ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { wonkyu } Winter's Killer

    ลำดับตอนที่ #9 : .winter's killer {eighth} - end

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 55


            

    -  eigth

    ความรักชนะทุกสิ่ง
    ชนะแม้ความพยาบาทล้นหัวใจ

     

                “ทงเฮ...” ฮยอกแจมองภาพของคนที่ตนเองรักที่กำลังเดินตรงมายังตนเอง ดวงตาเรียวนั้นช้อนขึ้นมองใบหน้าที่เขาโหยหาเพราะไม่ได้เจอมาร่วมเดือนด้วยสายตาเลือดเย็นแม้ว่าแววตาของนกพิราบขาวตรงหน้าจะอ่อนละมุนมากแค่ไหนก็ตามที ฮยอกแจขบกลีบปากสีซีดของตัสเอง เม้มมันเสียจนเป็นห้อเลือดด้วยความคับแค้นใจ...เขาคงจะมองทงเฮผิดไปจริง ๆ ด้วยสินะ

                “ฮยอก...”

                “มึงหลอกกู ! ไอ้ชั่ว มึงหลอกกู !!!” ร่างบางที่เพิ่งเป็นอิสระตามข้อตกลงปรี่เข้าผลักร่างของทงเฮให้ล้มลงแล้วเจ้าตัวก็รีบยันกายขึ้นปรี่เข้าไปซ่อนอยู่หลังแผ่นหลังกว้างของชเวซีวอน แขนเรียวเล็กโอบกอดรอบเอวนั้นเอาไว้แน่น ฮยอกแจซุกใบหน้าชื้นน้ำตาของตนเองลงกับเสื้อโค้ทสีน้ำตาลของเพื่อนสนิทร่างใหญ่ที่ยังคงจ่อกระบอกปืนเอาไว้ที่ชองยุนโฮไม่ยอมลดลง

                “ฮยอกแจ... ไม่เอาสิ”

                “มึงมันชั่ว ! ทงเฮ ! มึงหลอกใช้กู !!” เสียงกรีดร้องอู้อี้ที่เจ็บปวดของฮยอกแจทำให้ทงเฮสั่นสะท้านไปทั่วทั้งอก ความรู้สึกมันกวัดแกว่งไปมาราวกับเป็นลูกตุ้มเพนดูลั่มที่ไม่มีความแน่นอน... และในความเป็นจริง ลีทงเฮก็กำลังแกว่งเช่นนั้ เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าเกมส์ที่ดำเนินไปคือสิ่งที่ถูกหรือผิดกันแน่

                “ฮยอกแจ แต่หมอนั่นก็หลอกนายนะ...” ทงเฮตวาดเสียงเกรี้ยวกราดพร้อมชี้นิ้วเบนไปทางร่างสูงใหญ่ของซีวอนด้วยความแค้นเคือง

                “แต่ซีวอนก็ไม่เคยเสแสร้ง....ถึงจะชื่อควอนซังอุนแต่ความรู้สึกเหล่านั้นมันคือชเวซีวอน...” กลับเป็นน้ำเสียงของคยูฮยอนที่เอ่ยสวนกลับไป ร่างบางช้อนใบหน้าที่รดราดไปด้วยคราบน้ำตาขึ้นจ้องใบหน้าของทงเฮที่ยืนเยื้องห่างออกไปไม่มากเท่าไหร่ มือเรียวปล่อยกระบอกปืนคู่กายของตนเองลงกับพื้นแล้วทรุดตัวลงไปอย่างหมดหนทาง นิ้วเรียวชี้หน้าของญาติผู้พี่ของตนเอง ลูกตาที่เคลือบไปด้วยคราบน้ำใสสะท้อนความชิงชังออกมาให้ทงเฮได้รับรู้ว่าโจวคยูฮยอนรังเกียจลีทงเฮมากขนาดไหน

                “มึงหลอกคนอื่นไปทั่ว ! มึงหลอกแม้แต่คนที่มึงรัก แล้วยังริมาบอกว่าคนอย่างกูมันรักไม่เป็น ! ฉลาดดีนี่ที่รู้ว่ากูรักซีวอน.. แต่เสือกโง่ที่ทำตามปากมึงไม้ได้ !

