คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : { five summer }
Five
สิ่งที่ทำให้ช้างล้ม
อาจเป็นเพียงเสี้ยนชิ้นเล็กเท่านั้น
ขบวนรถเคลื่อนไปข้างหน้า หากแต่บรรยากาศภายในกลับเหมือนนิ่งอยู่กับที่ อากาศที่ร้อนจนอ้าวทำให้ร่างสูงกระวนกระวายใจและเผลอแสดงมันออกมาผ่านทางการขมวดคิ้วจนหน้าผากเป็นรอยยับ... ล็อตนี้ถือเป็นล็อตใหญ่ ขนข้ามน้ำข้ามทะเลมานานนม และเขาก็เฝ้าประคบประหงมมันอย่างดี แน่นอนว่ามันย่อมเป็นที่หมายตาต้องใจของทั้งตำรวจและพวกโจรในวงการเดียวกัน เขาไม่ห่วงหรอกถ้าของพวกนั้นจะถูกยึดไป แต่ชีวิตของเขาต่างที่น่าห่วง
“อย่าเครียดสิครับ...” คนด้านข้างปลอบประโลมด้วยการโน้มตัวลงไปแนบริมฝีปากกับอีกฝ่ายเบา ๆ พร้อมบีบฝ่ามือแข็งกร้าวที่วางอยู่เหนือหน้าตัก ชเวซีวอนหันมาคลี่รอยยิ้มแล้วจึงทาบริมฝีปากเข้าหาอีกฝ่ายกลับ แต่เขาก็เลือกที่จะค้างมันเอาไว้ให้นานแสนนานบนริมฝีปากของคนที่ทำให้เขารักตัวกลัวตายขึ้นมาได้
“...”
“...ไว้ขนรอบนี้เสร็จเราไปสวิซกันนะครับ”
“หืม ?”
“ผมจะพาคยูฮยอนไปหาพ่อกับแม่....” ร่างบางขมวดคิ้วเล็กน้อย ซีวอนไม่เคยเล่าเรื่อวพ่อกับแม่ให้เขาฟัง ดังนั้นการที่อยู่ดี ๆ ร่างสูงบอกว่าจะพาเขาไปพบพวกท่าน จึงไม่ใช่เรื่องที่ชวนให้สบายใจเลย
“...อ่า...”
“..ฮะๆ... ท่านเสียแล้วทั้งคู่ครับ...เราแค่จะไปเยี่ยมท่าน ผมอยากให้ท่านได้รู้จักคยูฮยอนด้วย...”
“ซีวอน...คิดถึงท่านเหรอครับ ?”
“ตลอดเวลาครับ... แม้ว่าผมจะไม่ชอบในการตัดสินใจของท่านเท่าไหร่ แต่ทุกอย่างที่มีอยู่ในวันนี้ได้ล้วนเป็นสิ่งที่พ่อกับแม่จัดสรรมาให้ทั้งนั้น” ร่างสูงเอนศีรษะลงซบบนบ่าแคบของอีกคนประดุจว่ากำลังเหนื่อยล้า และเขาก็รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ... เขาเจ็บปวดทุกครั้งที่รู้ว่าจะมีเงินสกปรกเข้ามาหล่อเลี้ยงในวงจรอุบาทว์ของเขา แต่มันก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่พ่อฝากเอาไว้... เขาจึงทำใจทิ้งมันไม่ลงเสียที
“ท่านรักซีวอนหรอกนะ...”
“แล้วต่อจากนี้ก็ต้องรักคยูฮยอนเพิ่มอีกคนด้วยนะ” ใบหน้าคมคายหันมองมาทางเขา ก่อนที่เจ้าตัวจะฉีกรอยยิ้มออกมา มือบางเลื่อนขึ้นลูบที่โครงหน้าคมคายก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากหยักนั้นหนัก ๆ
“ทำไมวันนี้จูบผมบ่อยจังน้า...”
