง คยูฮยอนมองลอดผ่านช่องว่างระหว่างรุ่นพี่หน้าม่อ (?) ทั้งสองคนทำให้เห็นใบหน้าคมที่ติดไปทางโหดเหี้ยมของพี่ซีวอนอยู่ตรงนั้น... ความโล่งใจที่มีคนมาช่วยจึงผสมปนเปไปกับความหวาดกลัวที่พุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว

     

    พี่ซีวอนต้องโกรธแน่เลย

     

    “กูบอกแล้วใช่ไหมครับ ว่าอย่ายุ่งกับเด็กกู....”

     

    .______.

     

    “แล้วพวกมึงทำเหี้ยอะไรกัน ห๊า !!!” โยนเพื่อไม่รักดีทั้งสองคนลงไปกองอยู่บนพื้นด้วยแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใบหน้าคมคายหันขวับกลับมายังเด็กน้อยที่นั่งตัวเกร็งหน้าตื่นอยู่บนโต๊ะไม้ ส่งแววตาดุเป็นบ้าไปทำให้โจวคยูฮยอนยิ่งตัวสั่นหนักไปมากกว่าเดิม

     

    “มานั่งนี่...” คยูฮยอนถูกรั้งขึ้นมาจากเก้าอี้ไม้ เป็นอีกรอบที่เขาต้องเปลี่ยนที่นั่ง ซึ่งก็คือการกลับไปนั่งที่เดิมนั่นแหละ ข้างซีวอนในวงล้อมของกลุ่มเพื่อนของพี่ซีวอน เพียงแต่ครั้งนี้เปลี่ยนไปนิดหน่อยตรงที่พี่ซีวอนตวัดแขนมารั้งให้เขาเข้าไปนั่งจนชิดอยู่หลังหัวกีต้าร์ที่พาดอยู่บนหน้าตักของร่างสูง

     

    “อ่ะ..เอ่อ..”

     

    “นั่งนิ่งๆ...” เสียงกระซิบโหด ๆ จากคนที่บังคับเขาไปเสียทุกเรื่องทำให้คยูฮยอนต้องก้มหน้าลงจนคางชิดอก มือเรียวค่อย ๆ เนียนหยิบสมุดการบ้านมาวางไว้ที่หน้าตักก่อนจะเริ่มเขียนยุกยิกไปในมุมของตัวเอง หวังว่าพี่ซีวอนคงไม่หันมาว่าเพราะเขานั่งเขียนการบ้านหรอกนะ

     

    “แล้วจะทำไง จะไปรวมกับชมรมละคร ?”

     

    “ก็คงต้องงั้น... ไม่งั้นก็ไม่มีโปรเจ็คต์”

     

    “...”

     

    “งี้ไอ้วอนก็ต้องแต่งเพลงรักป่าววะ ?”

     

    “...” ความเงียบแผ่เข้ามาปกคลุมหลังจากที่ผู้ชายหน้านิ่งคนหนึ่งโพล่งขึ้นมาว่าซีวอนต้องแต่งเพลงรัก เจ้าของชื่อเองก็หันไปมองที่ต้นคำพูดซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกัน คริสมองหน้า ประสานสายตากับคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามไม่วางตาแล้วเลิกคิ้วขึ้นเพื่อให้ประโยคเมื่อครู่กลายเป็นคำถาม

     

    “คงงั้นมั้ง ?” ซีวอนยักไหล่ด้วยท่าทางไม่ใส่ใจแล้วเกลาเบา ๆ ไปบนสายกีต้าร์

     

    “หรือจะคิดโปรเจ็คต์เอง... แต่นี่ห้าใบแล้ว ยังไม่ถึงไหน” จงฮุนเสริมขึ้นมาพร้อมโชว์หลักฐานคือแผ่นกระดาษเน่า ๆ ห้าใบที่วางกองอยู่ตรงหน้าซึ่งพวกเขาทั้งกลุ่มใช้เวลาเขียนกันมาทั้งวัน แต่ก็ไม่ได้อะไรไปมากกว่าภาพฝันเลือนลางที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างไร้จุดยืน

     

    คยูฮยอนที่ฟังบ้างไม่ฟังบ้างพอจะจับใจความได้ว่าพี่ ๆ ที่นั่งล้อมกันอยู่กำลังช่วยกันคิดโปรเจ็คต์อะไรสักอย่าง แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่มีอะไรสำเร็จสักอย่าง.... ซึ่งฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะนั่นหมายความว่าพี่ซีวอนจะยังกลับบ้านไม่ได้

     

    “เอาไง.. หรือจะไปรวมกับชมรมละคร ?”

