คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Wandering III
{ Wandering }
Third Step
“นายว่า...ทำไมถึงเลิกกันแฟนนะ?” จู่ๆคริสก็เปิดประเด็นสนทนาใหม่ขึ้นมาหลังจากที่เราสองคนนั่งเงียบกันไปนาน แก้วเบียร์มากมายวางเกลื่อนระเกะระกะ รอสำหรับการคิดเงินในตอนท้าย จำนวนของมันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเองก็ดื่มมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ฝ่ายช่างภาพที่เดินทางรอบโลกก็ไม่ต้องพูดถึง... คริสเพิ่งบอกว่าเขาได้เพื่อนส่วนมากจากวงเหล้านี่แหละ (ในกรณีเวียดนามก็กลายเป็นเบียร์ไปหน่ะ)
“เขาบอกผมไม่ว่าง...” อาจเป็นเพราะอาการมึนที่กำลังถ่วงหัวของผมอยู่ทำให้ยอมปริปากบอกไปได้โดยง่าย เซฮุนเอนหลังของตัวเองลงซบกับผนังปูนเย็นเฉียบแล้วยกน้ำสีอำพันขึ้นกระดกก่อนจะเล่าต่อ "ผมต้องทำแล็บ... เขาต้องถ่ายแบบ เราเลยไม่ค่อยเจอกันมาสามเดือนแล้วหล่ะ"
“...” พี่ชายตัวสูงดูตั้งใจฟังพอๆกับที่ตั้งใจพินิจใบหน้าขาวนวลที่กลายเป็นสีแดงเล็กน้อยจากฤทธิ์แอลกอฮอลล์ ในขณะที่เจ้าของดวงตาคู่คมกลับเปี่ยมไปด้วยก้อนสติอันครบถ้วน ต่างจาเซฮุนมีแต่จะพร่องลงเมื่อเบียร์แก้วที่เท่าไหร่ไม่รู้มาถึง
“ผมทำแล็บสกัดน้ำมัน... เขาเดินเข้ามาในห้องทดลองแล้วผลักหลอดของผมลงไป ตอนแรกผมก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ แต่สุดท้ายมันก็พังลงเพราะเธอทำแบบนั้นอีกครั้ง..เหอะ"
“...”
“แล้วก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามา... จากนั้นเธอก็บอกเลิกกับผม...”
“...”
“ปล่อยผมเก็บเศษแก้ว เช็ดน้ำมัน....”
“แล้วก็ปาดน้ำตาสินะ" นิ้วเรียวเย็นเฉียบของร่างสูงเคลื่อนเข้ามาหาใบหน้าหวานเรียวของคนที่กำลังปริปากเล่าเรื่องออกมา คริสเกลี่ยเม็ดน้ำที่มันหยดจากใต้ตาโดยที่เจ้าตัวไม่ทันรู้สึกด้วยซ้ำ เซฮุนกลอกดวงตาเยิ้มของตัวเองมองพี่ชายที่คลี่ยิ้มอ่อนโยนมาทางเขา ไม่ปฏิเสธสัมผัสนั้นทั้งที่รู้สึกประหลาด ทั้งที่หัวใจเต้นแรงจนเหนื่อย...
แต่เขาก็ชอบมันเกินกว่าจะขยับหนี
“แล้วพี่หล่ะ?”
“หืม?”
“พี่บอกว่าแฟนหึงพี่กับกล้อง"
“อ่อ... ลู่หานหน่ะเหรอ" มือของคริสที่ชักออกมาจากดวงหน้าของอีกคนเขี่ยไปรอบปากแก้วเบียร์ เด็กน้อยจ้องมองเขาคล้ายจะคาดคั้นซึ่งมันทำให้ร่างสูงแค่นหัวเราะ... ไม่มีใครเคยถามเรื่องนี้กับเขาหลังจากรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วเขากับลู่หานกลายเป็นรูมเมทกันในตอนนี้
เซ็กส์เฟรนด์ กลายเป็นเรื่องธรรมดา... ที่หลายคนไม่เข้าใจ
“ครับ?”
“ลู่หาน... เขาชื่อลู่หาน"
“อ่อ...”
“เราเจอกันตอนเรียนมหาลัย คบกันมานานจนฉันทำงาน ทั้งที่คิดว่าเขาจะเข้าใจแต่ก็ไม่เลย" คริสระบายยิ้มออกมาเมื่อถึงใบหน้าหวานของจอมดื้อรั้นที่ชอบทำให้เขาหนักใจไปพร้อมกับมีความสุข
“โห...”
