NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมส์ล่าท้าหัวใจรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว ต่อ

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 58


                “ฉันถามว่าคุณได้เบอร์นี้จากใครมา” น้ำเสียงเอลี่หรือเอมิกาขุ่นมัว

     

    อดิสรอมยิ้มเมื่อพยายามนึกจินตนาการภาพของหญิงสาวได้ดี น่าแปลกปกติตนเองไม่เคยชอบคุยกับผู้หญิงนานๆ แต่ทำไมหญิงสาวคนนี้ มีแรงดึงดูดแปลกๆ ทำให้อยากคุย อยากยั่ว นานๆ และมีแรงดึงดูดแปลกๆ ที่ทำให้อยากใกล้ชิด อดิสรไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน

                “ผมได้ว่าจากใครไม่สำคัญ อย่าลืมเมมเบอร์ผมไว้ด้วย ผมไม่ได้สนใจอะไรคุณมากหรอกนะ เรื่องงาน

    ล้วนๆ” อดิสรพูดน้ำเสียงเรียบ

     

                “อ้อ พรุ่งนี้เรามีนัดกันเก้าโมงเช้า อย่าลืมด้วยนะ” อดิสรพูดจบก็วางหูทันที

     

                “เดี๋ยวสิคะ คุณอดิสร เดี๋ยวสิ”  เอลี่ร้องเรียกแต่อีกฝ่ายก็วางหูไปแล้ว

     

                “เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน บ้าอำนาจ เผด็จการ เอาแต่ใจตัวเอง นี่เอลี่ต้องทำงานกับพี่สรอีกสามเดือน มีหวัง

    เอลี่อึดอัดตายแน่ๆ” ถึงแม้ปากสาวประเภทสองจะบอกว่าอึดอัด ภายในใจลึกๆ ก็อดดีใจไม่ได้ที่จะได้ใกล้ชิดอดีตคนรักอีกครั้ง

     

     

                บริษัทวิภาคกรณ์ ในวันรุ่งขึ้น

     

                เอมิกา หรือเอลี่ ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงแสลคเข้ารูป สีดำ ทำให้เอมิกาดูเป็นสาว ที่คล่องแคล่ว มั่นใจ

    หญิงสาวก้มมองนาฬิกา แล้วถอนหายใจ นี่เลยเวลานัดมาเกือบครึ่งช.ม แล้ว นึกแปลกใจปกติ อดิสรเป็นคนที่ตรงเวลามาก เอลี่ก้มมองนิตยสาร แล้วพลิกอ่านไปเรื่อยๆ ก่อนจะหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู

     

                “ขอโทษที่ทำให้รอนะครับ พอดีผมติดประชุมเร่งด่วน แต่ไม่อยากเลื่อนนัดคุณ” อดิสร โยนแฟ้มบนโต๊ะก่อนจะเดินตรงมาที่หญิงสาว ที่วันนี้รวบผมตึง ใบหน้าแต่งมาเพียงเล็กน้อย ทำให้เห็นเครื่องหน้าเนียนขาว ริมฝีปากสีชมพู ฟันขาวใส รวมไปถึงชุดทำงานที่ดูเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงแสลคเข้ารูป เข็มขัดสีดำอันโต ทำให้เห็นเอวของหญิงสาวที่เล็กคอดเข้ารูปมาก  อดิสรนึกแปลกใจตนเอง ว่าทำไมถึงมีกระแสหรือแรงแปลกๆ ทำให้ตนเอง อยากใกล้ชิดหญิงสาวตรงหน้า ทั้งๆ ที่ปกติ ไม่เคยคุยกับผู้หญิงได้นาน เกินสิบนาที เพียงเพราะรู้สึกว่าผู้หญิง จะพูดมากน่ารำคาญ ส่วนใหญ่หัวข้อที่คุยก็ไม่พ้น เรื่องกระเป๋า เสื้อผ้า ช้อปปิ้ง ทำให้การพูด

    คุยกับบรรดา สาวๆ ที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ น่าแปลกว่าหญิงสาว ตรงหน้า กลับทำให้ตนเองอยากค้นคว้า

    จนต้องทำเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อน ในชั่วโมงที่ผ่านมา อดิสรอมยิ้ม ก่อนจะลงไปนั่งที่โซฟา ทำท่าแสนสบาย

    ซึ่งเอลี่ ที่มองดูอยู่ รู้สึกถึงกระแสแปลกๆ  ที่ตนไม่เคยรู้สึกมาก่อน

     

                “คุณอดิสรนัดดิฉันมาอีกวันนี้ มีอะไรเพิ่มเติมกว่าเมื่อวานหรือเปล่าคะ” เอลี่พยายามดัดคำพูดให้เคร่งขรึมเป็นงานเป็นการ

