ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] KRISHUN STORAGE'

    ลำดับตอนที่ #3 : Coagulation II

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 56


     

    { Coagulation }

     

    เหมือนขุดหลุมลึกเกินไป
    ลึกจนกองดินฝังตัวเอง

     

     

    เซฮุน นายมาโรงพยาบาลเร็ว จงอินอยู่ไอซียู !’

     

    ตึก ตึก ตึก ตึก...

     

     

    ตึก...

     

     

     

    ตึก...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตึก....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตึก....

     

     

     

    ตึก...

     

     

     

     

     

     

    ผลัก !

     

    จงอิน...’

     

    จงอิน...ฮึก...จงอินนนนนนนนน !!’

     

    ฮยองอย่าทิ้งฮุนสิ...ฮึก... อย่าทิ้ง ฮือ.... อย่า...ฮึก ไม่เอา ฮืออ ฮุน ฮึก...’

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฮึก... จงอิน!!” ร่างบางสั่นสะท้านผวาลุกขึ้นท่ามกลางความมืดมิดที่บดบังทุกอย่าง คราบน้ำหยาดกลิ้งที่หางตาให้ความรู้สึกยุบยิบเกินทนจนฝ่ามือบางต้องยกขึ้นปาดมันออก แต่ไม่ว่าจะพยายามทำยังไงหยาดน้ำเล็กๆเหล่านั้นก็เหมือนจะยิ่งไหลลงมาไม่มีหยุด

     

    ฝันร้ายเหรอ...” เสียงทุ้มโทนเบสกับอ้อมแขนที่เข้ารัดรึงรอบเอวของเขาทำให้โอเซฮุนรู้ตัวว่าในห้องนี้ไม่ได้มีเพียงเขาคนเดียว ใบหน้าหวานตะแคงมองไปเบื้องหลังเพื่อพยายามมองหาเจ้าของอ้อมแขนท่ามกลางความมืด แต่การมองผ่านม่านน้ำตาของตัวเองออกไปมันก็ช่างยากเหลือเกิน

     

    “...”

     

    ฝันร้ายต้องกลับหมอนนะอู๋อี้ฟานเปล่งเสียงบอกคนตัวบางที่ยังคงงอกายไม่ต่างอะไรจากกุ้งลวกสุก เขาปัดป่ายฝ่ามือไปทั่วหัวเตียงเพื่อกลับหมอนตามคำบอกพร้อมๆกับที่รั้งเอาร่างผอมบางเข้ามาไว้ในอ้อมอกแล้วกดจูบลงบนขมับคลายความตึงเครียดที่โปนปูดผ่านเส้นเลือด

     

    กระนั้นดวงตาหวานที่เคลือบม่านน้ำใสเอาไว้กลับแสดงท่าทางหวาดกลัวจนหัวใจของเขากระตุกวูบ

     

    อย่าคิดถึงมันสิเซฮุน... ไม่ต้องไปคิดถึงมันแรงของคริสถูกใช้อีกครั้งในการกดแนบร่างบางให้เอนตัวลงบนผืนเตียง โอเซฮุนขัดขืนหน่อยๆแต่สุดท้ายก็ต้องยอมเอนกายลงไปเมื่อร่างสูงสอดแขนแกร่งเข้ามารองที่ท้ายทอยของเขาเอาไว้ อย่างน้อยอ้อมแขนนี้ก็ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยจากความฝันของตัวเอง

     

    ผมหยุดคิดไม่ได้เสียงหวานพร่ากล่าวขึ้นมาอย่างแผ่วเบา และเจ้าตัวก็อายมากเกินกว่าที่จะเงยหน้าของตัวเองขึ้นมองอีกฝ่าย ใบหน้าคมเข้มกดลงมองคนที่ซุกตัวเข้าหาอ้อมอกของเขาก่อนจะใช้ริมฝีปากอุ่นๆจูบไปบนหน้าผากกว้างเพื่อปลอบประโลมอีกครั้ง

     

    “…”

     

    ถ้าทำได้... ผมคงทำมันไปตั้งแต่วันแรกแล้ว...”

