ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : แผนรักมันๆรับวันวาเลนไทน์
ที่สถาบันกวดวิชา s.t.d. มีชื่อแห่งหนึ่ง ในห้องเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ปอย เด็กสาว ม.5 ผิวขาว รูปร่างสูงโป่รง กำลังก้มๆเงยๆจดสูตรลัดในสมุดโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น  \"เธอๆ เปลี่ยนที่นั่งไปนั่งที่อื่นไม่ได้หรอ หัวเธอบังกระดานมิดเลยอะ\"เสียงหนุ่งคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลังเธอ พร้อมนิ้วที่จิ้มสะกิดหลังเธอแรงๆด้วย ปอยหันหน้าไปมองแล้วก็เจอนายคีม หนุ่มร่างสูงพอๆกับเธอที่เห็นเรียนร่วม class กันมาก็ม่ายเคนคุยกันเลยซักครั้งเดียว  \"ถ่างตาดูสิว่ามันมีที่นั่งอีกรึป่าว วันนี้คนเค้าเรียนเต็มไม่เห็นหรือไง\" ยายปอย ขยับแว่นที่ใส่อยู่แล้วทำเสียงเขียวใส่นายคีม
\"ก็เธอตัวสูงเป็นเปรตแบบนี้ ทำไมไม่ไปนั่งข้างหลังห้องล่ะคนที่นั่งหลังเธอก็ซวยสิ\" \"ไม่เอาหรอก หลังห้องมีแต่พวกผู้ชายที่ชอบทำเสียงดังน่ารำคาญ ถ้านายมองไม่เห็นก็ยืนเรียนไปซะก็สิ้นเรื่อง\" อืม...ดูยายปอยพูดเข้า หาเรื่องนายคีมชัดๆเลย  นายคีมทำสีน่าอึ้งกิมกี่ไปทันทีเพราะไม่คิดว่าผุหญิงที่เด็กเรียนอย่างยายปอยจะแสบได้ขนาดนี้ นี่ถ้าเค้าไม่แกรงใจเค้าคงเดินออกไปนั่งที่พื้นหน้ากระดานแล้วล่ะ  \"อาจารยืครับ...ผมขอย้ายที่ได้มั้ยครับคนข้างหน้าผมเค้านั่งผายลมอยู่ตลอดเวลาเลย ผมทนไม่ไหวครับ\" นายคีมยกมือและตะโกนบอกอาจารย์ ทุกคนหันไปมองที่ยายปอยเป็นตาเดียวกัน \"อ้าว!หรอ งั้นก็มาๆ มานั่งตรงนี้ยกโต๊ะของผมมาใช้ก่อนแล้วกัน คุณๆช่วยรักามารายาทหน่อยนะครับ อย่างสร้างมลพิษให้เพื่อนๆร่วมห้องปกติเราก็เรียนอย่างแออัดมากพออยู่แล้ว\"  ยายปอยทำสีหน้าเหวอและโบกมือปฏิเสธกับเพื่อนคนอื่นๆว่าเธอโดนใส่ร้ายแต่รู้สึกว่าจะไม่ค่อยมีคนเชื่อเท่าไหร่เพราะหนุ่มหลังห้องแสดงท่าทางเหม็นได้เหทือนมาก  หลังคาบเรียนนั้น ยายปอยมองหน้านายคีมและหนุ่งๆหลังห้องด้วยความแค้นเพราะรู้ว่าทุกคนรวมหัวกันแกล้งเธอ  เสาร์ต่อมาเธอเลยเลือกนั่งที่โต๊ะหน้าสุดติดริมประตู ซึ่งไม่มีทางบังใครได้อีกแล้ว