ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { wonkyu } Every Night Stand

    ลำดับตอนที่ #16 : CHAPTER XV.

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 56


    CHAPTER XV
    จังหวะเดียวกัน

     

                คยูฮยอนพลิกตัวไปชิดกับพนักโซฟาเพื่อปิดหูปิดตาตัวเองออกจากสารคดีเกี่ยวกับเรื่องแม่มดมนต์ดำซึ่งกำลังฉายอยู่ในจอโทรทัศน์ เขาไม่นึกชอบเรื่องลี้ลับซับซ้อนพวกนี้อะไรอยู่แล้วหล่ะถ้าไม่ติดว่าพี่ซีวอนนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงปลายโซฟาอีกข้างก็คงจะกล้าเอื้อมไปคว้ารีโหมทมากดเปลี่ยนช่องตั้งแต่เปิดมาเจอแล้ว นี่บังเอิญคนที่นั่งหน้าบู้อยู่ตรงนั้นดันเป็นฝ่ายไล่ช่องมาหยุดเองเขาก็เลยไม่อยากจะขัดอารมณ์เท่าไหร่

     

                “...เรื่องราวของแม่มดยังคงเป็นที่ค้นหาในหลายทวีป แม้แต่ในเอเชียเอง เรายังสามารถพบหมู่บ้านของเหล่าผู้ลี้ลับได้ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละเผ่าพันธุ์ แต่ละพื้นที่....”

     

                ภาพเงาปราสาทสีดำทะมึนในจอหลอกหลอนเข้าไปในหัวสมองกลมๆของคยูฮยอนเรียบร้อยแล้ว ร่างผอมถดตัวเองอย่างเชื่องช้าและ(คิดว่า)แนบเนียนที่สุดเพื่อขยับเข้าไปใกล้พี่ชายตัวสูง ซีวอนก้มหน้าลงมองกระดาษในมือแล้วหมุนปากกาวนสลับกลับไปกลับมาอยู่บนนิ้ว เรียวคิ้วสีเข้มขมวดบิดเข้ามาหากันเป็นพักๆ มีคลายออกบ้างตอนที่คงจะนึกอะไรออกแล้วเขียนกรอกลงไปบนกระดาษ

     

                แต่โมเมนต์นั้นน้อยเหลือเกิน... มีแต่โมเมนต์นั่งจ้องแล้วขมวดคิ้วเป็นก้อนแทน

     

                “ฮยองครับ...”

     

                “ไร?” เสียงทุ้มตวัดถามทันทีด้วยการแสดงออกว่าไม่สบอารมณ์นักที่ตัวเองโดนเรียกหา

     

                “คือ... เปลี่ยนช่องได้ไหมครับ?”

     

                “...” ซีวอนเหลือบมองหน้าจอทีวีซึ่งไม่ได้รับความสนใจจากเขามานานแรมชั่วโมงแล้วค่อยหันกลับไปมองคนที่ขยับตัวเข้ามาเสียชิดสลับไปมาอยู่สองสามครั้งก่อนจะตัดสินใจกดปิดเครื่องบันเทิงอารมณ์ขนาดยักษ์ลงเสียให้บรรยากาศในห้องเหลือเพียงความเงียบสนิท

     

                “เอ่อ...”

     

                “ไปอาบน้ำไป...” ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแล้วตัดบทด้วยการก้มหน้าลงจดจ่อกับแผ่นกระดาษในมือเหมือนเดิม มิได้สนใจท่าทีหงายของคยูฮยอนเลยแม้สักนิดเดียว... นี่มันฆ่ากันชัดๆ สั่งให้โจวคยูฮยอนที่เพิ่งจะซึมซับเรื่องลี้ลับเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำเพียงลำพังเนี่ยนะ...

     

                สั่งให้ไปขี่ไม้กวาดล่าแม่มดยังรู้สึกดีกว่าเลยเถอะ!

     

                อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ความน่ากลัวของผีสางนางไม้กับชเวซีวอนก็มีอยู่พอๆกันนั่นแหละ คยูฮยอนก็เลยจำใจลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนเพื่อจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า สาบานได้เลยว่าวันนี้โจวคยูฮยอนจะอาบน้ำให้เร็วเสียยิ่งกว่าวิ่งอีกคอยดู

     

                บานประตูห้องนอนปิดลงเบาๆเมื่อคนขี้กลัวเดินเข้าไปแล้ว ซีวอนเงยหน้าขึ้นเหลือบตามองสำรวจอีกครั้งว่าคยูฮยอนเข้าไปแล้วจริงหรือไม่ และเมื่อพบว่าภายในห้องนั่งเล่นเหลือแค่เขาเพียงลำพังร่างสูงก็คลายปมคิ้วกับหน้ายักษ์ของตัวเองออก วางกระดาษที่มีตัวอักษรเขียนพาดอยู่เพียงสองสามบรรทัดลงกับโต๊ะก่อนจะลุกย่องตามเข้าไป

     

                เสียงฮัมเพลงเบาๆกับน้ำไหลฟู่ฟ่าบ่งบอกได้ว่าคยูฮยอนเดินเข้าห้องน้ำไปเรียบร้อย เขาค่อยๆดันประตูพับลงไปแต่ไม่ให้ปิดสนิทแล้วค่อยๆย่องเข้าไปคว้าเอาเสื้อคลุมสีดำตัวโคร่งมาคลุมไว้รอบหัวของตัวเอง จับเอาแขนเสื้อผูกไว้ที่ตรงลำคอแล้วเกลี่ยผมหน้าม้าลงมาปรกหน้าผาก แต่ด้วยความยาวของมันก็เลยปิดดวงตาทั้งสองข้างของเขาเอาไว้มิด

     

                ซีวอนหัวเราะคิกคัก อมยิ้มอยู่คนเดียวด้วยนึกคิดว่าถ้าไอ้เด็กฮยอนมาป๊ะเข้าจะตกใจขนาดไหน... ขยับตัวไปที่หน้ากระจกแล้วทำตัวเองให้น่ากลัวด้วยการเอาแป้งมาโป๊ะหน้าจนขาววอก เอาผ้าคลุมไหล่สีดำที่ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าเป็นของใคร (คู่นอนเขาสักคนนั่นแหละ... หล่อนเสือกลืมเอาไว้ให้เขาหยิบมาทำพร็อพเอง) มาคลุมบนบ่ากว้างของตัวเองลวกๆ

