คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Fall
ความผูกพันเริ่มต้นด้วยการสบตาในยามเช้า
สานต่อในอ้อมกอดกลางดึก
“คุณเป็นนักวาดรูปเหรอ?”
“อืม”
“วาดแต่รูปอย่างเดียวเหรอครับ?”
“ก็...รับงานออกแบบด้วย
ถ้าถูกใจจะทำน่ะนะ” จงอินตอบคำถามพร้อมกับลากมือขึ้นเส้นโครงลงบนผืนผ้าใบตรงหน้า
ขีดเส้นดินสอทบไปทบมาตามความรู้สึกของตัวเองที่คิดว่ามันใช่โดยมีเซฮุนชะเง้อคอขึ้นมองขั้นตอนเหล่านั้นด้วยความสนอกสนใจ
ดวงตาเรียวเหลือบมองปลายยอดดอกหญ้าสีขาวปุกปุยในท้องทุ่งสลับกับโครงร่างคร่าวๆของจงอินซึ่งเริ่มเป็นรูปเป็นร่างอยู่บนผ้าใบ
เขาไม่มีความรู้เรื่องการวาดภาพมากนัก ทั้งยังเคยคิดว่ามันเป็นงานน่าเบื่อ
สืบเนื่องมาจากการได้คะแนนน้อยในวิชาดังกล่าว แต่คิมจงอินกำลังค่อยๆเปลี่ยนทัศนคติของเขาให้สลับขั้ว
ศิลปินวัยสามสิบตอนต้นร่ายมนต์สะกดสายตาไม่ให้หันเหไปไหนได้ด้วยเสี้ยวหน้าคมคร้ามตัดกับแววตาอ่อนละมุนที่มองปราดไปทั่วผืนผ้า
พินิจลายเส้นแกรไฟต์อันแสนวิจิตร ยิ่งเมื่อแสงแดดอ่อนฉายลงมาบนผิวกายสีเข้มยิ่งทำให้คิมจงอินดูเหมือนเทวดาผู้มีสรรพวิชาในงานศิลป์
ราวกับถ้าหากภาพวาดนั้นสำเร็จสมบูรณ์แล้วมันจะหลุดออกมามีชีวิต
โลดแล่นอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงได้
“แล้วส่วนมากนายทำอะไรเหรอ?” จงอินเป็นฝ่ายตั้งตำถามบ้างหลังจากเซฮุนนิ่งไป
การเปิดบทสนทนาไม่ใช่เรื่องถนัดของเขา มันค่อนข้างลำบากใจเวลาต้องเป็นคนคิดคำถาม สมองกลวงอันแสนเชื่องช้าจะประมวลเอาเรื่องราวต่างๆมาปนเปะปะกันเต็มไปหมด
มีประโยคนับร้อยพันผุดขึ้นมาในคราวเดียวกัน ทำให้จงอินกลับไม่สามารถเลือกได้ว่าควรพูดอะไรออกไป
แต่อาการเหล่านั้นไม่ปรากฏเมื่อยามเมื่อต้องเป็นฝ่ายเริ่มพูดอะไรสักอย่างกับโอเซฮุนก่อน
อาจเป็นเพราะดวงตาคู่สวยไม่ทำให้เขาต้องกังวลอะไร
“ผมเป็นตากล้อง”
“ตากล้องทั่วไปเลยเหรอ?”
“ช่างภาพนิตยาสารแฟชั่นครับ แต่ก็หยุดไปสักพักแล้ว...ตอนนี้ผมเรียนโทอยู่” จงอินขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจมากกว่าเดิม
เผลอจ้องหน้าเซฮุนแล้วขำออกมาเบาๆ เพราะในจินตภาพของเขา เซฮุนเหมือนลูกคุณหนูคนเล็กของบ้านมากกว่าช่างภาพที่จะต้องออกไปลุยงานสมบุกสมบัน
ด้วยทรงผมสีบลอนด์ที่ตัดแต่งอย่างเรียบร้อยและท่าทางการพูดจาที่เป็นทางการ
ทั้งหมดนั่นให้ความรู้สึกขบขันพิลึกเมื่อรู้ว่ามืออันแสนบอบบางต้องจับตัวกล้องหนักเป็นกิโลไปเผชิญแสงแฟลชชนิดทำลายล้างม่านตาตลอดเวลา
“ทำไมหัวเราะอ่ะ...”