                “เงียบไปซะ ! จะตายตามพ่ออยู่แล้วยังไม่ระวังปาก !!

                “กูไม่เงียบ ! ถ้ากูตายตามพ่อไปแล้วมันจบ กูก็จะตาย ! ดีกว่าอยู่มองสวะอย่างมึง..”

                “งั้นมึงก็ไปตายให้สมใจอยากแล้วกัน !

                “ถ้านายยิงเขา ฉันจะฆ่าตัวตาย !” ฮยอกแจอาศัยจังหวะที่ทงเฮพยายามคว้ากระบอกปืนของยุนโฮมาครองไว้ในการดึงมีดพกของซีวอนขึ้นมาจ่อจรดที่ขมับของตัวเอง ร่างขาวบางก้าวออกมาจากที่กำบังร่างใหญ่ เผชิญหน้ากับลีทงเฮซึ่งใบหน้าประดับประดาไปด้วยความตระหนกตกใจไม่ต่างอะไรไปจากซีวอนที่พยายามจะคว้าร่างนั้นเข้ามาหาตัวให้หยุดการกระทำบ้าบิ่นั่นเสีย

                “ฮยอกแจ... นี่แกเป็นบ้าอะไรวะ !” ชายร่างโปร่งใช้มือข้างที่ปราศจากอาวุธทึ้งเส้นผมสีดำบนหัวของตัวเองอย่างหัวเสีย เขาจ้องมองใบหน้าขาวหวานกับร่างบอบบางของคนที่ทรุดกายอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวังสลับกัน ไม่วายต้อระแวดระวังปลายกระบอกปืนของชเวซีวอนที่ยังคงจ่อตรงไปยังชองยุนโฮซึ่งถ้าหากมันลั่นไกขึ้นมานั่นหมายรวมไปถึงศีรษะของเขาเองด้วยเช่นกัน

                “ฮึก.. ใช่สิ... ก็ฉันมันบ้านี่...ฮึก...”

                “ฮยอกแจพอเถอะ...” ซีวอนกระซิบเบา ๆ ที่ข้างใบหูของเพื่อนสนิทที่ตอนนี้เขาเองเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าคิดอะไรอยู่กันแน่

                “ซังอุนรักผู้ชายคนนั้นใช่ไหมหล่ะ...”

                “ฮยอกแจ... มันอันตราย”

                “แต่ความรักของซังอุนก็กำลังอยู่ในอันตรายเหมือนกัน...” เสียงกระซิบของซีวอนเป็นเสมือนเสียงลมหนาวลูกใหญ่ที่พัดผ่านไปมาเหมือนลมพายุ ท่ามกลางความหนาวเหฯบนั้นฮยอกแจต้องหยัดกายสู้กับมันให้ได้... ร่างบางเม้มริมฝีปากที่สั่นเทาเข้าหากันแน่นเพราะความหวาดกลัว แม้รู้ว่าการทำแบบนี้มันจะเสี่ยงต่อชีวิตของตัวเองแต่เขาไม่อาจทนเห็นแววตาเจ็บปวดของควอนซังอุนไปมากกว่านี้ได้อีกแล้วหล่ะ... ซังอุนหรืออาจจะเป็นซีวอนหรืออะไรก็ตามทำเพื่อเขามามากเกินไปแล้ว

                “...”

                “แล้วความรักของซังอุน... ก็คงจะรักซังอุนมากเหมือนกัน” คนที่ยังคงกำมีดอยู่ในมือเหลือบมองไปที่คยูฮยอนซึ่งยังคงก้มหน้าจนคางติดอก ทำไมฮยอกแจจะไม่เข้าใจหล่ะ ในเมื่อเขาเองก็รักทงเฮมากเหมือนกันและการที่เห็นลีทงเฮเดือดร้อนเพียงแค่เรื่องราวของตนเองมันทำให้เขารู้สึกแย่ได้มากกว่าที่คิด คยูฮยอนเองก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกัน... ต่อให้สองคนนั้นเกลียดกันจริง มันก็คงจะไม่มีเหตุผลที่เขาจะเจอคยูฮยอนเดินวนอยู่หน้าที่พักโทรม ๆ นั่นอยู่บ่อยครั้ง ถึงฮยอกแจจะไม่รู้เรื่องความชิงชัง ความแค้น พยาบาทในรายละเอียด แต่ถ้าหากคยูฮยอนเกลียดซังอุนจริง ๆ หล่ะก็... เขาคงจะได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่สุสานมาร่วมปีแล้วหล่ะมั้ง