     

    คำตอบผะแผ่วนั่นทำให้อี้ฟานนรู้สึกเหมือนถูกเตะลงไปในหลุมศพ ก้อนดินสีน้ำตาลเข้มพวกนั้นคงไม่ต่างอะไรกับก้อนหนืดในลำคอของเขาที่จุกแน่นจนไม่รู้ว่าจะหายใจอย่างไร แขนแกร่งโอบรัดร่างบอบบางเอาไว้แน่นเพื่อกล่อมให้เจ้าของสรรพางค์ที่ยังคงว้าวุ่นกับความฝันหลับตาลงได้อีกครั้ง ในขณะเดียวกันเขาเองก็พยายามจะข่มตาหลับโดยการกกกอดร่างนั้นเอาไว้ด้วยเช่นกัน

     

    อู๋อี้ฟานก็คนๆหนึ่ง
    อู๋อี้ฟานก็อ่อนแอเหมือนกัน

     

    - - -

     

     

    ร่างสูงโปร่งที่เพิ่งจะได้เรียนรู้ว่าการได้นอนเพียงแค่สี่ชั่วโมงมันทรมานขนาดไหนค่อยๆก้าวเท้าเข้ามายังตึกคณะที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่คอยให้ร่มเงา ดูเหมือนว่าอากาศชื้นในวันนี้จำทำให้แบคยอนระแคะระคายตัวเป็นพิเศษจนเจ้าของร่างเล็กต้องขยับตัวมานั่งอยู่ทีม้าหินอ่อนด้านนอก ไม่ใช่คอมม่อนคณะอย่างที่เจ้าตัวชอบ

     

    นายเลิกเรียนกี่โมงเหรอเซฮุน?”

     

    วันนี้ถึงสี่โมงเย็นครับ

     

    งั้นเดี๋ยวฮยองไปรอที่หน้าคณะนะ...” เขาวางฝ่ามืออุ่นของตัวเองลงบนกลุ่มผมของอีกคนก่อนจะจับให้ใบหน้าหวานเงยขึ้นมารับจูบจากริมฝีปากหยัก อี้ฟานรู้ดีว่าเซฮุนอาจจะพูดอะไรออกมาหรือปฏิเสธคำบอกของตน การชิงปิดริมฝีปากนั้นเสียก่อนคงจะช่วยทำให้หัวใจไม่ร่วงลงไปที่ตาตุ่ม

     

    “...” คนที่โดนป้อนจูบเสียจนริมฝีปากช้ำเจ่อขมวดคิ้วเข้าหากันคล้ายจะไม่พอใจ แต่เจ้าตัวก็คลายมันออกอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นนาฬิกาบอกเวลาว่ามันเหลืออีกไม่กี่นาทีเท่านั้นก่อนบทเรียนจะเริ่ม โอเซฮุนจับสายกระเป๋าของตัวเองให้เข้าที่แล้วเอ่ยรับคำอีกฝ่ายไว้ก่อน

     

    จะรอนะครับ

     

    ดวงตาคมทอดมองแผ่นหลังแคบของคนที่ก้าวฉับๆห่างออกไป นิ้วเรียวไล่ลงบดที่ริมฝีปากของตัวเองเบาๆ ความอุ่นของมันยังคงทำให้ปลายนิ้วเย็นเฉียบของเขารู้สึกดีเสมอ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีทีเดียวหรอก เพราะสายตาของใครบางคนที่กำลังตะแคงคอมองอยู่... ทำไมแบคยอนถึงชอบทำให้เขาหนาวด้วยแววตาแบบนั้นอยู่เรื่อยเลย

     

    ไหนใครว่าหาทางไม่เจอกันนะ

     

    สาบานว่านี่คือคำทักทาย?” หนังสือในอ้อมแขนสองสามเล่มถูกปล่อยลงไปกับโต๊ะหินอ่อน ร่างเล็กวางโทรศัพท์มือถือซึ่งอยู่ในระดับสายตาลงแล้วช้อนดวงตากลมขึ้นมองหน้าเพื่อนสนิทที่ดูเหนื่อยกว่าวันอื่น

     

    ทำไมหน้าแย่อย่างนั้นหล่ะ

     

    นอนน้อย...”

     

    มันคลุมเครือนะอี้ฟาน คิกคิกเสียงหัวเราะของแบคยอนน่ารัก ถ้าไม่นับแววตาเจ้าเล่ห์ที่ฉายมองมาพร้อมกันนั้นมันจะฟังดูน่าพิสมัยมากทีเดียว แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ พยอนแบคยอนให้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยตลอดเวลาอย่างที่ใครต่อใครต่างขนานนามไว้

     

    “...”

     

    ใครจะเชื่อว่าโอเซฮุนจะนอนที่คอนโดนาย... โอเซฮุนคนนั้นตัวจริงหรือเปล่านะ

     

    “...”

