คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : one
FRIEND?
เพื่อนทำอะไรกับเพื่อนบ้างหล่ะ...
“ผมยาวแล้ว"
“...”
“มัดขึ้นไปดิวะ" หนังยางวงหนาถูกโยนลิ่วไปที่โต๊ะเขียนแบบตัวใหญ่ที่ริมหน้าต่าง พื้นที่ซึ่งชายหนุ่มร่างกำยำ มัดกล้ามใหญ่กำลังลากดินสอเป็นเส้นบางไปบนกระดาษไขอย่างตั้งใจ ชั่วครู่หนึ่งที่วงยางตกลงดวงตาคมกดลงเหลือบมองมันก่อนจะหันไปจดจ่ออยู่กับกระดาษตรงหน้าในวินาทีถัดมา
ให้ตายสิ... เขาเกลียดท่าทางแบบนั้นชะมัด!
แขนกำยำยังคงลากไปบนผืนแบบแปลนตรงหน้า ไม่ได้สนใจคำสั่ง(?)เมื่อครู่จากเพื่อนสนิทเลยสักนิด หนำซ้ำยังแสดงท่าทีเมินเฉยด้วยการเบือนหน้าไปอีกทาง มองแบบแปลนสามมิติที่แปะอยู่เหนือหัวขึ้นไป
โจวคยูฮยอนดีดตัวเองขึ้นจากเตียงนอนเมื่อคำสั่งของเขามันไม่เป็นผล ผ้ากันเปื้อนที่คาดทับอยู่บนลำตัวยังคงมีกลิ่นเนยสดติดอยู่ชัดเจน บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวคงจะเพิ่งออกมาจากครัว หลังอบขนมอะไรสักอย่างตามออร์เดอร์ของลูกค้า พาทิสซิเยร์ตัวผอมลากเท้าเปล่าเปลือยของตัวเองตรงไปยังโต๊ะเขียนแบบ ซ้อนกายเอาไว้เบื้องหลังบ่ากว้างที่ขยับยุกยิกไปตามขอบเขตของเส้นดินสออย่างตั้งใจ
“ซีวอนอ่า.. มัดผมสิ มันทิ่มตาหมดแล้ว" เสียงหวานอ่อนลงจากเมื่อครู่ลงไปมากแต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ร่างสูงสนใจได้ มือขวายังคงมุ่งมั่นจับปลายดินสอ ส่วนมือซ้ายก็ยึดแผ่นกระดาษเอาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหน
“...”
“ฮื่ออออ...” ในเมื่อคำพูดใช้ประโยชน์ไม่ได้ คุณพาทิสซิเยร์คนดีจึงเริ่มแสดงออกด้วยการซอยเท้ากระทืบไปมาเบาๆแล้วส่งเสียงคำรามต่ำในลำคอ มันได้ผลระดับหนึ่งเพราะชเวซีวอน สถาปนิกชื่อดังผู้มีงานคั่งค้างอยู่ยอมเบือนหน้าหนีแผ่นกระดาษ หากแต่ดวงตาคมกริบก็ทำเพียงแค่จ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเรียบเฉยติดดุคล้ายต้องการต่อว่าที่ทำให้เขาเสียการเสียงานเสียเวลา
“อะไร...” แต่อย่างน้อยก็ยอมเปิดปากพูดอะไรออกมาบ้าง
“มัดผมสิ" คยูฮยอนคว้ายางที่ตัวเองโยนลิ่วขึ้นมายื่นให้อีกคน หางตาคมเพียงแค่ปรายมองในช่วงเวลาไม่ถึงสามวินาทีแล้วตวัดขึ้นจ้องใบหน้าหวานแทน
“ทำไม?”
“ผมมันทิ่มตานายหมดแล้ว...” มือเรียวเอื้อมไปเกลี่ยปอยผมอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะคราบเนยขาวยังติดอยู่ที่ปลายเล็บ แต่จะปล่อยให้เส้นผมเล็กๆเหล่านั้นทิ่มแทงดวงตาคมคู่นั้นเขาก็ทนไม่ได้เหมือนกัน
“ไม่เข้าใจหรือไง...”