     

                เดินกลับไปที่ประตูห้องอีกครั้งแล้วจัดการดับไฟภายในห้องนอนให้มืดสนิท เขาดึงประตูกลับมาก่อนจะผลักให้มันปิดแรงๆจนเกิดเสียงดังกัมปนาทไปทั่ว

     

                “เฮือก!!” ไองั่งฮยอนส่งเสียงร้องเฮือกใหญ่ออกมาทันทีหลังจากบานประตูแนบลงไป ซีวอนรีบผละตัวเองเข้าไปซ่อนอยู่บริเวณโต๊ะเขียนหนังสือฝั่งติดหน้าต่างแล้วย่อตัวลงให้แสงจากระเบียงสะท้อนเงาของเขาทาบไปบนตู้เสื้อผ้า

     

                เป็นไปอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด คยูฮยอนกุลีกุจอเอาผ้าผูกเอววิ่งออกมาจากห้องน้ำทันทีทั้งที่ตัวยังชื้นน้ำอยู่เต็มไปหมด หัวกลมๆมหันซ้ายหันขวาท่ามกลางความมืดด้วยท่าทางตื่นกลัวสุดฤทธิ์ซึ่งมันยิ่งทำให้ซีวอนหยุดขำไม่ได้หนักเข้าไปใหญ่

     

                “ใครอ่ะ!!” คยูฮยอนตะโกนฝ่าความเงียบออกมาทั้งท่าตัวเองแข็งเกร็งไปหมด ดวงตากลมมองเลิกลักเหมือนคนทำอะไรไม่ถูกไปทั่วห้องและการขยับขาตรงไปยังบานประตูก็ทำให้ซีวอนรู้ได้ว่าไอ้เด็กฮยอนคงต้องวิ่งออกไปนอกห้องแน่ๆ

     

                “หึ!” คิดได้ดังนั้นคนขี้แกล้งจึงรีบดันตัวเองขึ้นมาจากพื้น แสงไฟระเบียงที่สาดเข้ามาให้เกิดเงาขนาดใหญ่พาดไปบนตู้เสื้อผ้า หน้าของไอ้เด็กฮยอนเหวอหวาจนอยากจะขำให้ท้องระเบิด ริมฝีปากบางอ้ากว้างด้วยความตกใจ ขาเรียวเล็กนั่นสั่นไปหมด มือไม้ก็เลือกไม่ถูกว่าจะวางไว้ตรงไหน ปัดไปปัดมาทั้งตามลำตัวและอากาศ

     

                “อย่า!! อย่าทำผม!! พระเจ้าคุ้มครอง โปรดเมตตาลูกด้วย...อย่าเข้ามานะผม...ผม....โอ่ยย...ไม่มีไม้กางเขน....ผม..อย่าเข้ามานะ!!” มันยื่นมือที่สั่นเป็นเจ้าเข้าออกมาชี้หน้าผมที่กลั้นขำไม่อยู่จนตัวสั่นไปหมด แต่ก็ยังแสร้งเดินแข็งๆขัดๆเข้าไปหามันอยู่ดี

     

                “ไม่เอานะ!...พี่ซีวอน!!! พี่ซีวอนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!” เสียงหวานตะโกนดังลั่นเรียกคนที่เขานึกออกเป็นคนแรกเพราะในวินาทีนี้ แข้งขาเรียวขยับไปไหนไม่ได้เพราะความกลัวกำลังเกาะกินจนเขานึกไม่ออกว่าต้องยกขายังไง คยูฮยอนจึงตัดสินใจย่อตัวลงไปนั่งยองๆกับพื้น กอดขาเอาหัวซุกเข่า ขดเอาไว้เพื่อไม่ให้ปีศาจร้าย(?)เข้ามาทำอะไรได้

     

                “เรียกกูทำไม!” เจ้าปีศาจที่ไม่รูว่าเคลื่อนไหวยังไงโผล่มาอยู่เบื้องหลังของเขา คยูฮยอนตกใจจนไม่ทันได้ฟังว่าอีกฝ่ายพูดอะไร เขาถดตัวเองเข้าไปจนติดขอบเตียง เบ้หน้าเบ้ปากไปคนละทิศคนละทางพร้อมกับขยับปากไล่ปีศาจร้ายให้ออกห่างไปเสีย

     

                “อย่าเข้ามา!! ฮืออออ...อย่าเข้ามานะ...พี่ซีวอน ช่วยผมด้วย!! ผีมา!! พี่ซีวอนนนนนนนนนน!!

     

                “มึง...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กูไม่ไหวละสัด! ฮ่าๆๆๆๆๆ” ผีร้ายระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อไม่อาจทานทนความตลกขบขันต่อไปได้อีก ซีวอนดันเสื้อคลุมออกมาจากหัว สลัดผ้าออกไปจากบ่าก่อนจะย่อตัวลงนั่งตรงหน้าคนที่ถดตัวเองไปชิดเตียงจนผ้าหลุดร่นกองไปอยู่ที่พื้น

     

                “...ฮยอง!

     

                “ไอ้เหี้ย กูฮาจะไม่ทน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” แขนแกร่งเอื้อมไปคว้าคนที่ยังนั่งสั่นงกเงิ่นเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแล้วลูบกลุ่มผมนุ่มๆสองสามครั้งเพื่อให้อีกคนคลายความกลัวลงไป

     

                “ฮยอง! ผมตกใจแทบบ้าอ้ะ!!” มันร้องเสียงอู้อี้ ฟังไม่รู้เรื่องแล้วทุบรัวที่แผ่นหลังของเขาอย่างคาดโทษ ก่อนจะนึกได้ว่าผ้าขนหนูมันหลุดหายไปไหนแล้วถึงได้เอื้อมไปรั้งขึ้นคลุมไว้รอบสะโพกไม่ให้เองอยู่ในภาพอนาจารต่อหน้าผู้ชายอันตรายอีก

     

                “หน้ามึงฮาสัด! ฮ่าๆๆๆๆ..โอ่ย.... กูอยากจะถ่ายคลิปไว้ให้ดู”

     

