ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { wonkyu } Every Night Stand

    ลำดับตอนที่ #13 : CHAPTER XII.

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 56


    CHAPTER XII
    ความอึดอัดที่ไม่เคยหายไป [1]

     

    ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ....

     

                เสียงนิ้วเคาะคีย์บอร์ดสะกิดคนที่กำลังนอนหลับอิ่มหนำสำราญอยู่บนเตียงให้ต้องเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างนึกรำคาญใจ โจวคยูฮยอนบิดกายไปด้านข้างซ้ายทีขวาทีเพื่อขับไล่เสียงน่ารำคาญนั้นออกไปจากใบหูของเขาแต่ไม่ว่าจะขยับตัวซ้ายขวาหน้าหลังหรือตีลังกาเอาหัวไปมุดไว้ที่ข้อพับ ไอ้เสียงที่ว่านั่นก็ยังลอดเข้ามาในหูของเขาได้อยู่ดี

     

                “อื้อ!” เด็กน้อยผู้ถูกรบกวนการนอนส่งเสียงประท้วงออกมาจากลำคอทั้งที่หน้ายังติดอยู่กับหมอน ร่างผอมคู้ตัวมุดเข้าไปในผ้านวมผืนหนาเพื่อหลบซ่อนตัวเองออกจากเสียงน่ารำคาญนั้นด้วยความพยายามเฮือกสุดท้าย

     

                สงบได้แค่สักสองสามนาทีเท่านั้น สติส่วนหนึ่งที่ผุดขึ้นมาจากตมก็สะกิดโจวคยูฮยอนออกมาจากฝัน ดวงตากลมเบิกโพล่งขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิดผ้านวมแล้วรีบกลอกมองซ้ายขวาเพื่อมองหาคนที่ควรจะนอนอยู่ข้างเขาขณะนี้

     

                เฮ้ย! พี่ซีวอนไปไหน!!

     

                “เฮ้ย!

     

                “อะไร...” เสียงทุ้มลอยมาจากมุมห้องหลังจากได้ยินไอ้เด็กฮยอนร้องเสียงดังแล้วผุดหัวขึ้นมาจากผ้านวมเหมือนตัวเมียร์แคทในสารคดีท่องทุ่งสะวันนา หัวกลมๆฟูของมันหันมาตามเสียงของเขาทันทีที่ได้ยินแล้วก็ทำท่าเหมือนโล่งใจมากจะไม่ไหว

     

                “อ่า...ผมนึกว่าฮยอง...ฮ้าววว หายไปไหน” คยูฮยอนฉีกยิ้มกว้างคล้ายคนเมาเหล้าแล้วซุกตัวกลับเข้าไปใหม่ในผ้านวมที่ขดเป็นก้นหอย (มันทำของมันเองนะตอนตีลังกาหลบเสียงคีย์บอร์ดเขาหน่ะ!) ซึ่งนั่นทำให้คนที่นั่งเคาะแป้นพิมพ์อยู่ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที

     

                “ลุกเลย นี่มันหกโมงจะครึ่งแล้ว”

     

                “ขออีกห้านาทีได้ไหมครับ”

     

                “ไม่ได้”

     

                “นะครับ...” เสียงทุ้มหวานของมันค่อยๆกลืนหายไปพร้อมกับตัวที่ซุกเข้าไปอยู่ใต้ผ้านวมจนมิด แทนที่ผมจะนึกโมโหกับไอ้คนผัดวันประกันพรุ่งกลับกลายเป็นส่งเสียงหัวเราะด้วยนึกขบขันแล้วดันร่างโซซัดโซเซของตัวเองขึ้นมาจากเก้าอี้

     

                ไม่ตื่นก็ต้องปลุก... แล้วถ้าให้ชเวซีวอนปลุก
                ก็คงต้องขอค่าเหนื่อยสักหน่อย

     

                “ฮื่ออออออ!” มันร้องประท้วงตอนที่ผมยกเอาเท้าขึ้นเตะบั้นท้ายกลมจนคยูฮยอนกลิ้งไปติดหัวเตียง ก่อนจะโถมร่างกายที่ยังไม่ได้พักผ่อนลงไปทับตัวมันจนจมหายไปกับฟูกนุ่ม

     

                “อ่อยยย~ ลุกแล้วครับ ลุกแล้ว...”

     

                “ง่วงจังเลย...” ซีวอนทิ้งน้ำหนักตัวลงไปทับคนที่อยู่ใต้ร่างของตัวเองเต็มหน่วย 65 กิโลกรัมโดยไม่สนใจเสียงร้องประท้วงกับแขนที่พยายามยกขึ้นทุบอกกว้างอักใหญ่นั่น สันจมูกโด่งสูงกดลงที่ซอกคอของคยูฮยอนอย่างจงใจแล้วไซร้ลงไปเพื่อให้ได้กลิ่นแป้งเด็กที่มันชอบทา

     

                “อ๊ะ! อื้อ!! ฮยองลุกก่อนนะครับ”

     

                “อยากนอนไม่ใช่หรือไง กูก็ยังไม่ได้นอน...”

     

                “หง่ะ ผมมีสอบนะครับฮยอง...” ทำเสียงอ่อนใส่คนที่ยังทิ้งน้ำหนักลงมาไม่เลิก คยูฮยอนออกแรงทุบอกกว้างต่ออีกสองสามครั้งซีวอนถึงได้ยอมละตัวลุกขึ้นมานั่งโดยคว้าคนที่มีสอบเป็นวันสุดท้ายติดมือมาด้วย

     

                “สอบตัวสุดท้ายใช่ไหม?”

     

                “ครับ...” คยูฮยอนนั่งท่าเป็ดบิดปลายเท้าทั้งสองข้างออกมาจากลำตัวอย่างน่ารัก เด็กนั่นตอบเขาทั้งที่มือยังขยี้ตาอยู่เลยไม่รู้ว่าใบหน้าคมคายของชเวซีวอนโน้มลงมาใกล้มากแค่ไหน

     

                “งั้นเดี๋ยวกูให้พร...”