                ซีวอนละสายตาของตนเองจ้องมองไปทางร่างบางซึ่งทรุดตัวสะอื้นอยู่บนพื้นปูน ยากเกินความพยายามของผู้ชายร่างใหญ่ที่จะกลืนก้อนน้ำลายหนืดในลำคอลงไปแล้วตัดใจผินใบหน้ากลับมาดังเดิม เรือนร่างที่กำลังสั่นเทานั้นทำให้หัวใจดวงน้อยทำงานอย่างหนัก สายพานแห่งความรู้สึกลำเลียงความเจ็บปวดเข้าสู่หัวใจของชเวซีวอนทีละเล็กทีละน้อย... เจ็บเสียจนเขาไม่สามารถจะทนมองปลายกระบอกปืนของควอนจียงที่จ่ออยู่ตรงหลังศีรษะของคยูฮยอนได้อีกต่อไป

                ร่างสูงอาศัยความรวดเร็วของตนเองในการเบนกระบอกปืนไปที่ผู้มีพระคุณซึ่งมอบนามสกุลควอนให้กับนามแฝงของเขา ไกปืนลั่น ส่งเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ปลุกให้ชองยุนโฮรู้สึกตัวว่าช้าไปเสียแล้วที่จะเข้ามาช่วยชีวิตเพื่อนสนิทของตนเองซึ่งทรุดตัวล้มลงไป

                ผู้รอดชีวิตที่บนใบหน้ายังคงเปื้อนเปรอะคราบน้ำตากดร่างที่ยังไม่สิ้นลมดีของคนที่เพิ่งจะบังคับเขาด้วยอาวุธปืน คยูฮยอนจับแขนเล็กที่แลดูไร้เรียวแรงของจียงไขว้หลังเอาไว้อย่างรู้งาน ดวงตาเรียวที่ยังคงมีน้ำใส่คลอหน่วงอยู่เบนไปมองนักฆ่าหมายเลข 342 ที่ตวัดกระบอกปืนไปมาระหว่างเขากับซีวอน ชองยุนโฮก็นิ่งได้แค่ตอนที่ตัวเองไม่พูดเท่านั้นแหละ

                “ฮยอกแจหลบไป !

                “ไม่หลบ !” คำสั่งของทงเฮกลายเป็นเพียงอากาศธาตุที่ฮยอกแจไม่ต้องการจะได้ยิน ริมฝีปากแดงสดเม้มเข้าหากันเพื่อสกัดกลั่นเอาความกล้าที่หลบซ่อนอยู่ในตัวเองออกมาเพื่อยืนหยัดอยู่ตรงจุดเดิม...

                “โถ่เว้ย ! นี่นายเป็นบ้าอะไรของนายวะ !!” ลีทงเฮพบว่าตัวเองกำลังหัวเสียขั้นรุนแรงกับอากัปรอันดื้อรั้นของคนที่เขาเทหัวใจไปให้ ชายร่างโปร่งคว้าเอากระบอกปืนที่เหน็บอยู่ตรงสะโพกของยุนโฮขึ้นมาแล้วเล็งไปที่คยูฮยอน อย่างน้อยก็ผ่อนให้สองคนนั้นยังคงนิ่งไปอีกชั่วขณะ

                “...” พื้นที่ภายในห้องคับแคบเงียบลงอีกครั้ง ต่างฝ่ายต่างจดจ้องกันไม่วางตา ในขณะที่ลมหายใจของควอนจียงเริ่มเจือจางลงไปภายใต้แรงกดจากฝ่ามือเพียงข้างเดียวของคยูฮยอน ร่างบางเบนสายตาไปหาซึงฮยอนที่ยืนนิ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ชายแก่พยักหน้ามองคยูฮยอนอย่างรู้งานก่อนจะขยับตัวเข้ามาประคองร่างของจียงเอาไว้แทน...