                “ฮยองอ่ะ! โอ่ย...ผมตกใจจะบ้าแล้ว” พอได้สติคืนมาครบร้อยเปอร์เซ็นต์ คยูฮยอนก็รีบดันอกกว้างของอีกคนให้ออกห่างจากตัว (แบบนี้ล่อแหลมมาก) แล้วพยายามจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ความจริงเขาค่อนข้างจะหัวเสียเล็กน้อยถ้าไม่เห็นว่าซีวอนยิ้มกว้างออกมาได้มากกว่าตอนที่นั่งอยู่บนซาหลายเท่า

     

                ถือเสียว่าอุทิศตัวเองเพื่อรอยยิ้มของพี่ซีวอนแล้วกัน

     

                “ฮ่าๆ... หน้ามึงฮาหว่ะ” ถึงอย่างนั้นคยูฮยอนก็ไม่สามารถหลุดพ้นเอื้อมแขนยาวเหยียดจากผู้ชายที่เล็งเห็นเป้าหมายต่อไปได้แล้ว ซีวอนดึงให้ร่างผอมร่วงลงมาบนหน้าตักของเขาก่อนจะจัดการออกแรงเพียงปลายนิ้วโอบรอบสะโพกกลมแล้วดันคนที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวขึ้นไปบนเตียงนอน

     

                “ฮยอง ผมยังอาบน้ำไม่เสร็จ...” ดวงตากลมกลอกขึ้นมองใบหน้าคมคายที่ก้มลงมาซุกอยู่ที่ไหปลาร้าของเขา ซีวอนสูดจมูกฟุดฟิดจนเกิดเป็นเสียงชวนจั๊กจี๋ในท้องให้ได้ยินอยู่สองสามครั้งแล้วผละตัวเองออกมาถอดเสื้อยืดที่สวมอยู่ออกไป

     

                “งั้นก็ไปอาบด้วยกันนั่นแหละ” ดันขอบกางเกงยางยืดลงไปกับพื้นพรมจนอยู่ในสภาพล่อนจ้อนเปลือยเปล่าให้คนที่นอนอยู่บนเตียงเขินจนหน้าแดงลามไปถึงหู ซีวอนเกี่ยวแขนรอบเอวของคยูฮยอน รั้งร่างเบาโหวงขึ้นมาไว้บนบ่าแล้วเดินพาเข้าไปในห้องน้ำโดยที่อีกคนก็ไม่ได้เอ่ยทัดทาน คัดค้านอะไร

     

                อะไรเขาไม่ได้สมยอมนะ!

                ไม่อยากร้องโวยวายเฉยๆ... พี่ซีวอนอารมณ์ไม่ดีอยู่

     




     

    NC
     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

                “อ๊ะ...อ๊า...ฮยอง...อ๊า! ” เสียงครางหวีดสุดท้ายสิ้นสุดลงตอนที่คยูฮยอนปล่อยความต้องการของตัวเองออกมาแล้งทิ้งกายพิงกับกำแพงของตู้อาบน้ำ หลังจากรอบแรกที่กำแพงก็ยังมีอีกหลายรอบตามมาเรื่อยๆ ขยับเปลี่ยนทิศเปลี่ยนทางไปสารพัดจนกระทั่งมาจบลงที่ตู้อาบน้ำคับแคบที่แค่ยืนลมหายใจก็เป่ารดกันอยู่แล้ว

     

                ซีวอนปล่อยขาของอีกคนลงมาโดยจูบลาตรงข้อเท้ากลมเกลี้ยงไปเสียหนึ่งครั้ง คยูฮยอนยังคงรั้งคอของเขาเอาไว้แน่น เกี่ยวไม่ยอมปล่อยแม้ฝ่าเท้าจะเหยียบพื้นแล้วก็ตามซึ่งมันทำให้เขาต้องใช้นิ้วโป้งแตะเบาๆลงบนริมฝีปากบวมเจ่อซึ่งกำลังหอบฮักด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะบดจูบลงไปอีกครั้งบนริมฝีปากคู่นั้น

     

                “ล้างตัวเถอะ...” ซีวอนเปิดน้ำจากฝักบัวทั้งที่ยังขังคยูฮยอนเอาไว้ในอ้อมแขน ปล่อยให้สายน้ำไหลออกมาปะทะกับผิวเนื้อเปล่าอันแสนขาวนวลเนียน(น่าเจี๊ยะ)ก่อนเอี้ยวตัวไปบีบสบู่เหลวติดมือมาถูไปตามตัวเพื่อชำระคราบไคลให้อีกครั้ง ไม่ต่างจากเจ้าของผิวเนื้อเนียนเองที่ก็เอื้อมไปคว้าเอาสบู่มาถูให้เขาด้วยเช่นกัน

     

                “พรุ่งนี้เดี๋ยวพาไปเที่ยว...”

     

                “หือ?” เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของคำพูดที่กำลังสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางด้านหลังเพื่อล้างทำความสะอาด ซีวอนก้มหน้าจ้องดวงตากลมคู่นั้นแล้วยืนยันคำพูดเดิมซ้ำออกไป

     

                “พรุ่งนี้จะพาไปสวนสนุก”

     

                “จริงเหรอครับ?!

     

                “อืม... กูคิดเพลงไม่ออก จะไปหาไอเดีย”

     

                “อ่อ... แล้วเราจะได้เล่นเครื่องเล่นไหมครับ?” ด้วยกำลังตื่นเต้นกับการไปสวนสนุกทำให้คยูฮยอนไม่สนใจปลายนิ้วของอีกคนเลยแม้แต่น้อย ซีวอนพยักหน้าหงึกหงัก และไม่ได้ให้คำตอบอะไรกระจ่างชัดไปมากกว่านั้น เขาถอนนิ้วออกมา ใช้มืออีกข้างเกลี่ยปอยผมของคยูฮยอนเบาๆรอจนกว่าฝ่ามือนั้นจะถูกสบู่ให้เขาจนเสร็จ

     

                น้ำอุ่นไหลลงมาชำระคราบฟองสบู่ออกไปจากค่างเปล่าเปลือยของเขาและคยูฮยอนอีกครั้ง แต่ทีนี้ไอ้เด็กฮยอนขี้อ้อนที่รู้ว่าจะได้ไปเที่ยวพรุ่งนี้ก็เอามือมาขัดมาถูเขาเสียยกใหญ่จนสะอาดเกลี้ยงหมดจด แล้วค่อยพากันเดินออกมานอกห้อง จัดการสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย

     