     

                “หือ? พร....อือ~” ทันทีที่ฝ่ามือเล็กนั้นละออกมาจากดวงตาแล้วซีวอนก็รีบเฉลยข้อสงสัยเรื่องพรให้คยูฮยอนด้วยการกดริมฝีปากลงไปบดคลึงกับกลีบปากสีชมพูนุ่ม เขาสอดลิ้นเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็วไม่เว้นให้ผู้ถูกบุกรุกได้ทำใจอะไรทั้งสิ้นในขณะที่มือใหญ่ก็สอดเข้าไปหลังท้ายทอย เกลี่ยไรผมเล็กเหล่านั้นไปมาให้อีกคนเคลิ้มตามรสจูบ

     

                “อืม...”

     

                “อือ...” เหมือนเดิมอย่างทุกครั้ง เขาถอนริมฝีปากออกมากดจูบเบาๆที่มุมปากแล้วผละใบหน้าออกมาดูเด็กนั่นขยับแพรขนตาขึ้นมาทั้งที่แก้มแดงปลั่ง

     

                “ไปอาบน้ำไป...”

     

                “อ่า..ครับ” คนที่กำลังเขินก้มหน้าลงหลบสายตาที่กดมองลงมาบนใบหน้าของเขา คยูฮยอนขยับตัวยุกยิกดันผ้านวมผืนใหญ่ออกจากตัวก่อนจะค่อยๆขยับลงจากเตียงที่ร่างสูงเอนตัวทิ้งลงไปนอนแผ่ด้วยความเหนื่อยล้า

     

                อ่าจริงสิ... พี่ซีวอนคงยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน

     

                “ฮยองครับ~” เขาตัดสินใจเรียกเจ้าของเรือนกายกำยำหลังจากที่ฝ่าเท้าทั้งสองข้างวางราบไปบนพื้นแล้ว คยูฮยอนโน้มหน้าของตัวเองลงมองเจ้าของสายตาคมกริบที่ตะแคงเพียงใบหน้ามามองเขาเท่านั้น

     

                ริมฝีปากชมพูที่ยังบวมเจ่อให้เห็นอยู่ชัดเจนกดลงตรงปลายจมูกโด่งของอีกฝ่าย เสียงจุ๊บเบาๆทลายความเงียบในห้องลงไป และยังทลายสติของซีวอนให้พังล้มไม่เป็นท่าอีกด้วย คนที่นอนอยู่บนเตียงเบิกลูกตาทั้งสองข้างจ้องใบหน้าแดงก่ำที่ก้มลงหลบสายตาของเขาพร้อมสอยก้าวถอยหลังเตรียมหลบเรียบร้อยแล้ว

     

                “สู้ๆนะครับ ตั้งใจทำงานนะ”

              *พุ่งหายไปในห้องน้ำ*

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

                “ขอบใจมากเลยนะที่มาส่ง”

     

                “ไม่เป็นไร... เอ้อ! อาทิตย์หน้าไปดูหนังด้วยกันมะ?” ฮงกิถอดหมวกกันน็อคออกมาจากหัวขอตัวเองออกแล้วใช้ขาทั้งสองข้างยันมอเตอร์ไซค์เอาไว้

     

                “เรื่องไรอ่ะ?”

     

                “ไม่รู้ ไอ้เฮนรี่มันได้ตัวฟรีมาเป็นโหลเลยชวนไว้ก่อน”

     

                “เอาดิ...”

     

                “มึงกลับบ้านป่ะปิดเทอมนี้?”

     

                “ฮื่อ... ไม่กลับอ่ะ พี่คิบอมไม่อยู่แม่บอกไม่ต้องกลับ กลับคนเดียวมันอันตราย”

     

                “ดี จะได้อยู่อ่านหนังสือด้วยกัน”

     

                “อื้อ...รีบกลับบ้านเหอะ นี่มืดแล้วด้วยเดี๋ยวฮงกิมองไม่เห็นทาง” คยูฮยอนเงยหน้ามองฟ้าที่เปลี่ยนเข้าใกล้สีดำมากขึ้นทุกที เขาถอยหลังออกมาให้เพื่อนสนิทสตาร์ทเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์คันเล็กแล้วบอกลาฮงกิอีกครั้งด้วยการโบกมือก่อนจะรอดูจนร่างโปร่งนั้นขี่จักรยานยนต์หายลับตาไป

     

                คยูฮยอนหอบร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการออกไปสังสรรค์หลังสอบในห้องคาราโอเกะเข้ามาในคอนโดหรู รีเซ็ปชั่นคนสวยยิ้มให้เขาเหมือนอย่างทุกวันและเด็กน้อยก็โค้งกลับเป็นมารยาทอย่างเช่นเคยก่อนจะเดินเอื่อยๆไปที่ลิฟท์อย่างระมัดระวังถุงกับข้าวในมือที่ตั้งใจซื้อมาให้เจ้าของห้องที่ป่านนี้ไม่รู้จะเคลียร์งานเคลียร์การเสร็จเรียบร้อยหรือยัง

     

                เมื่อเช้าพอออกมาจากห้องน้ำเขาก็เจอพี่ซีวอนนอนหลับอยู่บนเตียงไม่ได้ขยับไปไหน คิ้วเข้มโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์นั่นก็ขมวดเข้าหากันเป็นผมชัดเจนจนคยูฮยอนต้องกดนิ้วนวดเบาๆให้มันคลายออก กระนั้นร่างสูงก็ยังไม่รู้สึกตัวอยู่ดีแถมยังเบือนหน้าหลบปลายนิ้วของเขาอีกด้วย คยูฮยอนก็เลยต้องเป็นฝ่ายเข้าครัวทำกับข้าวเอง

