คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Wandering (Intro)
{ Wandering }
Intro
สมุดพาสปอร์ตของผมหนาเตอะ มันถูกเปิดออกเพื่อตรวจสอบอยู่หลายสิบครั้งในแต่ละเดือนและกระดาษก็เริ่มจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆจนบางทีผมก็นึกอยากจะแกล้งทำหายให้ตัวเองได้เล่มใหม่มาเสียจบๆเรื่องไป หากแต่ถ้าทำแบบนั้นเห็นทีว่าจะไม่ดีนัก ปัญญาจะกลับบ้านยังไม่มีนับประสาอะไรกับการต้องไปเสียเวลาต่อคิวทำเล่มใหม่อีกหล่ะ
สนามบินก็เป็นเสมือนบ้านหลังที่สองไปเสียแล้ว เดินเข้าเช้าเดินออกเย็นจนกลัวว่าจะจำสีหลังคาบ้านของตัวเองไม่ได้ กระนั้นก็ยังแอบรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่รู้ว่าตัวเองจะได้ออกไปเผชิญชีวิตนอกประเทศอีกครั้งอยู่ดีนั่นแหละ ปากก็บ่นไปงั้นแต่คนอย่างอู๋อี้ฟานก็ไม่เคยคิดเรื่องเบี้ยวงานเลยสักนิดนะ
ต่อให้ต้องไปถิ่นทุรกันดานแค่ไหน พี่คริสก็ไม่เคยท้อหรอก
“คราวนี้ไปไหนอีกเนี่ย?”
“เวียดนาม”
“เหนือหรือใต้อ่ะ?”
“เหนือหน่ะ… เห็นว่าหนาว”
“อือ… เอาเสื้อกันหนาวไปใช่ไหม?” เขาถามย้ำกับผมอีกครั้งเหมือนเช่นทุกครั้งที่มารับมาส่งสนามบิน (ล่าสุดเมื่อสองวันก่อน) ซึ่งผมก็ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักแม้จะไม่ค่อยมั่นใจนักว่าตัวเองได้ใส่มันมาอย่างที่หัวผงกไปหรือเปล่า… เอาเถอะ ยังไงซะ ฮานอยก็ต้องมีเสื้อขนเป็นขายสักที่แหละนะ ในกรณีที่เขาไม่ได้เอาเสื้อไปหน่ะ
“…”
“…เอาอะไรหรือเปล่า?”
“มึงรอดกลับมาก็พอ” เขาก็ยังคงพูดคำเดิมเหมือนเช่นทุกครั้งที่มาส่งก่อนจะตามด้วยรอยยิ้มในแบบฉบับของเสี่ยวลู่หานที่มองแล้วสบายตาเหมือนทุกครั้ง ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆในลำคอเมื่อรู้สึกว่าลูกตากลมโตนั่นชักจะจริงจังกับประโยคของตัวเองมากเกินไปเสียแล้วจึงจัดการวางมือลงบนกลุ่มผมสีบลอนด์ของเขา
“เห็นว่ากาแฟที่นั่นดัง”
“…”
“ถ้ารอด… จะหิ้วกลับมาให้สักกระป๋องแล้วกัน” จับเป้ใบโตสะพายขึ้นกับบ่ากว้างของตัวเองพร้อมกับว่าไปด้วย ครั้นเมื่อจบประโยคผมก็พลิกตัวหันไปหคนตัวเล็กที่ถือกระเป๋ากล้องไซส์เอ็กซ์แอลเอาไวในมือ รอคล้องคอให้ผมเรียบร้อยตามระเบียบ
ลู่หานจับสายสะพายพาดคร่อมข้ามหัวของผมไป จัดดึงเสื้อยืดตัวโคร่งที่ยับไปตามแรงรั้งของน้ำหนักมากล้นเหล่านั้นให้กลับเข้าที่ทางก่อนจะสาวเท้าก้าวออกไปเช็คความเรียบร้อยในระดับความห่างที่มือของผมยังพอจะเอื้อมไปลูบผมของเขาได้ถึง
“จะรอกินกาแฟแล้วกัน”
“เออ… ไปละ”
“อืม… Safe Flight”
“Safe Ride…” ผมขยิบตาให้กับเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตซึ่งหยิบกุญแจรถมอร์เตอร์ไซค์มาหมุนควงไว้ในมือแล้วค่อยหันหลังเดินจากมันเพื่อตรงไปยังเคาท์เตอร์เช็คอิน
ลู่หานคลี่รอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างเดินเก้กังตรงไปยังเคาท์เตอร์ เมื่อร่างสูงโปร่งของตากล้องคอลัมน์ท่องเที่ยวเคลื่อนหายไปท่ามกลางูงชนลู่หานจึงพลิกตัวเองกลับหลังหันเพื่อตรงไปยังประตูทางออกที่เชื่อมกับลานจอดรถจักรยานยนต์
เสียงเครื่องยนต์ดังก้องกะหึ่มก่อนที่ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“ไปจริง?”