“ผมอยากให้ซีวอนรู้...” ข้อนิ้วเย็นเฉียบเกลี่ยที่ข้างแก้มสากของอีกคน ลากไล้ลงมาจนถึงมุมริมปากที่มักจะยกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่เขาเสมอ ดวงตากลมจรดจ้องมองลูกปัดสีชาราวกับต้องการจะเห็นมันทะลุพรุนด้วยสายตาของเขา
“..”
“...ว่าผมรักซีวอนมาก ๆ เลยนะครับ”
“เจ้านายครับ... ด้านหน้าดูเหมือนจะไม่ดี”
“หืม...” เพราะเสียงขัดจังหวะของคนขับรถทำให้คยูฮยอนไม่แน่ใจว่าซีวอนได้ยินในสิ่งที่เขาพูดออกไปหรือเปล่า ร่างสูงชะโงกหน้ามองผ่านบานกระจกใสเพื่อดูสถานการณ์ด้านหน้า.... ใช่.... เหมือนตำรวจจะล้อมเขาอยู่
“ถอยหลังเลยแทบิน....”
“ครับ”
“ให้ตายเถอะ พระเจ้าสิ...” ร่างสูงปล่อยแขนออกจากรอบเอวบางของคนข้างกายแล้วคว้าเอาปืนพกที่ซ่อนอยู่ใต้เบาะหน้าของตัวเองขึ้นมาถือไว้ในมือ ทันทีที่รถกลับลำ เบื้องหลังของเขาก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยตำรวจอีกเช่นกัน...
“นี่มันบ้าอะไรวะ !”
“คุณซีวอนครับ.... คุณซีวอนปลอดภัยนะครับ...” เสียงวิทยุสื่อสารหน้ารถเรียกความสนใจจากซีวอนไปได้ ร่างสูงโน้มตัวข้ามไปคว้าลำโพงขนาดพอดีมือขึ้นมาแล้วรีบกรอกเสียงลงไป
“ฉันยังสบายดีอยู่.. คิบอม นายขับรถมาเทียบ... รับคยูฮยอนออกไป”
“คุณซีวอน...” ร่างบางที่ได้ยินขับสั่งเสียงเฉียบของคนข้างกายรีบยกมือขึ้นบีบหน้าตักของอีกคน ดวงตากลมจ้องซีวอนไม่กระพริบ มันไม่ใช่การตัดสินใจที่เขาต้องการเลยในเวลานี้
“...มาให้เร็วด้วยหล่ะคิบอม... ฉันนับแค่หนึ่งถึงแปดเท่านั้น และคยูฮยอนต้องปลอดภัย....”
“รับทราบครับ” เสียงของคิบอมลอดออกมาจากวิทยาสื่อสาร ร่างสูงวางมันกลับเข้าไปที่เดิมก่อนจะเริ่มนับหนึ่งถึงแปดในใจ เขาได้ยินเสียงคยูฮยอนเรียกชื่อของเขาราวกับจะขออยู่ด้วยแต่เขาจะไม่เอาความรักของตัวเองมาเสี่ยงเด็ดขาด... ไม่มีวัน
ยังไม่ทันนับถึงแปดดี รถของคิบอมก็เคลื่อนเข้ามมาเสียจนชิด ร่างสูงก้มหน้าจูบที่หน้าผากของอีกคนโดยไม่กล่าวคำบอกลาแล้วโน้มตัวออกไปเปิดประตูรถให้ ความเร็วของรถที่ถูกชะลอลงจนแทบนิ่งมันบอกให้คยูฮยอนพูดอะไรออกไปสักคำ แต่เขาก็โดนคนของซีวอนที่นั่งอยู่บนรถของคิบอมกระชากให้เข้าไปนั่งเสียก่อน
“ถ้าโจวคยูฮยอนเป็นอะไรขึ้นมา... พวกนายตายยกคัน”
อย่าห่วงเขานักเลยซีวอน...