แต่ระหว่างที่เธอเรียนอยู่นั้นก็ทีกระดาดโน๊ตแผ่นหนึ่งส่งต่อๆมาถึงเธอมันเขียนว่า  \"นึกแล้วเชียวว่าเธอต้องเลือกนั่งตรงนี้ดีใจด้วยนะที่จะได้นั่งตรงนี่ตลอดไป เพราะมีกาวอยู่ใต้ก้นเธอ\" เมื่อยายปอยอ่านจบ ก็เลยรีบยกก้นขึ้นเพราะธอกลัวว่าก้นจะติดเก้าอี้จริงๆแต่เมื่อเธอลุกขึ้นได้อย่างง่ายดายขนาดนั้นเธอก็โล่งอก  \"มีอะไรครับ คุณจะผายลมอีกแล้วหรอไปปล่อยข้างนอกแล้วค่อยเข้ามาดฃก้ได้ผมอนุญาต\"อาจารย์หนุ่มถามขึ้นพลางยิ้มๆ เพื่อนทั้งห้องพากันหัวเราะ เธอโมโหมากจึงคว้ากระเป๋าเดินออกทันที  ที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ด้านหลังของสถาบันกวดวิชา ยายปอยเดินหน้ามุ่ยเดินกระทืบเท้าดังสนั่นหวั่นไหวมาตลอดทาง เธอนึกแค้นนายคีมมากที่แกล้งเธอติดๆกันถึง 2 ครั้ง 2 หนเพราะในช่วงที่อารมณ์กำลังเดือดปุดๆนี่เอง ในช่วงที่เธอหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมานับเงินค่ากวดวิชาที่เธอลืมจ่ายวันนี้ เธอจึงไม่ทันมองว่ามีผู้ชายคนหนึ่งจ้องเงินในกระเป๋าของเธอตาเป็นมันหมูเชียวแหละ “กรี้ดดดด ช่วยด้วยค่ะคนวิ่งราวกระเป๋าค่ะ”  ผู้ชายคนนั้นคว้ากระเป๋าสตางค์ของยายปอยแล้ววิ่งสวนเธอไปจนได้ ยายปอยวิ่งตามไปได้หน่อยก็รู้ตัวว่าตามไม่ทันแน่ๆจึงได้แต่ร้องให้คนช่วย แต่ทุกคนที่อยู่รอบข้างเธอก็ยังไม่หายจากอาการตกใจจึงไม่ทันได้ทำอะไรเลยเหมือนกัน ยายปอยเห็นผู้ชายคนนั้นเลี้ยวขวับตรงมุมถนนแล้วก้ถอดใจ เพราะไม่มีทางได้กระเป๋าสตางค์คืนแล้วแน่ๆ
แต่ขณะที่ยายปอยกำลังจะหันหลังเดินกลับมาที่ป้ายรถเมล์อีก เธอก้ได้ยินเสียงคนเอะอะหรือทะเลาะกันดังขึ้นแถวๆบริเวณที่ที่โจรวิ่งราวกระเป๋าเธอไป
“เอ้า! กระป๋าของเธอใช่มั้ย” นายคีมยื่นกระเป๋าตังให้เธอด้วยสีหน้ากวนๆและมีรอยถลอกปอกเปิกตามตัวอย่างเห็นได้ชัด ยายปอยเดาเหตุการณ์ว่า นายคีมคงตามออกมาเพื่อขอโทษเธอ และเมื่อเจอคนวิ่งราวกระเป๋าสตางค์เธอไป จึงตามไปปล้ำแย่งชิงมาให้เธอทันเวลาพอดี
“ขอบใจนะ! ในนั้นมีตังค์ตั้งหลายพันแน่ะ ถ้าโดนวิ่งราวไปจริงๆฉันคงแย่เหมือนกันนะ” ยายปอยทำท่าทางตื่นเต้นดีใจยิ้มให้นายคีมด้วยสีหน้าที่ตรงข้ามกับเมื่อหลายนาทีก่อนหน้านี้อย่างลิบลับ
“เอ่อ! เมื่อกี้เรา......” 