     

                “เดี๋ยวสักพัก ผมจะพาคุณไปดูโครงการที่ วัชรพล แล้วก็สุขุมวิท อยากให้เห็นแนวทางคร่าวๆ ของเรา

    ผมอยากให้โครงการทุกโครงการมีจุดเด่นของตัวเอง ไม่เหมือนกัน แต่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง” อดิสรอธิบาย ในขณะที่เห็นหญิงสาว จดโน๊ตสั้นๆ ผมที่รวบตึง ทำให้เห็นเครื่องหน้าที่ดูจุ๋มจิ๋มน่ารัก  จนทำให้อดิสรแทบไม่อยากละสายตา จากหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า....กลิ่นกายที่คุ้นเคยจนรู้สึกเสียววาบกับความรู้สึกตัวเอง แววตาของหญิงสาวทำให้นึกถึงอดีตคนรักอย่างจับใจ รวมไปถึงกริยาบางอย่างที่คุ้นเคย อารมณ์โกรธหรืองอนของหญิงสาวตรงหน้าช่างเหมือนอดีตคนรักอย่างแปลกเพียงแต่รูปร่างภายนอกเท่านั้นที่ไม่เหมือนกัน อดิสรมองไปที่ข้อมือ แล้วขมวดคิ้ว

                “วันนี้คุณไม่สวมสร้อยอันนั้นมาเหรอ”

     

                เอลี่ปากกาหล่นจากมือ จนต้องก้มเก็บในขณะที่อดิสรก็ช่วยเก็บด้วยเช่นกัน ศีรษะโขกกันเล็กน้อย เอลี่ร้องโอ๊ย ก่อนจะกุมหน้าผาก ในขณะที่อดิสรตกใจ จนรีบเขยิบเข้าไปนั่งใกล้ๆ เอลี่ตกใจ รีบถอยหนี

                “ให้ผมดูหน่อย เจ็บตรงไหน ผมขอโทษจะช่วยคุณเก็บปากกา” อดิสรพูดรัวเร็ว

                “ไม่ต้อง ไม่ต้อง” เอลี่ หรือเอมิกา ถอยจนเก็บตกโซฟา

     

                “เอ คุณนี่กลัวอะไรผมหรือเปล่า ผมบอกให้ผมดูหน่อย” อดิสรเขยิบมาจนใกล้ เห็นหน้าผากขาวที่ผัดแป้งนวล เป็นรอยแดงขึ้นมา อดิสรทำเสียงในลำคอด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะลุกเดินตรงไปห้องน้ำ ในขณะที่เอลี่ เป่าปากอย่างโล่งอก

     

                อดิสรกลับเข้ามาพร้อมผ้าขนหนูสีขาว ผืนเล็ก “เอานี่ประคบไว้ จะได้หายเจ็บ” อดิสรพูดน้ำเสียงขรึม

    แววตาตื่นตะหนก ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจ กับปฏิกริยาของหญิงสาวตรงหน้า  แอบขัดใจทำไมต้องทำท่ารังเกียจขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ตนเองค่อนข้างมั่นใจว่าตนเอง มีหน้าตาและบุคลิกที่ดี ที่มีแต่สาวๆ มากริ๊ด แต่ทำไม หญิงสาวคนนี้ทำท่าเหมือนตัวเองเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง ให้นึกทำให้อดิสรรู้สึกหงุดหงิดแล้วอยากเอาชนะอะไรบางอย่างที่ตนเองก็ไม่รู้ว่าอะไร

     

                “ไป ผมจะพาไปดูห้องทำงานของคุณ” อดิสรเอื้อมมือไปคว้ามือของหญิงสาว แล้วก็รู้สึกเหมือนประกายร้อนบางอย่าง แล่นไปทั่วร่างกาย ทำให้รู้สึกร้อนแบบประหลาด จนทำให้จ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง เอมิกาหรือเอลี่ พยายามบิดข้อมือออก แต่เหมือนว่าชายหนุ่มจับแน่น

     

                “ห้องทำงานฉัน ห้องทำงานฉันเหรอค่ะ ทำไมห้องทำงานฉันมาอยู่ในบริษัทคุณล่ะ ฉันแค่มารับงานแค่นั้น”