     

    “ขี้เกียจดีลงานกับพวกไอ้เยซองหว่ะ.. แม่งชอบเว่อร์” แทคยอนแย้งขึ้นมาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกได้ว่าไม่พอใจอย่างสุด ๆ ซึ่งทุกคนก็พยักหน้ายอมรับกันหมดทั้งสิ้น

     

    บทสนทนาเคร่งเครียดยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ คยูฮยอนก็นั่งทำการบ้านไปเรื่อย ๆ เวลาก็ผ่านไปเรื่อย ๆ ท้องฟ้าก็เริ่มดำขึ้นเรื่อย ๆ ....

     

    หัวของโจวคยูฮยอนก็เอนลงมาใกล้บ่าของซีวอนมากขึ้นเรื่อย ๆ

     

                “แต่ถ้าไม่มีทางเลือกแล้วต้องไปรวมกับพวกละครจริง ๆ กูก็ตะ...” คำพูดของซีวอนชะงักค้างไปเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรมาชนต้นแขนข้างซ้าย เขาเหลือบลงไปมองเด็กตัวผอม เตรียมพร้อมจะต่อว่าที่บังอาจมาสะกิดแขนตอนกำลังพูดอยู่ แต่เมื่อพบว่าแรงเมื่อครู่มันเกิดจากหัวกลม ๆ ของโจวคยูฮยอนที่คงหลับไปเพราะความเพลียเขาก็เลยขยับหัวอีกคนให้พิงมาบ่นบ่าของตัวเองแทนจะด่า “กูก็แต่งให้ได้...”

     

                “ชเวซีวอนเขียนเพลงรักนี่ฮานะบอกเลย..”

     

                “อย่าดูถูกกูนะสัด...” กัดฟันพูดกับเพื่อนในวงที่มองมาทางเขาด้วยสายตาเหมือนจะไม่เชื่อ เพราะภาพพจน์ห่ามหยาบ ทำให้ชเวซีวอนดูเหมือนคนที่เข้าถึงความรัก ไม่เคยแอบชอบใคร แฟนก็ไม่เคยมี หนังรักก็ไม่ชอบดู

     

                “กูไม่เคยเห็นมึงมีความรักอะไรเลยนี่หว่า ถึงมึงจะปี้คนก็ปี้หน้านิ่ง...”

     

                “กูปี้แก้กระสัน... เอาแค่หายอยาก ไม่ผูกมัด” แม้แต่ตอนตอบคำถามในหัวข้อเรื้องละเอียดลึกซึ้ง ชเวซีวอนก็ยังคงตอบออกมาแบบหน้านิ่ง เหมือนเดิม

     

                “เออครับ !” ทั้งวงประสานเสียงขึ้นมาพร้อมกันด้วยใบหน้าหมั่นไส้... ใครจะไปคิดว่าโลกนี้มันจะมีผู้ชายที่ชอบปี้คนไปเรื่อยอย่างไม่ผูกมัดแล้วบอกว่าแค่แก้อยากวะ !

     

                “หึ...”

     

                “กลับบ้านเหอะหว่ะ เด็กแก้อยากมึงน้ำลายยืดแล้วนั่น”

     

                “... ควาย ! เด็กแก้อยากห่าอะไร นี่น้องเพื่อนกู”

     

                “น้องใครวะ ?”

     

                “น้องไอ้คิบอม... นี่จะกลับยังวะ ?”

     

                “กลับดิ เดี๋ยวหอแม่งล็อคอีก กูกับเชี่ยคริสนอนใต้ถุนมาสองคืนแล้วเนี่ยสัด..” จงฮุนว่าแล้วลุกขึ้นยืนก่อนเป็นคนแรก ตามต่อด้วยรูมเมทหน้านิ่งที่ชื่อว่าคริสซึ่งได้ชื่อว่าเงียบที่สุดแล้วในกลุ่ม...และเพราะความเงียบนั้นหล่ะมั้ง ทำให้คริสเป็นเพื่อนที่ซีวอนสนิทด้วยมากที่สุด

     

                “เออ กูฝากพวกมึงคอยดูคยูฮยอนด้วย เวลาไอ้เด็กนี่มามหาลัย...”