“เปล่าๆ แค่ไม่คิดว่านายจะถ่ายรูปน่ะ
นายเหมือนนักศึกษาปีสองหรือไม่ก็นักธุรกิจมากกว่า”
“ห๊ะ?!” สีหน้าเซฮุนเต็มไปด้วยความตกใจ
เขากลอกตามองท้องฟ้าแล้วตวัดไปจ้องสบกับดวงตาของจงอินตรงๆ “นั่นมันไม่ใช่ผมเลย...ไม่เลยสักนิด”
“อ่าวเหรอ?”
“ผมเกลียดธุรกิจและปีนี้ผมอายุยี่สิบแปดแล้ว” น้ำเสียงที่เคยเบาหวิวกลับเน้นย้ำหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำ
เพื่อให้คนที่กำลังเคลื่อนกายมาหย่อนตัวนั่งข้างกันเปลี่ยนความเข้าใจผิดนั่นเสียใหม่
จงอินยังคงมีรอยยิ้มติดมุมปาก
แม้แต่ตอนที่ส่งซองบุหรี่ในมือไปให้เซฮุนแล้วโดนปฏิเสธ
ใบหน้าคมคร้ามก็ยังคงมีรอยยิ้มติดอยู่ “ผมไม่สูบ”
“อ่า...”
“คุณก็ควรจะเลิกมันนะ”
“ฮ่าๆ...นั่นก็ไม่ใช่ฉันเลย” น้ำเสียงทุ้มของจงอินเจือเสียงหัวเราะขัน
มวนบุหรี่ติดไฟยกขึ้นมาแนบปากแต่มันก็ล้มเหลวเมื่อเศษหญ้าในมือของคนข้างกายลอยมาติดอยู่ข้างริมฝีปากและปลายคาง
เขาใช้มือป้ายมันออกอย่างไม่ใส่ใจแล้วระเบิดหัวเราะเสียงดังขณะพยายามเบี่ยงตัวหลบออกจากวิถีเศษหญ้าระลอกสองซึ่งกำลังปลิวมากับเสียงร้องเอะอะ
“คุณย้อนผมนี่!”
“อะไรกัน ฉันแค่ยืมประโยคนายมาพูดเอง”
“ย๊า! คุณนี่มัน...” เซฮุนสบถ
จิ๊ปากขัดใจและเริ่มทำการดึงหญ้าขึ้นมาอีกครั้งเพื่อปาใส่ศิลปินหนุ่มผู้พยายามปกป้องทั้งมวนบุหรี่และใบหน้าของตัวเองไปพร้อมๆกัน
การเอาคืนอย่างเป็นทางการส่งผลให้สงครามกระสุนหญ้าดำเนินต่อไป
จงอินตัดสินใจขยี้บุหรี่ของตัวเองลงกับพื้นดินแฉะเพื่อให้มีมือว่างใช้เด็ดหญ้าปาใส่เซฮุนบ้าง
เสียงหัวเราะของทั้งสองก้องกังวานไปทั่วทุ่งระยะห่างระหว่างกันลดลงเป็นศูนย์เมื่อเซฮุนสามารถผลักจงอินล้มลงไปหนอนหงายอยู่บนพื้นได้
ร่างผอมขึ้นคร่อมทับหน้าท้องอีกคนเอาไว้แล้วเอาหญ้าในมือป้ายไปบนแก้มกร้านของหนุ่มศิลปินให้เลอะเป็นแถบ
หากเป็นคนอื่นจงอินอาจจะนอนนิ่งแล้วปล่อยให้ตัวเองโดนกระทำจนสาสมแต่เพราะเหนือร่างของเขาคือโอเซฮุน
จึงไม่มีอะไรเป็นเหมือนในความคิด มือหนาเอื้อมไปคว้าเอวของคนตรงหน้า