                ความคิดมากมายหลากหลายแล่นไหลประเดประดังเข้ามาในสมองของแต่ละคนที่ต่างหยัดยืนกันในฐานะซึ่งแตกต่างกันไป ชองยุนโฮกำลังขบคิดกับความคุ้มค่าที่เขาคาดว่าคงจะได้รับมาต่อจากนี้ สำหรับชีวิตของผู้ชายที่ถูกทิ้งเอาไว้อย่างโดดเดี่ยวข้างถนนแล้ว เงินคือสิ่งสำคัญที่สุด รองลงมาก็คงเป็นร่างที่ใกล้จะสิ้นลมที่เขาเองไม่อาจปันตัวเข้าไปประคองเพื่อนรักเอาไว้ในวินาทีสุดท้ายได้... ความเงียบทั้งหมดจึงกำลังลงโทษเป็นการกดดันเขาอยู่กลาย ๆ ว่าค่าตอบแทนที่ได้มานั้นต้องสูงเหมือนที่ทงเฮตกลงกับเขาเอาไว้

                ลีทงเฮหัวเสียและรู้สึกเหมือนกำลังถูกปั่นหัวอย่างหนัก เขารักฮยอกแจ... ใช่ เขารักผู้ชายคนนี้มาก มากตั้งแต่เจอกันครั้งแรกและมันมีแต่จะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้รู้จักมักจี่กันในเวลาต่อมา เขาเองเชื่อว่าฮยอกแจก็มีความรักมอบให้กลับมาไม่น้อยไปกว่าเขาเลย แต่ทำไมเวลานี้... ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามจะปกป้องฮยอกแจจากคยูฮยอนมาโดยตลอด พยายามเหลือเกินที่จะกันไม่ให้ซีวอนเข้ามาใกล้คนรักของเขาเพื่อหวังว่าอีกฝ่ายจะปลอดภัย แต่ฮยอกแจกลับเลือกที่จะขัดขืนและปฏิเสธเขาด้วยการกระทำบ้าบอเหล่านี้ แล้วยังเลือกเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับคนอย่างชเวซีวอนด้วย..

                ฮยอกแจทบทวนความรักของทงเฮอย่างถี่ถ้วนด้วยปลายมีดแหลมที่สัมผัสเพียงเบาบางกับผิวเนื้อบริเวณขมับ ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันจนแน่นเพราะความกลัวกำลังกรองอีกความรู้สึกที่ทดแทนเข้ามาตอนนี้ หากต้องกดคมมีดนั้นลงจริง ๆ เขาก็ไม่เสียใจเท่าไหร่นักเพราะคนที่ต่อลมหายใจให้เขากำลังกลายเป็นคนที่บั่นทอนลมหายใจของเขาไปในขณะเดียวกัน ลีทงเฮไม่ได้แค่ทำให้ฮยอกแจผิดหวัง แต่ผู้ชายคนนั้นยังตัดทุกความหวังของการมีชีวิตต่อทั้งหมดของเขาไปด้วย

                ซีวอนกำลังเลือกในหนทางของตัวเอง... เขาไม่อยากตัดสินใจผิดซ้ำเป็นครั้งที่สอง พอ ๆ กับที่ไม่อยากจะสูญเสียใครซักคนไป แม้แต่จียงหรือยุนโฮ สองคนนั้นก็ไม่คู่ควรที่จะมาทิ้งชีวิตเพราะสิ่งที่เขาทำเอาไว้ในอดีต แม้ว่าทั้งคู่จะรู้เห็นเรื่องราวทั้งหมดดีกว่าใครเพื่อนแต่ซีวอนก็ถือว่าการลงมือครั้งนั้นเกิดขึ้นจากตัวเขาเองทั้งนั้น เขาผิดตั้งแต่อาฆาตพยาบาทกับการตายของพ่อแม้ว่ามันจะทำให้เขาพบกับโจวคยูฮยอน เขาผิดตั้งแต่เลือกเดินออกมามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความแค้นและกลิ่นคาวเลือดแม้จะทำให้การตายของพ่อไม่สูญเปล่า แล้วเขาก็ผิดอีกเช่นเคยที่ปล่อยให้ตัวเองตัดสินทุกสิ่งทุกอย่างถมไปโดยไม่ได้คิดเลยว่าโลกที่ยืนอยู่มันยังมีใครอีกหลายคน... ฉะนั้นครั้งนี้ ถ้าหากต้องเสียใครไปสักคน เห็นทีมันคงจะถึงตาของชเวซีวอนคนนี้เสียแล้ว

