คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : { treilea } 50%
{ treilea }
ชเวซึงฮยอนเป็นผู้ชายที่ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามเมื่อมองจากรูปลักษณ์ภายนอก หากแต่เมื่อรู้จักนิสัยใจคอ เซฮุนคิดว่าร่างสูงนี้น่าขยะแขยง เขาไม่ได้ใช้คำแรงเกินไป น่าขยะแขยงจริงๆ
“คุณเคยขอผมดูแลมนุษย์โคลนไว้นี่... เป็นอะไรไหมถ้าผมอยากจะขอดูรายละเอียดเกี่ยวกับเขาหน่อย" น้ำเสียงอันน่าเกรงขามเอ่ยถามเขาอย่างบีบบังคับ เซฮุนรู้ว่าตัวเองไม่อาจปฏิเสธได้เขาจึงเพียงแค่ค้อมตัวลงเล็กน้อยตามมารยาทแล้วปลีกตัวไปยังลิ้นชักบรรจุเอกสาร มือบางหยิบแฟ้มสีน้ำตามเข้มขึ้นมา ภายในนั้นเต็มไปด้วยตัวแอักษรภาษาอังกฤษ ระบุอาการของโคลนนิ่งหมายเลย 784 เอาไว้ละเอียดยิบ
ดวงตาคมกริบองซึงฮยอนปราดมองหน้ากระดาษอย่างใจย็น ร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้บริเวณมุมห้องเป็นสัญญาณว่าเขากำลังจะอ่านย่างละเอียด นั่นทำให้โอเซฮุนต้องก้อนหนืดลงไปในลำคออย่างยากลำบาก
“เขาดูสมบูรณ์นะ จากผลการตรวจของนาย"
“ครับ ร่างกาของเขาแข็งแรงขึ้นเยอะเมื่อได้รับการฟื้นฟู" โอเซฮุนโป้ปดออกไปคำโตด้วยใบหน้าเรียบเฉย หากแต่หัวใจของเขากลับเต้นระส่ำ สมองกลมๆที่เต็มไปด้วยสูตรตัวเลขและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์บัดนี้เหลือเพียงบทสวดอ้อนวอนพระเจ้าขอให้เวลาผ่านไปให้เร็วที่สุด
ขออย่าให้ซึงฮยอนรู้ว่าคริสไม่ได้แข็งแรงพอจะมีชีวิตอยู่อย่างคุ้มประโยชน์
ขอไม่ให้ซึงฮยอนรู้ว่าคริสไม่ได้รับการตรวจมาหลายเดือนแล้วและทุกอย่างในนั้นเป็นเพียงตัวอักษรที่ไม่มีมูลความจริงใดๆ
อย่าให้ซึงฮยอนรู้เลยว่าคริสเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจมากกว่าการเป็นมนุษย์โคลนซึ่งมีเพียงอวัยวะเปล่า
“รู้อะไรไหมโอเซฮุน" แฟ้มในมือของซึงฮยอนถูกปิดลง เซฮุนโล่งใจที่สุดแม้เขาจะต้องเผชิญหน้ากับบทสนทนาอันน่าอึดอัดต่อมาก็ตาม "พ่อบอกว่านายเป็นคนเก่งที่หัวรั้น"
“...”
“ถ้านายต้องการทำอะไรนายก็ต้องทำให้ได้ โดยไม่สนว่ามันผิดหรือถูก...จริงไหม?”
“...” เซฮุนไม่ตอบ เขาเลือกเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของพ่อ เคยเป็นคนที่ครั้งหนึ่งเขานับถือแบะรักใคร่ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ซึ่งมันแตกต่างจากที่เป็นอยู่ในวินาทีนี้เหลือเกิน
“เลิกไปที่โบสถ์นั่นซะ" เหลือเพียงเสียงกรัซิบแผ่วเบาของคนที่ขยับเข้ามาประชิดร่างของเขา เสียงทุ้มที่กดต่ำจนน่ากลัวเก็บไว้ให้ได้ยินเพียงแค่สองคนเท่านั้น เซฮุนไม่ได้ให้คำตอบแต่เขาขบฟันแน่นจนมันมีเสียงเสียดกันและซึงฮยอนก็หัวเราะออกมา
“...”
