คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บังเอิญให้ต้องเจอ
บริษัท กรณ์วิภาค
สาวประเภทสอง ในร่างหญิงสาวสวย เซ็กซี่ ชุดรัดรูปสีดำ ทำให้หญิงสาว ในร่างสาวประเภทสอง ดูสวยเซ็กซี่ ผมยาวสลวยถูกดัดเป็นลอนๆๆอดิสรจ้องมองร่างของหญิงสาวเพียงด้านหลัง เรียวขายาวที่สวมรองเท้าส้นสูง กระโปรงผ้ายืดสีดำ ทำให้ร่างของหญิงสาวดูสูงสง่า รูปร่างผอมราวกลับนางแบบทำให้อดิสรถึงกับทึ่ง ชายหนุ่มทำเสียงกระแอมเบาๆ ก่อนพูด
“ขอโทษครับที่ผมมาสาย คุณ...คงเป็น”อดิสรพูดไม่จบ เอลี่หรือเอมิกาในชื่อใหม่ว่า “เอมี่” หันหน้ามาช้าๆ อดิสรเลิกคิ้วเล็กน้อย เมื่อหญิงสาวสวยกว่าที่ตนเองคิด ผิวขาวส่งให้ริมฝีปากบางสีชมพูดูเด่นชัด ตากลมโต
อดิ สรรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดกับแววตาคู่นี้คิ้วเข้ม ทำให้ใบหน้าคมสวยยิ่งขึ้น อดิสรจ้องมอง หญิงสาวที่ได้รับการแนะนำว่าเป็นมัณฑนากร มือใหม่แต่ผลงานดีเด่น จนอดิศวรชมไม่ขาดปาก คิ้วของอดิสรขมวด เมื่อเห็นแววตาที่จ้องมองเขม็งในขณะที่เอมิกาตกใจจนปากกาหล่นกลิ้งไปหยุดใต้ เท้าของชายหนุ่ม มัณฑนากรสาว
ทำปากจู๋ อย่างที่อดิสรเห็นว่าน่ารัก เอลี่รีบปัดความคิดทุกอย่างทิ้ง สูดลมหายใจแล้วเดินเข้าไปเก็บปากกาของตนเอง ก่อนจะถอยหลังออกมาเล็กน้อย เมื่อรู้สึกร่างของเธอและเขาจะยืนอยู่ใกล้กันเกินไป อดิสรมองท่าทางของหญิงสาว ที่ดูร้อนรนด้วยความแปลกใจแต่ก็กดรอยยิ้มไว้แค่มุมปาก แววตาเป็นประกายเมื่อรู้สึกคุ้นเคยกับท่าทาง แววตา และน้ำเสียงของหญิงสาวตรงหน้าอย่างที่ประหลาดใจตนเอง
“ดิฉันมาพบคุณอดิศวรค่ะ เลขาคุณศวรไม่บอกเหรอคะ”
อดิสรจ้องมองสาวสวยเซ็กซี่ตรงหน้า ก่อนจะรู้สึกคุ้นกับน้ำเสียงแบบนี้มากๆ แต่ไม่เชื่อตัวเองว่า คนสองคนที่ต่างกันมากมาย จะมีน้ำเสียงเหมือนกันได้
“ใครบอกคุณล่ะว่าผมไม่ใช่อดิศวร คุณคิดว่าผมเป็นใครล่ะคุณ อะไรนะ เอมิกา โทมัส” อดิสรก้มมอง ชื่อที่ถูกส่งมาจากเลขาส่วนตัว ก่อนจะนึกแปลกใจตัวเองอีกครั้งทำไมคุ้นกับรอยยิ้มและแววตาแบบนี้ จนหน้าขนลุก
“เป็นไปไม่ได้” ชายหนุ่มพึมพำออกมา พร้อมมองที่มือของสาวสวยตรงหน้า อย่างสงสัย