                คยูฮยอนอธิษฐานให้ตัวเองสามารถย้อนเวลาได้ ภาวนาให้ตัวเองสามารถเอาเศษซากของปฏิทินกลับมาต่อเพื่อย้อนเวลากลับไปในวันที่เขาเลือกทำต่อในสิ่งที่พ่อทำ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ได้ทำให้เขามีความสุขเลยแม้สักน้อย เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ววันนี้อาจจะไม่ใช่จุดจบของเขาก็เป็นได้ จริงอยู่ที่การตายของพ่อไม่ใช่เรื่องซึ่งน่าปล่อยผ่าน แต่ความแค้นความพยาบาทเหล่านั้นก็ไม่น่าเก็บไว้เช่นกัน มันก็คงจะเหมือน ๆ กับความจริงที่โลกเราไม่ต้องการคนเลว แต่มันก็ไม่สามารถเป็นเหตุผลในการสั่งฆ่าใครสักคนได้... แต่ในเมื่อเดินมาไกลขนาดนี้แล้ว โจวคยูฮยอนก็ไม่ขอเสียเวลาถอยหลังกลับไปแล้วค่อยหยุด... เขาเลือกที่จะเดินหน้าต่อไปแล้วค่อยปักทงขาวบนพื้นดินที่หยาบกร้านก็พอ

                “เหตุผลที่มึงต้องการฆ่ากู... คือมรดกทั้งหมดของกูใช่ไหม ทงเฮ...”

                “หึ...”

                “กูยกให้มึง... แต่กูขอสองอย่าง...”

                “....”

                กูขอชเว ซีวอน กับ ควอนซังอุน”

                “ทำไมฉันจะให้นายไม่ได้หล่ะ...” คยูฮยอนหันปลายกระบอกปืนของตัวเองไปที่ชเวซีวอนซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของฮยอกแจ กลีบปากหยักนั้นยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเขาได้ครอบครองในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว... รอยยิ้มนั้นกวาดกว้างขึ้นไปอีกเมื่อชเวซีวอนเองก็เบนอาวุธของตนมาทางเขาเช่นกัน

                “ฮยอกแจ...”

                “...”

                “สัญญานะว่าต่อจากนี้นายจะต้องอยู่ได้...”

                “ซังอุนอา...”

                “มากอดหน่อยสิ” วงแขนแกร่งตวัดโอบร่างเล็กที่เยื้องกายเข้ามาหาเอาไว้แนบแน่น ผู้ชายที่ชื่อซังอุนก้มลงกระซิบบางอย่างที่ฮยอกแจฟังไม่ถนัด ร่างเล็กพยายามจะทบทวนคำพูดที่ถูกเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่านั่นอีกครั้งหากแต่ในไม่กี่นาทีต่อมานั้นฮยอกแจกลับรู้สึกไม่อยากได้ยินมัน จึงพยายามข่มตาแล้วแนบใบหูของตัวเองลงกับอกกว้างอย่างที่ชอบทำ... เพราะมันช่างคับคล้ายคับคลากับคำบอกลาเหลือเกิน ฮยอกแจไม่อยากฟังคำบอกลาของซังอุน

                “เป็นเด็กดีนะ อีฮยอกแจ”

                “ซัง... อุน !” เสียงหวานขาดห้วงเมื่อถูกผลักออกไปจากร่างของชายตัวสูงด้วยพละกำลังมหาศาลจนตัวของเขากระเด็นไปเกือบชิดร่างของทงเฮ พอดีกับที่คยูฮยอนลั่นกระสุนนัดแรกใส่ที่แขนขวาซึ่งซีวอนเองก็ทำเช่นเดียวกันกับร่างบางก่อนที่ทั้งสองจะขยับเข้าใกล้กันคนละก้าวท่ามกลางสรรพสิ่งที่หยุดนิ่ง