ความรัก... มันอันตรายยิ่งกว่าคมมีดเสียอีก
บานประจกค่อย ๆ เลื่อนขึ้นปิด ทั้งคู่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา หากแต่เป้าสายตาสุดท้ายของซีวอนก็คือคยูฮยอน ดวงตาคมเข้มนั้นเหมือนกำลังผูกคำสัญญาว่าเขาจะกลับมารับ... ในขณะที่คยูฮยอน้องกลืนน้ำลายลงคอไปด้วยความอัดอั้นและทอดมองแววตาคู่นั้นอย่างเจ็บปวดก่อนที่รถจะเลี้ยวออกไปอีกทาง
“แทบิน... ขับตรงไป”
“ห๊ะ ? อะไรนะครับ ?”
“ขับตรงไป... แล้วก็จับปืนให้แน่นๆ” น้ำเสียงเข้มกำชับคำของตัวเอง เน้นย้ำให้ชัดเจนทุกประโยค ชเวซีวอนยังคงเอนหลังพิงบนั่งบุหนังสีเนื้อด้วยท่าทางสบาย ๆ พร้อมกัขยับปกเสื้อออกเล็กน้อยเพื่อสร้างช่องทางหายใจให้กับลำคอของตัวเองเพิ่มขึ้น
รถของเขากลับหลังหันเพื่อตรงไปยังเป้าหมายเบื้องหน้า เขาเห็นรถตำรวจจอดอยู่สองถึงสามคัน แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเขารู้ดี... มันต้องมีมากกว่าสอง มันอาจจะมีเป็นสิบ หรือถ้าคนพวกนั้นมาเพื่อจับเขาก็คงอาจจะต้องใช้ถึงหนึ่งร้อยคัน
“เอาตัวนายให้รอด... ของพวกนั้นได้ไปก็ไม่เท่าไหร่ เอาชีวิตตัวเองให้รอด”
“แต่เจ้านายครับ...”
“หนีได้เมื่อไหร่ก็หนีไปซะ ไม่ต้องห่วงฉัน ไม่ต้องห่วงของพวกนั้น... ท้ายที่สุดคุณค่าทั้งหมดมันคือชีวิตของนายไม่ใช่อะไรที่ไหนเลย” ร่างสูงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระ หากแต่มันก็แฝงความกังวลชุดหนึ่งที่ซ่อนเอาไว้ลึก ๆ ในใจ ถ้าเขาตายเขาก็ไม่เสียดายอะไรแล้วหล่ะ... โจวคยูฮยอนต้องปลอดภัย เขาไว้ใจคิมคิบอม
“ครับ...” แทบิยไม่ตอบอะไรไปมากกว่าการขานรับเหมือนอย่างที่เคยทำเมื่อรู้ดีว่าเขาขัดคำสั่งนั้นไม้ได้ คันเร่งถูกฝ่าเท้าเหยียบกดลงไปและเคลื่อนเข้าไปยังบริเวณอันตรายดังกล่าว ชายในชุดเครื่องแบบต่าง ๆ ยืนเรียงกันเป็นกลุ่มราวกับจะมาเพื่อต้อนรับเขาโดยเฉพาะ ซึ่งมันทำให้ซีวอนลอบยิ้มออกมา... ยิ่งรถชะลอตัว รอยยิ้มของเขายิ่งปรากฏชัด
“ขอโทษครับ ผมเจ้าหน้าที่ตำรวจ...”
“มีอะไรหรือเปล่าครับ...”
“ผมขออนุญาตตรวจรถครับ เราได้ข่าวว่ามีการขนส่งแรงงานลักลอบและยาเสพย์ติด ขอความร่วมมือด้วย”
“อ้อ... เชิญตามสบายเลยครับ” ร่างสูงพยักหน้ารับพร้อมกับจ้องเข้าไปในดวงตาคู่นั้นด้วยแววตเหี้ยมเกรียมซึ่งไร้ความรู้สึกอื่นมาปิดบัง นายตำรวจหน้าใหม่กลืนน้ำลายลงคอ เขาเห็นตอนที่ลูกกระเดือกนั้นขยับด้วยความหวาดกลัวและเมื่อชายหนุ่มถอนฝ่าเท้าก้าวออกไป...
ปัง !!