                ซึ่งการเข้าครัวทำอาหารเช้าก็ทำให้เขาค้นพบว่าชเวซีวอนกินรามยอนแทนข้าวมาหลายมื้อแล้ว ดูจากถ้วยที่ถูกโยนทิ้งเอาไว้ในถังขยะได้ แล้วพอเปิดตู้เย็นออกมาเขาก็พบว่าวัตถุดิบมันร่อยหรอลงไปทุกที วันนี้พอมีโอกาสได้ไปห้างก็เลยซื้อของสดแล้วก็ขนมอีกสองสามอย่างมาด้วยเพื่อเอาไว้เป็นอาหารสำรองในวันข้างหน้า

     

                คยูฮยอนล้วงหยิบคีย์การ์ดมาแตะกับเครื่องแสกนก่อนจะเปิดเข้าไปในห้อง ความเงียบในโถงนั่งเล่นบอกเขาได้เลยว่าซีวอนคงจะยังอยู่ข้างในห้องนอน คู้ตัวอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แล้วจิ้มนิ้วบนคีย์บอร์ดกับกองหนังสือมหึมาไม่ไปไหนเหมือนเดิม

     

                ย่างเท้าเข้าไปใกล้ห้องนอนมากยิ่งขึ้นแล้วเอาหูแนบลงกับประตูห้องนอน ประหลาดใจเล็กน้อยที่ไม่ได้ยินเสียงคีย์บอร์ดตึกตักลอดออกมา คยูฮยอนจึงบิดลูกบิดออกบาๆแล้วโผล่หัวเข้าไปในห้องนอนที่เงียบสนิท

     

                ดวงตากลมกวาดมองไปทั่วห้องที่ไร้วี่แววของการเคลื่อนไหว ตอนแรกเขาคิดว่าซีวอนอาจจะออกไปข้างนอกแต่ลมเย็นจากเครื่องปรับที่เผปิดทิ้งเอาไว้ก็ทำให้ความคิดของเขาตลับกลับมา... ถ้าออกไปข้างนอกพี่ซีวอนไม่น่าจะเปิดแอร์ทิ้งเอาไว้แบบนี้

     

                ตัดสินใจก้าวเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูลงเบาๆ คยูฮยอนมองกวาดไปรอบตัวอีกครั้งเพื่อมองหาร่างสูงเจ้าของห้องให้ละเอียดกว่าเดิมแล้วเขาก็พบว่าผู้ชายตัวสูงที่กำลังตามหาอยู่กำลังแอบงีบหลับอยู่ที่ระเบียงนอกห้องโดยมีโน๊ตบุ๊ควางอยู่ข้างเก้าอี้ เดาได้ไม่ยากว่าพี่ซีวอนคงจะเบื่อบรรยากาศอุดอู้ในห้องเลยยกงานออกไปนั่งตากลมที่ตรงระเบียงเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

     

                “คงจะเหนื่อยมากเลย...” เขาเปิดประตูพาตัวเองออกไปนอกระเบียง หยุดยืนมองรุ่นพี่ตัวสูงที่หลับคอพับคออ่อนไม่เป็นท่า แต่แล้วก็ต้องสะดุดสายตาเมื่อเห็นก้นบุหรี่สองสามอันดับอยู่ตรงกระถางต้นไม้ซึ่งมันทำให้โจวคยูฮยอนไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก

     

                ไม่ใช่ไม่ชอบคนสูบบุหรี่

                แต่บุหรี่มันไม่ดีต่อร่างกายนี่!

     

                “อึก...อืม....” ซีวอนขยับตัวยุกยิกเมื่อรู้สึกว่ามีเงาพาดอยู่เหนือร่างของเขา ดวงตาคมเข้มเปิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อมองดูว่าเจ้าของเงาเป็นใคร และเมื่อเห็นใบหน้าหวานที่ก้มมองลงมาทางเขาทั้งที่ยังขมวดคิ้วมุ่นอยู่ร่างสูงก็คลี่ยิ้มออกมาทันที

     

                “อ่า...กลับมาแล้วเหรอ”

     

                “ครับ... ฮยองสูบบุหรี่ทำไมอ่ะ มันไม่ดีเลย” คยูฮยอนแสดงความไม่พออกพอใจออกมาอย่างชัดเจนบนใบหน้าในขณะเอ่ยปากถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่เบาลงเพราะกลัวโดนดุ คนถูกยิงคำถามใส่เลิกคิ้วขึ้น กลอกตาไปมองก้นบุหรี่ที่ตัวเองทิ้งเอาไว้ก่อนจะยืดขายาวเหยียดไปรัดขาเรียวของร่างผอมในชุดนักเรียนมัธยมให้ขยับเข้ามาใกล้เขา

     

                “อ๋า! ฮยองอย่าแกล้งผมนะ~

     

                “หึหึ...” ส่งเสียงหัวเราะเคล้ากลิ่นบุหรี่จางๆออกมาก่อนจะใช้ขาดันข้อพับให้คยูฮยอนทรุดลงทับบนตัวของเขา ทุกอย่างเป็นไปตามที่ซีวอนคาดไว้ทั้งหมดเพราะพอไอ้เด็กฮยอนสูญเสียการทรงตัวมันก็โถมน้ำหนักทั้งหมดลงมาไว้บนอกกว้าง ใบหน้ามุ่นมุ่ยเมื่อสักครู่กลายเป็นหน้าตาเหรอหราที่เขาสามารถมองได้ไม่รู้จักเบื่อ

     

                “หง่า...” ปรางแก้มนวลขึ้นสีแดงฉ่าตอนที่เงยหน้ามาแล้วพบว่าจมูกของตัวเองมันชนเข้ากับปลายคางของอีกคนพอดิบพอดี ซีวอนก้มมองลูกตากลมโตนั้นอยู่สักพักแล้วจึงกดริมฝีปากลงกลางหน้าผากของคนในอ้อมแขน

     

                “สอบได้ไหม?” เขาไม่ตอบคำถามที่ถูกยิงค้างเอาไว้แต่เปลี่ยนไปหึความสนใจกับคนในอ้อมแขนแทน...