                “ฮยอง งี้เราต้องรีบนอนใช่ไหมครับ...” ทันทีที่คยูฮยอนใส่เสื้อเรียบร้อยเจ้าตัวก็รีบกระโดดขึ้นไปจับจองพื้นที่บนเตียงนอนทันที ร่างผอมนั่งขัดสมาธิใช้ผ้าขนหนูขยี้ไปบนเส้นผมชุ่มน้ำเพื่อหวังให้มันแห้งโดยเร็วจะได้รีบเข้านอนเพื่อเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับการไปตะลอนสวนสนุกในวันรุ่งขึ้น

     

                “อืม... เช็ดผมให้แห้งแล้วนอนซะ” ซีวอนเดินอ้อมมาอยู่ข้างเตียงเพื่อวางมือลงบนกลุ่มผมของคนที่กลังตั้งหน้าตั้งตาเช็ดผม เขากดแรงลงบนฝ่ามือให้ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาก่อนจะจูบเบาๆลงไปตรงกลางหน้าผากแล้วเลื่อนริมฝีปากลากลงมาที่ปลายจมูกของไอ้เด็กฮยอนซึ่งนั่งนิ่งเป็นสากหินก่อนจะเดินกลับไปจัดการงานของตัวเองบนโต๊ะต่อไป

     

                จนตอนนี้เขาก็ยังคิดไม่ออกเรื่องเนื้อเพลงและได้เพียงแค่สองสามวลีปรากฏขึ้นมาบนแผ่นกระดาษเท่านั้น.... แต่ก็เป็นเพียงสองสามวลีที่ทำให้รู้สึกว่าความรักนั้นมีอยู่จริง ไม่ใช่แค่ความรู้สึกที่บังเอิญพัดเข้ามาแล้วผ่านไป

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    สวนสนุก... สนุกยังไงซีวอนก็ไม่เคยรู้หรอก แค่คิดว่ามันน่าจะสนุกกว่าการไปนั่งอยู่บนเบาะกลางห้องมืดแบบในโรงภาพยนตร์ หรือไม่ก็ห้องแอร์ขนาดใหญ่ที่มีแต่เสื้อผ้าแบรนด์เนมกับน้ำหอมกลิ่นผุ้ดีชวนเวียนหัวอย่างในห้างสรรพสินค้าแล้วกัน

     

                อันที่จริงมันไม่ใช่สถานที่ที่ซีวอนอยากมาสักเท่าไหร่หรอกนะ แค่คิดว่าจะลองเปลี่ยนบรรยากาศจากห้องคุดคู้อุดอู้มาเป็นสถานที่โล่งแจ้งให้อากาศถ่ายเท เข้าไประบายก้อนขี้เลื่อยในสมองของเขาออกมาบ้าง เผื่อจะคิดเนื้อเพลงท่อนต่อไปออก

     

                เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมาสวนสนุก แค่รู้สึกว่าในละคนซีรี่ย์วัยรุ่นหลายเรื่องมักจะมีฉากพระเอกพานางเอกมาสวีทที่สวนสนุก มันก็คงจะมีอะไรดีนอกจากเครื่องเล่นแอ๊บแบ๊วสีสดชวนหวาดเสียวแหละมั้ง แล้วก็ให้ไอ้เด็กฮยอนมันได้พักสมองตอนปิดเทอมบ้าง เดี๋ยวจะอ่านหนังสือจนหัวบานเป็นกระด้งไปเสียก่อน

     

    "โห... ค่าเข้าแพงจังครับ"

     

    "เออหน่า..." เงยหน้ามองป้ายบอกราคาราคาสูงชะลูดไม่ยี่หระนัก จะสนทำไมกันหล่ะในเมื่อปาร์คแลนแดนแฟนตาซีแห่งนี้เนี่ยมันเป็นของบ้านไอ้ยูชอน เขาก็เลยได้บัตรฟรีเล่นแม่งได้แต่เปิดยันปิด เช้ายันเย็น บนฟ้ายันใต้ดิน ความจริงคูปองร้านอาหารถ้าอยากกินฟรีก็ยังขอได้เลย โชคดีที่เขาทีมารยาทมากพอจะจ่ายเองหน่ะ

     

    "แต่..."

     

    "อยากเล่นไร?" ปัดคำถามของอีกคนออกไปด้วนการกางแผนที่อันใหญ่เท่าใหญ่บ้านแกมาเพื่อดูที่ตั้งของเครื่องเล่นแต่ละชนิด เรื่องสวนสนุกเขาเองก็ไม่สันทัดเท่าไหร่นัดหรอกจะยังไงวันนี้ก็ถือว่ามาเสี่ยงกับไอ้ฮยอนมันแล้วกันนะ

     

    "เอานี่ก็ได้ครับ เบาๆก่อน" ไอ้ฮยอนจิ้มจึกลงไปตรงมุมแผนที่ซึ่งก็ย่าจะอยู่ห่างจากปากทางเข้าที่พวกเขายืนกันอยู่ไม่เท่าไหร่ ผมเหลือบมองไล่หาตัวเลขเพื่อดูชื่อเครื่องเล่นก่อนจะพยักหน้าตกลง

     

    คาวบอยไรดิ้ง... เออ ชื่อฟังดูดี

     

    ซีวอนคว้ามือของอีกคนมาจับเอาไว้หลังจากจัดการพับแผนที่มาโคโปโล(?)ขนาดใหญ่ยักษ์มาหนีบไว้ใต้รักแร้แล้วก้าวขาเดินแยกไปตามทางที่ระบุไว้ในแผนที่ คยูฮยอนกระชับมือของตัวเองเข้าหาอุ้งมือใหญ่แล้วก้าวขาตามร่างสูงไปเร็วๆทั้งรอยยิ้ม

     

    หันซ้ายหันขวาหาไอ้เครื่องเล่นที่ชื่อว่าคาวบอยไรดิ้งอยู่พักใหญ่ก็มาหยุดขาลงตรงหน้าป้ายจนได้ ซีวอนเงยหน้าขึ้นมองเจ้าเครื่องเล่นตัวปัญหาด้วยสายตาที่แสดงออกมาว่าผิดหวังเต็มทน ไม่ต่างอะไรจากคยูฮยอนที่ได้แต่ยิ้มแหยออกมา

     

     

    ไอ้เหี้ย ที่บอกว่าเข้าท่าเมื่อกี้กูขอถอนคำพูด....