“คุณคยูฮยอนไม่ต้องห่วงหรอกครับ” คิบอมที่สังเกตว่าสีหน้าของร่างบางดูไม่สู้ดีนักหันไปพูดกับคนที่นั่งอยู่ด้านข้างเขา ใบหน้าของคยูฮยอนซีดขาวและริมฝีปากนั้นสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด... แต่เขาก็ยังพยายามฝืนยิ้มออกมาทั้งที่ไม่ใช่ตัวตนของเขาเลยสักนิด ทั้งหมดก็เพื่อดูแลคนที่คุณซีวอนรักให้ดีที่สุด
“..”
“คุณซีวอนจะไม่เป็นอะไร...”
“คิบอม...”
“ครับ”
“เลี้ยวรถกลับไปนะ...”
“แต่คุณซีวอนห้ามไว้”
“เราต้องเลี้ยวรถกลับไปเดี๋ยวนี้ ! ผมต้องบอกซีวอน !!” ร่างบางตวาดคนข้างกายด้วยน้ำเสียงสั่น ท่าทีร้อนรนของโจวคยูฮยอนไม่ใช่สิ่งที่คิมคิบอมคุ้นชินอีกเช่นกัน ยิ่งเห็นน้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตากลมคู่นั้นมันยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนสาป
“คุณคยูฮยอนครับ คุณต้องใจเย็นก่อน...”
“คิบอม เลี้ยวรถกลับ ! ฉันขอร้อง !!”
“คุณคยูฮยอน..”
“ฉันต้องบอกซีวอน... ฉันต้องบอกซีวอน....สตีเว่นเป็นสายลับพิเศษ” ร่างบางเขย่าต้นขาของอีกคนทั้งที่น้ำตายังคงไหลนองลงมาตามใบหน้า ริมฝีปากบางสวยที่เพิ่งจะตวาดเสียงดังใส่หน้าคิมคิบอมเม้มแน่นเข้าหากันราวกับว่าคยูฮยอนกำลังซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ในลำคอของตัวเอง
“ห๊ะ ?”
“สตีเว่นเป็นสายลับพิเศษ ! และฉันหน่ะ....”
~ ปังง !!
“เฮ้ย !... ขับต่อไป..”
~ ปังง !!
“เหยียบเร็วกว่านี้ !” คิบอมออกคำสั่งเสียงดังแล้วคว้าตัวของคยูฮยอนให้ย่อต่ำลงมา เขาเหลือบมองสถานการณ์รอบข้างผ่านกระจกด้านหน้ารถและก็เป็นตามที่คาดไว้เมื่อเห็นรถตำรวจสองสามคันขับไล่หลังมา
“คยูฮยอนก้มหัวไว้...”
“คิบอม กลับไปหาคุณซีวอน !”
“คระ... เอ้ย ! เชี่ยเอ้ยย !!”
“คุณคิบอมครับ.. ข้างหน้านั่น....” คนขับรถที่ยังคงจับปืนเอาไว้แน่นพยักเพยิดไปด้านหน้าซึ่งถูกห้อมล้อมเอาไว้ด้วยรถตำรวจจำนวนหนึ่งทำให้คิบอมต้องกุมขมับ...
“เอายังไงครับ”
“ขับต่อไป... ตายเป็นตายวะไอ้เชี่ย !”