     

    เซฮุนก็ชอบฝันแต่เรื่องพวกนั้นนั่นแหละ...” แบคยอนที่ดูเหมือนจะรู้อะไรดีกว่าที่เขารู้อยู่หลายเท่าพลิกใบหน้าของตัวเองที่ตะแคงลงไปให้กลับมาตั้งตรงอีกครั้ง ดวงตากลมซุกซนมองมาทางเขาพร้อมกับฝ่ามือที่เลื่อนมาขีดเขียนบนหลังมือหนา

     

    “...”

     

    ก็ถ้านายจะตายเพราะเจ้าหญิงองค์นั้น

     

    “...”

     

    ก่อนตาย ฉันฝากนายลบความฝันพวกนั้นออกไปด้วยนะ

     

    แล้วอัศวินที่มีแต่เสื้อเกราะอย่างเขา
    จะเอาอะไรไปสู้กับคิมจงอินผู้เป็นอมตะได้หล่ะ

     

    - - -

     

    จงอินชอบทุ่งดอกไม้แม้ว่ามันจะทำให้เจ้าตัวอาการกำเริบทุกครั้งที่มาเยือนก็ตาม กลีบของดอกหญ้าริมทางพวกนั้นทำให้ดวงตาคมเข้มแปรสภาพเป็นครึ่งเสี้ยวดวงจันทร์เมื่อรอยยิ้มน่ารักน่าชังปรากฎขึ้นบนริมฝีปาก... และโอเซฮุนก็รักรอยยิ้มนั้นมากพอๆกับที่เขารักจงอิน

     

    ฮัดชิ้ว...”

     

    ฮยองนี่ดื้อจังเลยนะ...” เสียงบ่นของนักเรียนตัวผอมกระหร่องที่ยังอยู่ในชุดเครื่องแบบเรียกความสนใจจากคิมจงอินไปได้เป็นอย่างดี ร่างสูงหันหลังกลับไปมองคนที่เอาแต่เกาะเขาเหมือนลูกลิงแล้วขอซ้อนมอเตอร์ไซค์มาด้วยที่ยืนบิดเบ้อยู่เบื้องหลัง... เขาเอื้อมไปคว้าร่างนั้นมาเป็นที่วางพาดแขนอย่างเคยชิน

     

    มันสวยมากหน่า

     

    แต่ไม่คุ้มกับจมูกแดงๆของฮยองเลยสักนิด

     

    ทำไมน้องชายของฮยองถึงได้ดุอย่างนี้นะ...” ฝ่ามือหนาตบปุลงบนไหล่ลาดที่ห่อลงเมื่อถูกเขารั้งเข้ามาไว้ในวงแขน เซฮุนยังคงเบ้ปากไปมาจนเขาต้องจัดการใช้มือบิดรูปบิดร่างของมันพร้อมกับเสียงหัวร่อไปมา...

     

    อย่าหน้าบึ้งสิโอเซฮุน ~”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อย่าหน้าบึ้งแบบนั้นสิพยอน นายทำพี่ใจไม่ดี...”

     

    ฮยองก็ไม่เคยใจดีกับผมอยู่แล้วนี่!”

     

    พยอนอ่า... ไม่พูดอย่างนี้สิ พี่รักนายนะ... พี่รักแค่นายคนเดียว

     

    ฮยองรักผมแล้วฮยองไปกับเซฮุนทำไม! ทำไมฮยองต้องสนใจเซฮุนมากกว่าผมหล่ะ?!”

     

    แบคยอน... ใจเย็นก่อนสิ

     

    ใจเย็นงั้นเหรอ? มันต้องมีใครสักคนตาย! ใจผมมันถึงจะเย็น!!!”

     

    ชายเสื้อกันหนาวของพยอนแบคยอนสะบัดเพราะแรงลม ขาทั้งสองข้างก้าวยาวเกินกว่าที่คนป่วยอย่างคิมจงอินจะคว้าไว้ แล้วเขาก็ได้รู้ความจริงในวันนั้นเอง.... คิมจงอุนไม่เคยคว้าพยอนแบคยอนได้เลยสักครั้งเดียว

     

    - - -

     

    โอเซฮุนทอดสายตามองคนที่บอกว่าจะมารอเขาหลังเลิกเรียนที่ล้มหลับคอพับคออ่อนอยู่บนโซฟา ใบหน้าของอู๋อี้ฟานปื้อนคราบฟองนมที่มุมปากและมันชวนให้เขาเผลอเอื้อมไปใช้นิ้วชี้สะกิดคราบฟองนมนั้น... แต่สัมผัสบางเบาก็ทำให้เจ้าชายรูปงามของเขาได้สติขึ้นมา