“ไม่ได้สินะ"
“ครับ...ไม่ได้"
“นายมันเป็นไปตามอย่างที่พ่อนายเคยพูดไว้จริงๆ"
“คุณก็เหมือนกันครับ คุณก็เป็นเหมือนที่พ่อพูดไว้" บทสนทนาคุกรุ่นเรียกความสนใจจากคนรอบข้างได้มากยิ่งขึ้น คยูฮยอนเอื้อมมือมาจับที่ข้อแขนของเขาเหมือนต้องการปรามให้เย็นลงแต่ในเวลาแบบนี้ ต่อให้้เอาน้ำจากขั้วโลกเหนือมาสาดเขาก็ไม่อาจดับไฟในอกที่มันก่อตัวขึ้นเพราะคนที่ฆ่าพ่อเขาได้หรอก
“...”
“พ่อบอกว่าคุณฉลาด คุณเก่ง และอัจฉริยะ"
“...” ซึงฮยอนยกยิ้มที่มุมริมฝีปากอย่างย่ามใจ เขาขยับตัวถอยห่างออกมาจากโอเซฮุน
“แต่น่าเสียดายที่คุณไม่เคยใช้ความฉลาดนั้นเลยแม้แต่น้อย...”
“!!!”
“พ่อบอกว่าสุดท้ายคุณจะตายแบบคนโง่ คนที่ไร้เกียรติ เพราะแม้แต่เกียรติของตัวเองคุณก็ยังไม่เคยขุดมันขึ้นมาใช้เลยครับ" เซฮุนขบฟันแน่น เขาไม่ได้พึงใจที่ได้เห็นแววตาวาวโรจน์ของซึงฮยอน มือหนาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้คุ้มครองปรี่เข้ามาบีบที่ปลายคางของเขาอย่างแรงแต่เซฮุนตระหนักรู้ดีว่าซึงฮยอนทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น
“โอเซฮุน อย่ามาอวดดีกับฉัน..."
“ครับ ผมรู้...” เขาตอบหลังจากฝ่ามือนั่นสะบัดใบหน้าของเขาออกมา เซฮุนจ้องมองใบหน้าคมคร้ามที่ติดประดับด้วยอารมณ์คถกรุ่น ริมฝีปากบางแสยะยิ้มเย็นออกมา
“รู้แล้วก็จำซะ แล้วก็ช่วยปฏิบัติด้วย...”
“ครับ...ผมจะปฏิบัติอย่างดี" ผู้มีวัยวุฒิน้อยกว่ากล่าวรับคำเสียงแข็ง "ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้"
ซึงฮยอนพยักหน้ารับเงื่อนไขที่เปรียบเสมือคำท้า ฝ่ามือหนาตบชายเสื้อของตัวเองเบาๆแล้วเป็นฝ่ายเดินนำออกไปจากห้องโดยไม่ใยดีผลตรวจหรืออะไรก็ตามอีก สิ่งที่ผู้ชายต่ำแหน่งสูงทิ้งเอาไว้เบื้องหลังคือความกดดันที่ทำให้ทั้งห้องทดลองเงียบกริบ
โอเซฮุนปรายตามองเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ส่งยิ้มจางๆมาให้เขา
“ขอโทษทีคยูฮยอน...ขอโทษ...” เซฮุนเอ่ยเสียงแผ่วกับคนข้างกาย คำขอโทษของเขาหมายถึงทุกเรื่องที่ผ่านมา ไม่ว่าจะก่อนเข้าสู่การทดลองวิจัยบ้าบอหรือกระทั่งในเวลานี้ที่เขากำลังปกปิดความลับบางอย่าง
เซฮุนตระหนักได้ว่าหากชเวซีวอนสำคัญกับคยูฮยอนมากแค่ไหน
คริสก็สำคัญกับเขามากขนาดนั้นเช่นกัน
50 %
เราไม่รู้ว่ามีคนอ่านเรื่องนี้หรือเปล่า
เลยขอถือว่าเป็นคลังไว้เก็บละกัน ฮ่าาาา
ความคิดเห็น