     

                “ทำได้ครับ... ฮยองยังไม่ตอบผมเลยนะว่าสูบบุหรี่ทำไม”

     

                “อ่า... กูคิดงานไม่ออก” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกผิดได้ขนาดนั้นตอนไอ้เด็กฮยอนคาดคั้นจะเอาคำตอบเรื่องบุหรี่ ทั้งที่ปกติเขามักจะตวาดใส่คนถามไม่ให้มายุ่มย่ามกับการตัดสินใจของเขานัก

     

                “ไม่เห็นต้องสูบเลยนี่นา... มันไม่ดีต่อปอดฮยองนะครับ”

     

                “...”

     

                “ผมเป็นห่วงฮยองนะ” คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมาจ้องตามองอีกคนเขม็ง กดลูกตามองริมฝีปากอิ่มที่ยังมีกลิ่นบุหรี่จางๆติดอยู่ด้วยไม่นึกชอบใจสักเท่าไหร่ที่ซีวอนเลือกใช้นิโคลตินเป็นทางออกให้กับตัวเองยามที่สมองตื้อตัน...

     

                พ่อเขาก็จากไปเพราะมะเร็งปอด
                เขาไม่อยากให้ซีวอนต้องเป็นแบบนั้น

     

                “เออหน่า...”

     

                “อย่าสูบอีกนะครับ...”

     

                “...” คิ้วเข้มเลิกขึ้นทันทีที่ได้ยินคำขอร้องจากริมฝีปากบางของคนบนอกที่ยังไม่ยอมถอนลูกตาออกมาจากหน้าของเขาเสียที ครั้นพอขยับตัวจะลุกขึ้นคยูฮยอนก็ไม่ยอมดันตัวเองออกมาจากอกของเขาอย่างที่ควรจะเป็น

     

                “...”

     

                “...นะครับ... ผมไม่อยากเห็นฮยองสูบบุหรี่อีก..”

     

                “...”

     

                “...”

     

                “เฮ้อ...โอเค... จะสูบให้น้อยลงแล้วกัน” เขาตอบออกมาด้วยเสียงแผ่วก่อนจะวางฝ่ามือของตัวเองโอบรัดรอบเอวผอม คยูฮยอนหยีตาลงอย่างอารมณ์ดีและนั่นก็ช่างน่ารักอย่างร้ายกาจจนคนความอดทนต่ำอย่างเขาต้องก้มลงฟัดแก้มนิ่มทั้งสองข้างสลับไปมา

     

                “อื้ออออออ~” ดูมันร้องเข้าสิ โมเอ้จะไม่ไหว!

     

                “มันน่า....”

     

                “พะ...พอ..อื้อออ...พอแล้วครับฮยอง...อื้ออออ~” หดคอหนีอย่างไรทางสู้แต่ก็ยังคงส่งเสียงหัวเราะคิกคักติดมาด้วยอยู่ดี คยูฮยอนดันให้อกกว้างผละออกมาจากแก้มของเขาแต่นั่นก็เปล่าประโยชน์เมื่อซีวอนยกขาขึ้นมารัดรอบสะโพกเพื่อกักขังเขาเอาไว้อีกแรง

     

                “มึงแม่ง....” สบถออกมาเสียงเบาใส่หูคนน่ารักที่จมหายเข้ามาอยู่ในอกกว้างอย่างสมบูรณ์แบบ ซีวอนไถปลายจมูกโด่งของตัวเองไปตามใบหน้าเรียวหวานของไอ้เด็กฮยอนที่กำลังกลอกตาหลบเป็นพัลวัน อย่างไรก็ตามแก้มสีแดงปลั่งทั้งสองข้างนั่นก็ฟ้องถึงความเขินอายออกมาชัดเจนมาจนเขาอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือขึ้นมาเกลี่ยให้มันแดงหนักขึ้นไปอีก

     

                “...”

     

                “...น่ากิน” เสียงทุ้มกระซิบเบาๆที่ข้างหูของคนบนตัก คยูฮยอนเบือนหน้าหลบไปอีกทางไม่ยอมมองเจ้าของริมฝีปากหยักตรงหน้าเพราะเขากลัวว่าจะโดนล้อเลียนเรื่องแก้มสีแดงปลั่งที่กำลังเห่อร้อนจนใกล้ระเบิดในขณะนี้

     

                ฝ่ามือใหญ่ไล้เลื่อนจากลำคอระหงของอีกคนเพื่อแตะเบาๆลงตรงที่ริมฝีปาก ปลายนิ้วชี้ค้างอยู่อย่างนั้นแต่นิ้วอื่นๆกลับเลื่อนลงมาประคองที่ใต้ปลายคางมนเพื่อบังคับใบหน้าเรียวนั้นให้กลับมาจ้องมองเพียงแค่เขาอย่างไม่คิดจะเข้าใจตัวเอง

     

                แค่โรคจิตอยากเห็นตัวเองสะท้อนอยู่ในดวงตาคยูฮยอนเท่านั้นเอง...