     

    อ่ะ...อ่า... นายมานานหรือยัง

     

    ไม่ครับ เพิ่งมาเมื่อครู่เขาโกหกคำโตออกไปแล้วเอนตัวลงพิงกับพนักด้านหลัง คริสหันซ้ายหันขวาเพื่อมองบรรยากาศด้านนอกพร้อมกับมองหานาฬิกาสักเรือนที่พอจะบอกได้ว่าโลกดำเนินไปได้ไกลแค่ไหนเมื่อยามที่เขาเผลอทิ้งสติไป

     

    นายเลิกเรียนช้าจัง

     

    “...” โอเซฮุนไม่ให้คำตอบกับร่างตรงหน้าที่กำลังส่งรอยยิ้มมาทางเขา คริสเป็นเหมือนทูตสวรรค์ประจำตัวที่คอยมากระซิบข้างใบหูในยามที่หัวใจดวงน้อยๆถูกบีบรัดด้วยอะไรบางอย่างทุกครั้ง และมันก็คงจะดูแย่ไปมากเชียวถ้าเขาคิดจะโป้ปดทูตสวรรค์ของตัวเองเป็นครั้งที่สอง

     

    ไปกันดีกว่า... กลับห้องกันนะ

     

    ฮยองครับ...”

     

    หืม?” ร่างสูงขานรับหลังจากที่หยัดตัวยืนขึ้นมาเต็มความสูง อี้ฟานเอี้ยวตัวกลับไปมองเจ้านายหัวใจของตัวเองที่ยังคงนั่งทื่ออยู่บนโซฟา ริมฝีปากบางของเซฮุนเม้มแน่นจนมันเหยียดเป็นเส้นตรง ท่าทางเหมือนกับคนที่มีอะไรอยู่ในใจ... นั่นทำให้เขากลัวเหลือเกิน

     

    วันนี้ไปห้องผมได้ไหมครับ...”

     

    “...” เขาหยุดเสียงของตัวเองเพื่อรอฟังประโยคต่อไป แต่โอเซฮุนก็ตัดสินใจปิดริมฝีปากลงเป็นสัญญาณว่าคำพูดของตนจบลงแล้ว ดวงตากลมช้อนขึ้นมองเขาด้วยแววตากึ่งขอร้องกึ่งบังคับ

     

    “...”

     

    ได้สิ... พี่จะไปส่งนายที่ห้องนะ

     

    “..ผมหมายถึง...”

     

    “...”

     

    ฮยองไปนอนที่ห้องผมได้ไหมครับ

     

    อย่าฆ่าอัศวินด้วยมนตราสิเซฮุน
    พระเจ้าศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน ก็คุ้มครองหัวใจของเขาไม่ได้หรอกนะ!

     

    - - -

     

    อื้ออออ...” เสียงครางนั่นกำลังทำให้เขาเป็นบ้า คริสรู้สึกเหมือนคนประสาทกลับที่ต้องการยากล่อมประสาทสักห้าหกเม็ด ดวงตาคมเหลือบลงมาร่างที่ซ้อนกายอยู่ข้างตัวของเขา หัวไหล่ขาวเนียนที่ถูกประทับรอยแดงคลอนโยกไปตามจังหวะของสะโพกที่เขาสร้างขึ้น

     

    เม็ดเหงื่อที่ขมับของเซฮุนไหลหยาดลงมาตามแนวกราม เขาใช้ข้อนิ้วปาดมันให้หลุดออกไปก่อนจะกดจูบลงที่ขมับ เสียงครางอื้ออึงกำลังทำให้เขาเป็นบ้าอีกครั้ง... อีกครั้ง และอีกครั้ง กระทั่งใบหน้าหวานผินมาหาพร้อมกับกดจูบที่เหนือริมฝีปากหยักอย่างเย้ายวน

     

    อ่า...” เสียงพร่าแตกกระซิบที่ข้างใบหูก่อนที่สองร่างจะเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง ร่างสูงถดสะโพกของตัวเองออกห่างหากแต่วงแขนเรียวก็เอื้อมมากอดเขาเอาไว้เหมือนไม่ต้องการให้ไปไหน ดวงตาหวานฉ่ำปรือมองมาที่ใบหน้าคมคาย ริมฝีปากแดงสดเผยอออกเหมือนจะเอ่ยคำพูดอะไรสักอย่างแต่มันก็ช้าไปเพราะเขาชิงปิดริมฝีปากนั้นลงเสียก่อน