เรามองไม่เห็นปลายทาง
เพราะมันไม่มีอยู่จริงในปัจจุบัน
ความเงียบในห้องสมุดมันอึดอัดเสียจนโจวคยูฮยอนรู้สึกหายใจไม่ออก เขาไม่ชอบเลย.. ยิ่งห้องสมุดที่อยู่ใต้ดินแบบนี้ เขายิ่งไม่พึงใจที่จะใช้เวลาเกือบค่อนวันหมกตังอยู่ในนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นชั่วโมงที่ 7 ของการเดินไปกลับแบกหนังสือไปมาเสียแล้ว
นิ้วเรียวจิ้มลงไปบนคีย์บอร์ดสีดำของแมคโปรเครื่องบาง เขาใช้นิ้วไล่ตามแป้นสัมผัสเพื่อลากให้รายชื่อหนังสือเหล่านั้นวิ่งลงมาเรื่อย ๆ ดวงตากลมโตกวาดมองมันอย่างไม่ลดละเมื่อสิ่งที่เขาค้นหาจากหนังสือร้อยเล่มในวันนี้ เพิ่งจะออกมาเป็นแผ่นกระดาษเพียงแค่ 5-6 แผ่นเท่านั้น
“แผนผังห้องขังในประเทศเกาหลีอย่างนั้นเหรอ... อ่า.... ลังหนังสือพิเศษ เฉพาะเจ้าหน้าความมั่นคงของประเทศ...” พึมพำรายละเอียดหนังสือออกมาเบา ๆ ก่อนจะใช้มือจดยุกยิกลงไปในแผ่นกระดาษใบจิ๋ว ก่อนจะไล่สายตากวาดมองหาหนังสือที่ดูน่าจะเข้าพวกมากที่สุดลงไป
เขาใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการรวบรวมรหัสของรายการหนังสือทั้งหมดลงในแผ่นกระดาษแล้วถือมันเดินไปเดินมาตามชั้นหนังสืออีกครั้ง... ผลที่ได้ก็เหมือนเดิม กองหนังสือจำนวนมากถูกวางลงบนโต๊ะแล้วเขาก็เปิดไล่มันดูไปทีละหน้าอีกครั้ง
“เอ... มันยังมีอีกหรือเปล่านะ” คยูฮยอนหยิบลิสต์หนังสือในมือขึ้นมาแล้วกวาดเช็คมันอีกครั้งเพื่อดูว่าเขาหยิบหนังสือออกมาทั้งหมดแล้วหรือยัง และก็พบว่าเขาพลาดเล่มสำคัญไปหนึ่งเล่มอย่างที่ตัวเองรู้สึกจริง ๆ ด้วย
แผนผังห้องขังในประเทศเกาหลี
“ห้ามนำออกข้างนอกห้องนี้ ยืมไม่ได้ ห้ามถ่ายเอกสาร ดูได้อย่างเดียวนะคะ”
“อ่า... ขอบคุณครับ” หนังสือปกแข็งเล่มใหญ่ถูกแบกไปยังโต๊ะที่ทางห้องสมุดจัดไว้ให้สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านหนังสือโดยมีสายตาของพนักงานจับจ้องมองเขาอยู่ คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นยิ้มให้กับหญิงสาวหน้าดุวัยกลางคนแล้วก้มลงไปพลิกแผ่นกระดาษต่อด้วยท่าทางที่พยายามกลั้นให้สงบ แม้ว่าเขาจะรู้สึกรำคาญสายตาคู่นั้นมากแค่ไหนก็ตาม
แล้วก็ไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อยเมื่อเขาพบสิ่งที่เขาพยายามหามาทั้งวันอยู่ในหนังสือเล่มนี้ แปลนการสร้างคุกที่ถูกร่างเอาไว้อย่างละเอียดโดยสถาปนิกเลื่องชื่อทำให้เขาต้องรีบใช้สมองในการจดจำผังนั้นคร่าว ๆ และคงต้องขอบคุณไปถึงวิชาสถาปัตย์ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนจนได้ใบปริญญามาแต่ไม่เคยได้ใช้... วันนี้ก็ได้สำแดงฤทธิ์แล้วสินะ
“ผมจดอ้างอิงออกไปได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ...”