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องที่นายแกล้งฉัน ฉันยกโทษให้ จริงๆแล้วนายก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ ฉันนึกว่านายดีแต่แกล้งคนอื่นซะ อีกแล้วนี่นายจะกลับบ้านแล้วหรอ”
“อ๋อ! ใช่เธอล่ะจะกลับรึยังล่ะ” นายคีมมอลรอยยิ้มของยายปอย แล้วรู้สึกว่ายายปอยก็น่ารักดีเหมือนกัน ยิ่งถ้าถอดแว่นออกอย่างงี้ด้วยแล้วยิ่งดูเหมือนเป็นคนล่ะคนเลยด้วย    นายคีมขึ้นรถเมล์คันเดียวกับยายปอย แล้วทั้งคู่ก็คุยกันอย่างถูกคอสนุกสนาน เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องเรียนกลายเป็นเรื่องตลกของยายปอยไป ทั้งที่ตอนแรกเธอโกรธจะตาย  “ขอบใจมากนะคีม เธอช่วยเอากระป๋าตังค์มาให้เราแล้วยังมาส่งเราที่บ้านอีก ไว้วันเสาร์หน้าเจอกานนะ”
“อืม!เสาร์เจอกัน”
“เอ๊ะ!กุญแจบ้านอยู่ไหนเนี่ย ถ้าหายแล้วจะเข้าบ้ายได้ไงกว่าแม่จะกลับก็ค่ำซะด้วยสิ”ยายปอยทำสีหน้าเปลี่ยนเมื่อควานหากุญแจบ้านในกระป๋าสะพายไม่เจอ
“กุญแจบ้ายหายหรอ  งั้นเราแยกกันหาดูแล้วกัน เธอหาตรงแถวๆนี้ไปนะ  เดี๋ยวเราจะเดินออกไปหาท่ป้ายรถเมล์
เผื่อเธอจะทำหล่นตอนลงจาดรถก้ได้” นายคีมพูดจบก็เดินลิ่วๆออกไปทางปากซอยทันที ประมาณ 5 นาทีต่อมาเขาก้เดินยิ้มและแกว่งกุญแจในมือมาด้วย
“อุ๊ย!เจอแล้วหรอ ตกลงฉันทำตกที่ป้ายรถเมล์จริงๆหรอเนี่ย ขอบใจอีกทีนะ ถ้านายไม่ออกไปหาอีกที ฉันคงต้องนั่งอยู่ตรงนี้อีกหลายชั่งโมงเลยกว่าแม่จะกลับ”  ยายปอยโบกมือลานายคีม และคืนนัน้เธอก้นึกถึงรอยยิ้มกวนๆของเค้าตลออดทั้งคืนจบเก็บไปฝันว่าเข้าเอาดอกกุหลาบมาให้เธอในวันวาเลนไทน์ เธอไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองหรอกนะ แต่เธอคิดว่านายคีมอาจจะมีใจชอบเธอยู่ก้ได้ จึงได้แกล้งเธอและยังช่วยเธอขนาดนี้
เสาร์ต่อมา ยายปอยมาเรียนกวดวิชาด้วยสีหน้าเบิกบายสุดๆเพราะวันจันทร์ที่จะถึงนี่เป็นวันวาเลนไทน์แล้ว เธอคิดว่าปีนี้เธอจะได้ทีแฟนเหมือนเพื่อนๆซะที ถ้าจะมีการนัดแนะอะไรกันนายคีม วันนี้จึงเป็นวันที่เหมาะที่สุด แต่เมื่อเธอเดินเข้าห้องก็เจอเพื่อนๆกำลังรุมฟัเรื่องอะไรบางอย่างอยู่
“ใช่ๆๆก็ตอนที่อาจารย์สั่งฉันเอากุญแจไปคืนยายปอยน่ะไอผู้ชายคนนั้นมันวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือเลยชนฉันซะกลิ้งแขนขาเยินไปหมดฉันเลยด่ามันจนมันเดินจ้ำอ้าวหนีไปเลย ทีนี้ดันบังเอิ้ญบังเอิญที่มันทำกระเป๋าตังค์หล่นไว้ พอดูบัตรประชาชนเข้าเลยรู้ว่าเป็นของยายปอยเข้า เชื่อมั้ยว่าพอฉันไปเจอเค้าที่ป้ายรถเมล์  โอ๊ย  ! เ ค้าร้องขอบใจฉันใหญ่เลยนึกว่าฉันเป็นฮี้โร่ซะงั้น แล้วพอฉันไปส่งเค้าที่หน้าบ้าน เข้าก้เข้าไปไม่ได้ใช่ม้าเพราะกุณแจอยู่ที่ฉันนี่ ฉันก็เลยแกล้วฟรอร์มอาสาออกไปหาให้จนเจอ นั่นแหละเข้ายิ่งขอบใจฉันใหญ่เลย ฉันเงี้ยเกิบจะหลุดขำออกซะให้ได้”          “สนุกมากไหม..........” เสียงเยือกเย็ยของยายปอยดังขึ้น ทุกคนหันไปมองแลวทำหน้าปุเลี้ยนๆกันเป็นแถบ นายคีมก้หน้าซีดไปเหมือนกันแต่ยังไม่ได้ทันแก้ตัวอะไร ยายปอยก้เดินน้ำตาคลออเดินออกจากห้องไปแล้ว