“เออ… แม่งเอ้ย เสียใจ”
“แล้วไปนานเท่าไหร่วะ?”
“เดือนนึงมั้ง…”
“ไอ้เหี้ย นานไปป่ะ?!”
“ไม่รู้อ่ะ กูอกหัก กูเสียใจ โอเซฮุนแดมแซดดดดดดดด” โอเซฮุนที่กำลังแดมแซดเบ้ปากในขณะที่มือทั้งสองข้างก็สาละวนอยู่กับการจับหูของกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่พลิกผิดที่ผิดทางไปหมดให้กลับมาอยู่ในสภาพเรียบร้อย ลำบากเพื่อนสนิทอย่างคิมจงอินต้องเข้ามาช่วยจัดระเบียบมันด้วยอีกแรง
“กูบอกแล้ว หาใหม่…”
“หาง่ายนักแหละวะ… นางแบบเลยนะเว้ย… นางแบบเลยนะ…”
“นางแบบที่ไม่ได้รักมึงก็ไม่มีค่าหรอกหว่ะ…”
“…”
“นี่อย่าไปเดินให้รถชนตายโหงตายห่าที่ฮานอยนะ” เปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อสังเกตว่าสีหน้าของเพื่อนสนิทชักจะไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ กระนั้นจงอินก็ยังไม่วายจะจิกนิดแซะหน่อยพอให้อีกฝ่ายมันได้คิดเสียบ้างว่าไอ้ที่ทำๆอยู่เนี่ยมันค่อนข้างไร้สาระ
ไม่สิ… โครตไร้สาระเลยต่างหาก!
“เออ… คนอย่างเซฮุนไม่ตายหรอกหน่ะ นี่แค่อยากไปพักใจ..เฮ้อ…เจ็บปวด” ยกมือขึ้นกุมหน้าอกในตำแหน่งหัวใจพร้อมทำสีหน้าปวดร้าวเจียนตายใส่เพื่อนที่ยืนตีหน้านิ่งไม่สนใจการกระทำของเขา หนำซ้ำไอ้สำลี(ประชด)ยังเบ้หน้าแล้วเบือนหนีไปทางอื่นอีกต่างหาก… ดูแม่งชีวิตโอเซฮุนนี่อาภัพเรียกพ่ออ่ะ แฟนสาวที่เป็นนางแบบชุดชั้นในมาทิ้งไป แถมเพื่อนสนิทที่เขารักแบบถวายหัวยังทำเมินอีกต่างหาก
“เลอะเทอะ…”
“มึงแม่งไม่โรแมนติก…เหอะ!”
“…งั้นกูก็ขอให้ตุ๊ดฝึกหัดโอเซฮุนพบรักที่ฮานอยแล้วกันนะครับ!! โรแมนติกพอไหม? ห่า…” ถึงจะหน่ายเหนื่อยกับสติปัญญาของเพื่อนที่มันแลดูไม่ค่อยเต็มเต็งเท่าไหร่แต่จงอินก็ยังคงเอื้อมมือไปตบบ่า ลั่นคำอวยพรใส่หน้าเพื่อนสนิทแบบประชดประชันกลับไป
“โรแมนติกทวดมึงสิห่าไค… กูไม่ใช่ตุ๊ดไง…”
“ก็คล้ายอยู่… เฮ้ย ไปเช็คอินได้แล้ว… เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปพอดี”
“เออ เชี่ย! นี่กูลืมแล้วนะเนี่ย!! ไปแล้วเว้ย ไว้เดี๋ยวไกป์หา…”
“เดินทางปลอดภัยๆ” มือเรียวตบเป้เดินทงบนแผ่นหลังของนักเดินทางสมัครเล่นไปฉาดใหญ่เพื่อให้เจ้าของเรียวขายาวได้ก้าวตรงไปยังเคาท์เตอร์เช็คอิน โอเซฮุนหันหน้ากลับมาโบกมือให้กับเขาอีกครั้งก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปต่อคิวเช็คอินและโหลดสัมภาระ มันขยับหมวกแก็ปสองสามครั้งให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะก้มลงพูดอะไรกับพนักงานด้วยท่าทีเหรอหราและเอาแต่เลียริมฝีปากไม่หยุด
เฮ้อ… แม่งจะไปรอดป่าววะ….
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
อาจจะหายนานไปหน่อย... เรื่องนี้ลงในทัมเบออยู่ เดี๋ยวทะยอยลงให้นะ
❀ Supercell
ความคิดเห็น