“ฉันต้องเดินทางบ่อย ยิ่งพอได้งานเป็นช่างภาพคอลัมน์ท่องเที่ยวแล้วยิ่งบ่อยหนักกว่าเก่า... เขาเป็นนักเขียนอยู่ที่เกาหลี ได้ทุนมาเรียนแล้วไม่กลับประเทศหน่ะ"
“...”
“เราทะเลาะกันบ่อย แต่ก็คิดว่าไม่มีอะไร จนฉันเจอเขาอยู่กับเพื่อนเก่า...”
“...”
“บนเตียงในห้อง"
“อ่า...”
“ก็ไม่คิดว่าจะเจ็บขนาดนี้หน่ะนะ" คริสกระดกเบียร์ในแก้วรวดเดียวหมด ภาพของวันนั้นยังติดตา เขาพยายามคิดว่ามันอาจจะเป็นฝัน เป็นเรื่องบังเอิญ อาจมีตื้นลึกหนาบางมากกว่านั้น แต่ลู่หานก็อธิบายกับเขาด้วยคำว่าเลิกกันเถอะก่อนจะเดินผ่านไหล่ของเขาไปในสภาพเสื้อคลุมหมิ่นเหม่
แขกไม่ได้รับเชิญที่ชื่อชานยอลเดินออกไปจากห้องเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ครุกรุ่น สองคนนั้นร่ำลากันเล็กน้อยก่อนที่ประตูจะปิดลง คริสจำได้ว่าเขากระชากเสื้อคลุมของลู่หานออก ประดับรอยแดงทับลงบนเรือนกายนั้นจนถึงเช้าทั้งที่ตัวเองไม่ได้นอนมาจากการบินข้ามน้ำข้ามทะเลหลายพันไมล์
ลู่หานสะอื้น ตบหน้าเขาหลายร้อยรอบโดยไม่รู้ว่าเขาเองก็สะอื้นเหมือนกันตอนก้มลงขบผิวเนื้อที่มีรอยเป็นจ้ำ
“เขาบอกว่าเขาเกลียดฉัน เกลียดกล้องของฉัน...”
“...”
“แล้วเขาก็เกลียดเครื่องบินพวกนั้น เกลียดท้องฟ้า เกลียดบรรณาธิการ ฮะๆ" คริสหัวเราะเบาๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเด็กน้อยตรงหน้าที่เบ้ปากแล้วยิ้มขื่น...
“แล้วทำไมเขาไม่มากับฮยองหล่ะครับ?”
“...”
“...ถ้าเป็นผมนะ... ผมจะไปกับฮยองทุกที่เลย" เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มยานคาง มือเรียวยกแก้วเบียร์กระดกลงคออีกครั้ง ท่าทางทั้งหมดรวมทั้งคำพูดอยู่ในสายตาของคริส ช่างภาพหนุ่มหัวเราะเบาๆเมื่อได่้ยินคำตอบขวางโลกของเจ้าเด็กที่เขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยมาหลายวัน...
คริสยกแก้วเบียร์ขึ้นกระดกลงคอ
ถามหาเหตุผลที่ตอนนี้ไม่อยากจะกลับเกาหลี ไม่อยากจะเจอลู่หาน...
“งั้นนายก็ตามฉันไปทุกที่สิ เซฮุน...” เสียงทุ้มเปรยออกมาเบาๆ ความเงียบปกคลุมพื้นที่บริเวณนั้น บทสนทนาปลิวหายไปกับสายลมที่โบกสะบัดอยู่รอบกาย ทั้งเซฮุนและคริสไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนั้น เพียงแต่น้ำสีเหลืองอำพันกำลังกระดกลงไปในลำคออีกหลายอึก
จำได้เลือนลางเหลือเกินว่าแก้วสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อไหร่และใครเป็นคนจ่ายตังค์ (แต่แน่นอนว่ามีคนจ่าย ไม่เช่นนั้นแม่ค้าคงไม่ปล่อยเราสองคนลุกออกจากที่นั่ง) คริสวางร่างของเด็กน้อยลงบนผืนเตียงกว้าง ความจริงทั้งเขาและเซฮุนก็ไม่ได้ต่างอะไรมากเท่าใดนักในเวลานี้ เพียงแต่เขาหน่ะกร้านโลกและมากประสบการณ์รวมทั้งมีสรีระที่เหนือกว่าเลยสามารถแบกเด็กที่เมามายไม่ได้สติมาวางลงเตียงได้
“ฮื่ออ...”