              วันจันทร์ซึ่งป็นวันวาเลนไทน์ยายปอยทำสีหน้าเซ็งและเห็นอะไรขวางหูขวางตาไปหมด เพราะเพื่อนๆต่างก็คุยถึงเรื่องที่จะไปเดทกับหวานใจหลังเลิกเรียน หรือไม่กฌถือช่อดอกกุหลาบที่ได้ตอนเช้ามาอวกกันใหญ่ ก็เข้าใจนะว่าคงเจ็บใจที่ทึกทักเรื่องนายคีมไปเอง แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของยายปอยซะหน่อย นายคีมก็ผสมโรงแกล้งทำให้เข้าใจอย่างนั้นไปด้วยนี่นา
“ Happy valentine !” ระหว่างที่ยายปอยเดินคอตกจะกลับบ้านนั้นเอง ก็มีช่อดอกกุหลาบสีแดงช่อไม่ใหญ่โตนักแต่ก็น่ารักมาก ยื่นมาตรงหน้าของเธอ และคนที่ยื่นก็คือนายคีมนั่นเอง
“นี่เป็นมุขของนายอีกล่ะสิ จ้างให้ฉันก็ไม่หลกกลหรอก”
“นี่เรื่องจริงนะปอย เราชอบเธอจริงๆ ที่เราแกล้งเธอในห้องเรียนน่ะเพราะเราอยากให้เธอหัวเราะ แต่กลับตาลปัตรกลายเป็นว่าเธอโกรธฉันจริงๆ แลวพออยู่ๆมีเรื่องที่ทำให้เธอเห็นฉันเป็นฮีโร่ ฉันก็เลยคิดว่าดีเหมือนกัน ที่จะลบล้างเรื่องที่ฉันแกล้งเธอได้ ถ้าไม่เชื่อไปถามอาจารยืก็ได้นะ เพราะเราให้อาจรย์ฟังตั้งแต่แรกแล้ว” 
“ก็ได้ ไว้วันเสาร์ฉันจะไปถามดู ว่าแต่นายจะปล่อยช่อดอกกุหลาบนี่ได้รึยัง เอามาให้ฉันไม่ใช่หรอ”
นายคีมหน้าแดงมั่กมาก ขณะที่ยายปอยรับดอกกุหลาบไปดม เธอจึงเชื่อว่าคราวนี่เขาไม่ได้หลอกเธอแน่ๆ เพราะท่าทางเขินของเขามันชัดเจนขนาดนี้ เฮ้อ! นึกว่าวันวาเลนไทน์ปีนี้จะเป็นโสดอีกแล้วสิ ยายปอยเอ๋ย 
\"ก็เธอตัวสูงเป็นเปรตแบบนี้ ทำไมไม่ไปนั่งข้างหลังห้องล่ะคนที่นั่งหลังเธอก็ซวยสิ\" \"ไม่เอาหรอก หลังห้องมีแต่พวกผู้ชายที่ชอบทำเสียงดังน่ารำคาญ ถ้านายมองไม่เห็นก็ยืนเรียนไปซะก็สิ้นเรื่อง\" อืม...ดูยายปอยพูดเข้า หาเรื่องนายคีมชัดๆเลย  นายคีมทำสีน่าอึ้งกิมกี่ไปทันทีเพราะไม่คิดว่าผุหญิงที่เด็กเรียนอย่างยายปอยจะแสบได้ขนาดนี้ นี่ถ้าเค้าไม่แกรงใจเค้าคงเดินออกไปนั่งที่พื้นหน้ากระดานแล้วล่ะ  \"อาจารยืครับ...ผมขอย้ายที่ได้มั้ยครับคนข้างหน้าผมเค้านั่งผายลมอยู่ตลอดเวลาเลย ผมทนไม่ไหวครับ\" นายคีมยกมือและตะโกนบอกอาจารย์ ทุกคนหันไปมองที่ยายปอยเป็นตาเดียวกัน \"อ้าว!