“อะไรอ่ะ"
“...” ซีวอนไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ยอมวางดินสอลง เรือนกายกำยำพลิกตะแคงเข้ามาหาคยูฮยอน ซุกปลายจมูกลงไปที่หน้าท้องแบนราบซึ่งถูกทับอย่างแน่นหนาเอาไว้ด้วยเสื้อยืดตัวโคร่งและผ้ากันเปื้อนลายสก็อตที่เขาเป็นคนเย็บเองกับมือ เปลือกตาปิดลงมาเพื่อพักผ่อนจากการใช้งานติดต่อนานร่วมหกชั่วโมง แขนทั้งสองข้างอยากยกขึ้นกอดรอบเอวคอดแต่ความเมื่อยเพราะกำดินสอเอาไว้นานเกินควรทำให้เขาไม่มีแรงจะทำเช่นความคิดจึงเปลี่ยนเป็นการจับชายผ้ากันเปื้อนของอีกคนแล้วกระตุกเบาๆ
ศีรษะกลมสวยดุนเข้าที่หน้าท้องแล้วกลิ้งไปกลิ้งมาคล้ายเวลาที่ลูกแมวต้องการอ้อนกินนม คยูฮยอนหัวเราะคิกคักเมื่อตีความได้ว่าอะไรคือสิ่งที่เพื่อนสนิทต้องการในเวลานี้
มือเรียวเช็ดลวกๆกับผ้ากันเปื้อนแล้วช้อนประคองใบหน้าหล่อเรียวตรงแนวกราม จับให้อีกคนเงยขึ้นมาเผชิญหน้ากันดีๆ รอยยิ้มหวานส่งให้กับเจ้าของฝ่ามือที่ดึงผ้ากันเปื้อนของตัวเองเอาไว้พร้อมกับรวบผ้าม้าของซีวอนขึ้นมามัดเป็นจุกให้เรียบร้อยรวมกับปอยผอมด้านหลังที่มันระต้นคอ เสร็จแล้วก็จัดการเกลี่ยเม็ดเหงื่อตรงสันดั้งจมูกออกไปอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง
“อยากให้มัดให้ก็ไม่บอกเล่า"
“นึกว่าจะรู้เอง" ปลายคางไถลงไปบนหน้าท้องแบนราบ ซีวอนปิดเปลือกตาของตัวเองลงด้วยความเหนื่อยล้า ปล่อยให้มือบางสาละวนเกลี่ยไล้อยู่ตามใบหน้า ซับเหงื่อที่ผุดพรายออกไป
ทุกอย่างนิ่งค้างอยู่เช่นนั้นเนิ่นนานกระทั่งเสียงเตาอบจากห้องครัวร้องระงมเปลือกตาหนาจึงเปิดขึ้น คยูฮยอนผละมือออกมาจากข้างขมับ เลื่อนลงมาประคองรับใต้แนวกรามเรียวยาวแล้วโน้มใบหน้าของตัวเองลงมอบกำลังใจให้คนตัวสูงผ่านทางริมฝีปากบางเฉียบที่ปิดประทับลงไปบนกลีบปากหยักได้รูป
ดวงตาของทั้งสองปิดลงอีกครั้ง เสมือนการตัดตัวเองออกจากกองงานและเสียงเตือนของเตาอบ เกลียวลิ้นสอดแทรกเกี่ยวรัดไปมาจนความชื้นหวานแผ่ซ่านไปทั่วโพรงปากฉ่ำ มือหนาเอื้อมขึ้นประคองท้ายทอยของคนที่โน้มตัวลงมาเอาไว้แล้วกดแนบให้ริมฝีปากของทั้งคู่ปิดสนิทไร้ช่องว่าง แม้อากาศก็ผ่านไปไม่ได้ ปล่อยให้ต่างฝ่ายได้ซึมซับความหวานบริสุทธิ์ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
“อือ... ปล่อยก่อน"
“กูปล่อยมึงหรือมึงปล่อยเค้ก" เป็นคำกระซิบที่ทำให้คยูฮยอนเผลอหลุดเสียงหัวเราะ เขาแตะริมฝีปากลงที่ปลายจมูกโด่งของอีกคนเบาๆก่อนจะผละมือทั้งสองข้างออกมา
“มึงปล่อยกูตอนนี้ แต่คืนนี้มึงไม่มีสิทธิ์ปล่อยกู...”
“...”
“...แบบนี้ดีไหม?”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผุดอยู่ตรงมุมปากทำให้ซีวอนรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดท้ิ้ง ร่างสูงหัวเราะลั่นเสียงดัง ยอมลดมือทั้งสองข้างลงมาไว้ข้างตัวเช่นเดิมแต่ก็ไม่วายบีบเข้าที่เนื้อแก้มก้นของอีกคนเป็นการยืนยันคำตอบ
“ดีที่สุดเลยครับ... คุณพาทิสซิเยร์โจว...”
- - - - -
คอนเซ็ปต์โมเมนต์ฟิคนี่เป็นอะไรที่เราชอบที่สุดแล้วหล่ะ -.-
ความคิดเห็น