     

    ลิ้นร้อนไชเข้าไปภายในโพรงปากแล้วกวาดเอาทุกคำพูดในนั้นออกมา อี้ฟานรู้สึกเหมือนจะร้องไห้เมื่อรสขมเฝื่อนในนั้นยังไม่ได้จางหายไปไหน อ้อมแขนแกร่งรึงรัดเอารางเล็กตรงหน้าเข้ามาแนบจนสนิทกับอก เขาออกแรงรัดเสียจนคนในอ้อมอกอุ่นร้อนไปทั่ว

     

    ฮยอง...”

     

    “...”

     

    “...”

     

    “...”

     

    จงอินฮยอง...” เสียงเรียกหวานๆนั่นทำให้เขาเผลอบดขยี้ริมฝีปากลงไปอีกครั้ง แรงทั้งหมดถ่ายออกมาจากฝ่ามือแกร่งลงสู่หัวไหล่ที่มีแต่รอยรักสีแดง เขาจับร่างนั้นทุ่มลงกับผืนเตียงก่อนจะแยกเรียวขาสวยให้ชันขึ้นมา ร่างสูงแทรกตัวเข้าไประหว่างกลางก่อนจะกดสัมผัสร้อนรุ่มของตัวเองลึกลงไปจนคนเบื้องล่างจุกอัด

     

    อย่าเรียกชื่อนั้นสิเซฮุน...” สะโพกหนาทำงานอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เตียงไม้คลอนไหวไปตามกำลังที่เจ้าตัวใส่ลงไป แต่เหมือนว่าเสียงโทนเบสของเขาจะไม่เข้าหูคนที่อยู่เบื้องล่างเลยแม้แต่น้อย โอเซฮุนยังคงเพรียกหาจงอินฮยองซ้ำไปซ้ำมาพร้อมกับเอื้อมมือมาโน้มใบหน้าคมคายของของอีกคนให้ลงมาป้อนจูบให้กับเขา

     

    คริสชนปลายจมูกของตัวเองเข้ากับปลายจมูกของอีกคน เขาหอบหายใจในระยะประชิดเพื่อย้ำเตือนคนที่อยู่เบื้องล่างว่าเขาเป็นใคร แต่โอเซฮุนก็ทำตัวใจร้ายด้วยการเรียกแต่ชื่อของใครคนนั้นที่หายจากโลกนี้ไปเสียแล้วซ้ำไปซ้ำมา... ฝ่ามือหนาจับใบหน้าของอีกคนตรึงไว้ก่อนจะปิดดวงตาลงแล้วปล่อยให้หยาดน้ำตาของตัวเองไหลลงไปอยู่ที่หางตาเรียวคู่ล่างที่ไม่เคยจะสะท้อนภาพของเขาเลย

     

    อ๊ะ...ฮยอง...”

     

    ฮึ...” เขากลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่อยู่ เพราะไม่ว่าจะพยายามลบเสียงครางใต้ร่างนั้นอย่างไรคริสก็พบว่าตัวเองเป็นก้อนยางลบที่หมดประสิทธิภาพเหลือเกิน

     

    ฮยอง...”

     

    “...”

     

    คริส...อ๊า...คริสฮยอง ~” เขาปล่อยความต้องการทั้งหมดเข้าไปในร่างของอีกคนก่อนที่จะรีบถอนกายออกมา ดวงตาเรียวฉ่ำมองเขาอย่างไม่เข้าใจ กระนั้นคริสก็เลือกที่จะไม่ให้ความสนใจใยดีกับมันอีก หลังมือยกขึ้นปาดน้ำตาของตัวเองออก แล้วลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่ตรงเก้าอี้ หากแต่เจ้าของร่างบางกลับชันตัวขึ้นมา... ใบหน้านั้นยังคงเปื้อนเศษน้ำตาของเขาอยู่เลย

     

    ฮยองครับ...” เซฮุนเอ่ยเรียกพร้อมกับรัดแขนแกร่งเอาไว้ ดวงตากลมเริ่มจะมีน้ำตารื่นขึ้นมาที่ขอบตาร้อนผ่าว โถ่เว้ย.... เขาสบถในใจเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังปล่อยให้สายน้ำไหลออกมาจากดวงตาของตัวเอง โอเซฮุนเล่นอะไรกับหัวใจของเขาอยู่นะ

     

    “...”