หรอ งั้นก็มาๆ มานั่งตรงนี้ยกโต๊ะของผมมาใช้ก่อนแล้วกัน คุณๆช่วยรักามารายาทหน่อยนะครับ อย่างสร้างมลพิษให้เพื่อนๆร่วมห้องปกติเราก็เรียนอย่างแออัดมากพออยู่แล้ว\"  ยายปอยทำสีหน้าเหวอและโบกมือปฏิเสธกับเพื่อนคนอื่นๆว่าเธอโดนใส่ร้ายแต่รู้สึกว่าจะไม่ค่อยมีคนเชื่อเท่าไหร่เพราะหนุ่มหลังห้องแสดงท่าทางเหม็นได้เหทือนมาก  หลังคาบเรียนนั้น ยายปอยมองหน้านายคีมและหนุ่งๆหลังห้องด้วยความแค้นเพราะรู้ว่าทุกคนรวมหัวกันแกล้งเธอ  เสาร์ต่อมาเธอเลยเลือกนั่งที่โต๊ะหน้าสุดติดริมประตู ซึ่งไม่มีทางบังใครได้อีกแล้ว แต่ระหว่างที่เธอเรียนอยู่นั้นก็ทีกระดาดโน๊ตแผ่นหนึ่งส่งต่อๆมาถึงเธอมันเขียนว่า  \"นึกแล้วเชียวว่าเธอต้องเลือกนั่งตรงนี้ดีใจด้วยนะที่จะได้นั่งตรงนี่ตลอดไป เพราะมีกาวอยู่ใต้ก้นเธอ\" เมื่อยายปอยอ่านจบ ก็เลยรีบยกก้นขึ้นเพราะธอกลัวว่าก้นจะติดเก้าอี้จริงๆแต่เมื่อเธอลุกขึ้นได้อย่างง่ายดายขนาดนั้นเธอก็โล่งอก  \"มีอะไรครับ คุณจะผายลมอีกแล้วหรอไปปล่อยข้างนอกแล้วค่อยเข้ามาดฃก้ได้ผมอนุญาต\"อาจารย์หนุ่มถามขึ้นพลางยิ้มๆ เพื่อนทั้งห้องพากันหัวเราะ เธอโมโหมากจึงคว้ากระเป๋าเดินออกทันที  ที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ด้านหลังของสถาบันกวดวิชา ยายปอยเดินหน้ามุ่ยเดินกระทืบเท้าดังสนั่นหวั่นไหวมาตลอดทาง เธอนึกแค้นนายคีมมากที่แกล้งเธอติดๆกันถึง 2 ครั้ง 2 หนเพราะในช่วงที่อารมณ์กำลังเดือดปุดๆนี่เอง ในช่วงที่เธอหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมานับเงินค่ากวดวิชาที่เธอลืมจ่ายวันนี้ เธอจึงไม่ทันมองว่ามีผู้ชายคนหนึ่งจ้องเงินในกระเป๋าของเธอตาเป็นมันหมูเชียวแหละ “กรี้ดดดด ช่วยด้วยค่ะคนวิ่งราวกระเป๋าค่ะ”  ผู้ชายคนนั้นคว้ากระเป๋าสตางค์ของยายปอยแล้ววิ่งสวนเธอไปจนได้ ยายปอยวิ่งตามไปได้หน่อยก็รู้ตัวว่าตามไม่ทันแน่ๆจึงได้แต่ร้องให้คนช่วย แต่ทุกคนที่อยู่รอบข้างเธอก็ยังไม่หายจากอาการตกใจจึงไม่ทันได้ทำอะไรเลยเหมือนกัน ยายปอยเห็นผู้ชายคนนั้นเลี้ยวขวับตรงมุมถนนแล้วก้ถอดใจ เพราะไม่มีทางได้กระเป๋าสตางค์คืนแล้วแน่ๆ
แต่ขณะที่ยายปอยกำลังจะหันหลังเดินกลับมาที่ป้ายรถเมล์อีก เธอก้ได้ยินเสียงคนเอะอะหรือทะเลาะกันดังขึ้นแถวๆบริเวณที่ที่โจรวิ่งราวกระเป๋าเธอไป
“เอ้า! กระป๋าของเธอใช่มั้ย” นายคีมยื่นกระเป๋าตังให้เธอด้วยสีหน้ากวนๆและมีรอยถลอกปอกเปิกตามตัวอย่างเห็นได้ชัด ยายปอยเดาเหตุการณ์ว่า นายคีมคงตามออกมาเพื่อขอโทษเธอ และเมื่อเจอคนวิ่งราวกระเป๋าสตางค์เธอไป จึงตามไปปล้ำแย่งชิงมาให้เธอทันเวลาพอดี
“ขอบใจนะ! ในนั้นมีตังค์ตั้งหลายพันแน่ะ ถ้าโดนวิ่งราวไปจริงๆฉันคงแย่เหมือนกันนะ” ยายปอยทำท่าทางตื่นเต้นดีใจยิ้มให้นายคีมด้วยสีหน้าที่ตรงข้ามกับเมื่อหลายนาทีก่อนหน้านี้อย่างลิบลับ
“เอ่อ! เมื่อกี้เรา......” 