     

                “อ๊ะ! ฮยะ...อือ~” พักนี้โจวคยูฮยอนชอบทำให้เขาหลงด้วยการไม่ประท้วงรสจูบเสียแล้วสิ... ซีวอนหัวเราะหึในลำคอทั้งที่กลีบปากของตัวเองยังแนบค้างอยู่อย่างนั้น เขาไม่ทำอะไรมากกว่าแตะแต่ก็ใช้มือทั้งสองข้างบังคับไม่ให้เจ้าเด็กมัธยมห้าคนนั้นได้ขยับหน้าหนีไปไหน หนำซ้ำยังเอาขาทั้งสองข้างรัดเอวมันไว้เสียแน่นกันเหนียวอีกทาง

     

                ซีวอนไม่รู้ว่าตัวเองนิ่งอยู่อย่างนั้นนานมากแค่ไหน หรือนานจนเกิดอะไรขึ้นรอบกาย เขารู้ตัวขึ้นมาอีกครั้งตอนคยูฮยอนขบริมฝีปากลงมาเบาๆอย่างกล้าๆกลัวๆ มือเรียวที่วางอยู่บนแผ่นอกของเขาเมื่อครู่เลื่อนไล้ไต่ขึ้นมาจนถึงแนวกรามและเด็กนั่นก็ถือวิสาสะตรึงใบหน้าของเขาเอาไว้

     

                จูบที่คยูฮยอนเป็นคนเริ่ม...

     

     

                 ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าหลังจากนั้นคนข้างบนหรือข้างล่างกันแน่ที่ไม่อดทนต่อความรู้สึกเพราะทั้งสองก็ต่างปล่อยให้มันเกินเลยหนักมากขึ้นเรื่อยๆ กางเกงนักเรียนของคยูฮยอนเหวี่ยงหายไปบนพื้นเหมือนครั้งก่อนๆ สะโพกกลมคร่อมอยู่เหนือหน้าตักกว้างของคนที่ทิ้งกายอยู่เบื้องล่าง

     

                จังหวะที่คยูฮยอนเป็นคนขยับบังคับทำให้ซีวอนเผลอหลุดเสียงครางออกมาหลายครั้ง มือก็คว้าขยำแก้มก้นนุ่มแน่นเข้าไปเต็มๆ

     

                “อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊ะ..อ่า...” ในหัวของคยูฮยอนเต็มไปด้วยสีขาวโพลน เขาคิดอะไรไม่ออกนอกจากใบหน้าของซีวอนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ากับส่วนล่างที่เชื่อมกันไม่ห่าง ฝ่ามือของเขาแปลี่ยนจากยึดบ่าของอีกคนเป็นยึดพนักเก้าอี้ด้านหลังเอาไว้เพื่อให้ตัวเองสามารถกดสะโพกแนบลงไปได้จนมิด

     

                “ฮยอง..ผม...ผมไม่ไหว...อ๊ะ...” ครางเสียงหวานบอกคนที่รูดส่วนอ่อนไหวของเขาให้รับรู้ ซีวอนพยักหน้าแล้วเร่งมือให้เร็วขึ้นเหมือนที่เขาเร่งสะโพกของตัวเองเพื่อสนองความชื้นเหนอะในช่องทางด้านหลังอยู่

     

                “คยู..”

     

                “พี่...อ๊ะ...พี่ซีวอน...”

     

                “สุดท้ายแล้ว...อ่า...”

     

                “อ๊ะ..อ๊า!!” สวนสะโพกเข้าไปจนสุดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปล่อยความต้องการของตัวเองฝากไว้ด้านในช่องทางนั้น น้ำสีขาวไหลย้อยลงมาตามเรียวขา ไม่ต่างอะไรจากเสื้อกล้ามยืดย้วยที่มีคราบน้ำรักเปรอะไปทั่ว สูงขึ้นมาจนถึงหน้าอก

     

                คยูฮยอนทิ้งตัวลงกับอกที่กระเพื่อมขึ้นลงโดยไม่ได้นึกเลยว่าคราบน้ำนั้นจะเปรอะเสื้อของเขา จมูกโด่งรั้นหอบหายใจถี่ ระบายความเหนื่อยล้าจากการเป็นผู้คุมเกมส์ออกมาให้อีกคนได้ยินชัดๆ ลมร้อนเองก็เป่ารกอยู่ตรงข้างใบหูจนซีวอนต้องเอียงคอหลบไม่ให้ตัวเองตื่นมาอีกครั้ง

     

                “ฮยอง..ผม...”

     

                “...”

     

                “ยังเสียวอยู่เลยอ่ะ...” ไม่ว่าความหมายของประโยคนั้นจะเป็นยังไงซีวอนก็ไม่สนใจจะแปลมันอีกต่อไปแล้ว เขาลุกขึ้นโดยที่ส่วนล่างยังคาอยู่ที่ช่องทางของด้านหลัง อุ้มคยูฮยอนเอาไว้แน่นแบบไม่ให้ตกร่วงลงมาได้ในขณะที่อีกฝ่ายก็ใช้ขาเกี่ยวเขาเอาไว้ด้วยกลัวร่วง ขายาวสะบัดกางเกงบอลออกไปจากข้อเท้าแล้วผลักบานกระจกออกเพื่อแทรกตัวเข้าไปด้านใน

     

                ทันทีที่วางลงบนเตียง คยูฮยอนก็ทำให้เขาคลั่งได้ด้วยการชันขาขึ้นมา

                ไอ้ห่าฟัด! กูอยากระเบิดตัวเองตาย!!

      

     

                - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

                “คยู.... คยู....”

     

                “อื้อ...”

     

                “คยูฮยอน...”

     

                “อื่ออออ... อ่า.. ครับ?” คนเพิ่งตื่นสะลึมสะลือปรือตาขึ้นมาตามเสียงเรียกของรุ่นพี่ตัวสูงท้าวตัวให้เงาพาดอยู่เหนือหัวของเขา แขนเรียวยันตัวเองขึ้นมาจากผืนเตียงโดยลืมไปว่าตอนนี้ทั้งตัวไม่ได้ใส่อะไรอยู่และมันก็โชคดีมากที่ซีวอนกดอกของเขากลับลงมาได้ทันเวลาพอดี

     

                “ลุกไหวหรือเปล่า... ไปอาบน้ำ...”