“ฮื่ออารายยยย...” คริสไม่ค่อยพึงใจในน้ำเสียงยานคางของตนเองเท่าไหร่ ร่างสูงถีบผ้านวมที่รู้สึกว่ามันช่างหนาเตอะและไม่จำเป็นมากนักให้ร่นลงไปอยู่ในระดับเอว เซฮุนเคี้ยวน้ำลายเป็นเสียงแจ่บๆ กลิ้งตัวเข้ามาชนกับสีข้างของเขาก่อนจะขยับจมูกฟุดฟิดเหมือนลูกหมาลูกแมวดมอาหาร
“เหมนนนนนนนนนน"
“นายก็กลิ่นดีจังน้าา~” คริสย้อนคืนด้วยเสียงยานย้วยก่อนจะตะปบมือโอบรอบเรือนร่างผอมบาง เขาตะแคงหน้าหันกลับไปมองเจ้าของใบหน้าขาวที่หลับตาพริ้ม พึมพัมอะไรสักอย่างเป็นภาษาเกาหลีเข้าใจยากก่อนจะซุกใบหน้ากลมๆนั่นมาไว้ที่ไหล่ของเขา คริสยิ้มออกมา... เขาไม่เคยยอมเปิดเปลือกตาหนักอึ้งมองใครคนอื่นนอกจากลู่หานและกล้องถ่ายรูปที่ตอนนี้ถูกวางเกะกะอยู่สักแห่งบนพื้นห้อง
เวลานี้เขาคิดว่าการได้กอดโอเซฮุนมันสำคัญกว่ากล้องที่ตัวเองรักนักรักหนาเสียอีก
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
คริสรู้สึกตัวอีกครั้งในช่วงบ่ายของวัน ตื่นขึ้นสะบัดกลุ่มผมสีมองเข้มของตัวเองด้วยความงุนงงพลางนึกโทษเบียร์เวียดนามที่ราคาถูกกว่าเกาหลีครึ่งต่อครึ่งจนอดโซ้ยหนักไม่ได้
ใบหน้าคมคายมองสูงขึ้นไปเล็กน้อย เขาเห็นใบหน้าขาวของเด็กปัญญาอ่อนที่ชื่อว่าโอเซฮุนอยู่ห่างออกไปไม่เท่าไหร่ ความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้เด็กปากดีที่เมื่อคืนละเมอบ่นร้อนจนลุกขึ้นมาถกเสื้อของตัวเองขดกายเป็นกุ้งแห้งตัวงอ รอยยิ้มบางๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าคมเข้มก่อนที่ร่างสูงจะเคลื่อนตัวขึ้นไปให้ใบหน้าเสมอกัน
ไอน์สไตน์บอกว่ามนุษย์โทษแรงดึงดูดไม่ได้เมื่อตกหลุมรักใครสักคน และถ้าหากจะหาเหตุผลของการอยากจูบใครสักคน เขาก็คงกล่าวโทษแรงดึงดูดไม่ได้เหมือนกันสินะ... คริสหัวเราะให้กับความคิดของตัวเอง เปลี่ยนไปเคลื่อนใบหน้าหล่อคมเข้าใกล้เพื่อเตรียมจรดริมฝีปากปิดแนบลงไปกับเรียวปากสวยคู่นั้น
เสียงโทรศัพท์มือถือสั่นครืดคราดอยู่เหนือหัวของเขา ดวงตาคมเข้มเหลือบมองชื่อของที่ปรากฎอยู่บนจอกระจก แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่จะปัดรังควานให้มันออกห่างไปจากตัวอย่างลวกๆด้วยการดันเจ้าเครื่องมือสื่อสารเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเสื้อคลุมไหมพรมที่ขดเป็นก้อนกลม... ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปแตะริมฝีปากของโอเซฮุนด้วยปากของเขาเอง
เด็กน้อยขยับยุกยิกตอนที่คริสถอนหน้าออกมา เขาอมยิ้มให้กับการกระทำตามใจตัวเองและคิดว่ามันสนุกดีไม่ใช่น้อย ร่างสูงดันตัวเองกลับมานอนหงายมองเพดานห้อง เซฮุนขยับตัวอีกครั้งทำท่าเหมือนจะตื่นแต่สุดท้ายก็ไม่ หมอนั่นแค่ยกขามาพาดอยู่กับช่วงสะโพกของเขา เบียดเขามาจนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดอยู่ที่หัวไหล่กว้าง
คริสยิ้ม หัวเราะ... และลืมว่าลู่หานโทรเข้ามาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนไปเสียสนิท
กว่าจะแซะตัวเองขึ้นไปอาบน้ำได้ก็ตอนที่เซฮุนตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าง่วงงุน พอหันมาเห็นว่าก่ายขาทิ้งไว้บนตัวเขาเด็กนั้นก็ยกเอาใบหน้าของมันซุกลงไปกับหมอนแล้วรีบผละออกอย่างเร็วไว ครั้นพอเอื้อมมือไปสะกิดเล็กสะกิดน้อยก็ส่งเสียงขู่ฟ่อมาเป็นระยะ จนเขาต้องยอมลุกหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้ามาในห้องน้ำ
อากาศวันนี้ค่อนข้างเป็นไปในทางที่ดี หนาวเล็กน้อย แดดไม่เยอะเหมือนกับเมื่อวาน เสียงพยากรณ์อากาศในช่องที่บรรยายเป็นภาษาอังกฤษระบุว่าฝนจะลงเม็ด (เขาได้ยินตอนกำลังอาบน้ำ) หัวสมองกลมๆจึงพยายามหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ต้องใช้เวลามากจนเกินไปในการเดินทางเพื่อรองรับเวลาช่วงเย็นที่เหลืออยู่
“ออกไปกินข้าวกันไหม... นี่กี่โมงแล้วเนี่ย?”