                ก้าวที่สองกระสุนเหล็กวิ่งแหวกอากาศ เจาะเข้าที่ช่องท้องเป็นผลให้ทั้งสองทรุดลงคุกเข่าพร้อมกัน ความเจ็บปวดนั้นมีแต่ไม่มากเท่าความพยายามที่จะคืบคลานกายของตัวเองให้เข้าไปชิดกันก่อนที่อ้อมแขนจะตวัดรวบรัดกันและกันเอาไว้ ก่อนที่น้ำตาจะไหลด้วยความสุขซึ่งต่างฝ่ายต่างไขว่คว้ามานานแสนนาน... ก่อนที่กระสุนนัดที่สามจะเจาะเข้าที่ขั้วหัวใจ... แล้วยุติซึ่งการพิพากษาทั้งปวง

    ในที่สุดนักโทษทั้งสอง ก็ได้เลือกในสิ่งที่ตัวเองเลือกเสียที

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     







     

     

    ท้ายที่สุดแล้วทุกการตัดสิน
    มันก็ล้วนมาจากอดีตทั้งนั้น...

              “ซีวอนฮยองครับ... ใบนี้สวยป่าว ?” ลูกศิษย์ตากลมคลี่ยิ้มออกมาชัดเจนจนตาหยี มือขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยก้อนดินค่อย ๆ ประคองผลงานอันแสนบอบบางขึ้นมาหลังจากที่เพิ่งจะตัดก้นของมันให้หลุดออกจากฐาน และอาจารย์อย่างเขาก็มีหน้าที่หันกลับไปชื่นชมผลงานนั้น จะด้วยรอยยิ้มหรือใบหน้าบึ้งตึง ก็คงสุดแล้วแต่ชิ้นงานในฝ่ามือนั้น

              “หืม... นี่อะไรครับ ?” แต่แทนที่จะได้วิเคราะห์วิจารณ์ผลงาน ร่างสูงกลับต้องก้าวลงมาจากแป้นหมุนของตนเองเพื่อเดินไปดูสิ่งที่อยู่ในมือของคยูฮยอนใกล้ ๆ เพื่อมองผลงานนั้นให้ชัดด้วยสองลูกตาที่เบิกโพลงคร่อมจมูกเอาไว้ แต่มันก็ยังไม่พอ เพราะชิ้นงานบิดเบี้ยวนั้นทำให้เขาต้องสัมผัสมือลงไปไล้ผิวดินเนียนเรียบเพิ่มเติมด้วย

              “มันคือโถใส่ความรู้สึกหล่ะ” เจ้าของรอยยิ้มรีบชักมันออกจากฝ่ามือของเขาแล้วก้าวลงจากแป้นหมุน นำชิ้นงานที่ไม่เป็นรูปทรงออกไปวางบนชั้นซึ่งต่อมาจากไม้อัด ซีวอนมองตามฝ่าเท้าที่ก้าวตึกตักตึกตักตรงไปแล้วเลื่อนสายตาตามผลงานที่ถูกจับเทรกเข้าไปบนชั้นวางซึ่งเหลือพื้นที่เพียงน้อยนิด คยูฮยอนปั้นงานวันนึงไม่ต่ำกว่าสิบใบและเขาไม่เคยทิ้งชิ้นงานเหล่านั้นเลยแม้เพียงสักอัน จังไม่น่าประหลาดใจที่ซีวอนต้องออกไปหาไม้มาสร้างชั้นเพิ่มอีกสามสี่อัน

              “แล้ววันนี้มันใส่ความรู้สึกอะไรหล่ะ”

              “อืม... วันนี้มันมีหลายความรู้สึกครับ แต่ผมว่ามันสวยกว่าทุกวันนะ”

              “อ่า...”