     

    “...อีกนิดเดียวนะครับ...”

     

    “...”

     

    “...รักผมอีกนะครับ ...ความรักของฮยองหน่ะ

     

    “...”

     

    “...อบอุ่นเหมือนจงอินเลย

     

    หึ...” เขาถมเสียงหัวเราะของตัวเองออกมาพร้อมกับดวงตาที่น่าหวาดกลัว อี้ฟานออกแรงดึงคนที่ทำให้เขาตายซ้ำซ้อนมาปะทะกับอกก่อนจะจับร่างนั้นกระแทกลงบนพื้นห้อง เพียงแต่เซฮุนไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไรกับสัมผัสเหล่านั้นสักนิด กลับกัน เรียวขาขาวเนียนกลับแยกออกกว้างเผยให้เห็นช่องทางที่เขาทิ้งความต้องการของตัวเองเอาไว้จนมันทะลักล้นออกมา

     

    นะครับฮยอง...”

     

    “...”

     

    ช่วยผมนะครับ...”

     

    ฮยองช่วยนายอยู่แล้วโอเซฮุนร่างสูงเดินเข้าไปประชิดร่างที่ทิ้งตัวอยู่อย่างนั้น ลูกแมวตัวขาวที่ใจร้ายใจดำกับเขามากตลอดเอื้อมมือมาคว้าสะโพกของเขาก่อนจะใช้ริมฝีปากครอบครองท่อนเนื้อเข้าไป โอเซฮุนไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนหน้าตา...คริสรู้ความจริงข้อนั้นตอนที่ริมฝีปากบางห่อเข้ามาเพื่อรูดรั้งส่วนสำคัญซึ่งจมอยู่ในโพรงปากขมขื่น

     

    โดยไม่มีใครได้ยิน...โอเซฮุนป้องปากร้องเรียกชื่ออู๋อี้ฟานเบาๆ

     

     

    เสียงฟ้าฟาดทำให้ดวงตาคมกริบปิดสนิทเบิกโพล่งขึ้นท่ามกลางความมืด คริสสะบัดใบหน้าของตัวเองสองสามครั้งแล้วก้มลงมองเจ้าของลมหายใจสม่ำเสมอในวงแขน ริ้วรอยแดงเถือกยังคงปรากฎให้เห็นบนแผ่นหลังเปล่าของร่างบางที่ซ่อนกายเอาไว้ใต้ห้วงนิทรา...

     

    ดวงตาคมกวาดมองไปรอบกาย ความเย็นของห้องทำให้ร่างกายเปลือยเปล่าของเขารู้สึกปวดแปล๊บ แขนแกร่งเอื้อมคว้าผ้าห่มที่รุ่นลงไปขึ้นมาคลุมตัวแล้วปันมันให้กับลูกแมวที่ขดตัวหนาวอยู่ข้างกาย

     

    เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังเอื่อยๆอยู่ที่หัวเตียง ร่างสูงปรายตามองมันอย่างไม่ใยดีนัก และเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอเขาก็เลือกตัดสายมันทิ้งก่อนจะตัดปัญหาด้วยการปิดเครื่องไปเสีย.... พยอนแบคยอนที่ชอบทำให้เขาวุ่นวายใจอยู่เรื่อยไม่สมควรได้รับเสียงตอบกลับ

     

    โอเซฮุนก็แค่น้องชายที่คิมจงอินรักมาก
    แต่แบคยอนหน่ะ.... คือคนรัก คนรักที่หักหลังจงอินไปได้อย่างเลือดเย็น

     

     

     

     

     

     

    มันไม่แปลกอะไรเลย...ถ้าจงอินจะเลือกจบชีวิตลง

     

     

     

     

     

     

     

    จงอินทนไม่ได้หรอกถ้าพยอนแบคยอนไปกับผู้ชายคนอื่น
    จงอินทนเห็นแบคยอนครางเสียงหวานอยู่บนร่างของเขาไม่ได้หรอก

     

     

     

    แล้วมันก็เป็นแบบนั้น

     

     

     

     

     

     

    คิมจงอินตายเพราะภาพนั้นจริงๆ

     

     

     

     

    อึก.... อี้ฟาน...อ๊า....อี้..ฟาน.’

     

    อะไร...อืม...’ สะโพกกลมกระแทกลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียงคลอนของผืนเตียงไม่ทำให้ทั้งสองร่างที่กำลังเสพย์ตัณหารับรู้ถึงการมาของใครอีกคน

     

     

    ฟาน..อ๊า....อ๊า...’