“โอเค ถ้าคุณจะให้ฉันเชื่อว่าเป็นคุณ ศวร ก็ได้”
“เดี๋ยวก่อนคุณเอมิกา ตกลงเราเคยเจอกันไหมผมว่าผมคุ้นกับน้ำเสียงและท่าทางคุณอย่างบอกไม่ถูก”
อดิสรรู้สึกมึนเมื่อภาพในอดีตตัดย้อนเข้ามาในความคิด
เอลี่ใจหายวาบ แต่พยายามนิ่ง พร้อมปวดแป๊ปที่ใจ ทำไมจะจำผู้ชายที่เธอรัก เพียงคนเดียวในชีวิต ผู้ชายที่ทำให้เธอผิดหวังจนต้องหนีไปต่างประเทศมาสามปี ผู้ชายที่แม้จะทำยังไง ตนเองก็ไม่เคยลืม แม้ยามหลับยามตื่น
“ฉันจะรู้จักคุณได้ไง ในเมื่อฉันพึ่งกลับมาจากต่างประเทศ ได้ไม่ถึงเดือน” เอลี่ ในชื่อใหม่ว่าเอมิกา พูดน้ำเสียงแข็งกระด้าง
อดิสร เดินเข้ามาใกล้ เอมิกาหรือ เอลี่ ถอยห่างเล็กน้อย คิ้วของอดิสรขมวด ก่อนจะมองสาวสวยตรงหน้าอย่างแปลกใจ
“ผมรู้สึกคุ้นกับคุณอย่างประหลาดจริงๆนะ คุณแน่ใจว่าเราไม่เคยรู้จักกัน”
“พูดเรื่องงานดีกว่านะคะ ดิฉันไม่มีเวลามานั่งฟังเรื่องไร้สาระ” เอลี่พูดน้ำเสียงสะบัด
“ทำไมต้องหงุดหงิดด้วย เอผมชักสงสัยแล้วสิ คุณพูดแบบนี้กับลูกค้าทุกคนหรือเปล่าหรือเป็นแค่ผมคนเดียว ...ผมว่าคุณไม่ชอบผมนะเนี่ย” อดิสรรู้สึกแปลกใจที่ตนเองเซ้าซี้สาวสวยตรงหน้า ทั้งๆที่ปกติไม่ชอบทำงานกับผู้หญิงเพราะรู้สึกว่าเรื่องมาก แต่ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจทำไมชอบมองหน้างอๆ แววตาดุดันของสาวสวยตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งน้ำเสียงของเธอดันไปคล้ายกับ สาวประเภทสองที่เป็นคนรักเพียงคนเดียวที่ยังอยู่ในใจของชายหนุ่ม แม้ว่าจะผ่านมาหลายปี แต่แผลในหัวใจก็ยังไม่จางหาย..อดิสรเฝ้าโทษตัวเอง เฝ้าทำร้ายตัวเองตลอดหลายปีที่ผ่านมา ว่าปล่อยให้รักแท้ให้หลุดลอยไป เพียงเพราะสนใจในสิ่งที่ไม่มีตัวตน และสัมผัสไม่ได้ ชายหนุ่มยังจำหน้าของอดีตคนรักในวันที่ตนเองขอบอกเลิกได้ดี ว่าทั้งน้ำตาทั้งแววตาที่ปวดร้าว เสียงร้องไห้เจียนจะขาดใจมันทำให้ชายหนุ่มเจ็บปวดเจียนตาย แต่ต้องตัดใจเดินหันหลัง พร้อมสลัดทุกอย่างเพียงแค่สนใจเปลือกนอก อดิสรคิดเพลินหัวใจปวดแป๊ปเมื่อคิดถึงอดีตคนรัก