“โอยยย... กูจะบ้า...” บ่นเสียงดังออกมาก่อนจะดับเครื่องยนต์ของยานพาหนะลง คยูฮยอนก้าวลงมาจากรถพร้อมกับเอกสารปึกบาง ๆ ก่อนจะไขกุญแจแล้วผลักประตูเล็กดัดเข้าไปข้างใน
ไฟของบ้านถูกเปิดให้สว่างขึ้นทีละดวงอย่างระมัดระวัง เจ้าของบ้านหลังน้อยทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาแล้วหยิบแผ่นกระดาษขนาดเอสามที่ปรากฎฝีมือการร่างแปลนของเขาเอาไว้ลาง ๆ ดวงตากลมเพ่งพินิจมองแต่ละส่วนที่เขาจำจดรายละเอียดของมันออกมาจากหนังสือจนมันฝังแนบติดเข้าไปในหัวด้วย
“อ่า จริงสิ !” นึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกสิ่งที่หรนึ่งที่เขาลืมไปเสียสนิท คยูฮยอนฉุดตัวขึ้นจากโซฟาก่อนจะตรงไปยังโทรศัพท์บ้านแล้วคว้าเอาสมุดบันทึกเบอร์ขึ้นมาเปิดไล่หาชื่อของคนที่ในเวลานี้คงจะช่วยเหลือเขาได้ดีที่สุด
ทันทีที่เจอชื่อ คิม ยองอุน ร่างบางก็ไม่รอช้า วิ่งกลับไปยังโซฟาแล้วคว้าโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา นิ้วเรียวจิ้มเบอร์นั้นทีละตัว ก่อนจะเช็คมันด้วยสายตาอีกรอบเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่กดเบอร์โทรไปหาใครผิด... แล้วค่อยกดปุ่มโทรออก
(สวัสดีครับ)
“ฮยอง... นี่คยูฮยอนนะ”
(คยูฮยอนเหรอ ? นี่อยู่ไหนเนี่ย คนในหน่วยเขาหาตัวนายกันแทบบ้านี่)
“มาพักอยู่ที่ฮงชอนหน่ะครับ” โกหกคำโตออกไปเมื่อคิดว่าถ้ายองอุนรู้เรื่องคนในหน่วยแล้ว การบอกพิกัดแท้จริงของเขาก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่
(อ่อ...แล้วโทรมามีอะไรเนี่ย)
“ฮยอง ผมมีเรื่องอยากให้ฮยองช่วย”
(หืม... เรื่องอะไรหล่ะ ?) น้ำเสียงฉงนสงสัยของยองอุนทำให้เขารู้สึกกลัวที่จะบอกความจริงออกไป แต่ถ้าไม่ขอความช่วยเหลือจากผู้ชายตัวใหญ่คนนี้ เขาเองก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วหล่ะ
“เรื่องซีวอนหน่ะครับ”
(อ่า...)
“ผมเข้าไปหาฮยองที่บ้านได้ไหม”
(คยูฮยอน...)
“ครับ ?” ร่างบางขานรับทันทีเมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่เบาลงกว่าเดิม ดูเหมือนยองอุนจะรู้เป้าหมายของเขาและเข้าใจมันโดยไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความอีกแล้วหล่ะ
(คิดให้ดีก่อนแล้วค่อยเข้ามา... คิดให้มันถี่ถ้วนก่อน... แล้วเราค่อยคุยกัน)
“ครับ...พี่ยองอุน.... ผมจะคิดให้ดี”
(อืม)
“ขอบคุณพี่มากนะครับ...”
(นายก็ดูแลตัวเองด้วยหล่ะ)
เขากดปุ่มวางสายเมื่ออีกฝ่ายจัดการตัดบท สรุปเรื่องราวเสร็จสรรพ แผ่นหลังทิ้งลงพิงกับพนักของโซฟาก่อนที่ร่างบางจะเบนหน้าไปมองรูปของเขาและซีวอนที่ติดอยู่บนกำแพงห้อง... รูปที่ถ่ายมาห่วย ๆ ด้วยกล้องโพลารอยด์อันจิ๋ว รูปที่ซีวอนกอดเอวของเขาเอาไว้แล้วเขาก็เอนหัวลงซบบ่าอันอบอุ่นนั้น
ความจริงที่ยองอุนไม่รู้
คือเขาตัดสินใจแน่แล้วตั้งแต่วันนั้น
__________ SUMMER KILLER__________
แม้จะหมดหน้าร้อนไปแล้ว แต่เรายังเอามันมาเล่นได้...
ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้ว เรื่องราวทั้วงหมดจะหยุดที่ตอนหน้า
แล้วก็จะมีสเปให้อีกหนึ่งตอน จบบริบูรณ์...
แล้วหน้าฝนก็จะตามมา 555555555555555555555555555555555
ความคิดเห็น