     

    ‘...’ คิมจงอินร้าวไปทั้งหัวใจ... เสียงหวานที่เคยครางเรียกชื่อเขา ถูกใส่ชื่ออื่นลงไปในนั้น พยอนแบคยอนที่มีแต่รอยรักของเขามีรอยรักของคนอื่นเข้ามาแทนที่

     

     

    แล้วมันจะเหลือเหตุผลอะไรที่ทำให้คนขี้โรคซึ่งจะตายวันตายพรุ่งอย่างเขาต้องอยู่ต่อหล่ะ... สู้รีบตายเสียตั้งแต่วันนี้ก็คงไม่มีอะไรต้องทรมานอีกแล้ว

     

     

     

    ไม่รับโทรศัพท์เหรอครับเซฮุนลืมตาขึ้นมามองหน้าของเขาที่ก้มลงแทบจะแนบกับใบหน้าของตัวเองก่อนจะกลอกดวงตากลมขึ้นไปมองเครื่องมือสื่อสารที่เมื่อครู่มันส่งเสียงครางครืดคราด

     

    ไม่สำคัญหรอก...”

     

    “...”

     

    นอนเถอะ...” คริสกดเปลือกตาของตัวเองให้ปิดลง แต่เขาก็รู้สึกว่าต้องเปิดมันขึ้นมาอีกครั้งเมื่อฝ่ามือเย็นเฉียบกำลังสัมผัสไล้ไปบนโครงหน้าของเขา ลมหายใจอุ่นของโอเซฮุนกำลังเป่ารดลงมาทาบทับสัมผัสเย็นวาบที่เจ้าตัวทิ้งเอาไว้เหมือนต้องการลบความหนาวเหน็บนั้นออกไป

     

    ฮยองนอนไม่หลับเหรอครับ

     

    หลับตา...ก็หลับ

     

    แต่ผมนอนไม่หลับ

     

    “...” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อโอเซฮุนทอดสายตามองเข้ามาในดวงตาของเขา มือบางนั้นประคองเรียวหน้าของเขาเอาไว้ราวกับไม่ต้องการให้เขาเบือนหน้าหนีไปไหน ถ้าล็อคดวงตาคมเข้มเอาไว้ได้ เซฮุนคงจะทำไปแล้ว

     

    “...”

     

    ทำไมหล่ะ ฝันร้ายเหรอ ?”

     

    ฮยองไม่ใช่เหรอครับที่ฝันร้าย...” เจ้าของประโยคกดริมฝีปากบางของตัวเองลงมาบนกลีบปากของเขาก่อนจะผละออกมาอย่างอ้อยอิง

     

    “...”

     

    มีอะไรอยากจะบอกผมหรือเปล่าครับ... ฝันร้ายของฮยองอาจจะหายไปก็ได้นะเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมที่สะท้อนใบหน้าของเขาชัดเจนในลูกปัดสีน้ำตาล คริสได้แต่หวังว่าภาพสะท้อนบนนั้นจะมีเพียงแค่เขาตลอดไปแต่นั่นก็เป็นความคิดที่โง่งม และการบอกสิ่งที่เขารู้ออกไปก็คงจะเป็นเรื่องโง่งมอีกเช่นกัน

     

    ฮยองไม่ได้ฝันร้ายหรอกเซฮุน... นอนเถอะ

     

    หลับตาซะก่อนที่นายจะต้องฝันร้ายอีกครั้ง
    เพราะความจริงที่อู๋อี้ฟานจะพูดออไป มันเป็นยิ่งกว่าฝันร้ายของโอเซฮุนเสียอีก

     

    - - -

     

    อากาศหนาวยามเช้าทรมานกว่าที่คิดเมื่อร่างกายไม่มีเสื้อผ้าปกปิดเหมือนอย่างเคย เซฮุนเปิดเปลือกตาขึ้นมาเพราะแสงสว่างจากด้านนอกที่ส่องผ่านแผ่นหลังกว้างของเจ้าของอ้อมแขนที่รัดร่างของเขาเอาไว้ ดวงตาคมเข้มของอู๋อี้ฟานยังคงปิดสนิทพร้อมกับลมหายใจสม่ำเสมอที่บ่งบอกได้ว่าห้วงนิทราของร่างสูงคงจะอยู่ลึกลงไปไกลแสนไกล

     