                “อ้าว เจ้านายคุณยังไม่บอกเหรอ ว่าผมขอให้คุณมาทำงานที่นี่ เพราะตอนนี้คุณรับงานนี้งานเดียว ตารางคุณก็แน่นแล้ว งานนี้โปรเจคใหญ่มากนะคุณ ผมไม่ชอบให้คุณรับงานซ้ำซ้อน ดังนั้น ช่วงระยะเวลาที่คุณทำงานให้ผม ต้องมาทำที่นี่ เพราะโปรเจคนี้เป็นความลับ ผมไม่อยากให้ข้อมูลรั่วออกไป ...ไม่ๆๆ อย่าเข้าใจผิดนะคุณ ว่าผมจะใส่ร้ายคุณว่าคุณเอางานผมไปขาย รอบคอบไว้ก็น่าจะดีกว่า” อดิสรร่ายยาว ในขณะที่เอลี่ อ้าปากค้าง

     

                “ไม่ได้หรอก ฉันจะมาทำงานที่นี่ได้ไง อุปกรณ์ฉันอยู่ที่บริษัท ..ฉันต้องใช้โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานตกแต่งโดยเฉพาะ ซึ่งแพงมากกก”

     

                “ผมรู้แล้ว ผมให้คนจัดให้คุณ เหมือนกัน สเป็คเดียวกันกับที่คุณใช้ที่บริษัท แพงกว่า ใหม่กว่า ทุกอย่าง”

    อดิสรกอดอก แล้วมองใบหน้าหญิงสาวตรงหน้าที่ทำหน้าเหมือนยาขม

     

                “คุณมีอะไรกับผมแน่ๆ คุณเอมิกา” อดิสรหรี่ตามองหญิงสาวอย่างสงสัย เมื่อมองเห็นปฏิกริยาต่อต้านของหญิงสาวที่ไม่อยากทำงานใกล้ชิดกับตนเอง

     

                เอลี่ตกใจ รีบปฏิเสธเสียงหลง “ไม่มีค่ะ ไม่มี”

     

                “งั้นก็ทำงานที่นี่ ในห้องนี้” อดิสรผลัก ห้องที่อยู่ถัดจากห้องของตน เข้าไป ในขณะที่เอลี่ตื่นตา เมื่อมองเห็นโต๊ะเขียนแบบสุดสวย คอมพิวเตอร์แบรนด์ดัง จอใหญ่กว่าของเธอที่อ๊อฟฟิศ พร้อมกระดาษ เครื่องเขียนพร้อม ด้วยสายตาสดใส ตื่นตาตื่นใจพร้อมวิวด้านหลัง เป็นกระจกใส มองเห็นวิวทิวทัศน์กรุงเทพฯ สุดตา

     

                “สวยจังค่ะ ขอบคุณนะคะ จริงๆ ไม่เห็นต้องลำบากขนาดนี้”

     

                “เชิญคุณทำงานเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา เรามีเวลาน้อย เดี๋ยวบ่ายๆ จะพาไปดูไซด์งาน” อดิสรพูดจบแล้วเดินจากไป

     

                สาวประเภทสองในร่างสาวสวย ล้มตัวลงนั่งบนเก้าอี้ “โอ๊ย ทำงานร่วมกันก็แย่แล้ว นี่ต้องมาอยู่ใกล้กันแค่นี้อีก แล้วเอลี่จะทำยังไง ตายแน่ตายคราวนี้แน่ๆ อย่านะอย่าไปหลงเสน่ส์เขาอีก เขาจะทำให้เรารักและถีบหัวเราส่งเหมือนคราวก่อน เจ็บแล้วต้องจำสิเอลี่” สาวประเภทสอง บีบที่แขนตัวเองแน่นๆ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธตัวเองได้ว่าการใกล้ชิดกันมันทำให้ตนเองมีความสุขมากๆ แต่ก็พยายามหักห้ามใจตัวเอง

     

                เอลี่ หันมาเปิดกระเป๋า แล้วหยิบไอแพคขึ้นมา “อย่าเพ้อเจ้อ รีบๆ ทำงานจะได้ไปรับงานอื่น แล้วเรากับเขาจะได้ไม่ต้องเจอกันอีก อย่าฟุ้งซ่าน ทำงาน ทำงานสิ” เอลี่หรือเอมิกาบ่นกับตัวเอง แล้วหันไปเปิดไฟล์ข้อมูลของโครงการ แล้วลงมือทำงานอย่างมุ่งมั่น

     

                ผ่านไปเกือบสามชั่วโมงอดิสรเปิดประตูเข้ามา เห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังขมักเขม่นกับงานตรงหน้า

    รองเท้าส้นสูงถูกถอดวางไว้มุมข้างๆ โต๊ะ  รู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่รู้ว่าตนเองกำลังเป็นเป้าสายตาของใครบางคน จึงทำงานเพลิดเพลิน ในขณะที่อดิสรมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างประทับใจ ในชีวิตเจอผู้หญิงมามากมาย