“บ่ายสอง...” เซฮุนตอบอ้อมแอ้มโดยไม่ละสายตาออกมาจากทีวี ดูก็รู้ว่าเขายังเขินอยู่ที่ตื่นมากอดผมอยู่แบบนั้น แต่ก็ตลกดีที่เขาไม่ยักเขินผมในสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเหมือนที่ลู่หานมักจะหน้าแดงเป็นปื้นแล้วแสดงท่าทีโวยวายราวกับว่าเขาได้ไปฆ่าใครตายมา
“งั้นพอนายอาบน้ำเสร็จเราออกไปเดินหาของกินกัน" คริสกล่าวตอนที่พาตัวเองไปยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า เซฮุนพยักหน้ารับแต่ไม่ได้ขานอะไรออกมา ร่างผอมคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพาดคอแล้วเดินเอื่อยตรงไปยังห้องน้ำแล้วผลักประตูปิดลงเงียบๆ
เซฮุนพาตัวเองมายืนอยู่หน้ากระจก นิ้วเรียวเลื่อนขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเองเบาๆก่อนจะเลื่อมากุมแก้มทั้งสองข้างเอาไว้พลางส่ายหน้าไปมา... เขาคิดว่าตัวเองรู้สึกตัวตอนที่คริสก้มลงมาปิดปาก มันเป็นอารมณ์กึ่งหลับกึ่งตื่น หรือที่จริงเขาตื่นแต่ดันแกล้งทำเป็นหลับอยู่เพราะไม่อยากปฏิเสธจูบที่อบอุ่นขนาดนั้น...
“พี่เขาอาจจะแฮงค์ก็ได้...” พยายามพึมพัมปลอบใจตัวเองในแบบที่ไม่ค่อยจะช่วยอะไรสักเท่าใดนักเพราะไม่ว่าจะหาร้อยพันสาเหตุมาอ้าง ก้อนเนื้อมีชีวิตในอกข้างซ้ายก็ยังคงทำงานอย่างหนัก... แม้พยายามควบคุมสติของตัวเองแต่โอเซฮุนก็ล้มเหลวเมื่อรสสัมผัสนั้นยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปาก เอาน้ำลูบเท่าไหร่ก็ไม่หาย
กว่าจะอาบน้ำเสร็จ (ความจริงยืนทำใจนานเสียมากกว่า) ก็กินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง ทำเอาคริสสงสัยอยู่ไม่น้อยแต่รุ่นพี่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร พวกเขาใส่รองเท้ากันให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกมาจากห้องพักเพื่อตรงไปยังชั้นล่าง เรามองตาพยักหน้ากันสองสามครั้ง (แน่นอนว่าเซฮุนไม่กล้ามองนาน) ก็รู้ได้ว่านั่งแท็กซี่คงจะเป็นทางเลือกที่ดี
ยานพาหนะส่งเราที่หน้าร้านอาหารที่ค่อนข้างมีระดับ เป็นร้านที่ตกแต่งด้วยสไตล์ฝรั่งเศสอารมณ์ชนบท เน้นโทนสีขาวสลับกับไม้ กระนั้นก็มีลวดลายแบบจีนประดับประปรายตามซี่ประตูหรือโคมไฟที่ยังไม่ถูกเปิดใช้งาน ขนาดของร้านไม่ได้ใหญ่โตมากมายนักเพราะมันถูกแบ่งออกเป็นหลายโซน พวกเราเลือกนั่งในโซนที่เป็นมุมกาแฟที่มีเบาะโซฟา การันตีได้ว่าสามารถนั่งได้นาน