    นิ้วเรียวยกขึ้นมาเกลี่ยปอยผมที่ร่วงลงมาปิดใบหน้าคมคายเบาๆ เหน็บมันขึ้นไปไว้เหนือหน้าผากก่อนจะเลื่อนดวงตาของตัวเองมาสำรวจใบหน้าคมในระยะประชิด

     

    ใบหน้าของคริสคงเป็นตัวแทนผลงานจากพระเจ้าได้ดีที่สุด จมูกโด่งได้รูปนั้นโค้งได้สวยงามไร้ที่ติ แพรขนตาที่เรียงตัวกันลงมาประดุจผืนผ้าที่ถูกถักทอจากตรึงสายตาของเซฮุนไม่ให้ได้เบนหนีไปทางไหนอีก

     

    โอเซฮุนไม่เคยได้เห็นอี้ฟานในระยะประชิด ทั้งที่รู้จักชื่อนี้มานานแสนนาน เขาไม่เคยรู้เลยว่าร่างสูงกำยำที่มีใบหน้าเข้มคมจะอบอวลไปด้วยไออุ่นที่มากมายขนาดนี้มากเสียจนบางครั้งเขาเผลอลืมใบหน้าของคิมจงอินไปได้ในชั่วขณะหนึ่ง

     

    แต่พระเจ้าก็ช่างใจร้ายที่มอบน้ำตาและความเจ็บปวดมาให้กับผู้ชายคนนี้เสมอ บางทีถ้าอู๋อี้ฟานไม่รักเขามากขนาดนี้ ริมฝีปากหยักสวยที่เหมือนกับภาพวาดของจิตกรเลื่องชื่อก็คงไม่ต้องบิดเบ้หรือคว่ำลงมาบ่อยครั้งนักหรอก

     

    เลิกรักคนอย่างผมเถอะนะครับ..” เสียงหวานกระซิบแผ่วเหมือนจะไม่แน่ใจว่าต้องการให้คนในอ้อมแขนได้ยินดีหรือไม่ กระนั้นมันก็สายไปเสียแล้วเมื่อแพคนตาหนากระพริบถี่ก่อนค่อยๆเปิดออก... ดวงตาคมเข้มนั้นสบมองไปยังเจ้าของประโยคที่ยังคงทอดสายตาลงมามองเขาไม่ห่าง

     

    ทำไมหล่ะ?”

     

    ฮยองจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดไงครับ

     

    จริงเหรอ...” เขาย้อนถามคนที่ยังคงอยู่ในอ้อมแขนด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบอันแหบพร่า อี้ฟานเบียดกายใต้ผ้าห่มเข้าหาคนที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะรั้งร่างนั้นเข้ามากอดเอาไว้แน่นอแนบทุกอนูเนื้อที่สัมผัสกันเต็มไปด้วยความร้อนที่เหมือนจะแผดเผากันละกันได้

     

    “...” โอเซฮุนไม่ให้คำตอบเพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าการทำแบบนั้นจะช่วยได้จริงหรือเปล่า ร่างบางจึงกลอกสายตาไปมาเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนคาดคั้น

     

    การไม่รักนายมันเจ็บปวดกว่ามาก... มากกว่าที่นายไม่เคยรักพี่เสียอีกปลายจมูกของคริสแนบลงบนแก้มนุ่มนิ่ม กลิ่นหอมอ่อนๆอันมีเอกลักษณ์ทำให้เขาไม่สามารถถอนใบหน้าออกมาได้และต้องค้างผัสสะของตัวเองไว้เช่นนั้น

     

    เซฮุนหลับตาลงแล้วพยายามรับรู้ถึงลมหายใจที่คลอเคลียอยู่ตรงข้างแก้ม มวลอากาศที่ลอยอยู่ในพื้นที่แคบๆอุ่นเสียจนต้องเอื้อมแขนออกไปรั้งเจ้าของเอาไว้ไม่ให้หายไปไหน โอเซฮุนซุกตัวเข้าไปในอ้อมอกของร่างสูงใหญ่จนแทบจะจมหาย เขาไม่สนใจว่าพระอาทิตย์จะขึ้นสูงแค่ไหน อากาศจะหนาวเพียงใด หรือนี่มันเวลาอะไร.... การที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของคริสโดยมีลมหายใจอุ่นเป่าคลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้มมันทำให้เขาลืมทุกอย่างไปได้

     

    ลืมแม้กระทั่ง คิม จงอิน

     

     

     

     

    To Be Continue

     

     

     

    stroberi
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×