กระชากลงมากะให้เซฮุนเสียหลัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ทุกอย่างหยุดชะงักเพราะเซฮุนไม่ได้เอียงล้มลงไปบนพื้นตามที่จงอินต้องการ
ร่างบางกลับถลาลงมาทับบนลำตัวของเขาพอดี
ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันแค่จมูกชนจมูก กลิ่นหอมของเซฮุนปะทะกับกลิ่นบุหรี่ของจงอิน โลกเหมือนหยุดโคจรรอบตัวเองไปแล้วในช่วงเวลานั้น จงอินลืมวิธีการหายใจ เซฮุนลืมไปว่าตัวเองควรลุกขึ้น ดวงตาสบมองประสานกันราวกับกำลังส่งผ่านบางอย่างที่มองไม่เห็น
บางอย่างที่ว่าอาจหมายถึงการที่ริมฝีปากของทั้งคู่ ที่แตะกันจนแนบสนิท บางอย่างที่ว่ามีแรงดึงดูดมากเสียจนต่างฝ่ายต่างดูดดึงกลีบปากของกันและกันโดยไม่คิดจะผละออก
มือของเซฮุนสอดเข้าแทรกในกลุ่มผมสีน้ำตาล ขยุ้มรั้งจนมันชี้ไปคนละทิศละทางเพื่อระบายความรู้สึกวาบหวามยามลิ้นชื้นสอดเข้ามากวาดกว้านภายในโพรงปากของเขาเหมือนงูพิษหลงทางในเขาวงกต
วูบหนึ่งที่ใบหน้าของทั้งสองขยับห่างออกมาและมันทำให้เราได้จ้องมอง
ทบทวนความรู้สึกของกันและกันที่ปรากฏอยู่ในดวงตา
ทั้งจงอินและเซฮุนคิดว่ามันผิด...พวกเขาไม่ควรผละออกมาในเมื่อเวลานี้เราทั้งคู่ประกอบสร้างขึ้นด้วยความโหยหา
ดังนั้นเราจึงขยับเข้าหากันอีกครั้งแล้วบดจูบให้ดูดดื่มกว่าครั้งก่อน
- - -
ขาตั้งสำหรับวาดภาพถูกจับกองลงไปกับพื้นบ้านอย่างไม่ใส่ใจเช่นเดียวกับผ้าใบสีขาวผืนใหญ่ที่กลิ้งโค่โล่ไปติดอยู่กับซอกตู้
กล่องสีกระเด็นไปนอนเคียงกับชั้นวางรองเท้า ในขณะที่ร่างผอมบางถูกจับยกขึ้นมาด้วยท่อนแขนแกร่งทั้งสองข้างที่มีริ้วมัดกล้ามปรากฏให้เห็นเป็นแถบอยู่บ้างหลังห่างหายการออกกำลังกายไปนานเกือบครึ่งปี
เซฮุนไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางที่จงอินพาเขาไปจะเป็นที่เดียวกับที่ตนคิดไว้หรือเปล่า
เพราะเขามองไม่เห็นอะไรสักอย่างในเมื่อดวงตาทั้งสองข้างจับได้เพียงภาพใบหน้าคมคร้ามเปี่ยมเสน่ห์เท่านั้น
จงอินยังคงระดมจูบแก้มทั้งสองข้างสลับกับบดเบียดริมฝีปากเข้ามาแลกลิ้นกันทั้งในและนอกโพรงปาก
ขาทั้งสองข้างยังก้าวเดินฉับๆและยังสามารถเตะประตูบ้านให้ปิดลงมิดชิด