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องที่นายแกล้งฉัน ฉันยกโทษให้ จริงๆแล้วนายก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ ฉันนึกว่านายดีแต่แกล้งคนอื่นซะ อีกแล้วนี่นายจะกลับบ้านแล้วหรอ”
“อ๋อ! ใช่เธอล่ะจะกลับรึยังล่ะ” นายคีมมอลรอยยิ้มของยายปอย แล้วรู้สึกว่ายายปอยก็น่ารักดีเหมือนกัน ยิ่งถ้าถอดแว่นออกอย่างงี้ด้วยแล้วยิ่งดูเหมือนเป็นคนล่ะคนเลยด้วย    นายคีมขึ้นรถเมล์คันเดียวกับยายปอย แล้วทั้งคู่ก็คุยกันอย่างถูกคอสนุกสนาน เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องเรียนกลายเป็นเรื่องตลกของยายปอยไป ทั้งที่ตอนแรกเธอโกรธจะตาย  “ขอบใจมากนะคีม เธอช่วยเอากระป๋าตังค์มาให้เราแล้วยังมาส่งเราที่บ้านอีก ไว้วันเสาร์หน้าเจอกานนะ”
“อืม!เสาร์เจอกัน”
“เอ๊ะ!กุญแจบ้านอยู่ไหนเนี่ย ถ้าหายแล้วจะเข้าบ้ายได้ไงกว่าแม่จะกลับก็ค่ำซะด้วยสิ”ยายปอยทำสีหน้าเปลี่ยนเมื่อควานหากุญแจบ้านในกระป๋าสะพายไม่เจอ
“กุญแจบ้ายหายหรอ  งั้นเราแยกกันหาดูแล้วกัน เธอหาตรงแถวๆนี้ไปนะ  เดี๋ยวเราจะเดินออกไปหาท่ป้ายรถเมล์
เผื่อเธอจะทำหล่นตอนลงจาดรถก้ได้” นายคีมพูดจบก็เดินลิ่วๆออกไปทางปากซอยทันที ประมาณ 5 นาทีต่อมาเขาก้เดินยิ้มและแกว่งกุญแจในมือมาด้วย
“อุ๊ย!เจอแล้วหรอ ตกลงฉันทำตกที่ป้ายรถเมล์จริงๆหรอเนี่ย ขอบใจอีกทีนะ ถ้านายไม่ออกไปหาอีกที ฉันคงต้องนั่งอยู่ตรงนี้อีกหลายชั่งโมงเลยกว่าแม่จะกลับ”  ยายปอยโบกมือลานายคีม และคืนนัน้เธอก้นึกถึงรอยยิ้มกวนๆของเค้าตลออดทั้งคืนจบเก็บไปฝันว่าเข้าเอาดอกกุหลาบมาให้เธอในวันวาเลนไทน์ เธอไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองหรอกนะ แต่เธอคิดว่านายคีมอาจจะมีใจชอบเธอยู่ก้ได้ จึงได้แกล้งเธอและยังช่วยเธอขนาดนี้
เสาร์ต่อมา ยายปอยมาเรียนกวดวิชาด้วยสีหน้าเบิกบายสุดๆเพราะวันจันทร์ที่จะถึงนี่เป็นวันวาเลนไทน์แล้ว เธอคิดว่าปีนี้เธอจะได้ทีแฟนเหมือนเพื่อนๆซะที ถ้าจะมีการนัดแนะอะไรกันนายคีม วันนี้จึงเป็นวันที่เหมาะที่สุด แต่เมื่อเธอเดินเข้าห้องก็เจอเพื่อนๆกำลังรุมฟัเรื่องอะไรบางอย่างอยู่