              “ความรู้สึกของผมมีซีวอนฮยองอยู่ในนั้นมาหนึ่งปีแล้วนะ” เหมือนว่าร่างสูงจะยังไม่เข้าใจ คยูฮยอนจึงเฉลยคำตอบของเจตนาที่แท้จริงออกมาพร้อมกับใบหน้ามู่ทู่จนซีวอนเผลอกระตุกยิ้มแล้วต้องรีบเดินอ้อมไปรวบเอาร่างบางมาไว้แนบอกก่อนที่ความงอนจะกัดกินหัวใจของเจ้าชีวิตเขาไปมากกว่านี้

              “ผมจำได้หน่ะ” ริมฝีปากกดจูบไปทั่วใบหน้าที่เปรอะคราบดินเป็นจุดเล็ก ๆ ปลายนิ้วที่ไม่ค่อยแน่ใจว่าเปื้อนดินหรือเลือดมากกว่ากันไล้เกลี่ยคราบดินเหล่านั้นให้หลุดออกไปจากใบหน้าขาวผ่องแล้วจึงกดริมฝีปากผะแผ่วที่ข้างแก้มไล้ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงมุมปาก

              “ฮยองดูไม่สนใจเลยนี่นา...”

              “เพราะผมสนใจคยูฮยอนมากกว่าต่างหากหล่ะ”

              “...” สรรพสิ่งเงียบลงจนเหลือเพียงเสียงของริมฝีปากที่แตะสัมผัสกันเบา ๆ สองสามครั้ง คยูฮยอนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตามองซีวอนหลังจากที่ริมฝีปากของตัวเองถูกปล่อยออกมาแล้ว ใบหน้าหวานก้มงุดหนีความจริงที่ว่าเขาเป็นฝ่ายขยับเข้าไปแตะอีกฝ่ายก่อน.... ก็แค่อยากจะทำตามหัวใจตัวเองบ้างถึงมันจะชวนให้เขินก็เถอะ

              “คยูฮยอน...”

              “หืม ?”

              “ผมรักคยูฮยอนนะครับ”

              “ผมก็รักฮยองนะ... รักมากจนจะตายแทนได้อยู่แล้วเนี่ย” จะเรียกว่าใช้น้ำเสียงบ่นเพื่อแก้ความประหม่าก็ว่าได้ แขนเรียวตวัดโอบรอบเอวของอีกคนเอาไว้แล้วรั้งอีกฝ่ายเข้ามาด้วยแรงที่มีไม่มากมายเท่าไหร่ ท่าทางแบบนี้นั่นแหละที่ทำให้ชเวซีวอนตกหลุมรักอย่างโงหัวไม่ขึ้น

              “ผมสิจะตายแทนคยูฮยอน น่ารักขนาดนี้ผมหัวใจวายขึ้นมาทำไงหล่ะครับ”

              “ผมก็คงวายตามไปด้วยนั่นแหละ” คนไม่ประสีประสาในความรักรีบตอบทันควันจนคนฟังต้องยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลอย่างเบามือแล้วหอมที่ข้างขมับลงไปแผ่วเบาเพื่อปรามร่างในอ้อมอกไม่ให้เอ่ยถึงความตายอีกและเจ้าตัวก็คงจะรู้ตัวดี”

              “เอาเป็นว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปดีกว่า”

              “นั่นแหละ อยู่ด้วยกันตลอดไป...”

              “ครับ ตลอดไป...” อ้อมกอดที่ถ่ายทอดให้แก่กันและแผ่นอกที่แนบชิดจนต่างฝ่ายต่างได้ยินเสียงของก้อนเนื้อล้ำค้าที่กระตุกตัวเต้นเป็นจังหวะเปรียบเสมือแผ่นโลหะทองที่จารึกคำสัญญาเอาไว้... ตลอดไปที่เกิดขึ้นพร้อมกันและรอวันจบลงพร้อมกัน

    END.

    __________Winter Killer__________

    จบแบบแฮปปี้ของสองคนในเรื่อง
    แต่คนอ่านอาจจะแซดแทน (?)
    555555555555555555555

    ไปอ่าน SUMMER KILLER กันเถอะ !
    มันร้อนมานานแล้ว 555555

     

    จิ้ม

    THE★FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×