เราสั่งอาหารแยกกันหลากหลายชนิดเพื่อให้ได้ชิมอะไรหลายแบบ ที่นี่ส่วนมากเป็นอาหารต่างชาติที่ถูกนำมาผสมเอกลักษณ์ความเป็นเวียดนาม แบ๋งหมี่ ขนมปังฝรั่งเศสไส้ไก่ใส่แตงกวามะเขือเทศและผักกาดหอมเป็นเมนูของผม ส่วนพี่คริสเลือกทานอาหารเวียดนามดั้งเดิมอย่างแบ๋งก๋วน หรือ ปากหม้อญวน และที่ขาดไม่ได้ก็เป็นจะเป็นกาแฟแบบมีกรองในแก้วอันเลื่องชื่อว่าถ้าไม่ได้กินเหมือนมาไม่ถึงเวียดนามก่อนจะตบท้ายด้วยคัสตาร์ดเนื้อนิ่ม
“เขาว่ามะรืนนี้ฝนจะหยุดแล้วหล่ะ" คริสเงยหน้าขึ้นมาจากโปรแกรมพยากรณ์อากาศ พลิกมันให้เซฮุนดูข้อความภาษาอังกฤษในโปรแกรม ที่ประกอบด้วยรูปเกล็ดหิมะ "เห็นว่าจะหนาวแล้วด้วย"
“อ่า ดีจังครับ"
“ขึ้นไปซาปากันไหม?”
“หือ? ซาปา?”
“อ่า... เดี๋ยวเสิร์ชให้ดู"
“ที่เป็นภูเขาใช่ป่ะครับ?”
“ทำนองนั้นแหละ" คริสตอบผ่านๆเพราะสนใจอยู่กับการสไลด์หารูปให้เซฮุนดู "นี่ไงๆ"
“หยาา!!! ที่นี่แหละที่ผมอยากไป" หน้าตาของเซฮุนดูดีใจเกินจำเป็น ร่างผอมคว้าโทรศัพท์ขอเขาไปสไลด์ดูภาพต่อ โดยไม่ทันสังเกตว่ามือหนาเอื้อมไปคว้าหยิบกล้องถ่ายรูปคู่ใจขึ้นมา กระทั่งเสียงชัตเตอร์คมเฉียบดังขึ้น โอเซฮุนถึงได้เงยหน้ามองเจ้าของกล้องโปรขนาดใหญ่ แต่สิ่งที่เขาเห็นลับเป็นเลนส์กล้องระยะประชิด
แล้วก็อ้าปากหวอเต็มๆตอนมีเสียงแชะสามครั้งรัว
“ฮ่าๆๆๆ! หน้านายตลกหว่ะ"
“ฮยองลบเลย ลบเลยยยยยยยย~” มือบางเอื้อมไปหมายจะคว้าเอากล้องมาจัดการแต่คริสก็ไวกว่า ชักมือกลับอย่างรวดเร็วแล้วเอาตัวกล้องมาซ่อนไว้ข้างตัวแทน
โอเซฮุนไม่ละความพยายามทิ้งไปง่ายๆ เขาลุกขึ้นจากที่นั่งฝั่งตรงข้าม ย้ายมานั่งบนโซฟาตัวเดียวกับคริส ทำให้ร่างสูงต้องเอี้ยวตัวเอากล้องหลบไปอีกฝั่ง คริสส่งเสียงหัวเราะขบขันเมื่ออีกคนโถมตัวหมายจะแย่งเครื่องมือทำมาหากินออกไปจากมือของเขาเป็นพัลวัน ร่างสูงหลบเลี่ยงอยู่นานกระทั่งรู้สึกเมื่อยจึงพลิกตัวกลับไปโดยใช้แขนเพียงข้างเดียวประคองกล้องไว้
กลายเป็นเซฮุนคร่อมอยู่เหนือร่างของเขา
ร่างผอมสะดุดทันทีเมื่อริมฝีปากของคริสอยู่ในระดับสายตา ความรู้สึกเมื่อเช้าพุ่งเข้าชนโอเซฮุนอย่างจังจนเจ้าตัวตั้งหลักไม่ถูก แขนเล็กพยายามจะยันกับอะไรสักอย่างเพื่อรั้งตัวเองขึ้นมาแต่เขาก็ทำไมได้เพราะไม่รู้ว่าจะยันกับอะไรดี หัวใจทำงานอย่างหนัก... หนักขึ้นจนเซฮุนกลัวว่ามันจะไปกระแทกกับแผ่นอกว้างด้านล่าง