     

     

    คาวบอยพ่อมึงควบม้าเป็นวงกลมเหรอสัด!

     

    "ม้าหมุน.."

     

    "เสลดปลวกเอ้ย..." ซีวอนสบถออกมาอย่างนึกอารมณ์เสีย ยิ่งเห็นไอ้ม้าพลาสติกใส่หมวกหนังปีกบานหมุนไปหมุนมาแล้วเขายิ่งนึกโมโหใหญ่... แม่งก็แค่ม้าหมุนที่แต่งตัวเป็นคาวบอย

     

    ไอ้เชี่ยปาร์ค.. สวนสนุกมึงกากสัด!

     

    "อ่า... ไหนๆก็มาแล้ว สักรอบเถอะครับ"

     

    "-___-" << หน้าตาไม่อยากขี่ม้า

     

    "หน่าฮยอง... หมุนไปหมุนมาฮยองอาจจะคิดเพลงออกก็ได้นะครับ" คยูฮยอนไม่รีรอให้อีกคนแสดงท่าทางอะไรอีก มือบางที่สอดอยู่ในอุ้งมือหนากระชับฝ่ามือใหญ่นั้นอาไว้แน่น ผันตัวเองให้เป็นช้างเท้าหน้าด้วยการก้าวนำไปต่อคิวเครื่องเล่นด้านใน ไม่ฟังเสียงสบถ ทัดทานอันหยาบคายใดๆจากปากซีวอนทั้งสิ้น

     

    สุดท้ายคยูฮยอนก็สามารถ(ลาก)พาคนตัวสูงให้เดินเข้ามาต่อคิวได้ด้วยความพยายามทั้งหมดที่เจ้าตัวมี ทั้งสองคนยืนต่อแถวให้เจ้าหน้าที่พาลูกค้าขึ้นไปคร่อมม้าอย่างใจเย็น

     

    "2 คนครับ!"

     

    "ป่ะ.." ด้วยไม่อยากยืนรอนานให้มันขัดภาพพจน์ (ผู้ชายกล้ามใหญ่เท่าลูกทุเรียนกับม้าหมุนกิ๊กก๊อก.. เจริญเถอะ!) ซีวอนก็คว้ามือคยูฮยอนเดินเข้าไปทันทีโดยไม่สังเกตว่าม้าตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่นั้นเป็นแบบหนึ่งตัวสองที่นั่ง

     

    สวนสนุกไอ้เชี่ยปาร์คนี่ขยันหาเครื่องเล่นมาเซอร์ไพรส์กูจัง!

     

    "มึงนั่งหน้าแล้วกัน" เขาดันให้ไอ้ฮยอนขึ้นไปคร่อมที่นั่งด้านหน้าของม้าแล้วก็ไม่ปล่อยตัวอิดออดถ่วงเวลาด้วยการพาดขาคร่อมที่นั่งด้านหลังทันที กันตกสักหน่อยโดยเอามือยึดรอบเอวผอมของคนที่จับสายคล้องเอาไว้เรียบร้อย

     

    "อ่ะ..." คยูฮยอนปล่อยเสียงร้องออดมาด้วยตกใจกับสัมผัสที่รอบเอวของตัวเองแต่ยังไม่ทันไรก็ถูกทำให้อกสั่นขวัญหายอีกครั้งเพราะการเคลื่อนตัวของเครื่องจักร

     

    ซีวอนไม่ปล่อยมือจากเอวคอดแต่กลับรัดแน่นขค้นแล้วรั้งตัวเข้าไปหาจนปลายคางเรียวเกยเข้าที่บ่าแคบของคนด้านหน้า คยูฮยอนบ่นงึมงัมอะไรสักอย่างผ่านหูเขาไปไม่ชวนพิสมัยเท่าไหร่ ปลายจมูกโด่งจึงกดเข้าที่แก้มนุ่มของอีกคน

     

    "ฮยอง! ไม่เอาสิครับ... คนเยอะแยะนะ"

     

    "แล้วทำไม?" ถามกลับเสียงห้วนใส่ที่ข้างกกหู

     

    "ก็...ผม.. อายอ่ะ..."น้ำเสียงแผ่วให้คำตอบขณะที่ตัวเองเบนหน้าเอียงไปทางอื่นเพื่อหลบไม่ให้อีกคนมองเห็นแม้แต่หางตา แต่นั่นกลับทำให้ซีวอนรีบคว้าประคองแนวกรามเรียวนั้นเข้ามากดหอมแก้มลงอีกครั้งก่อนจะกักคนตัวผอมเอาไว้ในอ้อมแขน

     

    "เวลามึงเขิน... มันน่ารักเกินกว่าจะให้คนอื่นเห็น..."

     

    ได้กลิ่นไหม้หรือเปล่าครับ... นั่นหน้าผมเอง ;////;

     

    ลงมาจากม้าหมุนได้สักนาทีสองนาทีคยูฮยอนก็หายเครื่องแฮงค์ ลากแขนเขาพาไปเข้าคิวต่อเครื่องนั้นเครื่องนี้อีกสองสามที่ ซึ่งก็ยังคงคอนเซ็ปต์อาโนเนะเบาๆมาชวนให้เขาหัวเสียนิดหน่อยอยู่ดี

     

    "ฮยอง... เล่นเรือถีบมั๊ยครับ?" คำถามที่ดูไม่ค่อยเหมือนคำถามสักเท่าไหร่เพราะเจ้าขอบประโยคนั้นดันช้อนลูกตาขึ้นมากระพริบปริบๆหน่ะสิ ไอ้จะบอกไม่มันก็เลนกลายเป็นพยักหน้าตกลงแล้วเดินตามมันไปที่สระน้ำพอดี

     

    ฉีกตั๋วเครื่องเล่นแล้วพาตัวเองลงไปนั่งอยู่ด้านในเรือหัวห่านหัวหงส์อะไรสักอย่าง เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบส่งยิ้มให้กับเขาทั้งสองก่อนจะทำให้เรือถีบสมบูรณ์แบบด้วยการถีบเรือออกมาจากคอกกักให้ไปลอยเท้งเต้งอยู่กลางสระ

     

    ทั้งสองคนเงียบเสียงไม่เอ่ยพูดอะไรเพราะต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาถีบเรือไปให้ไกล คยูฮยอนเอียงคอหัวเราะคิกคักมองหน้าพี่ชายที่นั่งอยู่ด้านข้าง ซอยขาถีบแผ่นวางเท้ารัวๆพอๆกับซีวอนที่เร่งฝีเท้าไม่ต่างกัน

     

    "หย่ะ! เมื่อยเหี้ยยยยย!!"

