ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( kaihun ) Under the monument is empty .

    ลำดับตอนที่ #1 : INTRODUCTION

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 61


    Under the monument is empty

    EXO / Kai x Sehun

     

     

     

    note : ไม่ได้ต้องการเสียดสีหรือพยากรณ์


    INTRODUCTION

     

     

    โดรนสำรวจพบวัตถุประหลาดที่ขอบบาเรียเขต 483 ตอนตีสองกว่าขณะที่คิมจงอินกำลังวุ่นวายอยู่กับการซ่อมยานสำรวจปราศจากคนขับหมายเลข 71 ให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง


    ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่สัญญาณเตือนดังกล่าวแจ้งไปไม่ถึงใครทั้งสิ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในช่วงเวลานี้ไม่ใช่เวลาปฏิบัติการ อีกส่วนเป็นผลจากฟ้าผ่าเมื่อช่วงเย็น ประจุจากแสงวาบนั่นยังคงตกค้างในระบบ อุปกรณ์สื่อสารภายในเขตบาเรียบอดสนิท มีเพียงเขาเท่านั้นที่อาศัยสายใต้ดิน วิธีโบราณซึ่งใช้เชื่อมต่อเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน


    ดังนั้นในเวลานี้ ตีสองสี่สิบเจ็ดนาที คิมจงอินจึงเป็นเพียงคนเดียวที่ยืนมองกล่องเหล็กประหลาดบริเวณขอบบาเรียเขต 483 


    เขาหยิบเครื่องส่งสัญญาณจอสีจากกรมบัญชาการขึ้นมาเพื่อหมายจะต่อสายตรงไปยังศูนย์วิจัยวัตถุแปลกปลอมและตำรวจสากลให้เข้ามาตรวจสอบสิ่งประหลาดตรงหน้า แต่ในขณะที่ลูกตาทั้งสองข้างกำลังจับจ้องไปยังหน้าจอสว่างวาบท่ามกลางแดดมืดยามตีสอง เสียงขลุกขลักคล้ายกับแมวดิ้นในซอกก็ทำให้เขาต้องละสายตาออกจากหน้าจอ มีบางอย่างอยู่ด้านในนั้น และบางอย่างที่ว่ากำลังพยายามทำให้สลักหลุดออก


    จงอินรู้ว่ามันเป็นการละเมิดกฎหมายระหากเขาไม่แจ้งกับใครสักคนว่าตัวเองพบวัตถุแปลกปลอม เขาอาจจะโดนสลัดให้หลุดออกจากการเป็นพลเรือนชั้นสูงใต้บังคับบัญชา อาจถูกจับโยนลงสู่โลกเบื้องล่างที่ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าความโหดร้ายนั้นทารุณมากเพียงใด ทว่าเขากลับเลือกกดตัดสัญญาณ แสร้งทำเป็นไม่คำนึงถึงความจริงข้อนั้น


    ความรู้สึกตะขิดตะขวงเหมือนมีคนมาสะกิดบนอกข้างซ้ายบอกให้เขาปลดสลักออก


    วัตถุที่กำลังดีดดิ้นอย่างบ้าคลั่งเหมือนจะรู้ว่าเขาอยู่ข้างนอกนี่ กล่องเหล็กสั่นแรงจนมันเป็นฝ่ายกระแทกข้อมือของเขาก่อน เขาชะงักมือของตัวเองแล้วเริ่มทำการชั่งใจอีกครั้งว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรกับวัตถุตรงหน้านี่ ควรทำตามมาตรการอย่างเช่นทุกครั้งหรือควรจะเปิดสลักออกแล้วตัดสินใจอีกทีหลังรู้ว่าภายในนั้นบรรจุอะไรเอาไว้ 


    ความคิดของจงอินตีกันยุ่งเหยิงยิ่งกว่าสายไฟที่ขดอยู่ในโดรน ช่วงหลังมานี้เขาได้รับอิทธิพลอย่างมากจากหนังสือนิยายของโลกเก่าที่บังเอิญเก็บได้ในการสำรวจทะเลทรายซาบาร่า (กรมศิลป์อ่านแผนที่ได้ว่าแบบนั้น แต่เขาเจอมันระบุอยู่ในสารานุกรมว่า "ซาฮาร่า") ข้อความเหล่านั้นนำมาซึ่งอาการเจ็บสมองซีกซ้ายจนต้องเข้าใช้บริการจัดระเบียบความคิดของรัฐบาล ภาพที่ถูกเขียนบรรยายในนั้นคุ้นเคยมากจนเขาเผลอเอาไปนอนฝัน คิดว่าตัวเองคงเป็นใครสักคนในบทประพันธ์


    หลังจบเล่มที่สามเขาสัมผัสได้ถึงความก้าวร้าวในตัว เห็นและคิดต่างจากรัฐบาล มีหลายถ้อยคำที่ชวนให้เขาตั้งคำถามกับชีวิตที่สุขสบายที่เป็นอยู่ บางบทบรรยายหนักแน่นยิ่งกว่าสุนทรพจน์ของคณะผู้ปกครองที่วันๆ มิได้ทำอะไรไปมากกว่าเข้าร่วมงานสังสรรค์ในชุดราตรีแหวกหลังกับลิปสติกสีแดงสดยิ่งกว่าเลือดแพะตัดต่อพันธุกรรม


    ในเวลานี้เขาจึงคิดว่ากล่องเหล็กตรงหน้าอาจไม่ใช่วัตถุแปลกปลอมเหมือนอย่างที่เราเคยถูกพร่ำสอนให้ปฏิบัติ


    จงอินสูดหายใจลึกเพื่อรวบรวมความกล้าก่อนจะค่อยๆปลดสลักออกอย่างรวดเร็ว เร่งสาวเท้าถอยหลังออกมาจากตรงนั้นเผื่อว่าอะไรในกล่องอาจเป็นอันตราย กระบอกปืนเลเซอร์ยกเล็งเอาไว้ด้วยท่าทางที่ฝึกปรือมาจาหน่วยรบของรัฐบาล


    ฝาเหล็กอ้าออก กระแทกกับพื้นดังปึก


    “...”


    “...”


    ดวงตากลมสุกจับจ้องมองมาทางเขาด้วยท่าทางนิ่งงัน เรือนกายอรชรเปล่าเปลือยคู้เข้าหากันเพื่อพยายามปกปิดร่างกายที่ไร้เสื้อผ้าเอาไว้และท้ายที่สุดก็จบลงด้วยการพาตัวเองไปอยู่เบื้องหลังกล่องเหล็กที่บรรจุตนขึ้นมา ครั้นเมื่อมั่นใจว่าถูกกำบังมิดชิดแล้ว ร่างเปล่าก็ค่อยๆยกมือทั้งสองข้างขึ้นแต่กลับกำฝ่ามือแน่น จังหวะเดียวกับที่เขาเห็นตราสัญลักษณ์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และการทดลองประทับอยู่บนฝากล่องนั้น


    เขารู้ได้ทันทีว่าคนตรงหน้านี้เป็นมนุษย์จากชั้นล่างสุด

     

    มนุษย์ที่ถูกส่งขึ้นมาเพื่อเป็นเหยื่อในการทดลอง

     

    - - -

     

    เราลงเรื่องนี้ไปแล้วรอบนึงแต่ไม่ใช่ในเด็กดี
    คิดว่าจะแต่งต่อ (:

    ได้ไอเดียจากการอ่านหนังสือหนึ่งเล่มของนักเขียนที่เราชอบมาก
    อาจจะออกแนวปรัชญาไปนิด จะพยายามอยู่ในร่องในรอยแล้วกันนะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×