     

                “...”

     

                “แม่ง เฉิ่มชิพหาย...” ร่างสูงหันไปขอความร่วมมือกับเพื่อนคนอื่น ๆ ซึ่งก็ได้คำตอบที่น่าพึงพอใจคือการพยักหน้ารับกันยกใหญ่ ซีวอนเขย่าไหล่ตัวเองแรง ๆ เพื่อให้คนที่นอนน้ำลายยืดตื่นขึ้นมาจากฝัน

     

     

                “อื้อ....” โจวคยูฮยอนคำรามใส่ด้วยความไม่พอใจที่โดนปลุก ยิ่งทำให้หน้าหมั่นไส้เข้าไปใหญ่

     

                “จะกลับบ้านไหม ?”

     

                “หืออ... อ๊ะ !” กระพริบตาถี่ให้ภาพชัดขึ้นและเมื่อพบว่าตัวเองถูกรุมล้อมด้วยเพื่อนของพี่ซีวอนร่างบางก็เผลอส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ การันตีประโยคเมื่อครู่ของซีวอนได้เป็นอย่างดีจนแต่ละคนในวงพากันหัวเราะกันเป็นแถบปล่อยคยูฮยอนได้แต่เกาหัว มุ่ยหน้าอย่างสงสัย....

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

                คยูฮยอนไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่าเขาควรจะสนิทสนมกับกลุ่มเพื่อนของซีวอนมากขนาดไหน แต่การที่ต้องเจอหน้ารุ่นพี่ก๊กใหญ่เป็นเวลา 3 วันรวด มันก็ทำให้เสามารถจดจำใบหน้าและเอกลักษณ์ของรุ่นพี่แต่ละคนได้แล้ว รวมทั้งยังสามารถมีส่วนร่วมในบทสนทนาของพี่ ๆ ได้มากขึ้นมาอีกเล็กน้อย

     

                สาเหตุที่ต้องเดินข้ามจากโรงเรียนมามหาวิทยาลัยบ่อย ๆ นั้นเป็นเพราะว่าช่วงนี้วงดนตรีของพี่ซีวอนซึ่งประกอบไปด้วยรุ่นพี่ที่เขาเห็นหน้าอยู่นั่นแหละ ต้องทำโปรเจ็คต์ใหญ่ขึ้นมาหนึ่งโปรเจ็คต์ มีหัวข้อกว้าง ๆ ว่า เพลงเพื่อ..... ซึ่งพี่แทคยอน (คนที่ฟันเหยินๆหน่ะ) บอกว่ามันเป็นหัวข้อที่กว้างมากเพราะหมายถึงพวกพี่เขาจะทำเพลงเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ทั้งวงก็เลยต้องวิ่งติดต่อหาที่ลงผลงานกันยกใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นชมรมละครของแต่ละคณะ วิทยุประจำมหาวิทยาลัย (ที่ปฏิเสธกลับมาอย่างไร้เยื่อใยไฟเบอร์ใดใด) หรือแม้แต่ค่ายเพลงเล็ก ๆ ข้างนอก แต่ผลตอนนี้คือยังไม่มีสักที่ที่จะยอมรับงานของพวกพี่เขาเลย

     

                “แล้วละครคณะสถาปัตย์อ่ะ ?”

     

                “ไปคุยมาแล้ว แม่งบอกเพลงวงเราไม่ใช่แนว...” ผมได้ยินเสียงพวกพี่ ๆ เขาถอนหายใจกันหน้าเครียดอีกครั้งจนเหมือนเป็นเดจาวูของผม เพราะเห็นแบบนี้มาสามวันติดแล้วหน่ะ

     

                “แล้วแม่งจะเอาแนวเหี้ยอะไรวะ โอเปร่าเหรอสัด !” พี่ยูชอนเกาหัวแรง  ๆ จนรังแคร่วงตกลงมากราวเกรียวก่อนจะก้มหัวลงติดพื้นที่พวกพี่เขานั่งอยู่ มองดูอนาถตามากจนอยากจะยื่นมือเข้าไปช่วย แต่ตัวผมก็ไม่ได้มีเส้นสายอะไรในวงการเพลงขนาดนั้น แม่ผมแค่คนขายอาหารริมทางหน่ะครับ .___.