     

    "โอ่ยย.. ปวดขาเว่อร์อ่ะ!" ปากก็บ่นกันไปตลอดทาวแต่ก็ยังเร่งถีบด้วยความเร็วสูงจนถึงอีกฟากขอวงสระน้ำขนาดใหญ่ภายในเวลาไม่กี่นาที

     

    "ฮ้า~ ปวดขาหมดเลยยยยย.." คยูฮยอนพรูลมหายใจออกมาหอบแฮ่กๆเป็นลูกหมา มือบางเลื่อนขึ้นปาดเหงื่อออกจากข้างขมับของตัวเองก่อนจะหันคอไปมองเจ้าของเสียงหอบแฮ่กจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

    ซีวอนสลัดเสื้อเชิ๊ตยีนส์ของตัวเองออกให้เหลือแต่เสื้อกล้ามสีดำด้านใน เม็ดเหงื่อไคลไหลย้อยลงมาตามผิวสีแทนสว่างจนเงาขลับไหล่กว้างขยับกระตุกด้วยความตกใจเมื่อรู้สึกได้ว่าข้างขมับของเขาถูกสัมผัสเข้า ใบหน้าคมคายหันกลับไปมองคยูฮยอนที่กำลังกลอกดวงตากลมขึ้นมองขมับของเขาแล้วใช้ทิชชู่แผ่นเล็กซับเม็ดเหงื่อที่กำลังย้อยลงมา

     

    "เหงื่อจะเข้าตาฮยองแล้วเนี่ย~" ไอ้เด็กฮยอนพูดแก้เขินเมื่อเห็นว่าเขากดลูกตาลงมามองหน้ามันอยู่พร้อมกับใช้ข้อนิ้วเปล่าเกลี่ยไล่เหงื่อที่ขมับของมันกลับ ดวงตากลมกลอกมองเลิกลักไปมาครั้งใหญ่ยิ่งกว่าโจรวิ่งหนีตำรวจเสียอีก

     

    แต่ยังไงซะตำรวจก็ต้องจับโจรให้ได้นั่นแหละ

     

    ซีวอนกดริมฝีปากแนบลงไปบนเนื้อนุ่ม เม้มคลึงไปมาจนมันบวมเจ่อ เขามองเห็นเรียวปากสีสดคู่นั้นในระยะที่มีลมหายใจสั่นๆเป่ารดอยู่เหนือกลีบปากบน มีเสียงหัวเราะหึออกมาตอนเห็นว่าเด็กนั่นเผลอไผลปิดเปลือกตาลงมา ปลายนิ้วโป้งจึงกดลงทดสอบความนุ่มอยู่สองสามครั้งแล้วจึงบดจูบจริงลงไปให้คนที่กำลังเคลิ้มต้องเคลิ้มหนักเข้าไปใหญ่

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    ขึ้นมาจากเรือได้ ท้องคยูฮยอนก็ร้องระงมยกใหญ่จนทั้งคู่ต้องเลี้ยวเข้าร้านอาหาร ณ ใจกลางสวนสนุก กระนั้นก็ไม่ได้กินอะไรให้อิ่มมากมายเพราะเครื่องเล่นโซนครึ่งหลังล้วนแต่เป็นแบบเสียวไส้เสียวพุงทั้งนั้น

     

    หาขนมปังชิ้นน้อยรองท้องกับน้ำอีกแก้วใหญ่แล้วก็เดินละออกมาพอให้ย่อยด้วยการเข้าไปเล่นรถบังคับกันให้พอหอมปากหอมคอ ต่อด้วยการเล่นโยนเชือกคล้องขวดที่ซีวอนก็เพิ่งรู้ว่าที่จริวแล้วไอ้เด็กฮยอนของเขานี่มันแม่นไม่เบา

     

    "แต่ก่อนเวลาอยู่ที่ร้านแม่ผมต้องโยนขวดลงถาดหน่ะครับ.. ผมก็เลยกะอะไรพวกนี้แม่น"

     

    "อืม"

     

    "แหะๆ" มันหัวเราะแห้งๆแล้วกระชับกอดตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ตัวโตในอ้อมแขนที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของมันเอง ซึ่งไอ้หมียัดไส้ขนปุยนั่นกำลังทำให้เขานึกอารมณ์เสียเพราะความใหญ่โตอลังการของมันทำให้คยูฮยอนต้องเอาแขนทั้งสองข้างไปโอบรัดมันเอาไว้ ไม่เดินจับมือเขาอีก

     

    หึ... อะไร ไม่ต้องมาจับผิด

    เขาแค่กลัวมันโดนฉุดไปเฉยๆ เปล่าอิจฉาหมีเสียหน่อย

     

     

    ไม่อิจฉาเลย..... *กัดฟัน*

     

     

    "ฮยอง! อยากเล่นซุปเปอร์แสปลช!"

     

    "หืม?"

     

    "เล่นกันๆ" คยูฮยอนเอ่ยชวรเขาพร้อมกับการเดินนำหน้าเข้าไปหาเครื่องเล่นกลางแจ้งขนาดใหญ่ (อันที่จริงท่าทางแบบนั้นเรียกบังคับ) เขาก็เลยได้แต่เดินตามมันเข้าไปอย่างงงๆจนได้เสื้อกันฝนออกมากันคนละตัวแล้วมันก็เอาหมีไปฝากไว้เรียบร้อย

     

    "มันไม่เปียกแน่นะ?"