“เราไม่เคยเจอกัน ไม่รู้จัก แล้วก็ไม่อยากจะรู้จักค่ะ ..ถ้าเป็นไปได้ดิฉันอยากคุยงานโดยตรงกับคุณอดิศวรตามที่ได้รับสั่งจากบอสมา จะดีกว่านะคะ” เอมิกาหรือชื่อเดิมเอลี่พูดน้ำเสียงหนักแน่น
“ตกลงไม่เชื่อจริงๆ ว่าผมคืออดิศวร”
“ก็คุณไม่ใช่จริงๆ”
“อะไรทำให้คุณคิดว่าผมไม่ใช่”
“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคุณ บอกมาดีกว่าว่าจะให้ฉันพบคุณศวรได้เมื่อไหร่”
“โอเค บอกก็ได้ นี่มีไม่กี่คนที่ผมสองคนพี่น้อง หลอกไม่ได้ ผมชักสงสัยแล้วสิว่าคุณเป็นใครกันแน่ แม้แต่พนักงานบางคน ยังจำเราไม่ได้ ”อดิสรมองแล้วหรี่ตาเล็กน้อย
“ถ้าคุณไม่คุยเรื่องงาน ฉันขอตัวกลับ เวลาของฉันสำคัญมากกว่าจะมาต่อปากต่อคำ กับคุณอดิสร วิภาคกรณ์” เอมิกาหรือเอลี่เอี้ยวตัวจะเดินกลับ”
“เดี๋ยวสิ ก่อนจะทำงานด้วยกันก็ต้องทำความรู้จักกันบ้างสิ ...จริงไหม”
“ฉันไม่ต้องการรู้จักคุณ” เอมิกาหรือเอลี่เน้นคำพูด พร้อมเชิดหน้าริมฝีปากเม้มแน่น แววตาฉายแววแข็งกระด้าง
“แต่บังเอิญโปรเจคใหญ่เนี่ยเราต้องทำด้วยกันเสียด้วยสิครับ ฟิลิปไม่ได้บอกคุณงั้นเหรอ” อดิสรทำท่าทางยียวน แถมก้าวเข้ามาใกล้
เอลี่หรือเอมิกาถอยหลัง ริมฝีปากเม้มแน่น เมื่ออดิสรเดินผ่านตัวเองไปนั่งเก้าอี้ท่าทางยียวนกวนประสาทในความคิดของหญิงสาว
“นั่งก่อนสิครับคุณเอมิกา ผมว่าคุณคงจะเมื่อยถ้าจะต้องยืนบนรองเท้าส้นสูงสามนิ้วครึ่งตลอดเวลาที่เราคุยกัน”
“ถ้าวันนี้คุณอดิศวรไม่สะดวกจะคุยงานกับดิฉัน..ดิฉันจะมาอีกทีวันหลังค่ะ”
“ศวรลาพักร้อนสามเดือน ภรรยาเขากำลังจะคลอดใบลาพึ่งเซ็นอนุมัติเมื่อเช้านี้ โปรเจคนี้ถูกส่งต่อมาที่ผม บอสคุณไม่บอกหรือไง”
เอลี่มองอดีตคนรักตะลึง นี่ฉันต้องทำงานกับคุณงั้นเหรอ อีเอลี่จะบ้าตาย สามเดือนต้องทำงานกับเขาสามเดือนงั้นเหรอ ตายแน่ๆ
“ว่าไงคุณเอมิกา ตกลงเราจะคุยงานกันได้หรือยัง”
“จริงๆ ถ้าคุณไม่รีบ ดิฉันทำงานอื่นรอคุณศวรได้นะคะ”
“บังเอิญผมรีบด้วยสิ เอ ผมชักสงสัยแล้วสิ คุณมีอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย ผมว่าคุณแปลกๆนะ”
เอลี่หรือเอมิกาใจหายวาบ ริมฝีปากเม้มเล็กน้อย ก่อนตอบ “ไม่มีค่ะ ตกลงคุณจะให้ดิฉันเริ่มงานเมื่อไหร่คะ”