     

                “ใจเย็นก่อนหน่า...” พี่จงฮุนที่ผมมารู้เอาเมื่อวานนี้ว่าเป็นมือเบสของวงที่เป็นคนนำทางพาผมมายังตึกคณะดุริยางค์ในวันแรกตบบ่าของพี่ยูชอนสองสามครั้งเหมือนจะปลอบโยนด้วยท่าทางที่มองดูแล้วละมุนมากเหลือเกิน... ความจริงผมปลื้มพี่จงฮุนมากเลยนะครับ อาจเป็นเพราะพี่เขาดูปกติที่สุดในวงแล้วด้วยแหละมั้ง

     

                ก่อนอื่นผมต้องเคลียร์พื้นที่แล้วพูดอะไรสักนิดสักหน่อยก่อนนะครับ คือวงของพี่ซีวอนเนี่ย ประกอบไปด้วยหลายตำแหน่งครับ เริ่มจากพี่ซีวอน คนนั้นเป็นมือกลองและควบตำแหน่งนักประพันธ์เพลง พี่จงฮุนที่ผมปลื้มเป็นมือเบสของวง พี่ยูชอนที่หน้าแก่ ๆ คนนั้นซิ่วมาจากวิศวะหน่ะครับ เขาถึงได้หน้าแก่ แต่พี่เขาเป็นถึงนักร้องนำของวงเชียวนะ สาว ๆ ชอบเสียงพี่เขากันล้นหลามเลยครับ ส่วนพี่แทคยอน คู่หูของพี่ยูชอน คนนั้นเป็นมือกีต้าร์ของวง แล้วก็พี่คนที่เงียบ ๆ ดูไม่ค่อยพูดที่ผมไม่กล้าสบตาด้วยชื่อว่า พี่คริสครับ คนนั้นเป็นมือคีย์บอร์ดแล้วยังเป็นคนสร้างทำนองเพลงด้วยครับ... ข่าวแว่วมาจากพี่ยูชอน (ที่นอกจากมีปากไว้ร้องเพลงแล้วพี่แทคยอนบอกว่าปากนั้นสว่างเหมือนติดหลอดฟลูออเรสเซนต์สัก 30 หลอดได้) ว่าพี่คริสกับพี่ซีวอนสนิทกันมากที่สุดแล้ว

     

                เพราะพี่ซีวอนกับพี่คริสเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเพลงไปแล้ว หน้าที่ส่วนอื่น ๆ ในวงก็เลยตกเป็นของคนที่เหลือไป เรื่องโปรเจ็คต์รอบนี้จริง ๆ ต้องเป็นงานของพี่ยูชอนหน่ะครับ แต่เพราะมันจนปัญญามากจริง ๆ ทุกคนก็เลยต้องมาสุมหัวรุมกันอยู่แบบนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พี่คริสกับพี่ซีวอนนั่งหน้าบูดกันอยู่ตอนนี้ไงครับ

     

                คนซวยคือใครเหรอ... ก็ผมไงครับ
                ผมนั่งอยู่ระหว่างกลางคนหน้าบูดสองคน หน้าผมก็เลยต้องบูดตามไปด้วยเลย
    .___.

     

                “แล้วจะเอาไงวะ ?”

     

                “เดี๋ยวพรุ่งนี้กูกะว่าจะลองวิ่งไปคณะจิตรกรรมดู เห็นว่าจะทำละครแต่ยังไม่มีรายละเอียดมาเลย...” พี่แทคยอนว่าด้วยท่าทีแข็งขันทำให้ทุกคนเริ่มดูมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งหลังจากฟุบฟ่อกันไปได้พักใหญ่

     

                “งั้นวันนี้พอเหอะ กลับบ้านกลับหอเหอะ...” พี่จงฮุนสุดเท่ห์เป็นคนปิดวงสนทนาอย่างทุกวัน ทุกคนพับเป็นสมุด วางข้าวของ แล้วหันไปคว้ากระเป๋าของตัวเองอย่างฉับไว ต่างฝ่ายต่างรีบลุกขึ้นเหยียดกายเพื่อเตรียมตัวแยกย้ายกลับบ้านของตนเอง... ทั้งวงที่ว่ามามีพี่คริสกับพี่จงฮุนที่อยู่หอด้วยกันครับ ที่เหลืออยู่บ้านกันหมดเลย