     

    "ไม่เปียกจะไปสนุกไรอ่ะ..." มันพูดยิ้มๆแล้วหัวเราะคิกคักเทื่อหันไปมองเครื่องเล่นเครื่องยักษ์ทิ้งตัวลงมาในน้ำจนเกิดเป็นละอองน้ำกระเซ็นกระสายไปทั่วทุกสารทิศ ซีวอนเหลือบมองเด็กงั่งที่ใส่เพียงแค่ยืดเสื้อผ้าบางๆสีฟ้าที่ถ้าหากโดนน้ำก็คงเห็นทะลุปรุโปร่งด้วยวายตาไม่สบอารมณ์นัก

     

    "งั้นมึงรอเดี๋ยว" เขาว่าแล้วรีบถอดเสื้อเชิ๊ตสียีนส์เข้มตัวนอกอแกไปให้เหลือแต่เสื้อกล้ามสีดำด้านใน ช่วงขายาวก้าวออกไปยังจุดฝากของเพื่อเอาเสื้อตัวนอกไปฝากไว้ก่อนจะเดินกลับเข้ามาต่อแถว

     

    "ฮยองถอดเสื้อทำไมอ่ะ" ยิงคำถามใส่คนที่เหลือเพียงเสื้อกล้ามตัวเดียวด้วยเสียงนิ่งๆ คยูฮยอนผินมองไปรอบตัวที่มีแต่คนหันมาจ้องซีวอนเต็มไปหมดอย่างหวั่นๆ

     

    "เผื่อมึงเปียก ได้เอาเสื้อกูคลุมไว้ก่อน"

     

    "แล้วฮยองอ่ะ?"

     

    "กู? ทำไม?"

     

    "เดี๋ยวฮยองก็ต้องเปียกไม่ใช่เหรอครับ?" เอ่ยถามออกมาอย่างน่ารักน่าชังจนซีวอนต้องสอดมือเข้าไปใต้พลาสติกฮู้ดเพื่อหยิกแก้มนุ่มมือนั่นสักที

     

    "มึงเปียกโชว์กูคนเดียวก็พอ... คนอื่นไม่ต้องให้แม่งเห็น!"

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

                ซุปเปอร์แสปลชก็แสปลชได้สมชื่อของมันจริงๆนั่นแหละ... โชคดีมากที่ซีวอนเอาเสื้อไปฝากไว้ก่อนเพราะพอลงมาจากเครื่องเล่นเย็นฉ่ำแล้ว คยูฮยอนก็อยู่ในสภาพลูกหมาตกน้ำเปียกมะล่อกมะแล่กจนเสื้อแนบติดเนื้อ เห็นรอยจ้ำสีแดงทะลุผ่านเนื้อผ้าให้เห็นหราเต็มไปหมด

     

                “ไปซื้อเสื้อเปลี่ยนเถอะ” เชื่อว่าผ้าขนหนูของสวนสนุกคงเอาไม่อยู่แล้วหล่ะ ในเมื่อไอ้งั่งฮยอนกับเขายังคงเดินทั้งที่ตัวมีน้ำหยดเรี่ยราดเต็มไปหมดแบบนี้ พอหลังพูดจบปุ้บ ซีวอนก็รีบดันคยูฮยอนให้เดินตรงเข้าไปในร้านเสื้อผ้าที่รู้กันอยู่ว่าราคาคงสูงชะลูดแน่ๆ

     

                แต่ต่อให้แพงแค่ไหนเขาก็ยอมจ่ายเพื่อแลกกับการไม่ให้ใครได้มาเห็นเนื้อหนังมังสาของไอ้เด็กฮยอนนี่หรอก แถมถ้าไม่เปลี่ยนก็อาจจะเป็นหวัดเข้าไปอีก

     

                “ฮยอง มันแพงมากเลยอ่ะ”

     

                “ซื้อๆไปเหอะ เดี๋ยวก็หนาวตายห่าพอดี”

     

                “หง่ะ...”

     

                “เลือกไปเถอะหน่า... กูมีปัญญาจ่ายให้มึงแล้วกัน” เขกหัวไอ้เด็กขี้เกรงใจที่ดันมาทำตัวเกรงอกเกรงใจไม่ถูกกาลเทศะ ใบหน้าหวานบู้บี้ทันทีที่โดนลงโทษแล้วก็รีบหันกลับไปเลือกชุดที่ตัวเองชอบแบบไม่คำนึงราคา เอาให้คนอยากจ่ายได้จ่ายเสียให้เต็มที่นั่นแหละ

     

                “เอาสองตัวนี้ก็ได้ครับ”

     

                “ไม่มีขายาวกว่านี้หรือไง?”

     

                “มีแต่ผมใส่แล้วหลวมอ่ะ มันไซส์ใหญ่...” พยักเพยิดไปทางราวแขวนกางเกงขายาวที่อยู่ตรงมุมสุดของร้านที่ขนาดซีวอนยังต้องใส่ไซส์เล็กสุด ร่างสูงถอนหายใจออกมาด้วยไม่นึกพึงใจสักเท่าไหร่กับเสื้อผ้าชุดใหม่ของคยูฮยอน แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกมากมายอะไรนอกจากเดินไปจ่ายตังค์ที่เคาท์เตอร์แล้วก็ปล่อยให้มันใส่เสื้อยืดลายการ์ตูนสีดำกับกางเกงขาสั้นเหนือหัวเข่ามาฝ่ามือหนึ่งตามที่เลือกมา

     

                ออกมาจากร้านเสื้อผ้าได้สักพัก เขาถูกคยูฮยอนฉุดลากให้ไปเล่นเครื่องเล่นน่าหวาดเสียวอีกสองสามรายการจนสัมผัสได้ถึงความปั่นป่วนในช่องท้อง ผิดกับไอ้เด็กฮยอนที่ยังยืนกอดหมีวิ่งโร่ไปต่อคิวได้ทั้งรอยยิ้ม... เออ... แม่งไม่แก่อย่างกูบ้างให้มันรู้ไป!

     

                “ฮยองไหวป่าว?”

     

                “ไหวดิ” ตอบทั้งที่หน้างี้เขียวเป็นใบไม้... เอาจริงนะ ซีวอนคิดว่าถ้าเจอรถไฟเหาะเข้าไปอีกอย่างเขาคงได้คะย่อนขนมปังก้อนเท่าหัวนิ้วโป้งเมื่อตอนเที่ยงออกมาแน่หล่ะ แต่จะให้ปล่อยคยูฮยอนไปคนเดียวหล่ะก็เขายอมอ้วกให้ไส้หลุดออกมาจากปากเลยยังดีกว่า

     

                ก็ดูสายตาคนพวกนั้นดิวะ! แม่งไม่เคยเห็นเด็กมัธยมปลายมาเที่ยวสวนสนุกหรือไง!

     

                “งั้นเล่นรถไปเหาะนะ...”

     

                ไอ้เหี้ย.... สิ่งที่กูกลัวที่สุดเลยนะนั่นหน่ะ...

     

                “รถไฟเหาะ?”