แผ่นหลังบางสัมผัสได้กับไอเย็นเฉียบจากผนังปูน
ดวงตากลมเหลือบมองไปรอบตัวเพื่อสำรวจว่าตรงนี้คือส่วนไหนของบ้านและเขาก็ได้คำตอบในทันที
มันคือมุมอ่านหนังสือเล็กๆในห้องนั่งเล่นขนาดย่อมที่เบี่ยงออกมาจากจอโทรทัศน์เล็กน้อย
เซฮุนไม่รู้ว่าทำไมมันถึงต้องเป็นที่นี่กระทั่งจงอินวางเขาลงบนโต๊ะไม้สักขนาดใหญ่ที่กลางห้องจึงเริ่มเข้าใจ
ใบหน้าของศิลปินหนุ่มยอมขยับให้คนตรงหน้าพักหายใจจากรสจูบมาราธอนที่เกิดขึ้นตลอดหลายนาทีก่อนหน้า
กระนั้นเซฮุนกลับเป็นฝ่ายคว้าลำคอแกร่ง
ประคองดวงหน้าเข้มด้วยอุ้งมือเรียวอุ่นพร้อมไล้นิ้วโป้งสัมผัสไปตามแนวสันกรามก่อนจะดึงใบหน้าคมคร้ามลงมาป้อนจูบ
ดวงตาฉ่ำเยิ้มช้อนขึ้นมองริมฝีปากบวมเจ่อที่กำลังเผยอออกโกยอากาศหายใจ คราวนี้เป็นจงอินที่ทนไม่ไหวแล้วโน้มตัวลงบดจูบเหนือกลีบปากสีชมพูกระจับของเซฮุนก่อน
แต่พอในจังหวะหลังก็เป็นเซฮุนที่คอยเบียดเข้าหา
เริ่มต้นอย่างเชื่องช้าด้วยการแตะหยั่งเชิงตรงกลีบปากด้านบนแล้วผละออกมา
ตาทั้งสองคู่มองประสานก่อนที่จงอินจะเป็นฝ่ายขยับโน้มใบหน้าเข้าไปฉกริมฝีปากล่าง
ดูดคลึงเอาไว้ด้วยส่วนเดียวกันของตัวเองอยู่นานสองนานก่อนจะยอมผละออกมาเพื่อชมผลงานบวมเจ่อ
“ฉันจะไม่ขอโทษนายหลังจากนี้แน่ๆ...” จงอินพูดเบาๆ ปิดประโยคด้วยการกดจูบลงบนมุมริมฝีปาก
สันจมูกตรงทู่ซุกอยู่กับข้างแก้มนวลขาว
เบียดใบหน้าและลำตัวเข้าไปใกล้โดยไล้ฝ่ามือวนไปรอบขอบกางเกงของอีกคน
“ผมก็จะไม่ขอให้คุณอภัยให้ผมเหมือนกัน” เซฮุนขบติ่งหูของจงอิน
ก่อนยกสะโพกขึ้นด้วยการเกี่ยวแขนไว้รอบคออีกฝ่ายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การเปลื้องกางเกงออกไป
ลมหวิวที่พัดเข้ามาแตะผิวเนื้อบอกให้รู้ได้ว่าเขาสูญเสียอาภรณ์เบื้องล่างไปแล้วด้วยความเต็มใจ
CUT
[เจอีเอเอ็นอีทีอาร์ไอเอ็กซ์ จุด บีแอลโอจีเอสพีโอที จุด คอม]
ที่แถบสีเทาด้านบนจะมี Kaihun Contents จิ้มเข้าไปในนั้นเลยจ้า
- - -
LAST UPDATE : 25/01/16
#ฮายโฮป
Fall ไปที่ไหนคงไม่ต้องบอก
ขอบคุณทุกคอมเมนต์เลยนะ <3 อ่านแล้วอุ่นมาก -///-
ความคิดเห็น