     

                “เฮ้ยคริส ฮุน...เดี๋ยวกูไปส่ง”

     

                “ไม่ต้องหรอก เดินนำไปได้” พี่คริสที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบกลับความหวังดีของพี่ซีวอน นี่เป็นครั้งที่สองหรือสามเนี่ยแหละครับที่ผมได้ยินพี่เขาพูด... คือพี่เขาเงียบมาก เงียบมากเหมือนนั่งสมาธิอยู่ตลอดเวลาเลยครับ

     

                “เออหน่า วันนี้ไอ้ฮุนเอาเบสมา มึงก็เอาขาตั้งมา... เดี๋ยวกูไปส่ง”

     

                “แต่....”

     

                “แต่พ่อแต่แม่มึงเถอะ กูไปส่ง...” พี่ซีวอนที่แม้แต่ตอนคุยกับเพื่อนก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความห่ามไม่เปลี่ยนยืนยันคำพูดของตัวเองด้วยใบหน้าที่จริงจังมากขึ้น ซึ่งมันทำให้พี่คริสปฏิเสธอะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่เดินไปบอกพี่จงฮุนให้ยกเบสไปใส่ในรถตามคำบอกของพี่ซีวอน

     

                “เมื่อเช้าที่ห้องมีขนมปังเหลือไหม ?”

     

                “เหลือแค่ 2 แผ่นเองครับ” ผมตอบคนตัวสูงที่กดใบหน้าคมเข้มลงมาถามอย่างรวดเร็ว ผมเรียนรู้มากขึ้นแล้วว่าถ้าพี่ซีวอนถามคำถามคือผมต้องมีคำตอบ... ถ้าไม่มีคำตอบก็จะโดนพี่เขาลงโทษด้วยการจูบนั่นแหละครับ แต่ถ้ามีคำตอบก็จะไม่โดนอะไร หรืออาจจะมีของขวัญนิดหน่อย อย่างเช่นหอมแก้มหรือยีหัวหน่ะครับ (มันไม่ถือเป็นรางวัลสำหรับผมนะครับ แต่ถ้าพี่ซีวอนทำสองอย่างนี้มันจะหมายถึงพี่เขาอารมณ์ดีหน่ะครับ)

     

                “อืม... งั้นเดี๋ยวแวะซุปเปอร์มาเก็ตก่อนแล้วกัน” เขาเอื้อมมายีหัวผมนิดหน่อยแล้วพาเดินไปที่รถซึ่งพี่จงฮุนกับพี่คริสยืนรออยู่ตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว พวกเราสี่ชีวิตเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถ ใช้เวลาเตรียมตัวกันสักพักพี่ซีวอนก็เหยียบคันเร่ง หมุนพวงมาลัยไปตามทางโดยที่ภายในห้องโดยสารคงคอนเซ็ปต์ไร้เสียงเหมือนเช่นเคย

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

                “อ่า พี่ซีวอนครับ โฟมล้างหน้าที่ห้องพี่เหมือนจะเหลือน้อยแล้วนะครับ”

     

                “งั้นเหรอ ?”

     

                “ครับ... ผมว่าพี่ซีวอนน่าจะซื้อติดไปด้วย” คยูฮยอนเสนอด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มในขณะที่พวกเขาเข็นรถผ่านโซนเครื่องสำอางและเครื่องประทินผิวต่าง ๆ นา ๆ

     

                จากที่ว่าจะมาซื้อแค่ขนมปัง กลับกลายเป็นซื้อของเข้าบ้านครั้งใหญ่ ทั้งเสบียงแห้งเสบียงสด เพราะนึกขึ้นได้ว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันศุกร์ เพื่อน ๆ ของซีวอนจะมาซ้อมดนตรีที่ห้อง นั่นหมายความว่าที่ห้องควรจะมีข้าวปลาอาหารไว้พร้อมบำเรอ ซีวอนจึงตัดสินใจเดินหาของกินมาตุนไว้เสียให้สิ้นเรื่อง จะได้ไม่ต้องลำบากเดินลงไปมินิมาร์ทหลายรอบ