     

                “หือ...” ยกมือขึ้นขยี้ตาด้วยความงุนงงจึงเห็นว่าซีวอนเปลี่ยนชุดมาเป็นเสื้อยืดกับกางเกงวอร์มขายาวเรียบร้อยแล้ว แต่พอมองเลยไปดูนาฬิกาบนผนังห้องเขาก็ขมวดคิ้วเข้ามาเมื่อพบว่านี่มันเพิ่งจะตีสองครึ่งเท่านั้นเอง “อาบน้ำทำไมครับ?”

     

                “กูต้องกลับบ้าน แม่ป่วย...”

     

                “อ่อ...”

     

                “ไปกับกู...ลุกเร็ว...”

     

                “เห?” คิ้วเรียวเลิกขึ้นเมื่อได้ยินคำว่า ไปกับกู ที่จริงก็ไม่แปลกใจอะไรเท่าไหร่ถ้าซีวอนจะต้องกลับบ้านแต่ไอ้คำว่าไปกับกูนี่สิ...... แม่ตัวเองนะ ไม่ใช่แม่เขานี่นา ทำไมต้องให้ไปด้วยหล่ะ

     

                “แต่....”

     

                “ไม่แต่หล่ะ กูไม่ให้มึงอยู่คนเดียว ไปกับกู...” เจ้าของคำสั่งไม่ว่าเปล่าแต่ยังจัดการเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อให้เรียบร้อย คยูฮยอนที่เพิ่งสตาร์ทเครื่องให้ติดได้เพิ่งจะตามสถานการณ์ทันก็ตอนที่โดนอุ้มมาปล่อยไว้ในห้องน้ำเสียงแล้ว

     

                ร่างบางสลัดผ้าขนหนูออกไปจากตัวแล้วเดินงัวเงียไปหาฝักบัวเพื่อชำระร่างกายที่เพิ่งจะเสร็จจากช่วงชุลมุน(?)มาหมาดๆ เอาฝักบัวยิงใส่หน้าเข้าไปแรงๆให้ตัวเองตื่นเสียทีหนึ่งจึงคิดขึ้นมาได้ว่าพี่ซีวอนไม่ลงรอยกับแม่สักเท่าไหร่

     

                อ่อ... ที่แซะเขาขึ้นมานี่คงต้องการให้ไปเป็นเพื่อนสินะ

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

                “ผมจะไปอยู่ที่อื่น!

     

    “ซีวอน! แกชักจะปีกกล้าขาแข็งมากไปแล้วนะ!!” หญิงวัยสามสิบห้าตวาดเสียงดังออกมาพร้อมกับยกนิ้วของเธอขึ้นชี้หน้าเด็กผู้ชายตัวสูงกำยำ ดวงตาที่ถูกเขียนประดิษฐ์ด้วยเครื่องสำอางราคาแพงมองจิกไปยังเจ้าของชื่อซีวอนที่ยืนกำมือแน่นอยู่เบื้องหน้า

     

    “ทำไม?! แม่ดูถูกผม แม่ไม่ชอบในสิ่งที่ผมทำ แม่ก็คงไม่ต้องการเห็นผมอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกันใช่ไหมหล่ะ!

     

    “แกอย่ามาเถียงฉันนะ แกเป็นลูกมีหน้าที่เรียนและทำตามที่ฉันสั่งก็พอ!” เธอยืนยันจุดยืนของตัวเองด้วยถ้อยคำที่ทำให้แววตาของเด็กชายสะดุด ซีวอนเหมือนถูกปลิดลมหายใจออกไปในชั่ววินาทีหนึ่งก่อนที่เขาจะปล่อยให้ความโกรธไหลท่วมไปทั่วทั้งร่าง

     

    “ไม่!! ผมไม่ทำ... แม่ไม่สิทธิ์มาบังคับผม!

     

    “ทำไมฉันจะไม่มี?!

     

              “แม่ไม่มี!!” เขาตวาดด้วยเสียงอันดังก้องจนรู้สึกได้ว่าบ้านหลังใหญ่กำลังสั่นไหว “แม่ไม่มีสิทธิ์บังคับใครทั้งนั้น! ผมจะหนีแม่ไป...หนีไปให้ไกลที่สุด!!

     

    “ซีวอน!!

             

    “ผมไม่เคยเข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทิ้งผม แต่วันนี้ผมได้คำตอบแล้ว...พ่อไม่ได้ทิ้งผม”

     

              “...”

     

              “แต่พ่อทิ้งแม่ต่างหาก! คนอย่างแม่ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้หรอก!!!” ดวงตาคมกริบไม่ได้สนใจชายมองผู้หญิงคนนั้นที่สงบลงไปหลังจากคำพูดของเขาจบ ซีวอนหิ้วกีต้าร์ขึ้นสะพายไว้ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากสถานที่ที่ตัวเองเรียกว่าบ้านออกมา

     

                เขาปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา...ไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงที่ทรุดลงไปกองกับพื้นพรม

     

     

                ซีวอนไม่นึกชอบฝนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะในวันที่ออกจากคฤหาสน์ (คงต้องเรียกแบบนั้นตามขนาดของมันนั่นแหละ) หลังใหญ่นี่ไป สายฝนก็ตกทั้งจากบนฟ้าและจากใต้ตาของเขา...

     

                ไม่ชอบเวลาที่ตัวเองอ่อนแอ แต่ก็ไม่อาจห้ามไม่ให้ช่วงเวลาเหล่านั้นเกิดขึ้นมาได้อยู่ดีเพราะเขาก็ยังคงเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึกนึกคิดสารพัดสารพัน... ความรู้สึกที่ต้องมายืนมองบ้านหลังใหญ่จากหน้าประตูเหล็กนี่มันก็เลยออกจะหน่วงเสียมากกว่า

     

                “คุณซีวอน!