“ตอนนี้เลย เดี๋ยวนี้ด้วย” อดิสร ยกเท้าขึ้นไขว่ห้าง ด้วยท่าทางสบาย ในขณะที่เอลี่ใจเต้นรัว กับแววตาที่มองมาอย่างแปลกๆ
เอลี่หลับตา แล้วหยิบเครื่องอัดเสียง เป็นแบบรุ่นใหม่ สีม่วงอ่อน สมุดจดงานเล่มเล็ก “คุณลองบอกความต้องการของคุณมาสิค่ะ” เอลี่ใจเต้นรัวจนรู้สึกว่าน้ำเสียงเธอสั่นเล็กน้อย อดิสรลอบมองใบหน้าขาวเรียวยาวรูปไข่ รู้สึกคุ้นเคยกับอากัปกริยา พร้อมกับน้ำเสียงของหญิงสาวตรงหน้าอย่างประหลาด เอลี่จดงานเพลินจนถลกเสื้อสูทสีดำขึ้น ทำให้สร้อยทองคำขาวโผล่ออกมาเล็กน้อย
อดิสรตาโต ทำไมจะจำสร้อยข้อมือที่ทำเป็นพิเศษเพื่ออดีตคนรัก ชายหนุ่มเอื้อมมือมาคว้าข้อมือของหญิงสาว กระชากแรงอย่างไม่รู้ตัว เอลี่หันหน้ามองอย่างตกใจ
“เอาสร้อยนี้มาจากไหน ใครให้มา” น้ำเสียงอดิสรดุดัน ใบหน้าเครียดทันที
เอลี่หรือเอมิกาใจหายวาบ แต่พยายามรวบรวมสติก่อนตอบ “สร้อยของฉัน”
“สร้อยของคุณงั้นเหรอ มันเหมือนสร้อยที่ผมทำให้แฟนเหมือนมาก” อดิสรมองหน้าอีกฝ่าย อย่างคาดคั้น ก่อนพูดกับตนเองในใจ “ไม่จริง ไม่ใช่หรอกมันไม่มีความเหมือนกันสักนิด แต่อีกใจก็แปลกใจเพราะน้ำเสียง แววตา กริยาท่าทางดูเหมือนกันราวกับคนๆเดียวกัน”
“พูดเรื่องงานดีกว่าค่ะ ดิฉันต้องไปทำงานอีกที่หนึ่ง” เอลี่เปลี่ยนเรื่องพูด
“เดี๋ยวเราจะไปดูที่ไซด์งานกัน” อดิสรลุกขึ้นยืน แอบยิ้มที่มุมปากตอนแรกตั้งใจว่าจะคุยงานแค่ห้านาทีแล้วจะส่งต่อให้วิเชียร์รับไปทำต่อ แต่ตอนนี้อดิสรตั้งใจจะมาลุยงานนี้ด้วยตัวเอง อาจเป็นเพราะหญิงสาวสวยตรงหน้านี้ก็เป็นได้.......
“ไปไซด์งาน ตอนนี้เนี่ยนะคะ” เอลี่อยากจะกริ๊ด เพราะเสื้อผ้าที่เธอแต่งมาวันนี้ แค่มาบลีฟงานเพียงเล็กน้อย ไม่ได้เตรียมชุดออกนอกสถานที่ ทั้งกระโปรงก็สั้นรองเท้าก็สูง
“ตอนนี้แหละ ไม่งั้นคุณจะไปร่างงานมาให้ผมดูได้ยังไง ทฤษฎีแบบเดียวไม่ได้ผลหรอกนะ ต้องปฎิบัติจริงด้วย” อดิสรลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกไป เอลี่รู้สึกหงุดหงิด ไหนต้องมาทำงานกับอดีตคนรัก แล้วยังจะท่าทางกวนประสาทของอีกฝ่ายอีก
“อ้าว ตามมาสิคุณ”
ความคิดเห็น