     

                “อืม เอาสิ...” ร่างสูงว่าก่อนจะเลี้ยวรถเข็นเข้าไปยังช่องขายโฟมล้างหน้าที่อยู่ปนเปไปกับโคโลญจ์และผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น เขาเดินเข้าไปเพ่งมองยังชั้นเพื่อมองหาโฟมล้างหน้ายี่ห้อเดิมที่เคยใช้อยู่ แต่เพราะบนชั้นวางนั้นมีหลากหลายยี่ห้อเหลือเกิน ทำให้ต้องใช้เวลาในการมอง

     

                “นี่ หลอดเก่ามันยี่ห้ออะไรวะ ?” สุดท้ายเขาก็หันไปถามคนที่ยืนเกาะอยู่ท้ายรถเข็น คยูฮยอนเลิกคิ้วขึ้นเมื่อพบกับคำถามไม่คาดคิด... ให้ตายสิ ! โฟมล้างหน้าพี่ซีวอนก็เองนะ เขามาอยู่ได้ยังไม่ถึงอาทิตย์จะจำได้ยังไงว่ามันยี่ห้ออะไรหน่ะ

     

                “ผม...เอ่อ...ผม...”

     

                “...”

     

                “....ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ.... ต แต่ !... แต่พอจำได้นะครับ... หลอดมันสีน้ำเงิน เป็นเจลอ่ะครับ”

     

                “เหรอ... มาช่วยหาสิ” ออกคำสั่งแล้วกวักมือเรียกคนตัวผอมด้านหลังให้เข้ามาช่วยอีกแรง ซึ่งคยูฮยอนก็ทำตามโดยดี ร่างบางผละออกจากรถเข็นโดยไม่ลืมคว้าเอาตะกร้าใบเล็กที่ไว้ใส่ของใช้ในบ้านไม่ให้ไปปนกับอาหารมาด้วย วิ่งเหยาะ ๆ เข้ามายืนอยู่ข้างซีวอนแล้วกวาดสายตาไปยังชั้นข้างกันที่มีหลอดพลาสติกอยู่อีกหลายยี่ห้อ ดวงตากลมมองไล่ไปเรื่อย ๆ ที่ละชั้นอย่างตั้งใจราวกับทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย

     

                แล้วก็สะดุดเข้ากับหลอดหนึ่งพอดี ดูเหมือนกันเลย...

     

                “พี่ซีวอนครับ !

     

                “หืม ?”

     

                “ใช้หลอดนี้หรือเปล่า มันคล้าย ๆ กันเลยนะผมว่า...” มือบางคว้าเอาหลอดโฟมที่เป็นขวดใส เผยให้เห็นของเหลวที่เป็นเจลสีน้ำเงินด้านใน ตรงตามเสป็คที่เขาจำมาได้พอดี กระนั้นชเวซีวอนกลับหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังจนใครต่อใครรอบข้างหันมามองทางพวกเขาเป็นตาเดียวและก็เป็นสายตาประหลาดเสียด้วยสิ

     

                ซีวอนสาวเท้าเข้าไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลังของคยูฮยอน เขาก้าวเข้าไปใกล้ร่างผอมบางของนักเรียนตัวเล็กจนแผงอกกว้างแนบไปกับแผ่นหลัง ปลายคางเกยลงไปบนบ่าแคบ ๆ ของคยูฮยอนแล้วสอดมือลอดข้างเอวเข้าไปชี้ป้ายบาร์โค้ดจากชั้นที่คยูฮยอนหยิบมา

     

                “อ่านก่อนหรือเปล่าว่าหยิบอะไรมา...” น้ำเสียงทุ้มพร่าพยายามกลั้นขำแทบตาย เขาพ่นลมหายใจรดลงไปบนกกหูของร่างผอมที่เริ่มจะแดงก่ำเพราะเลือดสูบฉีดขึ้นมาด้วยความเขินอายกับการอยู่ใกล้กันมากเกินไป คยูฮยอนพยายามจะเบี่ยงตัวหลบแต่เพราะแขนแกร่งที่ล็อคร่างอยู่ทำให้หลบไปไหนไม่ได้ไกลนอกจากเบนหน้าของตัวเองไปอีกทางเพื่อก้มลงอ่านตามที่ปลายนิ้วของซีวอนชี้อยู่