“เอ่อ....” เสียงของบริกรทำให้ทั้งสองคนสะดุ้งผละออกจากกัน คริสกระแอมไอเบาๆเมื่อเห็นพนักงานเสิร์ฟแอบอมยิ้มตอนวางแก้วกาแฟลงมา เธอโค้งให้พวกเขาก่อนจะเดินกลับไปยังเคาท์เตอร์ เหมือนกับเซฮุนที่ลุกขึ้นยืนจะไปนั่งอีกฝั่ง
คริสไม่รู้ว่าวินาทีนั้นเขาคิดอะไรแต่แขนแกร่งก็คว้าข้อมือเรียวเล็กนั่นเอาไว้แล้วกระตุกลงมา ร่างบางเซถลาทิ้งตัวลงบนตักเขาครึ่งก้นและลงโซฟาอีกครั้งก้น เซฮุนขมวดคิ้วมุ่น ปรางแก้มขาวผ่องเปื้อนสีชมพูจางๆที่พาทำให้น่าเอ็นดูผิดเด็กผู้ชายวัยรุ่นห้าวหาญ
“นั่งนี่แหละ"
“ต แต่...แต่...”
“นั่งด้วยกันนี่แหละหน่า" แขนแกร่งสอดเข้าไปรอบเอวบางที่เพิ่งได้รู้ว่ามันบางมากเหลือเกินเพื่อรั้งคนข้างๆเอาไว้ เซฮุนนั่งนิ่งไม่ปฏิเสธแต่บิดเอวของตัวเองเพื่อสลัดสัมผัสของเขาออกไป ร่างบางบ่นขมุบขมิบอะไรสักอ่างที่เขาฟังไม่ชัดแต่คริสไม่ได้สนใจมัน
สิ่งที่ดึงความสนใจของเขาคือเสียงจากอกข้างซ้าย
ที่มันเต้นเป็นจังหวะเดียวกันกับอกข้างซ้ายของเขา
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
(ซาปาเลยเหรอ?)
“อืม"
(อิจฉาชะมัด...ในขณะที่มึงได้เที่ยว กูต้องแก้รายงานประเมินความเสียหายห่าเหวอะไรนี่อีกสองบทเต็มๆ)
“สู้ๆนะคนดี ไม่โวยวายนะกวางนะ"
(อย่ามาแอ๊บแบ๊ว เหอะ!) ลู่หานแค่นเสียงออกมาจากลำคอพร้อมเบ้หน้าหน่ายๆทำเอาคริสกลั้นขำไว้ไม่ได้
“เปล่าแอ๊บนี่... อาบน้ำยังวะ?” ร่างสูงลุกขึ้นยืนเพื่อเอื้อมไปคว้าเอาผ้าขนหนูจากหัวเตียงมาขยี้เส้นผมสีทอง คนในหน้าจอส่ายหน้า คริสเบ้จมูกราวกับกลิ่นตัวจากเกาหลีของลู่หานมันได้ถูกส่งผ่านสญญาณมาถึงเวียดนามแล้ว
(...งานไม่เสร็จ)
“เน่า!”
(ไม่เน่าเว้ย! แล้วนี่รูมเมทชั่วคราวมึงไปไหนเนี่ย?)
“อาบน้ำอยู่"
(เป็นไงบ้างวะ อยู่ได้?)
“อยู่ดีเลยหล่ะ"
(เข้ากันดี?)
“ประมาณนั้น... เขาไม่เรื่องมากหน่ะ น่ารักดีด้วย"
(...) คำว่าน่ารักของคริสทำให้ลู่หานสะดุดกึก ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆไปมาอย่างตื่นตะลึง หัวกลมๆกับเส้นผมสีชมพูที่เขาเพิ่งโดนมินซอก เพื่อนฝ่ายพิสูจน์อักษรลากไปทำมาสะบัดพรึบๆจนมันยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง
“เป็นไรของมึง?”
(ม มึง...มึงว่า...ไรนะ?)
“ว่าไร?”
(ตะกี้...มึง...มึงบอกใคร...น่ารัก?)