     

                “อืม” เขาขานรับแม่บ้านด้วยเสียงแผ่วเบาในลำคอ คุณป้าคนเดิมที่ดูแก่ลงไปเยอะกว่าวันก่อนกุลีกุจอเข้ามาดันบานประตูกว้างเพื่อให้เขาขับรถเข้าไปได้ แสงไฟจากไฟแก้วสว่างวาบไปทั่วลานกว้าง กลับมาสู่ที่จอดแรกของมันซึ่งคงจะคิดถึงกันน่าดู

     

                “ฮยอง...”

     

                “...” ร่างสูงหันมาเลิกคิ้วให้กับคนที่เรียกหาเขาหลังจากที่ยานพาหนะหยุดลง

     

                “ผมเข้าไปได้ใช่ไหมครับ...” คยูฮยอนมีท่าทีตื่นตระหนกเสียยิ่งกว่าตอนอยู่บนเตียงกันเขาเสียอีก ใบหน้าหวานหมุนมองไปรอบตัวที่เป็นบ้านหลังใหญ่เกือบเท่าพระราชวังด้วยความรู้สึกกลัวเกรง ดูจากคอนโดที่อยู่ก็บอกได้แล้วว่าพี่ซีวอนมีฐานะมากแค่ไหน แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดมีบ้านต่างวังสุลต่านขนาดนี้!

     

                “เข้าได้”

     

                “โห... ใหญ่มาก”

     

                “หึ... เข้าไปข้างในเถอะ ที่นี่ไม่มีอะไรหรอก...” เขาพูดแล้วผลักประตูรถเพื่อพาตัวเองออกมาจากห้องโดยสาร แม่บ้านคนเดิมส่งยิ้มให้เขาทั้งที่ใบหน้าของหล่อนตื่นกลัวราวเห็นผี

     

                ซีวอนคว้าร่มที่คุณป้าคนนั้นถือมาให้แล้วกางมันออกไปรับคยูฮยอนจากที่นั่งอีกฝั่ง เด็กฮยอนของเขายกมือขึ้นขยี้ตาและทันทีที่มันเห็นผ้าแม่บ้านมันยก็รีบค้อมตัวลงให้เขสอย่างสุภาพจนป้าแกยิ่งตกใจหนักเข้าไปใหญ่

     

                “อ่ะ..เอ่อ...สวัสดีครับ”

     

                “ค่ะ..ส สวัส...สวัสดีค่ะ”

     

                “แหะๆ...” มันยิ้มเผล่ออกมาแล้วเบียดตัวเองเข้ามาในร่มของผมที่กำลังตวัดสายตามองป้าให้เดินนำเข้าไปด้านใน ขายาวของผมก้าวไปตามพื้นเพื่อตรงเข้าสู่คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ไม่เคยมีอะไรตามที่บอกไปนั่นแหละ

     

                ไม่มีอะไรเลยแม้แต่ความเป็นครอบครัว... ก็ไม่มี

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

     

                ชเวซีวอนไม่เคยรอให้ต้องมีเสียงตอบกลับมาจากในห้องอยู่แล้ว ร่างสูงดันบานประตูไม้โอ๊คให้เปิดออกเพื่อเดินเข้าไปด้านในห้องหรูที่เขาคุ้นหูคุ้นตาเป็นอย่างดี ขายาวสาวตรงไปยังเตียงนอนกว้างกลางห้อง บนนั้นมีร่างของหญิงวัยสี่สิบกว่สามสิบตอนปลายนอนคู้อยู่ในผ้าห่มผืนหนา

     

                ฮีทเตอร์ทำงานหนักมากจนเขารู้สึกร้อนไปหมด ร้อนทั้งผิวกายและผิวหัวใจที่ตอนนี้เต้นรัวระส่ำกด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย ฝ่ามือใหญ่เผลอกุมข้อแขนของเด็กที่ตามติดมาเอาไว้แน่น เรียกความมั่นใจให้ตัวเองที่เสียสมดุลไปชั่วขณะก่อนจะหันหน้าไปที่เตียงเพื่อมองเจ้าของเสียงไอค่อกแค่ก

     

                “แค่กๆ...แค่ก...”

     

                “คุณผู้หญิงคะ... คุณหนูมาหาค่ะ” ป้าแม่บ้านคนนั้นขยับเข้าไปบอกคุณผู้หญิงของบ้านที่นอนซมซานกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ เพราะความมืดเขาจึงมองไม่เห็นว่าแม่มีสีหน้าอย่างไรตอนได้ยินชื่อ แต่ท่าทางนิ่งงันไม้ขยับไปไหนก็ทำให้หัวใจของเขาเจ็บแปล๊บได้อย่างน่าประหลาด

     

                ไกลขนาดนี้แม่ยังไม่สนใจเขามากขึ้นเลยแม้แต่น้อย

     

                “คุณผู้หญิงคะ...”

     

                “สบายดีใช่ไหม?” เสียงนั้นเอ่ยถามขึ้นมาลอยๆโดยที่ไม่ยอมพลิกตัวกลับมามองเขา ป้าแม่บ้านคนเดียวและคนเดิมเงยหน้าขึ้นมาเป็นเชิงถามว่าเธอควรจะออกไปไหมและเขาก็ให้คำตอบด้วยการพยักหน้าให้หล่อน

     

                บานประตูปิดลง ภายในห้องเหลือเพียงบรรยากาศอึมครึมกับสามชีวิตที่เหลือ

     

                “สบายดี” ตอบห้วนๆด้วยนึกโมโหคนที่ไม่สบายแล้วยังจะมาเป็นห่วงคนอื่นอีกแต่ซีวอนก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคำถามนั้นมันทำให้หัวใจของเขาชื้นขึ้นมาอย่างหน้าประหลาด... และเพราะไม่รู้จักความรู้สึกแบบนี้จึงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังดีใจ

     

                “อืม...ดีแล้วหล่ะ”

     

                “แม่เป็นอะไร ทำไมไม่ไปหาหมอ...”