     

                “ครับ เนี่ย เครื่องสุดท้ายแล้ว... เล่นปุ้บกลับบ้านปั้บ...”

     

                เล่นปุ้บ.... กูก็กลับบ้านเก่าปั้บเลยสินะ -___-

     

                “ปุ้บ...ปั้บ?”

     

                “ถ้าฮยองไม่ไหวเดี๋ยวผมไปเองก็ได้นะครับ... อยากเล่นอ่ะ” ทำหน้าละห้อยประกอบกับเสียงมุ่งมิ้งงุบงิบเบาๆคล้ายจะอ้อนเอาแต่ใจตัวเอง ไอ้คนอย่างเขาที่ทนอะไรไม่ค่อยได้(?)ก็เลยต้องยอมลุกขึ้นยืนแล้วปล่อยให้มันพาเดินเข้าไปเผชิญชะตากรรมกับเครื่องเล่นหวีดสยองเครื่องสุดท้าย

               

                สภาพต่อจากนั้น คำว่าทุเรศคงไม่พอ....

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

                “โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก... แค่กๆ” อาหารชุดสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายได้ถูกคะย่อนออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซีวอนยกน้ำเปล่าขึ้นซดบ้วนกลิ่นคาวในปากออกไปก่อนจะทิ้งร่างไร้เรี่ยวแรงลงกับม้านั่งสีรุ่งที่อยู่ไม่ห่างออกไปไกลนัก

     

                “ไหวนะครับ...” พยักหน้ารับส่งๆไปเพื่อไม่ให้โจวคยูฮยอนที่ยืนหน้าเครียดคล้ายนักธุรกิจล้มละลายเบ้หน้าไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ฝ่ามือเรียวที่เย็นเฉียบด้วยความกังวลระคนใจช้อนใบหน้าของเขาขึ้นมาแล้วใช้ผ้าเย็นซับเม็ดเหงื่อตามขมับออกไปให้ ส่วนมืออีกข้างก็ถือยาดมโบกไปโบกมายกใหญ่

     

                “...อือ”

     

                “ฮยองหน้าซีดหมดแล้วอ่ะ...” ฝ่ามือเล็กปัดผมหน้าม้าที่ร่วงลงมาเสยขึ้นไปเพื่อให้ผิวเนื้อของอีกคนโล่งแจ้งมากที่สุด นิ้วโป้งทั้งสองข้างเกลี่ยนวดไปบนขมับ ขยับตัวเข้าไปยืนแทรกอยู่ระหว่างกลางขาของรุ่นพี่ตัวใหญ่ที่ทิ้งกายไร้เรี่ยวแรงอยู่เบื้องหน้า

     

                “เออ ไหว...”

     

                “พูดงี้ตลอดอ่ะ...” เด็กงั่งส่งสายตากลับมาค้อนคนหมดสภาพที่ยังคงอวดเก่งไม่เลิก คยูฮยอนเลื่อนมือลงมาบีบๆนวดๆไปบนหัวไหล่ สลับกับพัดเรียกลมเรียกอากาศมาให้ร่างสูงหายใจได้สะดวกขึ้น โดยกลิ่นฉุนจากหลอดยาดมสมุนไพรช่วยเรียกสติซีวอนกลับคืนมาอีกแรงกระทั่งสายตาไม่พร่าเหมือนอย่างตอนแรก

     

                ร่างสูงยันตัวอย่างทุลักทุเลขึ้นมายืน ขาทั้งสองข้างหยุดยืนนิ่งก่อนในคราแรกเพื่อให้ร่างกายปรับตัวเข้าสู่สภาวะปกติ ท้องห้าในยามเย็นที่เริ่มครึ้มลงชวนให้ซีวอนนึกถึงเตียงนอนอันแสนสบายที่บ้านและกระดาษเนื้อเพลงที่เขียนค้างไว้บนโต๊ะ บางทีมันอาจจะดีกว่านั่งอยู่เฉยๆแบบนี้ก็เป็นได้

     

                “ฮยอง... ผมขอโทษนะครับ”

     

                “...”

     

                “...ไม่น่าพาฮยองไปเล่นเลยอ่ะ” คยูฮยอนคว่ำปากลงทันทีเมื่อเห็นว่าคนตัวโตยังคงหน้าซีดอยู่ แขนเรียวกอดตุ๊กตาหมีในอ้อมแขนไว้แน่นจนเนื้อผ้านุ่มยุบลงไป ดวงตากลมไม่กล้าช้อนขึ้นสบมองกับอีกฝ่ายเพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนมีความผิด จึงได้แต่เหลือบมองบ้างเป็นระยะ

     

                “ช่างเหอะหวะ... กูว่าแม่งก็มันส์ดี” ซีวอนยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากเมื่อหันกลับไปมองเครื่องเล่นสูงชะลูดที่เบื้องหลังเพื่อบอกอำลา(อย่างถาวร)กับมัน แขนแกร่งยื่นออกไปตรงหน้าเพื่อเรียกไอ้เด็กงั่งที่ยังคงยืนคว่ำปากอยู่ที่เดิมให้เดินตามมา

     

    ~ หมับ...

     

                แทนที่จะเป็นเพียงข้อมือเหมือนเมื่อครู่ โจวคยูฮยอนกลับใช้แขนข้างหนึ่งรัดตุ๊กตาหมีเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็เอามารัดหมีมีชีวิตตัวโตที่ยังยืนหน้าซีดอยู่ ใบหน้าหวานซบลงกับเนื้อผ้าคอตต้อนของเสื้อกล้ามที่สวมอยู่ด้านในแล้วถูเบาๆ คำขอโทษเอ่ยอู้อี้อยู่ในอกกว้างของอีกคนแล้วก็เลือกที่จะกอดค้างไว้อยู่อย่างนั้นกระทั่งฝ่ามือของอีกคนเลื่อนขึ้นมากอดตอบ

     

                นี่ใจเต้นแรงมากเลยนะจะบอกให้!

                แต่ไม่เป็นไรหรอก... เพราะเสียงหัวใจพี่ซีวอนก็แรงเหมือนกันแหละ...

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    ต่อจากนี้คงไม่ได้อัพบ่อยแบบนี้แล้วหล่ะ... จะพยายามให้จบเรื่องนี้ก่อนเปิดเทอมนะ T_T

     

                

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×