“ก็เซฮุนไง... เซฮุนน่ารักดี"
(เหยดดดดดดดดดดดดดด!!) คราวนี้ลู่หานไม่ได้แค่สะบัดหัว คนตัวผอมตบโต๊ะทำงานแล้วตะกุบใบข้อมูลปึกใหญ่จนมันปลิวว่อนไปทั่วห้อง หน้าจอของคริสเต็มไปด้วยแผ่นกระดาษสีขาวลอยเท้งเต้งอยู่บนอากาศแล้วค่อยๆร่วงหล่นลงมา ปรากฎสีหน้าตื่นตระหนกของลู่หานที่ลุกขึ้นยืน ทำตาโต ท้าวโต๊ะคอมเอาไว้
“เหยดอะไร?”
(มึงรู้ตัวป่ะเนี่ยว่าพูดไรออกมา ห๊ะ ห๊ะ!)
“รู้.. กูไม่ได้เมา วันนี้ไม่ได้กินเหล้า"
(เออ! นี่อย่าบอกนะมึงคิดอะไรกับเด็กนั่นหน่ะ)
“ห๊ะ?! นี่มึงคิดไปไหนเนี่ย?” คริสขมวดคิ้วขดเป็นปมเมื่อได้ยินข้อสันนิษฐานของเพื่อนผู้เสียสติ
(ก็ไม่ได้คิดไปไหน... ชาตินึงมึงจะชมใครสักคนว่าน่ารักนี่หว่า)
“มึงก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น ควรภูมิใจนะ"
(แหวะๆ... ไม่ภูมิใจหรอก) ลู่หานเริ่มตบอารมณ์เข้าที่เข้าทางได้ก้มลงไปเก็บปึกกระดาษมารวมพลางส่งเสียงบ่นมุบมิบ จังหวะที่เพื่อนสนิทก้มลงเก็บข้าวเก็บของก็พอดีกับที่เซฮุนเปิดประตูห้องน้ำออกมา ดวงตาเรียวนั่นจ้องมองเขาที่นั่งอยู่หน้าคอมกับโปรแกรมแชทก่อนจะเดินเอาเสื้อผ้าของตัวเองไปกองไว้ที่พื้น
“ลู่หานๆ"
(ไร?) มาแต่เสียง... ตัวยังไม่มาเพราะก้มลงไปเก็บกระดาษอยู่
“กูวางละ เซฮุนออกมาแล้ว"
(อือๆ)
“เออ นอนบ้างนะเว้ย ตีนกาเส้นที่ร้อยหกสิบเจ็ดมันโผล่มาแล้วหว่ะ"
(เชี่ยคริส! กลับมากูสับกบาลยะ...) ไม่ปล่อยให้เพื่อนซี้ได้คาดโทษอะไรเขามากไปกว่านั้นร่างสูงก็ชิงปิดโปรแกรมสนทนาลงไปเสียก่อน ใบหน้าคมตวัดกลับไปมองเบื้องหลัง ตรงที่เจ้าเด็กตัวบางกำลังนอนคว่ำอ่านหนังสืออะไรสักอย่างอยู่
“อ่านอะไรเหรอ?”
“แคลฯพื้นฐานครับ... ที่จริงฮยองคุยต่อก็ได้นะ”
“หืม... ไม่หล่ะ คุยกับหมอนั่นนานๆแล้วตะคริวจะกินสมองเอา" คริสว่าติดตลกแล้วเคลื่อนย้ายตัวเองลงมาจากเก้าอี้ เอาหยุดนั่งที่ขอบเตียงกว้าง ชะโงกหน้ามองตัวเลขในหนังสือและสัญลักษณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่เข้าใจ รู้แค่ว่าไอ้ตัวที่ขมวดๆนั่นหน่ะมันเหมือนกับเส้นคิ้วของโอเซฮุนไม่มีผิดเลยสักนิด "ยากมากไหม?”
“ก็... ยากครับ"
“ดูอย่างนี้แล้วไม่รู้เรื่องเลย... จริงสิ นายเรียนคณะอะไรหน่ะ?”
“วิทยาศาสตร์ครับ... เพียวแมท"
“เลขล้วน?”
“ครับ"
“ไอหยา... นั่นยาขมของพี่เลยหล่ะ" ใบหน้าของคริสเหยเกทันทีเมื่อพูดถึงคณิตศาสตร์ เขาไม่ถูกกับวิชานี้มาตั้งแต่ลืมตาดูโลกแล้วหล่ะ ที่เรียนไปนี่หวังใช้แค่บวกลบคูณหารเท่านั้นเอง ไอ้ที่ยากไปกว่านั้นขอผ่าน เพราะนอกจากจะทำไม่เป็นแล้วยังไม่รู้ด้วยว่าจะเอาไปใช้กับอะไร
“ทำไมหล่ะ...”