    ในแวดวงสังคม ที่วันๆ เอาแต่แต่งตัว ช้อปปิ้งทำงานสังคม เล็กๆน้อยๆ แต่มีเพียงหญิงสาวไม่กี่คน ที่ทำงานจริงจัง มาเห็นอีกครั้งก็หญิงสาวตรงหน้า อดิสรเดินเข้ามาเงียบๆ มองกระดาษที่กระจัดกระจายเต็มโต๊ะ มือของหญิงสาว ก็กดคียข้อมูล ใบหน้าทั้งก้มลงกระดาษ มือก็จับคีย์บอร์ด จนไม่ได้ยินเสียงบุคคลที่สามที่เข้ามาในห้อง

     

                “นี่คุณ...ไปกันได้แล้ว ผมนัดช่างไว้ ตอนบ่ายโมง” อดิสรเคาะโต๊ะ เบาๆ

     

                เอลี่เงยหน้ามอง ก่อนจีบปากพูด “นี่คุณจะเข้ามาก็เคาะประตูให้เจ้าของห้องรู้ตัวก่อนสิคะ ไม่ใช่เข้ามาราวกับห้องของตัวเอง”

                “ผมเคาะแล้ว สองครั้งแต่คุณไม่ได้ยินเอง” อดิสรสวมกระดุมเสื้อสูท เตรียมตัวจะออกไปทำงานในขณะที่เอลี่ค้อนชายหนุ่มเบาๆ อย่างหมั่นไส้คนที่แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ

     

                กว่าสองชั่วโมงในไซด์งานที่มีทั้งฝุ่น ทั้งความร้อนทำให้เอลี่ ทั้งเหนื่อยและหิวน้ำ แต่ไม่ปริปากบ่นหญิงสาวจดรายละเอียดของโครงการ มือก็ถ่ายรูปไปเป็นระยะๆ เพื่อเก็บข้อมูล   กว่างานจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบห้าโมงเย็น  กว่าจะออกจากไซด์งานมาได้ แล้วยังดูเหมือนว่าจะติดยาว อดิสรเลี้ยวรถเข้าไปที่ ร้านประจำของตนเองและอดีตคนรัก ในใจของอดิสรมันเหมือนมีรีโมทสั่งบางอย่าง ทำให้ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้ามาในร้านนี้

     

                ร้าน cate little spoon

     

                เอลี่ตกใจเมื่อชายหนุ่มเลี้ยวเข้าร้านประจำ หญิงสาวหันไปมองชายหนุ่มตรงหน้า อย่างแปลกใจ

                “เออ ดิฉันอยากกลับบ้านแล้ว”

                “รถมันติดนะคุณ เราสองคนไม่ได้ทานอะไรมาเลย คุณก็หิวผมก็หิวมาก  แวะที่ร้านนี้ก่อน กินเสร็จผมไปส่งคุณที่คอนโดฯ”

     

                เอลี่น้ำตาซึมเมื่อนึกถึงภาพบรรยากาศ เก่าๆ ที่แสนอ่อนหวานระหว่างตนเองและชายคนรัก ที่นั่งข้างๆ

    ภาพความทรงจำเก่าๆ ตัดภาพไปมา ภายในสมอง ก่อนจะเดินลงจากรถ ราวกับละเมอ หญิงสาวเดินตรงไปนั่งที่มุมโปรด ในขณะที่อดิสรมองหญิงสาวอย่างประหลาดใจ

     

                “คุณชอบโต๊ะนี้เหรอ น่าแปลกมาก โต๊ะเดียวกับที่ผมกับแฟนชอบมานั่งเล่นกัน” อดิสรแปลกใจอีกครั้งในขณะที่เอลี่หัวเราะกลบเกลื่อน

                “แหมคุณ โต๊ะนี้นะ เป็นโต๊ะที่อยู่มุมห้อง ๆ ใครๆ ก็ชอบทั้งนั้นแหละ ความเป็นส่วนตัวๆ ใครๆ ก็อยากมี”





    p.s ขออภัยที่ให้รอนาน ช่วงนี้ต้องรีบแก้งานส่งต้นฉบับเจ้าค่ะ ทั้งเรื่องวิวาห์พยศที่อีกนิดเดียวจะเสร็จ เพราะแก้ใหม่อีกครั้ง รวมถึงส่งต้อนฉบับเรื่องพยศรักให้สำนักพิมพืยาวมากก เลยหายหัวไป แต่มาอัพนิดหนึ่งล่ะ จะได้หายคิดถึง เห็นมาโพสคอมเม้นต์กันไว้ ต้องรีบพุ่งเข้ามาอัพก่อน ขอบคุณสำหรับการติดตามนนะจ๊ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×