“ใช่ๆๆก็ตอนที่อาจารย์สั่งฉันเอากุญแจไปคืนยายปอยน่ะไอผู้ชายคนนั้นมันวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือเลยชนฉันซะกลิ้งแขนขาเยินไปหมดฉันเลยด่ามันจนมันเดินจ้ำอ้าวหนีไปเลย ทีนี้ดันบังเอิ้ญบังเอิญที่มันทำกระเป๋าตังค์หล่นไว้ พอดูบัตรประชาชนเข้าเลยรู้ว่าเป็นของยายปอยเข้า เชื่อมั้ยว่าพอฉันไปเจอเค้าที่ป้ายรถเมล์  โอ๊ย  ! เ ค้าร้องขอบใจฉันใหญ่เลยนึกว่าฉันเป็นฮี้โร่ซะงั้น แล้วพอฉันไปส่งเค้าที่หน้าบ้าน เข้าก้เข้าไปไม่ได้ใช่ม้าเพราะกุณแจอยู่ที่ฉันนี่ ฉันก็เลยแกล้วฟรอร์มอาสาออกไปหาให้จนเจอ นั่นแหละเข้ายิ่งขอบใจฉันใหญ่เลย ฉันเงี้ยเกิบจะหลุดขำออกซะให้ได้”          “สนุกมากไหม..........” เสียงเยือกเย็ยของยายปอยดังขึ้น ทุกคนหันไปมองแลวทำหน้าปุเลี้ยนๆกันเป็นแถบ นายคีมก้หน้าซีดไปเหมือนกันแต่ยังไม่ได้ทันแก้ตัวอะไร ยายปอยก้เดินน้ำตาคลออเดินออกจากห้องไปแล้ว
              วันจันทร์ซึ่งป็นวันวาเลนไทน์ยายปอยทำสีหน้าเซ็งและเห็นอะไรขวางหูขวางตาไปหมด เพราะเพื่อนๆต่างก็คุยถึงเรื่องที่จะไปเดทกับหวานใจหลังเลิกเรียน หรือไม่กฌถือช่อดอกกุหลาบที่ได้ตอนเช้ามาอวกกันใหญ่ ก็เข้าใจนะว่าคงเจ็บใจที่ทึกทักเรื่องนายคีมไปเอง แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของยายปอยซะหน่อย นายคีมก็ผสมโรงแกล้งทำให้เข้าใจอย่างนั้นไปด้วยนี่นา
“ Happy valentine !” ระหว่างที่ยายปอยเดินคอตกจะกลับบ้านนั้นเอง ก็มีช่อดอกกุหลาบสีแดงช่อไม่ใหญ่โตนักแต่ก็น่ารักมาก ยื่นมาตรงหน้าของเธอ และคนที่ยื่นก็คือนายคีมนั่นเอง
“นี่เป็นมุขของนายอีกล่ะสิ จ้างให้ฉันก็ไม่หลกกลหรอก”
“นี่เรื่องจริงนะปอย เราชอบเธอจริงๆ ที่เราแกล้งเธอในห้องเรียนน่ะเพราะเราอยากให้เธอหัวเราะ แต่กลับตาลปัตรกลายเป็นว่าเธอโกรธฉันจริงๆ แลวพออยู่ๆมีเรื่องที่ทำให้เธอเห็นฉันเป็นฮีโร่ ฉันก็เลยคิดว่าดีเหมือนกัน ที่จะลบล้างเรื่องที่ฉันแกล้งเธอได้ ถ้าไม่เชื่อไปถามอาจารยืก็ได้นะ เพราะเราให้อาจรย์ฟังตั้งแต่แรกแล้ว” 
“ก็ได้ ไว้วันเสาร์ฉันจะไปถามดู ว่าแต่นายจะปล่อยช่อดอกกุหลาบนี่ได้รึยัง เอามาให้ฉันไม่ใช่หรอ”
นายคีมหน้าแดงมั่กมาก ขณะที่ยายปอยรับดอกกุหลาบไปดม เธอจึงเชื่อว่าคราวนี่เขาไม่ได้หลอกเธอแน่ๆ เพราะท่าทางเขินของเขามันชัดเจนขนาดนี้ เฮ้อ! นึกว่าวันวาเลนไทน์ปีนี้จะเป็นโสดอีกแล้วสิ ยายปอยเอ๋ย 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น