“ยากจะตาย...” เขาบอก ก้มหน้าลงมองคนที่ยังคงจับจ้องแต่หนังสือ "แล้วเวลาเรียนคิ้วก็จะขมวดเป็นปมด้วย" นิ้วเรียวคลึงไปตรงกลางหว่างคิ้วของเซฮุนที่มันขมวดขึงเข้ามาหากัน ทำเอาเจ้าของเส้นคิ้วเผลอตวัดหน้าขึ้นมามองเขา
“...” เซฮุนไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะแรงคลึงนั้นทำให้เขาผ่อนคลาย นิ้วของคริสนวดคลึงแบบนั้นต่อไปเรื่อยกระทั่งฝ่ามือทั้งสองข้างสอดเข้ามาประคองใบหน้าของเขา เซฮุนจ้องมองเจ้าของร่างสูงไม่วางตา แต่สุดท้ายเขาก็รู้ว่าตัวเองกำลังทิ้งสายตาไว้ที่ริมฝีปากอิ่มของอีกคน
เซฮุนไม่แน่ใจว่าจะอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้อย่างไร โลกมีแรงโน้มถ่วง... เขากำลังฝืนแรงโน้มถ่วงนั้นหรือคริสก้มลงมาตามแรงโน้มถ่วงกันแน่ แต่สุดท้ายเหมือนว่าเขาสองคนบรรจบกันครึ่งทาง จูบเบาๆแนบเคว้งอยู่ท่ามกลางมวลอากาศเย็นของเครื่องปรับอากาศ มือของเซฮุนท้าวทับลงไปบนสูตรแคลคูลัสในขณะที่ฝ่ามือของคริสท้าวยันเอาไว้กับผืนเตียง จูบที่สองของวันบังเกิดขึ้นอย่างเชื่องช้าแต่ครานี้กลับฝังรากลึกมากขึ้นกว่าเดิม
ปลายลิ้นทั้งสองแตะกันภายในโพรงปากฉ่ำ เกี่ยวรัดตอดต้อนไปมาราวกับเป็นเกมส์วิ่งไล่จับหรืออะไรสักอย่าง เซฮุนถูกผลักแนบลงไปกับผืนเตียงนุ่มเมื่อแขนของเขาไม่อาจค้ำยันร่างกายอ่อนปวกเปียกนี่ไว้ได้ ริมฝีปากอิ่มคู่สวยยังคงตามมารุกราน และอาจเป็นเพราะคริสเปิดช่องทางไว้ให้ได้หายใจเป็นระยะ จูบที่เกิดขึ้นจึงสามารถต่อเนื่องไปได้หลายนาที
ท้ายที่สุดร่างสูงเป็นฝ่ายผละออกมาเมื่อฝ่ามือเรียวนั้นไล้มาวางอยู่ข้างลำคอ อี้ฟานขมวดคิ้วด้วยความงุนงงในการกระทำของตัวเอง เขามองริมฝีปากสีสดสั่นระริก ดวงตาปรือปรอยของเซฮุนเต็มไปด้วยคำพูดมากมายเหมือนเช่นในตอนนี้ที่หัวใจของเขากำลังเต้นจนเหนื่อยเพื่อตะโกนบอกอะไรบางอย่างออกมา
แทนที่จะเบือนหน้าหนีอย่างที่คิดไว้ เซฮุนกลับกระตุกเสื้อกล้ามของอีกคนลงมา ริมฝีปากแตะจรดกันอีกครั้ง เซฮุนไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรแต่เขาก็ไม่ได้คิดหาคำตอบ ในเมื่อหัวใจบอกว่าจูบนั้นทำให้เขารู้สึกดี หน้าที่ของร่างกายก็แค่เผยอรับปลายลิ้นที่กำลังสอดเข้ามาก็พอ ไม่ต่างอะไรกับร่างสูงที่พาดกายคร่อมอยู่ด้านบน คริสยิ้มทั้งที่ริมฝีปากและหัวใจ
มันอาจจะเป็นอย่างที่ลู่หานบอก...
เขาอาจจะคิดอะไรกับเด็กนี่ก็ได้...
เอาแค่ตอนนี้ เวลานี้... เขาคิดว่า... เขากำลังตกหลุมรักโอเซฮุนเข้าแล้วหล่ะสิ...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
❀ Supercell
ความคิดเห็น