     

    เจล หล่อ ลื่น

     

                “เห.... เจลหล่อลื่น...” คยูฮยอนทวนคำแล้วชะงักมือไปเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจว่าอะไรคือเจลหล่อลื่น คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันจนเกือบจะผูกเป็นปมยิ่งทำให้ซีวอนกลั้นขำให้กับความไร้เดียงสาของคนในอ้อมแขนไว้ไม่ได้ เขาก็เลยพลิกขวดอีกข้างเพื่อให้คยูฮยอนได้ลองอ่านสรรพคุณของมัน เผื่อว่าจะเข้าใจมากขึ้นว่าตัวเองไปหยิบอะไรเข้า

     

                …ผลิตและทดสอบโดยทีมวิจัยเฉพาะทางผู้มีความเชี่ยวชาญ ด้วยสูตรผสมที่จะช่วยกระตุ้นจุดสัมผัสของคุณให้ไปสู่จุดสุดยอดที่หลายท่านอาจไม่เคยได้สัมผัสมาก่อ มีส่วนผสมของ L-arginine ช่วยกระตุ้นความรู้สึกที่เกิดจาก Multisensate Coollact P ให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเสียวมากขึ้นเท่าไหร่ก็จะทำให้ถึงจุดสุดยอดได้ง่ายยิ่งขึ้น... วิธีใช้ ทาเจลลงบนจุดซ่อนเร้นและนวดคลึงเบา ๆ ภายใน 2-3 นาทีจะมีความรู้สึกร่วมมากขึ้น พร้อมต่อการสอดใส่ สามารถทาเจลเพิ่มขึ้นได้โดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ ...

     

     

     

     

     

     

    O////////////////////////////[ ] ////////////////////////////O

     

     

                “... อยากซื้อไปลองกับพี่เหรอครับ”

     

                “O//[ ]//O!!!

     

                “หึ... ร่องน้องคยูฝืดเหรอครับ ?” ซีวอนถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อที่ข้างใบหูแดงก่ำก่อนจะขบลงบนติ่งหูเล็กไปเสียหนึ่งครั้ง เขาละมือข้างหนึ่งลงมาที่ก้นนุ่มนิ่มของคนตรงหน้า ใช้ปลายนิ้วชี้กดแทรกกลีบเนื้อแน่นลงไปตรงกลางทำให้คยูฮยอนสะดุ้งวาบเมื่อถูกบุกรุกเข้ามา ปลายนิ้วแกล้งไชเข้าไปถูกไถอยู่ตรงช่องเนื้อทำให้คยูฮยอนได้แต่ยืนตัวเกร็งแล้วเผลอปล่อยขวดเจลสีฟ้าลงไปในตะกร้าของใช้ที่ถือติดมือมา

     

                “ม ไม่..ไม่... ค คือ...คือ....” คยูฮยอนส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวันแล้วพยายามจะคว้ามันออกไป แต่มือไม้มันไม่เอื้ออำนวยในเมื่อซีวอนยังซุกจมูกอยู่กับซอกคอของเขาแล้วไถนิ้วไปมาตรงนั้น

     

                “ร้อนแรงจังนะครับ น้องคยูฮยอนเนี่ย... ฮะๆ...” 

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    ยังคงคอนเซ้ปต์หื่นเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก (?) เอาไว้อยู่ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าใครเคยหยิบผิดหรือเปล่า แต่ตอนเด็ก ๆ จีนคนนึงหล่ะหยิบผิดมา... พอกลับมาถึงบ้านลองบีบดูก็ว่าทำไมมันลื่น ๆ ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่พอโตมาหน่อยถึงได้รู้ รีบเก็บใส่ลิ้นชักซ่อนเลยจ้า 55555555555555555555555555555 โคตรกลัวพ่อกับแม่เห็นอ่ะ -.-

    แก่นสารของตอนนี้คือแนะนำเพื่อนฝั่งซีวอน ซึ่งเราว่าดูปกติบ้างไม่ปกติบ้าง ตัวจี๊ดเลยคือยูชอนกับแทคยอน สองคนนี้คู่หูคู่ฮา ฉันเอามาแมชต์ได้ไงไม่รู้เหมือนกัน 5555555555555555555

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×