     

                “โรคของคนใกล้ตาย” น้ำเสียงของเธอแลดูประชดประชันและเธอก็คงตั้งใจจะทำอย่างนั้นนั่นแหละ.. ซีวอนหัวเราะหึออกมาในลำคอแล้วขยับขาที่ชาจนเกือบแข็งเข้าไปใกล้กับเตียงนอนนั้น ฝ่ามือของเขากุมข้อมือของคยูฮยอนเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเหมือนเดิมเพื่อลากเด็กนั่นเข้ามาด้วย

     

                เสี้ยวใบหน้าคมฉายความกังวลออกมาให้เห็นชัดเจน ภายในความมืดที่มีเพียงแสงไฟอ่อนๆจากระเบียงส่องมาพอให้เห็นลางๆทำให้คยูฮยอนสังเกตได้ถึงผมคิ้วที่ขมวดแน่นกับท่าทางไร้ความมั่นใจอันไม่สร้างความรู้สึกเป็นชเวซีวอนออกมาสักนิด

     

                คยูฮยอนตัดสินใจสอดนิ้วเกี่ยวเข้าไปตามร่องนิ้วของอีกคนแล้วกุมเอาไว้แน่น รุ่นพี่ตัวสูงผินใบหน้ากลับมามองเขาเพียงเล็กน้อยก่อนจะกระชับมือนั้นเข้ามาจนไม่มีช่องว่างให้อากาศผ่าน ตอนนั้นเองที่คยูฮยอนสัมผัสได้ว่าเจ้าของฝ่ามือใหญ่กำลังสั่นไหวและเขาที่เป็นเพียงเด็กน้อยผู้ไม่เคยรู้อะไรสักอย่างก็ได้แต่ประคองฝ่ามือนั้นไว้ด้วยไออุ่นทั้งหมดที่ตัวเองมี

     

                “อย่าประชด แม่เป็นอะไร”

     

                “ฉันไม่ได้เป็นอะไร...”

     

                “อย่าดื้อได้ไหมครับ”

     

                “...” เขาเอี้ยวตัวลงไปรั้งไหล่ของผู้เป็นแม่ให้หันกลับมาแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามีน้ำตาไหลลงจากใต้ดวงตาคมโฉบของเธอ ซีวอนผงะฝ่ามือของตัวเอง รู้สึกได้ว่าเลือดในร่างกายของเขาไหลช้าลงคล้ายถูกแช่แข็งด้วยสาเหตุบางอย่างที่เขาหาไม่เจอในดวงตาเย็นยะเยือกของผู้หญิงคนนั้น

     

                ความรู้สึกที่ได้เห็นภาพตัวเองสะท้อนอยู่ในลูกปัดกลมตรงหน้ามันชวนให้เสียดอกชะมัด!

     

                “แม่....”

     

                “หวัดธรรมะ...”

     

                “แม่ตัวร้อน” เสียงทุ้มเอ่ยตัดขึ้นมาไม่ให้คนเป็นแม่ได้พูดอะไรจนจบ เขาเอื้อมมือไปแตะสัมผัสบนหน้าผากของเธอแล้วชักมือกลับมาทันทีเมื่ออุณหภูมินั่นสูงกว่าที่ควรจะเป็น “ไปหาหมอครับ”

     

                “...”

     

                “ลุกขึ้น ผมต้องพาแม่ไปหาหมอ” ส่งแววตาบีบบังคับลงไปยังใบหน้าของหญิงวัยสามสิบตอนปลายราวกับจะข่มขู่อะไรสักอย่าง ชเวนารึมตวัดดวงตามองลูกชายของตัวเองเขม็งเพื่อพยายามต่อสู้ไม่ให้ตัวเองต้องลุกขึ้นมาจากผืนฟูกและจังหวะนั้นที่เขาเห็นบุคคลแปลกหน้าซ่อนกายอยู่เบื้องหลังลูกชายหากแต่ก็ไม่นึกคิดจะสนใจมากมายเท่าใดนัก

     

                “ฉันไม่ไป...”

     

                “แม่ต้องไป!” เผลอขึ้นเสียงใส่คนตรงหน้าที่ดูไม่มีท่าทีสะทกสะท้านอะไรไปมากกว่าผงะนิ่งผิดกับคยูฮยอนที่ยืนเม้มปากแน่นด้วยความกลัวแล้วเริ่มสวดภาวนาในใจ

     

                “...” เธอยังคงนิ่งไม่ไหวติงละมีเพียงสายตาว่างเปล่าทอดมองมายังลูกชายเท่านั้น

     

                “เหอะ...”

     

                “...”

     

                “ไปหาหมอครับ... กับบางเรื่องแม่ต้องเป็นฝ่ายถูกบังคับเสียบ้างนะ...” ซีวอนทิ้งตัวลงนั่งข้างเตียงแล้วจับให้ผู้ที่มีอายุมากกว่าเขาอยู่หลายรอบพลิกกายกลับมา ดวงตาคมเข้มจ้องมองสู้กับสายตาคมโฉบที่ไม่มีอะไรต่างกันแม้สักจุด เขาหมายความตามที่ตัวเองพูดออกไปนั่นแหละ... บางทีแม่ควรเป็นฝ่ายโดนบังคับเสียบ้าง

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    ตอนนี้เป็นการพบกันผ่านๆของลูกสะใภ้กับแม่ผัว และตอนหน้าจะเป็นการพิสูจน์ตัวเองของนางคะ 555555555555555555 เอาใจช่วยแม่นางให้ผ่านด่านไปได้ด้วยนะคะ <3

    ตอนหน้าก็ยังคงวนเวียนอยู่กับแม่ยายนั่นแหละนะ....

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×